ลำดับตอนที่ #78
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #78 : การสังเกตการณ์ครั้งแรก
พวกเขานั่งอยู่ในห้องของปราสาทจอมมารที่มีรอยแตกร้าวตามกำแพงเต็มไปหมด
Canary ที่ได้รวบรวมทั้งนักผจญภัยที่ตอบรับคำร้องให้ไปปราบ 《จอมโจรมายา》กับผู้ร้องขอจอมมาร มาทำสัญญาข้อตกลงบนโต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่
“ฉันจะอธิบายสถานการณ์ความเสี่ยงหน่อย… Shirley เธอจะนั่งซึมไปถึงไหนกัน?”
ตรงสุดขอบโต๊ะนั้น เธอนั่งห่างจากทุกคนเท่าที่จะทำได้ Shirley ถึงกับเอามือกุมหัว สิ่งเดียวที่มองเห็นบนใบหน้าได้ก็คือหูที่แดงก่ำ
“คุณ Shirley ครับ มีอะไรหรือ?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ…? เธอก็เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่กิลด์มาสเตอร์เข้ามาหยุดการต่อสู้นั่นแล้วล่ะ”
สำหรับคนที่รู้จักเธอบ้าง นี่ถือว่าผิดปกติเลยทีเดียว ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ถึงเรื่องนั้นดี ขณะที่เธอพึมพำออกมาอย่างเงียบๆ
“ฉ… ฉันละอายใจจริงๆที่ควบคุมตัวเองไม่ได้และกระทำด้วยความฉุนเฉียวขณะที่ถูกเชิญมาในฐานะแขก ถึงแม้ว่าฉันอยากจะเป็นผู้ใหญ่ที่สมวัยเป็นตัวอย่างที่ดีกับลูกสาวก็ตาม…”
“อ๋อ งั้นเธอก็รู้ตัวแล้วสิว่าเธอได้ทำอะไรลงไป?”
“ที่จริง ฉันก็มั่นใจว่าเธอนั้นเธอก็แค่เป็นห่วงถึงภาพลักษณ์ตัวเองนะ”
“แต่ รู้มั้ย…”
ทั้งสามคนต่างก็พยายามนึกอย่างหนักเกี่ยวกับทุกวันที่ Shirley เป็นอยู่
ผู้ใหญ่ที่ดี… จากตัวเธอแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่เธอทำอย่างนั้นแหละ แต่ในกรณีเหล่านั้นมันจะใช่จริงๆหรือ?
ตอนที่ของขวัญวันเกิดที่ Sophie กับ Tio ทำมาให้เธอถูกขโมยไป เธอก็ออกไปทำลายล้างก็อบลินไปทั่วทั้งภูมิภาคเลย
ตอนที่ Sophie กับ Tio ป่วยเป็นไข้ เพื่อที่จะเก็บผงเขาเป็นมาทำยารักษา เธอก็ได้ออกจากเมืองด้วยความตื่นตระหนกไปล่ามังกรโบราณเพื่อเอาเขากลับมาภายในวันเดียว
ตอนที่เธอกลัวว่าวันเยี่ยมโรงเรียนของผู้ปกครองที่เธอมองหาตลอดอาจถูกยกเลิก เธอจึงยอมตกลงที่จะเข้าไปประจันหน้ากับฝูงกองทัพมังกรเพียงลำพัง
ตอนที่เธอตกอยู่ในการต่อสู้อย่างดุเดือดกับอดีตคู่หมั้นที่น่ารังเกียจ เธอก็ผ่าปราสาทออกเป็นครึ่งซีกด้วยการฟันดาบลงไปเพียงครั้งเดียว
ตอนที่เธออยากจะหาวัตถุดิบเพื่อเป็นของขวัญให้กับลูกสาวที่กำลังเข้าถึงอายุ เธอก็ออกไปปราบมังกรเพชรโบราณโดยที่ไม่ได้ฆ่ามัน
เพราะเธออยากจะดูดีต่อหน้าลูกสาว เธอจึงขอร้องให้ Kyle มาช่วยสอนว่ายน้ำให้เธออย่างลับๆ และก็เรียนรู้การทำอาหารจาก Martha ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอจะชนะรางวัลกิลด์ประจำปีเลย เธอนั้นก็ได้นึกถึงแต่ลูกสาวตัวเองตอนที่ได้รางวัลอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เลือกสร้างเองได้
ตอนที่พวกผู้ชายที่ไม่คุ้นหน้าพยายามจะเข้าไปหา Sophie หรือ Tio ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือเด็กผู้ชาย เธอก็จะปล่อยรังสีกระหายเลือดที่ถึงขนาดทำให้พวกเขาต้องหนีตายหรือไม่ก็สลบคาที่เลย
ขณะที่พวกเขานึกสิ่งที่มีอยู่ในหัวออกมา นักผจญภัยมือใหม่ทั้งสามต่างก็พยักหน้าพร้อมกัน
“…..คุณดูไม่เหมือนจะเป็นผู้ใหญ่ที่สมวัยเลยจริงๆสินะ คุณ Shirley”
“หวา!?”
“ทำไมคุณถึงตกใจล่ะ!? อย่ามองฉันแบบนั้นสิ!”
แม่จอมเห่อนั้นเป็นเพียงคนเดียวในห้องที่ช็อคอย่างเปิดเผย ถึงเธอจะเป็นนักรบที่ห้าวหาญ เธอก็ยังไม่ชำนาญในบางแห่งอยู่ดี
“นั่นต้องเป็นศึกที่สู้กันอย่างสุดใจที่เหลือเชื่อแน่ๆ ‘ลูกสาวของฉันน่ารักที่สุดในโลก!!’ เลยไม่ใช่หรือไง? ฉันมั่นใจว่าเสียงร้องของเธอนั่นจะต้องดังก้องไปทั่วทั้งประเทศเลยล่ะ สงสัยจังว่าลูกสาวของเธอจะคิดยังไงถ้าพวกนั้นมาเห็นแบบนี้เข้าล่ะ?”
“….อ๊าาาา!! อาาาาา! อ๊าาาาาาาา!”
“ฟุฮ่าๆๆๆๆ! ว่าไงล่ะ Shirley!? วันนี้อสูรดาบสีขาวเบื่อหรือ!?”
เธอพยายามเข้าไปหา Canary ด้วยเรเปียร์ขณะที่เอามืออีกข้างปิดหน้า แต่แม่มดนั่นก็โยกหลบตามจังหวะได้หมดขณะที่เธอร้องออกมา
ถึงแม้จะรุนแรงไปหน่อย Shirley ก็รู้ว่าคำพูดเหล่านั้นเป็นจริงทั้งหมด อย่างไรก็ตามการได้ยินคนอื่นพูดตอกย้ำก็ได้ทำให้เธอรู้สึกอับอายมากกว่าเดิมอีก
“นี่ คุณ Shirley ไม่มีใครคิดอะไรมากนักหรอก มันน่าจะดีกว่าถ้าคุณอยู่เฉยๆนะ โอเคมั้ย?”
“ค… ค่า…”
หลังจากที่ Shirley กลับมานั่งเก้าอี้ที่ Leia ดึงมาให้เธอแล้ว Canary ก็กระซิบที่หู Zector
“แล้วนายไปทำอะไรกับเธอล่ะ? เธอได้แจ้งแล้วหรือ?”
“…..หืมม มันยากที่ข้าจะยอมรับผู้หญิงที่ดื้อด้านไม่ยอมรับว่าลูกสาวข้านั้นน่ารักที่สุดในโลกน่ะสิ… อย่างไรก็ตาม ข้าก็เห็นแล้วว่าเธอมีจิตใจความเป็นผู้ปกครองอย่างแท้จริงเลย ข้าจึงไม่คิดว่าเธอจะหักหลังได้หรอก และก็ยังได้เห็นว่าเธอนั้นสู้ได้อย่างล้นหลามเลยล่ะ”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเธอไม่เคยพูดอะไรที่ดูถูก Grimhilda ของข้าเลย”
“งั้นก็เป็นตามนี้แหละ… แล้วเราจะเริ่มกันได้หรือยังล่ะ?”
เพื่อที่จะให้ทุกคนหันมาสนใจ Canary จึงได้ตบมือสองครั้ง
“คำร้องในครั้งนี้ก็คือต้องคุ้มกัน ณ ปราสาทราชวังของ Edward ตลอดเทศกาลศรีษมายัน ไม่แน่ว่าพวกนายจะได้เห็นข้างนอกของราชอาณาจักรขณะที่ทำสัญญา อย่างไรก็ตามมันก็ต้องมีอุปสรรคที่นักผจญภัยเข้ามาทำงานอยู่แน่ๆ มันอาจจะไม่เหมาะกับพวกทหารหลวงหรือรัฐมนตรีสักเท่าไร ไม่ว่าฉันจะไปตรงไหน มันก็ต้องมีคนน่ารำคาญตลอดเลย เนาะ?”
“แล้วจะให้เราทำอะไรล่ะ?”
“เอาง่ายๆเลย พวกนายก็แค่ทำงานในปราสาทราชวังตรงที่ๆจะไม่มีพวกเจ้ากี้เจ้าการมาคอยบ่นไงล่ะ”
ขณะที่พวกนักผจญภัยหนุ่มสาวมองเธอด้วยความสับสน รอยยิ้มชั่วร้ายของ Canary ดูท่าจะออกมาจากหูถึงหู
“ฉันจะให้พวกนายกลับไปเกิดเป็นคนอื่นสักพักล่ะกัน”
กฎหมายในราชอาณาจักรนั้นจะไม่อนุญาตให้หางานทำได้จนกว่าจะจบการศึกษาภาคบังคับที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับนโยบายของกิลด์นักผจญภัย
ถึงแม้ว่ากิลด์มาสเตอร์ Canary จะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชวงศ์และสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ทั้งการแก้ปัญหาผู้ลี้ภัยและความขัดแย้งภายในราชอาณาจักรที่ดีพอๆกับการคุกคามของมอนสเตอร์ที่มีการจัดการของกิลด์เอาไว้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ถูกใครใส่ความ เนื่องจากเธอยังรักษากฎหมายยิ่งกว่าข้อเสนอแนะของระเบียบที่ยากต่อรัฐบาลที่จะทำตามเงื่อนไขของเธอในยามฉุกเฉินได้
และแม้กระทั่งตอนที่เกิดยามวิกฤตขึ้น เพราะรัฐบาลไม่เคยที่จะมีตัวเลือกในการแก้ปัญหาใดๆเลย พวกเขาก็เลยพูดถึงแต่นักผจญภัยในราชสำนักหรือความภาคภูมิใจของทหารหลวง
“ดังนั้น ฉันจึงได้จัดการปลอมแปลงข้อมูลการเกิดของพวกนายซะ”
พิจารณาจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว Canary ได้คิดแผนที่จะให้นักผจญภัยเข้าไปปกป้อง Grimhilda ภายในปราสาทราชวังได้ พวกเขาไม่ได้เป็นนักผจญภัย อย่างไรก็ตามข้อมูลนั้นก็น่าจะทำการให้พวกนั้นเป็นราชองครักษ์แทนเสีย
แน่นอนว่า พวกเขาไม่ได้หยุดเป็นนักผจญภัยจริงๆหรอก แต่ในข้อมูลปลอมๆที่ดัดแปลงระเบียนกับพวก Shirley และคนอื่นๆบอกว่าเป็นราชองครักษ์ที่ผ่านการประเมินจากรัฐบาลและได้รับมอบหมายให้มาคุ้มกันแขกที่มีชื่อเสียง
สิ่งที่เพิ่มเติมให้กับ Shirley เธอต้องปกป้อง Grimilda จากแผนการของ Crowley นี่จึงเป็นวิธีที่ยอมรับได้ที่สุดที่พวกเขาจะทำให้ได้รับการนับถือจากเจ้าหน้าที่ของราชอาณาจักร
“ถึงเธอจะไปบอกแบบนั้นกับฝ่าบาท นายกและก็รัฐมนตรีคนอื่นๆก็ดีอยู่หรอก… ฉันไม่สบายใจเลยที่จะต้องมาทำตัวเหมือนอาชญากรแบบนี้”
“เราน่าจะถูกใช้นะ จะว่าไปชุดยามนี่ดูเหมือนจะเผยระหว่างไหล่ออกมาเลยไม่ใช่หรือ?”
“ก็นะ ใช้ไปแค่ครั้งเดียวมันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา… ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันรู้สึกหงุดหงิดบ้างตอนที่ฉันต้องมาสวมชุดที่ไม้คุ้นเคยนะ”
พวกนั้นอยู่ในปราสาทราชวังที่อยู่หลังเมืองหลวงของราชอาณาจักร
เมื่อ Grimhilda ได้มายังที่ปราสาท Shirley กับคนอื่นต่างก็เข้าไปหาเธอเพื่อคุ้มกันหลังจากเอาชุดนักผจญภัยไปเปลี่ยนเป็นชุดเครื่องแบบดั้งเดิมใหม่แล้ว
พวกนั้นไม่มีชุดเกราะหยาบที่คาดว่าทหารจะต้องใส่ แทนที่จะต้องมารักษาท่าทางสง่างามในปราสาทราชวังนี้ ชุดที่พวกนั้นใส่ก็รัดรูปพอดีและก็มีสีกรมท่าที่มีกระดุมส่องวูบวาบและอินทรธนูสีทองติดบ่าเอาไว้ และก็ยังมีอาวุธที่ห้อยติดไว้ที่เอวอีก พวกนั้นเพิ่งมองอุปกรณ์ที่ใช้ต่อสู้
ถึงแม้ว่า Kyle กับ Cudd จะยังแค่สิบห้าเท่านั้น เธอก็ยังจำเรื่องที่น่าอดสูที่ต้องมาถอดเสื้อต่อหน้าพวกเขาก่อนหน้านั้นได้ เธอก็เลยรู้สึกเกร็งอยู่บ้าง
“ว้าว… นายดูไม่เลวนักเลยนี่ Kyle! ขณะเดียวกัน Cudd ก็ดูเหมือนอย่างกับไอ้จ๋อในชุดคนรับใช้ แต่ก็สุดยอดในตัวของมันเลย”
“ไม่ต้องมาชมฉันเลยนะ จะว่าไปเธอเองก็ดูในกระจกหรือยัง? เธอเล่นสนุกกับการแต่งตัวหรือว่าอะไรอยู่หรือ ยัยบ้านี่?”
“ก็กิลด์มาสเตอร์ทำไอ้นี่มาให้ฉันโดยเฉพาะนี่ แล้วนายพูดถึงเรื่องอะไรกันย่ะ…!?”
“ไม่ใช่เพราะว่ามันไม่มีอะไรที่พอดีกับเธอเลยหรือไง…!? เนื่องจากเธอมันเตี้ยชิบ!”
“ทั้งสองคน… เราอยู่ในปราสาทราชวังนะ อย่าทะเลาะกันเลย…”
คำพูดของเขาถึงกับใบ้ไปเลยขณะที่ Cudd กับ Leia ต่างก็เตะเข้าที่ปลายคางของอีกฝ่าย
เนื่องจากเป็นของที่ Canary กำหนดเอง ชุดเครื่องแบบองครักษ์ของ Leia จึงแตกต่างจากของคนอื่น ถึงแม้จะเป็นเสื้อโค้ทที่มีดีไซน์เดียวกันก็ตาม กางเกงของเธอก็ไม่ได้ยาวเหมือนกับของ Kyle หรือ Cudd เลย เธอก็เลยสวมกางเกงขาสั้นที่น่าจะเหมาะกับบุคลิกที่ร่าเริงแทน
“มันจะโอเคจริงๆหรือที่ต้องมาสวมชุดที่ตัดใหม่แบบนั้นน่ะ?”
“เห็นได้ชัดว่ามีองครักษ์หญิงจำนวนมากอยู่ตรงนั้นด้วย ก็เลยมีดีไซน์เฉพาะตัวเยอะแยะไปหมด บริษัทรับออกแบบของ Canary เป็นผู้รับผิดชอบเครื่องแบบฉันเองแหละ”
ขณะที่เธอพูดแบบนั้น Shirley ก็แนบดาบสองเล่มเอาไว้ที่เอวโดยเล่มหนึ่งไว้ข้างซ้าย ส่วนอีกเล่มไว้ข้างขวา
“โอ้! เหมาะกับเธอเลยนี่ คุณ Shirley!”
“…ขอบใจ อย่างไรก็ตาม ชุดที่คล้ายๆกับองครักษ์หลวงที่เคยคุ้มกันฉันเมื่อสิบปีก่อนมันก็ทำให้รู้สึกแปลกๆนะ”
ไม่เหมือนกับ Leia ที่สวมขาสั้นจนโชว์ขาอ่อน จิตสำนึกของ Shirley จะเลือกสวมกระโปรงยาวแทน
ผิวขาวจางที่นุ่มนวลกับผมขาวนั้นดูเข้ากันมากตอนที่เธอสวมชุดเครื่องแบบองครักษ์ที่มีสีเข้ม เส้นผมที่ปลิวไสวตามปกติก็ผูกมัดเป็นหางม้าไว้ขวางหลัง ทำให้เธอดูเหมือนผู้ใหญ่มากกว่าปกติ
“จำเป็นต้องพกดาบจริงๆหรือ? บอกตามตรง พวกเขาก็อยู่ในนั้นด้วยนะ”
ในปราสาทราชวังนี้ พวกทหารจะต้องถือดาบสำหรับประกอบพิธีเป็นของข้างกาย เพื่อที่จะรักษารูปลักษณ์ภายนอกปลอมๆอย่าง Shirley ตราบที่ Cudd กับ Leia ที่ไม่ได้ใช้ดาบทั่วไป ทุกคนมีฝักดาบแนบเอาไว้ข้างเอว
ถึงไม่ต้องแต่งตัวให้เป็นทางการในปราสาทราชวังมันก็ยังคล้ายๆกับหมิ่นเบื้องสูงและหยามศักดิ์ศรีของชาติได้ ตราบเท่าที่งานของพวกเขาคือคุ้มกันอยู่ตรงนี้ พวกเขาก็น่าจะไม่ใส่ใจพิธีรีตรองนัก
“ก็มันช่วยไม่ได้นี่ นี่เป็นส่วนของเครื่องแบบนะ พวกเธอยังมีอาวุธตามปกติอยู่มั้ย?”
“มี ก็ต้องขอบคุณ 《ภาพลวงตา》 เลย”
นี่เป็นเวทมนตร์ที่จะบิดเบือนแสงที่อยู่รอบๆวัตถุ, ปิดบังทัศนะ เมื่อนำมาประยุกต์ใช้กับสิ่งที่เล็กๆอย่างอาวุธมันก็น่าจะใช้กับศัตรูได้
“งั้น ที่เหลือก็ Sophie กับ Tio…”
“หม่าม้า ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ!”
“เราเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว”
พูดถึงก็มาเลย Sophie กับ Tio เข้ามาในห้อง สวมชุดสีดำกับผ้ากันเปื้อนสีขาวไว้ข้างหน้า เป็นชุดสาวใช้แบบดั้งเดิม
เนื่องจากเป็นเสื้อผ้าที่เรียบง่าย จึงเหมาะสำหรับการทดลองสวมใส่ เป็นตัวเดียวกับที่ใช้โดยลูกสาวจากตระกูลชั้นสูงที่ทำงานรับใช้ราชวงศ์เป็นการศึกษา และชุดเครื่องแบบสาวใช้นั้นก็เหมาะสมสุดๆกับแฝดที่อยู่บนพื้น
“….ฮ่า!”
ในเสี้ยววินาทีนั้น Shirley ก็เคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่ไม่มีใครจะมองตามทันได้
ไม่อาจที่จะฝืนตัวเธอที่จะเอาอุปกรณ์เวทมนตร์จากกล่องเครื่องมือของผู้กล้าได้ เธอเรียกเอากล้องเวทมนตร์แล้วก็ถ่ายรูป Sophie กับ Tio ในแต่ละมุมในชุดสาวใช้ที่มหัศจรรย์ไปอย่างน้อยสิบช็อต เธอน่าจะถ่ายทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างกันไปถึงยี่สิบช็อตแล้วด้วย
มันเกิดขึ้นเพียงแค่วินาทีเดียว ความซับซ้อน, แม่นยำ, เหมาะสมและการเคลื่อนไหวเบลอๆที่สง่างามมันคล้ายคลึงกับสิ่งที่เธอเคยทำในวันเยี่ยมโรงเรียนของผู้ปกครองจนน่ากลัวเลยล่ะ
“แล้วชุดนี่คิดว่ายังไงบ้างล่ะคะ?”
“ดูโอเคมั้ย? แม่?”
“จ้ะ ทั้งคู่ดูน่ารักเลยล่ะ”
“ฮิๆๆ”
ตามตรงเลย เธอน่าจะพอใจกับสิ่งนั้นเสมือนรางวัลสำหรับคำร้องนี้ เธอรู้สึกเหมือนบรรลุเป้าหมายไปเยอะขณะที่เธอยิ้มให้กับพวกนั้น ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรออกไป ความสุขของเธอก็เพิ่มขึ้นขณะที่เด็กสาวทั้งสองคนนั้นวิ่งเข้ามากอดเธอ
“แม่เองก็ดูดีด้วยนะคะ หม่าม้า!”
“อืม ลูกเองก็ดูดีอยู่แล้วล่ะ แต่วันนี้ลูกดูดีเป็นพิเศษเลยล่ะ”
“…อย่าง… งั้นหรือคะ…”
“ตายล่ะ ทุกคนเปลี่ยนชุดกันแล้วหรือ รู้ล่ะ?”
“ราชินี Alicia”
Alicia เข้ามาในห้องมาพร้อมกับ Grimhilda ด้วย Shirley กับนักผจญภัยคนอื่นๆที่สวมชุดองค์รักษ์เอามือประสานไว้ข้างหลังและกางขา ในขณะที่ Sophie กับ Tio ต่างก็ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหลังแล้วย่อขาขวาทำท่าถอนสายบัว
ก่อนที่พวกนั้นจะเข้ามา Shirley ได้สอนพวกเขาถึงมารยาทในการเคารพที่เหมาะสม ขณะที่ Alicia พยักหน้าหนึ่งครั้งด้วยความพอใจ Hilda ก็เดินเข้ามาอยู่หน้าเธอและก็ดูถูกพวกพวกเขาด้วยความอวดดี
“ตั้งแต่วันนี้ไปจนกว่าฉันจะกลับบ้าน พวกเจ้าถือว่ามีเกียรติที่ได้เข้ามาอยู่กับฉัน! พวกเจ้าต้องรับใช้ฉันให้สุดหัวใจเลยนะ! ฉันจะไม่ทนต่อการนินทาใดๆหรอกนะ ฉันคาดว่าพวกเจ้าเองก็น่าจะทำตัวเป็นสาวใช้ที่เหมาะสมกับเจ้าหญิงแห่งดินแดนปีศาจนะ! โอ้โหะๆๆๆๆโฮฮอออออ!”
“เข้าใจอย่างยิ่งเลยครับ/ค่ะ เจ้าหญิง Grimhilda!”
“……อ-อย่างที่ว่านั่นแหละ ตอนที่เราไม่ได้อยู่ในสาธารณะ พ-พวกเจ้า… ก็พูดกับฉันเหมือน… เหมือนอย่าง… อย่างเพื่อนตามธรรมดาก็ได้…”
“แล้วจะโอเคหรือ?”
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เธอได้รับการตอบรับอย่างสุภาพขณะที่เธอทำท่าหยิ่งยโส เธอก็ดูท่าจะสะดุดกับคำพูดของเธอขณะที่รู้สึกถึงความอ้างว้างโดดเดี่ยว หลังจากที่มองดูพวกเขาอย่างรุ่มร้อน Alicia ก็หันไปหา Shirley ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
“รู้สึกคิดถึงจัง ฉันไม่นึกว่าวันหนึ่งจะได้พบกับเธอในปราสาทนี้อีกครั้งเลยนะ”
“…ก็จริงอยู่”
“เธอนี่ยังคงงดงามจนจำได้ดีเลย มีหลายอย่างที่ฉันอยากจะพูดกับเธอเลยนะ เอาไว้เธอมีเวลาว่างเมื่อไร จะไม่ไปร่วมปาร์ตี้น้ำชากับฉันสักหน่อยหรือ? แน่นอนว่า ลูกสาวของเธอก็มาได้นะ และก็กึ่งเอล์ฟน่ารักที่ร่วมงานด้วยนะ ฉันจะหาชุดที่เหมาะกับพวกเธอให้ถ้าเธอชอบนะ?”
“เอ๋!? ฉันด้วยหรือ?”
“ท่านนายหญิงคะ… แบบนั้นมัน…”
“ขอประทานโทษครับ”
ขณะที่ Shirley ถึงกับลังเลว่าจะตอบรับความใจดีของ Alicia อยู่นั้น ก็มีชายร่างสูงใหญ่เปิดประตูจากห้องโถงเข้ามา
“กระผมหวังว่าจะพบกับท่านสักวัน ท่านราชินี Alicia และก็เหล่านักผจญภัยทุกคนที่กระผมได้พบกันเป็นครั้งแรกด้วย กระผมชื่อ Glorious Alderton เป็นจอมพลแห่งราชอาณาจักร กระผมขอแสดงความกตัญญูของตัวเองที่ได้เข้ามาช่วยอารักขาความปลอดภัยของแขกในเทศกาลฤดูร้อนนี้ครับ”
“จ-จอมพลหรือ…!?”
นักผจญภัยที่อยู่ในห้องนอกจาก Shirley ต่างก็ช็อคที่จู่ๆผู้บัญชาการทหารยศสูงที่สุดในราชอาณาจักรก็ปรากฏตัวออกมา
“จอมพล Alderton? วันนี้คุณมาทำอะไรตรงนี้กันเนี่ย? คุณได้รายงานเรื่องนี้กับราชาถึงการวางแนวป้องกันเพื่อปกป้องราชอาณาจักรแล้วหรือ?”
“นั่นมันเจ็บหนักเลย นอกจากนี้กระผมสนใจพวกนักผจญภัยที่อยู่ตรงนี้มากกว่านะครับ”
“เอ๋?”
Glorious มองไปยังนักผจญภัยสี่คนที่อยู่ในห้อง… หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขามองไปยังที่ Shirley
“นักผจญภัยหญิง Shirley… เป็นเธอจริงหรือ?”
“อะไรกันล่ะ?”
“กระผมได้ยินเรื่องราวของเธอทั้งหมดแล้ว แม้แต่จะจับสายลมของพวกนั้นครั้งแรก ผมก็จะหาโอกาสที่จะพบกับเธอให้ได้”
“….คุณพูดเยอะไปแล้ว ว่าแต่คุณมาที่นี่เพื่อจะบอกแค่นั้นจริงๆหรือ?”
‘ถ้ามีเรื่องธุระสำคัญที่จะบอกล่ะก็ รีบบอกมาเร็วๆซะ’ คำพูดของ Shirley ดูเหมือนจะเดาออก ขณะที่ Glorious ยิ้มแห้งๆ
Canary ที่ได้รวบรวมทั้งนักผจญภัยที่ตอบรับคำร้องให้ไปปราบ 《จอมโจรมายา》กับผู้ร้องขอจอมมาร มาทำสัญญาข้อตกลงบนโต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่
“ฉันจะอธิบายสถานการณ์ความเสี่ยงหน่อย… Shirley เธอจะนั่งซึมไปถึงไหนกัน?”
ตรงสุดขอบโต๊ะนั้น เธอนั่งห่างจากทุกคนเท่าที่จะทำได้ Shirley ถึงกับเอามือกุมหัว สิ่งเดียวที่มองเห็นบนใบหน้าได้ก็คือหูที่แดงก่ำ
“คุณ Shirley ครับ มีอะไรหรือ?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ…? เธอก็เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่กิลด์มาสเตอร์เข้ามาหยุดการต่อสู้นั่นแล้วล่ะ”
สำหรับคนที่รู้จักเธอบ้าง นี่ถือว่าผิดปกติเลยทีเดียว ดูเหมือนว่าเธอจะรู้ถึงเรื่องนั้นดี ขณะที่เธอพึมพำออกมาอย่างเงียบๆ
“ฉ… ฉันละอายใจจริงๆที่ควบคุมตัวเองไม่ได้และกระทำด้วยความฉุนเฉียวขณะที่ถูกเชิญมาในฐานะแขก ถึงแม้ว่าฉันอยากจะเป็นผู้ใหญ่ที่สมวัยเป็นตัวอย่างที่ดีกับลูกสาวก็ตาม…”
“อ๋อ งั้นเธอก็รู้ตัวแล้วสิว่าเธอได้ทำอะไรลงไป?”
“ที่จริง ฉันก็มั่นใจว่าเธอนั้นเธอก็แค่เป็นห่วงถึงภาพลักษณ์ตัวเองนะ”
“แต่ รู้มั้ย…”
ทั้งสามคนต่างก็พยายามนึกอย่างหนักเกี่ยวกับทุกวันที่ Shirley เป็นอยู่
ผู้ใหญ่ที่ดี… จากตัวเธอแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่เธอทำอย่างนั้นแหละ แต่ในกรณีเหล่านั้นมันจะใช่จริงๆหรือ?
ตอนที่ Sophie กับ Tio ป่วยเป็นไข้ เพื่อที่จะเก็บผงเขาเป็นมาทำยารักษา เธอก็ได้ออกจากเมืองด้วยความตื่นตระหนกไปล่ามังกรโบราณเพื่อเอาเขากลับมาภายในวันเดียว
ตอนที่เธอตกอยู่ในการต่อสู้อย่างดุเดือดกับอดีตคู่หมั้นที่น่ารังเกียจ เธอก็ผ่าปราสาทออกเป็นครึ่งซีกด้วยการฟันดาบลงไปเพียงครั้งเดียว
ตอนที่เธออยากจะหาวัตถุดิบเพื่อเป็นของขวัญให้กับลูกสาวที่กำลังเข้าถึงอายุ เธอก็ออกไปปราบมังกรเพชรโบราณโดยที่ไม่ได้ฆ่ามัน
เพราะเธออยากจะดูดีต่อหน้าลูกสาว เธอจึงขอร้องให้ Kyle มาช่วยสอนว่ายน้ำให้เธออย่างลับๆ และก็เรียนรู้การทำอาหารจาก Martha ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอจะชนะรางวัลกิลด์ประจำปีเลย เธอนั้นก็ได้นึกถึงแต่ลูกสาวตัวเองตอนที่ได้รางวัลอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เลือกสร้างเองได้
ขณะที่พวกเขานึกสิ่งที่มีอยู่ในหัวออกมา นักผจญภัยมือใหม่ทั้งสามต่างก็พยักหน้าพร้อมกัน
“…..คุณดูไม่เหมือนจะเป็นผู้ใหญ่ที่สมวัยเลยจริงๆสินะ คุณ Shirley”
“หวา!?”
“ทำไมคุณถึงตกใจล่ะ!? อย่ามองฉันแบบนั้นสิ!”
“นั่นต้องเป็นศึกที่สู้กันอย่างสุดใจที่เหลือเชื่อแน่ๆ ‘ลูกสาวของฉันน่ารักที่สุดในโลก!!’ เลยไม่ใช่หรือไง? ฉันมั่นใจว่าเสียงร้องของเธอนั่นจะต้องดังก้องไปทั่วทั้งประเทศเลยล่ะ สงสัยจังว่าลูกสาวของเธอจะคิดยังไงถ้าพวกนั้นมาเห็นแบบนี้เข้าล่ะ?”
“….อ๊าาาา!! อาาาาา! อ๊าาาาาาาา!”
“ฟุฮ่าๆๆๆๆ! ว่าไงล่ะ Shirley!? วันนี้อสูรดาบสีขาวเบื่อหรือ!?”
เธอพยายามเข้าไปหา Canary ด้วยเรเปียร์ขณะที่เอามืออีกข้างปิดหน้า แต่แม่มดนั่นก็โยกหลบตามจังหวะได้หมดขณะที่เธอร้องออกมา
ถึงแม้จะรุนแรงไปหน่อย Shirley ก็รู้ว่าคำพูดเหล่านั้นเป็นจริงทั้งหมด อย่างไรก็ตามการได้ยินคนอื่นพูดตอกย้ำก็ได้ทำให้เธอรู้สึกอับอายมากกว่าเดิมอีก
“นี่ คุณ Shirley ไม่มีใครคิดอะไรมากนักหรอก มันน่าจะดีกว่าถ้าคุณอยู่เฉยๆนะ โอเคมั้ย?”
“ค… ค่า…”
หลังจากที่ Shirley กลับมานั่งเก้าอี้ที่ Leia ดึงมาให้เธอแล้ว Canary ก็กระซิบที่หู Zector
“…..หืมม มันยากที่ข้าจะยอมรับผู้หญิงที่ดื้อด้านไม่ยอมรับว่าลูกสาวข้านั้นน่ารักที่สุดในโลกน่ะสิ… อย่างไรก็ตาม ข้าก็เห็นแล้วว่าเธอมีจิตใจความเป็นผู้ปกครองอย่างแท้จริงเลย ข้าจึงไม่คิดว่าเธอจะหักหลังได้หรอก และก็ยังได้เห็นว่าเธอนั้นสู้ได้อย่างล้นหลามเลยล่ะ”
ถึงแม้ว่าความเลื่อมใสในตัวนั้นจะตรงกันข้ามก็ตาม Zector ก็ได้รู้ว่า Shirley นั้นมีทัศนคติที่ตรงกัน
“งั้นก็เป็นตามนี้แหละ… แล้วเราจะเริ่มกันได้หรือยังล่ะ?”
“คำร้องในครั้งนี้ก็คือต้องคุ้มกัน ณ ปราสาทราชวังของ Edward ตลอดเทศกาลศรีษมายัน ไม่แน่ว่าพวกนายจะได้เห็นข้างนอกของราชอาณาจักรขณะที่ทำสัญญา อย่างไรก็ตามมันก็ต้องมีอุปสรรคที่นักผจญภัยเข้ามาทำงานอยู่แน่ๆ มันอาจจะไม่เหมาะกับพวกทหารหลวงหรือรัฐมนตรีสักเท่าไร ไม่ว่าฉันจะไปตรงไหน มันก็ต้องมีคนน่ารำคาญตลอดเลย เนาะ?”
“แล้วจะให้เราทำอะไรล่ะ?”
“เอาง่ายๆเลย พวกนายก็แค่ทำงานในปราสาทราชวังตรงที่ๆจะไม่มีพวกเจ้ากี้เจ้าการมาคอยบ่นไงล่ะ”
ขณะที่พวกนักผจญภัยหนุ่มสาวมองเธอด้วยความสับสน รอยยิ้มชั่วร้ายของ Canary ดูท่าจะออกมาจากหูถึงหู
“ฉันจะให้พวกนายกลับไปเกิดเป็นคนอื่นสักพักล่ะกัน”
—
ถึงแม้ว่ากิลด์มาสเตอร์ Canary จะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชวงศ์และสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ทั้งการแก้ปัญหาผู้ลี้ภัยและความขัดแย้งภายในราชอาณาจักรที่ดีพอๆกับการคุกคามของมอนสเตอร์ที่มีการจัดการของกิลด์เอาไว้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ถูกใครใส่ความ เนื่องจากเธอยังรักษากฎหมายยิ่งกว่าข้อเสนอแนะของระเบียบที่ยากต่อรัฐบาลที่จะทำตามเงื่อนไขของเธอในยามฉุกเฉินได้
และแม้กระทั่งตอนที่เกิดยามวิกฤตขึ้น เพราะรัฐบาลไม่เคยที่จะมีตัวเลือกในการแก้ปัญหาใดๆเลย พวกเขาก็เลยพูดถึงแต่นักผจญภัยในราชสำนักหรือความภาคภูมิใจของทหารหลวง
“ดังนั้น ฉันจึงได้จัดการปลอมแปลงข้อมูลการเกิดของพวกนายซะ”
แน่นอนว่า พวกเขาไม่ได้หยุดเป็นนักผจญภัยจริงๆหรอก แต่ในข้อมูลปลอมๆที่ดัดแปลงระเบียนกับพวก Shirley และคนอื่นๆบอกว่าเป็นราชองครักษ์ที่ผ่านการประเมินจากรัฐบาลและได้รับมอบหมายให้มาคุ้มกันแขกที่มีชื่อเสียง
สิ่งที่เพิ่มเติมให้กับ Shirley เธอต้องปกป้อง Grimilda จากแผนการของ Crowley นี่จึงเป็นวิธีที่ยอมรับได้ที่สุดที่พวกเขาจะทำให้ได้รับการนับถือจากเจ้าหน้าที่ของราชอาณาจักร
“ถึงเธอจะไปบอกแบบนั้นกับฝ่าบาท นายกและก็รัฐมนตรีคนอื่นๆก็ดีอยู่หรอก… ฉันไม่สบายใจเลยที่จะต้องมาทำตัวเหมือนอาชญากรแบบนี้”
“เราน่าจะถูกใช้นะ จะว่าไปชุดยามนี่ดูเหมือนจะเผยระหว่างไหล่ออกมาเลยไม่ใช่หรือ?”
“ก็นะ ใช้ไปแค่ครั้งเดียวมันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา… ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันรู้สึกหงุดหงิดบ้างตอนที่ฉันต้องมาสวมชุดที่ไม้คุ้นเคยนะ”
เมื่อ Grimhilda ได้มายังที่ปราสาท Shirley กับคนอื่นต่างก็เข้าไปหาเธอเพื่อคุ้มกันหลังจากเอาชุดนักผจญภัยไปเปลี่ยนเป็นชุดเครื่องแบบดั้งเดิมใหม่แล้ว
ถึงแม้ว่า Kyle กับ Cudd จะยังแค่สิบห้าเท่านั้น เธอก็ยังจำเรื่องที่น่าอดสูที่ต้องมาถอดเสื้อต่อหน้าพวกเขาก่อนหน้านั้นได้ เธอก็เลยรู้สึกเกร็งอยู่บ้าง
“ไม่ต้องมาชมฉันเลยนะ จะว่าไปเธอเองก็ดูในกระจกหรือยัง? เธอเล่นสนุกกับการแต่งตัวหรือว่าอะไรอยู่หรือ ยัยบ้านี่?”
“ก็กิลด์มาสเตอร์ทำไอ้นี่มาให้ฉันโดยเฉพาะนี่ แล้วนายพูดถึงเรื่องอะไรกันย่ะ…!?”
“ไม่ใช่เพราะว่ามันไม่มีอะไรที่พอดีกับเธอเลยหรือไง…!? เนื่องจากเธอมันเตี้ยชิบ!”
“ทั้งสองคน… เราอยู่ในปราสาทราชวังนะ อย่าทะเลาะกันเลย…”
เนื่องจากเป็นของที่ Canary กำหนดเอง ชุดเครื่องแบบองครักษ์ของ Leia จึงแตกต่างจากของคนอื่น ถึงแม้จะเป็นเสื้อโค้ทที่มีดีไซน์เดียวกันก็ตาม กางเกงของเธอก็ไม่ได้ยาวเหมือนกับของ Kyle หรือ Cudd เลย เธอก็เลยสวมกางเกงขาสั้นที่น่าจะเหมาะกับบุคลิกที่ร่าเริงแทน
“มันจะโอเคจริงๆหรือที่ต้องมาสวมชุดที่ตัดใหม่แบบนั้นน่ะ?”
“เห็นได้ชัดว่ามีองครักษ์หญิงจำนวนมากอยู่ตรงนั้นด้วย ก็เลยมีดีไซน์เฉพาะตัวเยอะแยะไปหมด บริษัทรับออกแบบของ Canary เป็นผู้รับผิดชอบเครื่องแบบฉันเองแหละ”
ขณะที่เธอพูดแบบนั้น Shirley ก็แนบดาบสองเล่มเอาไว้ที่เอวโดยเล่มหนึ่งไว้ข้างซ้าย ส่วนอีกเล่มไว้ข้างขวา
“โอ้! เหมาะกับเธอเลยนี่ คุณ Shirley!”
“…ขอบใจ อย่างไรก็ตาม ชุดที่คล้ายๆกับองครักษ์หลวงที่เคยคุ้มกันฉันเมื่อสิบปีก่อนมันก็ทำให้รู้สึกแปลกๆนะ”
ไม่เหมือนกับ Leia ที่สวมขาสั้นจนโชว์ขาอ่อน จิตสำนึกของ Shirley จะเลือกสวมกระโปรงยาวแทน
“จำเป็นต้องพกดาบจริงๆหรือ? บอกตามตรง พวกเขาก็อยู่ในนั้นด้วยนะ”
ในปราสาทราชวังนี้ พวกทหารจะต้องถือดาบสำหรับประกอบพิธีเป็นของข้างกาย เพื่อที่จะรักษารูปลักษณ์ภายนอกปลอมๆอย่าง Shirley ตราบที่ Cudd กับ Leia ที่ไม่ได้ใช้ดาบทั่วไป ทุกคนมีฝักดาบแนบเอาไว้ข้างเอว
ถึงไม่ต้องแต่งตัวให้เป็นทางการในปราสาทราชวังมันก็ยังคล้ายๆกับหมิ่นเบื้องสูงและหยามศักดิ์ศรีของชาติได้ ตราบเท่าที่งานของพวกเขาคือคุ้มกันอยู่ตรงนี้ พวกเขาก็น่าจะไม่ใส่ใจพิธีรีตรองนัก
“ก็มันช่วยไม่ได้นี่ นี่เป็นส่วนของเครื่องแบบนะ พวกเธอยังมีอาวุธตามปกติอยู่มั้ย?”
“มี ก็ต้องขอบคุณ 《ภาพลวงตา》 เลย”
พวกนั้นไม่น่าจะเดินไปในปราสาทขณะที่ถือกระบอง ธนูหน้าไม้หรือมีดสั้นได้หรอก นั่นทำไมพวกเขาถึงต้องใช้เวทระดับสูงของ Cudd ที่เขาจะเอาไปใช้ในการต่อสู้บ้างอย่าง 《ภาพลวงตา》
“งั้น ที่เหลือก็ Sophie กับ Tio…”
“หม่าม้า ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ!”
“เราเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว”
พูดถึงก็มาเลย Sophie กับ Tio เข้ามาในห้อง สวมชุดสีดำกับผ้ากันเปื้อนสีขาวไว้ข้างหน้า เป็นชุดสาวใช้แบบดั้งเดิม
เนื่องจากเป็นเสื้อผ้าที่เรียบง่าย จึงเหมาะสำหรับการทดลองสวมใส่ เป็นตัวเดียวกับที่ใช้โดยลูกสาวจากตระกูลชั้นสูงที่ทำงานรับใช้ราชวงศ์เป็นการศึกษา และชุดเครื่องแบบสาวใช้นั้นก็เหมาะสมสุดๆกับแฝดที่อยู่บนพื้น
“….ฮ่า!”
ในเสี้ยววินาทีนั้น Shirley ก็เคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่ไม่มีใครจะมองตามทันได้
มันเกิดขึ้นเพียงแค่วินาทีเดียว ความซับซ้อน, แม่นยำ, เหมาะสมและการเคลื่อนไหวเบลอๆที่สง่างามมันคล้ายคลึงกับสิ่งที่เธอเคยทำในวันเยี่ยมโรงเรียนของผู้ปกครองจนน่ากลัวเลยล่ะ
“แล้วชุดนี่คิดว่ายังไงบ้างล่ะคะ?”
“ดูโอเคมั้ย? แม่?”
“จ้ะ ทั้งคู่ดูน่ารักเลยล่ะ”
“ฮิๆๆ”
“แม่เองก็ดูดีด้วยนะคะ หม่าม้า!”
“อืม ลูกเองก็ดูดีอยู่แล้วล่ะ แต่วันนี้ลูกดูดีเป็นพิเศษเลยล่ะ”
“…อย่าง… งั้นหรือคะ…”
ถึงแม้เธอจะไม่ได้พูดถึงชุดเครื่องแบบของตัวเองก่อนหน้านั้น ถ้าลูกสาวของเธอพูดแบบนั้นแล้วมันก็ไม่ได้แย่ไปทั้งหมด ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นห่วงถึงนักผจญภัยมือใหม่ที่ดูท่าจะรักกันอย่างอบอุ่น Shirley ก็ตัดสินใจปล่อยให้ตัวเธอสนุกไปสักพักขณะที่เธอลูบหัวเด็กสาวทั้งสองคนอย่างอ่อนโยน
“ราชินี Alicia”
Alicia เข้ามาในห้องมาพร้อมกับ Grimhilda ด้วย Shirley กับนักผจญภัยคนอื่นๆที่สวมชุดองค์รักษ์เอามือประสานไว้ข้างหลังและกางขา ในขณะที่ Sophie กับ Tio ต่างก็ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหลังแล้วย่อขาขวาทำท่าถอนสายบัว
ก่อนที่พวกนั้นจะเข้ามา Shirley ได้สอนพวกเขาถึงมารยาทในการเคารพที่เหมาะสม ขณะที่ Alicia พยักหน้าหนึ่งครั้งด้วยความพอใจ Hilda ก็เดินเข้ามาอยู่หน้าเธอและก็ดูถูกพวกพวกเขาด้วยความอวดดี
“ตั้งแต่วันนี้ไปจนกว่าฉันจะกลับบ้าน พวกเจ้าถือว่ามีเกียรติที่ได้เข้ามาอยู่กับฉัน! พวกเจ้าต้องรับใช้ฉันให้สุดหัวใจเลยนะ! ฉันจะไม่ทนต่อการนินทาใดๆหรอกนะ ฉันคาดว่าพวกเจ้าเองก็น่าจะทำตัวเป็นสาวใช้ที่เหมาะสมกับเจ้าหญิงแห่งดินแดนปีศาจนะ! โอ้โหะๆๆๆๆโฮฮอออออ!”
“เข้าใจอย่างยิ่งเลยครับ/ค่ะ เจ้าหญิง Grimhilda!”
“……อ-อย่างที่ว่านั่นแหละ ตอนที่เราไม่ได้อยู่ในสาธารณะ พ-พวกเจ้า… ก็พูดกับฉันเหมือน… เหมือนอย่าง… อย่างเพื่อนตามธรรมดาก็ได้…”
“แล้วจะโอเคหรือ?”
“รู้สึกคิดถึงจัง ฉันไม่นึกว่าวันหนึ่งจะได้พบกับเธอในปราสาทนี้อีกครั้งเลยนะ”
“…ก็จริงอยู่”
“เธอนี่ยังคงงดงามจนจำได้ดีเลย มีหลายอย่างที่ฉันอยากจะพูดกับเธอเลยนะ เอาไว้เธอมีเวลาว่างเมื่อไร จะไม่ไปร่วมปาร์ตี้น้ำชากับฉันสักหน่อยหรือ? แน่นอนว่า ลูกสาวของเธอก็มาได้นะ และก็กึ่งเอล์ฟน่ารักที่ร่วมงานด้วยนะ ฉันจะหาชุดที่เหมาะกับพวกเธอให้ถ้าเธอชอบนะ?”
“เอ๋!? ฉันด้วยหรือ?”
“ท่านนายหญิงคะ… แบบนั้นมัน…”
“ขอประทานโทษครับ”
ขณะที่ Shirley ถึงกับลังเลว่าจะตอบรับความใจดีของ Alicia อยู่นั้น ก็มีชายร่างสูงใหญ่เปิดประตูจากห้องโถงเข้ามา
“จ-จอมพลหรือ…!?”
นักผจญภัยที่อยู่ในห้องนอกจาก Shirley ต่างก็ช็อคที่จู่ๆผู้บัญชาการทหารยศสูงที่สุดในราชอาณาจักรก็ปรากฏตัวออกมา
“จอมพล Alderton? วันนี้คุณมาทำอะไรตรงนี้กันเนี่ย? คุณได้รายงานเรื่องนี้กับราชาถึงการวางแนวป้องกันเพื่อปกป้องราชอาณาจักรแล้วหรือ?”
“นั่นมันเจ็บหนักเลย นอกจากนี้กระผมสนใจพวกนักผจญภัยที่อยู่ตรงนี้มากกว่านะครับ”
“เอ๋?”
Glorious มองไปยังนักผจญภัยสี่คนที่อยู่ในห้อง… หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขามองไปยังที่ Shirley
“อะไรกันล่ะ?”
“กระผมได้ยินเรื่องราวของเธอทั้งหมดแล้ว แม้แต่จะจับสายลมของพวกนั้นครั้งแรก ผมก็จะหาโอกาสที่จะพบกับเธอให้ได้”
“….คุณพูดเยอะไปแล้ว ว่าแต่คุณมาที่นี่เพื่อจะบอกแค่นั้นจริงๆหรือ?”
‘ถ้ามีเรื่องธุระสำคัญที่จะบอกล่ะก็ รีบบอกมาเร็วๆซะ’ คำพูดของ Shirley ดูเหมือนจะเดาออก ขณะที่ Glorious ยิ้มแห้งๆ
“เนื่องจากกระผมเห็นคุณไม่ชอบที่จะออกไปลุยเป็นหมู่เลย กระผมก็เข้าใจ คำพูดที่คุณได้รับมาก็แค่เป็นสิ่งที่ลอยหายไปกลางอากาศสินะ กระผมได้รับคำร้องจากพวกทหารมาเยอะมากจนจะท่วมตัวและจะขอฝึกประลองกับคุณด้วย กระผมได้รับการยินยอมจากฝ่าบาทมาแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องตอบรับคำท้านี้… ว่ายังไงล่ะ อสูรดาบสีขาว?”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น