ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อดีตขุนนางสาวโสดกับชีวิตโลดโผนผจญภัยเพื่อลูกสาวสุดน่ารัก

    ลำดับตอนที่ #94 : บทส่งท้าย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 747
      43
      3 ธ.ค. 65

    เป็นอันว่าเรื่อง 《จอมโจรมายา》 ที่สร้างความวุ่นวายภายในปราสาทนั้นก็ไม่ได้หลุดออกไปนอกประเทศนอกจากภายในเมืองและดินแดนปีศาจแค่นั้น

    เธอเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดการณ์เอาไว้ได้และก็ยังสำเร็จคำร้องด้วยการจัดการวิกฤตการณ์ลงได้ในทันทีทันใด Shirley และคนอื่นๆที่สำเร็จในหน้าที่แล้วต่างก็มาเข้าร่วมงานเทศกาล

    เทศกาลศรีษมายันจึงถูกจัดขึ้นอย่างปลอดภัยโดยไม่มีเลื่อน ทั้งขุนนางจากต่างแดนรวมไปถึงเจ้าหญิงแห่งดินแดนปีศาจ Grimhilda ที่กำลังสำราญอยู่ในเมืองหลวงมาเป็นสิบๆครั้งแล้วด้วย เนื่องจากเทศกาลนั้นไม่ได้เห็นได้ตามปกติ จึงได้ร่วมสนุกกับเพื่อนใหม่ในต่างแดนเป็นครั้งแรก

    เช่นเดียวกับเหล่านักผจญภัยสามหนุ่มสาวอย่าง Kyle, Cudd และ Leia ที่ยังคงเป็นเด็กชายและก็เด็กสาวอยู่ เทศกาลนั้นมีขนาดใหญ่กว่าในเมืองชายแดนที่ปาร์ตี้ทั้งสามอยู่เสียอีก เทศกาลศรีษมายันจัดขึ้นมาอย่างตระการตาและเต็มไปด้วยผู้คนมากมายทั้งผู้ใหญ่และเด็กจนแน่นเอี๊ยดไปหมด

    เทศกาลศรีษมายันของเมืองหลวงจะจัดยาวต่อเนื่องถึงหนึ่งสัปดาห์ ถึงแม้จะสำราญเต็มที่ในสามวันก็ไม่อาจจะสนุกได้เต็มอิ่ม ในวันที่สี่ของเทศกาลก็มีไคลแม็กซ์ของงานถูกจัดขึ้น

    「ทั้งสองคน ระวังจะแยกกันได้นะ จับมือเอาไว้ให้ดีๆล่ะ」

    「อือ!」

    「แน่ล่ะ ถ้ามีคนเยอะขนาดนี้ก็ต้องพลัดหลงกันอยู่แล้วล่ะนะ」

    Kyle กับเพื่อนๆต่างก็ไปเที่ยวกันทั่วงาน ส่วน Hilda ที่ต้องถูกส่งมาให้คุ้มกันจากดินแดนปีศาจก็ไม่ต้องมาเป็นเหยื่อล่อหลังจากที่ 《จอมโจร
    มายา》 ถูกจับไปแล้ว สามแม่ลูกเองที่เดินจูงมือด้วยกันไปตามถนนหลักจนสุดทางนั้นก็ตกเป็นเป้าสายตาของคนที่อยู่รอบๆอย่างน่าหลงใหล

    「อุหวาา! หม่าม้าดูสิ! ขบวนพาเหรดวันนี้สุดยอดเลยค่า!!」

    「อื้อ……! เหมือนจะทำด้วยเวทมนตร์เลย แต่มันทำงานยังไงหรือ?」

    สิ่งที่ทำให้เทศกาลศรีษมายันดูโดดเด่นก็คือ ขบวนพาเหรดที่ประดับไปด้วยของที่ลอยได้หลากสีสันที่มีคนนับหมื่นต่างก็จับจ้องกันมองทั้งนั้น

    การเชิดเปลวไฟ, ตัวอักษรที่ลอยกลางอากาศ, ปฏิมากรรมขนาดใหญ่ที่สร้างมาจากน้ำแข็งกับน้ำ, กลุ่มนักดนตรีที่แต่งชุดสัตว์, เหล่าภูติที่ส่องแสงสีเขียวกำลังเต้นระบำ และก็มีมังกรยักษ์ที่ลอยได้ที่ประดับสีด้วยเวทมนตร์ขยับไปมาบนเวที

    「ถือว่าเป็นเทศกาลที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่จะมองเห็นมอนสเตอร์เต้นระบำอยู่บนถนนเหมือนอย่างนี้ได้นะ」

    「อื้อ! เมื่อวานก็เป็นสัตว์ประหลาดมะเขือเทศยักษ์ ส่วนของที่ลอยอยู่นั่นก็แตกต่างกันไปหมดเลย ต่อให้มองอันต่อๆไปทุกวันก็ไม่มีวันเบื่อเลย」

    ถึงจะรู้ว่าตัวจริงของมังกรพ่นไฟที่ส่งเสียงคำรามออกมานั้นเป็นเวทลวงตา แต่ก็ไม่ได้พูดออกไปแบบนั้นหรอก ก็แค่ยอมรับในสิ่งที่เห็นแล้วก็คิดเรื่องสนุกไปกับเทศกาลอย่างพึงพอใจจริงๆแทน Shirley จ้องไปที่ขบวนพาเหรดมองดู Sophie กับ Tio ที่ชะเง้อออกไป

    「จะไปที่ไหนต่อล่ะ? เรายังไม่ได้ไปตรงนั้นเลยนะ」

    「งั้นก็ไปยังตรงนั้นกันเถอะ แม่เองก็ยังไม่เห็นเทศกาลศรีษมายันในเมืองหลวงเลย ก็เลยเป็นห่วงอยู่บ้างนะ」

    「อือ งั้นก็ Let's Go」

    ถ้าเดินไปรอบๆตามปกติ จะไม่มีทางได้เห็นงานของเทศกาลศรีษมายันของเมืองหลวงได้ทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้แน่ แผงลอยและลานแสดงนั้นเป็นสิ่งใหม่ของ Sophie กับ Tio ที่เริ่มจะวิ่งหลังจากที่ดึงมือแม่ของพวกเธอลากไปแล้ว ด้วยความที่เธอ 『เหนื่อยจากการเล่นในวันนี้แล้วจะกลับไปนอน』 แล้วก็ยิ้มออกมา

    「เอ๋!? ทางนี้ดีกว่า! เฮ้ นั่นมันร้านแต่งตัวสำหรับเทศกาลหรือนี่!? ไม่ใช่ว่ามันน่าสนุกดีออกที่จะได้สวมเสื้อที่ไม่ได้ใส่ตามปกติด้วยหรือ?」

    「……ตรงนั้นมีสิ่งที่ดูน่าสนใจที่เขียนว่าเกมทำลายโกเลมด้วย ดูเหมือนว่าถ้าทำแต้มสูงๆได้ ก็จะได้รับรางวัลด้วย」

    และเพราะตรงนั้นมีเครื่องเล่นมากมาย จึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีการทะเลาะกันเรื่องจุดหมายที่จะไป Sophie ก็จะไปที่ร้านแต่งตัวที่อยู่ในเมืองที่สามารถเช่าเสื้อสำหรับไปงานเทศกาลได้ ส่วน Tio ที่สนใจจะเป็นนักผจญภัยอยู่แล้ว ดูเหมือนว่าจะสนใจในงานประลองทำลายหุ่นโกเลมที่สร้างมาจากก้อนหินที่ต้องทำลายให้ได้ภายในเวลาจำกัด

    ทั้งสองคนที่ต่างก็อยากจะเป็นนักผจญภัยในอนาคตอันใกล้นี้ ต่างก็มีงานอดิเรกและความชื่นชอบกันคนละทาง จึงมีความขัดแย้งขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ……เหตุที่ทำไมถึงไม่ใช้ตัวเลือกของทั้งคู่เป็นรากฐานของเหตุผลก็เพื่อสอนให้รู้ถึงการเลี่ยงไม่ให้ใช้เงินอย่างสูญเปล่า Shirley ถึงกับรู้สึกสับสนขึ้นมาบ้างแล้ว

    「แม่เองก็พอมีเวลาอยู่นะ จะไปทั้งสองที่เลยมั้ยล่ะ?」

    「มู่……ก็ได้อยู่นะ」

    「……จะไม่เป็นไรหรือ? ไม่ฝืนเกินตัวไปหน่อยหรือ?」

    「แบบนี้ก็ยังพอได้อยู่นะ」

    อย่างไรก็ตามก็ถือว่าดีแล้วล่ะ มันคือเทศกาลพิเศษ ยิ่งมีเงินในกระเป๋าที่หนาตุงแบบนี้ Shirley ก็ไม่ใช่คนที่ขี้เหนียวเกินไปนัก

    「ถ้าลูกคิดจะเช่าชุดมาล่ะก็ จะต้องให้ความใส่ใจในการรักษาให้สะอาดก่อนนะ」

    「งั้นก็ ชุดนี้ล่ะคะ」





    สถานที่อยู่ห่างจากถนนใหญ่ที่มีขบวนพาเหรดผ่านไปอีกหน่อยนั้น เป็นลานฝึกกิลด์นักผจญภัยส่วนกลาง ที่ตรงนี้ซึ่งปกติไม่ได้ให้สาธารณชนใช้ดูเหมือนจะเปิดให้ใช้ทำกิจกรรมตลอดช่วงเทศกาลศรีษมายัน ไม่เพียงแต่นักผจญภัยเท่านั้น แต่รวมไปถึงพวกหนุ่มๆเป็นจำนวนมากด้วย

    「เอาล่ะ มาเริ่มงานทำลายโกเลมของกิลด์ใหญ่ประจำปีกันเลย! ถ้าทำลายได้จะได้รับบัตรกำนัลสำหรับเทศกาลศรีษมายันนี้ไปครอง! ถ้าเป็นนักผจญภัยจะต้องจัดการแบบสามรุมหนึ่งได้ด้วย! เตรียมค่าธรรมเนียมด้วยหนึ่งเหรียญเงินเลยครับ!」

    「สมกับเป็นรางวัลที่ดีเลย มีเหรียญทองแดงเพียงไม่กี่เหรียญมาตั้งแต่เปิดร้านเลยนะเนี่ย」

    「ก็เป็นธุรกิจนี่」

    ชายสวมเสื้อคลุมที่ดูเหมือนจะเป็นนักผจญภัยที่ใช้เวทดินสร้างโกเล็มขึ้นมากับพนักงานต้อนรับหญิงที่อยู่รอบๆต่างก็ประชาสัมพันธ์เสียงดังขึ้นมา ทั้งสามคนต่างก็ทำท่าประทับใจด้วยรางวัลที่ผู้ที่เข้ามาในเทศกาลศรีษมายันต่างก็อย่างได้ทั้งนั้น เพราะมันง่ายและชัดเจนอีกทั้งไม่ต้องพึ่งเงินโดยตรง ถ้าเป็นนักผจญภัยที่มีความมั่นใจหรือเป็นเด็กที่ไม่คิดอะไรก็น่าจะคว้ามันมาได้

    เป้าหมายในตัวโกเล็มก็มีความแม่นยำละเอียดอ่อนมาก ไม่ใช่แค่การโจมตี แต่รวมไปถึงการหลบหลีกและการป้องกันอีกด้วย การเคลื่อนไหวนั้นก็ไม่ผิดไปจากมนุษย์จริงๆ ยิ่งกว่านั้นดูเหมือนว่ามันจะเพิ่มระดับความยากและขนาดของตัวโกเล็มตามจำนวนผู้เข้าแข่งขันด้วย โดยโกเล็มที่สร้างจากก้อนหินใหญ่สำหรับคนที่ดูเหมือนจะเป็นนักผจญภัยและส่วนของเด็กชายนั้นจะใช้โกเล็มที่สร้างจากดินที่มีความสูงเท่ากับตัวเด็ก

    「ยุ่งยากชะมัด! งั้นเรียกเอา Beryl มาสู้เลยได้มั้ยล่ะ?」

    「……ไม่ได้นะ มันเขียนเอาไว้ว่าต้องสู้ด้วยอาวุธที่เตรียมอยู่ตรงนั้นเท่านั้น และก็ยังบอกว่าห้ามใช้เวทมนตร์ด้วย」

    「ไหงเป็นงั้นล่ะ」

    「น่า ฉันจะเข้าไปแข่งเอง」

    「อ๊ะ ไม่แฟร์เลยง่า!」

    ด้วยบุคลิกและท่าทีที่ตรงข้ามกัน Tio ที่ชื่นชอบในงานแบบนี้ก็ได้ไปยังแผนกต้อนรับด้วยความมุ่งมั่นพร้อมทั้งเรียก Shirley ที่อยู่ตรงนั้นมาด้วย

    「อยากจะให้แม่หนูมาเล่นด้วยหรือ?」

    「แม่ด้วยหรือ? ……อาา ก็ได้นะ」

    Shirley ไม่ได้สนใจในลักษณะของตัวโกเล็มนั่นเลย แต่ถึงจะบอก Tio ก็คงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมแล้ว และก็ไปยังที่โต๊ะแผนกต้อนรับแล้วแสดงป้ายที่บ่งบอกว่าเป็นนักผจญภัยแล้วก็หยิบเอาอาวุธที่ทางกิลด์เตรียมให้

    อาวุธที่วางอยู่ตรงนั้นก็เป็นอาวุธแบบเก่าที่ถูกใช้งานจนทื่อหลังจากที่ฟันไปเพียงไม่กี่ครั้ง มีทั้งหอก, ขวาน, ค้อนและก็กงเล็บหลากชนิดมากมาย แน่นอนว่า Shirley นั้นเลือกดาบ

    「เอาล่ะ มีผู้ท้าชิงคนใหม่เข้ามา――――โอ๊ะโอ๋!? สาวงามนี่นา! นักผจญภัยสาวงามก็เข้าร่วมด้วยครับ!」

    พอยืนอยู่ตรงหน้าโกเล็มที่มีรูปร่างคน ก็มีเสียงเชียร์ดังกระหึ่มขึ้นมาเลย ถึงแม้จะคุ้นเคยกับที่เคยใช้ในเมืองแถบชายแดนก็ตามแต่ในเมืองหลวงนี่ถือว่าเป็นเรื่องที่หายากเลยล่ะ เมื่อ Shirley ปรากฏโฉมขึ้นมา เหล่านักผจญภัยชายต่างก็เหลียวไปมองราวกับจะหลงเคลิ้มไปเสียแล้ว

    「……?」

    Shirley ถึงกับเอียงหัวที่ไม่รู้ว่าทำไม แต่ก็ได้ตัดสินใจเข้าประจันหน้ากับโกเล็มหินที่สร้างขึ้นมาแล้ว

    ……Shirley ไม่ได้กะจะสร้างผลลัพธ์ให้มากถึงขนาดนั้นหรอก เธอกะจะทำให้ดูดีต่อลูกสาวเอง เธอจึงกะจะทำลายโกเล็มในขอบเขตจำกัดโดยไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้จัดงาน เธอไม่ได้มีงานอดิเรกที่จะกวาดรางวัลเรียบจนกลายเป็นการทำร้ายร้านได้

    ในสายตาของผู้ชมต่างก็คิดว่า Shirley ที่ผอมบางดูไม่แข็งแกร่งนั้นไม่น่าจะเอาชนะได้ ก็เลยดูถูกออกมาเลย

    「หม่าม้าา! พยายามเข้านะค้าาา!」

    อย่างไรก็ตาม พอเริ่มต้นขึ้น ด้วยแรงเชียร์เช่นนั้นเอง Shirley ก็เผลอแกะห่วงโซ่ที่ติดข้อมือออกเลย คนปกติไม่น่าจะมองเห็นมือของเธอที่เบลอได้เลย ดาบที่ถูกฟันออกมาอย่างรวดเร็วจนดูเหมือนจะไม่ขยับไปไหน อีกทั้งดาบนั้นก็ไม่มีความคมเลย โกเล็มนั้นก็ร่วนกลายเป็นทรายไปแล้ว ซึ่งเกิดขึ้นไม่ถึงวินาทีนับตั้งแต่เสียงเชียร์ของ Sophie

    『『『……เอ๋?』』』

    ทุกคนต่างก็อึ้งกันหมด เช่นเดียวกับจอมเวทผู้สร้างโกเล็มด้วย จนแทบจะลืมความน่าหลงใหลผู้ใหญ่ของเธอไปหมด Shirley ที่ไม่ได้แสดงท่าทางใดๆก็ส่งสายตาเร่าร้อนมายังที่ลูกสาวของเธอ

    「เอาล่ะ รีบเตรียมโกเล็มตัวต่อไปกันเลย」

    เวลาในการต่อสู้ถูกจำกัดที่ 3 นาทีต่อคนรวมถึงเวลาที่ใช้ในการสร้างโกเล็มด้วย ซึ่งก็หมายความว่า Shirley ได้ฟันโกเล็มไปกว่าร้อยตัวจนถูกทางร้านแบนไปเสียแล้ว





    「เอาล่ะ ต่อไปก็ร้านเช่าเสื้อผ้า!」

    กิลด์ผู้จัดงานต่อสู้โกเล็มถึงกับกราบหัวขอร้องไปว่า 『อย่าได้มาที่ร้านอีกเลยนะ』 Shirley กับลูกจึงได้ออกจากร้านพร้อมกับบัตรกำนัลที่ได้มาเกือบครึ่งร้าน ดูเหมือนว่า Tio จะทำคะแนนได้สูงที่สุดในหมู่เด็กที่เข้าร่วม และดูเหมือนว่าพนักงานต้อนรับนั้นจะถึงกับปากสั่นจนแทบจะไปคว้าตัวมาเลยล่ะ

    「……ฟูว มีบางอย่างที่จะทำกับร้านกาแฟนะ」

    「ฟุมุ……เหมือนจะไม่ได้เกี่ยวข้องมากสักเท่าไรนัก แต่รู้จักกับเจ้าของร้านด้วยหรือ?」

    พอมองดูป้ายขนาดใหญ่ที่ติดตั้งในช่วงเทศกาลศรีษมายัน ขณะที่มุ่งหน้าไปยังจุดหมายก็มีผู้หญิงบางคนที่กำลังมองเสื้อผ้าที่โชว์อยู่ที่กระจกหน้าต่าง

    「หวาา……」

    「……เป็นการออกแบบที่แปลกตา แต่ก็ดูดีเลยนะเนี่ย」

    เสื้อผ้าที่ Shirley ชื่นชอบนั้นจะเป็นเสื้อผ้าเนื้อดี บางเบาและดูเท่สุขุม สีก็เป็นสีเขียวและน้ำเงินที่ทำให้เหมาะกับการสวมใส่พอที่จะสำราญไปตลอดช่วงฤดูร้อนนี้

    「ดูเหมือนว่าจะมีชุดตัวนี้ด้วยนะ! Tio ทำไมไม่ลองสวมตัวนี้ด้วยกันล่ะ?」

    「เออ ก็ดีนะ」

    และแน่นอนว่า Shirley ก็เอากล้องออกมาจาก 《กล่องเครื่องมือของผู้กล้า》 มา ในวันที่พิเศษนี้พอเธอได้เข้าไปที่ร้านขณะที่กำลังคิดถึงเรื่องละเอียดอ่อนที่จะต้องทำหน้าที่ของผู้ปกครองในการตัดเอารูปถ่ายล้ำค่าออกไปแล้วให้คนรุ่นหลังได้ดูนั่น เธอก็เห็นพนักงานที่หันมามองเธอ

    「ยินดีต้อนรับคุณลูก……ค้า อ๊าาาาาาาาาาาา!? น-นี่เธอมาจริงๆหรือเนี่ย!?」

    「เอ๊ะ? เอ๋!? อ-อะไรหรือ!?」

    「……ไม่รู้สิ」

    Sophie กับ Tio มองสบตากับพนักงานร้าน คราวนี้ Shirley ไม่เข้าใจว่าหมายความว่ายังไง ทว่าผู้ช่วยร้านก็พา Shirley กับลูกสาวไปที่ร้านกาแฟข้างๆโดยไม่ลังเลเลย

    「กำลังรอเธออยู่พอดีเลย! ฉันเป็นห่วงเธอจริงๆเลยนะ!」

    「เอ๊ะ คือว่า……?」

    「น่าๆ ทางนี้!」

    พูดถึงเรื่องอะไรอยู่เนี่ย ยังไม่ทันจะได้ถาม พวกพนักงานก็ลากทั้ง Shirley และลูกสาวเข้าไปยังร้านกาแฟที่อยู่ข้างๆเลย มีพนักงานเสิร์ฟหญิงที่แต่งชุดหลากหลายที่ไม่น่าจะใช่ชุดปกติเขาสวมกันอยู่ท่ามกลางลูกค้าชายเป็นจำนวนมาก

    『โอ้ว!? มาจริงๆหรือเนี่ย!? สาวเสิร์ฟลึกลับนี่นา!!』

    『ไม่จริงน่า!? จริงหรือเนี่ย!? ไม่มีทางที่สาวเสิร์ฟแบบนี้จะมาหรอกนะ!』

    『ขอโทษนะ ช่วยให้เด็กนี่มาเสิร์ฟให้หน่อยได้มั้ย!?』

    Shirley ถึงกับถอยร่นออกไปเลย ในขณะที่ Sophie กับ Tio ถึงกับกอดกันด้วยความกลัวคนที่โวยวายเรื่องนั้นไป การตอบสนองดูเหมือนจะเป็นฝ่ายเดียว สายตาที่เร่าร้อนที่มาจากลูกค้าชายนั้นก็ไม่ปกติ

    「……??? หมายความว่ายังไงกัน?」

    「สาวเสิร์ฟลึกลับ……นี่นายกำลังพูดถึงเราอยู่หรือเปล่า? แต่ฉันไม่เห็นจะจำได้ว่าเคยทำงานในร้านแบบนี้ด้วยนี่……?」

    「…………นี่มันหมายความว่ายังไงกัน? ฉันถามรายละเอียดของเรื่องนี้อยู่นะ」

    「เอ๋? ไม่เห็นจะต้องอธิบายเลย วันนี้เธอมาที่งานเทศกาลศรีษมายันหรือยังล่ะ?」

    เสียงเบาๆที่ขนลุกออกมาจากปาก Shirley จนแทบจะลงไปคลานกับพื้น บางทีเพราะเธอยังคงรักษาความสงบเยือกเย็นเอาไว้ได้อยู่ พนักงานจึงได้ชี้ไปยังที่กำแพงด้วยท่าทางสงบ ปรากฏว่าตรงนั้นก็มีภาพถ่ายโฆษณาขนาดใหญ่ติดเอาไว้อยู่

    เท่าที่เห็นในแผ่นโฆษณา ดูเหมือนว่าร้านกาแฟนี้จะมีสาวเสิร์ฟที่แต่งหลากชนิดมาบริการลูกค้าตลอดเทศกาลศรีษมายันนี้ นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่ถ้าดูให้ดีๆจะเห็นสาวเสิร์ฟคนงามมารวมตัวกันที่หล่อเลี้ยงสายตาของลูกค้าชาย

    อย่างไรก็ตาม ปัญหาก็คือรูปที่ใช้ในการโฆษณาต่างหาก เพราะมีรูปสองเด็กสาวที่มีผมขาวสวมชุดคล้ายๆกัน และผู้หญิงที่มีผมขาวพยายามจะปกปิดหน้าอกและต้นขาด้วยสีหน้าแดงอายในชุดที่เผยผิวกายสุดขั้วที่ถูกวางไว้ต่างหาก

    ต้องเป็น Shirley และลูกสาวของเธอไม่ผิดแน่ พวกเธอถูกจับแต่งสวมชุดสาวเสิร์ฟที่น่าอายนี้โดย Canary ระหว่างที่กำลังฉลองชัยในสงครามมังกรในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

    「อ่าา ร้านนี้เรียกลูกค้าเข้าร้านด้วยรูปถ่ายนี้มาตั้งแต่เปิดร้านแล้ว แต่ระหว่างเทศกาลศรีษมายันนี้ ฉันได้ยินว่าพวกลูกค้า "อาจจะ" มาที่ร้านจนแน่นเอี๊ยดไปหมด รวมไปถึงคนทั่วไปด้วย และฉันเองก็สงสัยว่าเจ้าของร้านจะทำยังไงถ้าพวกนั้นพูดอะไรอย่างไม่เหมาะสมนะ」

    เสียงของพนักงานที่ดังผ่านจากขวาไปซ้าย ผู้ช่วยพนักงานถึงกับโกรธในสิ่งที่พวกเธอสวมใส่ ต่อให้ไม่ทราบว่าพวกลูกค้าชายขอร้องมาได้ยังไงก็ตาม พอดูป้ายโฆษณาด้วยท่าทางตกใจ ออดประตูก็ดังขึ้นตอนที่เธอเข้ามาในร้านนั่นเอง

    「อ๊ะ นายคะ ยินดีต้อนรับค่ะ ถึงเวลาพักเที่ยงแล้วหรือ?」

    「อุมุ! ฉันเตรียมแผนการที่กำจัดเรื่องยุ่งๆไปเรียบร้อยแล้ว! ขนมหวานนั่นเติมน้ำตาลที่จะเอาไปให้สมองใช้งาน……อุ๊ก?」

    พอเจ้าของร้านนั้นปรากฏตัวออกมา……ก็เป็น Canary นี่เอง Shirley กับคนอื่นต่างก็รู้จัก Canary ด้วย

    Canary จ้องหน้าเธออย่างเงียบๆเพียงไม่กี่วินาที เอียงหัวเบาๆอย่างน่ารัก แล้วเอากำปั้นเคาะหัวตัวเองด้วยรอยยิ้มที่น่ารักน่าชัง

    「เค้าทำเองแหละ ฮิๆ」





    「ชิ……ยัยแม่มดบ้านั่น……! เอาแต่ปั่นหัวคนอื่นได้ตลอดเลย……! แถมยังขุดเรื่องมืดมนให้รู้กันไปทั่วทั้งเมืองหลวงอีก…… ถ้าเจอกันคราวหน้าเมื่อไร ฉันฆ่ายัยนั่นแน่」

    เวลาได้มาถึงยามค่ำคืน ณ ระเบียงของห้องเช่า Shirley ได้จัดการหักเขาดำของ Canary จนเธอได้รับบาดเจ็บอยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็หลบหนีไปได้

    「น่าๆ ไม่เป็นไรหรอกเพราะหม่าม้าก็ดูดีอยู่แล้วค่ะ」

    「ก็ไม่ได้แปลกอะไรหรอก ถือว่าเป็นการตอบรับจากคนอื่นที่ดีเลยนะ」

    「แต่แม่อายุสามสิบแล้วนะ แล้วมาแต่งชุดเหมือนกับเด็กสาวที่มีอายุแค่นั้นมัน……」

    ดูจากสภาพของแม่ที่ทำหน้าแดงด้วยความโกรธและอับอายที่เห็นรูปถ่ายที่น่าอายของตัวเองถูกเผยแพร่ออกไปยังสาธารณะ Sophie กับ Tio ตบหลัง Shirley เป็นการปลอบใจ ครั้งนี้ Shirley ได้รับความเสียหายทางจิตใจอย่างหนักหนาสาหัสเลยล่ะ

    「ตอนแรกแม่ก็ไม่รู้หรอกว่ารูปถ่ายนั่นจะถูกแพร่กระจายไปในบางส่วนของเมืองหลวงนะ เหมือนกับเป็นทางอ้อมที่แม่ไม่ทราบเลย พอมองดูสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงนั้นอีกครั้ง ถึงกับอับอายเพราะแม่ที่อายุแบบนั้นไปแต่งตัวที่ไม่เข้ากับอายุอย่างนี้…………อ๊าา ถ้าตรงนั้นมีรูก็อยากจะมุดแล้วล่ะ แม่ไม่อาจจะแบกหน้าเดินไปตามเมืองหลวงได้แล้ว ……Sophie, Tio……ลูกผิดหวังกับแม่ที่เป็นแบบนี้มั้ย?」

    「อื้อ ก็ไม่หรอกนะคะ」

    「แม่กังวลมากไปนะ」

    พวกเธอนึกถึงช่วงเวลากลางวัน Shirley ถึงกับหน้าแดงด้วยรอยยิ้มเหยเก ชุดที่สวมใส่นั้นดูจากภายนอกเหมือนกับแม่อายุเยาว์ก็ไม่น่าจะแปลกเท่าไร แต่สำหรับเธอมันเหมือนกับแผลใจเป็นอย่างมากเลยล่ะ

    「แต่หนูว่ามันก็สนุกดีนะคะ ขบวนพาเหรดก็สวย ข้าวก็อร่อย และเสื้อผ้าก็ดูน่ารักด้วยนะคะ」

    「นั่นสินะ……ก็ไม่ได้คิดว่าจะกลายมาเป็นช่วยร้านในช่วงเทศกาลเลยนะ」

    「แต่ก็ต้องขอบคุณเสื้อผ้าเลย ไม่คิดว่ามันจะดีหรือคะ?」

    หลังจากนั้น ทั้งสามที่กลัวว่าจะไปทำลายบรรยากาศของในร้านจึงได้ตัดสินใจสวมชุดพื้นเมืองและทำงานเพื่อบริการลูกค้าทางอ้อมอีกสักหน่อย ต้องขอบคุณเสื้อผ้าที่สวมใส่ระหว่างที่คอยบริการเลย Sophie กับ Tio จึงดูดีและก็ขยับตัวง่าย และก็ยังคงชื่นชอบที่จะสวมเสื้อที่ดูดีอยู่ พวกเธอจึงได้ลองมันด้วย

    เช่นเดียวกับ Shirley เธอไม่มีเวลาในการเปลี่ยนเสื้อเลย ยังคงรู้สึกผิดกับเสื้อผ้าอยู่ มันเป็นเสื้อที่ไม่ค่อยจะเผยผิวกายมากนัก และชื่นชอบเป็นการส่วนตัวเพียงนิดหน่อย

    (……ถึงยังไง ฉันก็ไม่อยากจะพูดออกไปตรงๆหรอกนะ)

    เธอน่าจะขอบคุณคนที่พามายังงานเทศกาลศรีษมายันในเมืองหลวงนี้ ยังเหลือเวลาของเทศกาลศรีษมายันอีกครึ่งนึง พวกเด็กสาวนั้นน่าจะมีความพึงพอใจอยู่

    อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแรคคูนก็ดี ร้านกาแฟในครั้งนี้ก็ดี ต่อให้อดทนแค่ไหนก็ยังขาดผึงได้ เมื่อดูจากสถานการณ์เมื่อกลางวันที่ผ่านนี้ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะต้องมาคอยจัดการกับปัญหายุ่งยากต่างๆมากมาย คราวหน้าถ้าเจอกับ Canary อีกเมื่อไร Shirley ขอสาบานว่าจะเอาหัวมันมาให้ได้เลย

    「ถ้าเธอกลับไปยังที่เมืองชายแดน ก็จะมีงานเทศกาลศรีษมายันอีกแห่งหนึ่ง แล้วจะได้สนุกกว่าปีก่อนถึงสองเท่า ฉันคิดว่าน่าจะสวมชุดนี้แล้วก็เข้าร่วมงานในปีนี้นะ」

    「มีเต้นรำด้วยหรือ? คิดว่านั่นก็ดีนะ ปีก่อนมันเล็กมากเลยนะ」

    Sophie กับ Tio กางแขนแล้วหมุนตัวรอบๆ ในขณะที่เธอรัวชัตเตอร์ของกล้องอย่างเงียบเฉียบโดยใช้เวท 《Silence》 เป็นสิบครั้งรวด

    ถือว่าเป็นของที่ต้องเก็บเกี่ยวไปด้วย เธอถ่ายรูปลูกสาวทั้งสองที่สวมเสื้อสีสดด้วยความเร็วเหนือเทพ จนฟิล์มหมดไปเลยล่ะมั้ง ถึงแม้จะถ่ายอีกเป็นร้อยรูปขณะที่ช่วยงานร้านกาแฟอีกสักหน่อยก็คงไม่พอ

    (……เดือนนี้วุ่นวายชะมัด แต่ถ้ามันจบลงด้วยดี ทุกอย่างก็ถือว่าดี……งั้นสินะ?)

    ครั้งนี้เธอก็ได้ปกป้องลูกสาวของเธอให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของปีศาจร้ายไปได้อีกครั้ง ถ้าพอใจด้วยเวลา ณ ขณะนี้ ลูกไฟที่จุดยิงจากพื้นดินที่อยู่ห่างๆพุ่งขึ้นไปยังท้องฟ้าด้วยเสียงแหลมที่ไม่คุ้นหู

    「แม่ หรือว่าจะเป็นอันนั้นหรือ?」

    「เอ๋? มันเริ่มแล้วหรือ!?」

    「ทั้งคู่ ออกไปชะเง้อนอกรั้วมันอันตรายนะ」

    ตูมมม……! ดอกไม้ไฟระเบิดกลางท้องฟ้าค่ำคืน ทั้งสองคนที่พยายามจะชะเง้อออกไปนอกรั้วต่างก็หยุดวิ่งแล้วก็ทำหน้าเบิกบานออกมา ดอกไม้ไฟนั้นถูกจุดตามต่อๆกันจนส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้าในเมืองหลวง

    「……อาา แบบนี้นี่เอง อย่างนั้นสินะ……」

    สวยดีนี่ ……เป็นคำพูดที่เข้าใจง่ายๆ พอเห็นทั้งสองเอื้อมไปหาดอกไม้ที่อยู่บนฟ้าก็รู้สึกกลมกลืนไปกับมัน

    แดง น้ำเงิน เขียว เหลือง……ดอกไม้ไฟหลากสีสันระเบิดในท้องฟ้ายามค่ำคืน เสียงเชียร์และตะโกนดังต่อเนื่องจากทั่วทั้งเมืองหลวง ราวกับจะเป็นแสงแห่งความหวังในยามใบไม้ร่วง หรือเพื่อปลอบโยนกับคนที่ไม่อาจจะบอกได้ ดอกไม้ไฟนั้นยังคงแตกระเบิดกลางท้องฟ้าของเมืองหลวงต่อไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×