ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( n u ' e s t ) My Friend | คนนี้กูขอ | MINREN [ จบ ]

    ลำดับตอนที่ #8 : :: CH. 8 ปล้น ♥ ::

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ย. 55




    8

                      

                   



                     
    อืดดด~ อืดดด~

     

                       แรงสั่นของโทรศัพท์มือถือทำให้เจ้าของต้องตื่นจากภวังค์ขึ้นมารับสาย อารอนลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปคว้าโทรศัพท์ที่วางไว้ปลายเตียง

     

                      ‘Alice’

     

                    มึงจะโทรมาทำไมแต่เช้า -___-

     

                       “ฮัลโหล!

     

                       “ที่รักคะ มาหาที่บ้านหน่อยยย~  ปลายสายเสียงที่ฟังแล้วดูจะมีความสุขเสียเหลือเกิน แต่คนตรงนี้น่ะสิ อยากจะหลับต่ออีกสักหน่อย เขาหันไปมองนาฬิกาหัวเตียง..

     

                       7.30 น.

     

                    อลิซ มึงเป็นอะไรมากไหม กูจะนอน TT

     

                       “ไปทำอะไร”

     

                       “กินต๊อก”

     

                       “ฮะ?!

     

                       “อือ กูลองทำเมื่อกี้ เลยอยากให้มึงมาชิมฝีมือกูไงจ๊ะ ^^

     

                      ได้ข่าวว่ามึงก็มีแม่นะ ทำไมไม่ให้แม่มึงชิมวะ

     

                       “งั้นเดี๋ยวกูไปบ่ายๆ ได้ไหม ตอนนี้ขอนอนก่อนเถอะ”

     

                       “ไม่ได้นะ!! กำลังร้อนๆ เลยเนี่ย ถ้ามึงมาบ่ายก็ไม่อร่อยแล้วดิ นะๆ ขนเสื้อผ้ามานอนค้างบ้านกูเลย มานอนคุยกับกูสักสองสามคืน”

     

                       “ไม่...”

     

                       “ห้ามปฏิเสธ มามะเบเบ้ แม่บอกว่าอยากเจอมึงด้วย”

     

                       “โอเคๆ กูจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

     

                       วางสายปุ๊บอารอนก็หยิบกระเป๋าเป้ แล้วยัดเสื้อผ้าลงไปสองสามชุด พร้อมกับของใช้ที่จำเป็น ก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และออกเดินทางไปหาไอ้เพื่อนรักตัวแสบนั่น หวังว่าคราวนี้คงไม่หลงแล้วนะ

     

                       อารอนสะพายกระเป๋าเดินออกมาจากห้อง เห็นเจอาร์กำลังง่วนอยู่กับการทอดไข่ดาวเพื่อเป็นอาหารเช้า แต่มันก็ไหม้เกินกว่าที่กระเดือกลงไปได้ น่าสงสารแท้ๆ  = = ส่วนแบคโฮยังนอนอืดอยู่ที่โซฟาเหมือนเดิม การมาอยู่ที่นี่ทำให้รู้ว่าแบคโฮตื่นสาย แถมปลุกโคตรยาก !!

     

                       “เจอาร์ พี่ไปหาเพื่อนที่คยองกีนะ จะไปค้างสักสองสามคืน ฝากบอกแบคโฮด้วยล่ะ”

     

                       “อ้อครับ อย่าหลงทางอีกนะพี่ เดี๋ยวไอ้แบคมันต้องไปตามกลับมาอีก 5555555”

     

                       “เออน่า ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ไปล่ะ เดี๋ยวซื้อขนมมาฝาก” อารอนใส่รองเท้าแล้วเดินออกจากหอพักไป ก่อนจะโบกรถแท็กซี่ไปยังคยองกี... แบบนี้ดิ ไม่มีหลงแน่ๆ

     

     

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++

     

     

                       “มินกิ..”

     

                       “...”

     

                       “มินกิอ่า”

     

                       “หืออ”

     

                       “ถึงปูซานแล้วนะ”  ยูซังสะกิดเร็นที่นอนหลับอยู่ข้างๆ คนตัวเล็กบิดขี้เกียจก่อนจะสะพายกระเป๋าแล้วลงมาจากตัวรถไฟพร้อมกับยูซัง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คข้อความดู เผื่อจะมีของไอ้รูมเมทนั่น แล้วก็มีจริงๆ อย่างที่คิด...

     

                      27 miss called

     

                    1 message

     

                      

                       มิสคอลทั้ง 27 สายนั่นเป็นของมินฮยอนทั้งหมด ข้อความก็เช่นกัน เร็นเปิดข้อความที่มินฮยอนส่งมาให้

     

                    มินกิ มึงอยู่ที่ไหน รับสายกูหน่อยได้ไหม – มินฮยอน

     

                    เฮอะ! สมน้ำหน้ามึง อยากปล่อยให้กูรอดีนัก

     

                    เร็นกดปิดข้อความแล้วยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงไป ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับยูซังที่เดินอยู่ข้างๆ

     

                       “มึงเป็นอะไรน่ะ” ยูซังถามเร็น เพราะหลังจากที่คนตัวเล็กเก็บโทรศัพท์ไปหน้ากูบูดบึ้งทันที ทะเลาะกับมินฮยอนแน่ๆ

     

                       “เปล่า”

     

                       “เปล่าอะไร หน้าก็ฟ้องอยู่ บูดเป็นตูดขนาดนี้”

     

                       เร็นจับใบหน้าตัวเองทันที แล้วก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แต่ถึงงั้นก็ยังปิดคนข้างๆ ไม่มิดอยู่ดี

     

                       “ช่างกูเถอะ ไปหาข้าวกินกัน หิวจะแย่ละ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                       ท้องฟ้าที่ค่อยๆ มืดลง จนกลายเป็นสีดำสนิท ทั้งคู่เดินไปตามถนนที่มีตลาดกลางคืน แล้วก็แวะหาข้าวกินไปตามทาง ย้อนรำลึกถึงวัยมัธยมที่ชอบหนีออกมาตอนกลางคืนแล้วมาเดินที่ถนนแห่งนี้  ทำให้เร็นลืมเรื่องมินฮยอนไปได้สักพักนึง

     

                       อืดด~

     

                       เร็นวางตะเกียบ และล้วงโทรศัพท์ออกมาเปิดข้อความที่ส่งเข้ามาใหม่

     

                       มึงตอบกูหน่อยได้ไหม ว่าตอนนี้มึงอยู่ที่ไหนแล้ว ถึงบ้านปลอดภัยดีหรือเปล่า กูเป็นห่วงมึงจนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว – มินฮยอน

     

                        เร็นตอบกลับไปทันที

     

                      เป็นห่วงกู ?? แต่ทิ้งให้กูรอที่สถานีรถไฟเป็นชั่วโมงแบบนั้นน่ะเหรอ

     

                       ไม่นาน มินฮยอนก็ตอบกลับมา

     

                       กูขอโทษ

     

                       เฮอะ!

     

                       ขอโทษแล้วกูหายโกรธมึงก็ดีสิ

     

                       เร็นกำลังจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป แต่ถูกยูซังแย่งไปเสียก่อน

     

                       “เฮ้ย เอาโทรศัพท์กูคืนมานะ”

     

                       “มินกิ”

     

                       “อะไร เอาโทรศัพท์กูมา”

     

                       “มึงชอบรูมเมทใช่ไหม”

     

                       “...”

     

                       “ตอบมา”

     

                       “เปล่า”

     

                       “แต่ดูมึงแคร์เขาจังนะ” ยูซังยกโทรศัพท์ขึ้นตรงหน้าเร็น คนถูกถามทำอะไรไม่ได้นอกจากหลบสายตาเพื่อนสนิท ถ้าถามว่าชอบไหม... ไม่รู้จริงๆ ยังตอบไม่ได้ในตอนนี้

     

                       “...”

     

                       “เลิกชอบเขาเถอะ”

     

                       “ก็กูบอกว่ากูไม่ได้ชอบ...”

     

                       “กูชอบมึง”

     

                       “ฮะ?”

     

                       “กูชอบมึงตั้งแต่มัธยมแล้ว”

     

                       “ยูซัง”

     

    ++++++++++++++++++++++++

     

     

                       เร็นแอบปีนขึ้นบ้านของตัวเอง ใช่! เขากำลังทำ เขาแยกกับยูซังเพื่อกลับบ้านของตัวเอง บ้านของเร็นกับยูซังห่างกันเพียงแค่ 3 ซอยเท่านั้น เขากระชับสายกระเป๋าเป้ให้แน่น ก่อนจะกระโดดข้ามรั้วบ้านของตัวเอง แล้วหยิบบันไดเล็กที่วางพิงกับกำแพงบ้านไว้มาตั้ง ก่อนจะปีนขึ้นไปยังหน้าต่างห้องของแม่ตัวเอง

     

                       เซอไพรส์ไงครับ คุณแม่~  

     

                    “อ๊ะ.. อ่า เจ็บจัง” เขาทิ้งตัวลงกับพื้นห้อง จนแขนกระแทกกับขอบหน้าต่าง เร็นเขยิบตัวไปหลบอยู่มุมห้องมืดๆ เขาเห็นแม่ตัวเองกำลังนอนหลับอยู่อย่างสบายใจ แต่หารู้ไม่ว่าแม่ของตัวเองตื่นแล้ว แต่กำลังนอนอยู่เฉยๆ เพื่อฟังเสียงของคนที่เข้ามา เพราะเสียงตุ้บที่เร็นตกมาเมื่อกี้ ทำให้แม่ของเขาตื่นขึ้นมาทันที

     

                       เร็นค่อยๆ ก้าวขาเข้าไปหาแม่ที่เตียง และ...

     

                       “อ๊าก!

     

                       “นี่แน่ะๆ แก ไอ้หัวขโมย จะมาขโมยของบ้านฉันหรือไง ทำไมไม่รู้จักทำมาหากินฮะ? ไอ้โรคจิตเอ้ย!!

     

                       คุณนายชเวฟาดหมอนข้างลงไปที่ตัวเร็นเต็มแรง ก่อนจะหยิบผ้าห่มมาปิดหน้าเขาเอาไว้ เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับแม่ตัวเอง ก็ต้องเจ็บตัวไปตามๆ กัน ห้ามก็ไม่ทัน เล่นใส่ไม่ยั้งขนาดนี้

     

                       “แม่ผมเอง TT

     

                       เร็นดึงผ้าห่มออกจากตัว เพื่อเผชิญหน้ากับแม่ของตัวเอง

     

                       “ใครแม่แก!! ใส่หัวออกจากบ้านฉันไปเดี๋ยวนี้นะ!!

     

                       “แม่ครับ!! มินกิเอง นี่ไง TT” เร็นเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟที่หัวเตียงเพื่อให้แม่เห็นหน้าเขาชัดๆ ก่อนจะโดนฟาดจนตายคามือ โอยยย เกือบตายแล้วไหมล่ะไอ้มินกิเอ้ย

     

                       “อ้าว!! ไอ้ลูกคนนี้”

     

                       “ครับ TT

     

                       “แกเล่นอะไรเนี่ย ถ้าแม่หัวใจวายตายขึ้นมาจะทำไง”

     

                       “ผมมากกว่ามั้งครับที่จะตายน่ะ TT” เร็นคลำหัวตัวเองต้องส่วนที่โดนมือแม่ฟาดแทนที่จะเป็นหมอนข้างนุ่มๆ  อ่า แม่ใครเนี่ย มือหนักจัง

     

                       “จะมาทำไมไม่ยอมบอกก่อนล่ะ”

     

                       “ก็ว่าจะมาเซอไพรส์แม่ไง แต่โดนเซอไพรส์ซะเอง TT

     

                       “สมควร เล่นไม่รู้เรื่องเอง แล้วกินข้าวกินปลามาหรือยังล่ะ”

     

                       “เรียบร้อยแล้วครับ ไปกินกับยูซังมา”

     

                       “เจ้ายูซังก็กลับมาด้วยเหรอ”

     

                       “ครับ กลับมาพร้อมกับผมนี่แหละ งั้นผมไปนอนก่อนนะ ง่วงมากกกกกกก”

     

     

    +++++++++++++++++++++++

     

                       จางกู... จางกู... จางกูใช่ไหม!!!! มินฮยอนเดินวนอยู่ในเขตจางกูมารอบที่ร้อยแปด เดินวนไปวนมาก็ยังหาบ้านของไอ้ตัวเตี้ยนั่นไม่เจอสักที บ้านเลขที่ 652 เจอาร์แม่งบอกผิดหรือเปล่าวะเนี่ย

     

                       มินฮยอนไม่รอช้ารีบกดสายหาเจอาร์อีกครั้ง หลังจากเมื่อชั่วโมงที่แล้วเค้ารบกวนขอให้เจอาร์ไปหาบ้านเลขที่ของเร็นในสำนักทะเบียนของมหาวิทยาลัย แต่พอได้มาแล้วก็มีประโยชน์นิดหน่อยคือ รู้ว่าบ้านของเร็นอยู่ที่เขตจางกู แต่ทั้งจางกูมันจะมีบ้านอยู่หลังเดียวหรือไงล่ะ !!

     

                       “อะไรของมึงอีกล่ะ” เจอาร์รับสายด้วยน้ำเสียงสุดทนกับไอ้เพื่อนตัวสูงนี่ คือ.. ข้าวกำลังจะเข้าปากกูอะครับมินฮยอน แล้วมึงก็โทรมาขัดจังหวะพอดีไง

     

                       “บ้านเลขที่ 652... แน่ใจนะมึง”

     

                       “โอ้ยยย มึงกลับมาแหกตาดูด้วยตัวเองเลยไหม กูกำลังจะกินข้าว แค่นี้นะ !

     

                       เอ้อออ ช่วยเพื่อนนิดหน่อยทำมาเป็นหงุดหงิด อย่าให้ถึงตากูมั่งแล้วกันเจอาร์ กูจะเล่นตัวแม่งสามวันสามคืน... มินกิ บ้านมึงอยู่ที่ไหนวะ อย่าให้เจอนะกูจะเผาบ้านแม่งทิ้ง แล้วซื้อบ้านใหม่ให้มาอยู่ข้างๆ บ้านกูเลย

     

                       มินฮยอนเดินเกาหัว สลับกับดูกระดาษแผ่นที่จดบ้านเลขที่ของเร็นมา ถ้ามันจะหายากขนาดนี้ ถ้าไม่ติดว่ากูรักกูชอบมึงอยู่นี่กูไม่มาตามหาแบบนี้หรอกนะเว้ย แต่แป๊บนะ... ผู้ชายคนนั้น คุ้นๆ นะ เหมือน... เหมือนใครวะ นึกไม่ออก

     

                       ...........

     

                       .......

     

                       ....

     

                       ...เพื่อนมินกิ!

     

                       โอเค จุดทั้งหมดนั่นคือเวลาที่มินฮยอนใช้ความคิด ระลึกชาติว่าผู้ชายคนนั้นคือยูซัง เขามาเพื่อที่จะแวะเอาขนมที่แม่ของเขาฝากมาให้เร็น ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายของมินฮยอนนะที่มาเจอยูซัง

     

                       แต่เดี๋ยว.. จะให้ไปถามเหรอ ว่าบ้านมินกิอยู่ที่ไหน เสียฟอร์มไปป่ะ ...เออช่างแม่งละ เสียก็เสียวะ ตอนนี้แค่ให้ไอ้เตี้ยนั่นหายงอนก่อนก็พอแล้ว!

     

                       “ขอโทษนะ” มินฮยอนวิ่งไปขวางทางยูซังไว้ ยูซังมองเขาแป๊บนึงก่อนจะนึกออกว่าเขาเป็นใคร

     

                       “นาย... รูมเมทมินกิ?”

     

                       “อืม ฉันจะถามอะไรสักอย่าง”

     

                       “ว่ามาสิ”

     

                       เฮ้ย หน้าตากวนตีนไปป่ะ เดี๋ยวพ่อยิงทิ้งซะเลย ดูหน้าดิ กวนตีนอะ โอ้ยยย ไม่ถูกชะตาด้วยแล้ว

     

                       “บ้านมินกิ อยู่ที่ไหน”

     

                       “เป็นรูมเมทกันแล้วทำไมถึงไม่รู้ล่ะ”

     

                       อ้าวไอ้ห่านี่ กูเป็นแค่รูมเมทนะ ไม่ใช่พ่อมัน จะได้รู้เรื่องมันไปหมดทุกเรื่องน่ะ

     

                       “แค่บอกมาว่าบ้านของมินกิอยู่ที่ไหน”

     

                       ยูซังไม่ตอบ แต่กลับมุ่งหน้าเดินไปยังบ้านของเร็นทันที ณ จุดนี้มินฮยอนกำลังอดกลั้นอารมณ์ของตัวเองแล้วเดินตามยูซังมา รู้สึกวันนี้ไม่มีอะไรเข้าข้างเขาสักอย่าง ตั้งแต่เจอาร์ที่แม่งกวนตีนตัดสายไปเมื่อกี้ จนถึงตอนนี้ไอ้บ้านี่ยังมากวนตีนเขาต่ออีก โอย! มินกิ เพราะมึงแท้ๆ เพราะมึงคนเดียวเลยไง

     

                       ในที่สุดทั้งคู่ก็มายืนอยู่หน้าบ้านของเร็น ซึ่งห่างจากจุดที่มินฮยอนยืนอยู่เมื่อกี้ไม่เท่าไหร่ และบ้านหลังนี้เขาเดินผ่านประมานสามสี่รอบ... ผีบังตากูป่ะวะ

     

                       ยูซังกดออดหน้าบ้านเร็น ไม่นานเสียงแม่ของเร็นก็ลอดผ่านอินเตอร์คอมหน้าบ้านมา มินฮยอนดูอึ้งไปมากกับการที่ยูซังดูสนิทกับแม่ของเร็นขนาดนี้

     

                       “คุณน้าครับ ยูซังเอง”

     

                       “อ๋อ เข้ามาเลยจ้ะ” คุณนายชเวปลดล็อคประตูบ้าน ทั้งคู่เลยเดินเข้าไป ยูซังปรายสายตาไปมองมินฮยอนน้อยๆ มินฮยอนเองก็มองยูซังด้วยหางตาเหมือนกัน

     

                       “ยูซัง~

     

                       “อ๊ะ สวัสดีครับ คุณน้า”  ยูซังก้มหัวให้คุณนายชเว มินฮยอนก็ก้มตามแบบงงๆ นี่คงเป็นแม่ของมินกิสินะ อืมม มินกิ แม่ยังสวยไม่เท่ามึงเลย -.-

     

                       “ดีจ้ะ มาแต่เช้าเลย แล้วนี่ ..” คุณนายชเวหันไปมองหน้ามินฮยอน พร้อมกับทำหน้าเหวอๆ มินฮยอนเลยฉีกยิ้มแล้วก้มหัวทักทายเธออีกครั้ง

     

                       “สวัสดีครับ ผมฮวังมินฮยอน เป็นรูมเมทของมินกิน่ะครับ”

     

                       “อ๋ออ แม่เป็นแม่ของมินกิน่ะ เรียกแม่หรือจะเรียกคุณน้าแบบยูซังก็ได้นะ ตามสบายเลยจ้ะ”

     

                       “ครับ คุณแม่ ^^

     

                       ใครจะเรียกน้าล่ะ เรียกแม่ไปเลย อีกไม่นานผมก็จะเอาลูกชายแม่มาทำเมียแล้วครับ 55555555

     

                       “คุณน้าครับ แม่ผมฝากขนมมาให้มินกิกับคุณน้าทาน เดี๋ยวผมเอาไปใส่จานให้นะครับ”

     

                       “ขอบใจมากนะ ฝากบอกคุณแม่ด้วยล่ะ.. มินฮยอน ไปนั่งก่อน เดี๋ยวทานข้าวพร้อมกันเลยนี่ก็จะเที่ยงแล้ว ยังไม่ได้ทานมาใช่ไหมล่ะ”

     

                       “อ๋อ ยังครับ ^^

     

                       “ดีๆ”

     

                       “แล้วมินกิล่ะครับ”

     

                       “อ่า เดี๋ยวนะ... มินกิ.. มินกิอ่า!

     

                       เงียบ... ไร้เสียงตอบรับจากคนเป็นลูก ไอ้ลูกบ้านี่มันตื่นยากตื่นเย็นดีแท้ ต้องให้เอาตะหลิวไปเคาะหัวด้วยหรือเปล่าถึงจะตื่นเนี่ยฮะ

     

                       “เอ่อ คุณแม่ครับ”

     

                       “หือ มีอะไร?”

     

                       “ดูเหมือนอาหารของคุณแม่มันจะ...” มินฮยอนชี้ไปที่ประตูครัว ซึ่งมันมีควันลอยฟุ้งออกมาจากที่นั่นด้วย แน่นอนว่า คุณชเวกำลังจะเผาบ้านตัวเองแล้ว

     

                       “ว้าย! ตายแล้ว มินฮยอน แม่ฝากไปปลุกไอ้เด็กนั่นมากินข้าวที เดี๋ยวแม่ไปโทรเรียกรถดับเพลิงก่อนนนนน TT

     

                       คุณนายชเวรีบวิ่งกลับเข้าไปดูในครัวทันที ส่วนมินฮยอนก็ขำน้อยๆ ให้กับความเปิ่นของคุณแม่เร็น พอกันเลยทั้งแม่ทั้งลูก ก่อนจะเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน ซึ่งมีแค่สองห้องเท่านั้น มินฮยอนเปิดประตูห้องแรกเข้าไป แต่พบกับความว่างเปล่า สงสัยจะเป็นห้องของแม่เร็น เขาเลยถอยออกมาแล้วเดินไปที่อีกห้องหนึ่ง

     

                       มินฮยอนค่อยๆ เปิดประตูเข้าไป เห็นเร็นกำลังนั่งกอดเข่าอยู่บนเก้าอี้ แล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง ซึ่งเร็นไม่มีทางรู้ว่าคนที่เข้ามาใหม่คือมินฮยอน เพราะเขานั่งหันหลังให้ประตูอยู่

     

                       “แม่กินไปก่อนเลย ผมยังไม่หิว” ด้วยความเคยชินที่เร็นคิดว่าคนที่เข้ามาคือแม่ ทำให้เผลอพูดออกไป แต่มินฮยอนก็ยังเดินเข้าไปใกล้เร็น พร้อมกับคว้าไม่บรรทัดเหล็กอันเล็กๆ ที่วางอยู่บนชั้นวางของมาถือไว้ในมือ

     

                       แกล้งมันหน่อยก็ท่าจะดี ^^       

     

     

                       “อย่าร้อง อย่าขยับตัว กูมาปล้นมึง”  มินฮยอนปิดปากเร็น และใช้อีกมือหนึ่งที่ถือไม้บรรทัดเหล็กจี้ที่เอวของคนตัวเล็กไว้ เร็นที่ตกใจก็กระเด้งตัวลุกขึ้น ก่อนจะหยุดยืนอยู่นิ่งๆ ตามที่อีกคนบอก

     

                       “อื้อ!~

     

                       “อย่าร้อง... กูมาปล้นนะ”

     

                       “...”

     

                       “ส่งหัวใจของมึงมา”

     

                      ฮะ?

     

                       “เพราะกูมาปล้นใจมึง” มินฮยอนก้มลงไปกระซิบข้างๆ หูเร็น คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองสะท้อนเงาของอีกคนในกระจกบานใส ตัวสูงๆ โย่งๆ แบบนี้ไม่มีใครหรอก นอกจาก...

     

                       “ไอ้เชี่ยมิน” เร็นกระทืบเท้าลงไปที่เท้าของมินฮยอนที่นึง ก่อนจะผลักอีกคนให้ออกห่าง แม่ง เล่นอะไรวะ กูตกอกตกใจหมด

     

                       “โอ้ย TT ทำไมมึงต้องรุนแรงกับกูด้วย”

     

                       “แล้วมึงเล่นอะไรล่ะ กูตกใจนะ”

     

                       “จริงเหรอ โอ๋~ ขวัญเอ้ยขวัญมา” มินฮยอนคว้าตัวเร็นเข้ามากอดทันที แล้วลูบหัวคนอ้อมแขนเบาๆ เหมือนเป็นลูกแมวน้อยน่ารักตัวหนึ่ง แต่ลูกแมวตัวนี้เลี้ยงไม่เชื่องเท่าไหร่ ทั้งดิ้น ทั้งทุบเขาไม่ยั้งเลย

     

                       “ปล่อยกู มินฮยอน”

     

                       “ไม่ปล่อย”

     

                       “ปล่อย”

     

                       “หายโกรธกูยัง”

     

                       “ยัง”

     

                       “งั้นกูก็ไม่ปล่อย”

     

                       ไอ้เชี่ย ถ้าแม่มาเห็นลูกชายของตัวเองยืนกอดกับผู้ชายอีกคนในห้องนี่แม่กูจะทำหน้ายังไงวะ อย่างน้อยมึงก็น่าจะปิดประตูก่อนนะ

     

                       “ไอ้มิน”

     

                       “กูขอโทษ เมื่อวานกูแยกตัวออกมาไม่ได้จริงๆ”

     

                       “มึงไม่ต้องพูดละ”

     

                       “น่ะ.. พอกูอธิบายมึงก็ไม่ฟังกู”

     

                       “กูไม่อยากฟัง”

     

                       “มึง.. งี่เง่าแล้วนะ”

     

                       “เออ กูมันงี่เง่า มึงอย่าสนใจกูเลย”

     

                       มินฮยอนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ตอนมึงงอนมึงก็น่ารักอยู่นะ แต่มึงฟังคำอธิบายของกูหน่อยเถอะ เดี๋ยวจับแม่งปล้ำในห้องตัวเองเลย ห้องพร้อม เตียงพร้อม!!

     

                       “มินกิ”

     

                       “...”

     

                       “ฟังกูนะ...” มินฮยอนจับไหล่ทั้งสองข้างของเร็นเอาไว้แน่น “เมื่อวานตอนที่กูมาถึงสถานีรถไฟแล้วไม่เห็นมึง กูเดินตามหามึงไปทั่ว กูแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว โทรหา มึงก็ไม่รับสาย จนตอนที่มึงตอบข้อความกูนั่นแหละ กูถึงรู้ว่ามึงยังปลอดภัยดี กูเลยโล่งใจ”

     

                       “...”

     

                    มินฮยอน มึงอย่าทำงี้ดิ กูใจอ่อนนะ TT ว่าจะเล่นตัวไม่คุยกับมึงสักสองสามวัน แต่นี่เพิ่งผ่านไปคืนเดียว มึงนี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ

     

                       “หายโกรธกู..นะ” มินฮยอนช้อนตามองคนตัวเล็ก เขาจ้องลึกเข้าไปนัยน์ตาของอีกคน จนคนถูกจ้องไม่รู้จะเอาสายตาไปวางไว้ที่ไหนแล้ว นอกจากก้มหน้างุด

     

                       “อืออ”

     

                        “ฮะ?”

     

                       “อือ หายแล้ว”

     

                       “เมียกูน่ารักไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ” มินฮยอนดึงอีกคนเข้ามากอดไว้แน่น ใบหน้าของเร็นที่แนบกับอกของคนตัวสูงทำให้รู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นเร็ว นั่นยิ่งทำให้เร็นเขินหน้าแดงเข้าไปอีก จะไม่ไหวแล้วจริงๆ มินฮยอน... มึงจะมีอิทธิพลกับหัวใจกูมากเกินไปแล้ว







     

    ..............................................

    Talking *


    เอิ้ววว เค้ามาอัพแหละ ><
    คือแบบไรเตอร์ไม่ได้อ่านหนังสือไง มัวแต่สิงทวิต
    เลยเอาเวลาสิงทวิตมาแต่งฟิคดีกว่า 5555555


    ขอบคุณทุกๆ คอมเม้นนะคะ
    และก็ขอบคุณคำวิจารน์ ของ
    Xanxus Xth ด้วยค่าาา
    คิดเหมือนไรเตอร์เลยอะ ฟิคเรื่องนี้หาความสนุกไม่ได้นอกจากความฮา -.-
    ตอนแรกไรเตอร์ไม่ได้กะแต่ง แค่แบบว่างๆ เลยลองแต่งตอนแรกไว้เฉยๆ
    พล็อตเรื่องก็ไม่มีด้วย!! 5555555 คิดออกแค่ว่าอยากแต่งฮาๆ และเถื่อนๆ ดู
    ณ ตอนนี้ไรเตอร์ก็ยังหาพล็อตไม่เจอแหละ งุงิ มีแต่คำว่า ' หวานไปเรื่อยๆ '
    รีดเดอร์เบื่อเมื่อไหร่ค่อยจบ ดีมะๆ ><

    แล้วเจอกันใหม่ค่ะ ^^




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×