คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : :: CH. 12 ใครง้อ? ใครงอน? ::
12
ทำไมพี่อารอนยังไม่กลับมาอีกนะ... หรือว่าจะหลงทางอีกแล้ว? คงไม่น่าใช่มั้ง โทรหาตั้งหลายรอบก็ไม่รับสาย เป็นอะไรไปหรือเปล่านะ
แบคโฮวางค้อนในมือแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาอารอน นี่ก็ผ่านมาสองสามวันแล้วหลังจากที่เขากลับมาจากคยองกี แบคโฮกับเจอาร์กลับมาโซลก่อน ส่วนอารอนบอกว่าจะตามมาทีหลัง
“วะ.. ว่าไง แบคโฮ ..กำลังจะโทรหาพอดีเลย” เสียงปลายสายนั่นสั่นเครือ อารอนพยายามบังคับเสียงตัวเองให้พูดเป็นปกติที่สุด แต่แบคโฮก็ไม่ทันผิดสังเกตอะไรเพราะมัวแต่ดีใจที่รุ่นพี่รับสาย
“พี่อารอน ทำไมไม่รับสายผมเลยล่ะครับ”
“พอดีติดธุระนิดหน่อยน่ะ..”
“เมื่อไหร่พี่จะจำได้สักทีล่ะครับ ว่าผมเป็นห่วงพี่มากแค่ไหนน่ะ รีบๆ กลับนะครับผมคิดถึงพี่มากเลยนะ แล้วขากลับอย่าลืม...”
“แบคโฮ”
“ครับ?”
“ลาก่อนนะ..”
“...”
“ฉันกำลังจะกลับอเมริกา”
3 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น
อารอนมาถึงโซลแล้ว เขากำลังเดินอยู่ข้างทางใกล้กับหอพักของแบคโฮ ตอนแรกอารอนคิดว่าจะมาเก็บของที่อยู่ในห้องของพวกเด็กๆ แต่อะไรไม่รู้ทำให้อารอนเปลี่ยนทิศทางเดินเข้าไปยังโรงเรียนมัธยมของเขาที่เคยมากับแบคโฮคราวที่แล้ว
“สวัสดีครับ”
“หึ.. ไปอยู่เกาหลีซะจนพูดเกาหลีคล่องเชียวนะ ลูกชายฉัน”
“พะ.. พ่อ”
“ใช่ พ่อ! แกรู้ทั้งรู้ว่าฉันเป็นพ่อแกยังกล้าโกหกฉันแล้วหนีไปเกาหลีอีกหรือไง!!” คนเป็นพ่อตวาดลั่น เสียงที่แข็งกร้าวแบบนี้อารอนมักได้ยินมันบ่อยๆ ตอนที่พ่อของเขาโมโหมากๆ
ทำไมพ่อถึงรู้ว่าเขาอยู่เกาหลี ?
“พ่อพูดอะไร ผมยังอยู่ชานเมือง...”
“เลิกโกหกแล้วเก็บของกลับอเมริกาซะ!! ฉันให้เวลาแค่ 2 วัน ถ้าไม่เชื่อฟังคำพูดของฉันก็ไม่ต้องเรียกว่าพ่อ!!”
“พ่อ! พ่อครับ!!”
พ่อของอารอนโทรมาหาหลังจากวันที่แบคโฮกับเจอาร์กลับมายังโซล ทุกๆ คำพูดของพ่อมันยังคงวนเวียนอยู่ในหัว.. ทำไม 1 เดือนมันผ่านไปเร็วขนาดนี้ล่ะ เขายังไม่ทันจะได้ทำอะไรเลย มันเร็วเกินไปหรือเปล่า... มันเร็วเกินไปหรือเปล่าที่เขาเริ่มจะรักรุ่นน้องอย่างแบคโฮเข้าให้ซะแล้ว
อารอนไม่กล้าแม้แต่จะโทรหาแบคโฮ หลายครั้งที่แบคโฮโทรมาหาแต่อารอนก็จำใจต้องไม่รับสาย ไม่อยากได้ยินเสียงเลย กลัวว่าเขาจะทำใจกลับไปอเมริกาเหมือนเดิมไม่ได้ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่หัวใจของอารอนเริ่มมีแบคโฮเข้ามา ทุกๆ ครั้งที่ทำอะไรเขามักจะนึกถึงแต่แบคโฮ
เขาเดินมายังโต๊ะตัวที่แบคโฮบอกว่าเป็นโต๊ะประจำของเขา อารอนนั่งลงกับโต๊ะ และมองไปรอบๆ รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าหวานเมื่อนึกถึงคำพูดของแบคโฮในวันนั้น
“ถ้าเมื่อก่อนผมรู้ว่าในโรงเรียนมีรุ่นพี่น่ารักแบบพี่อารอนผมก็คงจะคอยเอาแต่มองหาพี่แน่ๆ”
“ฮ่ะๆๆ ในโรงเรียนเราคนน่ารักก็เยอะจะตายไป นายเองแหละมั้ง ที่ไม่สนใจสิ่งรอบข้างน่ะ”
“ก็ผมไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรน่าสนใจ.. แต่ตอนนี้ ผมว่าพี่อารอนน่าสนใจมากเลยล่ะ”
“เฮ้ พอได้แล้วน่า จะพูดให้เขินอีกนานป่ะ”
“ก็จนกว่าพี่จะชอบผมไงครับ”
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น อารอนพยายามอย่างมากในการข่มความรู้สึกเอาไว้.. ทางเลือกที่มีอยู่ทางเดียวคือการกลับอเมริกา กลับไปแล้วไม่ได้เจอกับแบคโฮอีกเลย..
มือบางลูบที่โต๊ะเบาๆ จนสะดุดกับลายมือยึกยือที่ถูกขีดเขียนอยู่บนโต๊ะด้วยคมแหลมของก้อนหิน จนมันฝังลงไปอยู่บนโต๊ะ ไม่มีทางที่จะลบออก
‘พี่อารอนน่ารัก’
‘พี่อารอนชอบทำแก้มป่อง’
‘พี่อารอนเด็กกระเหรี่ยง พูดเกาหลีไม่ชัด’
‘ผมรักพี่อารอนนะครับ ♥ ’
น้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยไม่มีทางที่จะหยุดได้เลย ทำไมแค่เวลา 1 เดือนเขาถึงได้รู้ลึกผูกพันมากมายขนาดนี้ คังแบคโฮ นายมีดีอะไร..
“แบคโฮ...”
สองมือยกขึ้นปาดน้ำตาทิ้งทันทีที่เสียงโทรศัพท์ดังแทรกขึ้นมา อารอนหยิบขึ้นมาพอเห็นว่าเป็นแบคโฮที่โทรมาน้ำตาที่พยายามปหาดทิ้งก็ยิ่งไหลออกมาอีก คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นสูงพร้อมกับกระพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่น้ำตาออกไป เม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“วะ.. ว่าไง แบคโฮ ..กำลังจะโทรหาพอดีเลย” เสียงสั่นๆ ของอารอน เขายพยายามแล้วที่จะทำให้มนเป็นปกติ แต่เสียงสะอื้นก็ยังหลุดออกไปจนได้ หวังว่าแบคโฮคงไม่ได้ยินมันนะ
“พี่อารอน ทำไมไม่รับสายผมเลยล่ะครับ”
“พอดีติดธุระนิดหน่อยน่ะ..”
“เมื่อไหร่พี่จะจำได้สักทีล่ะครับ ว่าผมเป็นห่วงพี่มากแค่ไหนน่ะ รีบๆ กลับนะครับผมคิดถึงพี่มากเลยนะ แล้วขากลับอย่าลืม...”
“แบคโฮ”
“..ครับ?”
“ลาก่อนนะ..”
“...”
“ฉัน...กำลังจะกลับอเมริกา” แต่ละคำที่เค้นเสียงออกไปนั่นยากเหลือเกิน ไม่รู้ว่าตอนนี้แบคโฮจะทำหน้ายังไง แบคโฮคงโกรธเขามากแน่ๆ ที่เขาทิ้งไปแบบนี้ หรืออาจะไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะที่ผ่านมาๆ เขาอาจจะแค่คิดเล่นๆ
“...”
“....” ความเงียบเข้าครอบคลุมทั้งสองคน หลายนาทีกว่าร่างสูงจะตอบกลับมา
“ตอนนี้.. พี่อยู่ที่ไหนครับ”
“ไม่ต้องมา..”
“ผมถามว่าพี่อยู่ที่ไหน!!”
“แบค.. แบคโฮ”
“ขอร้อง พี่บอกผมมาว่าพี่อยู่ที่ไหน” ปลายสายกำลังกระหืดกระหอบเหมือนกำลังวิ่งอยู่ ใช่... แบคโฮกำลังวิ่งออกมาหน้าคณะ เพื่อเรียกรถไปยังสถานที่ๆอารอนอยู่
“ในโรงเรียน..”
“รอผมอยู่ตรงนั้น อย่าหนีผมไปไหนเด็ดขาด เข้าใจไหมครับ”
“...”
“พี่อารอน!”
“อืม.. ฉันจะรออยู่ตรงนี้”
แบคโฮใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาทีก็วิ่งมาถึง เขาวิ่งมายังโต๊ะม้าหินที่มาคราวที่แล้วกับอารอนทันทีโดยไม่จำเป็นต้องโทรถาม หัวใจหล่นวูบลงไปทันทีเมื่อวิ่งมาถึง.. ไม่เจอแม้กระทั่งเงาของคนรัก
บอกให้รอ... รอกันหน่อยไม่ได้หรือไง
ร่างกายที่เหนื่อยจากการวิ่งมายังโรงเรียนกลับต้องวิ่งกระหืดกระหอบอีกครั้ง แบคโฮวิ่งไปรอบโรงเรียนเพื่อหาอารอน ขอให้เจอ.. ขอเจอแค่แป๊บเดียว.. แป๊บเดียวเท่านั้น ในใจภาวนาพร้อมกับขาทั้งสองข้างที่ไม่คิดจะหยุดวิ่งตามหา
ทุกมุมตึก ทุกห้อง ทุกชั้น... ไร้ซึ่งวี่แววของคนเป็นรุ่นพี่
สองขาค่อยๆ ก้าวและหยุดนั่งลงที่เก้าอี้ บนโต๊ะมีกระดาษแผ่นหนึ่งวางเอาไว้ และถูกทับด้วยก้อนหินก้อนเล็กๆ เพื่อไม่ให้มันปลิวหายไป แบคโฮหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอ่าน
ขอบคุณนะแบคโฮ.. ฉันไม่รู้จะพูดอะไร
1 เดือนที่ผ่านมาฉันมีความสุขมากจริงๆ
ถ้ามีโอกาสคราวหน้าพาฉันเที่ยวให้รอบเกาหลีเลยนะ
แต่ก็ไม่รู้จะได้กลับมาอีกหรือเปล่า...
แต่ยังไงก็เถอะ ต้องพาฉันเที่ยวให้รอบเลยนะ!
สัญญานะ?
อารอน
“ผมสัญญา.. พี่ได้ยิมไหม ผมบอกว่าผมสัญญาแล้ว! พี่ต้องกลับมาหาผมนะ..”
“ฉันจะกลับมา ฉันสัญญา..” ร่างบางที่แอบอยู่หลังเสาใกล้ๆ กับโต๊ะมองแบคโฮจากด้านหลัง เพื่อเก็บภาพความทรงจำครั้งนี้ไว้ ก่อนจะเดินจากไปอย่างเงียบๆ ...
ลาก่อนแบคโฮ ฉันไม่ลืมนาย..
เมื่ออารอนค่อยๆ เดินไปออกไป แบคโฮก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหลออกมา แสดงถึงความรู้สึกที่เขารักอารอนจริงๆ เขาเงยหน้าขึ้นและกระพริบตาถี่ๆ พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ มือหนายังคงกำกระดาษแผ่นนั้นเอาไว้แน่น
แบคโฮตัดสินใจลุกขึ้นยืน แต่ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากที่ตรงนั้นสายตาก็ไปเห็นอะไรบางอย่างบนโต๊ะ ข้อความที่ถูกขีดเขียนด้วยคมแหลมของก้อนหิน ต่อท้ายข้อความของเขาที่เขียนถึงอารอนเมื่อตอนนั้น ..
รักแล้วเหมือนกัน.
แบคโฮลองเทียบลายมือบนโต๊ะกับในกระดาษ ถึงจะไม่ได้คล้ายกันมากนัก เพราะการใช้หินเขียนมันไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็บอกได้ทันทีว่าคนเขียนคือคนเดียวกัน...
พี่อารอน
++++++++++++++++++++++++++
จะไปกินข้าว.. ติดเฝือก
จะเดินไปเรียน.. ติดเฝือก
จะไปขี้.. ก็ติดเฝือก
แม่งเอ้ย เฝือกห่าเหวบ้าบออะไรเนี่ย ชาติไหนจะได้เอาออกสักทีนี่ก็ผ่านมาอาทิตย์กว่าแล้วนะ ขยับตัวไปทางไหนก็ไม่ถนัด จะใช้มินฮยอนก็ตะขิดตขวงใจชอบกล ก็คนมันยังไม่หายงอนกันนี่หว่า
“มินฮยอน เอาเมียขาเป๋ของมึงไปเก็บดิ ขวางทางว่ะ”
เจอาร์ มึงพูดงี้มึงเอามีดมาแทงอกกูเลยไหม TT
เร็นกำลังเดินเขว้งขว้างอยู่กลางซุ้มนิทรรศการของภาคตัวเอง ขาข้างที่โดนทับใส่เฝือกสีขาวอยู่ สองแขนก็ใช้ไม้ช่วยพยุงเดิน แบบตอนนี้เร็นอาภัพมาก กลายเป็นคนไร้ค่าทันที ทำอะไรก็ไม่ได้ จะหยิบจะจับอะไรก็มีแต่คนบอกให้ไปนั่งเฉยๆ
เพื่อนๆ พี่ๆ ครับ กูอยากจะกราบเรียนว่าขากูหัก กูไม่ได้เป็นง่อย TT
ถึงเร็นจะอยากทำแต่ยังไงยุนโฮซึ่งเป็นพ่องานหลักพ่วงกับตำแหน่งประธานภาคสั่งห้ามไม่ให้ใครใช้งานเร็นเด็ดขาด เพราะรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้รุ่นน้องเป็นแบบนี้ เลยยิ่งไม่มีใครกล้าใช้เร็น
“ไปนั่งเฉยๆ”
เร็นกำลังหยิบจัดดอกไม้หน้าซุ้มที่ร่วงหล่นไม่มีใครสนใจ แต่ก็ถูกมินฮยอนแย่งไปจากมือจนได้ เร็นจิ๊ปากอย่างรำคาญใจก่อนจะเอื้อมมือไปแย่งดอกไม้กลับคืนมา
“เอาคืนมานะ”
“ไม่ได้ยินที่พูดเหรอ”
“มินฮยอน!!”
“ไป นั่ง ตรง นั้น”
มินฮยอนเน้นย้ำทีละคำ พลางชี้ไปที่เก้าอี้ข้างซุ้ม สายตานิ่งๆ ทำให้เร็นไม่กล้าขัดใจจริงๆ เลยจำใจต้องยอมไปนั่งแต่โดยดี พร้อมกับสีหน้ามุ่ยๆ แบบเวลาที่เด็กโดนผู้ใหญ่ขัดใจ
ทุกๆ คนต่างทำงาน เดินผ่าหน้าเร็นกันไปมา ยิ่งมินฮยอนนี่ยิ่งทุ่มสุดตัว เหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามใบหน้าและที่หลังของเขาก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อแล้ว เร็นเลยลุกขึ้นเดินไปที่เต้นท์พยาบาลซึ่งตั้งอยู่ออกไปไม่ไกลนัก เขาหยิบน้ำกับผ้าเย็นมาชุดนึงก่อนจะเดินไปหามินฮยอนที่อยู่ด้านในหอประชุม คนตัวสูงกำลังยกเก้าอี้ตัวนู้นทีตัวนั้นทีตามที่รุ่นพี่สั่ง ส่วนเจอาร์กับแบคโอก็ลงไปนั่งหอบอยู่ที่พื้นแล้ว
สีหน้าของแบคโฮดูไม่ดีขึ้นเลยหลังจากวันที่อารอนกลับไป จนทุกคนสังเกตได้และแบคโฮก็ยอมเล่าว่าอารอนกลับอเมริกาไปแล้ว หลายครั้งอยู่เหมือนกันที่ทั้งเร็น กับเจอาร์ช่วยกันปลอบเขา แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นเลย คงมีอยู่แค่คนเดียวเท่านั้นแหละที่จะทำให้แบคโฮกลับมาเหมือนเดิมได้น่ะ
“มึง” เร็นหยุดยืนอยู่ข้างแล้วสะกิดที่ไหล่เบาๆ
“บอกให้นั่งเฉยๆ”
“อะ.. เอามาให้” คนตัวเล็กยื่นผ้าเย็นกับน้ำเปล่าไปให้ มินฮยอนรับมันไว้ในมือ แล้วหันหลังกลับไป รอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากผุดขึ้นมา และก็หายไปในเวลาแค่ไม่กี่วินาที
“ขอบใจ กลับไปนั่งที่ได้แล้ว”
“พอแค่นี้แหละ พรุ่งนี้ตอนเช้าเดี๋ยวพวกพี่จะมาตรวจความเรียบร้อยก่อนงานจะเริ่ม ยังไงพวกน้องๆ ก็มาเร็วๆ หน่อยก็แล้วกันนะ”
ยุนโฮบอกทุกคนก่อนจะก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อ ซุ้มประจำภาคประมงของพวกเขาก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลืออีกแค่การจัดข้าวของวางให้ถูกที่อีกเล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่งานจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ มินฮยอนช่วยรุ่นพี่จูฮยอนที่เป็นพี่รหัสเก็บข้าวของบริเวณรอบๆ ซุ้ม รอยยิ้มเบิกบานเต็มหน้าหล่อๆ นั่น ทำให้เร็นอดหมันไส้ไม่ได้ จนป่านนี้แล้วแม่งยังไม่เลิกงอนกูเลย !!!!
“พี่จูฮยอน หน้าเปื้อนสีน่ะ” มินฮยอนบอกรุ่นพี่ หลังจากที่จูฮยอนทาสีบนแผ่นป้ายเสร็จ เธอก็เอามือไม้ที่เปื้อนสีเช็ดกางเกงบ้าง เช็ดเสื้อบ้าง และก็เผลอไปเช็ดเหงื่อที่หน้า จนสีมันเปื้อนหน้าสวยๆ นั่นจนได้
“เหรอ ตรงไหน” จูฮยอนเอามือป้ายหน้าป้ายตาตัวเองเพิ่มเข้าไปอีก มันจะก็เลอะมากขึ้น ไอ้รุ่นน้องตัวสูงนี่เลยหลุดขำในความเอ๋อของพี่รหัส
“โอ้ยพี่ กลับหอไปอาบน้ำเถอะครับ สภาพนี้ล้างไม่ออกแล้ว 5555555555”
“แกกล้าขำพี่ตัวเองเหรอฮะ มินฮยอน!!!” จูฮยอนฟาดมือลงไปบนหลังมินฮยอนแล้วก็เอามือข้างที่เปื้อนสีป้ายหน้าไอ้น้องรหัสที่บังอาจมาล้อเลียน
“เฮ้ยพี่จูฮยอน แก่ป่านนี้แล้วนะ เล่นอะไรเป็นเด็กๆ”
“ว้าย ใครบอกแกว่าฉันแก่ สวยสะพรั่งขนาดนี้”
เอาเถอะ.. เร็นทนดูไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ด้วยความหมันไส้เขาเลยเดินไปใกล้สองคนนั้นแล้วแกล้งสะดุดล้มแม่งตรงหน้านั่นแหละ และก็ได้ผล มินฮยอนเลิกสนใจพี่รหัส มาสนใจรูมเมทที่กำลังพัฒนาเป็นเมียในอีกไม่ช้า
“โอ้ย!”
โอเค มารยาทั้งหมดทั้งมวลที่อยู่ในตัวผู้หญิงทุกคนบนโลกใบนี้มารวมอยู่ที่ผู้ชายหน้าสวยคนนี้หมดแล้ว เร็นแกล้งปล่อยไม้เท้าทิ้ง แล้วก็ลงไปนั่งกับพื้น พร้อมกับกุมที่ข้อเท้าตัวเองเสร็จสรรพเรียบร้อย
มินฮยอนแค่หันมามองเร็นเฉยๆ ด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่แววตาก็พอจะดูออกว่าเป็นห่วงนะ แต่แบบยังงอน ฟอร์มยังเยอะอยู่ เมื่อเห็นมินฮยอนยังไม่สนใจ เขาเลยใส่เข้าไปอีก
“โอ๊ยยย เจ็บมากเลยย”
“เฮ้ย เร็น! มึงเป็นอะไรมากไหม”
กูขอบอกตามตรง... มึงมาผิดเวลานะ ชิมยูซัง!! TT
ยูซังวางถุงขนมที่ซื้อมากฝากเร็นเอาไว้แล้วไปช่วยพยุงให้เร็นลุกขึ้นยืน เขาเลยต้องจำใจลุกแล้วแสดงละครต่อไปเดี๋ยวไม่เนียน แล้วจะโดนไอ้สูงนั่นด่าว่ามารยา เร็นแอบมองมินฮยอนก่อนที่จะลุกออกไป แต่มินฮยอนกลับมองเขาแค่แว๊บเดียวแล้วก็หันไปช่วยจูฮยอนเก็บของต่อ
“ขามึงยังไม่ถอดเฝือกอีกเหรอ”
“ยัง อาทิตย์หน้าแหละ แล้วนี่มึงมาทำไม”
“ซื้อขนมมาฝาก จะกลับหอไหม เดี๋ยวกูไปส่ง”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวรอมิน.. เอ่อ รอกลับพร้อมเพื่อนๆ”
“รอมินฮยอน. ใช่ไหมล่ะ”
เร็นไม่ตอบ แต่หลบสายตาแทน ยูซังถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเบนสายตาไปอีกทาง และเจอกับปากกาเมจิด้ามหนึ่งที่วางเกะกะอยู่แถวนั้นยังไม่มีใครมาเก็บมันไป เขาเลยเอามันมา ลุกจากเก้าอี้ลงไปนั่งที่พื้นแทน หลังจากนั้นก็จับขาเร็นข้างที่ใส่เฝือกเอาไว้มา
YUSUNG’s ♥ .
“เฮ้ย! มึงทำอะไรเนี่ยยูซัง” เร็นก้มลงมองข้อความที่ยูซังเขียนบนเฝือกเขา ตั้งแต่ใส่เฝือกมาเร็นพยายามหลบเลี่ยงไม่ให้ใครขียนเขียนเฝือกเลย เพราะมันดูสกปรก ขนาดเจอาร์จะมาเขียนเร็นยังเสยหน้าเข้าให้ แต่นี่ยูซัง โอ้ย มึงอย่างอยู่เลย!
“ทำไม สวยดี”
“สวยกับป้ามึงสิ ลบออกเลยนะมึง ถ้าไม่ลบกูจะลบชื่อมึงออกจากโลกนี้เอง -_____-“
ยูซังลุกขึ้นยืน ผลักหัวเร็นทีนึง ก่อนจะเดินจากไป... อ้าวเฮ้ย! ที่ขู่ไปนั่นมึงกลัวป่ะวะ ไอ้เชี่ย แล้วกูจะลบมันออกยังไง ถ้ามินฮยอนมันเห็นเดี๋ยวก็งอนอีกอะ.. โอ้ย !!
…แล้วกูจะไปห่วงทำไม ว่ามันงอน หรือมันคิดอะไร โว๊ะ ประสาทป่ะวะ
“จีบกันเสร็จหรือยังล่ะ จะได้กลับหอสักที”
“ฮะ? เสร็จแล้ว เออ เสร็จแล้ว”
เมื่อกี้มินฮยอนถามว่าอะไรนะ? ไม่ทันฟัง
มินฮยอนเหลือบมองลงไปที่เฝือก เห็นข้อความนั้นเขาก็เบ้ปากแล้วก็รีบเดินไปทันที มันจะมากเกินไปหน่อยไหมล่ะ ทีเจอาร์จะเขียนแม่งไม่ยอมให้เขียน พอไอ้เวรนั่นเขียนเสือกยอมให้เขียนแต่โดยดี เฮอะ!
.......
....
...
..
พอถึงหอพักเร็นก็ล้มตัวลงนอนที่โซฟาทันที ส่วนมินฮยอนก็แยกตัวเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ เหงื่อที่โทรมกายไปทั้งตัวมันทรมานแสนสาหัส ไม่นานนักมินฮยอนก็เดินออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับหัวที่เปียกน้ำ แล้วก็นุ่งผ้าขนหนูออกมาแค่นั้น เขาเดินไปที่หน้าโซฟาเห็นคนตัวเล็กกำลังหลับอยู่ เลยย่อตัวลงนั่งแล้วก้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ
เมื่อไหร่มึงจะอยู่ห่างๆ ไอ้ยูซังนั่นสักที ก็หวงมึงนะ!
หยดน้ำจากเส้นผมหยดลงบนใบหน้าหวานใสนั่น เร็นยกมือขึ้นมาป้ายที่หน้าตัวเองก่อนจะค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา ส่วนมินฮยอนก็ลุกขึ้นเดินหนีทำเป็นไม่สนใจเหมือนเดิม เร็นเลยลุกขึ้นนั่งมองไอ้คนขี้เก๊กที่ยืนเช็ดผมอยู่ใกล้ๆ กับเขา
“มึง..”
“อะไร”
“มานี่”
“ทำไม”
“บอกให้มาก็มาเซ่!!” เร็นอดไม่ไหวเลยต้องดึงแขนมินฮยอนลงมานั่งข้างๆ เขาเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชู่แล้วค่อยๆ เช็ดคราบสีออกจากหน้ามินฮยอน ร่างสูงนิ่งไปทันที เขาจ้องมองใบหน้าหวานอย่างไม่กระพริบตา.. ใบหน้าหวาน แก้มใสๆ ปากแดง จมูกรั้นได้รูป.. มึงเกิดมาผิดเพศชัดๆ
“มองอะไร กูหล่อมากเลยใช่ไหมล่ะ”
“สวย”
“-_______-“
“...”
“เลิกโกรธกูได้แล้ว”
“...”
“นะ..” เร็นจับมือมินฮยอนไว้ แล้วยู่ปาก เออ.. ตรงๆ ตอนนี้เร็นแม่งน่ารักชิบหายเลยครับ!
แต่อีกคนก็ยังคงเก็บอาการไว้ได้ และตีหน้านิ่งต่อไป เร็นเลยยกนิ้วขึ้นมาสามนิ้วทำเป็นรูปปืนแล้วจ่อไปตรงหน้าอกข้างซ้ายของมินฮยอน
“ในเมื่อขอดีๆ แล้วไม่ยอม...”
“อะไรของมึง”
“อย่าร้อง.. กูมาปล้นนะ”
“...”
“ส่งยิ้มของมึงมา”
“...”
“เพราะกูมาปล้นรอยยิ้มมึง”
เร็นเลียนแบบคำพูดของมินฮยอนคราวก่อนที่มาง้อเขา และก็เรียกรอยยิ้มจากร่างสูงได้ดีจริงๆ จากอมยิ้มเล็กๆ เปลี่ยนไปค่อยๆ ยิ้มกว้างขึ้น จนมินฮยอนหลุดหัวเราะออกมา เร็นเลยพลอยยิ้มตามไปด้วย
“มึงยิ้มแล้ว!!”
“ขาหักจนบ้าแล้วหรือไง”
“หายโกรธกูแล้วใช่ม้า~”
“...”
“มินฮยอนอ่า~”
“คราวหลังจะไปไหนก็บอกมั่ง ไม่ใช่ปล่อยให้รอ”
“ขอโทษ.. ไม่ได้ตั้งใจจะลืมนะ”
“ไปอาบน้ำนอนได้แล้ว”
“ไม่เอาอะ ปวดขาจะแย่ละ”
“ก็แน่สิ เดินร่อนไปร่อนมาทั้งวัน บอกให้นั่งเฉยๆ”
“ก็คนมันเกรงใจนี่หว่า.. ก้มหัวมา”
“จะทำอะไรอีกล่ะ”
“ทำไมมึงนี่ชอบเถียงจังวะ บอกให้ก้มก็ก้มสิ”
“มึงนั่นแหละ เข้ามานี่”
“อะไร กูสั่งก่อนมึงก็ต้อง...อื้ออ!!” ร่างสูงคว้าเอวคอดเข้ามาแล้วกดจูบลงไปที่ริมฝีปากบางนั่น ก่อนจะผละออกมายกยิ้มที่มุมปาก ไอ้คนโดนจูบก็หน้าเหวอขึ้นสีแดงไปยันหู เร็นคว้าผ้าเช็ดผมที่พาดอยู่ข้างๆ ตัวปาใส่หน้ามินฮยอน แล้วลุกหนี แต่ก็ลืมตัวไงว่าตัวเองใส่เฝือก เลยยังไม่ทันลุกไปไหนมินฮยอนก็คว้าตัวลงมานั่งตักซะก่อนแล้ว
“จะไปไหน”
“อาบน้ำไง ปล่อยนะไอ้บ้าเอ้ย!!”
“เดี๋ยวอาบให้.. เมื่อกี้จะทำอะไร”
“อาบให้บ้าอะไรวะ อาบเองได้”
“เมื่อกี้จะทำอะไร”
“เช็ด.. เช็ดผมให้มึง”
“อ่ะ.. ก็เช็ดสิ”
“ไม่ช้งไม่เช็ดแล้ว ปล่อยกูเดี๋ยวนี้เลย”
เร็นพยายามดิ้น แกะมือเหนียวๆ ออกแต่.. โอ้โห พ่อคุณ มือหรือหนวดปลาหมึก เอาไม่ออกเว้ยเฮ้ย เมื่อดิ้นไปก็เท่านั้นเร็นเลยหยุดดิ้นแล้วหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดผมให้มินฮยอนแทนทั้งๆ ที่ยังนั่งอยู่บนตักมินฮยอน
“มีเมียดีก็สบายไปสามชาติ”
โอเค.. พูดจากวนตีนแบบนี้อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่ามันหายโกรธแล้ว เฮ้อ !!
...............................................
Talking*
มาแว้ววววว~
อัพต่อด้วยความไว กลัวไม่มีเวลาอัพ
เดี๋ยวอาทิตย์หน้าต้องไปช่วยงานที่คณะ TT
ติดตามกันต่อด้วยนะฮร้าาา
รัก รัก รัก
♥
ความคิดเห็น