ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( n u ' e s t ) My Friend | คนนี้กูขอ | MINREN [ จบ ]

    ลำดับตอนที่ #21 : :: CH. 19 จูบ อย่าคิดว่าไม่สำคัญ จูบเบาๆ เท่านั้น ยังทำฉันสั่นดังฟ้าสะเทือน ♥ ::

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 56


    19

     

                       “วุ่นวายจริงๆ” เร็นเดินบ่นงึมงำเข้ามาในห้องน้ำ ไม่ได้สังเกตว่ามีร่างสูงอีกคนเดินตามมาด้วย มินฮยอนเดินตามหลังเร็นไปเงียบๆ เพื่อฟังไอ้เตี้ยนี่บ่นระหว่างทางเดินไปห้องน้ำ บ่นงุ้งงิ้งอยู่คนเดียว ไอ้คนเดินตามก็แอบขำไปเรื่อย

     

                       “แล้วน้ำหวานอีก วันนี้กูเรียนถึงมืดนะเว้ย เหนียวชิบหายเลย..”

     

                       “...”

     

                       คนหน้าสวยพาลนึกไปถึงหน้ามินฮยอนกับยุนโจที่ส่งยิ้มให้กัน คนสวยเบ้ปากแล้วบ่นเบาๆ ไม่หรอก ไม่น่าจะเบา ถ้าเสียงเบาไอ้คนที่เดินตามหลังคงไม่ได้ยิน

     

                       “ถ้าแม่งจะสวีทกันแล้วจะเรียกให้กูอยู่ด้วยหาส้นตีนอะไรวะ แล้วดูดิ๊ มาสร้างความเดือดร้อนให้กูอีก .. เดี๋ยวนะ แล้วห้องน้ำตึกนี้มันอยู่ตรงไหน..”

     

                       เร็นขยี้หัวตัวเอง หันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาห้องน้ำ จนหันมาเจอร่างสูงที่แอบยืนอมยิ้มอยู่ ก็อยากจะขำอะนะ แต่กลัวเสียฟอร์ม เพิ่งจะทะเลาะกับมัน

     

                       “ตามกูมาทำไม ไม่อยู่ดูแลดาวคณะของมึงล่ะ?”

     

                       “ใครบอกว่าของกู”

     

                       “เออเรื่องของมึงเถอะ กูไม่ได้อยากรู้” เร็นสะบัดหน้าเดินหนี พอดีกับที่เห็นห้องน้ำอยู่ทางขวามือเขาก็เลยเลี้ยวเดินเข้าไปในห้องน้ำ ร่างบางรีบเดินตรงไปยังอ่างล้างมือเพื่อจัดการล้างคราบเหนียวของน้ำหวานออก โดยมีคนตัวสูงยืนกอดออกพิงขอบประตูห้องน้ำมองอยู่ นั่นยิ่งทำให้เร็นหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ ไม่รู้จะยืนเก๊กทำหอกอะไร แทนที่จะมาช่วยกู.. แต่ไม่ต้องหรอก !!  

     

                       “กลับไปห้องไปหายุนโจของมึงไป กูเห็นหน้ามึงแล้วกูหงุดหงิดว่ะ”

     

                       “มึงล้างอย่างนั้นแล้วเมื่อไหร่จะออกวะ”

     

                       ไอ้เชี่ยนี่.. ฟังที่กูพูดสิ! ฟัง!!! เป็นโรคห่าอะไรชอบเมินคำพูดกู

     

                       ไม่ว่าเปล่าด้วยนะ ร่างสูงหยิบกระดาษทิชชู่มาชุบน้ำแล้วเอาไปเช็ดที่กางเกงเร็น ไอ้คนตัวเล็กนี่ก็พยายามปัดมือมินฮยอนออก จนสุดท้าย..

     

                       “เฮ้ยเชี่ย ทำไรของมึงเนี่ย”

     

                       “มึงจะได้อยู่เฉยๆ ไง”

     

                       มินฮยอนอุ้มร่างบางขึ้นไปนั่งบนขอบอ่าง เร็นพยายามจะดิ้นลงมายืนข้างล่าง มินฮยอนเงยหน้าขึ้นไปและชี้หน้าเขาเป็นเพิ่งดุ คนตัวเล็กเลยจำเป็นต้องนั่งนิ่งๆ ไม่ได้กลัวหรอกนะ... ไม่ได้กลัวเลยจริงๆ !!

     

                       “จะเช็ดอีกนานป่ะ” เร็นกอดอก เริ่มบ่นอุบพอมินฮยอนเพิ่งจะลงมือเช็ดไปได้แค่แป๊บเดียว

     

                       “ใจเย็น”

     

                       “มึง ให้กูเช็ดเอง เดี๋ยวยุนโจของมึงมาเห็น..”

     

                       “กูพูดเหรอว่ายุนโจเป็นของกู?”

     

                       “ก็ไม่ใช่ไงหรือวะ เมื่อคืนยืยดูดปากกันจนจะดูดเข้าไปทั้งตัวแล้ว”

     

                       “กูเมา”

     

                       “มึงนี่เอะอะก็เมาอย่างเดียว คิดว่ากูไม่รู้เหรอว่ามึงอยากจูบดาวคณะ”

     

                        “ถ้ามึงยังไม่หุบปากนะ”

     

                       “ทำไม จะจูบกูเหมือนในหนังไง? ลองจูบสิ จะถีบให้หน้าหงายจริงๆ” 

     

                       “กูยอมให้มึงกระทืบเลย”

     

                       ร่างสูงโยนทิชชู่ลงถังขยะแล้วเกี่ยวคอเร็นเข้ามาประกบปาก คนปากดีเมื่อกี้ที่บอกว่าจะถีบเขากลับตกใจจนทำอะไรไม่ถูกนอกจากทุบที่ไหล่กว้างเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ เคลิ้มไปกับรสจูบ เร็นหลับตาพริ้มและรับสัมผัส

     

                       “อืมม..ม”

     

                       มินฮยอนโอบเอวคนตัวเล็กให้เข้ามาใกล้กว่าเดิม ริมฝีปากไล้จูบ ใช้จังหวะที่คนตัวเล็กเผลอสอดลิ้นหนาเข้าไปกวาดชิมความหวาน ลิ้นเล็กที่พยายามหลบอยู่เมื่อครู่เริ่มตอบสนองอย่างเก้กัง มินฮยอนยังคงช่วงชิงริมฝีปากโดยไม่ได้สนใจเลยว่าคนถูกจูบกำลังจะหายใจไม่ออกตาย ถ้าเขาไม่ทุบไหล่กว้างและพยายามดันร่างสูงออก

     

                       มินฮยอนยอมละริมฝีปากออกมา เขาเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้กับใบหน้าเล็ก และใช้คมฟับกัดเบาๆ ที่ใบหู ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากออกมากดจูบที่ซอกคอขาว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏทันทีที่เห็นคนตัวเล็กไม่มีแรงแม้แต่จะเตะเขาด้วยซ้ำไป

     

                       “ไง ไหนบอกจะถีบกู”

     

                       “กูนี่แหละจะถีบมึงเอง”

     

                       ยูซังถลาเข้ามาในห้องน้ำจะถีบมินฮยอน แต่โชคดีที่เร็นกระโดดลงจากขอบอ่างทันและดันตัวเขาเอาไว้ ไม่งั้นได้มีหน้าหงายกันไปแล้ว

     

                       “มึงมาได้ไง” เร็นถามเรียกร้องความสนใจ ไม่งั้นมันได้กัดกันในห้องน้ำแน่ๆ

     

                       “ดมกลิ่นตามมาล่ะสิ”

                      

                       ปากมึงวอนหาส้นตีนกระแทกสักสองสามทีจริงๆ มินฮยอน!!

     

                       “ปล่อย” ยูซังพูดกับเร็น แต่เร็นก็ยังไม่ยอมปล่อยยูซัง กลัวว่าปล่อยไปแล้วจะไปกระทืบมินฮยอน..

     

                       เดี๋ยวนะ แล้วเขาจะห่วงทำไม? ปล่อยให้แม่งกระทืบให้ปากแหกไปสักสองสามทีก็ดี

     

                       “มินกิ.. ปล่อย”

     

                       เร็นมองหน้ายูซังอย่างชังใจ ก่อนจะจัดสินใจปล่อยแขนยูซัง ยังไม่ทันจะพ้นมือยูซังก็พุ่งเข้าไปจะต่อยมินฮยอน ไอ้เตี้ยนี่คว้าแขนไว้แทบไม่ทัน เหมือนหมาบ้าชิบหายเลย TT

     

                       “พวกมึงนี่เป็นโรคห่าอะไรกันวะ เจอหน้าก็จะกัดกันอย่างเดียว”

     

                       “มินฮยอน มึงจะเอาไง มึงว่ามาเลย มึงจูบแฟนกูทำไม?”

     

                       “ก็แฟนมึงมันเรียกร้องเอง”

     

                       ห้ะ? เดี๋ยวนะ กูว่ามึงต้องมีอะไรเข้าใจผิดป่ะวะ กูไปเรียกร้องตอนไหน?

     

                       “ไอ้เวรนี่! กูขอพูดครั้งสุดท้ายกูหวง กูรักอย่ายุ่ง”

     

                       “งั้นถ้ากูจะพูดว่ากูหวง กูรักมันมั่งล่ะ”

     

                       คนถูกกล่าวถึงสะอึกทันที เร็นพยายามไม่สบตามินฮยอนที่มองข้ามยูซังมาหาเขา ทำไมมึงต้องพูดอะไรแบบนี้วะ ไม่กระดากปากกันมั่งหรือไง

     

                        “กูรำคาญมึงว่ะ พูดไม่รู้เรื่อง แฟนกู จบนะ”

     

                       “กูก็รำคาญมึง ตามตื้ออยู่ได้ ตึกมึงก็อยู่ตั้งฝั่งนู้น มาทำส้นตีนอะไรที่คณะกู”

     

                       สาบานกับกู นี่คือบทสนทนาที่คนเพิ่งเคยรู้จักพูดกัน

     

                       “กูมาหาเร็น ไม่ได้มาหามึง”

     

                       “กูก็ไม่ได้อยากให้มึงมาหาอยู่แล้ว”

     

                       เร็นตัดความรำคาญ เขาเลือกที่จะเดินออกจากห้องน้ำ กางเกงก็ยังเช็ดไม่หมด ช่างหัวแม่งละ ให้มดแม่งกัดให้ตายไปเลย ดีเหมือนกันได้ไม่ต้องมาทนนั่งฟังไอ้สองตัวนี้แม่งกัดกันทุกวัน

     

                      

     

     

     

     

     

    ++++++++++++++++++++++++++

     

     

     

     

                       โอเค ใจเย็นอารอน.. ใจเย็นไว้นะ

     

                       “พี่จะเดินไปถึงไหน”

     

                       ไม่มีใครคุยกับกู ไม่มีใคร

     

                       “ลุงครับ เดินรณรงค์โลกร้อนเหรอ”

     

                       โลกมึงสิร้อน -__-

     

                       “พี่อารอน!! ผมเมื่อยแล้วนะเว้ยเฮ้ย จะเดินให้ถึงขั้วโลกเหนือเลยไง”

     

                       “แล้วใครใช้ให้เดินตามล่ะวะ!!!!!

     

                       อารอนหยุดเดินแล้วหันไปตวาดแว้ดใส่อีเสืออ้วนที่พยายามเดินตามรุ่นพี่มาตั้งแต่เจอกันที่โรงอาหารจนถึงหน้าหอพัก โชคดีที่บ่ายนี้อารอนไม่มีเรียน เขาเลยตัดสินใจกลับหอมานอนดีกว่า เพราะเดี๋ยวเย็นนี้พวกรุ่นพี่ที่เป็นพวกนักศึกษาแลกเปลี่ยนนัดไปกินเลี้ยงที่ร้านเหล้า เขาก็ไม่ได้อยากจะไปนะ ห่า กินกันแต่เหล้า ขอให้แม่งตับแข็ง -__-

     

                       “ตอนบ่ายพี่ไม่มีเรียนเหรอ? หรือโดด?”

     

                       “จะอยากรู้ไปทำไม”

     

                       “จะได้ตามดูแลได้ถูกไงครับ”

     

                       “....”

     

                       เงิบแดกสิครับ ถึงแม้คนพูดจะไม่ได้ตั้งใจพูดแต่ไอ้คนฟังดันเขินแก้มแดงไปแล้ว ก็ยังเก๊กไว้ ร่างบางหันไปถลังตาใส่แล้ววิ่งเข้าลิฟต์ แต่คนอย่างแบคโฮมีเหรอจะตามไม่ทัน ช่วงจังหวะที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิดแบคโฮแทรกตัวเข้าไปด้ทัน ทำให้ประตูลิฟต์เปิดอ้าออกอีกครั้ง มือใหญ่เอื้อมไปกดปิด และลิฟต์ก็ค่อยๆ เลื่อนขึ้นสู่ชั้นดาวดึงส์ ...เอ่อ ไม่ใช่

     

                       “ตามมาทำไม”

     

                       “กินข้าวยังครับ”

     

                       เฮ้ย ฟังกูก่อน -_-

     

                       “แบคโฮ!!

     

                       “เสียงดังแบบนี้คงจะกินแล้ว เย็นนี้ไปหาขนมกินข้างนอกกันไหม ผมเคยไปกินอยู่ร้านนึง อร่อยดี”

     

                       “ไม่ล่ะ เย็นนี้มีนัด”

     

                       “นัด? กับใคร? ที่ไหน? เมื่อไหร่? ทำไม?”

     

                       “ไม่จำเป็นต้องรู้”

     

                       “จำเป็น”

     

                       แบคโฮไล่ต้อนคนตัวเล็กกว่าให้จนมุม อารอนถอยตัวหนีทันทีที่แบคโฮเยื้องขาเข้ามาใกล้ ดวงตาหวานเบิกตาโตด้วยความตกใจที่จู่ๆ ร่างสูงก็ดันไหล่เขาให้ชิดกับผนังลิฟท์ ใบหน้าหล่อๆ นั่นเลื่อนเข้ามาใกล้จนเกินความจำเป็น

     

                       “ถอย.. ถอยออกไป”

     

                       “มีนัดกับใครครับ”

     

                       “ร.. รุ่นพี่” อารอนจำใจต้องตอบเพราะแบคโฮเลื่อนหน้าเข้ามาจนปากแทบจะชิดกับเขาอยู่แล้ว รู้สึกถึงลมหายใจจนแลกออกซิเจนกันใช้แล้ว TT

     

                       “ทำไมผมไม่เห็นรู้”

     

                       “จะไปรู้ได้ไงล่ะเขาเลี้ยงกันแค่กลุ่มนักเรียนแลกเปลี่ยน พี่ยูชอนบอกเมื่อวาน”

     

                       “ที่ไหน”

     

                       “ไม่ต้องรู้.. อื้อ!!” ริมฝีปากของคนตัวสูงกว่าฉกชิงความหวานทันทีที่คนตรงหน้าปฏิเสธที่จะบอกเขา อารอนดันไหล่แบคโฮ แต่ดูเหมือนแบคโฮจะไม่หยุดง่ายๆ เมื่อริมฝีปากหยักเริ่มกดจูบหนักๆ ลงไป คนตัวเล็กเลยยิ่งต้องใช้แรงทั้งหมดดันหน้าของอีกคนออกไป

     

                       ใบหน้าบูดบึ้งเมื่อครู่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อยิ่งทวีความน่ารักมากขึ้นไปอีก มันยากเกินไปจริงๆ ที่แบคโฮจะอดใจไหว

     

                       “ย๊า!!!!!

     

                       “ผมถามดีๆ ก็ไม่ยอมตอบ ตกลงว่าไปที่ไหนครับ”

     

                       “ร้านเมา Deep

     

                       “ร้านเหล้า?”

     

                       “เออ”

     

                       “พูดเพราะๆ”

     

                       “อะไรอีกวะ...”

     

                       โอเค ยิ่งคนตัวเล็กดื้อด้านมากเท่าไหร่แบคโฮก็ยิ่งอยากจะปราบพยศให้ได้ เขารวบข้อมืออารอนมาจับไว้แล้วใช้มือข้างที่ว่างประครองใบหน้าหวานเอาไว้ให้รับรสจูบ ในเมื่อมือก็ถูกเกาะกุม เรี่ยวแรงที่น้อยกว่าแบคโฮมากอารอนก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากดิ้นพร่าน และสักพักแรงก็ค่อยๆ หายไปเพราะรสจูบ ร่างสูงกดจูบลงไปที่ริมฝีปากบาง สัมผัสที่ทำให้หัวใจของคนทั้งคู่เต้นรัว

     

                       คุ้นเคย.. ใช่ แบคโฮคุ้นเคยกับร่างบางนี้มาก ไม่ว่าจะมือ แขน เอวบาง ใบหน้าหวาน หรือแม้แต่ริมฝีปากหยักได้รูปก็ช่างทำให้แบคโฮมั่นใจว่านี่คืออารอน คนที่เขารู้จัก ความมั่นใจยิ่งมากขึ้น ยิ่งทำให้แบคโฮอยากจะสัมผัสคนตัวเล็กให้มากกว่านี้ เพราะคิดถึง.. คิดถึงมาก

     

                       ริมฝีปากหยักยังคงกดจูบอย่างหนักหน่วงเพราะความคิดถึง โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าคนตัวเล็กกำลังจะขาดอากาศหายใจ ถ้าอารอนไม่เข่าทรุดลงไป โชคดีที่มือของแบคโฮโอบรัดรอบเอวบางเอาไว้ไม่ให้ทรุดลงไปนั่งกับพื้น ร่างสูงผละออกมา ปล่อยให้คนตัวเล็กได้เป็นอิสระ เขารีบกอบโกยเอาอากาศที่ขาดหายไปเกือบสามนาทีเข้าปอดให้เต็มที่ ใบหน้าหวานแดงจัดจนลามไปถึงใบหู แบคโฮมองคนตรงหน้าด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม

     

                       “มองอะไรเล่า!!

     

                       แล้วเดี๋ยวนะ ทำไมลิฟต์มันยังขึ้นไม่ถึงชั้นกูอีกวะ นานแล้วนะ

     

                       คนตัวเล็กชะเง้อไปมองลิฟต์ ที่กดขึ้นไปถึงชั้น 20 ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้นะว่าฝีมือใคร และตอนนี้ลิฟต์กำลังจะถึงชั้น 20  อารอนมองตาขวางใส่แบคโฮที่ยังยืนยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่

     

                       “ถอยออกไปเลย!

     

                       “เขินเหรอครับ”

     

                       “คังแบคโฮ!!

     

                       “เย็นนี้ไม่ต้องดื่มหนักนะครับ”

     

                       “....”

     

                       “..ผมเป็นห่วง”



















     

    ........................................

    Talking*


    ทุกคนคงคิดว่าไรท์เตอร์ตายไปแล้ว? 555555
    เค้ากลับมาแย้วววว
    ช่วงนี้ยุ่งจริๆง ค่ะ งานคณะ งานสาขา งานส่วนตัว เยอะแยะไปหมด
    หนูมาอัพเรื่องหลักให้แล้วเน้ออ
    แค่ชื่อตอนก็..นะ 555 5

    ส่วน SF แบคเร็น รอเดี๋ยว อีก 40% จะตามมาเร็วๆ นี้

    อ่านแล้วเม้นเป็นกำลังใจให้เค้าด้วยนะตัว ไม่เม้นก็กดโหวต หรือกดเฟบก็ได้นะ ♥
    ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ♥
    ปย๊ง~ ♥






    ♥.


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×