ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( n u ' e s t ) My Friend | คนนี้กูขอ | MINREN [ จบ ]

    ลำดับตอนที่ #14 : :: CH. 13 ปุอิ๊ง ปุอิ๊ง ♥ ::

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 55


    13

     

                       ร่างบางลุกขึ้นมาจากเตียงในตอนเช้า แล้วบิดขี้เกียจไปมาก่อนจะเดินออกมาจากห้องเพื่อหาน้ำดื่ม ที่ตู้เย็นมีโพสอิสแปะเอาไว้ พร้อมกับโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งวางเอาไว้บนโต๊ะกินข้าว

     

                       เห็นหลับมึงอยู่ก็เลยไม่อยากปลุก
            วันนี้ไม่ต้องไปมหาลัยหรอก นอนพักซะ เดี๋ยวกูบอกพี่ยุนโฮเอง

                    โทรศัพท์เครื่องนั้นของกูเอง มันเป็นเครื่องเก่าที่ไม่ได้ใช้

                    มึงเอาไว้ใช้ มีอะไรก็โทรมา แต่อย่าโทรหาคนอื่นล่ะ!

                    โทรหาได้แค่กูเท่านั้น เข้าใจไหม !?  

     

                       เร็นหยิบโทรศัพท์เครื่องนั้นขึ้นมาดู แล้วลองกดเข้าไปดูรายชื่อเผื่อจะมีเบอร์เดิมๆ ของแฟนเก่าเก็บไว้มั่ง  แต่พอกดเข้ามาปุ๊บ.. เออ ไม่มีเบอร์ใครเลย นอกจาก..

     

                       “สามี..?”

     

                       เฮ้ย อะไร ใครวะ มินฮยอนตกลงมึงยังไงอะ แอบไปมีสามีหรอ? แล้วกูล่ะ?? เฮ้ยยยย กูไม่ได้เป็นเมียมึงนี่กูจะหึงทำไม แต่ยังไงก็ลองโทรไปหน่อยดีกว่านะ

     

                       เร็นลองโทรหาไปยังเบอร์ที่ขึ้นว่า สามี ไม่นานปลายสายก็รับ

                      

                       “ว่าไงครับบบ?”

     

                       เฮ้ยย รับด้วยอะ TT

     

                       “เอ่อ..”

     

                       “มินกิ! มึงเป็นอะไร”

     

                       เอ้า! รู้จักชื่อกูด้วย ...ทำไมเสียงคุ้นจังวะ เหมือนเสียงมินฮยอนเลยอะ TT

     

                       “มึงเองเหรอ มินฮยอน”

     

                       “ก็กูน่ะสิ กินข้าวหรือยังล่ะ เดี๋ยวซื้อไปให้”

     

                       “ยัง ไม่ต้องๆ เดี๋ยวหากินเอง”

     

                       “โอเค ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ ไม่ต้องมาที่คณะนะรู้ไหม คนเยอะมาก เดี๋ยวจะมาเกะกะซะเปล่า”

     

                       ทำไมกูดูไร้ค่าจัง เดี๋ยวก็เอาเฝือกฟาดปากแหกเลยนี่

     

                       “เออ รู้แล้วน่า...”

     

                       “สวัสดีครับ เชิญด้านในก่อนนะครับ...”

     

                       มินฮยอนทักทายเด็กๆ มัธยมที่มาเยี่ยมชมซุ้มของพวกเขาจนลืมไปว่ากำลังคุยกับเร็นอยู่ ไอ้คนตัวเล็กนี่ก็ดูท่าจะหงุดหงิดไปซะแล้ว เพราะถูกเมินแบบนี้

     

                       “งั้นแค่นี้..”

     

                       “น้องลองดูรอบๆ ก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่ตามไป...”

     

                       ไม่สนใจกูเลย!!!

     

                       “แค่นี้นะ!!!” เร็นกดตัดสายแล้ววางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม เขาหันไปค้อนให้มันทีนึง ไม่หรอก ค้อนให้เจ้าของมันมากกว่า สนใจคนอื่นมากกว่ากู นิสัยไม่ดี!                        

     

     

     

     

     

     

     

                      

     

     

     

                       มืดละ.. เร็นก็นั่งๆ นอนๆ อยู่หน้าทีวีไม่ได้ไปไหน กินข้าวเสร็จก็ดูทีวี อ่านหนังสือ ฟังเพลง เล่นคอม... เฮ้ออ น่าเบื่อจริงๆ เลย ถ้าออกไปที่คณะน่าจะสนุกกว่านี้ ป่านนี้ทุกคนคงกำลังสนุกอยู่แน่ๆ ปีนึงมีครั้งนึง.. แต่ทำไมเร็นต้องมาพลาดแบบนี้ด้วย

     

                       ออกไปดีกว่า ได้ข่าวว่าตอนเย็นมีคอนเสิร์ตด้วยนี่ ได้ไปนั่งดูไม่ได้กระโดดโลดเต้นก็ยังดีกว่ามานั่งแง่วอยู่ในห้องคนเดียวแบบนี้ เขารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและก็ค่อยๆ พยุงร่างตัวเองออกไปจากหอพักและไปยังคณะ ขนาดออกมาจากหอพักยังได้ยินเสียงดนตรีมันส์กระจายขนาดนี้เลย

     

                       เร็นมาถึงคณะจนได้ ผู้คนมากมายจากคณะอื่นๆ ก็มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ทั้งเด็กม.ปลายก็มีเต็มไปหมด โอ้ เมื่อกลางวันไม่น่าเลยจริงๆ ไม่น่านอนอยู่เฉยๆ เลย

     

                       “อ้าวเร็น! ไหนมินฮยอนบอกว่า มึงปวดขาไง” แบคโฮเดินมาหาเร็นที่กำลังยืนหลบผู้คนอยู่ใกล้ๆ กับต้นไม้ใหญ่ๆ ข้างๆ ลานเวที

     

                       “ก็ปวด แต่อยู่ห้องแล้วแม่งเหงาชิบหาย เลยออกมาเดินเล่น แล้วนี่มึงกับ.. พี่อารอนเป็นไงมั่งวะ”

     

                       เร็นลองหยั่งเชิงถามดู สีหน้าของแบคโฮพอได้ยินชื่อของอารอนก็ดูจะนิ่งเรียบขึ้นมาทันที

     

                       “ก็..ไม่เป็นอะไรนี่”

     

                        “มึงเล่าให้กูฟังมั่งก็ได้นะเว้ย ไม่ใช่เก็บเอาไว้คนเดียว..”

     

                       “มึงอยากรู้เรื่องก็บอกมาเถอะ”

     

                       “เออ.. นั่นก็ส่วนนึง ฮ่าๆ แต่ยังไงก็เถอะ เล่ามา กูอยากรู้ มึงกับเขาได้ติดต่อกันมั่งไหมหลังจากวันนั้น”

     

                       “ไม่.. เขาหายเงียบไป กูลองโทรไป แต่เบอร์นั้นมันถูกยกเลิกไปแล้ว”

     

                       “แล้วที่เจอาร์มันเคยบอกว่าพี่อารอนมีเพื่อนอยู่ที่คยองกีล่ะ มึงลองไปถามเขาหรือยัง”

     

                       “ยัง.. เออว่ะ กูก็ลืมนึกไปเลย! ไอ้เชี่ยเอ้ย ขอบใจมากมินกิน้อยของกู”

     

                       แบคโฮขยี้หัวเร็นจนผมสีทองที่มัดมาอย่างลวกๆ นั่นยุ่งเหยิงไปหมด  เขาเลยจับแขนแบคโฮเหวี่ยงออกไปก่อนจะจัดทรงผมใหม่

     

                       “เชี่ย หัวกูยุ่งหมดแล้ว”

     

                       “แล้วเฝือกมึงนี่จะผ่าออกได้วันไหนวะ”

     

                       “ไม่รู้หมอแม่งไม่ยอมนัดกูผ่าสักที”

     

                       “ที่เฝือกมึง.. อะไรวะนั่น”

     

                       “อ่อ เพื่อนกูมันเขียน สกปรก..”

     

                       “เพื่อนมึงนี่.. ระวังโดนไอ้มินฮยอนแดกหัวนะ 55555”

     

                       แบคโฮก้มลงมองข้อความที่เฝือกเร็น เขาเลยก้มตามลงไปดู รอยเขียนของยูซังถูกขีดทับด้วยปากกาสีชมพูเข้มจนมองไม่เห็น แล้วก็มีข้อความเขียนเพิ่มลงไปแทน ลายมือนี่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าของใคร..

     

                       รูมเมทกูเองครับ -___-

     

                    มินกิเมียกู อย่ายุ่ง
            อย่าแตะ กูหวง

     

                       ไอ้เชี่ยยย ไอ้สกปรก มึงคิดว่าเฝือกกูเป็นกำแพงหรือไงถึงมาเขียนเล่นกันแบบนี้!! โอ้โห แล้วดูข้อความ อยู่บ้านไม่มีใครสั่งสอนหรือไงวะไอ้เชี่ยมินฮยอนนนน TT  

                         

                       “มินฮยอนอยู่ที่ไหน”

     

                       “อยู่ในหอประชุม กำลังทำงานยุ่งเลย ในนั้นคนเยอะมาก มึงอยู่กับกูนี่แหละ”

     

                       “เหรอ อยากไปดูว่ะ ในนั้นคงมีอะไรสนุกๆ เข้าไปในนั้นกันเหอะ” เร็นลากแขนแบคโฮ แต่ไอ้กล้ามโตกลับยืนอยู่เฉยๆ ไม่ยอมเดินตามเร็น เพิ่งจะนึกออกว่าในหอประชุมนั้นพวกรุ่นพี่เสือกเล่นพิเรนท์กัน พวกนั้นเห็นว่าทั้งมินฮยอน แบคโฮ เจอาร์ ซึงซอล ยุนโฮ และใครอีกหลายๆ คนที่หน้าตาดี มีน้องๆ มัธยมปลายมากรี๊ดกันทั้งนั้น เลยจัดแฟนเซอร์วิสส่งท้ายงานคืนนี้ แต่ที่แบคโฮออกมาเจอเร็นนั้นก็เพราะว่าเขาออกมาหาห้องน้ำ บวกกับหาอะไรให้คู่ของตัวเองกินด้วย

     

                       “อะไรวะ ข้างนอกนี้ร้อนจะตายห่า เข้าไปข้างในเหอะ” 

     

                       “อย่าเลย เชื่อกู อยู่ข้างนอกนี่แหละ ดูคอนเสิร์ตไป นั่น! อาฟเตอร์สคูลเลยนะเว้ย มึงดู..มึงดู ยูอี.. อ้าว ไอ้เวร!” เร็นไม่สนใจคำพูดของแบคโฮ เขาปลีกตัวเดินเข้าไปยังหอประชุมทันที แบคโฮเลยต้องรีบวิ่งตามไป พยายามดึงเร็นกลับแล้วมันก็ไม่กลับ ถ้าปล่อยให้มันเข้าไปแล้วไปเจอกับมินฮยอนที่กำลังออเซาะกับผู้หญิงคนอื่นมีหวัง... บ้านแตก -.-  

     

                       เร็นเดินเข้ามาหอประชุมและมองไปรอบๆ ผู้คนมากมายที่เดินสวนกันไปมา ซุ้มอาหาร การเล่นเกมชิงของรางวัลต่างๆ นานา เต็มหอประชุมไปหมด จนคนสวยเริ่มตาลาย ไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้ แต่สิ่งที่สะดุดสายตาเร็นก็เห็นจะเป็นซุ้มข้างๆ เวที มีคนมารุมล้อมมากมายเหลือเกินจนแทบจะแตกอยู่แล้ว เร็นเลยเดินเข้าไปดูมั่ง แต่ก็ถูกแบคโอห้ามไว้อีกอะ

     

                       “เฮ้ย มึงจะไปไหน ซุ้มนั้นคนเยอะจะตาย ไปหาไรกินกับกูดีกว่า”

     

                       “อะไรของมึงเนี่ย แบคโฮ -__-“

             

                       “เปล่า TT

     

                       “อุปป้า! ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ ฉันรอนานมากเลยนะ”  

     

                       “เอ่อ คือ..” เด็กม.ปลายหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเดินมาเกาะแขนแบคโฮ

     

                       “ฮะ? อะไรเนี่ย มึงลืมพี่อารอนแล้วหรือไง”

     

                       “เปล่าเว้ย.. แต่แบบ.. งาน พวกรุ่นพี่แม่งเล่นห่าอะไรกันก็ไม่รู้”

     

                        “ไปกันเถอะค่ะ คู่ของพี่มินฮยอนกำลังรอเราอยู่นะ”

     

                       “มินฮยอน?” เร็นมองไปยังซุ้มที่คนรุมล้อมอยู่เมื่อครู่ เขาเห็นมินฮยอนกำลังป้อนน้ำ ป้อนขนมให้เด็กม.ปลายที่เครื่องแบบเหมือนกับเด็กคนนี้เด๊ะๆ ความสงสัยเริ่มเข้ามาในหัวเร็น เขาไม่รอช้ารีบสาวเท้าเข้าไปยังซุ้มนั้นทันที

     

                       เร็นลองหยิบเอาโทรศัพท์โทรหามินฮยอน โดยที่ยังหลบอยู่ข้างหลังกลุ่มเด็กผู้หญิง ไม่นานมินฮยอนก็รับสาย

     

                       “ว่าไงเร็น”

     

                       “มึง.. ทำอะไรอยู่”

     

                       “ยังทำงานอยู่ในหอประชุมอยู่เลย คนเยอะมาก เดี๋ยวกูโทรกลับได้ไหม”

     

                       เร็นค่อยๆ แหวกฝูงชนเดินเข้าไปยังหน้าซุ้มจนอยู่ด้านหน้าสุด ทำให้เห็นมินฮยอนได้ชัดเจน ร่างสูงกำลังเช็ดคราบช็อคโกแลตที่เปื้อนตามมุมปากของเด็กผู้หญิงออกให้ มินฮยอนไม่ได้อยากทำหรอกนะ แต่พอหันหลังไปเจอสายตาอำมหิตของพี่รหัสเลยจำใจต้องทำ

     

                       “ยุ่งมากเลยเหรอ”  เร็นถามออกไป พอดีกับที่มินฮยอนเงยหน้าขึ้นมาพอดี ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น ดวงตาเรียวส่งแบบจิกกัดไปให้มินฮยอน ก่อนจะวางสายแล้วเดินหนีออกไปจากซุ้มนั้นทันที

     

                       “ชิบหายแล้วกู..” มินฮยอนรีบวิ่งออกมาจากซุ้มโดยไม่ได้สนใจเสียงเรียกของเด็กผู้หญิงหรือแม้กระทั่งพี่รหัส เขารีบเดินตามเร็นออกมา ดีนะที่ขาเร็นใส่เฝือก เลยยังเดินไปได้ไม่ไกล

     

                       “มินกิ..”

     

                       “...”

     

                       เร็นยังคงเดินต่อไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของมินฮยอน

     

                       “มินกิ!

     

                       “...”

     

                       “หยุดก่อน” เมื่อคนตัวเล็กไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเดิน มินฮยอนเลยเดินไปขวางทางเอาไว้ แล้วลากตัวเร็นออกไปยังด้านข้างหอประชุมที่ไม่มีคนพลุกพล่านมากนัก เร็นขมวดคิ้ว จิ๊ปากอย่างรำคาญก่อนจะพยายามเดินหนีอีกครั้ง แต่มินฮยอนก็จับเร็นให้ชนกับกำแพง และใช้สองแขนคร่อมเอาไว้เพื่อให้คนตัวเล็กนี่คิดหนีไปได้

     

                       “ไม่ไปอยู่กับน้องคนนั้นล่ะ”

     

                       “อยู่กับมึงสนุกกว่าตั้งเยอะ”

     

                       “เหรอ!!

     

                       “มึงอย่างอนน่า มันเป็นงาน พวกรุ่นพี่แม่งเล่นกัน มึงไม่เห็นเหรอ ทั้งเจอาร์ ทั้งแบคโฮ หรือแม้แต่พี่ยุนโฮก็โดนกันทั้งนั้น”

     

                       “กูยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ”

     

                       “มึงไม่ได้พูด แต่ดูหน้ามึงดิ คิ้วเนี่ยจะผูกกันอยู่แล้ว” มินฮยอนใช้นิ้วจิ้มไปที่หว่างคิ้วของคนตัวเล็ก เร็นก็ปัดมันออกทันที

                      

                       “คิ้วกู ไม่ใช่คิ้วมึง”

     

                       “เดี๋ยวมึงก็เป็นของกู ทั้งตัวและหัวใจ”

     

                       “พูดอะไรของมึงเนี่ย กูจะกลับหอแล้ว!

     

                       “ป่ะ กูกลับด้วย รำคาญมากพอละ แฟนเซอร์วิสห่าเหวอะไรก็ไม่รู้”

     

                       “เดี๋ยว”

     

                       “อะไรอีก”

     

                       “นี่อะไร” เร็นชี้ไปที่เฝือกตัวเอง

     

                       “เฝือกมึงไง”

     

                       “เออเฝือกกู แต่ข้อความนี่ฝีมือมึงใช่ไหม!!

     

                       “ถ้าใช่แล้วจะทำไมครับ  หื้มม?”

     

                       “เชี่ย มึงแม่ง สกปรกนะเว้ย”

     

                       “ทียูซังมึงให้มันเขียน”

     

                       “กูไม่ทันมอง หันมามันก็เขียนเสร็จละ”

     

                       “นั่นแหละ กูไม่ชอบ เลยเขียนทับแม่งเลย ไปเหอะ”

     

                       “ไม่ต้องไปส่งน้องคนนั้นที่บ้านด้วยหรือไง”

     

                       “ไม่ส่งเว้ย ส่งมึงนี่แหละ แต่ส่งขึ้นสวรรค์นะครับ คุณเมีย

     

                    พ่องงงงงงงง!!!

     

                    “ทะลึ่งนะมึง.. ไปดูรอบๆ ก่อน ยังไม่ได้เดินดูเลย”

     

                       “เดินไหวเหรอมึง ให้กูอุ้มมะ..”

     

                       “เฮ้ย! ไอ้เชี่ย ปล่อยกูลง!!

     

                       ปากว่ามือถึงจริงๆ ไอ้หนุ่มคนนี้ ยังไม่ทันจะได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวก็ยกเร็นขึ้นอุ้มไว้ในอ้อมแขนซะแล้ว ไอ้คนถูกอุ้มก็ทำออะไรไม่ได้นอกจากดิ้นอย่างบ้าพลัง แล้วก็ทุบตีไหล่กว้างๆ นั่นจนมินฮยอนเริ่มหมดแรงแล้ว

     

                       “โอ้ยๆ อย่าตี เจ็บครับผม”

     

                       “ก็ปล่อยสิวะ ไอ้บ้าเอ้ย เดี๋ยวมีคนมาเห็น”

     

                       “แสดงว่าถ้าไม่มีคนมาเห็นนี่ก็ได้ใช่ป่ะ?”

     

                       “ได้กับป้ามึงสิ ปล่อยกู!!!

     

                       “พูดเพราะๆ ก่อน กูอยากฟังเวลามึงพูดเพราะๆ”

     

                       “เรื่องอะไร ถ้าไม่ปล่อยกูกัดหูมึงแน่”

     

                       “พูดเร็ว” 

     

                       “ไม่พูดเว้ย!

     

                       “เร็วเข้า เจอาร์กับแบคโฮเดินมาทางนี้แล้ว ถ้ามึงไม่อยากโดนมันล้อในสภาพงี้”

     

                       เร็นหันไปมองข้างหลัง แบคโฮกับเจอาร์กำลังเดินมาทางเขาจริงๆ ด้วย สีหน้าเลิกลั่กของเร็นทำให้ร่างสูงยิ่งขำเข้าไปใหญ่

     

                       “ปล่อยกูเถอะ ขอร้อง TT

     

                       “พูดเพราะๆ สิ”

     

                       TT

     

                       “เฮ้! แบค..”

     

                       “จะเรียกมันหาพระแสงอะไรล่ะวะเฮ้ย” เร็นจัดการอุดปากมินฮยอนทันที

     

                       “55555555 เร็วเข้า พูดว่า มินฮยอน ปล่อยมินกิลงเถอะนะทำหน้าน่ารักด้วยล่ะ”

     

                       เร็นแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

     

                       “...มินฮยอน”

     

                       “ครับ ^^

     

                       “ปล่อย.. มิน.. มินกิลงเถอะนะ”

     

                       กว่าจะตัดสินใจพูดออกไปได้นี่มันช่างแสนยากลำบาก!!

     

                       “ยังไม่ทำหน้าน่ารักเลยนะมินกิอ่า~ 5555

     

                       “ปล่อยกูลงงงงง!!!

     

                       “แบคโฮทางนี้...”

     

                       “ปากดีจังนะมึง -____-“

     

                       “เร็ว ทำท่าน่ารักก่อน คนอ่านเขาชอบที่มึงน่ารัก”

     

                       “...ปุอิ๊ง ปุอิ๊ง~” เร็นทำแก้มป่องๆ แล้วยู่ปากน้อยๆ มือข้างนึงยกขึ้นมากำหลวมที่แก้ม แล้วขยับเบาๆ พอทำเสร็จเขาก็แทบจะมุดหน้าหนีเข้าจั๊กกะแร้มินฮยอนทันที คนมันเขินนะ ไม่เคยทำอะไรแบบนี้นี่หว่า ไอ้คนที่สั่งให้ทำพอเห็นก็หัวเราะร่วนออกมาเลย

     

                       “ขำเชี่ยอะไรของมึง TT

     

                       “ขำมึงอะ 55555555”

     

                       “มันจะตลกมากไปละ ปล่อยกูได้แล้วนะเพื่อน”

     

                       “โอเคๆ”

     

                       มินฮยอนแกล้งปล่อยเร็นลง ทำเหมือนว่าจะตก แต่เขาก็กระชับอ้อมแขนรับตัวเร็วไว้ทัน ไอ้คนถูกแกล้งก็กลัวตกจนต้องโอบรอบคอมินฮยอนเอาไว้ พอรู้ว่าถูกแกล้งก็หันไปทุบไหล่ร่างสูงอีก

     

                       “เล่นเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย TT

     

                       “555555 กูล้อเล่น ปล่อยแล้วๆ”

     

                       มินฮยอนค่อยๆ วางตัวเร็นลงกับพื้นเบาๆ ร่างบางเลยรีบโดดถอยหนีทันที เดี๋ยวโดนแกล้งอีกทำไงอะ กูไม่เอาแล้วนะ ทำท่าแบบนั้น คงเป็นเรื่องที่น่าอับอายที่สุดในชีวิตกู

     

                       พอเร็นถอยตัวออกมาแบคโฮกับเจอาร์ก็เดินผ่านพวกเขาทั้งสองคนพอดี

     

                       “มินกิ! มึงอยู่นี่เอง มีคนกำลังตามหามึง” เจอาร์บอก

     

                       “ใคร?”

     

                       “กูไม่รู้.. อะ นั่นไง มาทางนั้นพอดี” เจอาร์ชี้ไปที่ทางเดิน คนที่กำลังตามหาเร็นกำลังเดินมาทางนี้.. ยูซังนั่นเอง

     

                       “มาทำไมวะ” มินฮยอนแอบบ่นเบาๆ

     

                       “เร็น!

     

                       “ฮะ? มีอะไร ทำไมหน้าตื่นๆ วะ”

     

                       “มากับกูหน่อย กูอยากคุยกับมึงตามลำพัง” ยูซังคว้ามือเร็น และจะพาเดินออกไป แต่ถูกมินฮยอนจับมืออีกข้างของเร็นเอาไว้ แล้วดึงกลับมาเข้าหาตัว ทำให้ร่างบางเสียหลักเซไปชนกับอกกว้างๆ ของตัวเอง ร่างสูงเลยถือโอกาสโอบไหล่เร็นเอาไว้

     

                       “จะเอาแฟนฉันไปไหน”

     

                       แป๊บนึงมินฮยอน แป๊บนึงนะ... กูเป็นแฟนมึงตอนไหน ??

     

                       “เรื่องของฉันกับเร็น แกไม่เกี่ยว” อย่างน้อยสองคนนี้ก็ยังไม่สนิทกันมากพอที่จะใช้กูมึงใส่กันน่ะนะ

     

                       “เกี่ยว เพราะเร็นเป็นของฉัน”

     

                       “เอ่อ มึง.. กูว่าใจเย็นก่อนดีไหม”

     

                       มึงอย่ามาตบตีแย่งกูกันตรงนี้นะ มันจำให้กูกลายเป็นตัวเหี้ยอะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้ผู้ชายสองคนฟัดกัน และมันก็จะดูกระแดะไปนิดนึงที่กูจะต้องมาตะโกนห้ามพวกมึง

     

                       “เหรอ? ตอนไหนล่ะ”

     

                       เออ ดีจัง ไม่ฟังกูเลย -_____-

     

                       “จะตอนไหนมันก็เรื่องของฉัน”

     

                       “พอก่อน...”

     

                       “เร็น กูจะคุยกับมึงเรื่อง.. แม่”

     

                       “ฮะ? แม่.. แม่มึงน่ะเหรอ?”

     

                       “อืม” สีหน้าสลดลงของยูซัง ทำให้เร็นหันกลับไปมองหน้ามินอยอนเชิงให้ปล่อยตัวเขา เร็นตบไหล่มินฮยอนสองสามที

     

                       “เดี๋ยวกูมา”

     

                       ทั้งสองคนเดินห่างออกมาจนพ้นสายตาของมินฮยอน ยูซังเดินมาอยู่อยู่ที่ริมสระน้ำใกล้ๆ กับทางเข้าออกคณะ ยังไม่ทันที่จะได้ตั้งตัวเขาก็ดึงคนตัวเล็กเข้าไปกอดเอาไว้

     

                       “ยูซัง”

     

                       “แป๊บนึง เร็น.. แค่แป๊บเดียว”

     

                       เพียงแค่คำอ้อนวอนเบาๆ ที่ส่งมาทำให้เร็นเลือกที่จะยืนนิ่งๆ ให้ยูซังกอด เมื่อกี้ก็โดนมินฮยอนอุ้ม นี่มาโดนยูซังกอดอีก เปลืองเนื้อเปลืองตัวเหลือเกินนะ -___-

     

                       “แม่มึง..”

     

                       “ที่กูตามหามึงไม่ใช่เพราะเรื่องแม่”

     

                       “อ้าว แล้วเรื่อง?”

     

                       “กูรักมึง” ยูซังดันคนตัวเล็กออกบีบที่แขนทั้งสองข้างเบาๆ พร้อมกับสบตาด้วยแววตาที่จริงจัง

     

                       “...”

     

                       “กูทนมามากพอแล้วที่ต้องทนดูมึงกับมินฮยอน..”

     

                       “คือ..”

     

                       “และกูก็จะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว.. เร็น! กูรักมึงมากจริงๆ ขอร้อง เลิกข้องเกี่ยวกับรูมเมทมึงสักที..”

     

                      

     

                       “ตั้งแต่มัธยม..จนกระทั่งตอนนี้ ทุกครั้งที่มึงไปไหนมาไหนกับกู บอกตามตรง ว่ากูมีความสุขมาก เวลาที่มึงยิ้มกับกู หัวเราะกับกู หรือร้องไห้กับกู.. แต่ตอนนี้คนที่มึงยิ้มด้วยร้องไห้ด้วย มันกลับไม่ใช่กูแล้ว... กูอยากกลับไปทำหน้าที่ตรงนั้น อยากเป็นคนที่มึงคิดถึงคนแรกเวลามึงมีความสุข หรือทุกข์”

     

                       “...”

     

                       “เร็น รักกู..ได้ไหม?”

     

                       “...”

     

                       “..มินกิ”

     

                       “กู..ขอโทษ”

     

                       “ขอโทษ.. คืออะไร??”

     

                       “ยูซังคือมึง.. อื้ออ!!” ร่างบางกำลังจะอ้าปากพูดบางสิ่งออกไป แต่กลับถูกดึงเข้ามากดจูบหนักๆ ความหนักหน่วงที่เกิดจากความโมโห.. ไม่อยากฟัง ยูซังไม่อยากจะฟังสิ่งที่เร็นกำลังจะพูด กลัวแม้กระทั่งว่า.. ความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนก็อาจจะหายไปด้วย

     

                       “พอได้แล้วมั้ง ยูซัง” มินฮยอนเดินเข้ามาหาทั้งสองคน เขาแอบตามมาตั้งแต่ยูซังลากตัวมินกิออกมาแล้ว และก็เป็นอย่างที่เขาคิด จะต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับเร็นแน่ๆ ยูซังเลยผละออกจากเร็น พร้อมกันกับที่คนตัวสูงฉุดแขนเร็นให้มาอยู่ข้างๆ

     

                       “กูกำลังคุยกับเร็น”

     

                        ขึ้นมึงขึ้นกูใส่กูเลยใช่ไหม สนิทขนาดนั้นแล้วใช่ไหม? ได้! ชิมยูซัง!!

     

                       “ถ้ามึงคุยปกติกูก็คงไม่เข้ามาขัด แต่มึงกำลังจูบแฟนกู!

     

                       อื้อหือ เต็มปากมากมึง อีมินฮยอน กูจะเขินละ กูจะเขินจริงๆ ถ้าไม่ติดว่ามึงสองตัวกำลังกัดกันเพื่อแย่งกูเนี่ย รู้สึกทุเรศตัวเองแปลกๆ ว่ะ มีผู้ชายสองคนมาแย่งกัน แม่รู้คงดีใจตายเลย -___-

     

                       “เหรอ เร็นบอกเหรอ ว่าเป็นแฟนมึง มันพูดตอนไหนล่ะ!

     

                       “ไอ้เชี่ยนี่”

     

                       มินฮยอนใช้ความไวพุ่งเข้าไปชกหน้ายูซัง จนคนที่ยืนอยู่ข้างๆ จะรั้งตัวไว้ไม่ทัน ทำให้ยูซังล้มลงไปกองอยู่กับพื้น เขาใช้แบขเสื้อเช็ดเลือดที่มุมปากออก ก่อนจะลุกขึ้นมาและสวนกลับเข้าไปอีกหมัดนึงเช่นกัน

     

                       “เฮ้ย ไอ้เชี่ย พวกมึงนี่ หยุดเลย! หยุด!!

     

                       เกิดมากูยังไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลยจริงๆ ยืนระหว่างผู้ชายสองคนไม่ให้มันกัดเพื่อแย่งตัวเอง ประเสริฐละ !

     

                       แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครฟังคำพูดของเร็นสักนิด ทั้งคู่ยังคงจ้องตากันไม่เลิกรา และพร้อมที่จะพุ่งเข้าใส่กันได้ทุกเมื่อ จนเจอาร์กับแบคโฮที่แอบดูอยู่ต้องรีบวิ่งเข้ามาดึงมินฮยอนเอาไว้ เพราะดูเหมือนเร็นคนเดียวจะเอาไม่อยู่

     

                       “เอางี้ หยุดกัดกัน กูมีวิธี!

     

                       “อะไรของมึงวะเจอาร์”

     

                       “แข่งบาส”

     

                       มึง..อย่าบอกนะ TT

     

                       “ใครชนะได้เร็นไป”

     

                       ถามกูยังครับ? TT 





     

    ....................................................

    Talking*



    ตอนนี้สั้นมากกกก 5555555
    เก็บช่วงลุ้นระทึกเอาไว้ตอนหน้า อิอิ

    รีดเดอร์คนไหนเปิดเทอมแล้วก็ตั้งใจเรียนด้วยนะ สู้ๆ ^^
    อยากแต่ง SF แต่ว่า.. เอาเรื่องหลักนี้ให้จบก่อนดีกว่า
    โปรเจคหน้าคิดว่าจะแต่งมินเจ
    ชอบคู่นี้แล้วว 55555

    ฝากติดตามต่อกันด้วยนะคะ~


    พรุ่งนี้วันเกิดไรท์เตอร์แหละ (31ตุลา วันฮาโลวัน) ฮิ้วววววว
    ใครสนใจจะเลี้ยงก็ติดต่อที่เบอร์ 087-xxxxxxx เลยนะฮร้าาา
    รักทุกคน

    ปย๊ง~ ♥







     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×