ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าหญิงตัวร้ายกับองค์รักษ์ตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1: เจ้าหญิง!?!

    • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 48


        ณ นครใหญ่อันแสนสงบ นามว่า “รีอา” สถานที่สวยงาม เขียวชอุ่มและเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ตัวเมืองล้อมรอบด้วยกำแพงสีขาวสะอาด ใจกลางเมืองมีน้ำพุกลางจัตุรัสหิน ทิศเหนือของเมืองติดภูเขาสูงชะลูด และเป็นที่ตั้งของปราสาทสีขาวของราชวงศ์ที่ปกครองเมือง ราษฎร์อยู่เย็นเป็นสุขและมีความสุขต่อการปกครอง รีอามีชื่อในฐานะอาณาจักรที่ไร้สงครามมานานด้วยความสามารถทางการทูตของพระราชา และยังมีชื่อว่าเป็นเมืองที่มีเจ้าหญิงงามที่สุดในแคว้นรอบๆ



        ภายในปราสาท หญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งคุยกับชายหนุ่มในสวนดอกไม้ของปราสาท การพูดคุยดูจะสนุกสนานสำหรับทั้ง 2 ชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในสวน ดูจากการแต่งตัวจะเป็นองครักษ์ดูแลปราสาท พวกองครักษ์มองเห็นทั้ง 2 แล้ว คนหนึ่งก็พูดขึ้น



    “ช่างเป็นนางรับใช้ที่งามจริงๆนะ”



    “สนใจรึไง? ดูดีๆสิ หวานใจก็นั่งอยู่นั่น”



    “เชอะ! หนุ่มสะโอดสะองอย่างนั้นจะไปมีน้ำยาอะไร?มันต้องบึกบึนอย่างข้าสิ”



    ทหารที่มาด้วยดูจะไม่กล้าแย้ง ชายที่พูดตัวใหญ่กว่าพวกเขาและมีกล้ามเป็นมัดๆ เพียงแต่หน้าตาก็ไม่ได้ดีอะไรนักหนา มันเสยผมเหมือนกับทำแล้วจะหล่อซะเต็มประดาแล้วเดินส่ายอาดๆเข้าไปหาทั้ง 2 โดยพรรคพวกยืนมองอยู่ห่างๆ



    “นางงาม สนใจจะไปดื่มชากับข้าไหมขอรับ?”



    หญิงสาวหันมามอง เธอมีผมสีทองยาวถักเป็นเปียคู่ ดวงตากลมใสสีดำขลับ หน้าตาจัดเป็นหญิงงามคนนึง เธออยู่ในชุดคล้ายกับหญิงรับใช้ในปราสาท สวมหมวกคลุมผม หญิงสาวขมวดคิ้วแล้วหันมาหาชายหนุ่มที่นั่งคุยอยู่ตอนแรก



    “รันน่อน ข้าไม่อยากคุยกับหมอนี่”



    ชายที่ถูกเรียกว่ารันน่อนเป็นชายหนุ่มรูปร่างออกผอม ผมสั้นสีดำมัดเป็นหางเต่า ใส่แว่นกลมอันเล็กๆอยู่ตรงจมูก ในมือถือหนังสือและอยู่ในชุดองครักษ์ เขายิ้มฝืนๆให้หญิงสาวแล้วหันไปพูดกับผู้ที่มาใหม่



    “ดูเหมือนว่าสุภาพสตรีจะปฏิเสทนะ ข้าว่าท่านรีบไปดีกว่า”



    “ว่ายังไงนะ!? กล้าไล่ข้ารึ?! รู้รึเปล่าว่าข้าเป็นใคร? ข้าคือวอดัน องครักษ์ผู้ดูแลวังหลวงชั้นนอกนะ! เจ้าสิเป็นใคร ไม่เคยเห็นหน้า อยู่ในชุดองครักษ์สังกัดหน่วยไหนล่ะ หืม!?”



    หญิงสาวดูท่าทางจะเริ่มโกรธ รันน่อนเริ่มลนลาน



    “เอ่อ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะไล่ท่านนะ แต่ข้าว่าท่านรีบไปดีกว่า ก่อนที่เธอจะโกรธแล้วจะมีปัญหากันขึ้นมา”



    ทหารที่ตามชายนามวอดันคุยกัน



    “ข้าว่าเจ้าหนุ่มนี่นอนจมพุ่มดอกไม้แน่ บังอาจทำให้วอดันฉุน”



    “ข้าก็ว่างั้นแหละ”



    ทางด้าน 2 ชาย 1 หญิงก็กำลังมีทีท่าว่าจะมีการลงมือลงไม้กัน วอดันยังคงเบ่งอำนาจของตัวเอง



    “ข้าถามเจ้าว่าเจ้าอยู่หน่วยไหน!? ถ้าไม่ตอบ ข้าจะโยนเจ้าออกไปนอกปราสาทเดี๋ยวนี้เลย!!”



    รันน่อนหันไปมองหญิงสาว ตอนนี้เธอลุกขึ้นแล้ว เขารีบดันองครักษ์วอดัน



    “เอ่อ ท่านองครักษ์ ข้าเข้าใจว่าท่านเคร่งครัดในหน้าที่ดี แต่ข้าอยากให้ท่านรีบไป ตอนนี้เลย ยิ่งเร็วยิ่งดี”



    “หุบปาก เจ้าไม่มีสิทธิมาสั่งข้า!! ไม่ยอมตอบแบบนี้ต้องแอบเข้ามาในปราสาทแน่!! พวกเรา!มาช่วยกันโยนเจ้านี่ออกไปจากปรา . . . อั้ค!?!”



    เสียงดังขึ้นพร้อมกับเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย หญิงสาวปล่อยฮุคขวาเข้าใส่วอดัน ลอยไปร่วงลงในพุ่มดอกไม้แล้วแน่นิ่ง รันน่อนอุทานพลางเกาหัว



    “โธ่เอ๊ย~~ ข้าก็บอกแล้วว่าให้รีบไป ต่อจากนี้ข้าไม่รู้แล้วนะ”



    ทหารที่ตามวอดันมาพอหายจังงังก็รีบวิ่งเข้ามา



    “กล้าทำร้ายองครักษ์วังหลวงเหรอ!?! พวกเข้าจงวางมือรอรับการจับกุมซะดีๆ!!”



    “ทหาร เรื่องอะไรกัน?”



    นายทหารคนหนึ่งเดินเข้ามาในสวนดอกไม้ ทหารทั้งหมดหันไปทำความเคารพ



    “ท่านนายกอง คือ หญิงสาวคนนี้ทำร้ายทหารขอรับ!”



    นายกองหันไปมองรันน่อนและหญิงสาว



    “เอ่อ ท่านคือองครักษ์ของเจ้าหญิง ท่านรันน่อน ฟาเอลล์ ใช่ไหมขอรับ?”



    รันน่อนมองหญิงสาวแล้วหันมา



    “ท่านนายกองวังนอก ขออภัยที่ทำร้ายทหารของท่านนะขอรับ แต่ว่าข้าพยายามห้ามแล้ว . . .”



    “ไม่ต้องขอโทษอะไรทั้งนั้น รันน่อน”



    หญิงสาวดึงหมวกคลุมผมออกแล้วปล่อยผม ก่อนจะหันกลับมา



    “มีอะไรข้ารับผิดชอบเอง เพราะข้าเป็นคนลงมือนี่”



    นายกองเห็นหญิงสาวถอยไป 3 ก้าวแล้วรีบคุกเข่าลง



    “ข . . . ข้าขออภัยแทนทหารของข้าด้วย เจ้าหญิงอาเอล ข้าไม่ทราบว่าทำอะไรให้ แต่ข้าต้องขออภัยจริงๆขอรับ!!”



    รันน่อนทำท่าเหมือนจนปัญญา ส่วนเจ้าหญิงอาเอลขมวดคิ้วเรียวงามของเธอแล้วชี้ไปที่วอดันที่ยังนอนหมดสติอยู่ในพุ่มดอกไม้



    “ทหารนายนี้เข้ามาขัดจังหวะการพูดคุยของข้ากับรันน่อน ข้าลงมือสั่งสอนไปแล้ว ขอให้ท่านนายกองรีบลากมันออกไปให้ไกลหูไกลตาข้า ก่อนที่ข้าจะหงุดหงิดมากกว่านี้”



    นายกองลนลานรับคำ ขอโทษขอโพยซะการใหญ่แล้วรีบเรียกทหารที่งงเป็นรอบที่ 2 มาลากวอดันที่นอนหมดสภาพออกไป เจ้าหญิงอาเอลนั่งลงกอดอก ไขว้ขา



    “เสียเส้นจริงๆ ข้าละเกลียดพวกขี้เบ่งจริงๆ”



    “นี่นะเจ้าหญิง ทำอะไรให้เหมาะกับเป็นเจ้าหญิงหน่อยสิ”



    “รันน่อน นายน่ะทำไมไม่งัดเอาตราองครักษ์ในออกมาโชว์แล้วไล่ไปไกลๆล่ะ!!”



    เจ้าหญิงหันมาเล่นงานเขาแทน



    “อ้าว!? ตอนแรกใครเป็นคนบอกให้ข้าเงียบๆไม่ทำเหมือนว่าเจ้าหญิงอยู่ตรงนี้ล่ะขอรับ ไม่งั้นที่เจ้าหญิงอุตส่าห์ยอมใส่ชุดสนมรับใช้ออกมาก็เสียหมดสิขอรับ”



    “รันน่อนนนนน”



    เธอลากเสียงยาว ทำหน้าโหดใส่ รันน่อนหัวเราะแล้วโบกมือ



    “ทราบแล้วๆ ข้าจะทำตามคำสั่งองค์หญิงขอรับ”



    “รันน่อน!! ข้าต้องบอกเจ้ากี่ครั้งว่าอย่าพูดกับข้าเหมือนเป็นเจ้าหญิงแบบนั้น!!”



    “อีก 33 ครั้งก็ครบ 100 แล้วล่ะ เจ้าหญิงอาเอล”



    “ห้ามเรียกข้าเจ้าหญิงด้วย!”



    “คร้าบๆ เจ้าหญิง”



    “นี่นายกวนโมโหชั้นรึเปล่าเนี่ย”



    “ไม่กล้าๆ”



    รันน่อนนั่งไขว้ขาแล้วยิ้ม



    “ผ่านมากี่ปีๆก็เสียเปล่า นึกว่าอยู่ในปราสาทแล้วจะดัดนิสัยม้าดีดกะโหลกนั่นหมดซะอีก”



    แทนที่เจ้าหญิงจะโกรธที่เขาพูดกับเธอแบบสามัญชน เธอกลับไม่



    “ข้าไม่ยอมเปลี่ยนหรอก ไม่ว่าจะครูสอนมารยาทหรือท่านพ่อท่านแม่ก็เหอะ”



    “เจ้านี่ล่ะน้า~ ตั้งแต่ที่เจอกันในค่ายทหาร เจ้าก็ไม่มีเปลี่ยน”



    “รันน่อน เจ้าเป็นคนเดียวที่รู้จักกับข้าตั้งแต่ข้ายังอายุน้อย”



    “แต่ก็ยังเป็นม้าดีดกะโหลกหาความเป็นหญิงไม่ได้”



    รันน่อนพูดทะลุกลางปล้อง อาเอลถึงกับชะงัก



    “รันน่อน ชักจะหยาบคายแล้วนะ”



    “อ้าว?ข้านึกว่าชอบแบบนี้ซะอีก”



    “ต่อให้ข้าไม่ได้เป็นเจ้าหญิง ผู้หญิงคนไหนก็เกลียดที่มีคนว่าอย่างนั้นอยู่ดี”



    “หรือเจ้าจะเถียงว่าเจ้าไม่ได้เป็น?”



    อาเอลเงียบ พูดไม่ออกแต่โกรธจนหน้าแดง รันน่อนยืนขึ้น



    “สวมหน้ากากเจ้าหญิงได้แล้ว เราต้องรีบไปแต่งตัวแล้วไปเรียนวิชาการปกครองจากท่านอำมาตย์ลูมินเดียในอีก 2 ชม.นะ”



    อาเอลยืนขึ้นแล้วเดินไปอีกทาง



    “ไปของเจ้าคนเดียวเถอะ ข้าไม่ไป”



    รันน่อนเดินตามเธอที่เดินเข้าไปในวังในทางประตูที่คนรับใช้ใช้กันพลางพูด



    “อาเอล ข้าเคยพูดกับเจ้าแล้วนี่ ขืนเจ้าโดดบ่อยๆ เจ้าจะเดือดร้อนนะ”



    “แล้วยังไงล่ะ? ข้าเดือดร้อนมันก็เรื่องของข้า”



    “ . . . พ่อเจ้าอาจจะส่งองครักษ์คนใหม่มาทำหน้าที่แทน ซึ่งคงไม่ได้ปล่อยให้เจ้าเดินไปไหนมาไหนแบบนี้ได้แน่ๆ”



    “. . .”



    อาเอลหยุดเดิน รันน่อนเปิดหนังสือแล้วเดินตาม



    “อาเอล ข้าพูดกับเจ้าแล้วนะ จะทำหรือไม่ก็เป็นเรื่องของเจ้า”



    เขาเดินนำหน้าเธอไป อาเอลถอนหายใจสั้นแล้ววิ่งตาม



    “ก็ได้ๆ!!”



    “ทำไมจู่ๆพูดรู้เรื่องขึ้นมาล่ะ?”



    “ไม่ต้องมาเหน็บข้า ข้าไม่ได้เป็นลูกศิทย์คนโปรดของท่านเคราเงินลูมินเดียนี่ ข้าไม่ได้รอเรียนรอรับคำชมอย่างเจ้านี่”



    “ข้าไม่ได้เป็นลูกศิทย์คนโปรดของท่านซะหน่อย ข้าเป็นแค่นักเรียนที่ตั้งใจคนนึงเท่านั้นแหละ”



    “ข้าตั้งใจไม่ไหว ข้าชอบหลับตอนบ่ายมากกว่าเรียนประวัติศาสตร์ยาวเป็นปีๆอย่างนั้นนี่”



    “แค่ 2 ชม.เอง มิน่าล่ะที่ชอบหลับ เจ้าถึงมีสภาพเหมือนท้องได้ 5 เดือนแบบนั้น”



    “รันน่อน เจ้าคนหยาบคาย!!”



    อาเอลโวยวายแล้ววิ่งไล่ตามเขา รันน่อนหัวเราะฮาฮาแล้ววิ่งนำเธอไป



    “จะสายแล้วนะเจ้าหญิง แต่อย่าวิ่งสิ เดี๋ยวได้คลอดก่อนกำหนดหรอก!!”



    “เจ้า!!ตาย!!วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้!!!”



    อาเอลจับกระโปรงวิ่งไล่เขาเข้าไปในปราสาท โดยทหารที่ยืนยามอยู่มองแบบขำๆ



    “เจ้าหญิงกับท่านองครักษ์เป็นแบบนี้ทุกทีเลย”



    “ข้าว่ามีแต่ท่านองครักษ์คนเดียวที่เอาเจ้าหญิงอยู่ ขืนให้ข้าไปดูแลจริงๆ 2 วันข้าคงผูกคอตาย”



    “แย่อย่างนั้นเลยรึ?”



    “แย่ มากๆ ไม่มีใครในโลกแล้วที่จะดูแลเจ้าหญิงอาเอลได้นอกจากองครักษ์รันน่อนคนเดียว เพราะว่าเจ้าหญิงทรงเป็นพระสหายกับท่านรันน่อนตั้งแต่อายุน้อยทั้งคู่ยังไงล่ะ”



    “เพื่อนสมัยเด็กมีพลังมากขนาดนั้นเลยรึ?”



    “คอยดูต่อไปก็แล้วกัน”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×