ลำดับตอนที่ #49
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #49 : ปัญหาของกรงนก
มีสองอย่างที่ช่วยให้คลายความกังวลให้ Shirley ได้บ้าง อย่างแรกคือนกที่ดูเหมือนจะติดกับตัว Sophie กับ Tio แน่นนั้นหลุดออกได้ในเช้าวันต่อมา
เธอเริ่มที่จะกังวลมากขึ้นเมื่อเธอพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่ลูกสาวนั้นจะเจ็บป่วย เธอจึงได้ปรึกษากับนักสอดแนมที่อยู่ในเรือนทาโอเร่… แต่ตามที่เขาว่ามา ลูกนกนั้นเป็นพวกวิญญาณนกจึงไม่น่ามีปัญหากับพฤติกรรมของพวกนั้น
“มันก็เป็นธรรมดาทั่วไปของพวกนกวิญญาณนั่นแหละ ลูกนกที่ฟักตัวออกมาใหม่ๆจะดูดติดกับตัวของพ่อแม่มันจนกว่าพลังเวทมนตร์ในตัวมันจะเสถียรภาพนะ”
Sophie กับ Tio นั้นอันที่จริงก็เกิดมาด้วยพลังเวทมนตร์ที่เป็นส่วนเกิน แต่ขณะที่พวกเธอโตขึ้นพลังนั้นก็อยู่คงตัว แม้จะถึงจุดที่พวกเธอสามารถใช้พลังเวทถึงขอบเขตก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ไม่เหมือนกับมนุษย์ที่ต้องกระตือรือร้นอยากมากตั้งแต่อายุน้อย ความผิดปกติภายนอกอย่างเช่นพลังเวทมนตร์ส่วนเกินนั้นเหมือนจะไม่ได้รู้ว่านำไปสู่การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้
จำนวนการตายของมอนสเตอร์ตัวอ่อนและสัตวเวทมนตร์นั้นเทียบเท่าได้พอๆกับจำนวนการตายจากเจ็บไข้และถูกปล้นสะดม
ในโลกที่ป่าเถื่อนเช่นนี้ วิวัฒนาการก้าวกระโดดของพวกนกวิญญาณนั้นจึงมีความสำคัญอย่างเหลือเชื่อ เห็นได้จากการโกงความตายของนกตัวอ่อน
มันไม่ได้มีตัวเลี้ยงหรือนกวิญญาณตัวอื่น… สิ่งมีชีวิตใดๆจะมีรอยเส้นเวทมนตร์ที่น่าจะทำได้… นกวิญญาณทุกสายพันธุ์มีชีวภาพที่จะให้พวกมันดูดซึมด้วยรอยเส้นเวทมนตร์ของสิ่งมีชีวิตอื่นเพื่อบังคับให้พลังงานเวทมนตร์ของตัวมันเสถียรภาพ
“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก ถ้าเธอไม่คำถามใดๆล่ะก็มาถามฉันได้เลย ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนก ฉันใช้มากว่าสิบปีแล้วล่ะ”
“งั้น คุณพอจะรู้มั้ยว่านกสองตัวนี่มันเป็นแบบไหนกันล่ะ?”
“……………”
“และในวันนี้ เราจะต้องไปซื้อของที่จำเป็นอย่างอาหาร ไม่ต้องพูดถึงกรงเลย…”
นั่นคือสิ่งที่ Shirley บอกกับลูกสาวที่ต้องรีบกลับบ้านหลังเลิกเรียนเพื่อกลับไปดูนกโดยเร็วที่สุด แต่ Sophie กับ Tio ต่างก็เริ่มสนทนาในเรื่องอื่น
“มันก็ไม่ดีหรอกที่จะตั้งชื่อแปลกๆไป ไม่ใช่ว่าเราควรจะตั้งชื่อที่มันน่ารักแทนหรือ? ที่จริง แม้แต่ตอนที่เราจะคิดชื่อก็ต้องมีความหมายที่สำคัญด้วย!”
“อย่างไหนหรือ?”
“อย่างเช่น… พุดดิ้งจัง?”
“เซนส์ในการตั้งชื่อของเธอนี่แย่ชะมัด ต่อให้พวกนั้นนุ่มนิ่มเหมือนพุดดิ้ง คิดว่าพวกนั้นจะอยู่แบบนั้นตอนที่โตขึ้นหรือเปล่าล่ะ?”
“ย-อย่างน้อยมันก็ดีกว่าชื่อ Gengollow นั่นใช่มั้ยล่ะ!?”
หลังจากที่ลูกสาวที่น่ารักทั้งสองคนได้เกิดมา ก็เหมือนอย่างที่พวกเธอกำลังทำอยู่ในตอนนี้ Shirley ได้พยายามคิดชื่อให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ชื่อเป็นสิ่งที่ต้องติดตัวไปตลอดชีวิต ในฐานะตัวคนเดียวที่จะต้องตั้งชื่อให้พวกเธอ ไม่ว่าเธอจะนึกย้อนกลับยังไงมันก็ไม่พอ ขณะที่เธอมองดูลูกสาวผ่านอะไรบางอย่างตอนอายุสิบขวบ เธอก็คิดว่าบางทีการเลี้ยงสัตว์อาจจะมีประโยชน์ต่อการศึกษาของพวกนั้นได้
วันหนึ่งพวกเธอจะต้องกลายเป็นผู้ใหญ่และจะต้องแยกจากเธอไป บางทีมันคงจะเร็วไปที่จะคิดถึงเรื่องแบบนี้ แต่ถ้าพวกนั้นสามารถสร้างสำนึกรับผิดชอบในการดูแลนกพวกนี้ได้ แล้ว Shirley จะมีความสุขเลยล่ะ
“นี่ หม่าม้า? หม่าม้าได้ตั้งชื่อพวกเรายังไงหรือคะ?”
“ตอนที่ตั้งชื่อพวกเรานั้น แม่มีมาตรฐานแบบไหนมั้ย?”
พวกเธอดูเหมือนจะจนปัญญากับตัวซะแล้ว ก็เลยหาตัวช่วยภายนอก แต่เมื่อ Sophie กับ Tio มองไปยัง Shirley เพื่อขอคำใบ้ เธอจึงได้พูดบางอย่างที่พวกนั้นไม่ได้คาดการณ์เอาไว้
“ก็นะ… ที่จริง ตอนที่แม่ตั้งชื่อให้พวกลูกนั้น แม่ก็ไม่ได้นึกถึงความหมายมากนักหรอกนะ”
“หา? จริงหรือ?”
คนที่รู้แค่จอมเห่ออย่าง Shirley ที่น่าจะเปิดเผยเรื่องอันน่าช็อคยังไงนั้น สำหรับลูกสาวแล้ว เธอที่ได้จัดการกับราชามังกรด้วยตัวเองจนกลายเป็นเรื่องเล่าไปทั่วทั้งประเทศนั้น มันยากที่จะมโนได้ว่า Shirley นั้นไม่ได้ใส่ใจกับความสำคัญสุดขั้วในการตั้งชื่อให้ลูกสาวเธอเลย
“หืมมมมม แล้วนั่นเป็นอย่างนั้นด้วยหรือ?”
“จ้า อย่างที่ว่านั่นแหละ มันน่ายังดีที่สุดที่จะตั้งชื่อที่เธอคิดว่ามันจะชอบด้วยนะ”
และ ถึงแม้ Shirley จะพูดแบบนั้นไป――――
หลังจากที่คลอดออกมาแล้ว เธอก็ต้องฝืนทนไปอีกสามเดือนกว่าจะหาชื่อที่เหมาะสมกับทั้งสองคนนั้น ที่จริงนั้น Shirley ไม่ได้บอกด้วยจิตวิญญาณเลย
“อืม ตกลง”
“เอาล่ะ ทั้งสองคน ยืนอยู่ตรงนั้นนะ”
“ค่าาาา”
ขณะที่เธอรับเงินมา Shirley ก็ร่ายเวทลงบนตัว Sophie, Tio และตัวเธอเอง เป็นเวทป้องกันที่เรียกว่า 《ปกป้องผิว》ที่จะปกคลุมร่างกายและป้องกันการทะลุใดๆเข้าไป
“โอ้ ทั้งสามจะออกไปแล้วหรือ?”
“จ้า! เราจะไปซื้อกรงนะ!”
“อืม แล้วเจอกันนะ”
มีของอยู่หลากหลายมากมายในร้านขายเครื่องมือที่ขายให้กับนักผจญภัยอยู่เสมอ จากโพชั่นรักษายันเชือกที่สามารถใช้ได้ในทุกๆสถานการณ์ อุปกรณ์เวทมนตร์ที่สามารถจุดไฟได้ แผ่นม้วนที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้โดยไม่ต้องร่าย นักผจญภัยต้องการเครื่องมือแบบต่างๆเพื่อให้งานสำเร็จและร้านนี้ก็มีของที่ให้ลูกค้าพึงพอใจ
“เราเองก็ไม่อยากจะนึกหรอกว่ามันจะใหญ่แค่ไหนเมื่อโตขึ้นมานะ”
“บางทีเราน่าจะไปยังห้องสมุดก่อนที่จะมานี่มั้ย?”
ที่จริง Shirley ก็ได้อ่านมาเยอะเท่าที่จะทำได้แล้ว แต่เธอกลับไม่พบบันทึกใดๆที่มีลักษณะตรงกับรูปร่างพวกนั้นเลย ดังนั้น ถ้าพวกเธอซื้อกรงเล็กๆล่ะก็ พวกเธออาจจะต้องเอามาเปลี่ยนใหม่เมื่อนกนั้นโตขึ้น
“…จริงด้วย”
นักผจญภัยคนอื่นๆต่างก็บอกเธอว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะสร้างสภาวะที่ไม่ให้นกต้องเกิดความเครียด Shirley ไม่อาจทนต่อการเสียเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์ได้ แต่เนื่องจากเธอยังหาเงินได้ดีอยู่ บางทีมันก็ไม่ใช่การลงทุนแย่ๆที่จะต้องซื้อกรงที่ใหญ่กว่าที่จำเป็น――――
“จิ๊?”
“จิ๊บ”
(ดูท่าไม่ค่อยจะเครียดเลยแฮะ… พวกนั้นต้องการจริงๆหรือ?)
พอเห็นว่านกพวกนี้ทำสีหน้าไม่ค่อยกังวล ความคิดนั้นบางทีไม่จำเป็นก็ได้ นกสองตัวนั่นไม่ได้ดูเหมือนจะคิดอะไรที่จะหลับในกรงเล็กๆถึงแม้ว่าพวกมันจะเล็กแค่ไหนก็ตาม
“อะไรกันเนี่ย Shirley วันนี้เจ้าพาเด็กมาด้วยหรือ?”
“ใช่ ก็แค่วันนี้แหละ… ผู้หญิงคนนี้ชื่อคุณ Aurora แกเป็นเจ้าของร้านนะ สวัสดีแกสิ”
“ย-ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
“…สวัสดี”
ทำเอาเด็กถึงกับหวาดกลัวจากสายตาของหญิงชรา บรรยากาศที่อยู่รอบๆตัว Aurora แตกต่างจากคนธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด
“เหะๆๆ นี่เป็นเด็กสาวที่เขาลือกันหรือ? ไม่ต้องกลัว ข้าไม่กินพวกเจ้าหรอก ข้าใส่ส่วนผสมเอาไว้ในหม้อเรียบร้อยแล้วล่ะ”
“…เธอใช้หม้อสินะ”
ขณะที่ Tio พูดกับตัวเองนั้น Aurora ก็ได้ยินเธอพึมพำแล้วก็ขยับปากให้ยิ้มบาน
“ถูกแล้ว ตอนนี้ข้ากำลังแปลงเวทมนตร์คำสาปให้เป็นของเหลวแล้วข้าก็จะใส่ลงในแอปเปิ้ล ข้าจะต้มมันจนกว่าจะเดือดแล้วก็จะฉีดเข้าใส่มัน แล้วเมื่อเสร็จแล้วข้าก็จะเอาไปให้หญิงสาวพรหมจรรย์และทำให้เธอตกอยู่ในห้วงนิทราตลอดกาล”
“อ-เอ๋-----!?”
“ฉันว่าเธอไม่ควรเล่าเรื่องแปลกๆให้ลูกสาวฉันนะ ขอร้องล่ะ”
ที่จริงสิ่งที่แกกำลังทำในหม้อนั้นก็แค่โพชั่นธรรมดาเองแหละ แต่เมื่อแกบอกพวกนั้นไป Sophie ถึงกับตอบไปว่า “น-น่า รู้แล้วล่ะ มันก็แค่เรื่องตลกเอง” ด้วยสีหน้าที่โล่งอก Aurora ถึงกับหัวเราะ
“ใช่ ฟูกฟางและก็เอาที่มันจัดการได้สะดวกพอนะ แต่เนื่องจากเราไม่รู้ว่านกจะใหญ่แค่ไหนตอนที่มันโต จึงไม่แน่ใจว่าจะซื้อกรงขนาดไหนดี”
“นั่นเป็นปัญหาเลย… งั้น แล้วนี่ล่ะ?”
“เป็นกรงคำสาปที่สร้างมาเพื่อเศรษฐีเห่ยๆที่ไม่อยากให้หมาน้อยหรือแมวน้อยต้องการเป็นผู้ใหญ่นะ มันจะหยุดยั้งการเจริญเติบโตของสัตว์นะ ดังนั้นพวกเจ้าจึงไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดแล้วล่ะ?”
“จิ๊บ!?”
“เปล่า ข้าหมายถึง ก็แค่นิดหน่อยนะ…”
ขณะที่ Aurora พูดอะไรบางอย่างที่ดูชั่วร้ายนั้น Sophie ก็ผลักกรงนั้นให้ห่างออกไปช้าๆ
“จี๊บ!?”
“อืม ต่อไป”
คงจะต้องเป็นกรงนกสุดพิลึกอย่างอื่นอีกแหงๆเลย Tio ถึงกับผละมันออกไปด้วยท่าทางไร้เดียงสา
“เป็นกรงที่ดูดีพอแล้วล่ะ แล้วกรงที่ใหญ่ที่สุดที่มีอยู่ล่ะคืออะไรหรือ?”
“อย่างงั้นหรือ? นั่นสิน้า งั้นอันนี้ล่ะ”
“ถ้าเจ้าอยากจะได้กรงใหญ่ที่สุดที่ข้ามี ก็นี่แหละ”
“หือ? มันก็แค่ไม้เองไม่ใช่หรือคะ?”
ทำเอา Sophie นั่นถึงกับสงสัยออกมาเนื่องจากกองไม้กับลวดนั้นไม่ได้ทำให้เธอคิดว่าจะเป็นกรงนกได้เลย อย่างไรก็ตาม Aurora ก็พยักหน้ายืนกรานว่าเป็นกรงสัตว์แน่นอน
“เอ่อ มันไม่เหมือนเล้าไก่มากกว่ากรงนกหรือคะ…?”
“มันก็คล้ายพอๆกันเลยใช่มั้ย?”
“กะจะให้แตกต่างกันบ้างอยู่แล้วล่ะ”
“แล้วเราจะต้องประกอบมันขึ้นมาก่อนได้มั้ยล่ะ?”
นี่ถือว่าแตกต่างจากที่พวกเธอคาดเอาไว้อยู่บ้าง นี่คือพื้นฐานบางอย่างที่ใกล้เคียงกับกระท่อมมากกว่ากรง ถ้ามีของใหญ่ๆแบบนั้นมันก็ไม่น่าจะเอาไปวางในร้านโดยที่ไม่แยกชิ้นส่วนได้นะ บางทีมันก็เกินไปหน่อยมั้ย?
“มองดูใกล้ๆสิ ไม่เห็นรูที่เจาะในไม้หรือ? มันทำขึ้นมาเฉพาะที่แม้แต่มือสมัครเล่นก็ยังสามารถประกอบได้นะ… แต่มันก็ทำให้ข้าผิดหวังที่ต้องมาปล่อยทิ้งไว้อยู่ตรงนี้เนื่องจากไม่มีผู้ใดมาซื้อเลย”
“นึกภาพออกเลยล่ะ”
“ไม่รู้จะเอาไปวางไว้ตรงไหนดีล่ะ?”
“ที่จริง นี่มันไม่ได้กว้างกว่าห้องเราไปหน่อยหรือ?”
“รอสักแป๊บนะ ที่จริงเราก็ใช้อันนี้ซะ มันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาแล้วล่ะ”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น