ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( n u ' e s t ) My Friend | คนนี้กูขอ | MINREN [ จบ ]

    ลำดับตอนที่ #12 : :: CH. 11 ตก หัก โครม!! ::

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 55


    11

     

     

                      กด...

     

                       ไม่กด...

     

                       กด...

     

                       ไม่กด..

     

                       โอ้ยยย เมื่อคืนป่าวประกาศออกไปเองแท้ๆ ว่าจะไม่มาให้เห็นหน้าอีก แต่นี่อะไร ยังไม่ทันจะครบ 24 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ แต่มินฮยอนกลับมายืนอยู่หน้าประตูบ้านของเร็น ..เฮ้อ ! ถ้าไม่ติดว่าเจอาร์มันติดต่อมึงไม่ได้กูก็ไม่มาหรอก

     

                       “อ้าว มินฮยอน”

     

                       “สวัสดีครับ”

     

                       “มาหามินกิเหรอ” คุณนายชเวเดินถือตะกร้าผ้าที่ซักแล้วออกมาจะมาตากหน้าบ้านเห็นชายหนุ่มหน้าตาคุ้นๆ ยืนอยู่หน้าประตู เธอวางตะกร้าผ้าเอาไว้ก่อนจะเดินเข้าไปเปิดประตูให้มินฮยอนเข้ามาในบ้าน

     

                       “เอ่อ.. ครับ พอดีมีเรื่องด่วนนิดหน่อย”

     

                       “ด่วนมากไหม เจ้านั่นไม่อยู่บ้านหรอก ออกไปกับยูซังตั้งแต่เที่ยงๆ แล้ว” 

     

                      ยูซัง.. ไอ้บ้านั่นอีกแล้วเหรอ

     

                       “งั้นฝากบอก...”   

     

                       “อะ.. นั่นไง มินกิมานั่นแล้ว บอกกันเองแล้วกันนะ แม่ขอตัวไปตากผ้าก่อน”  คุณนายชเวชี้ไปที่ข้างหลังมินฮยอน เขาหันตามไปดู เห็นไอ้ตัวเล็กกำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางเขาแล้ว พอเร็นเงยหน้าขึ้นมามองสบตากับเขาเข้าพอดี ขาสั้นๆ นั่นก็สะดุดล้มทันที ก็ใครมันจะไปคิดล่ะว่าอยู่ๆ มันจะมาโผล่หัวที่หน้าบ้านเขาแบบนี้ เจ็บตัวเลยไหมล่ะ

     

                       มินฮยอนพอเห็นเร็นสะดุดขาตัวเองล้มก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยพยุงตัวให้ลุกขึ้น ก่อนจะคิดได้ว่าเขาโกรธกันอยู่ก็สายไปซะแล้ว

     

                       “ขอบใจ”

     

                       “เฮอะ! ออกไปกับไอ้นั่นมา ขาแข้งไม่มีแรงเลยหรือไง”

     

                       “มึง..มาทำไม”  เร็นพยายามเก็บอารมณ์โมโหเอาไว้ แล้วถามออกไป

     

                       “งานโอเพนเฮ้าส์ของคณะวันอาทิตย์หน้า พวกรุ่นพี่ยุนโฮเรียกให้ไปรวมตัวกันวันจันทร์นี้ กูจะกลับวันพรุ่งนี้ ตอนเย็นๆ”

     

                       “กูกลับด้วย!

     

                       “จะกลับตอนไหนก็เรื่องของมึงสิ จะมากลับพร้อมกูทำไม”

     

                       “รอกูด้วยนะ”

     

     

     

     

    +++++++++++++++++++++++++++

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                      

     

     

                       เร็นแบกกระเป๋าเป้สัมภาระที่ขมมาสะพานขึ้นหลัง หลังจากที่เพิ่งลงมาจากรถเมล์ เขารีบวิ่งไปยังหน้าสถานีรถไฟฟ้า KTX ทันที มองไปรอบๆ เพื่อหาใครบางคนที่ตัวสูงๆ แต่ก็ไม่มี หรือว่ายังไม่มา? แต่นี่ก็เย็นแล้วนะ สี่โมงกว่าแล้ว หรือมันจะหนีเขากลับไปก่อนแล้ว?

     

                       ......

     

                       ...

     

                       ..

     

                       พระอาทิตย์เริ่มตกดิน ความมืดเริ่มเข้ามาเยือนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังไร้วี่แววของไอ้คนตัวสูง เร็นยังคงนั่งรออยู่ที่หน้าสถานีรถไฟไม่ขยับไปไหน แต่ดูเหมือนตอนนี้เขาต้องไปแล้วล่ะ ถ้าขืนกลับมืดกว่านี้กว่าจะกลับไปถึงหอคงดึกมาก

     

     

                       ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเร็นก็มาถึงโซลโดยสวัสดิภาพ เขาลงจากรถแท็กซี่ที่มาส่งหน้าหอพัก ก่อนจะเดินขึ้นหอ แต่กลับถูกมือใครบางคนกอดรั้งเอาไว้จากด้านหลัง เร็นหันไปมองด้วยความตกใจ และเสยศอกเข้าให้ที่คางคนนั้นเต็มๆ ...ยามวัยกลางคนที่เฝ้าหอพักนี้เป็นประจำในช่วงดึกๆ และแน่นอนว่า กำลังเมาได้ที่เลย  

     

                       “เฮ้ยลุง! ปล่อยผมนะเว้ยครับ”

     

                       “อารายยยยหื้ออ? เป็นสาวเป็นนางแทนตัวเองว่าผม แบบนี้มันใช้ไม่ได้” ยามยิ้มหวานให้เร็นไปทีนึง ตาปรือๆ นั่นก็แทบจะปิดสนิท เร็นอยากจะช่วยถ่างตายามให้แหกขึ้นมาดูเหลือเกินว่า.. กูผู้ชายครับลุง!

     

                       “ใช้ไม่ได้อะไรล่ะ เฮ้ย! เดี๋ยวลุง จะลากผมไปไหน ผมเป็นผู้ชายนะเว้ย”  ยามคนนั้นเริ่มออกแรงลากเร็นไปด้านหลังหอพักที่เป็นพงหญ้ารกๆ อีชิบหาย! ที่อื่นได้ป่ะ กูกลัวงูกัดตายห่าซะก่อน TT 

     

                       “แนะๆ ยังจะบอกว่าเป็นผู้ชายอีก~ เดี๋ยวลุงพิสูจน์เองอีหนู~                  

                      

                       อีหนูพ่อง!! ;____;

     

                       เร็นอาศัยจังหวะที่ยามกำลังเผลอถีบผลักเข้าไปที่กลางลำตัว ทำให้ยามเซถลาล้มลงไปด้านหลัง เร็นเลยใช้ช่วงนั้นรีบหยิบเป้แล้วลุกขึ้นหนี แต่ยังไม่ทันไร อีลุงยามคนนั้นก็ตะครุบเข้าที่เข้าเท้าเขาไว้ได้ทัน

     

                       ไอ้ห่าเอ้ย เห็นเป็นผู้ใหญ่นะเว้ย ไม่อยากทำเลย แต่ในเมื่อตื้อไม่เลิกแบบนี้..

     

                       ผลัวะ!!

                      

                       เร็นเหวี่ยงกระเป๋าเป้เข้าไปที่หน้ายามนั่นเต็มๆ แต่แม่งเสือกคว้ากระเป๋าไว้ได้ทันอีก เร็นเลยใช้เท้าข้างที่ว่างกระทืบลงไปบนมือที่เกาะข้อเท้าเขาไว้เต็มแรรง แน่นอนว่ามันได้ผล ยามนั่นนอนกุมมือของตัวเองด้วยความเจ็บปวด เขาเลยรีบวิ่งไปคว้าเป้แล้วรีบวิ่งออกไปที่หน้าหอพัก

     

                       “ไอ้เชี่ยเอ้ย คนแมนขนาดนี้มองเป็นผู้หญิงได้ไงวะ  โอ๊ะ! ขอโทษครับ..”  เร็นวิ่งมองหน้ามองหลังเพื่อลอบดูว่าไอ้ยามนั่นตามมาหรือเปล่า แต่ไม่ทันได้มองข้างหน้า ทำให้ชนกับคนๆ นึง .. อะ เหมือนสวรรค์โปรด คนที่เร็นชนเมื่อกี้คือ ฮวังมินฮยอน

     

                       “มะ.. มินฮยอน”

     

                       “...” ไอ้คนตัวสูงไม่ตอบ กลับมองเลยไปที่ข้างหลังเร็น เห็นยามวิ่งตามมาด้วยอาการกระหืดกระหอบผสมกับความเมา และความแก่ -__-

     

                       “จะหนีลุงไปไหนฮึ? อีหนู มามะ~ ลุงจะพิสูจน์ความแมนของหนูเองงง”

     

                      

                       เลิกยุ่งกับกูเถอะครับลุง ;________;

     

                       เร็นรีบวิ่งไปหลังมินฮยอนทันที ถึงแม้ว่ามินฮยอนจะหน้าหวาน แต่อย่างน้อยความสูงก็ช่วยเขาไว้ไม่ให้ถูกมองว่าเป็นผู้หญิงเหมือนกับที่เร็นโดนเป็นประจำ

     

                       “แม้แต่ยามมึงก็ไม่เว้นเลยหรือไง มินกิ”

     

                       พ่อมึงสิมินฮยอน พูดเหี้ยอะไร TT

     

                       “ลุงมันเมา มึงดูหน้าเขาดิ”

     

                       “อ้าว.. พาเพื่อนมาด้วยเหรออีหนู สวยพอๆ กันเลยนี่.. แต่สูงไปหน่อยน้า~

     

                       “โอ้ยลุง เลิกเมาเหอะ ผมผู้ชาย ไอ้เวรนี่ก็ผู้ชาย ลุงก็ผู้ชาย ลุงจะเอาเหรอ” เร็นยังคงชะโงกหน้าออกไปเถียงลุงยาม

     

                       แม่งเอ้ย เดี๋ยวก็แก้ผ้าโชว์ซะตรงนี้ซะหรอก

     

                       “เอา!!...

     

                       ซ่าาา~

     

                       เย้ มินฮยอนเล่นสงกรานต์.. ไม่ใช่ มินฮยอนสาดน้ำดื่มในขวดที่ถือลงมาด้วยเข้าไปที่หน้าลุงยามเต็มๆ พอโดนน้ำเย็นๆ แบบนั้นดูเหมือนคนเมาจะได้สตินิดหน่อย.. ย้ำว่าแค่นิดหน่อย

     

                       “ลุง.. ถ้ากลับไปตอนนี้ผมจะไม่เอาเรื่อง แต่ถ้ายังเมาไม่เลิกแบบนี้ผมจะแจ้งเจ้าของหอพักนะครับ” มินฮยอนว่านิ่งๆ

     

                       “...”

     

                       สลดจ้า ยามคนนั้นสลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด ก้มหน้าคอตกหางลู่ลงไปทันทีอย่างเห็นได้ชัด แต่มันก็แค่แป๊บเดียว ยามเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับแสยะยิ้มด้วยฟันหลอๆ เร็นอยากจะขำที่ลุงยามฟันหลอ แต่มันไม่ใช่เวลา เลยได้แค่กลั้นหัวเราะ มินฮยอนเลยหันมาส่งสายตาดุๆ ให้

     

                       “อย่ามาขู่เลย ส่งอีหนูนั่นมา!!

     

                       โอ้ย จะเอาให้ได้เลยใช่ป่ะลุง!!

     

                       “ลุงผมเป็น... เฮ้ย!!! มินฮยอน! มึงทำอะไรลุงอะ”

     

                       เร็นกำลังจะเงยหน้าขึ้นมาเถียง แต่ยังไม่ทันจะเถียงลุงยามคนเดิมก็ลงไปนอนนับดาวอยู่ที่พื้นซะแล้ว คือไม่ต้องสงสัยเลยจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น รอยตีนมินฮยอนประทับอยู่บนหน้าขนาดนั้น... ตายป่ะวะลุงเอ้ย ;____; 

     

                       มินฮยอนก้มลงไปหยิบเข็มกลัดป้ายชื่อยามขึ้นมาถือไว้ ก่อนจะเดินไปที่สำนักงานหอพัก กระจกบานใสเผยให้เห็นโต๊ะที่ว่างเปล่า เจ้าของหอพัก หรือแม้แต่ลูกจ้างไม่มีใครอยู่สักคน เขาเลยถือวิสาสะเดินเข้าไป พร้อมกับเขียนโน้ตอะไรบางอย่าง และวางมันไว้ที่โต๊ะกับเข็มกลัดป้ายชื่อยามคนนั้น

     

                       “มึงทำอะไรน่ะ”

     

                       “...”  มินฮยอนไม่ตอบอีกเช่นเคย เขาหมุนตัวเดินกลับขึ้นห้องพัก เร็นเลยรีบวิ่งตามขึ้นไป

     

                       ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด!!

                        

     

     

     

     

     

     

     

    ++++++++++++++++++++++++++

     

     

     

     

     

     

     

                               แม่! มินฮยอนมันไม่ใช่แฟนผมนะ!!’

     

                            ไม่ใช่เดี๋ยวก็ใช่ กลับโซลไป.. ไม่สิ ตอนนี้เลย! ไปง้อเขาแล้วก็อธิบายทุกอย่างซะ

     

                            แม่! เรื่องอะไรผมจะทำ

     

                            เดี๋ยวแกก็ทำ

     

                                 ไม่ ผมไม่ทำแน่นอน

     

                       ใช่.. ผมไม่ทำอย่างแน่นอน คนอย่างมินกิมีเหรอจะง้อนอื่นก่อนน่ะ ฝันไปเถอะ ในเมื่องอนเองได้ก็หายเองได้ แต่ที่ตื่นแต่เช้าขึ้นมาเพื่อมาทำแซนวิสนี่ไม่ได้ง้อนะ ไม่ได้ง้อเลย!! แค่ทำให้กินเฉยๆ ไม่ได้ง้อเลย!!

     

                       โว๊ะ... โอเค ก็ได้ เร็นกำลังง้อมินฮยอนอยู่ เขาตื่นมาแต่เช้าเพื่อมาทำแซนวิสทูน่าที่รูปร่างโคตรอุบาทว์ตา กินเข้าไปไม่รู้จะตายหรือเปล่า และที่ทำนี่ก็เพราะว่าจะตอบแทนเมื่อคืนที่มินฮยอนช่วยเขาไว้ด้วย

     

                       พอดีกับที่เร็นทำแซนวิสชิ้นสุดท้ายเสร็จมินฮยอนก็ออกมาจากห้อง เขามองเร็นกับแซนวิสหน้าตาทุเรศๆ สลับกันไปมา เร็นยื่นจากแซนวิสไปตรงหน้าแต่มินฮยอนกลับเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวที่พาดอยู่บนโซฟาเดินเข้าห้องน้ำไป

     

                       “ชิ! ไม่กินก็ไม่ต้องกิน!! 

     

                       เร็นหยิบจานแซนวิสมานั่งกินที่โซฟาพร้อมกับเปิดทีวีดูอย่างสบายอารมณ์ เขากดเปลี่ยนรีโมทสลับช่องไปมา สุดท้ายก็ไม่มีอะไรดูนอกจากซีรี่ย์น้ำเน่า ทนดูไปเหอะ ดีกว่าต้องไปดูรายการสัตว์โลกน่ารักที่ลิงชิมแปนซีไล่ล่าผสมพันธุ์กันอย่างดุเดือด

     

                       เร็นกำลังจะกัดแซนวิสคำสุดท้ายเข้าปาก แต่ถูกอีกคนมาแย่งมันไป.. มินฮยอนเองแหละไม่มีใครหรอก เขาแย่งมันไปและยัดเข้าปากไปหน้าตาเฉย โธ่ ที่จริงก็อยากกินใช่ไหมล่ะ  เร็นเผลอยิ้มออกมาน้อยๆ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าให้เป็นปกติ

     

                       “นี่นาย! เลิกงอนเป็นเด็กได้แล้วน่า” 

     

                       ไม่ใช่เสียงเร็น... แต่เป็นเสียงนางเอกจากซีรี่ย์น้ำเน่าที่เร็นเปิดค้างเอาไว้เมื่อกี้

     

                       “ใครงอน”

     

                       “นายไง! ฉันก็บอกแล้วว่าฉันกับเขาเราไม่มีอะไร เป็นแค่เพื่อนกันเฉยๆ”

     

                       โอ้ยย หนังอะไรมันจะเจาะลึกตรงประเด็นสถานการณ์ระหว่างสองคนนี้แบบนี้ ใช่ ในซีรี่ย์เป็นฉากที่พระเอกกำลังงอนนางเอกเรื่องที่นางเอกแอบหนีออกไปแรดกับผู้ชายคนอื่น และพระเอกก็ตามไปเจอพอดี

     

                       “เลิกแก้ตัวได้แล้ว!” ทั้งคู่หันไปมองหน้าจอทีวีอย่างไม่ละสายตา

     

                       “ฉันไม่ได้แก้ตัว..อื้อ!

     

                       อุตะ! ยังไม่ทันที่นางเอกของเราจะได้เถียงใดๆ ก็ถูกพระเอกจูบปิดปากซะก่อน พระนางนอกจอของเราก็เบือนหน้าหนีจากจอทีวีทันที แต่สายตากลับพลันมาเจอะ! กันจนได้ มินฮยอนกระแอมไอดังๆ แก้เขิน แล้วเปลี่ยนเรื่องคุย  

     

                       “อะ แฮ่ม อื้ม.. พี่ยุนโฮนัดเจอกันตอนสิบโมงที่หน้าตึก B

     

                       “สิบโมง.. อ้อ อื้ม สิบโมง”  

     

                       เร็นเดินเข้าห้องตัวเอง หัวใจที่มันเต้นจนแทบจะหลุดออกมานี่มันควบคุมไม่ได้เลยจริงๆ เพราะมินฮยอนอีกแล้ว..

     

                       ......

                       ....

                       ...

                       ..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                       “มินฮยอน ช่วยเร็นยกป้ายขึ้นไปติดหน่อย” ยุนโฮหันมาสั่งหลานรหัสตัวเองที่กำลังยกโต๊ะไปวางที่หน้าซุ้มเพื่อวางของ มินฮยอนหันไปมองเร็นกำลังพยายามยกป้ายชื่อซุ้มอันใหญ่ด้วยตัวเอง มันใหญ่เกินตัวเร็นไปตั้งเยอะนะ

     

                       “ผมต้องไปช่วยพี่จูฮยอนข้างในหอประชุม”

     

                       “อ้าวหรอ.. งั้นซึงซอลก็ได้ เฮ้! ซึงซอล ช่วยเร็นมันยกป้ายหน่อย เดี๋ยวพี่จะคอยดูอยู่ตรงนี้ว่ามันตรงไหม”

     

                       ซึงซอลรีบวิ่งเข้าไปช่วยเร็นยกป้ายขึ้น เพราะด้วยความที่เป็นไม้ บวกกับความใหญ่ ทำให้ยากที่จะยกกันแค่ 2 คน แต่เร็นกับซึงซอลก็ยกมันขึ้นได้ เร็นค่อยๆ ก้าวขาขึ้นไปยืนบนเก้าอี้สูงเพื่อที่จะได้ติดป้ายเอาว้เหนือซุ้ม ไม่อยากจะคิดเลยถ้ามันตกลงมามันจะเป็นยังไง

     

              “ตรงไหมพี่” ซึงซอลตะโกนถาม ยุนโฮค่อยๆ ถอยหลังไปมองป้าย

     

                       “เร็น สูงขึ้นอีกนิด”

     

                       เร็นยกแขนขึ้นสูงตามที่รุ่นพี่บอก

     

                       “ไม่ตรงว่ะ ซึงซอลขยับซ้ายนิดนึง เร็นยกให้สูงอีกหน่อย” เมื่อยกจนสุดแขนเร็นเลยต้องเขย่งขาช่วย ไอ้เก้าอี้นี่ก็สั่นเฮงซวยเหลือเกิน อย่าตกนะเว้ย หน้าแหกนะเว้ย TT

     

                       “มินฮยอน ช่วยพี่ดูหน่อย มันตรงไหม” ยุนโฮกวักมือเรียกมินฮยอนให้มายืนข้างๆ

     

                       “มึง.. ขวาหน่อย” มินฮยอนชี้เร็น คนตัวเล็กก็เขยิบขาไปทางขวาอีกนิด แม่ง อย่าให้เขยิบอีกนะ กูตกเลยนะมินฮยอน

     

                       “อีกนิด”

     

                       “พอยัง.. เฮ้ย!

     

                       โครมม!!

     

                       “ชิบหายแล้ว”

     

                       เร็นขยับตัวตามที่มินฮยอนบอก แต่ดันก้าวพลาดตกเก้าอี้จนได้ ซึงซอลพยายามจะจับป้ายไว้ไม่ให้ร่วงลงไปทับตัวเร็น แต่เพราะความที่มันหนักมาก คนเดียวเอาไว้ไม่อยู่ มันเลยตกลงไปกระแทกขาเร็นซ้ำอีก

     

                       “เป็นอะไรไหม”

     

                       มินฮยอนรีบวิ่งเข้าไปดูเร็นทันที เขายกป้ายออกไปให้พ้นจากขาเร็น และจับขาข้างที่โดนทับเบาๆ  แต่ยังไม่ทันจะกดมือหนักลงไป เร็นก็ร้องโอดครวญขึ้นมาซะแล้ว ใบหน้าที่บิดเบี้ยวกับหน้าที่ขึ้นสีทำให้เขารู้ทันทีว่าเร็นเจ็บมากจริงๆ

     

                       “อย่าจับ... เจ็บ”

     

                       “เฮ้ย! เร็น เป็นอะไรมากไหม แจจุง มาดูน้องหน่อย” แจจุงที่เป็นสต๊าฟพยาบาลรีบวิ่งเข้ามาดูอาการเร็น เขากดมือลงไปหนักๆ บริเวรหน้าแข้ง

     

                       “โอ้ยย! พี่แจจุง เจ็บครับ”

     

                       “สงสัยขาจะหัก..เดี๋ยวพี่จะเอาไม้ดามขาเร็นไว้ก่อนนะ ยุนโฮ ไปเอารถมา จะพาเร็นไปโรงพยาบาล”

     

                       “ครับๆ”

     

                       ยุนโฮวิ่งไปที่ลานจอดรถเพื่อที่จะถอยรถมารับเร็น ส่วนแจจุงก็หาไม้ขนาดกำลังดีเพื่อที่จะมาดามขาเร็นเอาไว้ พร้อมกับผ้าพันแลผที่พันขาเร็นเอาไว้กับไม้

     

                       “พอจะลุกไหวไหม”

     

                       “ครับ” เร็นพยายามลุกขึ้นโดยมีแจจุงกับมินฮยอนคอยประคอง ยืนอยู่ได้ไม่นานเขาก็ทรุดตัวลงไปใหม่ ความเจ็บที่แล้นผ่านไปทั่วทั้งขาทำให้เร็นไม่มีแรงที่จะยืนได้จริงๆ มินฮยอนเลยช้อนตัวเร็นขึ้นมาอุ้มเอาไว้ทันที

     

                       “มินฮยอน! มึงปล่อยกูลงนะ”

     

                       “เร็นอย่าดิ้น! เดี๋ยวจะเจ็บมากกว่านี้” แจจุงหันมาปราบเร็น

     

                       “อยู่เฉยๆ เดี๋ยวตายห่าขึ้นมากูจะไม่มีรูมเมท”

     

                       กูขาหักนะรู้สึก ไม่ได้เป็นเอดส์

     

                       “อ้าวเฮ้ย! มินกิมึงเป็นอะไร” เจอาร์กับแบคโอที่เพิ่งออกมาจากหอประชุมวิ่งเข้ามาหาเร็นกับมินฮยอนที่กำลังยืนรอรถยุนโฮ

     

                       “กูตกลงมาจากเก้าอี้”

     

                       “แล้วมึงตกลงมาได้ไง จะตายห่าไหมเนี่ย” แบคโฮมองที่ขาเร็น

     

                       “มึงแหละที่จะตายห่า..”

     

                       “เลิกเถียงกันได้แล้ว ยุนโฮมานั่นแล้ว”

     

                       ทันทีที่รถยุนโฮจอดเทียบแจจุงก็เปิดประตูหลังให้มินฮยอน เขาค่อยๆ วางเร็นลงกับเบาะรถนุ่มๆ อย่างเบามือ ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ขึ้นอีกฝั่งหนึ่ง ส่วนแจจุงก็กระโดดขึ้นเบาะหน้าเรียบร้อย







    .
     

    ................................................


    Talking*


    ชื่อตอนนี้มันคืออะไร 55555
    ติดตามกันต่อไปเรื่อยๆ นะคะ เม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์บ้างก็ดีเน้อ
    เค้าอ่านทุกคอมเม้นจริงๆ นะ ชอบอ่าน อยากรู้ว่าที่แต่งไปถูกใจกันหรือเปล่า

    ข่าวร้ายของวันนี้ก็คือการที่เด็กๆ ของพวกเราไม่มีชื่อเข้าชิงงานมาม่า
    ไม่เป็นเนอะ งานนี้โหวตทีไรต้องมาม่าตามชื่องานทุกที
    แค่เลิฟทุกคนอยู่ข้างๆ เด็กๆ ก็พอแล้วนะคะ
    แต่ก็แอบเป็นห่วงความรู้สึกเด็กๆ TT

     รัก NU'EST ตัวน้อยๆ ของไรท์เตอร์ (?) ให้มากๆ นะคะ

    ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ^^




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×