ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( n u ' e s t ) Bad | คนเลว [ จบ ]

    ลำดับตอนที่ #6 : [ คนเลว :: CH - 5 ] 100 %

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.พ. 57





    Bad.. คนเลว (5) 



    "ชเวมินกิ ! คุณครูบอกแล้วใช่ไหมคะ ว่าอย่าแกล้งเพื่อน" 

    "แต่หมอนี่มาหยิกแก้มผมก่อนนะครับคุณครู" 

    เด็กชายอายุ 10 ขวบยืนหน้าเบี้ยวหน้าบูด ตกเป็นผู้ต้องหาคดีเอากล่องดินสอปาใส่หัวเพื่อนร่วมชั้นเรียนจนเป็นเหตุให้หัวร้างข้างแตก บนหน้าผากเหนือคิ้วขึ้นไปของเด็กชายคนที่ถูกรังแกอีกคนมีผ้าก๊อตปิดแผลเอาไว้ โดยมีคุณครูประจำชั้นยืนอยู่หน้าเด็กน้อยทั้งสองคน

    "เถียงคุณครูเหรอ ? รอตรงนี้ เดี๋ยวคุณครูจะไปโทรเรียกผู้ปกครองให้มารับเรื่อง"

    "คุณครูครับ ! อย่าฟ้องแม่ผมเลยนะ" 

    เด็กน้อยตากลมโตวิ่งไปกอดแขนคุณครูไม่ให้ไปโทรศัพท์ฟ้องแม่ ซึ่งคุณครูก็ทำได้แค่เพียงส่ายหน้าจับเด็กน้อยในความดูแลไปยืนที่เดิม

    "ไม่เอานะครับคุณครู ~ นี่! นายก็บอกคุณครูไปสิว่านายแกล้งฉันก่อน!! ฉันไม่ผิดนะ" 

    คนถูกกล่าวหายืนนิ่งๆ เหลือบสายตาไปมองเพื่อนข้างตัว จนกระทั่งคุณครูเดินออกไปเพื่อไปโทรบอกผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคน คนร้ายตัวจริงก็เริ่มแผงฤทธิ์ เด็กชายตาชั้นเดียวเอื้อมมือไปหยิกแก้มขาวอีกคน 

    "อ้ากก ไอ้บ้า! ฉันเจ็บ คุณครู!! มินฮยอนมันแกล้งผมอีกแล้ว" 

    "เสียงดังจัง" 

    "ปล่อยนะ! ไอ้บ้านี่ ฉันเจ็บนะ!" 

    คนตัวเล็กพยายามแกะมือหนุบหนับออก ยิ่งดิ้นเด็กชายมินฮยอนก็ยิ่งบีบผิวแก้มใสด้วยความหมันเขี้ยว จากหนึ่งข้างเปลี่ยนเป็นสองข้าง เรียกเสียงร้องโวยวายจนห้องเรียนของนักเรียนชั้น ป.4 แทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ 

    "ปล่อยมือนายออกจากแก้มฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้บ้ามินฮยอน!" 

    "คุณครูครับ มินกิพูดคำหยาบ.." 

    คนทำผิดตะครุบปิดปากเด็กขี้ฟ้องทันทีกลัวว่าคุณครูประจำชั้นคนสวยจะเดินย้อนกลับมายัดเยียดข้อหาพูดคำหยาบให้เขาอีกหนึ่งกระทง มินกิออกแรงหยิกแก้มคืน ในที่สุดทั้งคู่ก็ต้องยอมปล่อยมือออกจากแก้มของกันและกันเพราะความเหนื่อยล้า 

    "ให้ตายเถอะ ชาตินี้ชาติหน้าฉันสาบานได้เลยว่าจะไม่มีทางญาติดีกับนายแน่!!" 

    "ฉันก็สาบานได้เลยว่า ฉันจะไม่มีทาง.." 

    "มินฮยอน มินกิ ไม่เกินครึ่งชั่วโมงผู้ปกครองของพวกเธอจะมา ระหว่างนี้อย่าแกล้งกันอีก เข้าใจไหมคะ?" 

    "ครับ คุณครู" 

    ..ฉันสาบาน จะไม่มีทางลืมนายไปชั่วชีวิต ชเวมินกิ

     

     

     

     

     

     


    Bad...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     



    "คุณคิดจะลากผมไปไหนมาไหนได้ตามใจชอบเหรอ" 

    "เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยเสียงดังโวยวายสักที หื้ม?" 

    "คุณพูดอย่างกับรู้จักผมมาเป็นสิบยี่สิบปี" 

    คนตัวสูงหันกลับมามองนายแบบในกำมือ ข้อมือเล็กถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนเนื้อมนุษย์ที่แข็งแรงกว่าเหล็กกล้า มือใหญ่ฉุดข้อมือเล็กให้เดินตามเข้ามายังโรงแรมสุดหรูตระหง่านตรงหน้า คนตัวเล็กหน้าเหยเกก่อนจะยอมเดิมตามแค่โดยดี 

    ลิฟท์ของโรงแรมทะยานสูงขึ้นจนถึงชั้น 36  ซึ่งเป็นชั้นสำหรับห้องอาหาร ทันที่มาถึงก็มีบริกรคอยรับใช้พาเดินไปถึงโต๊ะอาหาร เพราะความสูงที่แทบจะอยู่ชั้นสูงสุดของโรงแรมแห่งนี้สามารถมองเห็นกรุงโซลได้รอบทิศทางผ่านกระจกใส แสงสีสว่างตาจากหลอดไฟนีออนสะท้อนกับตึกรามบ้านช่องเกิดเป็นภาพสวยงามชวนมอง 

    ..ใช่ น่ามองเสียเหลือเกิน 

    ภาพของเด็กชายชเวมินกิซ้อนทับกับใบหน้าสวยได้รูปของนายแบบชื่อดัง สีหน้าเย่อหยิ่งกับแววตาเอาเรื่องนั้นยังคงอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นนายแบบชเวเร็นหรือเด็กชายมินกิ เขาก็ไม่มีทางลืม และก็จำได้ดี

     

    ... ผิดกลับอีกคน แทบจะไม่เหลือความทรงจำวัยเด็กใดๆ


    "จะมองหน้าผมอีกนานไหมครับ คุณชาย" 

    เสียงเจื้อแจ้วฉุดให้ร่างสูงหลุดจากภวังค์ มินฮยอนแกล้งปัดเสื้อผ้าตัวเองแก้เก้อที่ถูกจับได้ เปลี่ยนท่านั่งเป็นไขว่ห้างตามมาดคุณชายจอมหยิ่งผยอง

    "ฉันให้ลูกน้องสั่งอาหารไว้แล้ว ถ้าอยากกินอะไรเพิ่มก็สั่งเอาแล้วกัน" 

    ..ใจดีแปลกๆ ยอมรับเลยว่าเร็นตามอารมณ์คนอย่างมินฮยอนไม่ค่อยทันเท่าไหร่ เมื่อบ่ายที่มารับให้เขาไปเก็บของที่คอนโดดูเหมือนจะหงุดหงิดนิดหน่อย แต่พอมาตอนนี้ท่าทางหงุดหงิดก็ดูทุเลาลง เหลือแค่อารมณ์สบายๆ วางมาดตามเคย 

    บริกรหนุ่มเดินมาเสิร์ฟอาหารตามที่ได้รับออเดอร์ สายตากลับเหล่มองนายแบบผิวขาวสะดุดตา ถึงแม้จะได้รับการอบรมจากโรมแรมมาอย่างดีว่าไม่ควรยุ่งย่ามกับลูกค้าจนเกินควร แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

    "คุณเร็น.. ใช่ไหมครับ?" 

    "ไม่ใช่ครับ" 

    "ผมขอลายเซ็นได้ไหม?" 

    "ก็ผมบอกว่าไม่ใช่เร็นไงครับ" 

    "ขอโทษครับ" 

    บริกรหนุ่มก้มหัวโค้ง 90 องศาให้ลูกค้าวีไอพี ถึงแม้หลักฐานจะคาหนังหน้าแต่นายแบบก็ยังปฏิเสธออกไป พร้อมกับเบี่ยงตัวหนีหน้าไปอีกทาง ที่เขาปฏิเสธเพราะกลัวว่า หนึ่ง พวกบริกรจะแห่กันมาขอลายเซ็นเหมือนนายคนนี้ กับสอง.. อีกไม่นานคงมีภาพหลุดว่าเขาควงผู้ชายขึ้นโรงแรมอีกตามเคย และแขกโต๊ะรอบๆ ก็เริ่มมองมาที่เรา ชเวเร็นส่งสายตาไปขอความช่วยเหลือจากประธานบริษัทตรงหน้า เขาเพียงแค่ถอนหายใจแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินอ้อมไปข้างหลังก่อนจะล้วงแว่นกันแดดสีดำสนิทออกมาจากเสื้อสูทสวมให้อีกคน ริมฝีปากหยักจรดอยู่ข้างใบหูขณะสวมแว่นกันแดดให้ 

    "ใส่เอาไว้"

    "อือ" 

    "เสิร์ฟเสร็จแล้วก็ออกไป คนของฉันแค่หน้าเหมือน" 

    "ขอโทษครับ" 

    บริกรหนุ่มโค้งก้าวสิบองศาขอโทษขอโพยด้วยความนอบน้อมแล้วจากไป บรรยากาศบนโต๊ะอาหารกลับมาเหมือนเดิม ร่างสูงยกแก้วไวน์ทรงสูงขึ้นจิบ เหล่ตามมองคนตัวเล็กที่ยังนั่งนิ่งเม้มริมฝีปากตัวเองจนเป็นเส้นตรง

    "ทำไมไม่กิน ไม่หิวหรือไง" 

    "เปล่า.." 

    "งั้นก็กินสิ"

    "อืม" 

    "กินเยอะๆ ล่ะ" 

    ซีซ่าสลัดในจานสีขาวสะอาดถูกเลื่อนไปตรงหน้านายแบบ เขาละงักมือจากช้อนส้อม กิริยาที่ดูจะใจดีเกินไปทำให้เร็นอดสงสัยไม่ได้

    "ทำไมบนหน้านายถึงมีแต่เครื่องหมายคำถาม" 

    "ห้ะ? อะ.. อะไร"

    "สงสัยอะไร?"

    "ก็เปล่านี่.." 

    "ฉันถามว่าสงสัยอะไร" 

    "..ทำไมวันนี้คุณดูใจดี ไม่ใช่ว่าผมจะชมคุณหรอกนะ อย่าเข้าใจผิดเด็ดขาด แค่สงสัย" 

    "หึ..ยังไม่ทันจะว่าอะไร" 

    "ก็นั่นแหละ พูดไว้ก่อนเดี๋ยวเข้าใจผิด" 

    "แค่อยากขอโทษที่เคยทำรุนแรงกับนาย"

    "..." 

    "อืม แค่นั้นแหละ" 

    "นี่คุณ.."

    ".." 

    "ทำไมต้องพาผมไปอยู่บ้านคุณด้วย" 

    "ตอนนี้ฉันยังไม่มีคำตอบให้ เอาไว้จะบอก"

    "คนเราจะทำอะไรก็ต้องมีเหตุผลสิ" 

    "ไม่มี" 

    "คุณมินฮยอน" 

    "อะไร ก็บอกว่าไม่มี อย่าทำให้หงุดหงิดน่า รีบกินซะ จะได้กลับบ้าน"

    รถคันหรูจอดหน้าบ้าน แม่บ้านน้อยใหญ่ต่างกุลีกุจอเข้ามารับตัวคุณชาย แม่บ้านคนหนึ่งถือกระเป๋า อีกคนถือเสื้อสูท อีกคนเตรียมถอดรองเท้าให้ มินฮยอนโยนกุญแจรถให้คนขับรถเอารถไปจอดเข้าที่ก่อนจะเปิดประตูดึงแขนให้อีกคนลงมาจากรถ เร็นดูตื่นตกใจที่แม่บ้านวุ่นวายเข้ามาแย่งกระเป๋าเสื้อผ้าไปจากเขาถึงแม้คนตัวเล็กจะยื้อและโบกมือปฏิเสธแต่สุดท้ายก็โดนแย่งไปจนได้ ร่างสูงเดินนำเข้าไปในบ้าน พร้อมกับแม่บ้านที่ดูมีอายุออกมาต้อนรับเขา 

    "จัดห้องให้ผมแล้วใช่ไหมครับ" 

    "ค่ะ คุณชาย" 

    "ขอบคุณครับ ป้าช่วยเอากระเป๋าเสื้อผ้าของเขาไปวางในห้องด้วยนะครับ" 

    "ได้ค่ะ" 

    "ห้องนาย ขึ้นบันไดไปชั้นสอง ขวามือห้องแรก" 

    "อ่อ โอเค" 

    ร่างสูงก้าวขายาวๆ ขึ้นไปชั้นสองของบ้านแล้วเลี้ยวซ้าย มันทำให้เร็นใจชื้นขึ้นมานิดหน่อยว่ายังมีพื้นที่ส่วนตัวให้เขา

    เร็นเดินตามขึ้นไปบนห้องตามที่มินฮยอนบอกไว้ กระเป๋าเสื้อผ้าถูกนำมาวางเรียงเรียบร้อยในห้องนอนโอ่อ่า ความกว้างของห้องนอนนี้เท่ากับพื้นที่ในคอนโดของเขาทั้งห้อง

    "อยากได้อะไรเพิ่มก็บอกนะคะ" 

    "อะ ครับ ขอบคุณครับ" 

    แม่บ้านฉีกยิ้มให้อย่างเป็นมิตรก่อนจะจากไป คนตัวเล็กเดินสำรวจไปรอบห้อง ริมระเบียงยื่นออกไปรับลมจากหน้าบ้านทำให้รู้สึกปรอดโปร่งสบาย ผิดกับคอนโดของเขาเองลิบลับ ถึงแม้จะกว้างขว้างสะดวกสบายแต่ก็เทียบกับบ้านหลังนี้ไม่ได้สักนิด ไม่เคยคิดว่าบ้านหรูหราใจกลางเมืองจะบรรยากาศดีน่าอยู่ขนาดนี้

    นายแบบร่างบางผละออกจากระเบียงเดินเข้ามาในห้อง เสื้อผ้าแบรนด์เนมถูกปลดเปลื้องทิ้งกองไว้กับพื้นพร้อมกับเจ้าของร่างเพรียวบางเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย ความเหนื่อยอ่อนทำให้เขาทิ้งตัวแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำอุ่น เปลือกตาสวยปิดลงช้าๆ ราวกับรวบรวมสมาธิขับไล่สิ่งต่างๆ ที่รกสมองออก 

    จวบจนเกือบชั่วโมงนายแบบก็ลุกขึ้น จัดการแต่งตัวเรียบร้อยทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างขาวสะอาดตา ดวงตาโตลืมมองเพดานแป๋ว พลิกซ้ายทีขวาที.. เพราะแปลกที่นอนอาการนอนไม่หลับเลยเกาะกุมคนตัวเล็ก เร็นพยายามข่มตาให้หลับในความมืดเพราะนี่ก็ล่วงเลยมาจนเกือบตีหนึ่งแล้ว ถ้าไม่นอนพรุ่งนี้คงไม่มีแรงตื่นไปทำงานแน่ๆ และเขาก็คงไม่เบี้ยวงานอีกเป็นครั้งที่สอง

    ในเมื่อนอนไม่หลับชเวเร็นเลยกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง ห้อยขาแกว่งไปแกว่งมาปลายเตียงพองลมในปากอย่างเบื่อหน่าย เขามองออกไปนอกระเบียงนึกขึ้นได้ว่าเมื่อเย็นเห็นสวนหน้าบ้าน ถ้าลงไปเดินเล่นสักนิดคงดี เพราะงั้นเขาเลยเดินออกจากห้องพร้อมเสื้อโค้ทกันความหนาว ค่อยๆ แง้มบานประตูออก สอดสายตามองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าบ้านทั้งหลังตกอยู่ในความเงียบสงบ มีเพียงแสงไฟจากชั้นล่างนิดหน่อยเท่านั้น สองขาค่อยๆ ก้าวออกจากห้องและกำลังจะลงบันได แต่สายตาพลันเหลือบไปเห็นแสงไฟจากห้องฝั่งซ้าย แสงไฟที่เล็ดลอดออกมาใต้ประตูชี้ให้เห็นว่าเจ้าของห้องยังไม่นอน หรืออาจจะนอนแล้วแต่ลืมปิดไฟ 

    ..เข้าไปดูหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร

    ทิศทางการเดินเปลี่ยนจากบันไดมาเป็นห้องนอนฝั่งซ้ายของท่านประธาน นายแบบเคาะประตูห้องเบาๆ เป็นเชิงขออนุญาต

    ก๊อกๆ ..

    "ป้าครับ เติมกาแฟให้ผมด้วย" 

    ร่างบางเลิกคิ้วอยู่หน้าประตูห้อง ยังไม่ทันจะเดินเข้าไปร่างสูงก็สวนกลับมาก่อน เขาเลยปิดประตูถอยออกมา

    ..กาแฟเหรอ?

    "อ้าว คุณเร็น ยังไม่นอนเหรอคะ" 

    แม่บ้านสูงอายุดูท่าทางใจดีคนเดิมถือแก้วกาแฟขึ้นมา 

    "ยังครับ พอดีจะคุยกับคุณมินฮยอนนิดหน่อย แล้วนี่ป้าจะเอากาแฟไปให้เขาเหรอ"

    "ใช่ค่ะ คุณเร็นกลับไปนอนดีกว่านะคะ อย่ากวนเวลาคุณชายทำงานเลย ป้าขอเตือน" 

    "ไม่ได้กวนครับ เอากาแฟมาสิ เดี๋ยวผมเอาเข้าไปให้เอง" 

    "เอ่อ.."

    "ป้านั่นแหละไปนอนเถอะ.. นะครับ" 

    "ก็ได้ค่ะ" 

    เจอลูกอ้อนของนายแบบหน้าสวยไป แม่บ้านต้องยอมใจยอมใจอ่อน ส่งแก้วกาแฟให้เร็นเอาเข้าไป เขาส่งยิ้มให้แม่บ้านจนตาหยีแล้วเปิดประตูเข้าไป

    กึก ! 

    เสียงแก้วกาแฟกระทบกับโต๊ะกระจกใส ร่างสูงก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารในมือไม่ได้รับรู้ว่าแม่บ้านคนเก่าได้เปลี่ยนเป็นนายแบบไปซะแล้ว

    "ขอบคุณครับ ป้าครับ พี่ซูจินฝากเอกสารไว้ให้ผมหรือเปล่า" 

    "เอ่อ.." 

    เสียงตอบรับที่ต่างไปจากเดิมทำให้ร่างสูงต้องเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสาร นายแบบส่งยิ้มน้อยๆ ไปให้ มินฮยอนเลยต้องวางปากกาลง มองหน้าคนตัวเล็ก

    "ทำไมยังไม่นอน" 

    "นอนไม่หลับ" 

    "นอนไม่หลับแล้วเดินมาห้องฉันนี่ต้องการจะบอกอะไร หรือ.." 

    "นี่! หยุดคิดลามกเลยนะ ผมแค่นอนไม่หลับ ว่าจะออกไปเดินเล่นแต่เห็นไฟห้องคุณเปิดอยู่ก็เลย.." 

    "ก็เลยมาเคาะห้อง จะยั่วฉันใช่มั้ย อยากหรอ?" 

    "มินฮยอน!!" 

    หมดแล้วซึ่งคำสุภาพ..

    "เงียบ" 

    "คนบ้า.."

    คำด่าถูกกลืนลงคอเมื่อเอกสารบนโต๊ะนั้นดึงดูดสายตาเสียเกิน จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเอกสารเกี่ยวกับงานประมูลสินค้าที่เจอาร์ต้องการ

    งบประมานการจัดซื้อสินค้าประมูลประจำปี


    "มานี่สิ" 

    "ไม่เอา" 

    "บอกให้มานี่" 

    คนตัวเล็กจิ๊ปากอย่างขัดใจ เดินเข้าไปหาประธานบริษัทแต่สายตายังไม่ละจากกองเอกสารที่เปิดค้างไว้ จนมินฮยอนต้องเอื้อมมือมาปิดแฟ้มเอกสารแล้วผลักออกไปไกลๆ ตบโต๊ะทำงานเชิงบอกให้คนตัวเล็กขึ้นมานั่ง

    "ขึ้นมานั่งนี่" 

    เพราะไม่อยากจะเถียงด้วย คนตัวเล็กจำต้องยอมขึ้นไปนั่งห้อยขาบนโต๊ะทำงาน สองแขนเท้ากับโต๊ะกระจกใส 

    "ให้ผมมาอยู่แบบนี้คุณควรจะให้ค่าตัวผมด้วยนะ เวลาของผมมันเป็นเงินเป็นทอง วันนี้คุณทำให้ผมเสียงานไปหลายงาน" 

    "จะจ่ายเงินได้ไง วันนี้ฉันยังไม่เห็นนายทำอะไรตอบแทนฉันเลย" 

    ร่างสูงกอดอกเอนหลังพิงกับเก้าอี้

    "คุณลากผมไปนู่นมานี่ โดยไม่ถามผมสักคำ แล้วยังให้ผมมาอยู่บ้านคุณอีก บ้าหรือไง" 

    "ใครๆ ก็อยากอยู่ บ้านหลังใหญ่โตแบบนี้ ไม่ชอบเหรอ ให้อยู่ฟรี แค่.." 

    ร่างสูงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงโน้มตัวเข้าไป เท้าแขนทับกับมือเล็กบนโต๊ะ สอดประสานนิ้วเข้าไป ใกล้อีกคนจนจมูกรั้นเฉียดผิวแก้ม ลมหายใจอุ่นๆ เป่ารดข้างใบหูทำให้รับรู้ได้ถึงระยะห่างของทั้งสองคนเพียงแค่เศษเสี้ยว 

    "ค.. แค่อะไร" 

    "แค่อ้าขากว้างๆ แล้วครางดังๆ ก็พอ" 

    "หยาบคาย!" 

    "มันเพราะจะตายไป สำหรับเด็กขายตัวอย่างนาย"

    "..."

    "อ้อ! หรือไอ้แก่หน้าโง่พวกนั้นไม่ต้องพูดอะไร ชเวเร็นก็ยอมเดินตามต้อยๆ บริการถึงที่ล่ะ หื้ม?" 

    ทุกคำดูถูกฝั่งลึกลงไปในจิตใจ คนตัวเล็กได้แต่หลับตาแน่น ผ่อนลมหายหายใจหนักๆ มินฮยอนยกยิ้มมุมปาก ดีใจราวกับน็อคดาวอีกคนได้สำเร็จ 

    "ผมจะไปนอนแล้วครับ" 

    "เดี๋ยว" 

    พอคนตัวเล็กจะขยับตัวหนีกลับโดนร่างสูงกักไว้ให้นั่งบนโต๊ะตามเดิม จ้องเข้าไปในแวบตาวูบไหวสั่นระริกเหมือนลูกแกะตัวน้อยๆ ที่กำลังจะโดนราชสีห์ตะครุบเหยื่อ และสุดท้ายเป็นนายแบบเองที่ไม่กล้าจ้องตานานไปมากกว่านี้เพราะหัวใจกำลังเต้นระส่ำ 

    .. ใจเต้นให้กับคนเลวที่คอยเอาแต่พ่นคำดูถูก 

    .. ใจเต้นให้กับรสจูบอ่อนโยนจากคนเลวจนสูญเสียตัวตน

    สัมผัสอ่อนหวานคุกคามบนกลีบปากได้รูป ร่างสูงละเลียดชิมริมฝีปากบางให้รู้รสชาติอย่างช้าๆ และค่อยเป็นค่อยไป กลิ่นหอมของคาเฟอีนจากรสชาติกาแฟยิ่งทวีความหอมหวาน แทรกเสริมความละมุนด้วยลิ้นชื้นที่กวาดต้อนหยอกล้อกับลิ้นเล็กที่ตอบรับอย่างไม่ประสีประสา คงจะมีแต่คนโง่ที่ดูไม่ออกว่านายแบบหยิ่งผยองคนนี้ไร้เดียงสามากเพียงใด

    เปลือกตาบางสวยปิดสนิท คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากันน้อยๆ ทั้งๆ ที่ริมฝีปากยังไม่รับอิสระ ร่างสูงเคล้าคลึงริมฝีปากอิ่มอย่างไม่รู้จักพอ จนคนตัวเล็กต้องสอดแขนเข้ามาช่องระหว่างตัวของเขาทั้งสองที่แทบจะบดเบียดรวมเป็นร่างเดียว ดันหน้าอกอีกคนออก ซึ่งมินฮยอนก็ยอมปล่อยให้อีกคนเป็นอิสระ แต่แขนยาวยังโอบรอบเอวเอาไว้ มือข้างหนึ่งยกขึ้นเช็ดคราบน้ำหวานจากมุมปากคนตัวเล็ก

    เร็นพยายามเบี่ยงหน้าหนีเพื่อซ่อนใบหน้าแดงก่ำ แต่ก็ไม่พ้นสายตาเรียวคมในระยะห่างเพียงแค่ลมหายใจกั้น

    "นอนไม่หลับไม่ใช่เหรอ" 

    "ง..ง่วงแล้วครับ.. คุณมินฮยอนจะทำอะไร !" 

    ร่างนายแบบถูกอุ้มตัวปลิวลงมาจากโต๊ะ มินฮยอนค่อยๆ วางเขาลงเตียงพร้อมกับดึงผ้านวมขึ้นมาห่มให้จนถึงหน้าอก ริมฝีปากหยักประทับลงบนหน้าผากมน

    "นอนซะ เด็กดื้อ" 

     

    .. ใจเต้น .. อีกแล้ว












    #ฟิคคนเลว
    #ฟิคคนเลว
    #ฟิคคนเลว
    #ฟิคคนเลว







     

    CRY .q
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×