ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 3: งานเลือกคู่!?!
ยามบ่าย ทั้ง 2 ออกไปทานอาหารกันที่สวนอย่างที่สัญญากัน โดยพ่อครัวของวังทำอาหารให้ทั้ง 2 ด้วยอาหารที่เลิศรสที่สุดตามที่เจ้าหญิงโปรด รันน่อนเป็นคนถือตะกร้าอาหารและผืนผ้าที่ใช้รองนั่ง เพราะอาเอลไม่ยอมให้มีใครตามไปช่วยถืออะไรเด็ดขาด ทั้งคู่เดินมาที่วังหน้าและพบว่ามีคนจำนวนมากกำลังเตรียมการบางอย่างอยู่เต็มไปหมด อาเอลกอดอกทำปากป่อง รันน่อนพูดขึ้น
“ดูท่าทางเราจะใช้พื้นที่นี้ไม่ได้ซะแล้วสิ”
“เขามีงานอะไรกัน? รอทำตอนเย็นไม่ได้หรือไงกัน?”
“ข้าว่าข้าบอกเจ้าได้ 10 ครั้งแล้วนะ วันพรุ่งนี้จะมีเจ้าชายจากแคว้นรอบๆกว่า 30 แคว้น มาเพื่อให้เจ้าดูตัวแล้วเลือกเป็นคู่ในอนาคต”
“หา!?เรื่องใหญ่ขนาดนั้น ไหงข้าไม่รู้เลยล่ะ!?!”
“เฮ้อ~~ ข้าล่ะเหนื่อยหน่ายกับเจ้าซะจริง ตอนที่ข้าพูดน่ะ เจ้ามัวแต่ทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้”
“ไม่มีทาง!!ไม่ต้องจัดงานดูตัวหรือเลือกคู่อะไรทั้งนั้น!!ตะเพิดกลับไปให้หมด ข้าไม่แม้แต่จะดูหน้าหรอกนะ แต่ข้าไม่อยากจะมีคู่ซะตอนนี้”
“ยังไงก็ช่าง นี่เป็นคำสั่งขององค์ราชา พูดง่ายๆคือเสด็จพ่อของเจ้าสั่งให้มีงาน มีอะไรห้ามโวยกับข้า”
“ข้าจะคุยกับท่านพ่อเอง!!”
เธอทำท่าจะเดินเข้าไปในปราสาท รันน่อนถอนหายใจสั้นแล้วหอบของเดินตามไป
“ครั้งนี้ไม่ใช่ข้านะที่ผิดสัญญานะ”
“เสด็จพ่อ!!”
อาเอลวิ่งเร็วเท่าที่เร็วได้เข้ามาในห้องท้องพระโรง องค์ราชาและราชินีนั่งอยู่ที่บัลลังค์ ดูท่าทางยินดีที่ลูกสาวเข้ามาถูกจังหวะพอดิบพอดี
“โอ~ อาเอล มาทันเวลาพอดี บิดากับมารดากำลังอ่านจดหมายแนะนำตัวของเหล่าองค์ชายกันอยู่ ลูกลองมาช่วยดูบ้างซิจ๊ะ”
ผู้พูดเป็นองค์ราชินีขององค์ราชาเดววา มีพระนามว่า เนราฟีน ซึ่งมาจากแคว้นทางทิศเหนือของอาณาจักรรีอาแห่งนี้ พระนางมีศิริโฉมงดงาม แม้จะมีผิดคล้ำมาแต่เกิด แต่พระนางก็ “คล้ำ” งามนะ ส่วนองค์ราชาเดววาเป็นชายรูปร่างสูงแต่ก็ยังเตี้ยกว่าพระชายา ไว้ทั้งหนวดและเคราขาวไม่แพ้อำมาตย์ลูมินเดียแม้แต่น้อย ราชาเดววามีท่าทางที่เหี้ยมหาญคล้ายกับฮอว์คเฮลมที่เป็นหัวหน้าองครักษ์มาก
อาเอลย่อตัวถอนสายบัวให้บิดาและมารดาแล้วเดินขึ้นมาพลางพูด
“บิดา ข้าไม่อยากดูตัวอะไรทั้งนั้น”
ราชาเดววาเลิกคิ้วโก่งเหมือนคันธนูของพระองค์
“แล้วอยากจะดูตอนไหนล่ะ ลูกข้า?”
“ตอนที่ข้าอยาก ข้าจะบอกบิดาก็แล้วกัน”
“ลูกรัก ถ้าลูกไม่รีบเลือกคู่ล่วงหน้าไว้ ระวังองค์ชายดีๆจะหายไปซะหมดก่อนนะ”
“ก็ให้หายๆไป ถ้าหาไม่ได้จริงๆข้าจะไม่อภิเษกก็ยังได้”
“ลูกรัก ลองอ่านจดหมายดูก่อนก็ได้ พรุ่งนี้จะได้ไม่เหนื่อย”
อาเอลนั่งลง ราชินีจดหมายปึกใหญ่มาวางไว้บนตักเธอ อาเอลทำหน้าเหยเกแล้วหยิบขึ้นมาอ่านทีละฉบับอย่างว่าง่าย เธอโยนอันแรกทิ้ง
“อันนี้ไม่ผ่าน อันนี้ก็ไม่ผ่าน”
เธอคัดจดหมายเร็วดั่งไม่ได้อ่านเลยแม้แต่น้อย สุดท้าย ปึกจดหมายก็กลายเป็นกระดาษและซองเกลื่อนพื้น อาเอลกอดอก
“ไม่เข้าตาข้าแม้ซักองค์”
รันน่อนพึ่งจะเดินเข้ามาในท้องพระโรง เขาทำความเคารพแล้วเดินมาที่ปลายบันไดแล้วหยุดตรงนั้น ก่อนจะหยิบจดหมายที่ร่วงบนพื้นขึ้นมาอ่าน แล้วไล่เก็บอันอื่นๆจนหมด ราชินีตรัสถาม
“ท่านราชองค์รักษ์มีความเห็นว่าอย่างไร?”
“ข้าน้อยมิกล้าออกความเห็นขอรับ”
“มิเป็นไร ข้าบอกว่าได้ ก็พูดออกมาเถิด”
รันน่อนมององค์กษัตริย์แล้วเงียบเช่นเดิม ราชาเดววาจึงถูกสะกิดจากราชินี ท่านกระแอม
“ข้าอนุญาต พูดออกมาเถิด”
“ขอรับ. . .จดหมายที่ผู้น้อยได้อ่านมีใจความคล้ายๆกัน แต่ที่เหมือนกันทุกฉบับ คือการยกตนจนเลอเลิศเหนือองค์ชายแคว้นอื่น และมีทีท่าเกี้ยวพาราสีองค์หญิงอย่างมาก. . .นี่เป็นความเห็นของข้าขอรับ”
“อย่างที่ราชองค์รักษ์พูด ข้าเกลียดพวกที่ยกตนข่มคนอื่น แถมยังพยายามเกี้ยวข้าอีก มารดา ไล่กลับไปให้หมดเถิด ข้าไม่ต้องการเห็นหน้าแม้แต่คนเดียว”
“องค์หญิง การให้พวกองค์ชายที่เดินทางมาไกลกลับไปทั้งๆที่มิได้ยลโฉมองค์หญิงและพูดคุยอาจเป็นการเสียโอกาสทองก็เป็นได้นะขอรับ”
อาเอลไม่อยากจะเชื่อว่ารันน่อนจะพูดจาส่งเสริมแบบนั้น เธอจึงงงงันไป เดววาลูบเคราพยักหน้า
“ที่ราชองครักษ์พูดไม่ผิด ข้าเห็นด้วย ให้กำหนดการณ์พรุ่งนี้เป็นเช่นเดิม อาเอล ลูกลองดูก่อนก็ได้ อาจจะมีซักคนที่ลูกเห็นว่าใช้ได้ก็เป็นได้”
อาเอลอ้าปากจะพูดแต่องค์ราชาลุกขึ้นเดินออกไปเสียก่อน องค์ราชินียิ้มให้ลูกสาวแล้วลุกขึ้นเสด็จตามไป อาเอลลุกตามแล้วมุ่งหน้าไปที่ห้องของตัวเอง แน่นอนว่ารันน่อนต้องเดินตามไปด้วย ไม่นานนักก็มาถึงหอคอยที่ประทับขององค์หญิง เธอเดินผ่านเข้ามาในห้องนอนที่โอ่อ่ากว้างขวางก่อนจะนั่งลงบนเตียง รันน่อนเดินเข้ามาในห้องแล้วยืนอยู่เช่นนั้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ว่าอาเอลจะจ้องเขาด้วยความโกรธก็ตาม
“นี่!!รันน่อน ทำไมเจ้าให้ท้ายบิดาเช่นนั้นล่ะ!?”
“ข้าไม่ได้ให้ท้าย ข้าแค่เห็นว่าเป็นทางที่ดีที่สุด”
“ทางที่ดีที่สุด!? พรุ่งนี้ข้าต้องนั่งหลังแข็งบนโต๊ะยาวกับผู้ชายหน้าเกลียดเป็นสิบๆคน ทานอาหาร ฟังคำเกี้ยวพาราสี ดีไม่ดีตอนเย็นต้องเปลี่ยนมือเป็นสิบๆคู่หมุนไปรอบๆฟลอว์เต้นรำเหมือนตุ๊กตาโดนชักใย ถ้าข้าทนไม่ได้แล้วอยากลงมือต่อยใครซักคน มันผู้นั้นต้องเป็นเจ้าแน่ๆ!!”
“มาโทษข้าแบบนี้ก็ไม่ถูก ข้าเป็นแค่องครักษ์ ไม่ใช่ท่านลูมินเดีย ข้าไม่มีสิทธิแย้งอะไรทั้งนั้น”
“อย่างน้อยถือหางข้างข้าก็ยังดี”
“ข้าไม่ถือหางข้างแพ้หรอก”
“. . .รู้สึกเจ้ายียวนมากขึ้นนะ”
“ข้าเปล่า”
อาเอลมองเขาก่อนจะยิ้มแล้วพูด
“เจ้าหึงล่ะสิ”
“ว่าไงนะ?”
อาเอลลงจากเตียงเดินเข้ามาหา แม้เธอจะเตี้ยกว่ารันน่อนอยู่หลายเซน แต่เธอก็พยายามยันตัวให้สูงเท่ากัน
“ข้าบอกว่าเจ้าหึงไง เจ้าหึงที่ข้าจะไปดูตัวเลยกัดข้า”
“ข้ายังไม่ได้กัดอะไรเจ้า ข้าแค่เห็นว่าดีที่สุดที่เจ้าจะทำตามที่บิดามารดาสั่งเสียบ้าง”
“เจ้าหึง เจ้าหึง เจ้าหึง!!”
“ข้าไม่หึง ทำไมข้าจะต้องหึงเจ้า?”
“เพราะข้าสวยไง”
อาเอลพูดแล้วหมุนตัว 1 รอบ รันน่อนหลับตาแล้วยิ้มมุมปาก
“พูดได้ไม่อายปาก สวยแต่นิสัยแย่ ข้าอยากจะรู้นักว่าจะมีองค์ชายคนไหนยอมแต่งงานกับเจ้าถ้ามาทำหน้าที่เช่นข้า”
“ความคิดดี จับมาทำหน้าที่แทนซัก 2-3 วันคงจะหนีหายกันไปหมด”
“แต่ก็เท่ากับฉีกหน้าราชากับราชินี”
“. . .”
“ใช่ไหม? แม้แต่เจ้าก็ไม่อยากจะทำแบบนั้น ข้าถึงยืนยันว่าเป็นความคิดที่ดีที่สุดไง”
“. . . ข้าอยากให้มีทางอื่นจริงๆ.”
“ไม่มีอะไรซักอย่าง เจ้าเข้าไป ทำอะไรที่ต้องทำ พอถามว่าถูกใจใครไหม? ก็ตอบไปตามตรง จบ”
“. . .”
รันน่อนถอนหายใจหันไปเปิดประตู อาเอลดึงเสื้อเขาไว้ก่อน
“รันน่อน เจ้าอยากให้ข้าไปดูตัวเหรอ?”
“ข้าไม่อยากให้สหายต้องทำอะไรที่ไม่อยากทำ แต่สหายกับบุพการีน่ะ อะไรสำคัญกว่าเจ้าก็ตอบได้อยู่แล้ว”
“. . . จริงของเจ้า”
รันน่อนเปิดประตูแล้วหันมา
“ยังอยากจะออกไปทานอาหารที่สวนอีกไหม?”
“. . .ไม่ล่ะ. . .ข้าไม่มีอารมณ์แล้ว”
เธอหันกลับไปล้มลงบนเตียง ก่อนจะโบกมือไล่เขา รันน่อนยักไหล่แล้วเดินออกไปก่อนจะปิดประตูให้ อาเอลฟังเสียงฝีเท้าที่มั่งคงห่างออกไปก่อนจะลากหมอนเข้ามาหาตัวและใช้กอดแน่น
“. . .เจ้าไม่รู้สึกอะไรจริงๆเหรอ. . .รันน่อน. . .”
เช้าวันรุ่งขึ้น อาเอลต้องตื่นแต่เช้ามาแต่งตัวด้วยอาการสะลึมสะลือ(เพราะปกติไม่ตื่นเช้าขนาดนี้) แต่งกายด้วยชุดยาวลากดินที่เกลียดแสนเกลียดแล้วถูกพามาที่ท้องพระโรง ซึ่งถูกตกแต่งอย่างสวยงามชั่วข้ามคืน ผ้ายาวสีทองห้อยไขว้ไปมา พรมแดงถูกทำความสะอาดเรียบร้อย บรรดานางสนมและคนรับใช้เดินกันวุ่นวาย องค์ราชาและราชินีนั่งอยู่บนบัลลังค์ ราชาเดววาทรงตรัส
“วันเลือกคู่ของลูกสาว ต้องให้สวยไว้ก่อน”
อาเอลทำหน้าพะอืดพะอมกับพื้น นี่เธอต้องฉีกยิ้ม โบกมือ ทำหน้าซึ้ง แล้วก็เต้นรำจริงๆหรือนี่? แล้วตาคนทรยศที่เข้าข้างบิดาหายไปไหนนะ? คำตอบปรากฏขึ้นข้างหลังเธอ
“ดูองค์หญิงไม่แจ่มใส มีอะไรให้ข้าน้อยรับใช้ขอรับ?”
อาเอลหันไปมองรันน่อน เขาสวมชุดองครักษ์เต็มยศ แต่ก็แปลก ปกติเขาไม่เคยมาสายนี่นา มาที่ท้องพระโรงทีไร เขาต้องมายืนรอทุกที เธอก้าวขึ้นบันไดไปที่บัลลังค์ข้างมารดาโดยมีรันน่อนจับมือเธอแบบเป็นพิธีไม่ให้ตก เธอจึงได้โอกาสถามเขา
“นี่รันน่อน นายมาสายนะ”
“เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย เลยสาย”
เขากระซิบตอบอย่างรวดเร็วก่อนที่จะยืนข้างบัลลังค์ของเธอ นี่หมอนี่คิดอะไรจนเช้านะ? ไม่นานนัก เหล่าองค์ชายก็เริ่มเข้ามาในท้องพระโรง จากตรงนี้ เธอต้องทำเป็นยิ้ม โบกมือ(ยิ่งกว่านางสาวไทย)ทั้งๆที่ไม่อยากทำซักนิด แถมเห็นชัดซะจริงว่าพวกองค์ชายเป็นอย่างไรเวลาไม่มีใครเห็น บางคนแค่เดินเข้ามาในท้องพระโรงก็แทบอยากจะไล่ออกไป หน้าตาไม่ได้เจียม บางคนก็ดูดีอยู่หรอก แต่พอเข้ามากลับมองเธอแบบหื่นกระหาย บางคนดูดีต่อหน้า แต่ลับหลังที่โต๊ะอาหารว่าง หยิบอาหารกินราวกับไม่ได้ทานอะไรมาเป็นเดือนๆ เห็นแล้วเธออยากจะลุกขึ้นประกาศยกเลิก กลับห้องไปนอนเสียจริง เพราะตอนนี้ก็ยังง่วงๆอยู่เลย เจ้าองครักษ์ตัวแสบดันเทน้ำมันราดกองไฟซะอีก
“ท่าทางเข้าทีหลายคนเลยนะ องค์หญิง”
แล้วเขาก็ยิ้มให้เธอ อาเอลทำหน้าบูดบึ้งใส่ก่อนจะใส่หน้ากากองค์หญิงหันกลับไปโบกมืออีก พลางพูดด้วยมุมปาก คิ้วกระตุกเบาๆ
“จบงานเมื่อไร นายต้องโดนฟาดไม่นับแน่ๆ จำคำชั้นไว้เลย”
รันน่อนยิ้มอีกแล้วและไม่พูดอะไรตามเคย “(นี่กำลังเยาะเย้ยชั้นใช่ไหมเนี่ย)” เจ้าองครักษ์ตัวแสบบบบ สหายเขาทำกันแบบนี้เองเหรอ ฮึ่ม!!
“ดูท่าทางเราจะใช้พื้นที่นี้ไม่ได้ซะแล้วสิ”
“เขามีงานอะไรกัน? รอทำตอนเย็นไม่ได้หรือไงกัน?”
“ข้าว่าข้าบอกเจ้าได้ 10 ครั้งแล้วนะ วันพรุ่งนี้จะมีเจ้าชายจากแคว้นรอบๆกว่า 30 แคว้น มาเพื่อให้เจ้าดูตัวแล้วเลือกเป็นคู่ในอนาคต”
“หา!?เรื่องใหญ่ขนาดนั้น ไหงข้าไม่รู้เลยล่ะ!?!”
“เฮ้อ~~ ข้าล่ะเหนื่อยหน่ายกับเจ้าซะจริง ตอนที่ข้าพูดน่ะ เจ้ามัวแต่ทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้”
“ไม่มีทาง!!ไม่ต้องจัดงานดูตัวหรือเลือกคู่อะไรทั้งนั้น!!ตะเพิดกลับไปให้หมด ข้าไม่แม้แต่จะดูหน้าหรอกนะ แต่ข้าไม่อยากจะมีคู่ซะตอนนี้”
“ยังไงก็ช่าง นี่เป็นคำสั่งขององค์ราชา พูดง่ายๆคือเสด็จพ่อของเจ้าสั่งให้มีงาน มีอะไรห้ามโวยกับข้า”
“ข้าจะคุยกับท่านพ่อเอง!!”
เธอทำท่าจะเดินเข้าไปในปราสาท รันน่อนถอนหายใจสั้นแล้วหอบของเดินตามไป
“ครั้งนี้ไม่ใช่ข้านะที่ผิดสัญญานะ”
“เสด็จพ่อ!!”
อาเอลวิ่งเร็วเท่าที่เร็วได้เข้ามาในห้องท้องพระโรง องค์ราชาและราชินีนั่งอยู่ที่บัลลังค์ ดูท่าทางยินดีที่ลูกสาวเข้ามาถูกจังหวะพอดิบพอดี
“โอ~ อาเอล มาทันเวลาพอดี บิดากับมารดากำลังอ่านจดหมายแนะนำตัวของเหล่าองค์ชายกันอยู่ ลูกลองมาช่วยดูบ้างซิจ๊ะ”
ผู้พูดเป็นองค์ราชินีขององค์ราชาเดววา มีพระนามว่า เนราฟีน ซึ่งมาจากแคว้นทางทิศเหนือของอาณาจักรรีอาแห่งนี้ พระนางมีศิริโฉมงดงาม แม้จะมีผิดคล้ำมาแต่เกิด แต่พระนางก็ “คล้ำ” งามนะ ส่วนองค์ราชาเดววาเป็นชายรูปร่างสูงแต่ก็ยังเตี้ยกว่าพระชายา ไว้ทั้งหนวดและเคราขาวไม่แพ้อำมาตย์ลูมินเดียแม้แต่น้อย ราชาเดววามีท่าทางที่เหี้ยมหาญคล้ายกับฮอว์คเฮลมที่เป็นหัวหน้าองครักษ์มาก
อาเอลย่อตัวถอนสายบัวให้บิดาและมารดาแล้วเดินขึ้นมาพลางพูด
“บิดา ข้าไม่อยากดูตัวอะไรทั้งนั้น”
ราชาเดววาเลิกคิ้วโก่งเหมือนคันธนูของพระองค์
“แล้วอยากจะดูตอนไหนล่ะ ลูกข้า?”
“ตอนที่ข้าอยาก ข้าจะบอกบิดาก็แล้วกัน”
“ลูกรัก ถ้าลูกไม่รีบเลือกคู่ล่วงหน้าไว้ ระวังองค์ชายดีๆจะหายไปซะหมดก่อนนะ”
“ก็ให้หายๆไป ถ้าหาไม่ได้จริงๆข้าจะไม่อภิเษกก็ยังได้”
“ลูกรัก ลองอ่านจดหมายดูก่อนก็ได้ พรุ่งนี้จะได้ไม่เหนื่อย”
อาเอลนั่งลง ราชินีจดหมายปึกใหญ่มาวางไว้บนตักเธอ อาเอลทำหน้าเหยเกแล้วหยิบขึ้นมาอ่านทีละฉบับอย่างว่าง่าย เธอโยนอันแรกทิ้ง
“อันนี้ไม่ผ่าน อันนี้ก็ไม่ผ่าน”
เธอคัดจดหมายเร็วดั่งไม่ได้อ่านเลยแม้แต่น้อย สุดท้าย ปึกจดหมายก็กลายเป็นกระดาษและซองเกลื่อนพื้น อาเอลกอดอก
“ไม่เข้าตาข้าแม้ซักองค์”
รันน่อนพึ่งจะเดินเข้ามาในท้องพระโรง เขาทำความเคารพแล้วเดินมาที่ปลายบันไดแล้วหยุดตรงนั้น ก่อนจะหยิบจดหมายที่ร่วงบนพื้นขึ้นมาอ่าน แล้วไล่เก็บอันอื่นๆจนหมด ราชินีตรัสถาม
“ท่านราชองค์รักษ์มีความเห็นว่าอย่างไร?”
“ข้าน้อยมิกล้าออกความเห็นขอรับ”
“มิเป็นไร ข้าบอกว่าได้ ก็พูดออกมาเถิด”
รันน่อนมององค์กษัตริย์แล้วเงียบเช่นเดิม ราชาเดววาจึงถูกสะกิดจากราชินี ท่านกระแอม
“ข้าอนุญาต พูดออกมาเถิด”
“ขอรับ. . .จดหมายที่ผู้น้อยได้อ่านมีใจความคล้ายๆกัน แต่ที่เหมือนกันทุกฉบับ คือการยกตนจนเลอเลิศเหนือองค์ชายแคว้นอื่น และมีทีท่าเกี้ยวพาราสีองค์หญิงอย่างมาก. . .นี่เป็นความเห็นของข้าขอรับ”
“อย่างที่ราชองค์รักษ์พูด ข้าเกลียดพวกที่ยกตนข่มคนอื่น แถมยังพยายามเกี้ยวข้าอีก มารดา ไล่กลับไปให้หมดเถิด ข้าไม่ต้องการเห็นหน้าแม้แต่คนเดียว”
“องค์หญิง การให้พวกองค์ชายที่เดินทางมาไกลกลับไปทั้งๆที่มิได้ยลโฉมองค์หญิงและพูดคุยอาจเป็นการเสียโอกาสทองก็เป็นได้นะขอรับ”
อาเอลไม่อยากจะเชื่อว่ารันน่อนจะพูดจาส่งเสริมแบบนั้น เธอจึงงงงันไป เดววาลูบเคราพยักหน้า
“ที่ราชองครักษ์พูดไม่ผิด ข้าเห็นด้วย ให้กำหนดการณ์พรุ่งนี้เป็นเช่นเดิม อาเอล ลูกลองดูก่อนก็ได้ อาจจะมีซักคนที่ลูกเห็นว่าใช้ได้ก็เป็นได้”
อาเอลอ้าปากจะพูดแต่องค์ราชาลุกขึ้นเดินออกไปเสียก่อน องค์ราชินียิ้มให้ลูกสาวแล้วลุกขึ้นเสด็จตามไป อาเอลลุกตามแล้วมุ่งหน้าไปที่ห้องของตัวเอง แน่นอนว่ารันน่อนต้องเดินตามไปด้วย ไม่นานนักก็มาถึงหอคอยที่ประทับขององค์หญิง เธอเดินผ่านเข้ามาในห้องนอนที่โอ่อ่ากว้างขวางก่อนจะนั่งลงบนเตียง รันน่อนเดินเข้ามาในห้องแล้วยืนอยู่เช่นนั้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ว่าอาเอลจะจ้องเขาด้วยความโกรธก็ตาม
“นี่!!รันน่อน ทำไมเจ้าให้ท้ายบิดาเช่นนั้นล่ะ!?”
“ข้าไม่ได้ให้ท้าย ข้าแค่เห็นว่าเป็นทางที่ดีที่สุด”
“ทางที่ดีที่สุด!? พรุ่งนี้ข้าต้องนั่งหลังแข็งบนโต๊ะยาวกับผู้ชายหน้าเกลียดเป็นสิบๆคน ทานอาหาร ฟังคำเกี้ยวพาราสี ดีไม่ดีตอนเย็นต้องเปลี่ยนมือเป็นสิบๆคู่หมุนไปรอบๆฟลอว์เต้นรำเหมือนตุ๊กตาโดนชักใย ถ้าข้าทนไม่ได้แล้วอยากลงมือต่อยใครซักคน มันผู้นั้นต้องเป็นเจ้าแน่ๆ!!”
“มาโทษข้าแบบนี้ก็ไม่ถูก ข้าเป็นแค่องครักษ์ ไม่ใช่ท่านลูมินเดีย ข้าไม่มีสิทธิแย้งอะไรทั้งนั้น”
“อย่างน้อยถือหางข้างข้าก็ยังดี”
“ข้าไม่ถือหางข้างแพ้หรอก”
“. . .รู้สึกเจ้ายียวนมากขึ้นนะ”
“ข้าเปล่า”
อาเอลมองเขาก่อนจะยิ้มแล้วพูด
“เจ้าหึงล่ะสิ”
“ว่าไงนะ?”
อาเอลลงจากเตียงเดินเข้ามาหา แม้เธอจะเตี้ยกว่ารันน่อนอยู่หลายเซน แต่เธอก็พยายามยันตัวให้สูงเท่ากัน
“ข้าบอกว่าเจ้าหึงไง เจ้าหึงที่ข้าจะไปดูตัวเลยกัดข้า”
“ข้ายังไม่ได้กัดอะไรเจ้า ข้าแค่เห็นว่าดีที่สุดที่เจ้าจะทำตามที่บิดามารดาสั่งเสียบ้าง”
“เจ้าหึง เจ้าหึง เจ้าหึง!!”
“ข้าไม่หึง ทำไมข้าจะต้องหึงเจ้า?”
“เพราะข้าสวยไง”
อาเอลพูดแล้วหมุนตัว 1 รอบ รันน่อนหลับตาแล้วยิ้มมุมปาก
“พูดได้ไม่อายปาก สวยแต่นิสัยแย่ ข้าอยากจะรู้นักว่าจะมีองค์ชายคนไหนยอมแต่งงานกับเจ้าถ้ามาทำหน้าที่เช่นข้า”
“ความคิดดี จับมาทำหน้าที่แทนซัก 2-3 วันคงจะหนีหายกันไปหมด”
“แต่ก็เท่ากับฉีกหน้าราชากับราชินี”
“. . .”
“ใช่ไหม? แม้แต่เจ้าก็ไม่อยากจะทำแบบนั้น ข้าถึงยืนยันว่าเป็นความคิดที่ดีที่สุดไง”
“. . . ข้าอยากให้มีทางอื่นจริงๆ.”
“ไม่มีอะไรซักอย่าง เจ้าเข้าไป ทำอะไรที่ต้องทำ พอถามว่าถูกใจใครไหม? ก็ตอบไปตามตรง จบ”
“. . .”
รันน่อนถอนหายใจหันไปเปิดประตู อาเอลดึงเสื้อเขาไว้ก่อน
“รันน่อน เจ้าอยากให้ข้าไปดูตัวเหรอ?”
“ข้าไม่อยากให้สหายต้องทำอะไรที่ไม่อยากทำ แต่สหายกับบุพการีน่ะ อะไรสำคัญกว่าเจ้าก็ตอบได้อยู่แล้ว”
“. . . จริงของเจ้า”
รันน่อนเปิดประตูแล้วหันมา
“ยังอยากจะออกไปทานอาหารที่สวนอีกไหม?”
“. . .ไม่ล่ะ. . .ข้าไม่มีอารมณ์แล้ว”
เธอหันกลับไปล้มลงบนเตียง ก่อนจะโบกมือไล่เขา รันน่อนยักไหล่แล้วเดินออกไปก่อนจะปิดประตูให้ อาเอลฟังเสียงฝีเท้าที่มั่งคงห่างออกไปก่อนจะลากหมอนเข้ามาหาตัวและใช้กอดแน่น
“. . .เจ้าไม่รู้สึกอะไรจริงๆเหรอ. . .รันน่อน. . .”
เช้าวันรุ่งขึ้น อาเอลต้องตื่นแต่เช้ามาแต่งตัวด้วยอาการสะลึมสะลือ(เพราะปกติไม่ตื่นเช้าขนาดนี้) แต่งกายด้วยชุดยาวลากดินที่เกลียดแสนเกลียดแล้วถูกพามาที่ท้องพระโรง ซึ่งถูกตกแต่งอย่างสวยงามชั่วข้ามคืน ผ้ายาวสีทองห้อยไขว้ไปมา พรมแดงถูกทำความสะอาดเรียบร้อย บรรดานางสนมและคนรับใช้เดินกันวุ่นวาย องค์ราชาและราชินีนั่งอยู่บนบัลลังค์ ราชาเดววาทรงตรัส
“วันเลือกคู่ของลูกสาว ต้องให้สวยไว้ก่อน”
อาเอลทำหน้าพะอืดพะอมกับพื้น นี่เธอต้องฉีกยิ้ม โบกมือ ทำหน้าซึ้ง แล้วก็เต้นรำจริงๆหรือนี่? แล้วตาคนทรยศที่เข้าข้างบิดาหายไปไหนนะ? คำตอบปรากฏขึ้นข้างหลังเธอ
“ดูองค์หญิงไม่แจ่มใส มีอะไรให้ข้าน้อยรับใช้ขอรับ?”
อาเอลหันไปมองรันน่อน เขาสวมชุดองครักษ์เต็มยศ แต่ก็แปลก ปกติเขาไม่เคยมาสายนี่นา มาที่ท้องพระโรงทีไร เขาต้องมายืนรอทุกที เธอก้าวขึ้นบันไดไปที่บัลลังค์ข้างมารดาโดยมีรันน่อนจับมือเธอแบบเป็นพิธีไม่ให้ตก เธอจึงได้โอกาสถามเขา
“นี่รันน่อน นายมาสายนะ”
“เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย เลยสาย”
เขากระซิบตอบอย่างรวดเร็วก่อนที่จะยืนข้างบัลลังค์ของเธอ นี่หมอนี่คิดอะไรจนเช้านะ? ไม่นานนัก เหล่าองค์ชายก็เริ่มเข้ามาในท้องพระโรง จากตรงนี้ เธอต้องทำเป็นยิ้ม โบกมือ(ยิ่งกว่านางสาวไทย)ทั้งๆที่ไม่อยากทำซักนิด แถมเห็นชัดซะจริงว่าพวกองค์ชายเป็นอย่างไรเวลาไม่มีใครเห็น บางคนแค่เดินเข้ามาในท้องพระโรงก็แทบอยากจะไล่ออกไป หน้าตาไม่ได้เจียม บางคนก็ดูดีอยู่หรอก แต่พอเข้ามากลับมองเธอแบบหื่นกระหาย บางคนดูดีต่อหน้า แต่ลับหลังที่โต๊ะอาหารว่าง หยิบอาหารกินราวกับไม่ได้ทานอะไรมาเป็นเดือนๆ เห็นแล้วเธออยากจะลุกขึ้นประกาศยกเลิก กลับห้องไปนอนเสียจริง เพราะตอนนี้ก็ยังง่วงๆอยู่เลย เจ้าองครักษ์ตัวแสบดันเทน้ำมันราดกองไฟซะอีก
“ท่าทางเข้าทีหลายคนเลยนะ องค์หญิง”
แล้วเขาก็ยิ้มให้เธอ อาเอลทำหน้าบูดบึ้งใส่ก่อนจะใส่หน้ากากองค์หญิงหันกลับไปโบกมืออีก พลางพูดด้วยมุมปาก คิ้วกระตุกเบาๆ
“จบงานเมื่อไร นายต้องโดนฟาดไม่นับแน่ๆ จำคำชั้นไว้เลย”
รันน่อนยิ้มอีกแล้วและไม่พูดอะไรตามเคย “(นี่กำลังเยาะเย้ยชั้นใช่ไหมเนี่ย)” เจ้าองครักษ์ตัวแสบบบบ สหายเขาทำกันแบบนี้เองเหรอ ฮึ่ม!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น