ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อดีตขุนนางสาวโสดกับชีวิตโลดโผนผจญภัยเพื่อลูกสาวสุดน่ารัก

    ลำดับตอนที่ #72 : สาวน้อยปีศาจ Grimhilda

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 808
      42
      25 เม.ย. 63

    เด็กสาวที่มีอายุพอๆกับพวกเธอที่อยู่ใต้ร่มกันแดดสีดำและสวมชุดที่น่าจะบอกได้ว่ามันหรูมากเพียงแค่เหลือบมอง แต่ถึงแม้จะถูกสายตาพวกนั้นจับตามองอยู่ ก็ถือว่าหายากที่เธอจะมายืนในฝูงชนได้

    นอกจากเขาดำที่งอกออกมาจากหัวอันเป็นจุดเด่นของปีศาจแล้ว เธอก็ยังดูท่าทางสง่าผ่าเผยจนดูท่าจะยิ่งใหญ่ในภายหน้าแม้ว่าเธอจะยังอายุน้อย ตาของเธอก็เรียวปลายแหลม และก็มีผมสีเงินเปล่งประกายที่ขดเป็นเกลียว จนดูเหมือนเจ้าหญิงที่หลุดออกจากนิทานเลย
     
    หากจะเอาไปเทียบกับพวกเธอโดยไม่มีความลำเอียงใดๆแล้ว ความงามของเธอก็ไม่ได้แพ้ Sophie กับ Tio สักเท่าไรหรอก ที่จริง เด็กสาวคนนี้ยังมีอะไรที่น่าสนใจยิ่งกว่าฝาแฝดในขณะนั้น เพราะเสื้อผ้าที่หวือหวากับชายหนุ่มที่ยืนอยู่หลังเธอที่ใส่ชุดเครื่องแบบพ่อบ้านต่างหาก

    “อ๊ะ? นั่นพี่ใหญ่ Atem นี่”

    เนื่องจากพวกเธอถูกเด็กสาวที่ตะโกนเสียงดังหน้าร้านแผงลอยจนทำให้เขว Chelsea จึงเป็นคนเดียวที่สังเกตเห็นก่อน

    “คนขายของข้างทางคนนี้? เธอรู้จักเขาด้วยหรือ?”

    “ใช่ เขาก็อยู่ที่สถานสงเคราะห์ของเรานั่นแหละ… ฉันจำได้ว่าเขาตั้งแผงขายสบู่และก็ครีมอาบน้ำนะ”

    Chelsea เดินเข้าไปยังฝูงชนขณะที่เธอพูด ถึงแม้ว่าจะแตกต่างจากความวุ่นวายที่มาจากการทะเลาะกันระหว่างนักผจญภัยที่เกิดขึ้นในเมืองเป็นประจำก็ตาม มันก็ยังน่าสังหรณ์ใจอยู่ แต่เนื่องจากคนรู้จักของเพื่อนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเธอก็เลยไม่อาจเมินเฉยได้จึงได้เดินตามไปด้วย
     
    ทั้งสี่คนเดินตามหลัง Chelsea มาถึงร้าน ขณะที่พวกเธอเข้ามาใกล้ๆ พวกเธอก็ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่าง Atem กับเด็กสาวคนนี้

    “หมายความว่ายังไงที่นายบอกว่าไม่มี Savon Veena เนี่ย? ถึงแม้เราจะอยู่ในเมืองชายแดน ถ้านายเรียกตัวเองว่าเป็นคนขายเครื่องเสริมความงาม อย่างน้อยก็ต้องมีของแบบนั้นให้มากๆสิ!”

    “ถ-ถึงแม้เธอจะพูดแบบนั้นก็เถอะ…”

    มันไม่มีอะไรที่เขาจะต้องขอโทษเลย ดูเหมือน Atem จะตกในสถานการณ์สิ้นหวัง ชัดเจนเลย ดูเหมือนว่าเด็กสาวคนนี้จะยืนกรานเอาของที่เขาไม่มีขายให้ได้ ถึงจะเป็นแค่บ่นก็ตาม สำหรับพ่อค้าหนุ่มที่ยังเชื่อคติ ‘ลูกค้าถูกต้องเสมอ’ ทำให้เขาตัดสินใจได้ลำบากพอๆกัน

    “อะไรหรือ พี่ใหญ่ Atem?”

    “อ๊ะ Chelsea หรือ? เปล่า ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วงถึง-”

    “อ๊ะ? แล้วคุณเป็นใครกันล่ะ?”

    Atem พยายามที่จะปกปิดน้องสาวที่มาจากสถานสงเคราะห์และเพื่อนของเธอออกจากสถานการณ์ที่อึดอัดนี้ แต่ดูเหมือนว่าเด็กสาวคนนี้จะสนใจพวกนั้นขึ้นมา

    “นี่เธอเป็นน้องสาวของพ่อค้าที่ล้มเหลวใช่มั้ยเนี่ย? แล้วมีเรื่องอะไรกันล่ะ?”

    “นี่ฉันถูกเรียกว่าล้มเหลวหรือ…”

    “ฮึ ก็มันจริงนี่ แต่ฉันอยากจะคุยกับพวกเด็กๆนี่หน่อย”

    ขณะที่เธอพูดไปอย่างไม่ลังเลนั้น เด็กสาวที่อยู่ในคำถามดูเหมือนจะไม่ได้รู้ถึงสายตาที่พวกเธอมองอย่างน่าเห็นใจกับ Atem ที่ดูเหมือนจะช็อคหมดเปลือกขณะที่เธอเอามือเสยผมเกลียวและก็หันไปถามพวกเด็กเหล่านั้น

    “อ-อะไรหรือ?”

    “ก็มีเหตุผลหลายๆอย่างนะ ฉันอยู่ในเมืองนี้มาไม่กี่วัน แต่เพราะฉันรีบจนลืมเอา Savon Veena มา ฉันพยายามจะหาซื้อจากร้านแผงลอยนี่… แต่ดูเหมือนจะไม่มีร้านไหนที่มี Savon Veena ขายเลย! เชื่อหรือเปล่าล่ะ!?”

    “…? ก่อนอื่นเลย Savon Veena มันคืออะไรล่ะ…?”

    เป็น Tio ที่ถามคำถามก่อนใครเลย อีกสี่คนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบๆ แต่เด็กสาวที่อยู่หน้าพวกเธอแทบไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เธอได้ยินไป

    “นี่เธอพูดอะไรกันล่ะ!? Savon Veena เป็นสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันของผู้คนเลยนะ!? พวกเธอมาอยู่ในเมืองนี้แล้วไม่รู้จักมันได้ยังไงกันเนี่ย!?”

    “ม-มันสำคัญหรือ!?”

    “Mira เธอรู้จักมั้ย?”

    “ไม่รู้จักเลย…”

    ขณะที่พวกเพื่อนๆดูท่าจะงงกับคำถามที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตอยู่นั้น เด็กสาวถึงกับเซหลังด้วยความตกตะลึง

    “น-นึกไม่ถึงเลย… ค-คนในเมืองนี้ไม่ยอมแม้แต่จะอาบน้ำเลยหรือไง!? ไม่นึกเลยว่ามันจะเจริญช้าอย่างนี้… ม-เหม็นสาปชะมัดดด!”

    “ห-หยาบคายนะ!? เราก็อาบอยู่แล้วน่า!”

    ถึงแม้พวกเธอจะยังแค่สิบ พวกเธอก็ไม่อาจอยู่เพื่อให้มาดูถูกอย่างนั้น ก็เลยทำให้สถานการณ์เริ่มเจี๊ยวจ๊าวยิ่งขึ้นอีก

    “เธอเอาตรงไหนมาบอกเราว่าล้าหลังกัน!? นี่เธอคิดว่าตัวเองเลิศประเสริฐศรีเพราะมีผมเกลียวนั่นหรือ!?”
     
    “อย่ามาดูถูกเราเพราะเธอดูเหมือนกับเจ้าหญิงนะ!!”

    “หวา!? ฉ-ฉันไม่ได้ทำทรงผมแบบนี้แค่โชว์นะ!! ก็แค่พวกเธอมันสกปรกเกินไปเอง…!”

    ขณะที่ Mira พวกดูพวกนั้นเถียงกันไปมาขณะที่ทำหน้าบึ้งใส่กันนั้น Tio ก็หันไปพูดกับ Atem

    “นี่ แล้ว Savon Veena มันคืออะไรหรือ?”

    “อ๊ะ จริงสิ! นั่นคือสิ่งที่คุณจะให้ยัยผมเกลียวนั่นหรือ?”

    “Savon Veena มันก็แค่ Savon Veena เอง! มันก็เป็นสามัญสำนึกที่ทุกคนเขารู้กันทั้งนั้นแหละ!”

    “ตรงนั้นมันสามัญสำนึกยังไงกันเนี่ย!?”

    พวกเธอมองลงไปยัง Atem ที่ดูท่าสลดใจขณะที่นั่งกุมเข่า คำว่า ‘ล้มเหลว’ ยังวนเวียนในหัวเขาอยู่อย่างนั้นและก็อย่างนั้น

    นี่มันเป็นเรื่องขึ้นมาก็เพราะตรงนั้นไม่มีอะไรที่เรียกว่า ‘Savon Veena’ ในร้านเนื่องจากเด็กสาวคนนี้เข้าใจว่ามันน่าจะมีขายอยู่ในร้านไหนก็ได้
     
    “อา… Savon Veena… มันเป็นเกี่ยวกับสบู่หรือ?

    “…? งั้น ไม่ใช่ว่ามันวางอยู่บนชั้นหรือ?”

    ตรงนั้นมีสบู่หลายยี่ห้อวางแถวอยู่บนแผงเต็มไปหมด มันเป็นยี่ห้อถูกๆพอที่จะซื้อได้เพียงแค่หนึ่งเหรียญทองแดง ส่วนยี่ห้อที่แพงกว่าก็น่าจะสักสามเหรียญ แต่สบู่ยี่ห้อเหล่านั้นเป็นของที่พวกเพื่อนใช้กันอยู่ทุกวัน อย่างไรก็ตาม เด็กสาวคนนั้นถึงกับพ่นจมูกกับสบู่ยี่ห้อที่คุ้นๆ ซึ่งห่อด้วยกระดาษและผูกเชือกไว้

    “เธอพูดเรื่องอะไรกัน? ฉันไม่ใช่ไอ้ ‘สบู่’ ที่มัน-อุ้ปส์!?”

    “เธอกำลังจะทำให้สับสนมากกว่าเดิมนะ ฉะนั้นก็เงียบเถอะ”

    Tio เอามือปิดปากเด็กสาวเพื่อหยุดไม่ให้เธอพูด

    “อา.. นะ… เอาง่ายๆเลย มันเป็นสินค้าคุณภาพสูง ยี่ห้อที่มีใบรับรองวังหลวงอนุญาตให้ขายได้นะ”

    ชนชั้นสูงก็ต้องการด้วยหรือ? คำพูดนั้นท่าทางจะแปลกใหม่สำหรับพวกเด็กๆสินะ

    “จะว่าไป… มันราคาเท่าไรล่ะ…?”

    “ฉันไม่เคยซื้อมันด้วยตัวเอง ก็เลยไม่แน่ใจ แต่… ฉันเชื่อว่ามันน่าจะสักหนึ่งเหรียญทองนะ?”

    “มากไปหรือเปล่า!?”

    หนึ่งร้อยเหรียญทองแดงเท่ากับหนึ่งเงินทอง ตามที่เด็กสาวคนนี้ว่ามา Savon Veena คือสิ่งที่ทุกคนใช้กัน… งั้นก็พอจะเข้าใจว่าราคาแบบนั้นมันบ้าบอสำหรับพวกเธอทั้งห้าสิ้นดีเลย

    “…งั้นนี่ก็เป็นของพวกชั้นกลางหรือ?”

    “น-นั่นมันเท่ากับเงินของคนทำงานตั้งหนึ่งเดือน เพื่อแค่สบู่ก้อนเดียวเนี่ยนะ…”

    “สำหรับฉันแล้ว น่าจะเป็นห้าเดือนล่ะน้า…? ยัยนี่มันรวยขนาดไหนกันเนี่ย…!?”

    “อ-อะไรล่ะเนี่ย? พวกเธอนี่คุยกันจนทำเอาฉันสับสนมาสักพักนึงแล้ว… ช่วยอธิบายให้ฉันเข้าใจได้มั้ย?”

    “ไม่มีประโยชน์… เราต้องทำอะไรสักอย่างโดยไวแล้ว…!”

    “อืมม ดูหน่อยสิ…? สบู่นี่มัน…”

    พวกนั้นน่าจะเดาได้จากชุดที่เธอสวม เธอนั้นคงจะอยู่ในฐานะสูงกว่าที่พวกนั้นคาดเอาไว้ ขณะที่คนอื่นๆต่างก็จ้องไปยังสิ่งมีชีวิตหายากที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในที่นี่ Mira จึงได้อธิบายอย่างสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้

    “ม-มันเป็นยังไงหรือ… Savon Veena ก็คือสิ่งที่เธอบอกว่าเป็น ‘สบู่’ สินะ…? คิดว่ามันแตกต่างระหว่างสามัญชนที่พอจะเทียบกับเราสินะ… คิดอะไรไม่ออกแล้ว…”

    เด็กสาวดูเหมือนว่าเธอจะทนไม่ไหวจากความช็อคขณะที่เธอจ้องไปยังที่สบู่ที่วางแผงอยู่บนชั้น แล้วก็เอาอันหนึ่งมาไว้ในมือที่สั่น

    “…ที่ๆฉันอยู่บอกฉันว่ามันไม่มี Savon Veena ฉันก็นึกว่าน่าจะออกไปซื้อเองได้… ก็เลยสับสนตอนที่ฉันหาที่ไหนไม่เจอเลย แต่พอคิดดูแล้ว มันก็เป็นความจริงเลยล่ะ…”

    “มันก็ใช่อยู่แล้วล่ะ”

    “แม่บอกว่ามันแตกต่างกันมากระหว่างสิ่งที่เธอซื้อได้ในเมืองนี้เทียบกับอันอื่นๆนะ”

    ถึงแม้มันจะมีเครื่องหมายรับรองจากวังหลวง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีแต่พวกชนชั้นสูงที่จะซื้อได้ ไม่ใช่แค่ขุนนางหรือพ่อค้าร่ำรวย แม้แต่สามัญชนผู้อดออมก็ยังสามารถซื้อมันได้ เหตุผลที่ราคามันสูงก็คือมันผลิตมาเป็นจำนวนน้อยโดยช่างฝีมือที่มีทักษะพอที่จะทำได้ มันก็เลยมีจำนวนจำกัดที่ผู้ขายจะมีไว้ในคลัง
     
    นอกจากนี้ เมืองนี้เป็นเมืองห่างไกลที่มีนักผจญภัยมาตั้งถิ่นฐานกันเป็นส่วนใหญ่ จึงอาจจะมีสิ่งของและเทคโนโลยีเวทมนตร์ที่หาได้ยากหน่อย แต่พวกเขาก็ต้องคอยจัดการกันเอาเองเพื่อเตรียมการศึกและความอยู่รอด เนื่องจากทุกอย่างเป็นสิ่งที่มีอยู่จำกัด จึงยังคงขาดแคลนสินค้าอีกหลายอย่างแบบนี้แหละ

    “…น-ในครั้งนี้ ฉันต้องขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่องด้วย มันก็น่าสนใจที่จะได้มีประสบการณ์กับสินค้าของสามัญชนบ้าง… งั้นฉันจะเอาสบู่ที่ดีที่สุดที่นายมีขายอยู่ก็ล่ะกัน”

    “ค-ครับ! ขอบคุณมากที่มาอุดหนุนเรานะครับ!”

    “แล้วเจอกันนะ พี่ใหญ่ Atem เรากำลังจะไป…”

    “กรุณารอสักครู่ก่อน”

    เธอที่ทำท่าหยิ่งในตอนแรกแต่ก็ได้ขอโทษไปแล้ว เมื่อพวกเธอเห็นเด็กสาวที่ทำสีหน้าแดงอายที่ในที่สุดก็ตัดสินใจซื้อสบู่ที่เพื่อนแนะนำให้ได้สักที แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอกลับเรียกพวกนั้นอีกครั้ง

    “อะไรหรือ?”

    “พวกเธอทุกคนอาศัยอยู่ในเมืองนี้หรือ? ฉันเพิ่งจะมายังที่นี่ในวันนี้และฉันก็ไม่คุ้นเคยกับที่นี่สักเท่าไรนักนะ”

    ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของเธอจะดูหงุดหงิดขณะที่เธอถาม Sophie กับเพื่อนของเธอ เด็กสาวก็ยังคงพยายามเก็บความยโสเอาไว้ขณะที่เธอแนบหน้าอกที่แบน

    “มันต้องเป็นชะตากรรมที่เราได้พบกันอย่างนี้แน่… ผู้มีพระคุณที่ได้ช่วยฉันไว้ ฉัน Grimhilda Eisen-Quartz จะยอมให้พวกเธอคอยแนะนำสถานที่ให้ฉันรอบๆเมืองเลย!”

    “““เอ๋? ไม่อยากเลยง่า”””

    “ตอบกลับมาทันทีแบบนี้เลยหรือ!?”

    ก๊อง! ราวกับว่าเด็กสาวคนนี้จะได้ยินเสียงร้องแปลกๆ ขณะที่ Tio, Lisa กับ Chelsea ปฏิเสธ Grimhilda ที่ช็อคอยู่โดยทันที

    “ฉันไม่อยากจะเดินไปในที่อากาศโคตรร้อนแบบนี้เลย เราจะไปยังที่ๆมีเครื่องปรับอากาศนะ เธอมากับผู้ใหญ่อยู่แล้วเพราะงั้นเธอก็ไม่หลงทางหรอก”

    “น-นั่นมัน…”

    “ใช่แล้วล่ะ ถ้าเราไปเล่นกับคนที่เราไม่รู้จัก แม่อาจจะเป็นห่วงอีกก็ได้ เนื่องจากเราทำการบ้านเสร็จแล้วก็อยากจะไปที่ของ Chelsea และก็เล่นเกมกระดานนะ”

    “ก-เกนกระยานหรือ?”

    “ที่นั่นมีหลายคนที่เล่นด้วยกันที่สถานสงเคราะห์ด้วย เราน่าจะไปยังที่นั่นกันตอนนี้เลย”

    ขณะที่ Tio, Lisa กับ Chelsea เริ่มหันกลับไปขณะที่พวกเธอพูดแบบนั้น Grimhilda ก็มองดูพวกนั้นขณะที่เธอถือร่มกันแดด

    “…อืออ…”

    มันไม่ใช่ความอาฆาตหรือปวดร้าวอะไรหรอก แต่เป็นความหดหู่ของสาวน้อยผู้เดียวดายต่างหาก ขณะที่เธอมองไปยัง Grimhilda น้ำตาของเธอก็ไหลออกมาเหมือนกับเด็กหลงทาง Sophie จึงกระซิบกับเพื่อนเบาๆ

    “โธ่ทั้งสามคน พวกเธอไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือ?”

    “เออๆ เรารู้แล้วน่า”

    “….อืม เราคงจะพูดเกินไปหน่อย”

    “เอ๋? หา?”

    ไม่ต้องเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นหรอก Grimhilda ถึงกับสับสนไปหมดขณะที่ Sophie กับเพื่อนๆเดินเข้ามาหาเธอ

    “มันน่าจะสนุกกว่านี้เมื่อมีคนมาเล่นด้วยกัน เนื่องจากข้างนอกร้อนมาก เธอก็มาเล่นกับเราด้วยกันก็ได้ถ้าชอบนะ? แล้วเธออยากจะไปเล่นด้วยกันมั้ยล่ะ?”

    “อ๊ะ…”

    สีหน้าของปีศาจสาวถึงกับร่าเริงขึ้นมาทันทีราวกับเวทส่องแสง แต่ทันทีที่เธอรู้ตัว เธอก็เอามือเกาผมราวกับจะพยายามซ่อนใบหน้าที่แดงอายตรงแก้ม

    “ช-ช่วยไม่ได้ล่ะนะ! รู้อยู่ว่าที่สามัญชนอยู่เป็นหน้าที่ของฐานะสูงกว่าแค่นั้นแหละ! ดังนั้นฉันขอตามพวกเธอไปเล่นด้วยล่ะกัน!”
     
    ขณะที่เธอพูดแบบนั้น Grimhilda ก็ไม่อาจซ่อนรอยยิ้มที่อยู่บนหน้าขณะที่เธอหันหน้าไปมองชายหนุ่มที่ใส่ชุดเครื่องแบบพ่อบ้านที่อยู่ข้างหลังเธอ

    “อ-เอาสั้นๆ ฉันจะไปเล่นกับพวกนั้น… ไม่สิ ฉันหมายถึงจะไปเรียนรู้ว่าพวกสามัญชนเขาอยู่กันยังไงโดยไปกับพวกนั้นนะ ใช่มั้ยล่ะ? Siegfried…?”

    “…………”

    ชายหนุ่มนั่นพยักหน้าตอบกลับไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×