ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( n u ' e s t ) My Friend | คนนี้กูขอ | MINREN [ จบ ]

    ลำดับตอนที่ #5 : :: CH.5 วันเกิด ::

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 55


    5

               

                       เช้ารุ่งขึ้น

     

                       ทั้งเร็นและมินฮยอนรีบออกจากหอพักไปตั้งแต่เช้า เพราะแลปเคมีที่เค้าทำค้างเอาไว้ตั้งแต่วันศุกร์ จนป่านนี้น่าจะเห็นผลแล้วล่ะ เหลือแค่เขียนสรุปผลแลปแล้วก็ส่ง จากนั้นชีวิตก็จะเป็นอิสระ ><

     

              “เย้~!!” เร็นลุกขึ้นบิดขี้เกียจ แล้ววิ่งไปกระโดดกอดคอคู่แลปคู่ชีวิต เสร็จสักที ! หลังจากที่นั่งนึกคำพูดที่จะใช้เขียนในการสรุปผลแลปมาครึ่งวัน ส่วนมินฮยอนที่ยังคงจ้องมองหลอดทดลอง แล้วเปลี่ยนถ่ายสารเคมีที่ทดลองไปไว้ในขวดรูปชมพู่ที่เหมาะสมกว่า

     

                       “เสร็จแล้วมึงก็อยู่เฉยๆ ดิ เดี๋ยวหล่นแตกไปจะชิบหายกันทั้งคู่” มินฮยอนขยับแว่น แว่นนี้เขาจะใส่ทุกครั้งที่เข้าแลป แทนการใส่คอนแทคเลนส์ เพราะค่อนข้างใช้สายตาเยอะ   เร็นที่โดนดุไปเมื่อกี้กลับไปนั่งที่โต๊ะ แหม จะดีใจด้วยหน่อยก็ไม่ได้ !

     

                        ช่วงนี้ใกล้สอบปลายภาคเข้าไปทุกที งานที่อาจารย์สั่งไว้ก็ค่อยๆ ทยอยส่งไปตามประสาเด็กมหาวิทยาลัย ส่วนแลปต่างๆ ก็เห็นจะเหลือแต่แลปเคมีชิ้นนี้ชิ้นสุดท้ายแล้วล่ะ ถ้าเสร็จก็คงไม่มีอะไรเรียนเพิ่มเติมมากมายแล้ว รอสอบอย่างเดียว

     

                        “อ้อ! ซึงซอล วันนี้อาจารย์เข้าสอนป่ะวะ” เร็นถามเพื่อนร่วมเซคที่กำลังเดินไปส่งผลแลปหน้าห้อง

     

                       “เหมือนจะไม่เข้านะ เห็นอาจารย์แปะประกาศไว้ที่หน้าห้องว่าให้ส่งผลแลป แล้วก็กลับได้เลย”

     

                       “โอเค ขอบใจ”

     

                       “เออ ฉันไปกินข้าวก่อนล่ะ ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า ไปด้วยกันไหม?”

     

                       “ไม่เป็นไร นายไปก่อนเลย ฉันรอไปพร้อมไอ้มินก็ได้”

     

                       “แหม ตัวติดกันจังเลยนะ ห่างๆ กันมั่งก็ได้”

     

                       มึงช่วยไสหัวลงไปกินข้าวเลย ก่อนที่กูจะถีบมึงลงไปเอง -____-

                       “เสร็จละ... ว่าแต่เจอาร์กับแบคโฮมันส่งผลแลปยังวะ ไม่เห็นหัวมันเลย” หลังจากที่ล้างมือในอ่างเสร็จ มินฮยอนก็เดินมาเช็ดมือตรงโต๊ะที่เร็นนั่งอยู่

     

                       “น่าจะส่งไปแล้วล่ะ เซคไอ้สองคนนั้นมันเรียนเร็วกว่าเรา ไปกินข้าวเหอะ กูหิวมากเลย TT

     

                       ทั้งคู่เก็บข้าวลองลงกระเป๋าเป้ ก่อนจะเดินลงมายังโรงอาหารของคณะ เร็นวางกระเป๋าไว้ที่โต๊ะประจำที่เคยนั่ง แล้ววิ่งไปสั่งข้าว โดยไม่ลืมที่จะสั่งให้มินฮยอนด้วย มินฮยอนยิ้มน้อยๆ ให้กับความเป็นเด็กของไอ้ตัวเล็กนี่ ไม่รู้จักโตเลยจริงๆ

     

                     “ตื่นเช้าๆ แบบนี้แม่งโคตรทรมานเลยจริงๆ” เร็นบ่นไป ปากก็เคี้ยวตุ้ยๆ ไปด้วย ไม่กลัวติดคอบ้างหรือไงนะ

     

                       “มึงเคี้ยวข้าวให้หมดก่อนแล้วค่อยพูด เดี๋ยวติดคอตายหรอก”

     

                       “ครับพ่อ -___-“

     

                       มินฮยอนผลักหัวเร็นเบาๆ ไปทีนึง ขี้ประชดประชันนักนะตัวแค่นี้ เขาตักผัดผักในจานแบ่งให้เร็นไปด้วย

     

                       “กินเยอะๆ จะได้โตเร็วๆ”

     

                       “กูโตแล้ว - -”

                       “หลังจากสอบเสร็จกูว่าจะกลับปูซาน มึงจะกลับไหม?”

     

                       “กลับดิ คิดถึงแม่จะแย่ละ”

     

                       ติ๊ง~

     

                       เร็นควักโทรศัพท์มือถืออกมาดูทันทีเมื่อเสียงข้อความเตือนดังขึ้น เมื่อปรากฏว่าใครส่งมาก็หุบยิ้มออกมาไม่ได้

     

                       สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะ มินกิของแม่ อ่า~ น่าเศร้าจังที่แม่ต้องฉลองวันเกิดของลูกชายกับสามีเพียงลำพัง พ่อเราฝากบอกว่า รักมินกินะ ปุอิ๊ง ปุอิ๊ง ~ ตั้งใจนะจ๊ะ กลับมาหาพ่อกับแม่ไวๆ ด้วยล่ะ – แม่

     

                พออ่านข้อความจบเร็นก็นึกขึ้นได้ ว่าวันนี้วันเกิดของเขานี่นา แล้วหลังจากนั้นเพื่อนสมัยมัธยมต่างก็ส่งข้อความอวยพรวันเกิดให้เร็นกัน จนเครื่องแทบค้าง รวมถึงเจอาร์ แบคโฮ แล้วก็ยูซังด้วยเช่นกัน แต่ไอ้คนตรงนี่กลับนั่งนิ่ง เหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราว... มึงลืมวันเกิดรูมเมทมึงใช่ไหม TT

     

                “มินฮยอน...”

     

                       “หื้ม?”

     

                       “มึงลืมอะไรหรือเปล่า”

     

                       “ลืม... ลืมอะไรวะ?”

     

                       “ก็วัน...”

     

                       ช่างแม่ง ลืมก็ลืม กูไม่แคร์หรอก แค่มึงคนเดียว คนอื่นๆ ยังจำวันเกิดกูได้เลย

     

                       “วัน?”

     

                       “...วันจ่ายค่าหอไง”

     

                       “เออว่ะ กูลืมซะสนิทเลย ขอบใจที่เตือน”

     

                       มึงแม่งโคตรใจร้ายเลย TT

     

                       “มินฮยอน!! พี่เจอตัวแกสักที ไปเตะบอลกับพวกพี่ไหม พอดีวันนี้พวกนักกีฬาไม่ใช้สนามซ้อม นานๆ จะได้ไปเล่นกันสักที”  รุ่นพี่คนนึงเดินเข้ามาตบบ่ามินฮยอน

     

                       “เอาดิพี่ ไม่ได้เตะมานานแล้วเหมือนกัน”

     

                       “เร็น ไปด้วยกันไหม”

     

                       “ตามสบายเลยครับพี่ ผมไม่ค่อยชอบวิ่งเท่าไหร่”

     

                       “โอเคๆ งั้นไปกันเถอะไอ้มิน คนอื่นๆ มันไปสนามกันหมดแล้ว”

     

                       “ผมกินข้าวแป๊บนึง เดี๋ยวตามไปที่สนามนะครับ”

     

                       วันเกิดกูก็จำไม่ได้ แล้วนี่มึงยังจะทิ้งให้กูอยู่คนเดียวอีกเหรอ??

     

                       รูมเมทเฮงซวย TT

     

    ++++++++++++++++++++++++++

     

                       หลังจากที่เร็นช้ำรักจากมินฮยอน (?) เขาก็เลือกที่จะเดินคอตกกลับหอ แต่ไม่ได้กลับห้องตัวเองหรอกนะ ไปอยู่ห้องแบคโฮดีกว่า อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อน อยู่คนเดียวแล้วกูฟุ้งซ่าน T^T

     

                       ก๊อกๆ

     

                       เร็นเคาะประตูสองสามที แล้วประตูก็ถูกเปิดโดยอารอน เขาถอดรองเท้าไว้หนน้าห้อง แล้วเดินเข้าไปนั่งที่โซฟา แต่ไร้ซึ่งเงาของเพื่อนรักอีกสองคน เหลือวแต่รุ่นพี่เท่านั้น

     

                       “สองคนนั้นไม่อยู่เหรอครับพี่อารอน”

     

                       “ใช่ หายกันไปตั้งแต่เช้า ทิ้งโน้ตไว้ บอกว่าจะออกไปทำงานค้างที่คณะน่ะ”

     

                       “เหรอครับ พี่อารอนอยู่คนเดียวก็เหงาแย่เลยดิ”

     

                       “ฮะๆ ไม่ขนาดนั้นหรอก แล้วทำไมนายถึงมาอยู่นี่คนเดียวล่ะ มินฮยอนไปไหน?”

     

                       “มันทิ้งผมไปเตะบอลกับพวกรุ่นพี่ เซ็งจริงๆ”

     

                       “ดูนายจะงอนมินฮยอนนะ”

     

                       “เฮ้ย งอนเงินไรล่ะพี่อารอน ผมไม่ได้งอนมัน อยากจะไปตายห่าที่ไหนก็ไปเถอะ”

     

                       “555555”

     

                       “อย่าหัวเราะผมสิพี่ครับ TT

     

                       “โอเค 5555” ปากก็บอกว่าจะไม่หัวเราะ แต่ก็กลั้นขำไม่อยู่ ไอ้เพื่อนรุ่นน้องคนนี้มันตลกจริงๆ ดูหน้าก็รู้แล้วว่างอน แสดงว่าเป็นแฟนกับมินฮยอนนี่คงเรื่องจริงล่ะมั้ง ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแล้วล่ะ

     

                       “แต่จะว่าไปผมก็งอนมันนะ วันนี้วันเกิดผมมันยังไม่รู้เลย TT

     

                       “อาจจะทำงานเพลิน จนลืมหรือเปล่า ใจเย็นน่า”

     

                       “โหพี่ เมื่อกี้ผมถ้วงมันกรายๆ มันยังไม่รู้เลยครับ”

                       “ใจเย็นน่า ฮ่าๆ”

     

                       “พี่อารอนครับ” เร็นผุดตัวกระเด้งไปหาอารอน

     

                       “หื้ม?”

     

                       “พี่คบกับไอ้แบคเหรอ?”

     

                       “เฮ้ย เปล่า”

     

                       “อ้าว ก็เห็นเดินจับมือกันเมื่อวาน”

     

                       “ก็...”

     

                       “แน่~ คบก็บอกมาเถอะครับ”

     

                       “ไม่ได้คบจริงๆ”

     

                       “แล้วพี่ชอบไอ้แบคไหมครับ?”

     

                       “...ไม่รู้”  อารอนหมุนตัวหนีเร็นไปอีกทาง โอยยย ไอ้เด็กพวกนี้นิสัยกวนตีนนี่เหมือนกันทั้งกลุ่มเลยป่ะ  เขินว้อยยย -//-

     

                       “แบบนี้แถวบ้านผมเรียกว่าชอบ” 

     

                       “มินกิอ่า -_-“

     

                       “ฮ่า~ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ครับ มาเล่นเกมส์กันพี่” เร็นเดินไปหยิบเกมส์เพลย์ที่วางอยู่หน้าทีวีมาเล่นกับอารอน อยู่กับพี่อารอนก็แก้เหงาได้เหมือนกัน ดีกว่ากลับไปอยู่ห้องคนเดียว แล้วเอาแต่โกรธไอ้รูมเมทติ๊งต๊องปัญญาอ่อนนั่น ;____;

     

                       “เฮ้!! พี่จะเอาชนะผมทุกเกมเลยหรือไงกัน”

     

                       “555555 ก็คนมันเก่งอะน้อง”

     

                       กระชับความสัมพันธ์ได้ดีอีกด้วย ^^

     

                       และอีกหลายชั่วโมงต่อมา

     

                       “วู้ววว~

     

                       “โอยยย พี่อารอนอะ! ผมงอนพี่แล้วนะ พี่ชนะผมมากี่สิบตาแล้วเนี่ย”

     

                       “เอาน่าๆ แก้ตัวใหม่ตาหน้าแล้วกัน คราวนี้ฉันจะออมมือให้ก็ได้”

     

                       “ไม่เล่นแล้วครับ TT” เร็นวางจอยส์สติกไว้ข้างๆ ตัวแล้วหยิบประเป๋าเป้ของตัวเองมาสะพายไว้ งอนจริงๆ ด้วย คนบ้าอะไรวะ เล่นเกมเก่งชิบเป๋งเลย TT

                      

                       “แล้วนั่น จะกลับแล้วเหรอ”

     

                       “ครับ ไปก่อนนะครับพี่ เอาไว้ผมจะมาเล่นด้วยอีกนะ” เร็นหมุนตัวเดินออกมาจากห้อง พอกำลังบิดประตูและก้าวเท้าออกจากห้อง ไอ้เพื่อนรักสองตัวก็โผล่มาพอดี

     

                       “อ้าวมึง ทำไมมาอยู่ห้องกูล่ะ”  แบคโฮทัก

     

                       “เรื่องของกูเถอะ กำลังจะกลับละ”

     

                       “ทำไมมึงไม่อยู่กับไอ้มินวะ? เมื่อกี้กูเห็นมันเตะบอลอยู่กับพวกรุ่นพี่”

     

                       “ช่างหัวมันดิ กูไปนอนล่ะ ฝันดี”

                      

                       ชอบเล่นนักใช่ไหมบอลน่ะ มึงเล่นให้ขาหักตายไปเลยนะ ไม่ต้องกลับมาเลย!!

     

                       เร็นกระทืบเท้าปึงปังเดินเข้ามาในห้องพักของตัวเอง เหวี่ยงกระเป๋าไว้บนโซฟา หงุดหงิดก็หงุดหงิด เห็นรูปไอ้รูมเมทนั่นตั้งไว้ตรงข้างทีวียังอยากจะเขวี้ยงทิ้งซะให้รู้แล้วรู้รอด ไอ้รูมเมทเสลดปลวกเอ้ย!!  

     

                       เขาแก้หงุดหงิดโดยการล้มตัวลงนอนดูทีวี แต่ทีวีช่วงเวลาหัวค่ำแบบนี้คงหนีไม่พ้นข่าวสารบ้านเมือง เร็นกดเปลี่ยนช่องไปมาจนรีโมตแทบจะแหลกคามือ แต่ก็ยังไม่มีอะไรจะดูอยู่ดี เลยเปลี่ยนจากการดูทีวีไปหาหนังสือมาอ่านแทน เล่มแล้วเล่มเล่าก็เหมือนกับทีวี... โอ๊ยยย น่าเบื่อไปไหนเนี่ย !!

     

                       มินฮยอน มึงนะมึง เพราะมึงเลยคนเดียว กลับมาพ่อจะด่าให้ไฟไหม้หอ แล้วทำไมกูต้องหงุดหงิดด้วยวะ แค่ไอ้รูมเมทซังกะบ๊วยนี่ไม่รู้วันเกิดของเขา

     

                       “กูจะบ้าตายเพราะมึง”

     

                       เขาเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ ล่วงเลยมาจนจะเกือบเที่ยงคืนแล้ว แต่มินฮยอนก็ยังไม่กลับมาสักที นี่ไปเตะบอลหรือไปล่าท้าผีกันแน่วะ เขาเลยตัดสินใจหยิบมือถือขึ้นมาจะโทรหารูมเมท...

     

                       แล้วกูจะโทรทำไม จะไปเตะบอลอยู่ที่ไหนก็เรื่องของมึงสิ..  โอ้ย!! ปวดหัวเว้ย มึงนี่เป็นอะไรกับชีวิตกูมากป่ะ ทำให้กูวุ่นวายดีจังเลย

     

                       เร็นโยนโทรศัพท์มือถือกลับไปยังโซฟาตามเดิม ...ไม่โทรหรอก อยากกลับเมื่อไหร่ก็กลับ ไม่ใช่ธุระของกู

     

                       เดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง อีกยี่สิบนาทีจะเที่ยงคืนละ กูไม่โกรธเรื่องที่มึงลืมวันเกิดกูแล้ว แต่กูจะโกรธที่มึงไม่ยังไม่กลับนี่แหละ ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนวะ

     

                       อืดดด~ อืดดด~

     

                       ไม่รอช้าเร็นถลาเข้าไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดูทันที พอเห็นว่าเป็นเบอร์มินฮยอนเท่านั้นแหละ ฉีกยิ้มหน้าบานเลย... อะ แล้วจะยิ้มทำไม ดีใจบ้าอะไรนักหนา แล้วกูก็จะไม่รับสายมึงด้วย กูงอน !!

     

                       อืดดด~ อืดดด~

     

                       แต่โทรศัพท์ก็ยังสั่นอยู่อย่างนั้นไม่จบไม่สิ้น เร็นทนไม่ไหวเลยต้องตัดสินใจรับสาย ไม่ใช่ว่าหายงอนหรอกนะ แต่แค่รำคาญ... ใช่ แค่รำคาญ!!

     

                       “อะไร”

     

                       “มินกิ ข้อเท้ากูพลิก” เสียงปลายสายทำเสียงอิดออด ดูเหมือนว่ามินฮยอนจะเจ็บมากจริงๆ นะ

     

                       “แล้วไง ยังไม่ตายสักหน่อย”

     

                       “มารับกูหน่อย กูเดินกลับเองไม่ไหว”

     

                       “ทีตอนไปน่ะไปได้ แต่พอกลับ กลับไม่ได้ เดือดร้อนกูทุกที”

     

                       “มารับหน่อย กู... โอ๊ย! กูอยู่ที่สนามบอลหลังคณะ เร็วๆ นะ เจ็บมากเลย”  เร็นรีบยัดมือถือใส่กางเกง แล้วใส่รองเท้าออกวิ่งไปหามินฮยอนทันที นี่ขนาดบอกว่าไม่เป็นห่วงนะ แต่ออกแรงวิ่งสุดชีวิต

     

                       มึงไปเล่นท่าไหน ถึงได้ข้อเท้าพลิกเนี่ย ประสาทป่ะวะ!!

     

                       ไม่นานนักเร็นก็มาหยุดยืนอยู่หน้าสนามบอลหลังคณะ แต่...ไอ้คนที่บ่นเจ็บขานั่นมันหายไปไหน มีแค่สนามว่างเปล่า เฮ้ย มึงอย่าเล่นงี้นะ กูกลัวผีนะเว้ย แถวนี้ก็มืดชิบหาย ผีแม่งจะออกมาหลอกกูตอนไหนก็ไม่รู้ TT

     

                       “มินฮยอน!!

     

                       ...

     

                       เงียบสนิท มีแค่เพียงเสียงสะท้อนเอคโค่ของตัวเองกลับมาเท่านั้น

     

                       “มินฮยอน!! มึงอยู่ไหน” เขาค่อยๆ ก้าวขาเข้าไปกลางสนามบอล แล้วมองหามินฮยอนไปรอบๆ เผื่อจะไปแอบมุดหัวอยู่ตามซอกท่อระบายน้ำ

     

                       “มินฮยอน มึงอยู่ไหนเนี่ย อย่าเล่นงี้ดิ กูกลัวผีนะเว้ย”

     

                       ....

     

                       อย่าให้กูเจอตัวมึงนะ จะจับฉีกเป็นชิ้นๆ แล้วโยนให้ฉลามแดกแม่ง TT      

     

              พรึบ! แล้วจู่ๆ ไฟที่เปิดอยู่กลางสนามก็ดับลง

     

                       เอาแล้ว ผีหลอกกูแล้ววว TT

     

                       “แซง งิล ชุก คา ฮัม นี ดา แซง งิล ชุก คา ฮัม นี ดา...”

     

                       ผีแม่งร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์เป็ยด้วยง่ะ T^T

     

                       “มิน... มินฮยอน”

     

                       เร็นหลังหลังจากไปทันทีเมื่อได้ยินเสียงเพลงดังขึ้นอยู่ที่ข้างหลังเขา คนตัวสูงที่ยืนถือเค้กอยู่ข้างหลังนั่น... มินฮยอนจริงๆ ด้วย

     

                       “ซา รัง ฮา นึล... มินกิ ชิ... แซง งิล ชุก คา ฮัม นี ดา”

     

                       มินฮยอนยืนยิ้มหวานให้เร็น แต่เร็นกลับยืนนิ่ง ไม่แม้แต่จะขยับตัวมาเป่าเค้กด้วยซ้ำ มินฮยอนเลยต้องยกเค้กขึ้นไปตรงหน้า แต่เร็นก็ยังยืนเฉย..

     

                       “เป่าดิ”

     

                       “มึง...”

     

                       “กูรู้ ว่ามึงซึ้งที่กูทำแบบนี้ให้ แต่เป่าก่อน กูเมื่อยแขนละ”

     

                       เร็นเป่าเทียนจนดับหมดทุกแท่งตามที่มินฮยอนบอก แล้วรับเค้กมาถือไว้

     

                       “มึงไม่ขอพรก่อนเหรอ”

     

                       “...กูลืม”

     

                       “มึงนี่จริงๆ เลย”

     

                       “กูนึกว่ามึงจะลืม”

     

                       “กูไม่ลืมหรอก... สุขสันต์วันเกิดนะครับ”  มินฮยอนเลื่อนหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างๆ หูเร็นเบาๆ บทมันจะหวานมันก็ทำได้นะ ไอ้ผู้ชายคนนี้ ^^

     

                       “มึงนี่มัน... เฮ้ย ปล่อยกู” เร็นกำหมัดจะต่อยไปที่หน้าหล่อๆ นั่น แต่โดนมินฮยอนดึงแขนเข้ามากอดซะก่อนนี่น่ะสิ

     

                       “มินกิ กูรักมึงนะ”

     

                       “...”

     

                       “กูไม่ได้เมาแล้ว... มึงจำไว้ว่ากูรักมึง”

                      
                        จบคำริมฝีปากอุ่นก็ทาบทับลงมา ความหนาวเย็นรอบตัวเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นความอบอุ่นที่ก่อตัวขึ้น ในใจเร็นพยายามขัดขืน แต่สิ่งที่เร็นเป็นคือ ยืนนิ่งๆ ตอบรับสัมผัสที่มินฮยอนมอบให้ มือข้างหนึ่งของมินฮยอนประคองใบหน้าหวาน ส่วนมืออีกข้างก็โอบรอบเอวบางเอาไว้ ทั้งคู่ผละออกจากกัน ดวงตาคมของมินฮยอนยังคงจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าหวาน หัวใจที่เต้นจนแทบทะลุออกมาจากอกนั่น..

     

                       มินกิ มึงน่ารักขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่... กูรักมึงตั้งแต่เมื่อไหร่...

     

                       มินฮยอนเลื่อนใบหน้าเข้าไปหาเร็นอีกรอบ แต่ไอ้คนตัวเตี้ยกลับเบี่ยงหน้าหนีไปอีกทาง เพื่อซ่อนหน้าแดงๆ นั่นเอาไว้ น่าอายชะมัด -//-

     

                       “มินกิ”

     

                       “อะ.. อะไร เรียกอยู่ได้”

     

                       มินฮยอนจับใบหน้าหวานขึ้นมา เขาเชยคางคนตัวเล็กให้หันมาสบตากับเขาอีกครั้ง ยิ่งถูกมินฮยอนมองแก้มใสๆ นั่นก็ยิ่งขึ้นสี

     

                       “เวลามึงเขินนี่น่ารักชิบหาย ฮ่าๆ”

     

                       “ไอ้บ้า กูไม่ได้เขินเว้ย” เร็นดันอีกคนให้พ้นทางก่อนจะเดินหนีออกมา แต่มินฮยอนก็ยังวิ่งตามมาทัน แล้วฉวยมือไปจับเอาไว้

     

                       “จับมือแบบนี้แหละ อุ่นดี”

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

                       เช้ารุ่งขึ้น..

                      

                       แบคโฮสะดุ้งตื่นขึ้นมาตามเคยชินที่ต้องตื่นไปเรียนตอนเช้า เขาลุกจากโซฟาแล้วไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำ หลังจากที่ต้องเสียสละที่นอนให้กับรุ่นพี่อารอนนอนอย่างสบายใจ ขอบอกตามตรง แบคโฮชอบแอบย่องเข้าไปนั่งดูอารอนหลับ รุ่นพี่คนนี้น่ารักจริงๆ

     

                       เขาเดินไปปลุกเจอาร์ในห้อง และเดินกลับมาเปิดตู้เย็นเพื่อหาอะไรกินรองท้องก่อนจะไปเรียนตอนเช้า แต่หน้าประตูตู้เย็นกลับมีโพสอิทสีส้มแปะเอาไว้

     

                    ฉันออกไปหาเพื่อนนะ

                    ค่ำๆ จะกลับ อยู่กันดีๆ ล่ะ

                    ตั้งใจเรียนด้วย ^^       

     

                    “อะไรวะมึง” เจอาร์เดินออกมาจากห้องและฉวยแก้วน้ำในมือแบคโฮมาดื่ม

     

                       “พี่อารอน เขาบอกว่าจะไปหาเพื่อน ค่ำๆ จะกลับ”

     

                       “อ่อ”

     

                       “ไปคนเดียวเนี่ยนะ”

     

                       “แล้วไงอะ”

     

                       “ก็เพิ่งกลับมาจากอมเริกา จะไปรู้ทางได้ไง”

     

                       “แหมมึงก็ห่วงมากไป อย่าลืมว่าพี่อารอนก็เคยอยู่เกาหลีมาก่อน อีกอย่างเขาโตแล้ว มึงไม่ต้องห่วงหรอกน่า”

     

                       “แต่...”

     

                       “ไปเรียนได้แล้วมึง จะสิบโมงละ เดี๋ยวไปไม่ทันเช็คชื่อ”  เจอาร์ติดกระดุมเสื้อเม็ดสุดท้าย ก่อนจะวิ่งไปใส่รองเท้า แต่พอกำลังจะออกจากประตู ไอ้เพื่อนรักกล้ามโตนี่ก็ยังยืนมองโพสอิทแผ่นนั้นไม่วางตา เขาเลยจำเป็นต้องล็อคคอแล้วฉุดกระชากลากมันออกจากหอพักจนได้

     

                       คลาสนี้เป็นคลาสบรรยายรวม ทั้งสี่คนเลยได้เรียนเวลาตรงกันสักที ทันทีที่มาถึงห้อง เจอาร์เห็นมินฮยอนกับเร็นกำลังนั่งเรียนตั้งใจฟังอาจารย์สอนอย่างดิบดีอยู่ที่แถวหลังห้อง... หรือว่ามันหลับในกันอยู่ ? เจอาร์กับแบคโฮเลยรีบขึ้นไปนั่งข้างๆ สองคนนั้นทันที

     

                       “โฮ๊ะ! ไม่มาเรียนพรุ่งนี้เลยล่ะมึง” มินฮยอนหันไปทักเจอาร์ที่นั่งลงข้างๆ

     

                       “ถ้าไม่ติดว่าเช็คชื่อ กูก็ไม่มาหรอก” 

     

                       “ฮ่าๆ” มินฮยอนแกล้งขำกลบเกลื่อน เขากระชับมือที่แอบจับมือกับเร็นให้แน่นขึ้น เพราะไอ้คนตัวเล็กนี่คิดแต่จะดึงมืออกอย่างเดียว เร็นหันไปแยกเขี้ยวใส่มินฮยอน แต่คนจับมือก็ทำท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว แถมยังหันกลับไปยักคิ้วส่งกลับคืนให้อีก กวนตีนไม่มีใครเกินจริงๆ...

     

                       “ปล่อย” เร็นกระซิบบอกมินฮยอน

     

                       “อยู่เฉยๆ สิ”

     

                       “กูบอกให้มึงปล่อยมือกูได้แล้ว”

     

                       “หมดคาบก่อนนะครับที่รัก แล้วจะปล่อย” ไม่วาเปล่าแถมยังเอี้ยวตัวไปหอมแก้มนิ่มๆ นั่นอีก แต่ดีนะที่เจอาร์ไม่เห็น ถ้าเห็นเร็นคงได้แทรกพื้นปูนลงไปฝังตัวอยู่ในนั้นเป็นสิบๆ ชาติ

     

                       “ไอ้มิน ไอ้เชี่ย ไอ้บ้าเอ้ย” เร็นใช้มือข้างที่ว่างฟาดลงไปบนแขนของมินฮยอน ห้องเรียนนะเว้ย มึงทำเชี่ยไรกับหน้ากูเนี่ย ตั้งแต่เมื่อคืน กูรู้สึกเปลืองเนื้อเปลืองตัวกับมึงมากเลย

     

                       “พวกมึงเล่นเหี้ยอะไรกันเนี่ย” เจอาร์หันมาเจอเร็นกำลังฟาดแขนมินฮยอนเต็มๆ

     

                       “เออมินกิ มึงเล่นเหี้ยอะไรเนี่ย กูเจ็บนะ” มินฮยอนหันไปทำท่าดุใส่เร็น แต่ก็ยังแอบหลุดขำออกมา ส่วนเร็นน่ะหรอ อยากยกเท้าขึ้นมาถีบยอดหน้ามินฮยอนให้รู้แล้วรู้รอด ให้แม่งกลิ้งตกลงไปนั่งอยู่หน้าเวทีกับอาจารย์นู่น !!





     

    .......................................................

    Talking*

    ไรเตอร์มาอัพแล้วววววว
    วันนี้ไรเตอร์โดดเรียนด้วยแหละ ตื่นมาปวดหัวจี๊ดเลย -__-
    ไรเตอร์อาจจะไม่ได้มาอัพสักวันสองวันเนอะ
    เพราะว่าช่วงนี้งานรุมเร้าเลย
    ถึงแม้ว่างานจะไม่เยอะ แต่มันทำแล้วยืดเยื้อเอาเรื่อง TT

    ยังไงก็อ่านแล้วเม้นเป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ด้วยนะ
    ทุกคอมเม้นผ่าตาไรเตอร์หมดเลยนะคะ
    ขอบคุณที่ติดตามค่ะ (:



     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×