ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อดีตขุนนางสาวโสดกับชีวิตโลดโผนผจญภัยเพื่อลูกสาวสุดน่ารัก

    ลำดับตอนที่ #91 : จบเรื่องได้สักที

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 454
      29
      2 ธ.ค. 65

    ท่ามกลางเศษไม้ที่ปลิวกระเด็นว่อน Marion ที่ดึงหอกกลับมาประจันหน้ากับ Sul-Sagana ที่ Shirley ถือเอาไว้

    ทั้งคู่ต่างก็มีท่าทีที่นิ่งเฉยและมั่นคง เวลาก็ค่อยๆไหลผ่านไปอย่างช้าๆ ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่จิตวิญญาณนักสู้แผดเผาอย่างรุนแรงก็ตาม จิตใจก็ยังคงสงบเหมือนน้ำนิ่ง

    「……ฮ่าา!」

    ในช่วงเวลาการตัดสินใจที่จะโจมตีและป้องกันนั้น ฝ่ายที่เคลื่อนไหวก่อนก็คือ Shirley โดยใช้ Ig-Alima ที่มาทำเป็นโล่โจมตีโดยฟันดาบสีแดงไปตามแนวนอน

    ด้วยทักษะดาบที่อยู่เหนือความเร็วเสียงซึ่งเรียกว่า 《ตัดผ่าเงา》 นั้น Shirley ที่มีทักษะการต่อสู้ที่ช่ำชองซึ่งรู้เวทมนตร์อย่างลุ่มลึกยกดาบขึ้นมาฟันอะไรก็ได้ทะลุผ่านสิ่งกีดขวางตามที่ต้องการ เป็นพลังเดียวกับที่เคยฟันทั้งปราสาทและวงจรชีวิตของมังกรโบราณไปได้อย่างสบาย

    คมดาบสังหารเพลงเดียวเข้าไปแตะกับเกราะดำ……โดยก่อนหน้านั้น Marion ก็ยังไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆเลย มันไม่ได้เอาเกราะมารวมไว้กับดาบเพื่อเบนวิถีดาบหรือแทงหอกสวนไปเลย

    ดูจากเหตุการณ์แล้ว คงจะเชื่อว่า ร่างกายของ Marion จะหลุดกระเด็นออกเป็นเสี่ยงๆ……แต่ทว่า――――

    「ศึกนี้……ข้าชนะ!」

    ทักษะดาบของ 《ดาบอสูรสีขาว》 เข้ามาอยู่ในระยะเวทมนตร์ 《ผู้ใช้หอกสีดำศักดิ์สิทธิ์》 ก็อยู่เหนือสามัญสำนึกด้วย

    เป็น Shirley ที่ถูกหอกแทงเข้าที่อกก่อน ทั้งๆที่ดาบน่าจะจัดการ Marion ได้เร็วกว่าที่ปลายหอกจะแตะถึงด้วยซ้ำ

    การทิ่มแทงของ 《ผู้ใช้หอกดำศักดิ์สิทธิ์》 ทะลุไปอีกนับหลายล้านอย่าง ไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร์ ต้นไม้ ก้อนหิน ทะเล ด้วยการ "ทะลวงหอก" ของ Marion ที่แทงทะลุนักรบซึ่งๆหน้าไปเป็นจำนวนมาก ด้วยความเร็วสังหารที่ทำให้มันหายไปในอาณาบริเวณของเวทมนตร์ได้

    มันจะบิดเบือนเวลาเพื่อแทงศัตรูก่อนที่จะได้ขยับตัว ก่อนที่จะป้องกัน โดยไม่สนว่าจะช้ายังไง

    บิดเบือนเวลา เป็นเวทมนตร์ที่ 《ผู้ใช้หอกดำศักดิ์สิทธิ์》 ใช้เพื่อจัดการแทงศัตรูก่อนที่จะได้ลงมือ 《เงาสายฟ้า》 ได้ทำลายหัวใจ Shirley ไปแล้ว

    (ไม่ว่าเจ้าจะเป็นกึ่งอมตะยังไง ถ้าหัวใจของเจ้าถูกทำลายก็ไม่มีทางขยับได้อีกต่อไปแล้วล่ะ)

    ด้วยความเสียหายของร่างกายที่มากมายนั้น จะต้องใช้พลังและเวทมนตร์ไปเป็นจำนวนมากแน่ ถ้าหากมีรูขนาดใหญ่โผล่ออกมา ต่อให้เป็นกึ่งอมตะที่มีพลังเวทมนตร์ที่แกร่งก็ยังไม่อาจจะทำอะไรได้ไปสักพัก

    มันกำลังจะทำลายจุดอ่อนที่สุดนั่นก็คือหัว Marion ที่มั่นใจในชัยชนะ รู้สึกถึงการตอบสนองผ่านเนื้อและกระดูกที่อยู่บนหอก

    「ยัง ศึกนี้ยังไม่จบสักหน่อย」

    「อะไร……กันน่ะ……?」

    ……ร่างกายของ Shirley ที่น่าจะถูกหอกดำแทงจนถึงตอนนี้มันกลับจางหายไป

    (บ้าน่า……ไม่น่าจะมีสัญญาณการใช้เวทมนตร์ใดๆสิ)

    ด้วยความสงสัยของเวทมนตร์ที่ใช้ในการต่อสู้ Marion จึงได้สรุปออกมาเป็นอย่างอื่นอย่างเร็ว

    Marion ถึงจะใช้เวทมนตร์ไม่เก่งแต่ก็จับการเคลื่อนไหวของเวทมนตร์ได้ดีพอๆกับสัญญาณของศัตรู ประสบการณ์ของมันบอกว่า Shirley นั้นไม่ได้ใช้เวทมนตร์เลย

    อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงจิตสังหารเท่านั้น ความรู้สึกของเนื้อที่ถูกแทงก็น่าจะเป็นของจริง แน่นอนว่ามันก็เท่ากับเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เหนือเหตุผลของโลกนี้แหละ

    (เป็นไปไม่ได้ว่า 《ดาบอสูรสีขาว》 จะสร้างเวทภาพเสมือนที่ละเอียดแบบนั้นโดยที่ไม่ใช้เวทมนตร์หรือ!?)

    เหมือนกับที่ Marion ได้บิดเบือนเวลา Shirley ก็ใช้เท้าบิดห้วงเวลาด้วย

    นั่นเป็นก้าวที่สำคัญมากในศึกระยะประชิด Shirley ได้ทำการลวงตาด้วยการเคลื่อนไหวอย่างเร็วจนเห็นเป็นภาพติดตา ด้วยการผสมผสานในระดับสุดขีด ขาของเธอเองก็อยู่ในระยะเวทมนตร์ด้วย

    เทคนิคพิเศษนั้นจะสร้างภาพเสมือนที่มีลักษณะของตนเองเอาไว้ในโลกคู่ขนาน Marion นั้นแทงภาพเสมือนของ 《ดาบอสูรสีขาว》 ในโลกคู่ขนานที่ Shirley สร้างขึ้นมา

    ถึงแม้จะเป็นภาพเสมือนมันก็มีตัวตน……ดังนั้น การโจมตีและการฆ่าจึงพาความรู้สึกว่าถูกแทงเข้าเนื้อหนังจริงๆมาด้วย อย่างไรก็ตามมันบอบบางเพราะมันทำมาอย่างซับซ้อน

    Marion ไม่อาจจะบอกได้ว่าเธอที่สร้างภาพได้เพียงแค่แวบแรกได้เอา 《ดาบอสูรสีขาว》 คนอื่นมาโดยที่ไม่ใช้เวทมนตร์อย่างงั้นหรือ

    เทคนิควิชาดาบลับที่ 《ดาบอสูรสีขาว》 ยังไม่ได้นำมาใช้ 《โลกเสมือน》 ที่ทำให้การรับรู้ของ 《ผู้ใช้หอกศักดิ์สิทธิ์สีดำ》 สับสนจนเปิดโอกาสออกมา

    (ฝนลงหรือ……!)

    ดาบที่พุ่งเข้ามากำลังจะเล่นงานตน ถ้าอยู่ฝ่ายตรงข้ามก็ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว

    Marion พยายามจะเลี่ยงแล้วตั้งท่าป้องกันด้วยการยกกล้ามเนื้อขึ้น แต่การโจมตีที่มันคิดว่าจะต้องโดนแน่ๆกลับไม่มาเลย

    นั่นมันอะไรกันวะ? ด้วยคำถามที่อยู่ในหัว เขาจึงมองดูรอบๆตัวอีกครั้ง

    แล้วสัญญาณของสิ่งที่มีอยู่ก็ถูกพบทันที สิ่งมีชีวิตในป่าต่างก็ต้องหนีกันอย่างวุ่นวายจากศึกที่ดุเดือดระหว่าง Shirley กับ Marion และก็ยังมี Shirley อีก 89 คน ที่น่าจะซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้และต้นไม้

    พวกที่ซ่อนตัวจากตรงนั้นดูเหมือนกับจะกลมกลืนไปกับป่า แต่ก็ไม่มีทางหลบจากการจับสัมผัสฉับไวของ 《ผู้ใช้หอกสีดำศักดิ์สิทธิ์》 ได้ มันได้ทำลายต้นไม้ให้กระจุยออกไปด้วยการใช้ลมกรรโชกที่มาจากการเหวี่ยงหอก ซึ่ง Shirley อยู่ตรงนั้น

    「…………ฟู่ ฟื้นตัวได้สักที」

    「………………?」

    ดาบสองเล่มถูกวางไว้บนพื้นราวกับจะละทิ้งศึก แล้วก็มองดูรูปถ่ายขณะที่กำลังนั่งอยู่

    รูปถ่ายที่เธอถือนั้นเป็นรูปของ Sophie กับ Tio ที่เธอเก็บไว้ในประเป๋าไว้เป็นเครื่องราง แม้แต่ในศึกเดือดนี้ ก็เป็นหนึ่งในของมีค่าที่ต้องปกป้องเอาไว้ไม่ให้เสียหาย แม้จะต้องสละเสื้อผ้าและเนื้อกายก็ตาม แต่ปัญหาก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้น

    การมองดูของเช่นนี้ในศึกที่ต้องมาต่อรองในชั่วแป๊บเดียวเป็นอะไรที่บ้ามาก ยิ่งกว่านั้น ถ้าสังเกตให้ดีๆก็จะเห็นผลไม้ที่ถูกกินไปหน่อยวางอยู่บนตักด้วย

    「……หืมม」

    「…………」

    Shirley มอง Marion ขณะที่เอาผลไม้เข้าปากและก็เก็บรูปถ่ายไว้ในกระเป๋า แม้จะเป็นการเคลื่อนไหวที่ช้าๆ Marion ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะโจมตีแม้แต่อย่างใด

    มันถึงกับสับสนกับการกระทำที่ไม่มีในศึกจนทำให้ความคิดหยุดชะงัก ช่องว่างที่สร้างขึ้นมาก็ไม่ได้ใหญ่มากนอกจากเป็นช่องว่างเล็กๆ ซึ่งมันก็มากพอที่จะเริ่มเปิดศึกได้อีกครั้ง

    「นี่เจ้า……เตรียมการพักผ่อนในสถานการณ์นี้เนี่ยนะ!?」

    「เอาตามตรงเลย ฉันแทบเวียนหัวจะตายอยู่แล้วถ้าไม่ได้เห็นลูกสาวมาสามวัน ถ้านายไม่ทำแบบนี้ให้มากๆนะ นายก็จะจบลงตรงนี้แหละ ……รวมไปถึง」

    ประกายดาบได้เกิดขึ้นอีกครั้งอย่างรุนแรง แล้วพายุทำลายล้างก็กวาดเอาเศษซากของต้นไม้ไปหมด แต่ Shirley ก็รีบขยับตัวได้อย่างน่าทึ่งมาก

    สำหรับเธอแล้ว การเชิดชูลูกสาว แม้แต่ในรูปถ่าย ก็ฟื้นฟูได้ยิ่งกว่ากินอาหารหรือนอนหลับเสียอีก อาการสั่นก็หยุดไปชั่วครู่ด้วย จนน่าจะเรียกว่ากลับไปเป็นความสามารถดั้งเดิมแล้ว

    「ในที่สุดก็กลับมาเป็นปกติแล้ว ถึงเวลาปิดฉากกันล่ะ」

    「โอออออออออออออ!!」

    ความเร็วก็ต่างจากสองวันที่ผ่านมา ที่เต็มไปด้วยอาการสั่นกระตุก เพลงดาบก็เฉียบคมขึ้นมาอย่างกะทันหัน

    ดาบสองเล่มถูกยกขึ้นมากันหอกเอาไว้ เป็นเวลาเดียวกับที่ปลายของ Ig-Alima กับ Sul-Sagana มาเหลื่อมกัน อาวุธเวทมนตร์นั้นก็ได้เปลี่ยนเป็นดาบสีม่วงเข้มแล้วฟันลงมาจากด้านบน

    ดาบที่ฟันลงมาได้ผ่าพื้นเป็นรอยแยกขนาดใหญ่จนไปถึงภูเขาใกล้ๆ ถึงมันจะอยู่เหนือ Marion ที่น่ายอดเยี่ยมอย่างให้อภัยได้ก็ตาม Shirley นั้นเพิ่งจะเริ่มไล่ตามศึกมาเอง พอรู้ถึงเจตนานั้น Marion ถึงกับร้องออกมา

    「เมินการตัดสินของข้าหรือ!?」

    「โง่น่า…… ฉันไม่มีเวลาที่จะมายุ่งกับแกไปตลอดหรอกนะ!」

    ดาบสีม่วงเข้มก็เปลี่ยนกลับมาเป็นดาบสีน้ำเงินกับสีแดงอีกครั้ง แล้วก็ปลดปล่อยพายุทำลายล้างออกมา

    《ดาบอสูรสีขาว》 ใช้วิชาดาบลับ 《ดาบหมุนเกลียว》 การฟันอย่างรุนแรงที่สุดสองครั้งได้วาดเกลียวหมุนจนเหมือนกับงูยักษ์ พุ่งเข้าไปฉีกชุดเกราะเต็มตัวของ Marion แล้วก็ค่อยๆยกตัวขึ้นอย่างช้าๆแล้วก็พัดให้ปลิวกระเด็นออกไปห่างๆ

    「โอ๊ะโอ๋……! ข้ายังไม่จบหรอก…………!」

    ในที่สุด พายุลูกใหญ่ก็กลืนกินตัวมันแล้วก็พัดออกไปนอกอวกาศจนขึ้นไปถึงดวงดาว เสียงร้องโหยหวนตะโกนลั่นออกมา Marion หายไปกลางอากาศเรียบร้อยแล้ว

    「โทษทีนะ……แล้วก็อย่าได้กลับมาอีกเป็นครั้งที่สอง」

    เธอแทบจะเมื่อยล้าไปหมด แต่ก็พยายามฝืนทนแล้วก็เอานาฬิกาพกออกมาจาก 《กล่องเครื่องมือของผู้กล้า》 มา อุปกรณ์เวทมนตร์นั้นได้ร้องสัญญาณขอความช่วยเหลือของลูกสาว โดยมีเสียงปี๊บๆออกมา

    「จัดการไปเรียบร้อยแล้วหรือ……!」

    ในขณะที่เธอภาวนาว่า Kyle น่าจะคอยปกป้อง Sophie, Tio และ Hilda เอาไว้ได้นั้น Shirley ก็กดปุ่มเม็ดมะยมบนนาฬิกาพก

    ผลลัพธ์ก็คือเกิดการเคลื่อนย้ายไปยังที่ลูกสาวทันที……มันก็ควรจะเป็นแบบนั้น ทว่าตัวของ Shirley กลับโผล่ออกไปยังนอกกำแพงของเมืองหลวง เวทช่องว่างที่อยู่ในอุปกรณ์เวทมนตร์นั้นถูกบังคับให้คลายออกมา

    「โอ๊ะ ดูเหมือนว่าจะไปได้สวยเลยนี่」

    「Canary?」

    ขณะที่มองไปยังกำแพงสูงด้วยความสับสนอยู่นั้น Canary ก็เข้าไปหา Shirley โดยมีวงเวทที่เขียนอย่างรวดเร็วเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน 

    พอ Shirley เห็นแบบนั้นแล้ว เธอก็มองไปอย่างน่าสงสัยว่าทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงเหตุผลแล้วก็มองหน้าทันที

    「ฉันเองก็คิดถึงแบบนั้นแต่ที่จริงจะทำอะไรกันแน่ล่ะ 《แม่มดทอง》ที่เป็นได้เพียงแค่ฉายาเองหรือ?」

    「ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา!? เขาไม่ได้สนใจเรื่องเวทมนตร์หรือความสามารถหรอก แต่เขาบอกว่าเขาน่าจะใช้เล่ห์แบบนี้นะ……!」

    ความโกรธหรือความอับอาย ด้วยความรู้สึกแบบนั้น Shirley จึงพิงตัว Canary ด้วยท่าทางที่ประหม่าและก็ชื้นใจอยู่บ้าง

    「แล้ว สถานการณ์ในตอนนี้ล่ะ?」

    ทว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะไปไล่ตามมัน Shirley มองไปยังกำแพงของเมืองหลวงด้วยตาสองสี ดวงตานั้นได้เผยสิ่งที่มองไม่เห็นออกมา โดยได้แสดงกำแพงโปร่งใสที่ล้อมรอบเมืองหลวงและวงเวทที่วางเอาไว้ตรงนั้นด้วย

    「ระยะของช่องว่างของเมืองหลวงถูกเบี่ยงออกไป จึงไม่สามารถที่จะไปถึงโดยธรรมดาได้ รวมไปถึงมันจะทำการซ่อมแซมตัวเองอย่างอัตโนมัติถ้ามันถูกทำลายไป เนื่องจากมันมีหลายชั้นมากจึงยากที่จะทำลายมัน ใช่มั้ยล่ะ?」

    「…………ก็ทำการยกเลิกมันสิ」

    「ถ้ามีเวลาสักนาที ก็น่าจะจับได้แหละ」

    Shirley ที่พยายามจะเหวี่ยงดาบออกไป มองไปยังวงเวทลึกลับที่มีขนาดมหึมา น่าจะเรียกว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์เลยเพราะจะต้องคลายเวทมนตร์ระดับโคตรสูงในนาทีเดียว แต่ก็ยังมีเรื่องที่น่าเป็นห่วงกว่านั้นอีก

    「การเคลื่อนย้ายของเวทห้วงเวลา……ไม่ใช่เวทที่ใช้ประจำเลยหรือ ผิดคาดเลยแฮะที่นึกว่าเธอจะใช้ได้ดีเสียอีก」

    「อาาา ก็เพราะเขาสอนฉันเมื่อนานมาแล้วนะสิ」

    ……ตอนนี้ สิ่งที่ได้ยินจากปากของ Canary คงต้องปล่อยทิ้งแล้วล่ะ

    「……หมายความว่ายังไง? ฉันคิดว่ามันแปลกที่เธอรู้ได้ง่ายๆนะ แต่ถ้าเธอรู้อีกฝ่ายซึ่งกันล่ะ?」

    「ถูกแล้วล่ะ ก็ 《จอมโจร
    มายา》 นั่นเป็นเพื่อนสมัยเด็กเมื่อนานมาแล้วล่ะ เขาเองก็เล่าให้ฉันฟังเพียงแค่ไม่กี่อย่างก็ทำได้แล้ว แล้วฉันก็คุ้นเคยกับเล่ห์เหลี่ยมด้วย ฉันก็เลยรู้ว่าจะเอาตัวรอดยังไงนะ」

    พอรู้ความจริงอันน่าตกใจ Shirley ก็ถึงกับเผลอเอามือกุมหัวเลย

    「นี่เธอไม่ได้รู้มาจนถึงตอนนี้เลยหรือ? ดูจากอาชีพของเธอแล้ว เธอก็น่าจะคิดถึงสิ่งที่หลงเหลืออยู่เป็นหลายร้อยปีได้สิ ใช่มั้ย?」

    「เดิมที เขาก็เป็นพวกที่ชื่นชอบในการสับเปลี่ยน หลบหนีและก็ปิดบังอยู่แล้ว ฉันได้มารู้ว่าฉันเปลี่ยนเป็นตัวตนที่ตรงข้ามไปแล้ว ……สุดท้ายฉันก็ได้ดูออกว่ามันเป็นภาพลวงตาที่แย่มากๆ มาเล่นกับฉันด้วยความทรงจำที่แทบจะไม่มีใครรู้……แล้วจะให้ทำยังไงเมื่อเจอกันคราวหน้าเล่า」

    พลังเวทมนตร์ที่ได้ซัดเข้าบนพื้นดินด้วยความโกรธจนเกิดเศษหินผุดขึ้นมา Canary ได้แสดงความฉุนเฉียวออกมา ซึ่งยากที่จะได้เห็นเธอที่โกรธออกมา

    「……จะว่าไปแล้ว ทำไม 《จอมโจร
    มายา》 ที่เธอชื่นชอบถึงได้กลายเป็นเกลียดกันล่ะ?」

    「เอ่อ……จะเล่าให้มันง่ายๆเพราะเรื่องมันยาวนะ……」

    พอได้ยิน Shirley ที่ถามมาปุ๊บ Canary ก็ตอบมาด้วยสีหน้าซับซ้อน

    「ฉันเคยถูกล่อลวงโดยคำพูดหว่านล้อมของชายที่กลายเป็นกึ่งอมตะมานานกว่าพันปีด้วยความเป็นโลลิค่อนนะ แน่นอนว่าฉันไม่ชอบที่จะต้องมาอยู่ร่วมใต้ชายคากับเขาเลย วันหนึ่งทันใดนั้นฉันก็ได้ยกเลิกสัญญาของตระกูลแล้วก็หนีออกไปเลย」

    บางทีเธอคงจะโกรธตอนนี้นึกเรื่องนั้นออก Canary ถึงกับบ่นด้วยท่าทางเวทนา

    「……ยังไม่หมดแค่นั้น ไอ้เวรนั้นก็ส่งฉันลงไปงมหาสมบัติที่จมอยู่ใต้ทะเลลึกมาเป็นเดือน ถูกใช้เป็นเหยื่อตกปลาที่อยู่ในลาวาเป็นร้อยครั้งต่อวัน แล้วก็ถูกไอ้บ้าหักหลังด้วยการฝังไว้ในทะเลทรายเป็นการลงโทษที่คิดร้าย เขายังกลับมาอย่างสง่าผ่าเผยด้วยการไปลักพาตัวเด็กหญิงเมื่อพันปีก่อนอีก ตอนที่ฉันถูกหักหลังโดยครอบครัวที่มาจากเพื่อนสมัยเด็ก ฉันถึงกับเสียใจออกมาเลย…… อยากให้นายรออีกสักหน่อยเถอะ! เตรียมลงดาบอย่างช้าๆเลย!」

    「ไอ้สภาพที่เป็นแบบนั้น ไม่ใช่ว่าคนของเธอทำงานได้แย่ไปหน่อยหรือ และก็ช่วยเป็นคนที่ลากเอาลูกสาวของฉันมาเอี่ยวสักที!」
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×