ลำดับตอนที่ #87
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #87 : ความโหดเหี้ยมของนักดาบสีขาวและศึกหนัก
สีขาวกับสีดำเบลอๆที่ปะทะกับอีกฝ่ายด้วยความเร็วที่เป็นไปไม่ได้ การปะทะกันแต่ละครั้งทำให้เกิดเสียงต้นไม้หักโค่นจากโลหะปะทะกับโลหะ
“หนอยยยยยยยยยยยยย!!”
มวลสีดำที่เป็นรูปร่างของสัตว์เลี้ยงที่ซ่อนจากปลายของหอก Marion ช็อคเวฟของพลังเวทบริสุทธิ์ฉีกผ่านไปทั้งป่า
“อึกกก…!”
ความสามารถทางกายภาพที่เป็นไปไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าเธอจะใช้เวทเสริมการเคลื่อนไหวเพื่อลอยกลางอากาศเลี่ยงความสามารถเหนือมนุษย์ก็ตาม Shirley ตวัดดาบในมือวาดดอกไม้สีแดงเข้มเคียงข้างกับคลื่นของสีน้ำเงิน… แต่ความงดงามนั้นไม่เข้ากับความโหดเหี้ยมแท้จริงของห่าฝนที่เธอทุบกระหน่ำใส่ Marion ด้วยปลายแหลมที่กะจะทิ่มแทงทะลุเกราะของเขา
(อาวุธกับชุดเกราะของเขาทั้งหมดทำมาจากโลหะดำเหมือนกันหมดเลย นั่นก็หมายความว่าความแรงของเวทมนตร์เขาไม่น่าจะแกร่งอย่างที่เป็น ถึงแม้ตัวเลือกเกราะมิทริลจะยังทำให้เขาคล่องตัวมากก็ตาม… แต่นั่นก็ไม่ใช่ทั้งหมด)
ขณะที่เธอฟันใส่เกราะเขานั้น Marion ก็เหวี่ยงดาบใส่เธอด้วยความเร็วแสง เธอหลบการเหวี่ยงได้เพียงปลายเส้นผม
ดาบของเธอไม่อาจจะทำให้เกราะของเขามีรอยขีดข่วนได้เลย ถึงแม้ว่าคูปรับถูกลบล้างด้วยการจู่โจมของ Shirley ได้หมด Marion ก็ยังคงกระพันและโจมตีสวนกลับอย่างโหดเหี้ยม เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากบ่นอิจฉาขณะที่เธอขยับมาป้องกันตัว
“โฮกกกกกกกกกกก!!”
Shirley นั้นหมดปัญญาที่จะอยู่ข้างเคียงลูกสาวในสถานการณ์ที่อันตรายแบบนี้ได้ เธออยากจะจบหรือหนีศึกที่เปล่าประโยชน์ให้เร็วที่สุด แต่ชายที่อยู่ข้างหน้าดูเหมือนจะไม่ปล่อยให้เธอได้ทำแบบนั้น
“อย่ามาทำเย็นชา! ถ้าเจ้าทำตัวอย่างนั้น มันจะทำให้ข้าสงสัยว่ามันจะคุ้มค่ากับคำเชิญของจอมโจรมายาจริงๆมั้ย! มาตัดสินกันว่าใครกันแน่ที่จะเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในดินแดนทั้งมวล ศึกของเหล่าชายหญิง!”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่สนใจแบบนั้นหรอก…!”
พวกบ้าการต่อสู้… เธอเคยได้ยินพวกนี้จากข่าวลือในกิลด์นักผจญภัย แต่สำหรับ Shirley ที่ไม่เคยวุ่นวายจากคนแบบนี้มาก่อนทำอะไรไม่ได้นอกจากคิดถึงเรื่องที่มีความเป็นไปได้แย่ที่สุดในลักษณะนี้เป็นครั้งแรก
ยิ่งกว่านั้น โดยเฉพาะคู่ปรับคนนี้น่ากลัวพอที่จะบอกว่าถ้าเธอเดินผิด อาจจะหัวขาดในชั่วพริบตาได้ เขาดูท่าจะไม่สนใจที่จะฟังเธอเลย จดจ่ออยู่กับการต่อสู้นี้เต็มตัว บอกได้เลยว่ามันยุ่งยากจนเกินกว่าที่จะพูดได้เสียอีก
(วัชพืชชัดๆ…! ฉันอยากจะเมินเขาแล้วก็กลับไปที่ปราสาท แต่…)
เมื่อ Shirley รู้ว่าไม่มีทางที่จะหนีจากการต่อสู้นี้ได้ เธอถึงกับขบฟันด้วยความหงุดหงิดอย่างขมขื่น
ขณะที่อาวุธของพวกนั้นปะทะกันเป็นชุดจนเป็นนับร้อยครั้ง Shirley ก็พอมีสติที่จะเปรียบเทียบทักษะของตัวเธอกับพลังของ Marion
Shirley อยู่เหนือกว่าเล็กน้อยตอนที่มันมากับความเร็ว แต่เมื่อมันมาด้วยความแข็งแกร่งดิบๆแล้ว Shirley ไม่อาจจะเทียบกับ Marion ได้เลย และจากมุมมองของเธอ ความสามารถในการต่อสู้นั้นอยู่ระดับเทียบเท่ากับของ Shirley
(ถ้าฉันโชว์หลังเพียงแค่นิดเดียว เขาจะเอาหัวฉันไปแน่นอน)
ขณะที่การเรียนรู้ในการต่อสู้ก็ได้ขึ้นมาถึงอีกหนึ่งระดับ ราวกับจะผูกโซ่ที่มองไม่เห็นรอบๆศัตรูที่กำลังเผชิญหน้ากัน โดยลบตัวเลือกในการหลบหนีออกไปและบังคับให้ยืนประจันหน้าบนพื้น
Shirley ไม่เคยพัฒนาทักษะลูกเล่นหรือเทคนิคใดๆเพื่อหลีกเลี่ยงหรือหลบหนีคู่ปรับจริงๆ แล้วเธอจะทำตอนไหนล่ะ? และด้วยอะไรล่ะ… เมื่อเธอเคยเจอศึกที่กดดันแบบนี้จริงๆตอนเมื่อไรกันหนอ?
จะเป็นตอนที่เธอสู้กับมอนสเตอร์ในซากโบราณสถาน Valonian มั้ย? หรือว่าบางทีตอนที่เธอประจันหน้ากับตัวแม่มดทองเอง ตอนที่ Canary พุ่งเข้าใส่เธอเมื่อเธอยังเป็นมือใหม่หรือเปล่า?
“ถ้าเป็นแบบนั้น ทางเลือกเดียวที่จะกลับไปได้ก็คือต้องจัดการนายให้ไวที่สุดล่ะนะ”
“โอ้โห!? ในที่่สุดเจ้าก็มีแรงฮึดแล้วสินะ เข้าใจล่ะ!? …ฮ่า!”
เขาก้าวออกมาและก็ลอยอยู่เหนือ Shirley บนสัตว์ของเขา Marion พุ่งหอกลงไปยังตัวเธอเลย
Shirley ไขว้ดาบสองเล่มไว้ด้วยกันเพื่อเบนการโจมตี… แต่ขณะที่เธอรับการปะทะกันนั้น พื้นที่อยู่รอบๆเธอก็แตกกระจายออกไปและอินทรธนูที่ติดอยู่บนบ่าเธอก็แตกกระจุยจากหอกที่พุ่งแทงลงมา เลือดสีแดงแตกกระจายไปทั่วทั้งผิวขาวของเธอ
ถึงแม้ว่าบาดแผลจะรักษาให้หายได้ด้วยกึ่งอมตะของเธอก็ตาม Shirley ก็รู้ได้ทันทีว่ามันต้องใช้แรงกายและความแข็งแกร่งของเวทมนตร์มากกว่าที่เธอคาดการณ์เอาไว้
“ดาบของเรา สมองของเรา ความหมายของเราคือการต่อสู้! ใครก็ตามที่จะขึ้นสู่จุดตรงสุดนี้จะต้องก้าวข้ามสนามรบก่อน!”
“มูวว…”
เนื่องจากไม่มีอะไรเป็นข้อได้เปรียบในแต่ละฝ่ายเมื่อมาด้วยทักษะหรือความเร็ว ศึกนี้น่าจะตัดสินกันด้วยกลยุทธ์ พอๆกับสิ่งของที่พวกนั้นเอามาด้วย
ยังไงก็ตาม เมื่อถึงในระยะหลัง Shirley ก็กลายเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด เกราะป้องกันของเธอที่หลุดไป ดาบของเธอก็ได้แต่คอยป้องกันระยะไกลของหอก Marion ขณะที่เขาโจมตีจากบนมังกรเหนือตัวเธอถึงหลายเมตร
ร่างกายมนุษย์นั้นไม่เหมาะกับการแลกการโจมตีที่มาจากบนหัวได้ แน่นอนว่าในระยะที่เสียเปรียบเช่นนี้ไม่น่าจะอยู่ในความสามารถของ Shirley ได้ แต่เมื่อต้องมาต่อกรกับคู่ปรับที่มีทักษะคล้ายๆกันที่มีความทัดเทียมกันแล้ว มันก็จะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ขณะที่สองผู้เก่งการปะทะกับอีกฝ่ายนั้น ก็มีอย่างอื่นที่จะทำให้ขับดันให้ Shirley ต้องถอยและก็ถอยออกไป
“…ชิ!”
“ว้ากกกกกกกกกกกกกกก!?”
“《มังกรภูผา ・จงออกมา》”
แต่ Shirley ก็ไม่ได้จัดชุดเต็มออกไป
เพื่อเพิ่มโอกาสความได้เปรียบในช่วงเสี้ยววินาที เธอจึงรับการกดดันจาก Marion กับมังกรที่หนุนหลังมาด้วยการโจมตีสวนกลับอย่างรุนแรง เธอร่ายเวทออกมาทันที
เกิดรอยแยกกลางอากาศระหว่างพวกนั้น จากมังกรตัวที่ขี่ที่มาจากกิลด์นักผจญภัยของเมืองชายแดนก็ถูกอัญเชิญมา… อย่างไรก็ตามมันก็มีขนาดเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของตัวที่ Marion ขี่
“โอ้โห… น่าสนใจดีนี่! เจ้ากล้าประลองกลางอากาศกับข้าที่ถือหอกเนี่ยนะ!?”
ไม่มีการตอบสนองต่อการยั่วของ Marion ใดๆ Shirley กระโดดขึ้นไปขี่มังกรโดยไม่มีแม้แต่จะจับบังเหียน เธอถือดาบสองเล่มที่อยู่ข้างตัว
เขารับคำท้าของเธอ Marion ยกโล่และถือหอกอย่างมั่นคง เขาเองก็ไม่จับบังเหียนด้วย ถึงแม้มังกรของพวกนั้นจะทำให้พวกนั้นสั่นอย่างรุนแรงขณะที่ปีกกระพือดังสนั่นจนเกิดลมปะทะเข้าที่พื้น
(นี่ยังท่าจะไม่ได้เปรียบมากพอ)
ขณะที่ยังประจำจุดนั้น ศึกที่น่าจะดำเนินกลางอากาศต่อขณะที่ต้องสู้กันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แต่ในความเป็นจริง สัญญาณของศึกก็ยังไม่มีเปลี่ยนไปแน่นอน
ถึงแม้ Shirley ตอนนี้จะมีมังกรของตัวเอง เธอก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าตัวที่ Marion ขี่นั้นมันแกร่งกว่าที่มีเสียอีก
ตัวที่เธออัญเชิญมานั้นมีขนาดเล็กกว่าตัวทั่วไปที่ Shirley นั้นเอาไปใช้เดินทางไกลตามปกติเสียอีก จึงไม่น่าจะเพียงพอที่จะลบล้างความได้เปรียบของ Marion ได้
(มันน่าจะเป็นขีดจำกัดน้อยที่สุดของตัวเลือกเขาแล้ว คิดว่านะ)
และก็ไม่ใช่ว่าทั้งสองจะมีโอกาสจะปะทะกับมังกรอีกตัวได้ เพราะท่าโจมตีกับป้องกันนั้นไหลเหมือนกับน้ำที่อยู่ระหว่างพวกนั้น สำหรับ Shirley หรือ Marion ที่มองตาไปยังคู่ปรับเพียงวินาทีเพื่อโจมตีมังกรที่อีกฝ่ายขี่เหมือนกับได้ลงนามความตายของตัวพวกนั้นเองแล้ว
จากนั้น เส้นทาง Shirley ที่น่าจะชัดเจน ราวกับจะสาธิตความภูมิใจของความจริงนั้น เธอยืนบนหัวของมังกรเหวี่ยงใส่ Marion ด้วย Ig-Alima ในเส้นทางที่โต้กลับความได้เปรียบที่เขาถือไว้อยู่
“อย่างที่คิดไว้เลย! เพื่อที่จะสร้างดาบดีๆเช่นนี้ทั้งๆที่ยืนบนพื้นที่ไม่มั่นคงก็ตาม เจ้านี่เป็นนักดาบหญิงที่สมกับฉายาดาบอสูรสีขาวจริงๆ!”
ถึงจะเป็นแบบนี้ Marion ก็ยังคงสุขุมแม้กระทั่งชมเชยคู่ปรับ ขณะที่เขาเบนการโจมตีของเธอด้วยโล่ เขาก็ซัดสวนกลับเข้าที่ท้อง Shirley ด้วยหอก เขาคาดว่าเธอน่าจะหลบการโจมตีหรือไม่ก็ป้องกันการซัดด้วยการใช้ Sul-Sagana อย่างไรก็ตาม…
“โหหหหห!?”
Marion ถึงกับร้องออกมาด้วยความตกใจเป็นครั้งแรกของศึกนี้ ขณะที่แขนข้างที่พุ่งหอกไปนั้นถูกกระชากทันที เมื่อเขาหันตาชำเลืองไปมองต้นแขน ก็เห็นดาบสีแดงของเธอนั้นได้รัดปลายแขนแน่นเหมือนกับงูที่รัดเหยื่อไว้
“ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!”
“อึก…!”
เขาดึงกระชากสายอย่างรุนแรงโดยใช้ความแข็งแกร่งที่ล้นหลาม เขาลากตัว Shirley เข้ามาอยู่ในระยะที่เขาจะแทงหอกได้
ถึงแม้ว่าเธอจะหมุนบิดตัวเร็วพอที่จะหลบปลายแหลมได้ ชุดเครื่องแบบบริเวณท้องก็ฉีกขาดออกไปหมด แล้วเธอก็กระโดดลงจากมังกร
“มูววววววว…! เจ้าเกือบจะเล่นข้าได้แล้ว ดาบอสูรสีขาว! คิดว่าเจ้านั้นจะซ่อนธาตุแท้ของดาบไว้แบบนี้หรือ! ผู้เชี่ยวชาญเหนือวิชาดาบทั้งหมด… เจ้าเป็นนักรบที่สมกับที่เป็นคู่ปรับของข้าอย่างแท้จริง!”
“งั้นก็พล่ามเท่าที่นายอยากจะทำล่ะกัน…”
ด้วยแรงโมเมนตัม ตัว Marion ก็ร่วงตกจากมังกรตามมาด้วย ทั้งคู่พยายามยืนตั้งตรงขณะที่ร่วงตกลงมา เตรียมเผชิญหน้ากันทันทีที่เท้าแตะพื้น ขณะที่พวกนั้นจัดวางท่ากัน ดูท่าทางพวกนั้นจะหาโอกาสของคู่ปรับที่จะกลับขึ้นไปขี่ไม่ได้
“ดีมากเลย… ต่อจากนี้ไป เราจะมาทดสอบความกล้าหาญที่แท้จริงกัน”
มังกรดำท่าทางไม่มีเจตนาจะเข้าไปขัดขวางการต่อสู้ มันค่อยๆบินห่างจากทั้งสองออกไป Shirley ในทำนองเดียวกันก็ส่งมังกรกลับไปยังที่ๆโผล่มาด้วยเวทมนตร์
ในเวลาเดียวกัน ปลายหอกของ Marion ก็เปลี่ยนไปด้วยเสียงเครื่องกล แล้วก็เปลี่ยนไปเป็นหอกสามง่ามที่คล้ายๆกับตรีศูลทันที เหมือนอย่างที่เธอได้แสดงให้เขาเห็นก่อนหน้านั้น อาวุธของเขาก็เปลี่ยนรูปร่างได้เช่นกัน Shirley ยกดาบของเธอขึ้นมาอีกครั้ง
“หุๆ… เจ้าดูท่าจะหมกหมุ่นอยู่กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นที่ปราสาทจนกระทั่งก่อนหน้านั้นไม่นาน แต่สุดท้ายเจ้าก็ตัดสิจใจที่มองข้าเป็นคู่ปรับที่เจ้าต้องเอาชนะแล้วหรือ?”
“ใช่ เพราะแบบนั้น ถึงฉันจะหนีนายแบบนี้ได้ นายก็ย่อมกลับมายังปราสาทอยู่ดี ฉันแน่ใจว่าทางเดียวที่ฉันจะสามารถเลี่ยงได้ก็คือสู้กับนายจนกว่านายจะพอใจ”
“เยี่ยมมากที่ได้ยินแบบนั้น… อย่างไรก็ตาม เจ้าแน่ใจว่านั่นมันจะดีหรือ? ถึงข้าจะไม่รู้ว่าจอมโจรมายานั่นจะเข้าไปทำอะไรในปราสาทก็ตาม?”
ไม่มีทางที่จะบอกว่าดีอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะพูดแบบนั้น ก็ไม่มีโอกาสที่ชายที่ประจันหน้ากับเธอจะปล่อยเธอไปได้ง่ายๆ แต่…
“นายไม่ควรที่จะดูถูกฉัน… พวกเราให้มากนัก ถึงแม้ว่านายจะเอา Canary มาอยู่ข้างฉัน ตรงนั้นก็ยังมีพรรคพวกของเรามากกว่าที่นายคิดไว้อีกนะ”
“งั้นก็ดีเลย! ข้าดีใจที่เราจะได้เผชิญหน้ากันจริงๆแล้ว งั้น! เลือดของคู่ปรับที่วอกแวกที่หลั่งออกมาไม่ได้ทำให้เติมเต็มให้ข้าได้เลย!!”
จิตวิญญาณการต่อสู้ที่ล้นหลามเปลี่ยนเป็นพลังเวทมนตร์ที่หลั่งไหลอย่างรุนแรงหว่างทั้งสองคน จนทำให้เกิดฝุ่นและใบไม้หมุนตลบอบอวลไปหมด
“ในศึกประลอง ควรจะใส่ร่างกายและวิญญาณเอาไว้เป็นหนึ่งเดียว! เอาล่ะ เข้ามาเลย!!”
สีขาวกับสีดำพุ่งเข้าปะทะกันด้วยความเร็วที่น่าจะดูเหมือนแสงที่หักเหลวงตาจนพร่าไปหมด
“หนอยยยยยยยยยยยยย!!”
มวลสีดำที่เป็นรูปร่างของสัตว์เลี้ยงที่ซ่อนจากปลายของหอก Marion ช็อคเวฟของพลังเวทบริสุทธิ์ฉีกผ่านไปทั้งป่า
“อึกกก…!”
ความสามารถทางกายภาพที่เป็นไปไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าเธอจะใช้เวทเสริมการเคลื่อนไหวเพื่อลอยกลางอากาศเลี่ยงความสามารถเหนือมนุษย์ก็ตาม Shirley ตวัดดาบในมือวาดดอกไม้สีแดงเข้มเคียงข้างกับคลื่นของสีน้ำเงิน… แต่ความงดงามนั้นไม่เข้ากับความโหดเหี้ยมแท้จริงของห่าฝนที่เธอทุบกระหน่ำใส่ Marion ด้วยปลายแหลมที่กะจะทิ่มแทงทะลุเกราะของเขา
อย่างไรก็ตาม แม้แต่การโจมตีที่น่าจะตัดผ่าเหล็กได้อย่างง่ายดาย ดาบที่ Shirley ฟันเข้าไปก็ไม่ได้ทำให้เกราะของ Marion มีรอยขีดข่วนเลย
ขณะที่เธอฟันใส่เกราะเขานั้น Marion ก็เหวี่ยงดาบใส่เธอด้วยความเร็วแสง เธอหลบการเหวี่ยงได้เพียงปลายเส้นผม
“โฮกกกกกกกกกกก!!”
“…”
แต่ Marion เองก็รู้สึกคล้ายๆกัน
ขณะที่ Marion จู่โจมใส่เธอด้วยหอกของเขานั้น เธอก็ประทับด้วยรอยสกปรกของบาทารองเท้าบู๊ตและใช้มันเป็นแท่นกระโดดเพื่อพุ่งตัวเธอลอยอยู่เหนือคู่ปรับของเธอ
ไม่มีทางที่เธอจะโจมตีที่ทำเอาต้นไม้สั่นไปทั้งรากด้วยรองเท้าบู๊ตของเธอได้ ถึงแม้ว่า Marion จะคิดว่าเขาได้ซัดท่าไม้ตายไปแล้ว Shirley ก็จัดการทั้งหยุดแรงโมเมนตัมและก็น็อคเขาด้วยการถีบด้วยตัวเธอเอง ที่เขาเกือบจะป้องกันได้แล้ว
“ฮ่าๆๆๆ! ขอชมเลย! คิดว่ายังมีศัตรูที่กล้าต่อกรกับข้าโดยไม่เกรงกลัวหอกของข้าด้วย! มันก็นานน่าดูเลยตั้งแต่ข้ารู้สึกได้เผชิญหน้าตัวต่อตัวกับศัตรูนี่แหละ!”
“ฉันไม่สนใจคำประจบของนายหรอก… ชิ ออกไปให้พ้นๆหน้าเลย ไอ้หอกดำศักดิ์สิทธิ์นี่”
ดาบคู่ประทะกับหอกดำ ก่อให้เกิดประกายดาบระหว่างพวกนั้น อย่างไรก็ตาม ตราบเท่าที่ Marion ดูท่าเริงใจอยู่นั้น จิตใจของ Shirley ก็คลั่งมากขึ้นและฟันอย่างดุเดือดขึ้นทุกครั้งที่แลกดาบกัน
(ถ้าเกิดจอมโจรมายาใช้เล่ห์เหลี่ยมสักอย่างจัดการกับ Canary ได้ล่ะก็…!? Sophie กับ Tio จะตกอยู่ในอันตราย…!)
“อย่ามาทำเย็นชา! ถ้าเจ้าทำตัวอย่างนั้น มันจะทำให้ข้าสงสัยว่ามันจะคุ้มค่ากับคำเชิญของจอมโจรมายาจริงๆมั้ย! มาตัดสินกันว่าใครกันแน่ที่จะเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในดินแดนทั้งมวล ศึกของเหล่าชายหญิง!”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่สนใจแบบนั้นหรอก…!”
พวกบ้าการต่อสู้… เธอเคยได้ยินพวกนี้จากข่าวลือในกิลด์นักผจญภัย แต่สำหรับ Shirley ที่ไม่เคยวุ่นวายจากคนแบบนี้มาก่อนทำอะไรไม่ได้นอกจากคิดถึงเรื่องที่มีความเป็นไปได้แย่ที่สุดในลักษณะนี้เป็นครั้งแรก
ยิ่งกว่านั้น โดยเฉพาะคู่ปรับคนนี้น่ากลัวพอที่จะบอกว่าถ้าเธอเดินผิด อาจจะหัวขาดในชั่วพริบตาได้ เขาดูท่าจะไม่สนใจที่จะฟังเธอเลย จดจ่ออยู่กับการต่อสู้นี้เต็มตัว บอกได้เลยว่ามันยุ่งยากจนเกินกว่าที่จะพูดได้เสียอีก
เมื่อ Shirley รู้ว่าไม่มีทางที่จะหนีจากการต่อสู้นี้ได้ เธอถึงกับขบฟันด้วยความหงุดหงิดอย่างขมขื่น
ขณะที่อาวุธของพวกนั้นปะทะกันเป็นชุดจนเป็นนับร้อยครั้ง Shirley ก็พอมีสติที่จะเปรียบเทียบทักษะของตัวเธอกับพลังของ Marion
(ถ้าฉันโชว์หลังเพียงแค่นิดเดียว เขาจะเอาหัวฉันไปแน่นอน)
Shirley ไม่เคยพัฒนาทักษะลูกเล่นหรือเทคนิคใดๆเพื่อหลีกเลี่ยงหรือหลบหนีคู่ปรับจริงๆ แล้วเธอจะทำตอนไหนล่ะ? และด้วยอะไรล่ะ… เมื่อเธอเคยเจอศึกที่กดดันแบบนี้จริงๆตอนเมื่อไรกันหนอ?
“ถ้าเป็นแบบนั้น ทางเลือกเดียวที่จะกลับไปได้ก็คือต้องจัดการนายให้ไวที่สุดล่ะนะ”
“โอ้โห!? ในที่่สุดเจ้าก็มีแรงฮึดแล้วสินะ เข้าใจล่ะ!? …ฮ่า!”
Shirley ไขว้ดาบสองเล่มไว้ด้วยกันเพื่อเบนการโจมตี… แต่ขณะที่เธอรับการปะทะกันนั้น พื้นที่อยู่รอบๆเธอก็แตกกระจายออกไปและอินทรธนูที่ติดอยู่บนบ่าเธอก็แตกกระจุยจากหอกที่พุ่งแทงลงมา เลือดสีแดงแตกกระจายไปทั่วทั้งผิวขาวของเธอ
ถึงแม้ว่าบาดแผลจะรักษาให้หายได้ด้วยกึ่งอมตะของเธอก็ตาม Shirley ก็รู้ได้ทันทีว่ามันต้องใช้แรงกายและความแข็งแกร่งของเวทมนตร์มากกว่าที่เธอคาดการณ์เอาไว้
“มูวว…”
เนื่องจากไม่มีอะไรเป็นข้อได้เปรียบในแต่ละฝ่ายเมื่อมาด้วยทักษะหรือความเร็ว ศึกนี้น่าจะตัดสินกันด้วยกลยุทธ์ พอๆกับสิ่งของที่พวกนั้นเอามาด้วย
ยังไงก็ตาม เมื่อถึงในระยะหลัง Shirley ก็กลายเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด เกราะป้องกันของเธอที่หลุดไป ดาบของเธอก็ได้แต่คอยป้องกันระยะไกลของหอก Marion ขณะที่เขาโจมตีจากบนมังกรเหนือตัวเธอถึงหลายเมตร
ร่างกายมนุษย์นั้นไม่เหมาะกับการแลกการโจมตีที่มาจากบนหัวได้ แน่นอนว่าในระยะที่เสียเปรียบเช่นนี้ไม่น่าจะอยู่ในความสามารถของ Shirley ได้ แต่เมื่อต้องมาต่อกรกับคู่ปรับที่มีทักษะคล้ายๆกันที่มีความทัดเทียมกันแล้ว มันก็จะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ขณะที่สองผู้เก่งการปะทะกับอีกฝ่ายนั้น ก็มีอย่างอื่นที่จะทำให้ขับดันให้ Shirley ต้องถอยและก็ถอยออกไป
“…ชิ!”
“ว้ากกกกกกกกกกกกกกก!?”
“《มังกรภูผา ・จงออกมา》”
เพื่อเพิ่มโอกาสความได้เปรียบในช่วงเสี้ยววินาที เธอจึงรับการกดดันจาก Marion กับมังกรที่หนุนหลังมาด้วยการโจมตีสวนกลับอย่างรุนแรง เธอร่ายเวทออกมาทันที
เกิดรอยแยกกลางอากาศระหว่างพวกนั้น จากมังกรตัวที่ขี่ที่มาจากกิลด์นักผจญภัยของเมืองชายแดนก็ถูกอัญเชิญมา… อย่างไรก็ตามมันก็มีขนาดเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของตัวที่ Marion ขี่
“โอ้โห… น่าสนใจดีนี่! เจ้ากล้าประลองกลางอากาศกับข้าที่ถือหอกเนี่ยนะ!?”
เขารับคำท้าของเธอ Marion ยกโล่และถือหอกอย่างมั่นคง เขาเองก็ไม่จับบังเหียนด้วย ถึงแม้มังกรของพวกนั้นจะทำให้พวกนั้นสั่นอย่างรุนแรงขณะที่ปีกกระพือดังสนั่นจนเกิดลมปะทะเข้าที่พื้น
(นี่ยังท่าจะไม่ได้เปรียบมากพอ)
ขณะที่ยังประจำจุดนั้น ศึกที่น่าจะดำเนินกลางอากาศต่อขณะที่ต้องสู้กันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แต่ในความเป็นจริง สัญญาณของศึกก็ยังไม่มีเปลี่ยนไปแน่นอน
ถึงแม้ Shirley ตอนนี้จะมีมังกรของตัวเอง เธอก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าตัวที่ Marion ขี่นั้นมันแกร่งกว่าที่มีเสียอีก
ตัวที่เธออัญเชิญมานั้นมีขนาดเล็กกว่าตัวทั่วไปที่ Shirley นั้นเอาไปใช้เดินทางไกลตามปกติเสียอีก จึงไม่น่าจะเพียงพอที่จะลบล้างความได้เปรียบของ Marion ได้
(มันน่าจะเป็นขีดจำกัดน้อยที่สุดของตัวเลือกเขาแล้ว คิดว่านะ)
จากนั้น เส้นทาง Shirley ที่น่าจะชัดเจน ราวกับจะสาธิตความภูมิใจของความจริงนั้น เธอยืนบนหัวของมังกรเหวี่ยงใส่ Marion ด้วย Ig-Alima ในเส้นทางที่โต้กลับความได้เปรียบที่เขาถือไว้อยู่
ถึงจะเป็นแบบนี้ Marion ก็ยังคงสุขุมแม้กระทั่งชมเชยคู่ปรับ ขณะที่เขาเบนการโจมตีของเธอด้วยโล่ เขาก็ซัดสวนกลับเข้าที่ท้อง Shirley ด้วยหอก เขาคาดว่าเธอน่าจะหลบการโจมตีหรือไม่ก็ป้องกันการซัดด้วยการใช้ Sul-Sagana อย่างไรก็ตาม…
“โหหหหห!?”
Marion ถึงกับร้องออกมาด้วยความตกใจเป็นครั้งแรกของศึกนี้ ขณะที่แขนข้างที่พุ่งหอกไปนั้นถูกกระชากทันที เมื่อเขาหันตาชำเลืองไปมองต้นแขน ก็เห็นดาบสีแดงของเธอนั้นได้รัดปลายแขนแน่นเหมือนกับงูที่รัดเหยื่อไว้
“ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!”
“อึก…!”
ถึงแม้ว่าเธอจะหมุนบิดตัวเร็วพอที่จะหลบปลายแหลมได้ ชุดเครื่องแบบบริเวณท้องก็ฉีกขาดออกไปหมด แล้วเธอก็กระโดดลงจากมังกร
“งั้นก็พล่ามเท่าที่นายอยากจะทำล่ะกัน…”
“ดีมากเลย… ต่อจากนี้ไป เราจะมาทดสอบความกล้าหาญที่แท้จริงกัน”
“…”
ในเวลาเดียวกัน ปลายหอกของ Marion ก็เปลี่ยนไปด้วยเสียงเครื่องกล แล้วก็เปลี่ยนไปเป็นหอกสามง่ามที่คล้ายๆกับตรีศูลทันที เหมือนอย่างที่เธอได้แสดงให้เขาเห็นก่อนหน้านั้น อาวุธของเขาก็เปลี่ยนรูปร่างได้เช่นกัน Shirley ยกดาบของเธอขึ้นมาอีกครั้ง
“หุๆ… เจ้าดูท่าจะหมกหมุ่นอยู่กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นที่ปราสาทจนกระทั่งก่อนหน้านั้นไม่นาน แต่สุดท้ายเจ้าก็ตัดสิจใจที่มองข้าเป็นคู่ปรับที่เจ้าต้องเอาชนะแล้วหรือ?”
“ใช่ เพราะแบบนั้น ถึงฉันจะหนีนายแบบนี้ได้ นายก็ย่อมกลับมายังปราสาทอยู่ดี ฉันแน่ใจว่าทางเดียวที่ฉันจะสามารถเลี่ยงได้ก็คือสู้กับนายจนกว่านายจะพอใจ”
“เยี่ยมมากที่ได้ยินแบบนั้น… อย่างไรก็ตาม เจ้าแน่ใจว่านั่นมันจะดีหรือ? ถึงข้าจะไม่รู้ว่าจอมโจรมายานั่นจะเข้าไปทำอะไรในปราสาทก็ตาม?”
ไม่มีทางที่จะบอกว่าดีอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะพูดแบบนั้น ก็ไม่มีโอกาสที่ชายที่ประจันหน้ากับเธอจะปล่อยเธอไปได้ง่ายๆ แต่…
“งั้นก็ดีเลย! ข้าดีใจที่เราจะได้เผชิญหน้ากันจริงๆแล้ว งั้น! เลือดของคู่ปรับที่วอกแวกที่หลั่งออกมาไม่ได้ทำให้เติมเต็มให้ข้าได้เลย!!”
จิตวิญญาณการต่อสู้ที่ล้นหลามเปลี่ยนเป็นพลังเวทมนตร์ที่หลั่งไหลอย่างรุนแรงหว่างทั้งสองคน จนทำให้เกิดฝุ่นและใบไม้หมุนตลบอบอวลไปหมด
สีขาวกับสีดำพุ่งเข้าปะทะกันด้วยความเร็วที่น่าจะดูเหมือนแสงที่หักเหลวงตาจนพร่าไปหมด
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น