ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 4: คำตอบและคำถามขององค์หญิง
และแล้ว องค์ชายทั้งหลายก็มาจนครบจนได้ เล่าเอาอาเอลปวดมือเพราะโบกมากไป ยิ้มก็ค้างหุบไม่ได้เพราะเหงือกแห้งซะแล้ว รันน่อนเป็นคนเชิญองค์หญิงไปทานข้าวเช้าทุกครั้ง เหล่าองค์ชายหันมามองเป็นแถว ทำให้อาเอลภูมิใจเล็กๆ พระสหายที่เป็นราชองครักษ์เธอก็ไม่ได้หล่อแพ้หรอกนะ ดีไม่ดีจะหล่อกว่าด้วย เธอมาถึงห้องอาหารใหญ่แล้ว รันน่อนเชิญเธอไปที่โต๊ะแล้วถอยออกไป องค์ราชาและราชินีนั่งลงแล้วจึ่งเชิญเหล่าองค์ชายเข้ามาได้ บางคนดูท่าจะอบรมมาดี เรียบร้อยมาก แต่บางคนดูท่าทางจะลืมหมดหรืออยากให้เห็นธาตุแท้ไม่ทราบ อาเอลกลืนน้ำลายด้วยความพะอืดพะอม ก่อนที่จะหันไปเรียกรันน่อนเข้ามาคุย จะได้ไม่ต้องสบตาใคร
“รันน่อน~~ มีความคิดดีๆที่จะเอาชั้นออกจากที่นี่ไหม”
“ข้าเองไม่มีคำแนะนำอะไร เจ้าทำที่เจ้าต้องทำเถอะ”
“ทุกอย่างมันเป็นเพราะเจ้า ไปส่งเสริมบิดาข้า”
“ยังไงเจ้าก็หนีไม่ได้อยู่ดี กัดฟันทำไป หมดวันก็จบแล้ว”
รันน่อนถอยออกไป อาหารเข้ามาเสิร์ฟแล้วยิ่งเห็นธาตุแท้แต่ละคนมากขึ้น เธอหันไปมองมารดา เธอทำหน้าเหมือนว่าไม่ชอบใจเช่นกัน อย่างน้อยเธอก็มีแนวร่วมละ องค์ราชาไม่แสดงท่าที แต่เธอคาดว่างานนี้จะมีคนไม่ได้รับบัตรเชิญยามบ่ายหลายคนแล้ว เธอหันกลับไปทานอาหารเรียบร้อย บิดามารดาเท่านั้นที่เธอจะไม่ทำให้เสียหน้าเด็ดขาด ส่วนรันน่อนยืนหัวเราะเบาๆอยู่คนเดียว สงสัยหัวเราะเยาะแน่ๆเลย
“(เสร็จงาน นายต้องตาย รันน่อน)”
. . .
อาหารเช้าจบลง ต่อด้วยการมอบของขวัญ เธอต้องมาเปิดทีละกล่องๆแล้วพูดขอบคุณแบบถนอมน้ำใจ ที่จริงแล้ว เธอเองใช้คำพูดฉะแบบแสบๆไปบ้าง ระบายความเครียด อย่างองค์หนึ่งให้เธอเป็นสร้อยเพชรเม็ดใหญ่น้ำงาม เธอเห็นแล้วไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เพราะเธอเกลียดเครื่องเพชร องค์ชายผู้ไม่รู้เรื่องเห็นเธออึ้งไปก็กล่าว
“ข้าเห็นว่าหากประดับอยู่รอบคองามระหงขององค์หญิง จะทำให้องค์หญิงสวยมากขึ้นไปอีก”
อาเอลระบายความเครียดด้วยการยิ้มแล้วพูดโจมตีแบบแนบเนียน
“ข้าต้องขอขอบคุณมาก แต่หากว่าการที่องค์ชายพูดเช่นนี้ เหมือนดั่งว่าข้าเองนั้นยังงามไม่พอ จนต้องให้เครื่องเพชรนี้มาเสริม”
“คือข้าไม่. . .งามมากขึ้นก็ยิ่งประเสริฐนะขอรับ องค์หญิง”
“ขอบคุณองค์ชายอย่างมาก ข้าจะไว้พิจารณาก็แล้วกัน”
เธอพูดเหมือนจะให้กำลังใจให้ยิ้มหน้าบานลงไป ก่อนจะส่งของขวัญไปข้างหลังพร้อมโน้ตสั้นๆ
“อย่าให้ผ่าน”
รันน่อนรับไปแล้วพยักหน้านิ่งๆ ก่อนจะจับมือเธอเบาๆเป็นการให้กำลังใจ อาเอลกุมมือเขาแล้วกลับไปกัดฟันรับหน้าต่อ จบช่วงเช้าแล้ว จดหมายเชิญยามบ่ายไม่ถึง 10 ฉบับถูกส่งออกไปอย่างลับๆให้เจ้าชายที่กำลังเดินทางกลับ บางองค์แม้ไม่ได้จดหมายเชิญกลับรั้งอยู่กับที่ รอช่วงบ่ายใกล้เข้ามาโดยหวังพิชิตใจองค์หญิง. . .
. . .
รันน่อนนั่งอยู่ที่ด้านล่างของหอคอยขององค์หญิง อาเอลกำลังเปลี่ยนชุดไปงานรอบบ่าย ระหว่างที่เขากำลังนั่งเหม่ออยู่ก็มีเสียงคุ้นๆมาทัก
“รันน่อนนนนนน”
“ไม่แต่งตัวหรือ องค์หญิง?”
อาเอลในชุดคนรับใช้ลงมาจากหอคอย เธอนั่งหันหลังชนกับเขาพลางบ่น
“แค่คิดก็เซงแล้ว ตอนบ่ายนี่ชั้นต้องเป็นตุ๊กตาโดนชักใยแหงๆ”
“ปกติเจ้าก็ชอบเต้นนี่นา”
“เอาที่ไหนมาพูด?”
“ก็ข้าเห็นเจ้าเต้นคนเดียวในห้องอยู่เรื่อยนี่”
อาเอลหันมาอ้าปากค้าง ก่อนจะตบหัวราชองครักษ์ 1 ป้าบ
“อะไรอีกล่ะแม่คุณ?”
“นายแอบดูชั้นตอนไหนกันเนี่ย!?!”
“เป็นความผิดของเจ้าที่ไม่ยอมปิดประตูให้สนิทเอง”
“ความผิดของข้า!?! เจ้าละเมิดสิทธิข้านะ!!”
“ใครจะไปรู้ ได้ยินเสียงฮัมเพลงกับเสียงก้าวเท้า ข้าเลยนึกว่าเจ้าเป็นบ้า”
“โป้ก!!”
“ตีหัวข้าอีกที ข้าจะให้เจ้าได้เสียใจแน่”
“อะไร? เจ้าจะทำอะไร?”
“ข้าก็จะให้วงดนตรีเล่นเพลงเร็วติดๆกันจนกว่าองค์ชายจะเวียนครบ”
“เจ้าจะให้ข้าขาลากรึไง”
“อย่าตบหัวข้า”
รันน่อนปัดมือเธอออกจากหัว เธอก็ยังกดหัวเขา เรื่องอะไรเธอจะยอม?
รันน่อนจิ้มจึ้กเข้าที่สีข้างเธอ อาเอลสะดุ้งปล่อยมือออกจากหัวเขา เธอรีบกดลงอีกครั้งแต่รันน่อนขยับตัวหลบ เธอกดลมและล้มสะดุดเก้าอี้ลงไปนอนหน้าปักพื้นหญ้า
“องค์หญิงรับประทานอาหารไม่ถูกปาก อยากจะกินหญ้าก็บอกสิขอรับ”
อาเอลยันตัวขึ้นแล้วเริ่มวิ่งไล่ตบเขา รันน่อนหัวเราะฮาๆก่อนจะวิ่งหลบเธอไปจนถึงต้นไม้ใหญ่ในสวนข้างหอคอย เขาปีนอย่างคล่องแคล่วขึ้นไปนั่งอยู่บนกิ่งไม้ ทิ้งให้อาเอลยืนมองเขาแบบยัวะๆอยู่ด้านล่าง
“รันน่อน ฟาเอลล์ ลงมานะ!!”
“ลงไปทำไม? ข้าชอบที่จะอยู่บนนี้”
“เจ้าลิงกัง!!”
“ดีกว่าเจ้าแล้วกัน กินหญ้าเป็นวัว”
“เจ้า!!”
เธอถอดรองเท้าขว้างใส่เขา รันน่อนรับอย่างแม่นยำ อาเอลเริ่มถีบต้นไม้จนไหวไปตามแรงเธอ รันน่อนยังคงนอนสบายใจเฉิบ
“สมกับที่ได้พรจากเทพไททัน แรงเยอะจริงๆ”
อาเอลเลิกถีบแล้วหันหลังพิงต้นไม้อยู่อย่างนั้น รันน่อนกลับสู่ใบหน้าเฉยชาเช่นเดิม ทั้งคู่อยู่แบบนั้นไปพักหนึ่ง อาเอลก็พูดขึ้น
“ขี้โกง เจ้าก็รู้ว่าข้าโค่นต้นไม้นี่ไม่ได้”
“ไม่งั้นข้าจะขึ้นมาทำไม?”
“ข้าอยากทานอาหารใต้ต้นไม้นี่อีกซักครั้งจัง”
“ก็เอาสิ”
“ครั้งนี้เจ้าจัดตาราง ห้ามให้ข้าไปไหนอีกล่ะ”
“ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าไปไหนหรอกน่า”
“ขอบใจ!!^^”
“ไปแต่งตัวได้แล้ว เจ้ายังต้องโดนทรมาณอีก 4 ชม.”
“มันก็เพราะนายคนเดียวแหละ!!”
อาเอลวิ่งกลับขึ้นหอคอยไป รันน่อนมองเธอหายลับไปกับขั้นบันได ใบหน้าเขายังเฉยชา แต่แววตาบอกความเจ็บปวด ใครจะรู้บ้างว่าเขารู้สึกอย่างไร . . .
. . .
งานช่วงบ่ายเริ่มต้นขึ้นโดยมีแขกในงานมากมาย ปะปนไปด้วยเจ้าชายที่ไม่ได้บัตรเชิญยามบ่ายซึ่งยังหวังพิชิตใจองค์หญิง อาเอลเริ่มรู้สึกหงุดหงิดอีกครั้ง
“(พวกหน้าม่อ มากันให้หราเชียว)”
บรรยากาศยามเย็นมีอาหารแบบบุฟเฟ่ห์ มีแขกมากหน้าหลายตาจากหลายแคว้น บ้างก็เป็นบิดามารดา ญาติโกโหติกาขององค์ชายที่เข้าและไม่เข้ารอบ อาเอลมองพวกบรรดาผู้ครองแคว้นทั้งหลายที่เข้ามาคุยกับบิดาตนเอง ในสายตาตน ไม่มีใครจริงใจเลยซักคนเดียว ทั้งหมดคงหวังให้ลูกชายมีตำแหน่งเป็นกษัตริย์องค์ต่อไปและเลื่อนระดับตัวเองเป็นเชื้อพระวงศ์อย่างเดียว แม้งานยังไม่เริ่ม แต่เธอกำหนดผลเอาไว้ในใจแล้วเรียบร้อย - จะไม่มีใครเป็นได้เธอเป็นชายาเด็ดขาด
บิดาของเธอสั่งเปิดงาน งานเต้นรำยามบ่ายเริ่มแล้ว รันน่อนต้องเต้นเปิดงานกับเธอเนื่องจากเธอไม่ได้กำหนดพิเศษว่าจะให้องค์ชายองค์ใดเปิดกับเธอ รันน่อนก้าวเข้ามาในฟลอร์เต้นรำในชุดราชองครักษ์เต็มยศ ในสายตาเธอ ชุดของรันน่อนยังดูดีซะกว่าองค์ชายบางคนซะอีก เขาเข้ามาโค้งแล้วยื่นมือออกมาให้เธอแตะ ก่อนทั้งคู่จะเริ่มเต้นรำในจังหวะ Waltz ที่เชื่องช้า
รันน่อนเองนิ่งมาก จังหวะเต้นของทั้งคู่ก็สอดคล้องกันเพราะเต้นมาด้วยกัน เธอและเขาต่างผ่านอะไรมาด้วยกันเสมอ อาเอลยิ้มจริงใจได้กับเขา รันน่อนก็ยิ้มให้เธอ แต่อาเอลดูแล้วก็รู้ นี่คือยิ้มรับแขกของรันน่อน เขาคงโกรธอะไรซักอย่าง เธอซบเข้าไปใกล้เขาแล้วกระซิบข้างหู
“รันน่อน เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ข้าไม่เป็นไร”
“โกหก คิ้วเจ้าผูกโบว์แล้ว”
“เหรอ?”
“เปล่า แต่ข้ารู้สึก”
“เจ้ารู้สึก?”
“แหง ข้าคือเพื่อนสนิทของเจ้านะ เรื่องแค่นี้ทำไมข้าจะไม่รู้”
“ . . .”
รันน่อนโอบเธอโน้มลงไป จบเพลงแล้ว เขาจ้องหน้าเธอแล้วพูดด้วยใบหน้านิ่งๆ
“เจ้ายังรู้ไม่ถึงครึ่งหรอก”
ทั้งคู่แยกจากกัน รันน่อนโค้งแล้วถอยออกไปด้วยอิริยาบถเรียบร้อย อาเอลมองเขาแบบไม่เข้าใจที่สุด เธอไม่เข้าใจความรู้สึกนี้เลย เธอไม่เข้าใจว่าสหายของเธอรู้สึกยังไง เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ก่อนที่เธอจะทันเรียกเขา องค์ชายคนแรกก็เข้ามาคว้าตัวเธอไปเต้นแล้ว
ในที่สุดก็ต้องผ่านการเต้นกับองค์ชายทั้ง 9 คนที่เต้นไม่เอาอ่าว แถมสติเธอก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วย รันน่อนขึ้นไปยืนอยู่ข้างบัลลังค์ของเธอด้วยหน้าตาเฉยเมย อาเอลรีบถอนตัวก่อนที่จะมีต่อรอบ 2 ขึ้นมาที่บัลลังค์ มารดามองเธอเป็นเชิงถามไถ่ เธอให้ใบหน้าแสดงความรู้สึกเด่นชัดแล้วหันไปหาราชองครักษ์ เขาไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว
“อาเอล เหล่าองค์ชายขอให้ลูกประกาศผล”
ตอนนี้อาเอลนั่งแทบจะไม่ติด เธอหาเขาไม่เจอ ไม่รู้ว่าเขาโกรธอะไร เธอถูกเสียงร้องขอขอเหล่าเจ้าชายที่ทำให้เธอหงุดหงิดเข้าไปอีก
“ไอ้พวกหน้าตะกวดเอ๊ยยยย” เธอกัดฟัน สวมหน้ากากเจ้าหญิงเรียบร้อย ลุกขึ้นยืนมั่น โปรยยิ้มไปทั่วทั้งห้องโถง แล้วประกาศผลที่เธอกำหนดไว้ตั้งแต่บ่าย
“ข้าไม่เลือกใครซักคน”
ก่อนที่เธอจะวิ่งลงหลังบัลลังค์ไป ทิ้งให้พวกเจ้าชายโหวกเหวกและหันมาโทษกันเอง
“เขาไปที่ไหนนะ?”
อาเอลวิ่งออกตามหาเขา เขาอยู่ที่ไหนกัน . . .
To Be Continuing . . .
“รันน่อน~~ มีความคิดดีๆที่จะเอาชั้นออกจากที่นี่ไหม”
“ข้าเองไม่มีคำแนะนำอะไร เจ้าทำที่เจ้าต้องทำเถอะ”
“ทุกอย่างมันเป็นเพราะเจ้า ไปส่งเสริมบิดาข้า”
“ยังไงเจ้าก็หนีไม่ได้อยู่ดี กัดฟันทำไป หมดวันก็จบแล้ว”
รันน่อนถอยออกไป อาหารเข้ามาเสิร์ฟแล้วยิ่งเห็นธาตุแท้แต่ละคนมากขึ้น เธอหันไปมองมารดา เธอทำหน้าเหมือนว่าไม่ชอบใจเช่นกัน อย่างน้อยเธอก็มีแนวร่วมละ องค์ราชาไม่แสดงท่าที แต่เธอคาดว่างานนี้จะมีคนไม่ได้รับบัตรเชิญยามบ่ายหลายคนแล้ว เธอหันกลับไปทานอาหารเรียบร้อย บิดามารดาเท่านั้นที่เธอจะไม่ทำให้เสียหน้าเด็ดขาด ส่วนรันน่อนยืนหัวเราะเบาๆอยู่คนเดียว สงสัยหัวเราะเยาะแน่ๆเลย
“(เสร็จงาน นายต้องตาย รันน่อน)”
. . .
อาหารเช้าจบลง ต่อด้วยการมอบของขวัญ เธอต้องมาเปิดทีละกล่องๆแล้วพูดขอบคุณแบบถนอมน้ำใจ ที่จริงแล้ว เธอเองใช้คำพูดฉะแบบแสบๆไปบ้าง ระบายความเครียด อย่างองค์หนึ่งให้เธอเป็นสร้อยเพชรเม็ดใหญ่น้ำงาม เธอเห็นแล้วไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เพราะเธอเกลียดเครื่องเพชร องค์ชายผู้ไม่รู้เรื่องเห็นเธออึ้งไปก็กล่าว
“ข้าเห็นว่าหากประดับอยู่รอบคองามระหงขององค์หญิง จะทำให้องค์หญิงสวยมากขึ้นไปอีก”
อาเอลระบายความเครียดด้วยการยิ้มแล้วพูดโจมตีแบบแนบเนียน
“ข้าต้องขอขอบคุณมาก แต่หากว่าการที่องค์ชายพูดเช่นนี้ เหมือนดั่งว่าข้าเองนั้นยังงามไม่พอ จนต้องให้เครื่องเพชรนี้มาเสริม”
“คือข้าไม่. . .งามมากขึ้นก็ยิ่งประเสริฐนะขอรับ องค์หญิง”
“ขอบคุณองค์ชายอย่างมาก ข้าจะไว้พิจารณาก็แล้วกัน”
เธอพูดเหมือนจะให้กำลังใจให้ยิ้มหน้าบานลงไป ก่อนจะส่งของขวัญไปข้างหลังพร้อมโน้ตสั้นๆ
“อย่าให้ผ่าน”
รันน่อนรับไปแล้วพยักหน้านิ่งๆ ก่อนจะจับมือเธอเบาๆเป็นการให้กำลังใจ อาเอลกุมมือเขาแล้วกลับไปกัดฟันรับหน้าต่อ จบช่วงเช้าแล้ว จดหมายเชิญยามบ่ายไม่ถึง 10 ฉบับถูกส่งออกไปอย่างลับๆให้เจ้าชายที่กำลังเดินทางกลับ บางองค์แม้ไม่ได้จดหมายเชิญกลับรั้งอยู่กับที่ รอช่วงบ่ายใกล้เข้ามาโดยหวังพิชิตใจองค์หญิง. . .
. . .
รันน่อนนั่งอยู่ที่ด้านล่างของหอคอยขององค์หญิง อาเอลกำลังเปลี่ยนชุดไปงานรอบบ่าย ระหว่างที่เขากำลังนั่งเหม่ออยู่ก็มีเสียงคุ้นๆมาทัก
“รันน่อนนนนนน”
“ไม่แต่งตัวหรือ องค์หญิง?”
อาเอลในชุดคนรับใช้ลงมาจากหอคอย เธอนั่งหันหลังชนกับเขาพลางบ่น
“แค่คิดก็เซงแล้ว ตอนบ่ายนี่ชั้นต้องเป็นตุ๊กตาโดนชักใยแหงๆ”
“ปกติเจ้าก็ชอบเต้นนี่นา”
“เอาที่ไหนมาพูด?”
“ก็ข้าเห็นเจ้าเต้นคนเดียวในห้องอยู่เรื่อยนี่”
อาเอลหันมาอ้าปากค้าง ก่อนจะตบหัวราชองครักษ์ 1 ป้าบ
“อะไรอีกล่ะแม่คุณ?”
“นายแอบดูชั้นตอนไหนกันเนี่ย!?!”
“เป็นความผิดของเจ้าที่ไม่ยอมปิดประตูให้สนิทเอง”
“ความผิดของข้า!?! เจ้าละเมิดสิทธิข้านะ!!”
“ใครจะไปรู้ ได้ยินเสียงฮัมเพลงกับเสียงก้าวเท้า ข้าเลยนึกว่าเจ้าเป็นบ้า”
“โป้ก!!”
“ตีหัวข้าอีกที ข้าจะให้เจ้าได้เสียใจแน่”
“อะไร? เจ้าจะทำอะไร?”
“ข้าก็จะให้วงดนตรีเล่นเพลงเร็วติดๆกันจนกว่าองค์ชายจะเวียนครบ”
“เจ้าจะให้ข้าขาลากรึไง”
“อย่าตบหัวข้า”
รันน่อนปัดมือเธอออกจากหัว เธอก็ยังกดหัวเขา เรื่องอะไรเธอจะยอม?
รันน่อนจิ้มจึ้กเข้าที่สีข้างเธอ อาเอลสะดุ้งปล่อยมือออกจากหัวเขา เธอรีบกดลงอีกครั้งแต่รันน่อนขยับตัวหลบ เธอกดลมและล้มสะดุดเก้าอี้ลงไปนอนหน้าปักพื้นหญ้า
“องค์หญิงรับประทานอาหารไม่ถูกปาก อยากจะกินหญ้าก็บอกสิขอรับ”
อาเอลยันตัวขึ้นแล้วเริ่มวิ่งไล่ตบเขา รันน่อนหัวเราะฮาๆก่อนจะวิ่งหลบเธอไปจนถึงต้นไม้ใหญ่ในสวนข้างหอคอย เขาปีนอย่างคล่องแคล่วขึ้นไปนั่งอยู่บนกิ่งไม้ ทิ้งให้อาเอลยืนมองเขาแบบยัวะๆอยู่ด้านล่าง
“รันน่อน ฟาเอลล์ ลงมานะ!!”
“ลงไปทำไม? ข้าชอบที่จะอยู่บนนี้”
“เจ้าลิงกัง!!”
“ดีกว่าเจ้าแล้วกัน กินหญ้าเป็นวัว”
“เจ้า!!”
เธอถอดรองเท้าขว้างใส่เขา รันน่อนรับอย่างแม่นยำ อาเอลเริ่มถีบต้นไม้จนไหวไปตามแรงเธอ รันน่อนยังคงนอนสบายใจเฉิบ
“สมกับที่ได้พรจากเทพไททัน แรงเยอะจริงๆ”
อาเอลเลิกถีบแล้วหันหลังพิงต้นไม้อยู่อย่างนั้น รันน่อนกลับสู่ใบหน้าเฉยชาเช่นเดิม ทั้งคู่อยู่แบบนั้นไปพักหนึ่ง อาเอลก็พูดขึ้น
“ขี้โกง เจ้าก็รู้ว่าข้าโค่นต้นไม้นี่ไม่ได้”
“ไม่งั้นข้าจะขึ้นมาทำไม?”
“ข้าอยากทานอาหารใต้ต้นไม้นี่อีกซักครั้งจัง”
“ก็เอาสิ”
“ครั้งนี้เจ้าจัดตาราง ห้ามให้ข้าไปไหนอีกล่ะ”
“ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าไปไหนหรอกน่า”
“ขอบใจ!!^^”
“ไปแต่งตัวได้แล้ว เจ้ายังต้องโดนทรมาณอีก 4 ชม.”
“มันก็เพราะนายคนเดียวแหละ!!”
อาเอลวิ่งกลับขึ้นหอคอยไป รันน่อนมองเธอหายลับไปกับขั้นบันได ใบหน้าเขายังเฉยชา แต่แววตาบอกความเจ็บปวด ใครจะรู้บ้างว่าเขารู้สึกอย่างไร . . .
. . .
งานช่วงบ่ายเริ่มต้นขึ้นโดยมีแขกในงานมากมาย ปะปนไปด้วยเจ้าชายที่ไม่ได้บัตรเชิญยามบ่ายซึ่งยังหวังพิชิตใจองค์หญิง อาเอลเริ่มรู้สึกหงุดหงิดอีกครั้ง
“(พวกหน้าม่อ มากันให้หราเชียว)”
บรรยากาศยามเย็นมีอาหารแบบบุฟเฟ่ห์ มีแขกมากหน้าหลายตาจากหลายแคว้น บ้างก็เป็นบิดามารดา ญาติโกโหติกาขององค์ชายที่เข้าและไม่เข้ารอบ อาเอลมองพวกบรรดาผู้ครองแคว้นทั้งหลายที่เข้ามาคุยกับบิดาตนเอง ในสายตาตน ไม่มีใครจริงใจเลยซักคนเดียว ทั้งหมดคงหวังให้ลูกชายมีตำแหน่งเป็นกษัตริย์องค์ต่อไปและเลื่อนระดับตัวเองเป็นเชื้อพระวงศ์อย่างเดียว แม้งานยังไม่เริ่ม แต่เธอกำหนดผลเอาไว้ในใจแล้วเรียบร้อย - จะไม่มีใครเป็นได้เธอเป็นชายาเด็ดขาด
บิดาของเธอสั่งเปิดงาน งานเต้นรำยามบ่ายเริ่มแล้ว รันน่อนต้องเต้นเปิดงานกับเธอเนื่องจากเธอไม่ได้กำหนดพิเศษว่าจะให้องค์ชายองค์ใดเปิดกับเธอ รันน่อนก้าวเข้ามาในฟลอร์เต้นรำในชุดราชองครักษ์เต็มยศ ในสายตาเธอ ชุดของรันน่อนยังดูดีซะกว่าองค์ชายบางคนซะอีก เขาเข้ามาโค้งแล้วยื่นมือออกมาให้เธอแตะ ก่อนทั้งคู่จะเริ่มเต้นรำในจังหวะ Waltz ที่เชื่องช้า
รันน่อนเองนิ่งมาก จังหวะเต้นของทั้งคู่ก็สอดคล้องกันเพราะเต้นมาด้วยกัน เธอและเขาต่างผ่านอะไรมาด้วยกันเสมอ อาเอลยิ้มจริงใจได้กับเขา รันน่อนก็ยิ้มให้เธอ แต่อาเอลดูแล้วก็รู้ นี่คือยิ้มรับแขกของรันน่อน เขาคงโกรธอะไรซักอย่าง เธอซบเข้าไปใกล้เขาแล้วกระซิบข้างหู
“รันน่อน เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ข้าไม่เป็นไร”
“โกหก คิ้วเจ้าผูกโบว์แล้ว”
“เหรอ?”
“เปล่า แต่ข้ารู้สึก”
“เจ้ารู้สึก?”
“แหง ข้าคือเพื่อนสนิทของเจ้านะ เรื่องแค่นี้ทำไมข้าจะไม่รู้”
“ . . .”
รันน่อนโอบเธอโน้มลงไป จบเพลงแล้ว เขาจ้องหน้าเธอแล้วพูดด้วยใบหน้านิ่งๆ
“เจ้ายังรู้ไม่ถึงครึ่งหรอก”
ทั้งคู่แยกจากกัน รันน่อนโค้งแล้วถอยออกไปด้วยอิริยาบถเรียบร้อย อาเอลมองเขาแบบไม่เข้าใจที่สุด เธอไม่เข้าใจความรู้สึกนี้เลย เธอไม่เข้าใจว่าสหายของเธอรู้สึกยังไง เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ก่อนที่เธอจะทันเรียกเขา องค์ชายคนแรกก็เข้ามาคว้าตัวเธอไปเต้นแล้ว
ในที่สุดก็ต้องผ่านการเต้นกับองค์ชายทั้ง 9 คนที่เต้นไม่เอาอ่าว แถมสติเธอก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วย รันน่อนขึ้นไปยืนอยู่ข้างบัลลังค์ของเธอด้วยหน้าตาเฉยเมย อาเอลรีบถอนตัวก่อนที่จะมีต่อรอบ 2 ขึ้นมาที่บัลลังค์ มารดามองเธอเป็นเชิงถามไถ่ เธอให้ใบหน้าแสดงความรู้สึกเด่นชัดแล้วหันไปหาราชองครักษ์ เขาไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว
“อาเอล เหล่าองค์ชายขอให้ลูกประกาศผล”
ตอนนี้อาเอลนั่งแทบจะไม่ติด เธอหาเขาไม่เจอ ไม่รู้ว่าเขาโกรธอะไร เธอถูกเสียงร้องขอขอเหล่าเจ้าชายที่ทำให้เธอหงุดหงิดเข้าไปอีก
“ไอ้พวกหน้าตะกวดเอ๊ยยยย” เธอกัดฟัน สวมหน้ากากเจ้าหญิงเรียบร้อย ลุกขึ้นยืนมั่น โปรยยิ้มไปทั่วทั้งห้องโถง แล้วประกาศผลที่เธอกำหนดไว้ตั้งแต่บ่าย
“ข้าไม่เลือกใครซักคน”
ก่อนที่เธอจะวิ่งลงหลังบัลลังค์ไป ทิ้งให้พวกเจ้าชายโหวกเหวกและหันมาโทษกันเอง
“เขาไปที่ไหนนะ?”
อาเอลวิ่งออกตามหาเขา เขาอยู่ที่ไหนกัน . . .
To Be Continuing . . .
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น