คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : [ Special Fiction | BEAKHO - REN | :: Sandy ] 100%
Sandy
[SF : Beakho * Ren]
100%
“ถ้ายังทำงานชุ่ยอยู่แบบนี้ก็อย่าหวังเลย ว่าจะได้ไปเที่ยวปีใหม่กับเร็นน่ะ”
ผู้จัดการสาขา.. คิมจงฮยอน เดินอาดๆ มายังโต๊ะทำงานของแบคโฮ ก่อนจะโยนแฟ้มลงไปตรงหน้า เพราะความสนิทสนมกันเขาจึงกล้าเล่นแรงๆ แบบนี้ใส่คนกัน แต่ถ้าคนนอกมาเห็นคงกำลังคิดว่า ผู้จัดการคนนี้ขี้เหวี่ยงใช่เล่น
“คร้าบบบบ ตรงไหนที่ผมทำงานชุ่ยล่ะครับคุณคิมจงฮยอน”
“นี่ไง ผลสรุปยอดขายปลายปี มันคือสองพันล้านวอน ไม่ใช่ สองพันวอน! นายนี่มันจริงๆ เลย แก้ด้วยล่ะ เดี๋ยวจะมาดูใหม่”
“ครับผม”
“คุณคิมจงฮยอนคะ ท่านรองประธานเรียกให้ไปพบที่ห้องค่ะ”
“อีกแล้วเหรอ วุ่นวายจริงๆ บอกเขาว่าผมจะไปเดี๋ยวนี้” หลังจากที่ได้รับคำสั่งผู้จัดการร่างบางก็รีบเดินขึ้นลิฟท์เพื่อไปพบรองประธานบริษัท ฮวังมินฮยอน ส่วนแบคโฮก็เปิดคอมพิวเตอร์ตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะแก้ไขงานที่ตัวเองดันเผลอพิมพ์ผิด ขณะที่กำลังพิมพ์สมาร์ทโฟนเครื่องบางก็สั่นอยู่ข้างๆ เขาละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์เพื่อกดรับสาย
‘เร็น’
แค่ชื่อเจ้าของเบอร์ที่ปรากฏหน้าจอ ใบหน้าคมก็ถูกแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มจางๆ เร็น คนรักของแบคโฮนั่นเอง
“ว่าไง หื้ม?”
“แบคโฮ~ หิวข้าวแล้วนะ” เสียงอิดออดของเจ้าคนตัวเล็กลอดผ่านสายมา บ่งบอกให้รู้ว่าหิวจริงๆ
“ครับ~ ขอทำงานอีกแป๊บนึงนะ เร็นลงไปสั่งอาหารก่อนเลย เดี๋ยวผมตามไป”
“ตลอดเลย เดี๋ยวฉันขึ้นไปหานายดีกว่า กินข้าวกล่องก็ได้”
“เอางั้นเหรอ”
“อื้ม รออยู่ที่โต๊ะนะ เดี๋ยวซื้อข้าวขึ้นไปให้”
“ครับ รีบมาล่ะ คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว~”
“ไอ้เสืออ้วน!”
คนสวยว่าแค่นั้นก่อนจะรีบตัดสายด้วยความเขิน แบคโฮยิ้มให้กับโทรศัพท์และวางมันไว้ที่เดิม รุ่นพี่อย่างกวั๊กอารอนที่นั่งอยู่โต๊ะตรงข้ามอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซว
“โอ้ยย จะอ้วก อิจฉาคนมีคู่เว้ย”
“ฮ่าๆ เอาน่าฮยอง ปีใหม่นี้ก็ออกเที่ยวเปิดหูเปิดตา เผื่อจะเจอคนที่ใช่”
“เฮอะ ไม่เอาหรอก อยู่คนเดียวแบบนี้สบายกว่าเยอะ”
“แล้วจะอิจฉาผมทำไม”
“แซวขำๆ น่า.. แล้วปีใหม่นี้คิดว่าจะไปไหนล่ะ”
“ว่าจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ แล้วก็...” แบคโฮหยุดพูดแล้วยกยิ้มออกมาน้อยๆ เขาปลดล็อคหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะปรากฏรูปหญิงสาวคนหนึ่งกับรอยยิ้มสดใสกำลังกอดสุนัขสีขาวตัวใหญ่บนหน้าจอมือถือ คิดแล้วก็คิดถึง.. แซนดี้
“แบคโฮ.. แบคโฮ..” เร็นวางกล่องข้าวในมือไว้ข้างๆ โต๊ะ ร่างบางสะกิดเรียกคนรักที่กำลังจ้องมองโทรศัพท์ไม่วางตา เรียกเท่าไหร่ก็ไม่หัน เขาเลยอ้อมไปด้านหลังแล้วมองจอโทรศัพท์ของแบคโฮมั่ง
รูปผู้หญิงนี่!
“ไอ้เสืออ้วน!!”
“อ้าว เร็น มาเมื่อไหร่”
“มานานแล้ว นานพอที่จะเห็นว่านายกำลังดูรูปผู้หญิงคนอื่นอยู่!”
“งานเข้าแล้วมึงแบคโฮ.. อย่าตีกันนะ พี่ไปกินข้าวก่อนล่ะ” อารอนเห็นว่าท่าไม่ดีเลยชิ่งหนีลงไปกินข้าวพร้อมกับรุ่นน้องที่เดินผ่านมาพอดิบพอดี
“เปล่านะ ไม่ได้ดูรูปผู้หญิง..”
“ยังจะเถียงอีก! ไม่ต้องกินแล้วมั้งข้าวเนี่ย คงอิ่มอกอิ่มใจ”
“กินสิกิน ไม่เอาน่า อย่างอนเลยนะ” แบคโฮคว้าเอวคนตัวเล็กเข้ามากอด และดึงลงมานั่งบนตัก เขาใช้คางเกยไหล่เร็นเอาไว้
“ไม่ได้งอน!”
“แบบนี้เรียกว่างอน เอาล่ะ มากินข้าวกัน”
“ไม่กินแล้ว!! ปล่อยเลย จะไปกินกับพี่อารอน”
“ไม่เอา ไม่ให้ไป มามะ...”
แบคโอยังพูดไม่ทันจบการสั่นสะเทือนของมือถือก็ดังขึ้นอีกระรอก แบคโฮรีบกดรับทันที เมื่อปลายสายปรากฏชื่อ
‘แม่’
“ครับแม่ มีอะไรฮะ?”
“แบคโฮ.. เขา..จากเราไปแล้ว”
“แม่.. พูดถึงอะไรอยู่?”
“แบคโฮ.. แซนดี้ เขาจากเราไปแล้วจริงๆ อึก..” น้ำเสียงสั่นเครือของคนเป็นแม่กระชากอารมณ์ของคนปลายสายได้ไม่ยาก มือหนาสั่นเพราะความตกใจ ดวงตาเรียวคมเริ่มรื้นไปด้วยหยดน้ำตา
การจากไปของคนที่ตัวเองรักมันไม่ใช่เรื่องดีที่เลย.. แต่มันคือสัจธรรมของโลก มีเกิด.. เป็นอยู่.. แล้วจึงดับสลายไป
“ซ..แซนดี้”
“ทำใจดีๆ นะลูก พ่อกับแม่จะทำพิธี และฝังร่างของแซนดี้ไว้ในสุสานที่โบถส์ ถ้าลูกจะกลับ..”
“ผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้!” แบคโฮตัดสายทิ้ง แล้วรีบเก็บข้าวของใส่กระเป๋าทันที ร่างบางที่ยืนอยู่ข้างๆ กำลังมองการกระทำของคนรักด้วยความสงสัย ทำไมถึงได้รีบร้อนขนาดนั้น
“แบคโฮ จะรีบไปไหน”
“แซนดี้.. ผมต้องกลับบ้านด่วน ขอโทษทีนะเร็น เดี๋ยวผมโทรหา ฝากลาจงฮยอนด้วย” พูดแค่นั้นก่อนจะรีบวิ่งเข้าลิฟท์ไป พอดีกับที่สวนทางกับคิมจงฮยอนที่เพิ่งลงมาจากห้องของมินฮยอน
“รายงาน..”
“คุณจงฮยอน ผมขอลาล่วงหน้า แล้วผมจะเขียนจดหมายลาตามมาทีหลังนะครับ”
“อ้าว เฮ้ย ฉันจะพูดไม่จบเลย! เร็น.. แบคโฮมันรีบไปไหนของมัน” จงฮยอนเดินมาถามเร็นที่นั่งทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ของแบคโฮ
“ไม่รู้ครับ แม่เขาโทรมา แล้วก็รีบไปเลย สงสัยจะเกิดเรื่องที่บ้าน”
“หวังว่าคงไม่มีใครเป็นอะไรหรอกนะ”
“ผมก็หวังแบบนั้น”
เร็นมองไปตามทางที่แบคโฮเดินไป ทำไมต้องรีบขนาดนั้น.. แล้วแววตาที่อ่อนแอแบบนั้นคืออะไร เร็นคบกับแบคโฮมาจะปีนึงแล้ว ร่างสูงยังไม่เคยแสดงด้านอ่อนแอออกมาให้เห็น
แซนดี้.. คือใคร?
ผู้หญิงในโทรศัพท์?
ใช่แน่ๆ
ร่างบางพาลนึกไปถึงสาวสวยใบหน้าหวานในโทรศัพท์ของแบคโฮ.. ถ้าผู้หญิงคนนั้นมีความหมายกับแบคโฮมากขนาดนั้น แล้วที่กำลังคบอยู่กับเขาอยู่ตอนนี้คืออะไร ?
N U ‘ E S T
เป็นเวลาช่วงหัวค่ำพอดีที่แบคโฮเดินทางกลับเชจูบ้านเกิดของตัวเองด้วยรถไฟฟ้าแรงสูง สมองคิดถึงแต่เรื่องของคนที่จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา
แซนดี้.. จะทิ้งกันไปง่ายๆ แบบนี้เหรอ?
เรี่ยวแรงที่เคยมีพลันหายไปทันตา พอเห็นว่าทุกคนในครอบครัวกำลังล้อมรอบหลุมศพด้วยความสงบนิ่ง ไม่มีใครคิดจะปริปากพูดเลยสักคน แม่ของแบคโฮเองก็เอาแต่งเกลี่ยกลีบดอกไม้ที่โปรยไว้รอบหลุมศพอย่าทะนุถนอม กลัวว่าถ้าหากโปรยแรงกลีบดอกไม้จะกระทบถึงร่างที่หลับใหลอยู่ใต้ผืนดิน..
“ซ..แซนดี้..”
ร่างสูงปริปากพูดได้เพียงเท่านั้น สองขาก็รีบวิ่งเข้าไปยังหลุมศพ ก่อนจะทรุดตัวลง น้ำตาลูกผู้ชายที่ไม่เคยไหลออกมาให้ใครเห็นนานกว่า 10 ปี เริ่มเอ่อล้น..
“แม่.. ทำไมแซนดี้เป็นแบบนี้..”
“รถชน.. แม่ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงร้อง.. เขาจากเราไปก่อนที่เราจะพาเขาส่งโรงพยาบาลได้ทัน..”
“แซนดี้.. ตื่น! แซนดี้!! เธอไม่รักฉันแล้วเหรอ? เธอทิ้งฉันไปแบบนี้ได้ไง เราสัญญากันแล้วนี่ว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน.. ทำไม.. ฮึก ตื่น..สิ..”
“แบคโฮ... แซนดี้เขาจากเราไปแล้ว นายต้องยอมรับให้ได้นะ”
“พี่ยูอี! ผมอุตส่าไว้ใจให้พี่ดูแลแซนดี้ตอนที่ผมไม่อยู่แท้ๆ ทำไมยังปล่อยให้เขาเป็นแบบนี้อีกล่ะครับ!!”
“พี่ขอโทษ.. พี่ก็เสียใจไม่แพ้นายหรอก ฉันแค่หันหลังไปคุยกับพี่กาฮีแค่แป๊บเดียว ไอ้รถบ้านั่นมันก็พุ่งมาชนแซนดี้แล้ว..”
ยูอีลูบหลังคนเป็นน้องเบาๆ เพื่อปลอบปะโลมให้อีกคนใจเย็นๆ ทำไมเธอจะไม่รู้ล่ะ ว่าแซนดี้มีความหายกับน้องชายเขามากแค่ไหน... 10 กว่าปีที่แซนดี้อยู่กับแบคโฮตลอดเวลา ถึงแม้ว่าน้องชายของเธอจะต้องไปทำงานที่โซล แต่ทุกครั้งแซนดี้ก็ยังรอแบคโฮกลับบ้าน..
“นูน่า.. ผมอยากกอดแซนดี้อีกครั้งจังเลย”
.........
...
..
..
.
ร่างบางที่นอนกลิ้งเกลือกอยู่บนเตียงพยายามโทรหาคนรักอยู่หลายรอบ แต่ดูเหมือนจะไร้สัญญานการตอบรับ เร็นเปลี่ยนอิริยาบถไปนั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่นเผื่ออารมณ์จะดีขึ้น แต่ก็เปล่าเลย..
..คิดถึงแต่แบคโฮ
ผ่านไปอาทิตย์กว่าแล้วที่แบคโฮลางาน เขากลัวว่าถ้าแบคโอยังไม่กลับมาทำงานอาจจะโนไล่ออกก็ได้ ถึงแม้ว่าประธานบริษัทจะเป็นคนสนิทกันก็เถอะ..
เร็นพยายามต่อสายหาแบคโฮอีกครั้ง.. ก็เป็นเหมือนเดิม ที่ยังคงไร้การตอบรับ .. ร่างบางเลยตัดสินใจต่อสายหาอารอนแทน ไม่นานรุ่นพี่ก็รับสาย พร้อมกับเสียงดนตรีกระหึ่มดังรอบตัว
“โย่เร็นนน~!!”
“พี่อารอน พี่พอจะมีที่อยู่ของแบคโฮไหมครับ?”
“อะไรนะ!! พูดดังๆ สิ!!”
“พี่มีที่อยู่ของแบคโฮไหมมมม!!!!”
“ฮะ? อยากกินสายไหม? ออกไปซื้อดิ”
สายไหมบ้านป้ามึงดิ พี่อารอน -__-
“ไม่ใช่สายไหม ผมอยากรู้ที่อยู่ของแบคโฮที่เชจู”
“ชอบปิ๊กกาจู? อะไรของแกวะไอ้เร็น ตลกป่ะเนี่ย พี่ไม่มีเวลาว่างมาเล่นกับแกนะเว้ย”
“พี่อารอน!! มึงฟังกูนะครับ..”
“กางเกงคับ.. ก็เอาไปแก้ดิ”
“ไอ้เชี่ยพี่อารอนนนนน!!!”
“เร็นมึงด่าพี่เหรอ!!!!”
เอ้า.. ทีงี้เสือกได้ยิน -__-
“พี่อารอนผมไม่ตลกนะเว้ย แบคโอหายไปหลายวันแล้ว ผมจะไปตามเขาที่เชจู”
“เออรู้แล้วน่า ว่าอยากกินโซจู เดี๋ยวพรุ่งนี้เลิกงานพี่เลี้ยงแกเอง”
“ไม่ใช่.. เอ้า!! เฮ้ย พี่อารอน!!” เร็นแทบอยากจะกลืนโทรศัพท์ลงไปทันทีที่อารอนกวนตีนจบก็วางสายไป ชเวเร็นจะบ้าตายมีเพื่อนร่วมงานแต่ละคน จะโทรไปหาจงฮยอนมันก็จะเกินไป...
เร็นวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะ หยิบขวดนมที่แช่อยู่ในตู้เย็นออกมาดื่ม สักพักเสียงข้อความก็ดังขึ้น เร็นเลยรีบถลาเข้าไป เผื่อจะเป็นข้อความของแบคโฮ..
“พี่อารอน”
‘521 Saekdal-dong, JUNGMUN
JEJU-DO, SOUTH KOREA’
ขอบคุณนะพี่อารอน
เช้าวันรุ่งขึ้นเร็นเลยตัดสินใจมายังเกาะเชจูทันที ลองโทรหาแบคโฮอีกรอบ ผลสุดท้ายก็ยังเหมือนเดิมที่แบคโฮไม่ยอมรับสายเลย เร็นยืนจดๆ จ้องๆ อยู่หน้าประตูบ้านหลังหนึ่ง ตัวบ้านสีขาวใหญ่โต กับสนามหญ้าเล็กๆ หน้าบ้าน เขาลองเทียบบ้านเลขที่ที่อารอนให้มากับป้ายบ้านเลขที่ที่ติดอยู่หน้าบ้านหลังนี้ มันตรงกันเป๊ะๆ เร็นเลยตัดสินใจที่จะกดกริ่ง รอสักพักก็มีหญิงสาวรูปร่างสูงเพรียวเดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม.. รอยยิ้มที่เร็นเคยเห็นมันมาก่อน แต่ยังนึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน
“มาหาใครคะ?”
“คือ.. ผมมาหา..”
“พี่ยูอี.. ทำต๊อกโบกีแบบเผ็ดๆ ให้ผมกินหน่อย..” แบคโฮกอดเอวพี่สาวอย่างขี้อ้อนเป็นประจำทุกครั้งที่ได้อยู่บ้าน แต่ครั้งนี้แบคโฮไม่เห็นอีกคนที่ยืนอยู่หลังบานประตู เร็นดูตกใจที่เห็นแบคโฮกำลังกอดผู้หญิงสวยคนนี้..
เร็นพยายามมองหน้ายูอีจนนึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้คือผู้หญิงคนเดียวกับในโทรศัพท์แบคโฮ!! แบบนี้สินะ.. เพราะแบบนี้ใช่ไหมที่ทำให้แบคโฮของเขาหายหน้าหายตาไปหลายสัปดาห์
“ผมคงมาผิดบ้าน..”
แบคโฮปล่อยพี่สาวแล้วโผล่หน้ามาดู พอเห็นว่าเป็นเร็นเขาแทบจะกระโดดตะครุบ แล้วดูสีหน้าเร็นดิ.. ทำไมมองเขาแบบนั้น
“เร็น!!”
เจ้าของชื่อก้าวเท้ายาวๆ ออกไปให้พ้นบริเวณบ้านหลังนี้ พอกันที! ความสัมพันธ์ของเขาคงต้องจบลงแค่นี้!!
“จะรีบเดินไปไหน”
เร็นหยุดชะงักแล้วหันหลังกลับไปถลึงตาใส่ไอ้เสืออืดที่เดินตามมา แบคโฮเห็นว่าเร็นหยุดเลยรีบเดินเข้าไปหา เผื่อจะคิดหนีอีกจะได้จับได้ทัน
“ตามมาทำไม?”
“ผมสิต้องถามว่าเร็นตามผมมาถึงที่นี่ทำไม?”
“อ๋อ. ตามมาไม่ได้ใช่ไหมล่ะ นายคงไม่อยากให้ฉันเห็นว่านายมีผู้หญิงคนอื่น!”
“ผู้หญิงคนอื่น?”
“ไม่ต้องมาตีหน้าซื่อ!! ผู้หญิงคนนั้นคือแซนดี้ของนายใช่ไหม!! ที่นายรีบกลับมาบ้านแล้วทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียวเพราะผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม!”
“ไม่ใช่..”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น!! ฉันไม่อยากฟังแล้ว เราจบกันแค่นี้แล้วกันนะคังแบคโฮ!!”
เร็นสะบัดหน้าเดินไปอีกทางแบคโฮเลยรีบเข้าคว้าเอวเล็กเข้ามากอดเอาไว้แน่น คนถูกกอดก็พยายามจะดิ้น ทั้งดิ้นทั้งทุบแบคโฮก็ยิ่งกอดแน่นขึ้น
“อยู่เฉยๆ สิครับ”
“ไอ้คนนิสัยไม่ดี! ..ไอ้คนกะล่อน.. ไอ้บ้า!!”
“อยู่นิ่งๆ แล้วฟังผมพูด”
แบคโฮเกยคางไว้บนไหล่เล็ก
“ผู้หญิงคนนั้นคือพี่ยูอี.. พี่สาวของผมเอง”
“...”
“พี่สาวแท้ๆ เลยนะ ถ้าไม่เชื่อจะดูสูติบัตรก็ได้”
“ละ.. แล้วแซนดี้ของนายล่ะ”
“เร็นนี่น่ารักจัง.. มากับผมสิครับ” แบคโฮจูงมืออีกคนให้เดินกลับเข้ามาในบ้าน ก่อนที่เขาจะพาเดินไปยังหลุมฝังศพของแซนดี้ ร่างสูงยิ้มน้อยๆ ให้กับร่างที่นอนอยู่ใต้ดิน เขาย่อตัวนั่งลงข้างๆ หลุม สองมือลูบที่ผิวดินเบาๆ
แววตารักใคร่แบบเดียวกับแบคโอใช้มองเร็น..
แซนดี้ของนายคงมีความหมายมากจริงๆ สินะ
“แซนดี้ครับ.. หลับสบายไหม?”
“นายคงรักแซนดี้มากสินะ”
“ใช่.. ผมเจอแซนดี้ก่อนที่จะมาเจอเร็นอีก”
จะพูดให้คนตัวเล็กรู้สึกแย่อีกนานไหม? คังแบคโฮ
“งั้นแซนดี้คงสำคัญมากกว่าฉัน.. แบคโฮ ถ้านายมีคนอื่นทำไมไม่บอกล่ะ... อื้อ!” ร่างสูงกดจูบปิดปากคนรักก่อนที่เร็นจะคิดเตลิดเปิดเปิงไปไกลมากกว่านี้ ริมฝีปากกดจูบหนักๆ แต่กลับแฝงไปด้วยความนุ่มนวล มือใหญ่ดึงเอวอีกคนเข้ามาใกล้เพื่อจะจูบได้ถนัด.. ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนเร็นก็ยังน่ารักในสายตาแบคโฮตลอดเวลา
แบคโอผละออกเมื่ออีกคนทุบอกกว้างเบาๆ บอกให้รู้ว่าเขากำลังจะขาดอากาศหายใจ เขาเลยย่อตัวลงไปนั่งที่พื้นข้างๆ หลุมอีกครั้ง โดยไม่ลืมที่จะดึงร่างของอีกคนลงมานั่งบนตัก สองแขนแกร่งโอบรอบเอวคนรักเอาไว้หลวมๆ
“แซนดี้.. เธอชอบผู้ชายคนนี้ไหม?.. ฮะ? เขาน่ารักมาก นายไม่ต้องกังวลหรอกนะ อะไรนะ? อยากกินต๊อกโบกีเหรอ ได้ๆ พี่ยูอีกำลังทำให้อยู่”
“แบคโฮ ฉันงงไปหมดแล้ว”
“หอมแก้มผมก่อน เดี๋ยวจะทำให้หายงงเลย” แบคโฮพองลมที่แก้มก่อนจะยื่นไปตรงหน้าคนตัวเล็ก เร็นเลยฟาดแขนเข้าให้
“มันใช่เวลาเล่นไหม? ตกลงว่าแซนดี้?”
“แซนดี้ก็คือแซนดี้ไงครับ” แบคโฮล้วงโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเปิดหน้าจอให้เร็นดู พร้อมกับชี้ไปที่เจ้าหมาน้อยตัวโตขนฟูที่แลบลิ้นออกมาเหมือนกับกำลังยิ้มให้กล้องอยู่ เร็นนิ่วหน้าด้วยความงง
สรุปว่าแซนดี้คือ.. หมา ?
“แซนดี้คือเจ้าหมาตัวนี้?”
“ครับผม~”
“บ้าชะมัด ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ล่ะ!!”
“ผมจะบอกก็ไม่ยอมฟัง เอาแต่ทุบอยู่ได้ ระบมหมดแล้วเนี่ย”
“ขอโทษ..”
“คำขอโทษไม่ได้ช่วยให้หายเจ็บหรอกนะ”
“แล้วต้องทำไงล่ะ ไปโรงพยาบาลไหม?”
“แค่นี้ก็พอครับ” แบคโฮฉวยโอกาสตอนที่คนบนตักกำลังเผลอฟัดแก้มนุ่มเข้าไปทีนึง..
“นี่!!”
“555555 นิดหน่อยน่า”
“ชิ!!”
“เร็น”
“หื้ม?”
“รู้จักผู้ชายที่ชื่อคังแบคโฮป่ะ?”
“ก็นายนี่ไง ประสาทหรือเปล่าเนี่ย”
“สรุปว่ารู้จัก”
“ไม่รู้จัก”
“อ้าว รู้จักหน่อยสิ”
“รู้จักก็ได้ ทำไมล่ะ”
“เขาฝากมาบอกว่า..”
“..”
“รักเร็นมากเลยครับ”
......................................
Talking*
SF มันโผล่มาอีกแล้ววว 5555
คู่แบคเร็น หวานๆ กันไปตามประสา
แต่งแล้วเลี่ยนเบาๆ ค่ะ
หยุดปีใหม่ไรท์เตอร์เที่ยวตะลอยอย่างเดียวเลย
ไม่ได้เปิดคอมเลย ขอโทษด้วยนะคะ
ยังไงก็เอา SF ไปอ่านแก้ขัดก่อนเนอะ
แค่ 50% เดี๋ยวจะมาแต่งให้ครบ 100% นะคะ ^^
เรื่องหลักไรท์เตอร์จะมาแต่งตอนในภายหลัง เร็วๆ นี้
อย่าเพิ่งทิ้งกันนะคะ
รักจังเลย ♥
ปย๊ง~ ♥
♥
ความคิดเห็น