ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Senran Kagura Estival Versus

    ลำดับตอนที่ #39 : The Egg Rice Bowl

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 51
      0
      11 ส.ค. 59

    ตรงนั้นเป็นห้องครังเล็กๆที่อยู่ใต้ต้นไม้ ในบริเวณชายหาด
    มันอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เรามาครั้งแรก
    ฉันไม่รู้ว่าใครตั้งเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าจะเอามาใช้การได้
    บางทีอาจจะมีใครที่ใช้เวลานี้มาทำอาหารกับคนที่พวกเขาจากไปก็เป็นได้

    "ไข่ หัวหอม ผักชีฝรั่ง ข้าว ไก่ พริก... ดูเหมือนว่าจะได้มาครบหมดแล้ว"

    แม่บอกเครื่องปรุงแต่ละอย่างด้วยสีหน้าอันเป็นสุข

    "ลูกหิวแล้วสินะ"
    "แน่นอน!"
    "เอาล่ะ งั้นแม่จะทำข้าวให้ ส่วนลูกก็ไปเตรียมไข่มาล่ะกัน"

    คำพูดของเธอทำเอาฉันตะลึง
    ที่ฉันอยากจะกินก็คือข้าวหน้าไข่เองนะ
    ฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำอะไรก่อนดี...

    "ไม่ต้องห่วง แม่จะสอนให้ ถ้าลูกทำเองเป็นก็จะเหมือนกับที่แม่ทำให้ลูกนั่นแหละ"

    แม่ยิ้มขณะที่เธอกำลังล้างข้าวอยู่
    ฉันไม่รู้ว่าจะเข้าใจที่เธอว่ามาหรือเปล่า แต่สิ่งที่ฉันทำได้ก็แค่ทำตามที่เธอทำเท่านั้น

    ก่อนอื่นก็หั่นไก่ออกมาเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วก็เติมเครื่องปรุงลงไป
    จากนั้นก็ทำซุปดะชิโดยการผสมน้ำ โชยุและก็น้ำตาลเข้าด้วยกัน
    ผสมในอัตราส่วนตามที่แม่บอกไว้
    เห็นได้ชัดเลยว่า กุญแจก็คือปริมาณของน้ำตาลที่มีจำนวนเยอะ
    "ต่อไป เราก็ตอกไข่แล้วก็เอามาผสมกัน"

    "แล้วตัดหัวหอมขนาดตามที่ลูกต้องการ"

    ฉันปอกหัวหอมแล้วก็ผ่ามันลงไป
    ตาของฉันเริ่มพร่า น้ำตาเริ่มไหลออกมา

    "ตายล่ะ มีอะไรหรือ?"
    "แม่จ๋า ตาฉันเจ็บ"
    "ฮิๆ หัวหอมเป็นคนทำสินะ"

    เธอยื่นผ้าเช็ดหน้าของเธอและก็เช็ดน้ำตาของฉันอย่างอ่อนโยน

    ฟืนที่กำลังเผานั้นให้ไฟที่แรงพอ ฉันเติมซุปดะชิลงในกระทะเพื่อรอที่จะทำอาหารต่อ
    เมื่อดะชิเริ่มเดือด เราก็เติมไก่ลงไปและก็ต้มมันให้สุก
    เมื่อไก่พร้อมแล้ว เราก็ใส่หัวหอมลงไป

    "ตอนนี้ก็มาถึงส่วนที่สำคัญแล้ว..."

    ขณะที่กำลังจะใส่หัวหอมนั้น เราเทไข่ที่ตีผสมลงไปในกระทะ

    "เมื่อไข่เริ่มแข็งตัว ก็หมายความว่ามันจะอร่อยนะ"
    "เข้าใจล่ะ"

    เมื่อไข่เริ่มปุดเป็นฟองออกมา ฉันก็ตักมันขึ้นมาจากกระทะ

    "เอาล่ะนะ นี่ข้าวจ้ะ"

    แม่ตักข้าวจากหม้อและก็ยื่นมาให้ฉัน
    ฉันทำกับข้าวสำเร็จและก็ค่อยๆวางไว้บนข้าว
    สุดท้าย แม่ก็ใส่ผักชีไว้บนสุด เราทำข้าวหน้าไข่ด้วยตนเอง มันดูดีเหมือนกับที่เห็นในภัตตาคารเลย

    "เอาล่ะ เสร็จแล้วจ้า"
    "หืมม มันก็ทำง่ายจริงๆด้วยแฮะ"
    "นี่จ้า กินตอนที่กำลังร้อนๆนะ"

    เรานั่งบนก้อนหินและโต๊ะไม้ และก็จับด้วยตะเกียบ

    "จะทานแล้วนะค่ะ"

    ฉันเริ่มตักข้าวขึ้นมากินทันที

    "ง่ำๆ งึมม! ง่ำๆๆ"

    อร่อย อร่อยมาก
    นี่คืออาหารพิเศษของแม่เลย
    ฉันรู้สึกเต็มอิ่ม ฉันคิดถึงมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย

    "อะ...อึก..."

    อารมณ์ที่เก็บกดไว้เป็นปีเริ่มไหลทะลักออกมาในคราวเดียว
    มันทำให้ฉันเพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองหยุดคีบตะเกียบไปชั่วขณะ
    น้ำตานั้นไหลย้อยลงมาบนแก้มเป็นสายยาวๆ

    "นี่มันอร่อยจริงๆ..."
    "ใช่แล้ว มันยอดเยี่ยมจริงๆ ลูกกับแม่ทำได้ดีด้วยกันเลยนะ"

    ฉันเช็ดน้ำตาออกและก็เตรียมตัวเอง

    "แม่คะ...เราอยากจะคุยกันสักหน่อย"

    ฉันกำลังจะบอกเธอ ฉันมองไม่เห็นเธอเลย ฉันอยากจะพูดลาก่อน
    มันมากยิ่งกว่าที่ฉันอยากจะอยู่กับเธออีก
    แต่ฉันก็มัวแต่ยึดติดกับอดีตอยู่
    ไม่ว่าจะเสียใจแค่ไหนหรือจะยากเย็นยังไง มนุษย์ยังมีจุดหมายที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไป
    คำพูดของ Imu ดังขึ้นมาในหัว ฉันขบฟันกรามกรอด

    "ฉันว่า...จะกลับบ้านล่ะนะ..."

    นั่นคือสิ่งที่ฉันโพล่งออกมาจากในลำคอที่อุดไว้
    และตอนที่ฉันเห็นเธอนั้น เธอก็ยังคงนั่งอยู่ตรงข้ามฉัน แต่เธอเริ่มที่จะเลือนลางลง
    เธอจางหายไป เธอจากไปแล้ว

    "แม่! ทำไมกัน?!"

    เทศกาลชิโนบิบงก็ยังไม่จบสักหน่อย
    เทศกาลสหัสวรรษ Kagura ก็ยังดำเนินอยู่นะ
    ทำไมแม่ถึงหายไปล่ะ?

    ฉันรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว แต่แม่ก็ยังคงยิ้มให้ฉันอยู่

    "เพราะตอนนี้ แม่ไม่มีอะไรที่ค้างคาแล้วล่ะ"
    "อะไรนะ?"

    "จากนี้ไป ลูกก็ทำข้าวหน้าไข่เองได้แล้วล่ะ และเมื่อไรที่เธอทำ...ช่วยจำสิ่งที่แม่บอกให้ดีๆนะ"

    เมื่อฉันได้ยินคำนี้ น้ำตาก็ไหลออกมาราวกับน้ำตก
    แม่...แม่กำลังจะหายไปอีกครั้ง
    ฉันอยากจะร้องไห้ออกมา อยากจะตะโกนจากภายใน สวดอ้อนวอนปล่อยมันออกไป
    แต่ก็ทำไม่ได้ ฉันรู้ว่าทำไม่ได้แน่

    ฉันจึงได้เช็ดน้ำตา ฉันได้แต่ยิ้มไปเท่านั้น

    ถ้าฉันร้องไห้ เธอก็จะเป็นห่วงฉันแล้วเธอก็จะเปลี่ยนใจมาอยู่กับฉันหรือไม่ก็รู้สึกเสียใจที่ทิ้งฉันไป
    แล้วไม่ช้าก็เร็ว มันก็จะเกิดแบบนี้เหมือนกับที่เคยเกิดอีกครั้ง

    ฉันจึงตัดสินใจว่าจะมุ่งหน้าสู่อนาตคต่อไป ฉันตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอยู่
    และนั่นแหละที่ฉันคืนรอยยิ้มให้แม่

    "...ท่านแม่ ขอบคุณมากค่ะ"

    "ขอบใจนะ Miyabi แม่ดีใจจริงๆที่เป็นลูกสาวฉันนะ"

    ฉันกลั้นน้ำตาเอาไว้ ทำตัวให้สง่าและเชิดหน้าขึ้นมา

    "...ลาก่อน ท่านแม่"

    "ลาก่อน Miyabi"

    สิ่งที่ฉันรู้ต่อไป เธอไม่อยู่นี่แล้ว
    ไม่เหลืออะไรนอกจากถ้วยที่ล้างสะอาดแล้ว

    "อ๊าาาาาาาาาาาาาาาา! ฮือออออออออออออออออ!"

    ฉันร้องไห้
    ดังลั่นและยาวนาน
    ไม่มีอะไรมาอดกลั้นเอาไว้
    แต่ก็ดีแล้วล่ะ
    เมื่อไรที่ฉันหยุดร้องไห้ เมื่อไรที่น้ำตาหยุดไหล ฉันจะกลับไป

    ในฐานะของ Miyabi ที่เป็นหัวหน้าของ Hebijo
    ตัวฉันต้องเก่งและพร้อมดั่งที่เป็น





    ..........................................





    "...กลับมาแล้วล่ะ ทุกคน" Miyabi พูด

    "Miyabi..." Imu พูด

    "เอ๊ะ...? Miyabi... เธอดูเปลี่ยนไปนะ ฉันน่าจะบอกเธอว่า...กลิ่นมันแปลกไปนะ" Murasaki พูด

    "อย่างงั้นหรือ? ไม่ยักจะรู้เลยนะเนี่ย..." Miyabi พูด

    "เธอบอกลาแล้ว...ไม่ใช่หรือ?" Imu ถาม

    "เออ แล้วแม่ก็ตัดสินใจจากไปในภายหลังแล้วล่ะ" Miyabi ตอบ

    "หมายความว่าเธอหายตัวไปสินะ?" Ryōbi ถาม

    "ไม่หรอก เธอไม่ได้หายไป
    เธอยังคงอยู่ในใจฉันพอๆกับที่ฉันจะไม่มีวันลืมเธอนั่นแหละ คือสิ่งที่ฉันต้องการล่ะ" Miyabi ส่ายหน้าปฏิเสธ

    Ryōna ไม่พูดอะไร

    Ryōbi ถอนหายใจออกมา

    "...Miyabi เธอกลับมาจริงๆสินะ และเธอก็ดูเหมือนจะ...ยิ่งกว่าเดิมด้วยสิ" Imu พูด

    "Murasaki Ryōna Ryōbi" Miyabi เรียก

    "...ค-ค่ะ?" Murasaki ขานรับ

    "ค่าาาาาา?" Ryōna ตอบรับเต็มที่เลย

    "...อะไรหรือ?" Ryōbi ยังคงเย็นชาเหมือนเดิม

    "จนมาถึงตอนนี้ ฉันอาจจะลำบากอยู่ คงจะไม่เหมาะที่จะคอยชี้นำพวกเธอสักเท่าไร แต่ถึงกระนั้นฉันก็ยังมีคำถามสำหรับพวกเธออยู่นะ
    เกียรติยศของ Hebijo คืออะไรล่ะ?
    หนทางของชิโนบิฝ่ายร้ายคืออะไรล่ะ?
    เราสู้กันเพื่ออะไรล่ะ?" Miyabi พูด

    "ผมสู้เพื่อ Miyabi ไง!" Imu ตอบโดยไม่คิดอะไรเลย

    "Imu ฉันไม่ได้ถามเธอนะ" Miyabi พูด

    "ข-ขอโทษค่ะ" Imu ขอโทษที่รีบพูดขัดขึ้นมา

    "Murasaki Ryōna และ Ryōbi พวกเธอทั้งสามจะตอบคำถามพวกนั้นได้มั้ยล่ะ?" Miyabi ถาม

    Murasaki พูดไม่ออก

    Ryōna ได้แต่เอียงคอสงสัย

    "...แล้วเธอล่ะ?" Ryōbi ถามย้อนกลับ

    "ไม่ง่ายหรอกนะที่จะบอกเธอตรงๆนะ" Miyabi พูด

    "เห? อะไรนะ?" Ryōbi ถึงกับแปลกใจ

    "แต่ฉันเชื่อคำตอบที่โกหกนะ ไหนจะว่าทำไมฉันตั้งใจที่จะมุ่งหน้าต่อไปไง
    และถึงจะไม่มีคำตอบเหล่านี้อยู่ในมือ ฉันก็รู้มาเยอะแล้ว ฉันไม่อาจจะอยู่นี่ได้ ไม่ใช่เหมือนแบบนี้" Miyabi พูด

    "...Miyabi" Imu พูด

    "ประเด็นอีกอย่างหนึ่ง ฉันไม่สามารถไปข้างหน้าด้วยตัวคนเดียวได้ Murasaki, Ryōbi, Ryōna และ Imu ฉันอยากจะให้พวกเธอช่วยเดินทางร่วมกับฉันหน่อย" Miyabi พูด

    "Miyabi..." Murasaki พูด

    "พวกเธอตัดสินใจแต่ละคนด้วยตัวเองนะ แต่ถ้าฉันช่วยพวกเธอได้ก็บอกฉันด้วย ฉันไม่อยากที่จะปล่อยให้ใครถูกทิ้งหลังนะ" Miyabi พูด

    "...ขอบใจ Miyabi" Ryōbi พูด

    "เอาล่ะ เห็นพ้องกันแล้ว เราจะต้องไล่ตามทีมอื่นให้ได้" Miyabi พูด

    "เห? จะไปตอนนี้เลยเหรอ? แต่ถ้าฉันไม่อยากเป็นคนที่ถูกทิ้งหลังนี่มันอะไรกันน่ะ?" Ryōna ถามด้วยความสงสัย

    "เธออาจจะหาคำตอบเจอในระหว่างประมือก็ได้นะ เราทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ" Miyabi พูด

    "...อือ เราก็ว่าอย่างนั้น" Ryōbi พูด

    "เอาล่ะ ไปกันเลย! Hebijo จะต้องครองเทศกาลชิโนบิบงนี้ให้ได้! ก่อนอื่นเราต้องเผาพวกเจ้าภาพของงานด้วยเปลวเพลิงแห่งความเกรี้ยวกราดเสียก่อน!" Miyabi สั่ง

    "ผมพร้อมที่จะทำตามแล้ว Miyabi!" Imu รับทราบ

    "...ฉันก็จะไปด้วย ฉันไม่ควรที่จะอยู่ตรงนี้โดยที่ไม่ได้ทำอะไร" Murasaki พูด

    "...ใช่แล้ว ไปกันเถอะ Ryōbi!" Ryōna พูด

    "...อือ" Ryōna ขานรับ

    "เอาล่ะ ทุกคน! มาลุยเพื่อเกียรติยศของปีศาจร้ายกันเลย!" Miyabi บอก

    แล้วที่แรกที่พวกเธอจะบุกไปก็คือ พวก Mikagura นั่นเอง ตอนนี้ Miyabi พร้อมแล้วล่ะ




    ..........................................




    หลังจากที่จัดการกับพวก Mikagura ไปได้แล้ว

    "อึก เราแพ้งั้นเหรอ? จริงหรือนี่?" Hanabi แทบไม่อยากจะเชื่อตัวเอง

    "นี่เธอล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย... นั่น Miyabi จริงๆเหรอ? เธอสู้เหมือนกับจะเป็นคนละคนเลย" Renka พูด

    "โดยเฉพาะหลังจากที่เธอโดนเตะโด่งไปถึงหลายครั้งนั่นแหละ" Kafuru พูด

    "อย่างงั้นเหรอ? ฉันจำได้ดีเลยล่ะ" Miyabi พูด

    "แล้วไอ้ 'ลุคใหม่' ที่ได้นี่มันอะไรกัน? ไปเก็บเอาหนังสือปรัชญาหรืออะไรสักอย่างมาสินะ?" Kafuru ถาม

    "ก็ไม่มีอะไรมากนักหรอก ฉันก็แค่เปลี่ยนแปลงภายในตัวเท่านั้นแหละ" Miyabi บอก

    "จ-เจ๋งโว้ย ฉันเดาว่าคงจะระบายความอึดอัดออกมาสินะ... อึก แย่ชะมัด" Kafuru บ่น



    .....................................



    "Miyabi... เธอได้แรงบันดาลใจจนน่าเกรงขามกว่าเดิมอีกนะ..." Murasaki พูด

    "อ่า เธอนี่ช่างเปล่งประกายเจิดจรัสดีจัง เพิ่งจะได้เห็นเธอก็ตอนนี้เอง" Imu พูด

    "...เธอเปล่งประกายมากว่าก่อนอีก แม้แต่จะพูดบอกลาแม่เธอด้วย... ไม่เห็นจะเข้าใจเลย" Ryōna พูด

    Ryōbi ได้แต่ถอนหายใจด้วยความรู้สึกที่ยังยึดติดและสับสนอะไรบางอย่าง

    "ท่านแม่ ช่วยมองดูฉันจากสวรรค์ด้วยนะ
    ฉันจะเดินต่อไปด้วยเกียรติยศที่น่าเชื่อถือนะ" Miyabi พูด

    มันอาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ Miyabi ไม่ต้องยึดติดกับมันอีกต่อไป ในที่สุดเธอก็ตื่นขึ้นมาแล้วสินะ

    แต่ก็ยังเหลือปัญหาอยู่โดยเฉพาะ Ryōbi กับ Ryōna ที่ยังคงยึดติดกับพี่สาว ก็คงต้องหาทางเยียวยากันต่อไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×