ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1: เจ้าหญิง!?!
    ณ นครใหญ่อันแสนสงบ นามว่า “รีอา” สถานที่สวยงาม เขียวชอุ่มและเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ตัวเมืองล้อมรอบด้วยกำแพงสีขาวสะอาด ใจกลางเมืองมีน้ำพุกลางจัตุรัสหิน ทิศเหนือของเมืองติดภูเขาสูงชะลูด และเป็นที่ตั้งของปราสาทสีขาวของราชวงศ์ที่ปกครองเมือง ราษฎร์อยู่เย็นเป็นสุขและมีความสุขต่อการปกครอง รีอามีชื่อในฐานะอาณาจักรที่ไร้สงครามมานานด้วยความสามารถทางการทูตของพระราชา และยังมีชื่อว่าเป็นเมืองที่มีเจ้าหญิงงามที่สุดในแคว้นรอบๆ
    ภายในปราสาท หญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งคุยกับชายหนุ่มในสวนดอกไม้ของปราสาท การพูดคุยดูจะสนุกสนานสำหรับทั้ง 2 ชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในสวน ดูจากการแต่งตัวจะเป็นองครักษ์ดูแลปราสาท พวกองครักษ์มองเห็นทั้ง 2 แล้ว คนหนึ่งก็พูดขึ้น
“ช่างเป็นนางรับใช้ที่งามจริงๆนะ”
“สนใจรึไง? ดูดีๆสิ หวานใจก็นั่งอยู่นั่น”
“เชอะ! หนุ่มสะโอดสะองอย่างนั้นจะไปมีน้ำยาอะไร?มันต้องบึกบึนอย่างข้าสิ”
ทหารที่มาด้วยดูจะไม่กล้าแย้ง ชายที่พูดตัวใหญ่กว่าพวกเขาและมีกล้ามเป็นมัดๆ เพียงแต่หน้าตาก็ไม่ได้ดีอะไรนักหนา มันเสยผมเหมือนกับทำแล้วจะหล่อซะเต็มประดาแล้วเดินส่ายอาดๆเข้าไปหาทั้ง 2 โดยพรรคพวกยืนมองอยู่ห่างๆ
“นางงาม สนใจจะไปดื่มชากับข้าไหมขอรับ?”
หญิงสาวหันมามอง เธอมีผมสีทองยาวถักเป็นเปียคู่ ดวงตากลมใสสีดำขลับ หน้าตาจัดเป็นหญิงงามคนนึง เธออยู่ในชุดคล้ายกับหญิงรับใช้ในปราสาท สวมหมวกคลุมผม หญิงสาวขมวดคิ้วแล้วหันมาหาชายหนุ่มที่นั่งคุยอยู่ตอนแรก
“รันน่อน ข้าไม่อยากคุยกับหมอนี่”
ชายที่ถูกเรียกว่ารันน่อนเป็นชายหนุ่มรูปร่างออกผอม ผมสั้นสีดำมัดเป็นหางเต่า ใส่แว่นกลมอันเล็กๆอยู่ตรงจมูก ในมือถือหนังสือและอยู่ในชุดองครักษ์ เขายิ้มฝืนๆให้หญิงสาวแล้วหันไปพูดกับผู้ที่มาใหม่
“ดูเหมือนว่าสุภาพสตรีจะปฏิเสทนะ ข้าว่าท่านรีบไปดีกว่า”
“ว่ายังไงนะ!? กล้าไล่ข้ารึ?! รู้รึเปล่าว่าข้าเป็นใคร? ข้าคือวอดัน องครักษ์ผู้ดูแลวังหลวงชั้นนอกนะ! เจ้าสิเป็นใคร ไม่เคยเห็นหน้า อยู่ในชุดองครักษ์สังกัดหน่วยไหนล่ะ หืม!?”
หญิงสาวดูท่าทางจะเริ่มโกรธ รันน่อนเริ่มลนลาน
“เอ่อ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะไล่ท่านนะ แต่ข้าว่าท่านรีบไปดีกว่า ก่อนที่เธอจะโกรธแล้วจะมีปัญหากันขึ้นมา”
ทหารที่ตามชายนามวอดันคุยกัน
“ข้าว่าเจ้าหนุ่มนี่นอนจมพุ่มดอกไม้แน่ บังอาจทำให้วอดันฉุน”
“ข้าก็ว่างั้นแหละ”
ทางด้าน 2 ชาย 1 หญิงก็กำลังมีทีท่าว่าจะมีการลงมือลงไม้กัน วอดันยังคงเบ่งอำนาจของตัวเอง
“ข้าถามเจ้าว่าเจ้าอยู่หน่วยไหน!? ถ้าไม่ตอบ ข้าจะโยนเจ้าออกไปนอกปราสาทเดี๋ยวนี้เลย!!”
รันน่อนหันไปมองหญิงสาว ตอนนี้เธอลุกขึ้นแล้ว เขารีบดันองครักษ์วอดัน
“เอ่อ ท่านองครักษ์ ข้าเข้าใจว่าท่านเคร่งครัดในหน้าที่ดี แต่ข้าอยากให้ท่านรีบไป ตอนนี้เลย ยิ่งเร็วยิ่งดี”
“หุบปาก เจ้าไม่มีสิทธิมาสั่งข้า!! ไม่ยอมตอบแบบนี้ต้องแอบเข้ามาในปราสาทแน่!! พวกเรา!มาช่วยกันโยนเจ้านี่ออกไปจากปรา . . . อั้ค!?!”
เสียงดังขึ้นพร้อมกับเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย หญิงสาวปล่อยฮุคขวาเข้าใส่วอดัน ลอยไปร่วงลงในพุ่มดอกไม้แล้วแน่นิ่ง รันน่อนอุทานพลางเกาหัว
“โธ่เอ๊ย~~ ข้าก็บอกแล้วว่าให้รีบไป ต่อจากนี้ข้าไม่รู้แล้วนะ”
ทหารที่ตามวอดันมาพอหายจังงังก็รีบวิ่งเข้ามา
“กล้าทำร้ายองครักษ์วังหลวงเหรอ!?! พวกเข้าจงวางมือรอรับการจับกุมซะดีๆ!!”
“ทหาร เรื่องอะไรกัน?”
นายทหารคนหนึ่งเดินเข้ามาในสวนดอกไม้ ทหารทั้งหมดหันไปทำความเคารพ
“ท่านนายกอง คือ หญิงสาวคนนี้ทำร้ายทหารขอรับ!”
นายกองหันไปมองรันน่อนและหญิงสาว
“เอ่อ ท่านคือองครักษ์ของเจ้าหญิง ท่านรันน่อน ฟาเอลล์ ใช่ไหมขอรับ?”
รันน่อนมองหญิงสาวแล้วหันมา
“ท่านนายกองวังนอก ขออภัยที่ทำร้ายทหารของท่านนะขอรับ แต่ว่าข้าพยายามห้ามแล้ว . . .”
“ไม่ต้องขอโทษอะไรทั้งนั้น รันน่อน”
หญิงสาวดึงหมวกคลุมผมออกแล้วปล่อยผม ก่อนจะหันกลับมา
“มีอะไรข้ารับผิดชอบเอง เพราะข้าเป็นคนลงมือนี่”
นายกองเห็นหญิงสาวถอยไป 3 ก้าวแล้วรีบคุกเข่าลง
“ข . . . ข้าขออภัยแทนทหารของข้าด้วย เจ้าหญิงอาเอล ข้าไม่ทราบว่าทำอะไรให้ แต่ข้าต้องขออภัยจริงๆขอรับ!!”
รันน่อนทำท่าเหมือนจนปัญญา ส่วนเจ้าหญิงอาเอลขมวดคิ้วเรียวงามของเธอแล้วชี้ไปที่วอดันที่ยังนอนหมดสติอยู่ในพุ่มดอกไม้
“ทหารนายนี้เข้ามาขัดจังหวะการพูดคุยของข้ากับรันน่อน ข้าลงมือสั่งสอนไปแล้ว ขอให้ท่านนายกองรีบลากมันออกไปให้ไกลหูไกลตาข้า ก่อนที่ข้าจะหงุดหงิดมากกว่านี้”
นายกองลนลานรับคำ ขอโทษขอโพยซะการใหญ่แล้วรีบเรียกทหารที่งงเป็นรอบที่ 2 มาลากวอดันที่นอนหมดสภาพออกไป เจ้าหญิงอาเอลนั่งลงกอดอก ไขว้ขา
“เสียเส้นจริงๆ ข้าละเกลียดพวกขี้เบ่งจริงๆ”
“นี่นะเจ้าหญิง ทำอะไรให้เหมาะกับเป็นเจ้าหญิงหน่อยสิ”
“รันน่อน นายน่ะทำไมไม่งัดเอาตราองครักษ์ในออกมาโชว์แล้วไล่ไปไกลๆล่ะ!!”
เจ้าหญิงหันมาเล่นงานเขาแทน
“อ้าว!? ตอนแรกใครเป็นคนบอกให้ข้าเงียบๆไม่ทำเหมือนว่าเจ้าหญิงอยู่ตรงนี้ล่ะขอรับ ไม่งั้นที่เจ้าหญิงอุตส่าห์ยอมใส่ชุดสนมรับใช้ออกมาก็เสียหมดสิขอรับ”
“รันน่อนนนนน”
เธอลากเสียงยาว ทำหน้าโหดใส่ รันน่อนหัวเราะแล้วโบกมือ
“ทราบแล้วๆ ข้าจะทำตามคำสั่งองค์หญิงขอรับ”
“รันน่อน!! ข้าต้องบอกเจ้ากี่ครั้งว่าอย่าพูดกับข้าเหมือนเป็นเจ้าหญิงแบบนั้น!!”
“อีก 33 ครั้งก็ครบ 100 แล้วล่ะ เจ้าหญิงอาเอล”
“ห้ามเรียกข้าเจ้าหญิงด้วย!”
“คร้าบๆ เจ้าหญิง”
“นี่นายกวนโมโหชั้นรึเปล่าเนี่ย”
“ไม่กล้าๆ”
รันน่อนนั่งไขว้ขาแล้วยิ้ม
“ผ่านมากี่ปีๆก็เสียเปล่า นึกว่าอยู่ในปราสาทแล้วจะดัดนิสัยม้าดีดกะโหลกนั่นหมดซะอีก”
แทนที่เจ้าหญิงจะโกรธที่เขาพูดกับเธอแบบสามัญชน เธอกลับไม่
“ข้าไม่ยอมเปลี่ยนหรอก ไม่ว่าจะครูสอนมารยาทหรือท่านพ่อท่านแม่ก็เหอะ”
“เจ้านี่ล่ะน้า~ ตั้งแต่ที่เจอกันในค่ายทหาร เจ้าก็ไม่มีเปลี่ยน”
“รันน่อน เจ้าเป็นคนเดียวที่รู้จักกับข้าตั้งแต่ข้ายังอายุน้อย”
“แต่ก็ยังเป็นม้าดีดกะโหลกหาความเป็นหญิงไม่ได้”
รันน่อนพูดทะลุกลางปล้อง อาเอลถึงกับชะงัก
“รันน่อน ชักจะหยาบคายแล้วนะ”
“อ้าว?ข้านึกว่าชอบแบบนี้ซะอีก”
“ต่อให้ข้าไม่ได้เป็นเจ้าหญิง ผู้หญิงคนไหนก็เกลียดที่มีคนว่าอย่างนั้นอยู่ดี”
“หรือเจ้าจะเถียงว่าเจ้าไม่ได้เป็น?”
อาเอลเงียบ พูดไม่ออกแต่โกรธจนหน้าแดง รันน่อนยืนขึ้น
“สวมหน้ากากเจ้าหญิงได้แล้ว เราต้องรีบไปแต่งตัวแล้วไปเรียนวิชาการปกครองจากท่านอำมาตย์ลูมินเดียในอีก 2 ชม.นะ”
อาเอลยืนขึ้นแล้วเดินไปอีกทาง
“ไปของเจ้าคนเดียวเถอะ ข้าไม่ไป”
รันน่อนเดินตามเธอที่เดินเข้าไปในวังในทางประตูที่คนรับใช้ใช้กันพลางพูด
“อาเอล ข้าเคยพูดกับเจ้าแล้วนี่ ขืนเจ้าโดดบ่อยๆ เจ้าจะเดือดร้อนนะ”
“แล้วยังไงล่ะ? ข้าเดือดร้อนมันก็เรื่องของข้า”
“ . . . พ่อเจ้าอาจจะส่งองครักษ์คนใหม่มาทำหน้าที่แทน ซึ่งคงไม่ได้ปล่อยให้เจ้าเดินไปไหนมาไหนแบบนี้ได้แน่ๆ”
“. . .”
อาเอลหยุดเดิน รันน่อนเปิดหนังสือแล้วเดินตาม
“อาเอล ข้าพูดกับเจ้าแล้วนะ จะทำหรือไม่ก็เป็นเรื่องของเจ้า”
เขาเดินนำหน้าเธอไป อาเอลถอนหายใจสั้นแล้ววิ่งตาม
“ก็ได้ๆ!!”
“ทำไมจู่ๆพูดรู้เรื่องขึ้นมาล่ะ?”
“ไม่ต้องมาเหน็บข้า ข้าไม่ได้เป็นลูกศิทย์คนโปรดของท่านเคราเงินลูมินเดียนี่ ข้าไม่ได้รอเรียนรอรับคำชมอย่างเจ้านี่”
“ข้าไม่ได้เป็นลูกศิทย์คนโปรดของท่านซะหน่อย ข้าเป็นแค่นักเรียนที่ตั้งใจคนนึงเท่านั้นแหละ”
“ข้าตั้งใจไม่ไหว ข้าชอบหลับตอนบ่ายมากกว่าเรียนประวัติศาสตร์ยาวเป็นปีๆอย่างนั้นนี่”
“แค่ 2 ชม.เอง มิน่าล่ะที่ชอบหลับ เจ้าถึงมีสภาพเหมือนท้องได้ 5 เดือนแบบนั้น”
“รันน่อน เจ้าคนหยาบคาย!!”
อาเอลโวยวายแล้ววิ่งไล่ตามเขา รันน่อนหัวเราะฮาฮาแล้ววิ่งนำเธอไป
“จะสายแล้วนะเจ้าหญิง แต่อย่าวิ่งสิ เดี๋ยวได้คลอดก่อนกำหนดหรอก!!”
“เจ้า!!ตาย!!วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้!!!”
อาเอลจับกระโปรงวิ่งไล่เขาเข้าไปในปราสาท โดยทหารที่ยืนยามอยู่มองแบบขำๆ
“เจ้าหญิงกับท่านองครักษ์เป็นแบบนี้ทุกทีเลย”
“ข้าว่ามีแต่ท่านองครักษ์คนเดียวที่เอาเจ้าหญิงอยู่ ขืนให้ข้าไปดูแลจริงๆ 2 วันข้าคงผูกคอตาย”
“แย่อย่างนั้นเลยรึ?”
“แย่ มากๆ ไม่มีใครในโลกแล้วที่จะดูแลเจ้าหญิงอาเอลได้นอกจากองครักษ์รันน่อนคนเดียว เพราะว่าเจ้าหญิงทรงเป็นพระสหายกับท่านรันน่อนตั้งแต่อายุน้อยทั้งคู่ยังไงล่ะ”
“เพื่อนสมัยเด็กมีพลังมากขนาดนั้นเลยรึ?”
“คอยดูต่อไปก็แล้วกัน”
    ภายในปราสาท หญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งคุยกับชายหนุ่มในสวนดอกไม้ของปราสาท การพูดคุยดูจะสนุกสนานสำหรับทั้ง 2 ชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในสวน ดูจากการแต่งตัวจะเป็นองครักษ์ดูแลปราสาท พวกองครักษ์มองเห็นทั้ง 2 แล้ว คนหนึ่งก็พูดขึ้น
“ช่างเป็นนางรับใช้ที่งามจริงๆนะ”
“สนใจรึไง? ดูดีๆสิ หวานใจก็นั่งอยู่นั่น”
“เชอะ! หนุ่มสะโอดสะองอย่างนั้นจะไปมีน้ำยาอะไร?มันต้องบึกบึนอย่างข้าสิ”
ทหารที่มาด้วยดูจะไม่กล้าแย้ง ชายที่พูดตัวใหญ่กว่าพวกเขาและมีกล้ามเป็นมัดๆ เพียงแต่หน้าตาก็ไม่ได้ดีอะไรนักหนา มันเสยผมเหมือนกับทำแล้วจะหล่อซะเต็มประดาแล้วเดินส่ายอาดๆเข้าไปหาทั้ง 2 โดยพรรคพวกยืนมองอยู่ห่างๆ
“นางงาม สนใจจะไปดื่มชากับข้าไหมขอรับ?”
หญิงสาวหันมามอง เธอมีผมสีทองยาวถักเป็นเปียคู่ ดวงตากลมใสสีดำขลับ หน้าตาจัดเป็นหญิงงามคนนึง เธออยู่ในชุดคล้ายกับหญิงรับใช้ในปราสาท สวมหมวกคลุมผม หญิงสาวขมวดคิ้วแล้วหันมาหาชายหนุ่มที่นั่งคุยอยู่ตอนแรก
“รันน่อน ข้าไม่อยากคุยกับหมอนี่”
ชายที่ถูกเรียกว่ารันน่อนเป็นชายหนุ่มรูปร่างออกผอม ผมสั้นสีดำมัดเป็นหางเต่า ใส่แว่นกลมอันเล็กๆอยู่ตรงจมูก ในมือถือหนังสือและอยู่ในชุดองครักษ์ เขายิ้มฝืนๆให้หญิงสาวแล้วหันไปพูดกับผู้ที่มาใหม่
“ดูเหมือนว่าสุภาพสตรีจะปฏิเสทนะ ข้าว่าท่านรีบไปดีกว่า”
“ว่ายังไงนะ!? กล้าไล่ข้ารึ?! รู้รึเปล่าว่าข้าเป็นใคร? ข้าคือวอดัน องครักษ์ผู้ดูแลวังหลวงชั้นนอกนะ! เจ้าสิเป็นใคร ไม่เคยเห็นหน้า อยู่ในชุดองครักษ์สังกัดหน่วยไหนล่ะ หืม!?”
หญิงสาวดูท่าทางจะเริ่มโกรธ รันน่อนเริ่มลนลาน
“เอ่อ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะไล่ท่านนะ แต่ข้าว่าท่านรีบไปดีกว่า ก่อนที่เธอจะโกรธแล้วจะมีปัญหากันขึ้นมา”
ทหารที่ตามชายนามวอดันคุยกัน
“ข้าว่าเจ้าหนุ่มนี่นอนจมพุ่มดอกไม้แน่ บังอาจทำให้วอดันฉุน”
“ข้าก็ว่างั้นแหละ”
ทางด้าน 2 ชาย 1 หญิงก็กำลังมีทีท่าว่าจะมีการลงมือลงไม้กัน วอดันยังคงเบ่งอำนาจของตัวเอง
“ข้าถามเจ้าว่าเจ้าอยู่หน่วยไหน!? ถ้าไม่ตอบ ข้าจะโยนเจ้าออกไปนอกปราสาทเดี๋ยวนี้เลย!!”
รันน่อนหันไปมองหญิงสาว ตอนนี้เธอลุกขึ้นแล้ว เขารีบดันองครักษ์วอดัน
“เอ่อ ท่านองครักษ์ ข้าเข้าใจว่าท่านเคร่งครัดในหน้าที่ดี แต่ข้าอยากให้ท่านรีบไป ตอนนี้เลย ยิ่งเร็วยิ่งดี”
“หุบปาก เจ้าไม่มีสิทธิมาสั่งข้า!! ไม่ยอมตอบแบบนี้ต้องแอบเข้ามาในปราสาทแน่!! พวกเรา!มาช่วยกันโยนเจ้านี่ออกไปจากปรา . . . อั้ค!?!”
เสียงดังขึ้นพร้อมกับเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย หญิงสาวปล่อยฮุคขวาเข้าใส่วอดัน ลอยไปร่วงลงในพุ่มดอกไม้แล้วแน่นิ่ง รันน่อนอุทานพลางเกาหัว
“โธ่เอ๊ย~~ ข้าก็บอกแล้วว่าให้รีบไป ต่อจากนี้ข้าไม่รู้แล้วนะ”
ทหารที่ตามวอดันมาพอหายจังงังก็รีบวิ่งเข้ามา
“กล้าทำร้ายองครักษ์วังหลวงเหรอ!?! พวกเข้าจงวางมือรอรับการจับกุมซะดีๆ!!”
“ทหาร เรื่องอะไรกัน?”
นายทหารคนหนึ่งเดินเข้ามาในสวนดอกไม้ ทหารทั้งหมดหันไปทำความเคารพ
“ท่านนายกอง คือ หญิงสาวคนนี้ทำร้ายทหารขอรับ!”
นายกองหันไปมองรันน่อนและหญิงสาว
“เอ่อ ท่านคือองครักษ์ของเจ้าหญิง ท่านรันน่อน ฟาเอลล์ ใช่ไหมขอรับ?”
รันน่อนมองหญิงสาวแล้วหันมา
“ท่านนายกองวังนอก ขออภัยที่ทำร้ายทหารของท่านนะขอรับ แต่ว่าข้าพยายามห้ามแล้ว . . .”
“ไม่ต้องขอโทษอะไรทั้งนั้น รันน่อน”
หญิงสาวดึงหมวกคลุมผมออกแล้วปล่อยผม ก่อนจะหันกลับมา
“มีอะไรข้ารับผิดชอบเอง เพราะข้าเป็นคนลงมือนี่”
นายกองเห็นหญิงสาวถอยไป 3 ก้าวแล้วรีบคุกเข่าลง
“ข . . . ข้าขออภัยแทนทหารของข้าด้วย เจ้าหญิงอาเอล ข้าไม่ทราบว่าทำอะไรให้ แต่ข้าต้องขออภัยจริงๆขอรับ!!”
รันน่อนทำท่าเหมือนจนปัญญา ส่วนเจ้าหญิงอาเอลขมวดคิ้วเรียวงามของเธอแล้วชี้ไปที่วอดันที่ยังนอนหมดสติอยู่ในพุ่มดอกไม้
“ทหารนายนี้เข้ามาขัดจังหวะการพูดคุยของข้ากับรันน่อน ข้าลงมือสั่งสอนไปแล้ว ขอให้ท่านนายกองรีบลากมันออกไปให้ไกลหูไกลตาข้า ก่อนที่ข้าจะหงุดหงิดมากกว่านี้”
นายกองลนลานรับคำ ขอโทษขอโพยซะการใหญ่แล้วรีบเรียกทหารที่งงเป็นรอบที่ 2 มาลากวอดันที่นอนหมดสภาพออกไป เจ้าหญิงอาเอลนั่งลงกอดอก ไขว้ขา
“เสียเส้นจริงๆ ข้าละเกลียดพวกขี้เบ่งจริงๆ”
“นี่นะเจ้าหญิง ทำอะไรให้เหมาะกับเป็นเจ้าหญิงหน่อยสิ”
“รันน่อน นายน่ะทำไมไม่งัดเอาตราองครักษ์ในออกมาโชว์แล้วไล่ไปไกลๆล่ะ!!”
เจ้าหญิงหันมาเล่นงานเขาแทน
“อ้าว!? ตอนแรกใครเป็นคนบอกให้ข้าเงียบๆไม่ทำเหมือนว่าเจ้าหญิงอยู่ตรงนี้ล่ะขอรับ ไม่งั้นที่เจ้าหญิงอุตส่าห์ยอมใส่ชุดสนมรับใช้ออกมาก็เสียหมดสิขอรับ”
“รันน่อนนนนน”
เธอลากเสียงยาว ทำหน้าโหดใส่ รันน่อนหัวเราะแล้วโบกมือ
“ทราบแล้วๆ ข้าจะทำตามคำสั่งองค์หญิงขอรับ”
“รันน่อน!! ข้าต้องบอกเจ้ากี่ครั้งว่าอย่าพูดกับข้าเหมือนเป็นเจ้าหญิงแบบนั้น!!”
“อีก 33 ครั้งก็ครบ 100 แล้วล่ะ เจ้าหญิงอาเอล”
“ห้ามเรียกข้าเจ้าหญิงด้วย!”
“คร้าบๆ เจ้าหญิง”
“นี่นายกวนโมโหชั้นรึเปล่าเนี่ย”
“ไม่กล้าๆ”
รันน่อนนั่งไขว้ขาแล้วยิ้ม
“ผ่านมากี่ปีๆก็เสียเปล่า นึกว่าอยู่ในปราสาทแล้วจะดัดนิสัยม้าดีดกะโหลกนั่นหมดซะอีก”
แทนที่เจ้าหญิงจะโกรธที่เขาพูดกับเธอแบบสามัญชน เธอกลับไม่
“ข้าไม่ยอมเปลี่ยนหรอก ไม่ว่าจะครูสอนมารยาทหรือท่านพ่อท่านแม่ก็เหอะ”
“เจ้านี่ล่ะน้า~ ตั้งแต่ที่เจอกันในค่ายทหาร เจ้าก็ไม่มีเปลี่ยน”
“รันน่อน เจ้าเป็นคนเดียวที่รู้จักกับข้าตั้งแต่ข้ายังอายุน้อย”
“แต่ก็ยังเป็นม้าดีดกะโหลกหาความเป็นหญิงไม่ได้”
รันน่อนพูดทะลุกลางปล้อง อาเอลถึงกับชะงัก
“รันน่อน ชักจะหยาบคายแล้วนะ”
“อ้าว?ข้านึกว่าชอบแบบนี้ซะอีก”
“ต่อให้ข้าไม่ได้เป็นเจ้าหญิง ผู้หญิงคนไหนก็เกลียดที่มีคนว่าอย่างนั้นอยู่ดี”
“หรือเจ้าจะเถียงว่าเจ้าไม่ได้เป็น?”
อาเอลเงียบ พูดไม่ออกแต่โกรธจนหน้าแดง รันน่อนยืนขึ้น
“สวมหน้ากากเจ้าหญิงได้แล้ว เราต้องรีบไปแต่งตัวแล้วไปเรียนวิชาการปกครองจากท่านอำมาตย์ลูมินเดียในอีก 2 ชม.นะ”
อาเอลยืนขึ้นแล้วเดินไปอีกทาง
“ไปของเจ้าคนเดียวเถอะ ข้าไม่ไป”
รันน่อนเดินตามเธอที่เดินเข้าไปในวังในทางประตูที่คนรับใช้ใช้กันพลางพูด
“อาเอล ข้าเคยพูดกับเจ้าแล้วนี่ ขืนเจ้าโดดบ่อยๆ เจ้าจะเดือดร้อนนะ”
“แล้วยังไงล่ะ? ข้าเดือดร้อนมันก็เรื่องของข้า”
“ . . . พ่อเจ้าอาจจะส่งองครักษ์คนใหม่มาทำหน้าที่แทน ซึ่งคงไม่ได้ปล่อยให้เจ้าเดินไปไหนมาไหนแบบนี้ได้แน่ๆ”
“. . .”
อาเอลหยุดเดิน รันน่อนเปิดหนังสือแล้วเดินตาม
“อาเอล ข้าพูดกับเจ้าแล้วนะ จะทำหรือไม่ก็เป็นเรื่องของเจ้า”
เขาเดินนำหน้าเธอไป อาเอลถอนหายใจสั้นแล้ววิ่งตาม
“ก็ได้ๆ!!”
“ทำไมจู่ๆพูดรู้เรื่องขึ้นมาล่ะ?”
“ไม่ต้องมาเหน็บข้า ข้าไม่ได้เป็นลูกศิทย์คนโปรดของท่านเคราเงินลูมินเดียนี่ ข้าไม่ได้รอเรียนรอรับคำชมอย่างเจ้านี่”
“ข้าไม่ได้เป็นลูกศิทย์คนโปรดของท่านซะหน่อย ข้าเป็นแค่นักเรียนที่ตั้งใจคนนึงเท่านั้นแหละ”
“ข้าตั้งใจไม่ไหว ข้าชอบหลับตอนบ่ายมากกว่าเรียนประวัติศาสตร์ยาวเป็นปีๆอย่างนั้นนี่”
“แค่ 2 ชม.เอง มิน่าล่ะที่ชอบหลับ เจ้าถึงมีสภาพเหมือนท้องได้ 5 เดือนแบบนั้น”
“รันน่อน เจ้าคนหยาบคาย!!”
อาเอลโวยวายแล้ววิ่งไล่ตามเขา รันน่อนหัวเราะฮาฮาแล้ววิ่งนำเธอไป
“จะสายแล้วนะเจ้าหญิง แต่อย่าวิ่งสิ เดี๋ยวได้คลอดก่อนกำหนดหรอก!!”
“เจ้า!!ตาย!!วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้!!!”
อาเอลจับกระโปรงวิ่งไล่เขาเข้าไปในปราสาท โดยทหารที่ยืนยามอยู่มองแบบขำๆ
“เจ้าหญิงกับท่านองครักษ์เป็นแบบนี้ทุกทีเลย”
“ข้าว่ามีแต่ท่านองครักษ์คนเดียวที่เอาเจ้าหญิงอยู่ ขืนให้ข้าไปดูแลจริงๆ 2 วันข้าคงผูกคอตาย”
“แย่อย่างนั้นเลยรึ?”
“แย่ มากๆ ไม่มีใครในโลกแล้วที่จะดูแลเจ้าหญิงอาเอลได้นอกจากองครักษ์รันน่อนคนเดียว เพราะว่าเจ้าหญิงทรงเป็นพระสหายกับท่านรันน่อนตั้งแต่อายุน้อยทั้งคู่ยังไงล่ะ”
“เพื่อนสมัยเด็กมีพลังมากขนาดนั้นเลยรึ?”
“คอยดูต่อไปก็แล้วกัน”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น