ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( n u ' e s t ) My Friend | คนนี้กูขอ | MINREN [ จบ ]

    ลำดับตอนที่ #10 : [ Special Fiction | MINHYUN - JR | :: I'm Sorry ] 100%

    • อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 55


     

    I'm Sorry

    [SF: Minhyun*JR]






     

    100 % แล้วจ้าาา :D

     

    ผมไม่รู้ว่าผมเป็นแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว...

     

    และผมก็ไม่รู้ว่า...

     

    ...ทำไมผมยังลืมเขาไม่ได้สักที

     

     

    มันเป็นแบบนี้ทุกวัน ผมมักจะคอยแอบเอาขนมที่เขาชอบมาแขวนไว้หน้าตู้ล็อคเกอร์ เช่นเดียวกับวันนี้... ผมเปลี่ยนจากขนมที่เขาชอบมาเป็นดอกคาร์เนชั่นที่เขาชอบมากๆ

     

    จงฮยอน... หวังว่านายจะมีความสุขที่เห็นมันนะ

     

    ผมยิ้มให้กับดอกไม้และล็อคเกอร์ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปยังห้องเรียน 

     

    ผมกับจงฮยอนเราเคยคบกันมาปีกว่า ช่วงนั้นพวกเราอยู่ม.ปลายปี 2 ผมคิดว่าความรักครั้งนี้แหละ ผมจะหยุดอยู่ที่เขา และเขาก็จะหยุดอยู่กับผม แต่มันไม่ใช่... จนกระทั่งเมื่อสามเดือนก่อนที่เขามาบอกเลิกผมด้วยเหตุผลงี่เง่า “ผมมันดีเกินไป” บางทีผมก็ไม่เข้าหรอกนะ ในเมื่อผมดีขนาดนี้แล้วทำไมถึงเลิกกับผมล่ะ? แต่หลังจากนั้นไม่กี่อาทิตย์ผมได้ข่าวว่าเขาถูกหมั้นหมายกับผู้หญิงคนหนึ่ง... เธอชื่อยูอารา ลูกสาวคนเดียวของท่านผอ.โรงเรียนแห่งนี้

     

    “มินฮยอน”

     

    เสียงเรียกที่คุ้นเคยไล่ตามหลังผมมา ทำให้ขาผมหยุดชงักทันที แต่ผมก็ไม่ได้หันกลับไปมอง กลัวสายตาที่มองผม กลัวว่าจะมีใครอีกคนยืนอยู่ๆ ข้างเขา ซึ่งไม่ใช่ผม ใช่ ผมกำลังกลัวมากๆ

     

    “มินฮยอน”

     

    จงฮยอนค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาผม จนเสียงที่เรียกชื่อผมอยู่ห่างจากหลังไปไม่ถึงสามก้าว ในใจผมตอนนี้อยากจะหันกลับไปและกอดเขาไว้แน่ๆ แต่นั่นก์เป็นเพียงแค่ความคิด ผมทำไม่ได้หรอก ผมทำไม่ได้แล้ว...

     

    “เอาคืนไป”

     

    “...”

     

    เจ็บ.. บางทีนายควรเอามันไปแล้วเอาทิ้งที่ไหนสักทีก็ได้ อย่าปฏิเสธกันแบบนี้เลย ขอร้อง ผมหันไปเผชิญหน้ากับเขา จงฮยอนยื่นดอกคาร์เนชั่นที่ผมเสียบไว้ที่ล็อคเกอร์เมื่อกี้มาตรงหน้าผม

     

    “ฉันให้แล้ว ไม่รับคืน”

     

    “แต่ฉันไม่อยากได้!!

     

    “จงฮยอน! หยุดเถอะ หยุดทำร้ายจิตใจกันได้แล้ว แค่เลิกกับนาย แค่ทุกวันนี้ไม่มีนายอยู่ข้างๆ ฉันก็เจ็บมากพอแล้ว” ผมหันหลังและก้าวเดินออกไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ผมก็หยุด เพราะผู้หญิงคนที่ชื่ออาราเพิ่งเดินสวนกับผมไปหาจงฮยอน ผมหันกลับไปมองด้วยหางตา ทั้งคู่เดินออกไปจากตรงนั้น ผมเลยเดินกลับเข้าห้องเรียนของผมมั่ง

     

    ผมคงหมดความสำคัญกับเขาแล้วจริงๆ

     

    ผมกลับเข้ามานั่งที่โต๊ะตัวเอง เห็นไอ้พวกลิงสามตัวนั่นกำลังนั่งเล่นปั่นแปะอยู่ข้างๆ โต๊ะผม ผมเลยเดินไปนั่งที่โต๊ะตัวเองอย่างเซ็งๆ ผมอยากลืมเขาได้จริงๆ นะ จะได้เลิกเป็นคนอมทุกข์แบบนี้

     

    “เป็นอะไรของมึงอีกวะมินฮยอน” อารอนลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ ผม

     

    “เปล่า”

     

    “เปล่าอะไร ดูหน้ามึงดิ ไปเจอจงฮยอนกับอารามาสิท่า” มึงจะรู้ดีเกินไปละแบคโฮ -___-

     

    ผมเงียบ

     

    “มึงลืมเขาไปเถอะ สามเดือนแล้วนะเว้ย หาคนใหม่ได้แล้ว มาคบกับกูก็ได้มา กูโสดตัวเท่าควาย”

     

    “มึงเป็นเมียกูนะ” แบคโฮหันไปว่าเร็น

     

    “กูเหรอ? กูได้กับมึงตอนไหนล่ะ”

     

    “ตอนนี้แหละ”

     

    “มึงสองคนนี่ เลิกเถียงดิ๊... มินฮยอน! ถ้ามึงลืมเขาไม่ได้มึงก็ไม่ต้องลืม”

     

    “แล้วมึงจะให้มันทุกข์หน้าอมขี้อยู่แบบนี้เหรออารอน” แบคโฮเลิกเถียงกับเร็นและเริ่มหันมาสนใจอารอนแทน.. ผมก็ไม่รู้ว่ามันต้องการจะให้ผมทำอะไรกันแน่ ไม่ให้ลืมงั้นเหรอ.. ผมก็เจ็บอยู่คนเดียวน่ะสิครับ

     

    “เปล่า กูหมายถึง มึงก็ทำทุกวิธีทางให้จงฮยอนกลับมาหามึง”

     

    “กูจะทำอะไรได้ เขาหมั้นกับอาราไปแล้ว มึงจะให้กูไปถอนหมั้นเขาเหรอ”

     

    “มึงทำได้แน่”

     

    อะไรของมัน

     

     

    N      U          E     S     T









     

    “นั่นไง เหยื่อของมึงมานู่นแล้ว มินฮยอน” ผมกับอารอนแอบอยู่ที่มุมตึก กำลังเฝ้ามองจงฮยอนกับอาราที่เดินคล้องแขนกันมาแต่ไกล แฟนเก่าผมหันไปยิ้มให้กับคนข้างๆ ผมล่ะอดหมันไส้ไม่ได้จริงๆ ตอนนี้ทำเป็นเข้ม ตอนคบกับผมนี่อย่างกับลูกแมว อ้อนเก่งเป็นที่หนึ่งเลยล่ะครับ ไม่งั้นผมไม่รักไม่หลงขนาดนี้หรอก

     

    “ให้กูทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แบบนั้นมันดีแน่เหรอวะ รู้สึกหน้าด้านๆ ยังไงก็ไม่รู้”

     

    “ด้านได้อายอดนะเว้ย หรือมึงจะยอมเห็นคนที่มึงรักไปรักกับคนอื่นก็ตามใจ กูจะได้กลับบ้านละ” อารอนทำท่าจะเดินหนีผมกลับบ้าน แต่.. เออ เอาก็เอา ถ้าไม่ใช่จงฮยอนผมไม่ตื้อขนาดนี้หรอกนะจะบอกให้

     

    “เออๆ กูยอมแล้ว”

     

    “ดี!... แบคโฮ เริ่มแผนการได้” อารอนโทรหาแบคโฮ ไม่นานผมก็เห็นแบคโฮกับเร็นอยู่ที่มุมตึกอีกฝั่งหนึ่ง ไอ้สองคนนั้นพยายามผลักใครบางคนไปขวางทางจงฮยอนเอาไว้

     

    “ผู้ชายคนนั้น... ใครวะ”

     

    “จางดูยุน มันอยู่ห้อง 4 ก่อนหน้าที่อาราจะมาคบกับจงฮยอน...”

     

    “....”

     

    “สองคนนี้เคยคบกันมาก่อน”

     

    “ฮะ?”

     

    “กูคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างอารากับแฟนมึงมันต้องมีอะไรบางอย่าง”

     

    “อะไร”

     

    “กูไม่รู้ค้าบ มึงไสหัวไปหาจงฮยอนได้ละ ก่อนที่เขาจะหนีไป” ผมถูกไอ้เพื่อนเวรนี่ผลักออกไป ไม่สิ ถีบครับ! มันถีบผม ประจวบเหมาะกับที่จงฮยอนเดินมาทางผมพอดีก็เลย ...

     

    “เฮ้ย!!

     

    ครับ.. อย่างที่ทุกคนคิด ผมถลาออกไปชนกับจงฮยอนพอดีเราทั้งคู่ล้มลงไปนอนที่พื้นอย่างสบายใจ โชคดีนะที่ผมพลิกตัวลงพื้นได้แทนที่จะเป็นเขา จงฮยอนเลยล้มทับตัวผมแทน แต่ผมเจ็บแล้วล่ะครับ หลังคนกับพื้นปูนนะ ให้ตายเถอะ อารอนเดี๋ยวกูจะเอาคืนมึงมั่ง TT

     

    “มิน.. มินฮยอน!

     

    “อือ ฉันเอง อ่า.. ตัวนายมันหนักขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมแกล้งแซวเล่นๆ เขาเลยรีบยันตัวลุกขึ้นไปยืน แฟนผมคนนี้ปัดเสื้อตัวเองสองสามทีก่อนจะค้อนใส่ผมแล้วตั้งท่าจะเดินหนีผมไปซะงั้น

     

    “ไม่คิดจะช่วยกันหน่อยหรือไง”

     

    “...” จงฮยอนหยุดเดิน แต่ก็ยังไม่หันกลับมาหาผม จนถึงตอนนี้ผมไม่ชอบให้เขาหันหลังให้ผมจริงๆ ผมไม่ชอบเลยจริงๆ ...

     

    “โอ๊ยยย.. หลังฉัน มันต้องหักแน่ๆ”  ถึงผมจะเป็นผู้ชายแต่มารยาในตัวผมมันก็มีนะครับ เอาไว้ตอนที่อ้อนแฟนที่น่ารักของผมคนนี้ไง คุณๆ ก็ลองเอาไปใช้ได้นะครับ ผมไม่ถือ ^^

     

    “วุ่นวาย”

     

    ฮะ? เขาว่าผมเหรอ เดี๋ยวก็จับจูบมันซะตรงนี้เลย

     

    “ว่าใคร”

     

    “ว่านายไง! รีบๆ ลุกขึ้นมาได้แล้ว!!” จงฮยอนเดินกลับมา เขายื่นมือเล็กๆ นั่นมาตรงหน้าผม ผมเลยสนองความต้องการยื่นมือไปจับไว้แล้วดันให้ตัวเองลุกขึ้นมา ผมอาศัยความไว้ในการฉวยโอกาสจุ้บไปข้างๆ ริมฝีปากอีกคน แต่ไม่โดนปากเขานะครับ ถ้าโดนผมคงไม่หยุดไม่ได้แน่ๆ เจ้าตัวตาลุกโต ผมแอบเห็นหน้าเขาแดงหน่อยๆ น่ารักชิบหายเลยครับ ^^

     

    “มินฮยอน!!

     

    “หื้มม?”

     

    “อย่าทำแบบนั้นอีก”

     

    “ทำไมล่ะ ก็คนเป็นแฟนกัน..”

     

    “เราเลิกกันแล้ว”

     

    จุกสิครับ... ผมสตั๊นไปประมาณห้าวินาทีก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าทำเป็นหน้าด้านต่อไปตามที่อารอนมันบอก

     

    “คบได้ก็เลิกได้ เลิกได้ก็คบใหม่ได้ ไม่เห็นจะมีอะไรแปลก”

     

    “พอเถอะ.. อย่าอยู่ใกล้กันอีกเลยมินฮยอน”

     

    แฟนผมนี่เก่งดีนะครับ... เรื่องทำร้ายจิตใจคนที่รักเนี่ย

     

    “แต่อย่างน้อยก็น่าจะรับผิดชอบกันหน่อยนะ ตอนนี้หลังฉันมันระบบไปหมด เพราะเมื่อกี้”

     

    “แล้วใครใช้ให้เอาหลังไปกระแทกพื้นล่ะ”

     

    คุณแฟนครับ ถ้าผมไม่เอาหลังลงแทนหน้าคุณก็คงจะฟาดกับพื้นนะครับ

     

    “โอเค ไปก็ได้ ไม่คิดว่าแฟนเก่าจะใจดำขนาดนี้”

     

    “นายว่าใคร”

     

    “ใครอยากรับก็รับไป”

     

    “ชิ! ตามมาสิ!

     

    ผมบอกแล้วว่าคิมจงฮยอนคนนี้น่ารักเป็นไหนๆ ^^

     

     

     

     

     

     

     

     

    [JR’s talk]

     

    ผมแวะเข้ามินิมาร์ทเพื่อซื้อน้ำแข็ง กับยาทาแก้ฟกช้ำ ก่อนจะพาไอ้แฟนเก่าตัวดีไปนั่งในสวนสาธารณะที่อยู่ใกล้ๆ กับโรงเรียน  เมื่อก่อนผมกับเขาก็ชอบมานั่งเล่นกันที่นี่เวลาที่ไม่มีเรียนหรือหลังเลิกเรียน มินฮยอนเขาเคยบอกกับผมว่าเขาชอบบรรยากาศที่เงียบสงบแบบนี้ อากาศสบายๆ แบบนี้ และเขาก็เคยบอกว่า ชอบที่จะเห็นหน้าผมแบบนี้ด้วย...

     

    ช่างมันเถอะครับ ! เรื่องมันผ่านไปนานมากแล้ว อยู่กับปัจจุบันดีกว่า ปัจจุบันที่มินฮยอนกำลังคุกคามผมด้วยสายตา ตาก็ตี่ยังจะชอบจ้องอีก

     

    “มองอะไร”

     

    “มองแฟน”

     

    “แฟนเก่า”

     

    “จะเป็นแฟนเก่าได้ยังไง ในเมื่อเวลาที่ผ่านมา... ฉันยังไม่เคยมีคนใหม่”   

     

    คิดว่าฉันอยากมีคนใหม่หรือไง ถ้าไม่ใช่เหตุผลบางอย่าง...

     

    “หันหลังไป”

     

    “...” เขาเงียบและหันหลังไปตามที่ผมบอกอย่างว่าง่าย

     

    “ถอดเสื้อ”

     

    “ฮะ???” มินฮยอนหันมาทำท่าตกใจใส่ผม อะไร... ผมพูดอะไรผิดงั้นเหรอครับ? ก็เขาบ่นว่าเจ็บหลังไม่ใช่หรือไง ถ้าไม่ถอดเสื้อแล้วผมจะทำแผลให้ยังไงล่ะ

     

    “อะไร.. ถอดเสื้อออกเร็วๆ” เขายังทำท่าตกใจไม่เลิก แต่ก็ค่อยๆ ถอดเสื้อนักเรียนออก แล้ววางไว้ข้างๆ ตัว ยอมรับว่าตอนนี้ผมทำอะไรไม่ค่อยถูกแล้วครับ มือสั่นไปหมด กับอีแค่แผ่นหลังของแฟนเก่า ผมสะบัดหัวใส่ความคิดบ้าๆ นั่นออกไป และเริ่มลงมือปฐมพยาบาลโดยการเอาน้ำแข็งมาห่อใส่ผ้าเช็ดหน้าและประคบไปบนแผ่นหลังกว้างๆ คนที่มาออกกำลังกายวิ่งผ่านมินฮยอนไปเขาก็แอบยิ้ม ผมก็ไม่รู้ว่ายิ้มทำไม มินฮยอนเลยหยิบเสื้อมาคลุมหน้าอกของตัวเอง

     

    ผมไม่คิดว่าหลังเขาจะแดงเป็นแถบขนาดนี้ เราชนกันก็ไม่แรง แต่ตอนล้มลงไปผมแอบได้ยินเสียงดังอัก ถ้าเป็นผมป่านนี้คงหลังหักตายอยู่ตรงนั้นแน่ๆ

     

    “ขอบคุณนะ”

     

    “หื้ม? เรื่องอะไรล่ะ”

     

    “ก็เรื่องนี้ไง” ผมกดน้ำแข็งในมือลงไปหนักๆ เรียกเสียงร้องโอดครวญจากมินฮยอนได้ดีเลยล่ะครับ

     

    “โอ้ยยย เจ็บนะครับ คุณแฟน”

     

    “เก่า”

     

    “...”

     

    “...”

     

    “มันก็ยังดีกว่าที่คนเจ็บเป็นฉัน ไม่ใช่นาย

     

    มินฮยอนหันกลับมาหาผม ดวงตาคมของเขาที่เคยจ้องมองผมตลอดเวลา แม้กระทั้งตอนนี้ ผมก็ยังเห็นเงาของตัวเองในตาคู่นั้น ใบหน้าของเราค่อยๆ เคลื่อนเข้าหากันอย่างๆ ช้า ริมฝีปากเราสัมผัสกันอย่างนุ่มนวล และค่อยๆ ทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผมปล่อยร่างกายและใจไปกับสัมผัสนั่น แขนทั้งสองข้างของผมเผลอยกขึ้นคล้องคอเขาไว้ มินฮยอนกัดริมฝีปากล่างผมเบาๆ ก่อนที่ลิ้นอุ่นๆ นั้นจะแทรกเข้ามากวาดชิมความหวานไปทั่วทั้งโพรงปาก

     

     

    ฉันจะสอนให้คนอย่างมินฮยอนรู้จักกับความเจ็บปวด

     

    เธอจะทำอะไรเขา... ยูอารา

     

    นายไงจงฮยอน... เลิกกับเขา แล้วมาคบกับฉันซะ

     

    แน่นอนว่าฉันจะไม่ทำมัน

     

    ก็ได้ จะไม่ให้ความร่วมมือกับฉันก็ได้... แต่ต้องทนเห็นภาพบาดตาบาดใจนิดหน่อยนะ ถ้าต้องเห็นคนที่นายรัก...

     

    ...

     

    ...เจ็บเจียนตาย

     

     

    คำพูดของยูอาราแล่นผ่านเข้ามาห้วงความคิด ทำให้ผมรีบผลักมินฮยอนออกทันที แล้วรีบคว้ากระเป๋าลุกขึ้นจะเดินหนี แต่ผมยังไม่ทันจะได้เดินไปไหนมือของเขาก็ฉุดแขนผมเอาไว้ ผมไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปมองหน้าเขา ผมกลัว... กลัวใจตัวเองจะห้ามไว้ไม่ได้อีกต่อไป เพราะตอนนี้หัวใจของผมกำลังเรียกร้องเขาอย่างหนักหน่วง มีเพียงแค่ร่างกายของผมเท่านั้นที่ผมสามารถบังคับได้

     

    “จงฮยอน...”

     

    “...”

     

    “ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

     

    ฉันไม่ได้โกรธนายเลยมินฮยอน ฉันไม่เคยโกรธนายเลย..

     

    “...”

     

    “ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันทำอยู่มันไม่ควร เพราะเราเลิกกันแล้ว แต่...”

     

    “แต่นายก็ทำมัน ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจ... ปล่อย ฉันต้องกลับไปหาอารา”

     

    “เลิกพูดถึงผู้หญิงคนนั้นได้แล้ว!” เสียงตวาดของเขาทำให้ผมตกใจจริงๆ มินฮยอนไม่เคยตวาดใส่ผมเลย แต่คราวนี้เขาคงโกรธผมมากจริงๆ ผมอยากให้เขาเข้าใจ ว่าสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่นี่.. ก็เพื่อตัวเขาเอง

     

    “ขอร้องล่ะจงฮยอน อย่าทำร้ายจิตใจฉัน ฉันรักนายมากจริงๆ” แขนแกร่งของเขาโอบกอดผมจากด้านหลัง ผมอยากจะหันหลังกลับไปแล้วกอดเขากลับ ผมอยากทำแบบนั้น.. แต่สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือ แกะมือเขาออกไปจากตัวผม และก้าวเดินห่างออกมาจากเขา

     

    “ตั้งแต่วันนี้... เราไม่ควรยุ่งเกี่ยวกันอีก”

     

    น้ำตาที่ผมอดกลั้นเอาไว้เมื่อกี้ไหลออกมาอย่างไม่มีวี่แววว่าจะหยุด ยิ่งผมปาดทิ้งมันก็ยิ่งไหลออกมา พอสักที ผมกับเขามันหยุดอยู่แค่วันนี้เท่านั้น วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะร้องไห้เพราะเขา    

     

    “คิมจงฮยอน”

     

    “อารา!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    [Minhyun’s talk]

     

    ผม.. ผมควรจะทำอะไร ตอนนี้ผมควรจะทำอะไร หน้าด้านๆ ของผมตอนนี้มันรู้สึกแสบและเจ็บไปหมดแล้วล่ะครับ จงฮยอนไม่คิดแม้แต่จะให้กลับมาคุยกับผม  ทำไม... มันเป็นเพราะอะไร?? เขาลืมผมไปแล้วเหรอครับ เขารักยูอารามากกว่าผมไปแล้วจริงๆเหรอครับ... เขาใจร้ายกับผมมากเกินไปหรือเปล่า

     

     ผมมองไปตามทางที่จงฮยอนเดินออกไป ไม่มีแม้แต่เงาของคนตัวเล็กที่จะเดินกลับมาหาผม.. เฮอะ! น่าตลกสิ้นดี ผมทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ ข้างๆ ตัวผมเป็นผ้าเช็ดหน้าของจงฮยอนที่วางทิ้งเอาไว้ น้ำแข็งกับยาทาที่เขาอุตส่าซื้อมาให้ผม ถ้าคนที่เขาหมดรักกันแล้วจริงๆ จะเป็นห่วงกันขนาดนี้เหรอครับ

     

    “มิน.. มินฮยอน”  ผมรีบเงยหน้าทันที เมื่อเท้าคู้หนึ่งหยุดอยู่ตรงหน้าผม รองเท้าคู่นี้ที่จงฮยอนใส่เป็นประจำ.. และคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมก็เป็นเขาจริงๆ ผมลุกขึ้นและคว้าตัวเขามากอดไว้ทันที เขากลับมาหาผมแล้ว ผมไม่ปล่อยเขาไปอีก สาบานได้ว่าผมจะไม่ปล่อยเข้าไปอีกแล้ว !

     

    “จงฮยอน ฉันจะไม่ปล่อยนายไปอีกแล้ว...”

     

    “รักกันมากนะ มินฮยอน จงฮยอน”

     

    “ยูอารา”

     

    จงฮยอนผลักผมออกแล้วเดินกลับไปหาอารา เขาพยายามขวางไม่ให้ยูอาราเดินเข้ามา แต่สุดท้ายเธอก็ดันจงฮยอนให้ไปพ้นทางและค่อยๆ เดินเข้ามาหาผม แววตาที่แข็งกร้าวจ้องผมไม่วางตา แหมือนผมจะเคยเจอเธอที่ไหน... แววตาที่เคยมองผมแบบนี้...

     

    “จำฉันไม่ได้เหรอ นึกให้ออกสิมินฮยอน! นึกให้ออกว่าฉันเป็นใคร!!

     

     

     

     

    5 ปีที่แล้ว...

     

    มินฮยอน.. เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเรียกเด็กผู้ชายตัวสูงเอาไว้ก่อนที่เขาจะเดินผ่านเธอไป

     

    เรียกเราเหรอ

     

    อื้ม.. ผ้าพันคอฉันถักมาให้นาย ลมหนาวที่พัดมากระทบร่างให้แก้มป่องๆ ของเด็กหญิงแดงระเรื่อขึ้น ไม่รู้ว่าเพราะอากาศหนาวหรือเพราะเด็กชายคนตรงหน้ากันแน่ที่ทำให้เธอหน้าแดงขนาดนี้

     

    อ่อ ขอบใจนะ ว่าแต่เธอชื่ออะไร?

     

    อารา.. ยูอาราจ้ะ ^^’

     

    อารา... เอาไว้เจอกันใหม่นะ

     

    อื้มม ^^’  

     

    มินฮยอนวิ่งกระหืดกระหอบไปที่สนามฟุตบอลในโรงเรียน เขานัดกับเพื่อนๆ เอาไว้ วันนี้ครึ่งวันบ่ายไม่มีเรียนจะเตะบอลให้ลืมโลกไปเลย เขาวางสัมภาระรวมทั้งผ้าพันคอผืนหนาที่อาราให้มาเมื่อกี้วางไว้ใต้ต้นไม้ปะปนกับเพื่อนๆ อย่างเคยชิน ก่อนจะออกวิ่งไปเตะบอลกลางสนาม

     

    เวลาร่วมสามชั่วโมงที่เด็กนักเรียนชั้นป.6 วิ่งไล่แย่งลูกบอลกันอยู่ในสนาม จนกระทั่งพระอาทิตย์เริ่มตกดินพวกเขาถึงได้แยกย้ายกันต่างคนต่างกลับบ้าน มินฮยอนวิ่งไปหยิบกระเป๋าของตัวเองและเดินกลับบ้านไป โดยลืมที่จะมองหาผ้าพันคอของอารา เพราะทั้งความไม่ใส่ใจและใครบางคนเอามันไปจากที่ตรงนั้น... จางดูยุน

     

     

     

     

     

    “เธอ... เด็กผู้หญิงที่เอาผ้าพันคอมาให้ฉัน?”

     

    “ขอบคุณที่ยังจำมันได้ และก็ขอบคุณที่รับผ้าคอฉันในตอนนั้น และทิ้งมันอย่างไม่ใยดี !

     

    “ฉันไม่ได้ทิ้ง.. แต่ตอนนั้นฉันวางเอาไว้กับกระเป๋าและฉันก็ไม่เห็นมันตอนที่ฉันกลับบ้าน...”

     

    เพียะ!

     

    ผ่ามือเล็กๆ ของเธอฟาดลงมาที่แก้มของผมเต็มๆ ผมไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ ทั้งนั้น เพราะตอนนี้ผมกำลังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น และพยายามเอาเรื่องราวมาประติดประต่อกัน

     

    “โกหก!! นายทิ้งมัน นายทิ้งมันไว้ สภาพมันไม่ต่างอะไรจากผ้าขี้ริ้ว ถ้าดูยุนไม่เก็บมันมาให้ฉันดู ฉันก็คงจะไม่รู้หรอก ว่านายทำร้ายจิตใจฉันใจนาดนี้!!” น้ำตาคลอหน่วยอยู่เต็มสุดท้ายก็ไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้างของเธอ ดวงตาที่แข็งกร้าวจ้องมองผมอย่างไม่ลดละ

     

    “ดูยุน?”

     

    “นี่ไงล่ะจางดูยุน คนที่เก็บผ้าพันคอกลับมาคืนเธอ แฟนของเธอ และคนที่หลอกลวงเธอ ยูอารา” อารอนเดินเข้ามาหาพวกเราพร้อมกับแบคโฮ เร็น และก็... ดูยุน อารอนผลักหลังดูยุนให้มายืนข้างๆ กับอารา ผมเลยดึงแขนจงฮยอนให้มาหลบอยู่ข้างหลังผม

     

    “ฮะ?”

     

    “ไม่ต้องแปลกใจหรอก เอ้า ! เล่าไปให้หมด ว่านายทำอะไรไว้บ้าง” แบคโฮบอก

     

    “คือ..”

     

    “พูดเซ่ ไม่พูดเดี๋ยวพ่อก็ตบให้เลือดกบปากซะหรอก” เร็นทำท่าจะเข้ามาตบดูยุนจริงๆ แต่ถูกแบคโฮดึงคอเสื้อเอาไว้ซะก่อน

     

    “นายจะพูดอะไร ดูยุน”

     

    “เรื่องทั้งหมด มันเป็นเพราะฉัน”   

     

    “...”

     

    “ฉันเอาผ้าพันคอที่เธอให้มินฮยอนไปฉีก และทำให้สภาพมันไม่ต่างอะไรจากขยะ และฉันเองที่ใส่ร้ายว่ามินฮยอนทิ้งมันไว้ ทั้งๆ ที่ฉันไปขโมยมันมา”

     

    “ดะ..ดูยุน”

     

    “เพราะฉันรักเธอมากไง ฉันไม่ต้องการให้เธอไปชอบผู้ชายคนไหน! และฉันก็ทำสำเร็จ ฉันเป่าหูให้เธอเกลียดมัน และหันมาชอบฉันแทน!!

     

    “ดูยุน.. ทำไม.. นายทำแบบนั้นทำไม!!

     

    “เพราะรักไง จนกระทั้งตอนนี้ฉันก็ยังรักเธอ การที่เธอไปไหนมาไหนกับจงฮยอน ถึงแม้มันจะเป็นการแสดง แต่ฉันก็ยังอดที่จะหวงไม่ได้!! อารา ฉันอยากหยุดเรื่องพวกนี้แล้ว เราหยุดมันไว้แค่นี้ และฉันกับเธอ เรากลับมาคบกันเหมือนเดิม..นะ”

     

    ดูยุนจับไหล่ของอาราและจ้องลึกเข้าไปในตาของเธอ ผมเริ่มเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วล่ะครับ มันเกิดจากความไม่รู้ของอารา และความอิจฉาของดูยุน ถ้าผมไม่รับผ้าพันคอผืนนั้นมาซะตั้งแต่แรกคงไม่เกิดเรื่องบานปลายขนาดนี้ และผมคงไม่ทำให้คนที่ผมรักเจ็บปวดขนาดนี้

     

     

    “ไม่! ฉันไม่กลับไปคบกับนายแน่ ดูยุน!” อาราวิ่งหนีออกจากที่ตรงนั้น ดูยุนเลยรีบตามไป แต่ก่อนที่จะไปเขาหันกลับมาหาพวกเรา และพูดอะไรบางอย่าง

     

    “ขอโทษ ฉันไม่รู้จะชดใช้มันยังไง เพราะสิ่งที่เสียหายคือความรู้สึก แต่ยังไง ฉันก็ขอโทษมันจากใจจริง”

     

    “เฮ้อออ ว่าแล้วมันต้องมีบางอย่าง เดาผิดที่ไหน”

     

    “แฟนกูเก่งจัง” แบคโฮเดินเข้ามาโอบเอวอารอน

     

    “แฟนพ่อมึงสิ”

     

    “แล้วที่จงฮยอนคบกับอาราคืออะไร กูงง”

     

    “โอ้ย มึงนี่เข้าใจยากเย็น ก็อาราใช้จงฮยอนเป็นเครื่องมือแก้แค้นมึงไง เธอข่มขู่ให้จงฮยอนเลิกกับมึง และไปคบกับเธอ ไม่งั้น อาราจะตามทำร้ายมึง”

     

    “ฮะ?”

     

    “แฟนมึงนี่สุดยอดใช่ไหมล่ะ กูไม่สงสัยเลยว่าทำไมมึงถึงรักเขามากขนาดนั้น”

     

    “มินฮยอน มึงตามไปง้อเมียมึงเถอะ เดินไปนู่นแล้ว” เร็นชี้ไปข้างหลังผม จงฮยอนกำลังตั้งหน้าตั้งตาเดินหนีผม แต่ทางเขาเดินหนีผมนั่นมันทางตันนะ 555555 เอาเถอะครับ ดีแล้ว จะได้ไม่เหนื่อยวิ่งตาม

     

    ผมรีบวิ่งไปและดึงจงฮยอนเข้ามากอดเอาไว้ คราวนี้จริงจังแล้วล่ะครับ ผมไม่ปล่อยเขาจริงๆ  อะไรจะเกิดผมก็จะอยู่ข้างๆ เขาตลอดไป

     

    “ปล่อยนะ”

     

    “เดี๋ยวปล่อย”

     

    “มินฮยอน!

     

    “ทุกอย่างก็คลี่คลายแล้วนะ”

     

    “แล้วไงล่ะ”

     

    “แล้วไงอะไรล่ะ เราก็กลับมาเป็นแฟนกันเหมือนเดิมแล้วไง”

     

    “ใครบอก”

     

    “หน้านายมันฟ้อง”

     

    “บ้าหรือไง!!!

     

    โอยยย จงฮยอนฟาดมือลงมาบนแขนผมล่ะครับ เจ็บกว่าอาราตบหน้าผมอีก ทำไมวันนี้มีแต่เรื่องเจ็บตัวนะ

     

    “เอ้า หรือไม่จริง หรือว่านายแอบชอบอาราไปแล้วจริงๆ”

     

    “มินฮยอน”

     

    “อะ..อะไร” ผมเริ่มกลัวแล้วครับ อยู่ดี จงฮยอนก็จ้องผมด้วยสีหน้าจริงจัง เขาชอบอาราจริงๆ.. เหรอครับ ไม่เอานะ

     

    “สามเดือนที่ผ่านมาฉันมีอาราอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา”

     

    “...”

     

    “เธอทำให้ฉันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก”

     

    “จงฮยอน..”

     

    “ขอโทษนะ”

     

    เฮ้ย.. มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะครับ ดูสีหน้าเขาสิ ผม... เฮ้ย ! มันไม่ใช่อะ ผมว่าผมต้องโดนไอ้ตัวเล็กนี่อำแน่ๆ จริงๆ เลยเถอะ ต้องแก้เผ็ดกลับไปซะมั่ง

     

    “ก็ได้.. ฉันจะไปจากนายเอง ฉันยอมแพ้แล้ว” ผมดันเขาออกและตั้งท่าจะเดินหนีเขา แต่ก็เป็นอย่างที่ผมคิด จงฮยอนวิ่งมาดักหน้าผมเอาไว้ สีหน้าตื่นๆ ของเขาทำเอาผมอยากจะจับจูบซะสองสามที

     

    “มินฮยอนนน ฉันล้อเล่น”

     

    “...”

     

    “ล้อเล่นจริงๆ นะ”

     

    “มันใช่เรื่องที่สมควรเอามาล้อเล่นไหม”

     

    “ขอโทษ”

     

    “ฉันไม่ใช่ของเล่น”

     

    โอ้ย ขำครับ ดูหน้าเขาสิ 555555 ผมอยากจะลงไปนั่งขำกับพื้นจริงๆ

     

    “มินฮยอน...”

     

    เขาเขยิบเข้ามาใกล้ผมมากกว่าเดิม สองแขนเขาโน้มคอผมลงมาและประกบลงที่ริมฝีปากผมเบาๆ เพียงแค่แตะสัมผัสลงมาเบาๆ  เท่านั้น แต่ผมกลับรู้สึกถึงหัวใจของคนตัวเล็กที่กำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ ผมเองเหมือนกัน ใครจะไปรู้ล่ะครับ ว่าอยู่ดีๆ จะทำตัวน่ารักแบบนี้ เมื่อกี้ยังเถียงผมแว้ดๆ อยู่เลย

     

     “ฉันแค่จะบอกว่า อาราแค่ทำให้รู้สึกดี แต่คนที่ทำให้ฉันรู้สึกรัก... คือนายต่างหาก”

     

    “จงฮยอน”

     

    “อะ..อะไร”

     

    “มานี่สิ”

     

    เขามองผมอย่างลังเล ผมเลยต้องโอบเอวเขาเข้ามาใกล้ๆ

     

    “ทำอย่างเมื่อกี้ใหม่สิ”

     

    “ทำอะไร”

     

    “จูบไงที่รัก”

     

    “ของดีมันมีแค่ครั้งเดียว”

     

    “งั้นทำเองก็ได้”

     

    “ไอ้บ้า โรคจิต ปล่อยเลย จะกลับบ้านแล้ว”

     

    “เดี๋ยวไปส่งน่า แต่ก่อนไป จุ๊บแก้มก็ได้อะ หยวนๆ” ผมยื่นแก้มไปใกล้ๆ เขา จงฮยอนเขาก็ดันหน้าผมออกจนคอแถบจะหลุด ผมบอแกแล้วว่าแฟนผมน่ารัก ตอนนี้คุณก็ยิ้มตามผมใช่ไหมล่ะ 55555 ผมว่าผมกำลังกลายเป็นคนที่มีความสุขในโลกหลังจากที่อมทุกข์มานานสามเดือน

     

    “หยวนบ้าอะไรล่ะ ปล่อยนะ”

     

    “จูบก็ไม่ทำ หอมแก้มก็ไม่เอา เดี๋ยวก็จับปล้ำมันซะตรงนี้เลยดีไหม”

     

    “นายมันบ้าไปแล้ว TT

     

    “บ้ารักจงฮยอน”

     

    “เขินนะเฮ้ย”

     

    “จะทำให้เขินทุกวันเลยครับที่รัก”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    [JR’s talk]

     

    วันรุ่งขึ้น

     

    วันนี้เป็นวันหยุด ผมเลยแวะเอาของกินที่แม่ทำให้มาให้มินฮยอน นี่ก็เที่ยงพอดี ป่านนี้คงจะยังไม่ตื่น คุณไม่รู้หรอกครับ ว่ามินฮยอนสุดหล่อของทุกคนตื่นสายแค่ไหน เมื่อก่อนผมต้องแวะมาปลุกเขาตอนเช้าทุกๆ วัน มันน่าเบื่อมากเลยครับกับการปลุกไอ้เด็กขี้เซาให้ตื่น ผมเข้าใจหัวอกแม่ที่ต้องปลุกผมทุกเช้าเลย

     

    ผมใช้คีย์การ์ดที่มินฮยอยเคยให้ไว้ไขเข้าห้องมินฮยอน เขาอาศัยอยู่หอพักคนเดียว เพราะครอบครัวของเขาอยู่ที่ปูซาน น่าสงสารเนอะ TT

     

    นั่นไง! ผมเจอศพแล้ว นอนอืดอยู่บนเตียงนั่นไงครับ คราวนี้ผมควรจะปลุกยังไง? เอาน้ำสาด เอาไฟเผาผ้านวม หรือยัดระเบิดใส่เข้าไปในหูเขาดี ? เฮ้อออ

     

    “มินฮยอน ตื่นได้แล้ว”

     

    “อือ เดี๋ยวตื่นครับแม่”

     

    ฉันไม่ใช่แม่นายนะ TT

     

    “มินฮยอน ฉันเอง แม่นายที่ไหนล่ะ”

     

    “ก็แม่ทูนหัวไงจ๊ะ” มินฮยอนลืมตาขึ้นมาฉีกยิ้มแล้วก็ฉุดผมลงไปนอนบนเตียง เขากดผมไว้กับเตียง ส่วนเขาก็ขึ้นมาคร่อมผมไว้เรียบร้อย หื้อออ ทำไมชอบแกล้งกันจังเลยนะ

     

    “เลิกเล่นได้แล้วน่า ตื่นไปอาบน้ำแล้วก็มากินข้าวกัน”

     

    “ไม่อยากกินข้าว อยากกินแฟน”

     

    “บ้า ลุกไปอาบน้ำเลย”

     

    “วันนี้ความสุขจริงๆ เป็นวันที่ฉันอยากตื่นขึ้นมาแล้วเจอหน้านายเป็นคนแรก”

     

    “ก็เจอแล้วนี่ไง”

     

    “ฉันรู้สึกมีความสุขจนไม่รู้จะเก็บไว้ที่ไหนแล้ว”  

     

    “หยุดพูดได้แล้ว เหม็นปาก”

     

    “บ๊องเอ๊ย”

     

     เขาเขกหัวผมทีนึงก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ ผมเลยลุกตามแล้ววิ่งไปขวางหน้าห้องน้ำ ไม่ได้ปวดฉี่หรอกนะครับ แค่...

     

    “อะไรครับ หื้ม?”

     

    จุ๊บ

     

    “มอร์นิ่งคิส”

     

    E N D



     

    ...................................

     

    Takling*


    เฮ้ย เฮ้ย! เฮ้ย!!
    SF โผล่มาจากไหนเน้อ 555555
    สวัสดีค่ะ เอา SF มาแปะป้าบ แล้วหนูจะชิ่งหนี >< 
    ล้อเล่นนน
    วันนี้สอบผ่านไปอีกหนึ่งตัว แล้วก็หยุดไปอีก 6 วัน เลยพอมีเวลามาอัพค่ะ ^^
    รอให้สอบเสร็จแบบโล่งๆ หนูจะรีบมาอัพให้ทันทีเลยนะ

    ..............

    มาอัพจนครบ 100% พรุ่งนี้ต้องกลับไปอ่านหนังสือแล้ววว TT
    อวยพรให้หนูได้เอด้วยนะคะ 5555

    ฝากมินเจไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของแฟนเพลงด้วยนะฮร้าาา ~
    ปุอิ๊ง ปุอิ๊ง ♥
    (แบ๊วตามอารอน 555)





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×