ลำดับตอนที่ #30
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : ขณะเดียวกันในจักรวรรดิ
ปราสาทจักรพรรดิอยู่ในความวุ่นวาย อารมณ์ที่ขุ่นมัวของจักรพรรดินั้นน่ากลัวมาก
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันวะ!? ทำไมลูกสาวฉันถึงไม่มาเลยโว้ย!?”
เขาเหวี่ยงแขนอย่างแรงจนปัดใส่แจกันร่วงตกพื้น สาวใช้ถึงกับสะดุ้งโหยง
หนึ่งเดือนผ่านไปนับตั้งแต่ที่เขารู้ว่าลูกสาวสองคนที่เขามีนั้นอยู่กับผู้หญิงที่ชั่วช้าและเป็นอดีตคู่หมั้นของเขา
เพื่อที่จะเอามาเป็นรัชทายาทในเมืองหลวง เขาขอให้จอมเวทสี่คนมาร่ายเวทควบคุมจิตใจใส่ลูกสาวของเขา แต่สามคนแรกนั้นถูกคำสาปย้อนกลับจนร่างกายผ่าออกมาเป็นสอง
ถึงแม้ว่าคนที่สี่จะไม่ตาย คำสาปของเขาก็ถูกป้องกันโดยความหมายบางอย่างส่วน Albert ก็ถึงกับดิ้นรนหาจอมเวทที่สามารถทำงานนี้ได้
“บัดซบ… จอมเวทพวกนี้ไม่ได้เรื่องสิ้นดี… ทำไม่ได้แม้กระทั่งร่ายเวทใส่เด็กสิบขวบเนี่ยนะ…!”
Albert ถึงกับกระทืบในห้องทำงาน ทั้งดึงทั้งทึ้งผมแล้วก็นั่งกระแทกลงบนที่นั่ง นึกคำพูดของภรรยาสุดที่รักที่บอกพวกนั้นในวันที่เขาได้ขึ้นครองราชย์
“พระคุณของท่าน Albert จะเป็นที่รู้กันทั่วทั้งจักรวรรดิ… ไม่สิ ทั้งทวีปจะรู้จักท่านในฐานะผู้ยิ่งใหญ่คับฟ้า!”
แล้วทำไมถึงไม่เป็นอย่างที่เกิดขึ้นล่ะ? เขาเป็นผู้ปกครองประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีป คนที่สมควรจะได้เป็นจักรพรรดิที่มีชื่อเสียงดังก้องไปชั่วอายุคน
นี่เขาผิดหวังที่ครอบครัวนั้นอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรหรือ? เป็นเสียงที่โกรธเกรี้ยวที่ตวาดใส่ความล้มเหลวของจอมเวท? หรือว่าเขาน่าจะโทษตัวเองล่ะ? ไม่มีคำตอบใดๆออกมาเลย เขาถอนหายใจออกมาขณะที่ได้ยินเสียงเคาะประตู
“เข้ามา”
“ขออนุญาตด้วยขอรับ”
ตาลุงที่สวมเสื้อโคทยาวเปิดประตู เป็นมหาดเล็กที่ทำงานรับใช้ราชวงศ์มาเป็นเวลานานแล้ว
“ท่านองค์หญิง Philia ต้องการที่จะขอเข้าเฝ้าขอรับ ท่านจักรพรรดิ?”
Albert ถึงกับขมวดคิ้วออกมาเมื่อเขาได้ยินคำพูดของมหาดเล็ก
ถึงแม้ว่า Philia กับ Albert จะเป็นน้องสาวกับพี่ชายก็ตาม ความสัมพันธ์ก็เริ่มเลวร้ายลงทันทีเมื่อสิบเอ็ดปีก่อนตอนที่เธอเริ่มถามเขาและได้ดำเนินแผนการด้วยตัวเธอเอง
“…พาเธอเข้ามา”
“ขอรับ”
ถึงอย่างนั้น หากไม่รวมลูกสาวที่อยู่ในราชอาณาจักรด้วยแล้ว น้องสาวคนนี้ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่มีสายเลือดเกี่ยวข้องในตระกูลที่เขาได้ทิ้งไป เขาตัดสินใจที่จะตอบรับคำเชิญนั่น ถึงแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม
“ขอประทานโทษด้วยค่ะ”
อายุเยาว์วัยแต่มีเสียงสง่างามในห้องทำงาน Albert ได้แต่จ้องเธอตอนที่เธอเข้ามา ผมบลอนด์เปล่งประกายสะท้อนแสงจากหน้าต่าง ดวงตาสีน้ำเงินที่สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง
Philia Ragdoll องค์หญิงแห่งจักรวรรดิและเป็นน้องสาวของเขา ตัวของ Albert นั้นรังเกียจที่จะยอมรับมัน แต่เธอมีความนิยมจากผู้คนที่แกร่งกล้ามาก แน่นอนว่ามากยิ่งกว่าเขาหรือเหล่าผู้ติดตามของเขาอีก
“ไม่ได้พบกันมาสักพักหนึ่งแล้วสินะ ฝ่าบาท ไม่ใช่ว่าครึ่งปีก่อนที่ฉันมีสิทธิที่จะเห็นหน้าท่านที่น่านับถือเป็นครั้งสุดท้ายหรือ?”
“หืม ฉันได้ยินว่าเธอดำเนินการไปทั่วทั้งจักรวรรดิเลยนี่?”
Albert ถึงกับเบื่อหน่ายว่าเธอที่ดูท่าจะทำตัวเหมือนกับน้องสาวที่ไร้เดียงสาที่ดูมีความสุขที่เห็นพี่ชายเธอได้ยังไง แต่เขาก็เก็บคำพูดนี้ไป
ในอดีต เธอก็เป็นน้องสาวที่น่ารักตลอดอยู่แล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไป Albert ก็เติบโตขึ้นและก็ผิดหวังและขมขื่นมากขึ้นเกี่ยวกับความสามารถของเธอที่โตมาเป็นแบบนี้ได้ยังไง
…แน่นอนว่า Albert ไม่ได้รู้สึกตัวเลย แต่ความรู้สึกถึงความต่ำต้อยนั่นก็ช่วยให้ความสัมพันธ์นั้นห่างเหินกัน
“แล้ว เธอจะเอาอะไรกับฉันล่ะ?”
“ฉันขอบอกกับเรื่องที่เกิดขึ้นตรงๆเลยล่ะกัน พี่สาวฉันที่หนีออกจากจักรวรรดิเมื่อสิบเอ็ดปีก่อนนั้น… ได้ยินมาว่าตอนนี้ Shirley ไปเป็นนักผจญภัยในราชอาณาจักร อยู่กับลูกสาวทั้งสองคน”
Philia มองเขาอย่างเย็นชา ดวงตาสีน้ำเงินที่ดูเหมือนจะโทษจักรพรรดิ
“ยิ่งกว่านั้น เด็กสาวสองคนนั่นก็ยังมีความเกี่ยวข้องกับฝ่าบาททางสายเลือดนะ”
มาเพื่อบอกตัวตนของเขาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาแค่นั้นเองหรือ มันน่าจะหมายถึงองค์หญิงนั้นได้ทราบเรื่องที่จักรพรรดิได้ทำไปแล้วต่างหาก
“ท่านกำลังคิดอะไรอยู่ล่ะ ฝ่าบาท? ความสัมพันธ์กับราชอาณาจักรนั้นก็ตึงเครียดอยู่แล้ว… และท่านยังจะขโมยลูกของผู้หญิงที่ท่านได้หักหลังเธอไปอีก! ท่านเอาทุกอย่างจากเธอไปแล้วเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน คราวนี้ท่านอยากจะเอาลูกสาวมาอีกหรือไง!”
“ฉันหักหลังเธอ? ไม่เลย ตรงข้ามต่างหาก! เธอคอยหลอกฉัน และที่แย่กว่านั้น เธอยังกล้าทำร้าย Alice ด้วย!”
ความสัมพันธ์พวกเขาก็แย่พอที่จะเริ่มโต้เถียงกันจากแค่ไม่กี่ประโยคไปเป็นการสนทนาแล้วบรรยากาศในห้องนี้ก็ตึงเครียดไปเลย ถ้าจะบอกคนที่ไม่รู้เรื่องราวเต็มๆเมื่อสิบเอ็ดปีก่อนล่ะก็ Shirley นั้นอยู่ใกล้ชิดกับพี่ชายและน้องสาวมากที่สุด พวกนั้นก็คงจะไม่เชื่ออยู่ดีนั่นแหละ
“ท่านยังยืนกรานเรื่องโกหกแบบนี้อยู่หรือ…! ท่านเชื่อในข้อกล่าวหาที่ไร้ที่มาแบบนี้ได้ยังไง!? หรือว่าท่านตาบอดโดยนังแพศยานั่นไปแล้วล่ะ!?”
“เธอบังอาจพูดถึงสะใภ้ตัวเองเลยหรือ!? เธอจะบอกว่าน้ำตาของเธอนั้นเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพหรือไง!?”
“แน่นอนอยู่แล้วสิ! ทำไมถึงพูดเรื่องน้ำตานั่นล่ะ? แล้วท่านจะพิสูจน์ยังไงล่ะ? ยิ่งกว่านั้น สำหรับผู้หญิงที่อาศัยตำแหน่งของจักรพรรดินีแต่เอาแต่เมามัวในตัวเองจนทำให้ชาวบ้านอดอยากนั่น ฉันน่าจะเรียกเธอว่าอะไรดี”
ความจริงแล้ว นี่เป็นเหตุผลใหญ่ที่สุดที่ Albert เกลียดชัง Philia น้องสาวของเขากล้าพูดเหมือนกับจะไปวิจารณ์มาได้อย่างไร? คนที่คอยช่วยปลอบโยนความเบื่อหน่ายและพาเขาหนีให้ห่างจากความตึงเครียดของอำนาจได้ ถ้ามีเวลาไปใช้อยู่ด้วยกัน?
ที่จริงแล้ว ตอนที่ Philia พยายามที่จะพาตัว Alice ที่น่าจะหลุดจากตำแหน่งได้ทุกเมื่อมาคุยกันแล้ว ช่องว่างระหว่างพวกเขาก็กว้างขึ้นและก็กว้างขึ้นยิ่งกว่าเดิม
ที่แย่ไปกว่านั้น เธอยังทิ่มผู้หญิงชั่วร้ายที่พยายามจะคอยหลอกและโกงเขามาตลอดด้วย
“…ที่จริง ในตอนนี้ ผู้หญิงนั่นก็ไม่ได้มีอะไรนักหรอก สิ่งที่มีก็คือตัวของจักรพรรดินั่นแหละ ท่านต้องวางคนของท่านอยู่เหนือเวทที่บ้าบอนั่น ถึงแม้ว่าสองคนนั้นจะเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับฝ่าบาทก็ตาม เนื่องจาก Shirley ถูกเนรเทศในฐานะอาชญากร ลูกของเธอจึงเป็นเพียงแค่สามัญชนธรรมดาที่ไม่ควรทำโดยใช้พลังวางกับดักเด็ดขาด ยิ่งกว่านั้น ถ้าหากได้ยินไปถึงราชา Edward ล่ะก็ จักรวรรดิอาจจะถูกตราหน้าว่าเป็นการลักพาตัวได้นะ”
ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจกัน ในกรณีที่แย่ที่สุด ความสัมพันธ์ทางการค้าน่าจะถูกตัดขาดจากเทพศักดิ์สิทธิ์และดยุคด้วย ทำให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจักรวรรดิสั่นคลอนได้
“ทำไมเรื่องแย่ๆถึงได้เพร่งพรายง่ายๆ ก็เพราะพ่อหวังที่จะต้อนรับลูกสาวหรือ? นอกจากนี้ เราก็แค่เมินพวกปากหมาของพวกประเทศเล็กๆในตอนแรกซะก็สิ้นเรื่องได้นี่”
“ขนาดของประเทศไม่ใช่เรื่องอะไรทั้งนั้น!”
คำพูดไร้สาระของ Albert ทำเอาเธอปวดหัวไปเลย Philia หมดหนทางที่จะให้เหตุผลกับเขาแล้ว
“ราชอาณาจักรเป็นประเทศที่ดูท่าจะมีสำนักงานใหญ่ของกิลด์นักผจญภัยที่มีอำนาจล้นเหลือและก็ยังปกครองโดยราชาสิงโตดำ ปกครองอย่างฉลาดหลักแหลมเหมือนกับไม่ได้มองเห็นบนทวีปนับศตวรรษ เป็นประเทศที่เข้มแข็งและมีทหารที่ฝึกมาอย่างดี มากพอๆกับดยุคกับเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่คิดที่จะประกาศสงครามกับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่อีกด้านหนึ่งนั้น จักรวรรดิของเราได้งบมาจากภาษีของผู้คน แต่ความเขลาของผู้หญิงที่ทำให้คลังของเราร่อยหรอลงจนย่ำแย่ เปรียบเทียบกับสองประเทศแล้วจะให้ความสัมพันธ์ของเรายังเลวร้ายต่อไปอีกหรือ? ท่านจะกระตุกหางสิงโตต่อไป โดยที่ได้แต่คิดจะเอาประชาชนมาต่อตัวเองอยู่หรือ?”
“ก-กล้าดียังไงถึงได้ดูหมิ่นจักรวรรดิของเราถึงคนในราชวงศ์ตัวเองกัน!?”
“ฉันควรจะบอกฝ่าบาทถึงความจริงเพราะเขาปฏิเสธที่จะเห็นความเป็นจริงแล้วล่ะ!”
แต่คำพูดเหล่านั้นไม่ได้ถึงตัวจักรพรรดิเลย ที่จริงแล้ว น้ำเสียงที่โกรธดุดันของ Philia ทำให้แย่ลงกว่าเดิม เธอพยายามนึกภาพของผู้หญิงที่เธอยอมรับได้ในเบื้องลึก ไม่ว่าเธออยากจะตะโกนร้องมากแค่ไหน เธอก็ต้องสุขุมและเยือกเย็น อย่างที่เธอทำนั่นแหละ
“ยังไงก็ตาม ฝ่าบาทจะต้องหยุดใช้เวทมนตร์ไปรบกวนพลเมืองของราชอาณาจักร และก็คอยควบคุมการใช้จ่ายด้วย ถ้าท่านจะดูแลเพื่อคนที่ต้องทุกข์ยากแล้ว ท่านต้องหันมามองตาบ้าง”
“สอง… สองคนที่ต้องมาเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์อยู่ในราชอาณาจักรนะ ถึง Alice จะถูกกล่าวหาอย่างไม่ยุติธรรมเพื่อบางอย่างที่เธอทำอะไรไม่ได้ก็ตาม ฉันก็ยังไม่ยอมแพ้หรอก ยิ่งกว่านั้นเธอกล่าวหาหล่อนเกินไปแล้ว แต่มันจำเป็นที่จักรพรรดินีจะต้องสวมชุดหรูหราและงดงามเพื่อต้อนรับผู้มาเยื่อนและคณะทูตนะ”
“ท่านพี่!!”
“อย่าได้พูดอีก!”
เธอพยายามจะส่งไปถึงเขา เรียกเขาเท่าที่จะเรียกได้ แต่ Albert ถึงกับปัดมือเธอออกไป
“ฉัน… ฉันเป็นจักรพรรดินะ! คนที่จะได้เป็นตำนานแห่งทวีปนี้! การตัดสินของฉันไม่มีวันผิดพลาดหรอก!?”
เขาดูเหมือนเด็กที่งอแงเลย Albert จ้อง Philia ด้วยตาเขม็งที่นิ่งเงียบไป แล้วก็ชี้นิ้วที่สั่นไปที่ประตูของห้องทำงาน
“ออกไปซะ! ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธออีก!”
“…งั้นก็ ขอประทานโทษล่ะกัน”
แล้วเธอจึงตัดสินใจที่จะไม่เติมน้ำมันลงไฟที่ลุกโชน Philia ได้ทำความเคารพนอบน้อมให้สุภาพที่สุดเท่าที่ทำได้แล้วก็จากไป
“….เฮ้ออออออ”
“องค์หญิง ไม่เป็นไรนะคะ?”
อัศวินผมแดง Lumiliana วิ่งเข้าไปหาองค์หญิงของเธอตอนที่เธอออกมาจากห้องทำงาน ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา
“ไม่เป็นไร อย่าห่วงตัวเองเลย”
“มากพอๆกับที่ฉันเชื่อใจเธอนั่นแหละ เธอดูไม่ค่อยสบายเอาเลย ปราสาทนี้ไม่เหมาะที่จะเข้าไปพักเลย เราน่าจะออกไปพักที่โรงแรมโดยรถม้าดีกว่า ฉันจะจัดการหาห้องดีๆตรงนั้นให้เอง”
เธอเดินตามหลังองค์หญิงที่รักษาเกียรติและความสง่า คอยระวังในปราสาทที่เต็มไปด้วยศัตรูของเธอ Lumiliana ก้าวขึ้นไปยังรถม้าหลังจากที่ตรวจสอบกับดักใดๆของจอมเวท แล้วก็เชิญองค์หญิงที่ตามหลังเธอมา ทันทีที่ Philia ก้าวไปข้างใน เธอก็ปล่อยตัวลงไปบนที่นั่ง สุดท้ายก็ไม่อาจเก็บเรื่องบ้าๆได้อีกแล้ว
“อ๊าา โธ่เว้ย…! ทำไมฝ่าบาทถึงเป็นแบบนี้ตลอดเลย? เขาไม่รู้สึกตัวหรือไงว่าถูก Alice หลอกใช้น่ะ!?”
“…มันก็แย่จริงๆนั่นแหละ ถ้าฉันจะพูดตรงๆเลยนะ สิ่งที่ฉันได้ยินผ่านประตูนั้นมันน่าสมเพชเลยล่ะค่ะ”
สองคนนั้นได้แต่เบื่อหน่ายกับการกระทำอันน่าอัปยศของจักรพรรดิ โดยเฉพาะการที่เขาดูถูกพลเมืองในจักรวรรดิ
“นั่นแหละที่ทำไม ฉันถึงได้บอกว่าผู้หญิงคนนั้นไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นจักรพรรดินี อ๊ะ ถ้าหากพี่สาวของฉันได้มาเป็นจักรพรรดินีแทน มันจะสุดยอดยังไงกันน้า…”
“คุณหญิง Shirley Earlgrey… คู่หมั้นของมกุฏราชกุมารที่ถูกใส่ร้ายเมื่อสิบเอ็ดปีก่อนและตอนนี้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรหรือคะ?”
“…ใช่”
Philia ที่อายุหกขวบในตอนนั้น แต่เธอยังคงนึกภาพการพบกันอันแสนหวานของคนที่เธอยอมรับในเมื่อก่อน
เมื่อ Shirley ถูกแนะนำในฐานะพี่สะใภ้ในอนาคต เธอก็ติดใจในความงาม ความเฉลียวฉลาดและตัวตนความแข็งแกร่งของเธอ เจ้าหญิงที่ไม่มีสายเลือดของพี่สาวมาเกี่ยวข้องมีความสนใจในตัวเธอมาก พยายามที่จะเอาอย่างเธอทุกอย่างที่เธอทำได้
ถึงแม้ว่าจะมีความสัมพันธ์มาได้เพียงแค่หนึ่งปี Shirley กับ Philia ต่างก็มีความสัมพันธ์อันอบอุ่นราวกับว่าพวกเธอจะเป็นพี่น้องกันจริงๆ
เธอได้รับการเอ็นดูโดยจักรพรรดิและจักรพรรดินีคนก่อน และตอนที่ Philia นึกถึง Shirley ที่จะได้มาเป็นพี่สะใภ้แท้ๆนั้น เธอก็มีความสุขจากก้นบึงหัวใจเลยล่ะ
“เพราะผมขาวและดวงตาที่แปลกๆของเธอ เธอจึงถูกขับไล่จากตระกูลดยุคของ Earlgrey ถึงจะเป็นแบบนั้น เธอก็ยังคงใจดี เธอให้ฉันนั่งบนตักเธอและเราก็อ่านนิทานด้วยกัน”
“ฉันไม่เคยพบเธอเลย แต่ก็พอที่จะบอกได้เพียงแค่ฟังจากเรื่องราวมา เธอเป็นบุคคลอันเป็นที่รักเลยไม่ใช่หรือคะ?”
“ใช่… นั่นทำไม ถึงได้…”
ในเดือนกุมภาพันธ์อันหนาวเหน็บเมื่อเธอได้รู้ถึงการกล่าวหาเท็จที่ได้เกิดขึ้นขณะที่เธอกับพ่อแม่เธออยู่ที่อื่น
พวกเขาถึงกับรีบกลับมาทันทีที่ได้ยินข่าวนี้ แต่ในตอนนั้น Shirley ก็ได้หนีไปแล้วหลังจากที่ถูกทรมานมาเป็นเดือน ถึงแม้ว่าเธอจะอายุน้อยในตอนนั้น Philia ก็เข้าใจความจริงที่เธอเห็นเลย ปีศาจหญิงที่ยิ้มอย่างชั่วร้ายยืนเคียงข้างกับพี่ชาย
เธออายุเจ็ดขวบในตอนนั้น ถึงแม้ว่าเธอจะถามว่า Shirley อยู่ที่ไหนทุกๆวัน บาดแผลในใจของเธอก็กัดลึกทุกครั้งที่ถูกบ่ายเบี่ยงไป ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ Albert ก็ค่อยๆห่างเหินมากขึ้น
“ดังนั้น เมื่อฉันได้ยินว่าพี่สาวของฉันยังมีชีวิตอยู่ในราชอาณาจักร ฉันก็มีความสุขแล้ว ฉันนึกว่าเธออาจจะตายไปแล้ว ฉันก็เลยเซอร์ไพรที่ได้ยินว่าเธอไปเป็นนักผจญภัยนะ”
“…แล้วไม่อยากจะพบเธอหรือ? ถ้านั่นคือความประสงค์ขององค์หญิงล่ะก็ ฉันจะคอยคุ้มกันให้…”
“ไม่ได้หรอก”
เธอตอบไปแบบเงียบๆโดยทันที
“ราชวงศ์ได้ทำอะไรที่มิอาจให้อภัยกับเธอได้อีกต่อไปแล้ว เธอคงไม่อยากที่จะเห็นหน้าฉันอีกนะ”
“นั่นมัน… องค์หญิงคะ เธอไม่ต้องแบกรับความผิดจากสิ่งที่เธอไม่ได้ทำหรอกนะ”
“ถึงแม้ว่าฉันจะอายุน้อยในตอนนั้น ฉันก็หนีความจริงที่ทำอะไรเพื่อเธอไม่ได้เลย แล้วก็เลยไม่มีแม้แต่จะพูดคุยกับพี่ชายในตัวแทนของเธออีก”
เธอเป็นคนในราชวงศ์ เธออาจจะสั่งการด้วยตัวเองไม่ได้ แต่เป็นคนที่อยู่ในระดับสูงสุดของสังคม เธอน่าจะมีอย่างน้อยที่ทำอะไรสักอย่างเพื่อ Shirley บ้าง
ไม่ว่า Lumiliana จะพูดยังไง Philia ที่เป็นคนในราชวงศ์จะได้ไปอยู่ข้างเธอแม้แต่คิดว่า Shirley อยากจะเห็นหน้าเธออีกครั้งยังไง?
“ฉันก็ไม่อาจจะพบเธอและก็น่าจะภาวนาเพื่อความสุขโดยห่างๆนะ แต่…”
“แต่…?”
เพราะ Albert ได้เล็งไปยังลูกสาวทั้งสองของเธอ เธอจึงทำอะไรไม่ได้เลย
ใช้ความฉลาดของเธอหาแหล่งที่มา เธอได้รู้ว่า Albert นั่นจ้างจอมเวทหลายคนมาใช้เวทมนตร์เพื่อลักพาตัวเด็ก แต่ล้มเหลวทั้งหมด
แล้วพี่ชายของเธอจะทำอะไรต่ออีกล่ะ? เป็นน้องสาวมาตั้งนาน Philia ก็นึกไอเดียออก
“Lumiliana… นี่ไม่ใช่คำสั่งทางการ แต่มีบางอย่างที่ฉันอยากจะขอเธอหน่อย”
คนที่เธอรักเหมือนพี่สาวที่เธอถูกแย่งไปจากเธอโดยพี่ชายอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเธอจะมั่นใจว่าคนที่ถามนั้นอยากจะไม่ทำอะไรกับเธอ ในฐานะองค์หญิงที่เธอจะทำ
การเตรียมดำเนินการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่องค์หญิงในทวีปอัญเชิญมาได้ตั้งปณิธานใหม่และมองลึกไปยังดวงตาของเพื่อนสนิทและเป็นผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์ที่สุด
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันวะ!? ทำไมลูกสาวฉันถึงไม่มาเลยโว้ย!?”
เขาเหวี่ยงแขนอย่างแรงจนปัดใส่แจกันร่วงตกพื้น สาวใช้ถึงกับสะดุ้งโหยง
หนึ่งเดือนผ่านไปนับตั้งแต่ที่เขารู้ว่าลูกสาวสองคนที่เขามีนั้นอยู่กับผู้หญิงที่ชั่วช้าและเป็นอดีตคู่หมั้นของเขา
เพื่อที่จะเอามาเป็นรัชทายาทในเมืองหลวง เขาขอให้จอมเวทสี่คนมาร่ายเวทควบคุมจิตใจใส่ลูกสาวของเขา แต่สามคนแรกนั้นถูกคำสาปย้อนกลับจนร่างกายผ่าออกมาเป็นสอง
ถึงแม้ว่าคนที่สี่จะไม่ตาย คำสาปของเขาก็ถูกป้องกันโดยความหมายบางอย่างส่วน Albert ก็ถึงกับดิ้นรนหาจอมเวทที่สามารถทำงานนี้ได้
“บัดซบ… จอมเวทพวกนี้ไม่ได้เรื่องสิ้นดี… ทำไม่ได้แม้กระทั่งร่ายเวทใส่เด็กสิบขวบเนี่ยนะ…!”
Albert ถึงกับกระทืบในห้องทำงาน ทั้งดึงทั้งทึ้งผมแล้วก็นั่งกระแทกลงบนที่นั่ง นึกคำพูดของภรรยาสุดที่รักที่บอกพวกนั้นในวันที่เขาได้ขึ้นครองราชย์
“พระคุณของท่าน Albert จะเป็นที่รู้กันทั่วทั้งจักรวรรดิ… ไม่สิ ทั้งทวีปจะรู้จักท่านในฐานะผู้ยิ่งใหญ่คับฟ้า!”
แล้วทำไมถึงไม่เป็นอย่างที่เกิดขึ้นล่ะ? เขาเป็นผู้ปกครองประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีป คนที่สมควรจะได้เป็นจักรพรรดิที่มีชื่อเสียงดังก้องไปชั่วอายุคน
นี่เขาผิดหวังที่ครอบครัวนั้นอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรหรือ? เป็นเสียงที่โกรธเกรี้ยวที่ตวาดใส่ความล้มเหลวของจอมเวท? หรือว่าเขาน่าจะโทษตัวเองล่ะ? ไม่มีคำตอบใดๆออกมาเลย เขาถอนหายใจออกมาขณะที่ได้ยินเสียงเคาะประตู
“เข้ามา”
“ขออนุญาตด้วยขอรับ”
ตาลุงที่สวมเสื้อโคทยาวเปิดประตู เป็นมหาดเล็กที่ทำงานรับใช้ราชวงศ์มาเป็นเวลานานแล้ว
“ท่านองค์หญิง Philia ต้องการที่จะขอเข้าเฝ้าขอรับ ท่านจักรพรรดิ?”
Albert ถึงกับขมวดคิ้วออกมาเมื่อเขาได้ยินคำพูดของมหาดเล็ก
ถึงแม้ว่า Philia กับ Albert จะเป็นน้องสาวกับพี่ชายก็ตาม ความสัมพันธ์ก็เริ่มเลวร้ายลงทันทีเมื่อสิบเอ็ดปีก่อนตอนที่เธอเริ่มถามเขาและได้ดำเนินแผนการด้วยตัวเธอเอง
“…พาเธอเข้ามา”
“ขอรับ”
ถึงอย่างนั้น หากไม่รวมลูกสาวที่อยู่ในราชอาณาจักรด้วยแล้ว น้องสาวคนนี้ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่มีสายเลือดเกี่ยวข้องในตระกูลที่เขาได้ทิ้งไป เขาตัดสินใจที่จะตอบรับคำเชิญนั่น ถึงแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม
“ขอประทานโทษด้วยค่ะ”
อายุเยาว์วัยแต่มีเสียงสง่างามในห้องทำงาน Albert ได้แต่จ้องเธอตอนที่เธอเข้ามา ผมบลอนด์เปล่งประกายสะท้อนแสงจากหน้าต่าง ดวงตาสีน้ำเงินที่สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง
Philia Ragdoll องค์หญิงแห่งจักรวรรดิและเป็นน้องสาวของเขา ตัวของ Albert นั้นรังเกียจที่จะยอมรับมัน แต่เธอมีความนิยมจากผู้คนที่แกร่งกล้ามาก แน่นอนว่ามากยิ่งกว่าเขาหรือเหล่าผู้ติดตามของเขาอีก
“ไม่ได้พบกันมาสักพักหนึ่งแล้วสินะ ฝ่าบาท ไม่ใช่ว่าครึ่งปีก่อนที่ฉันมีสิทธิที่จะเห็นหน้าท่านที่น่านับถือเป็นครั้งสุดท้ายหรือ?”
“หืม ฉันได้ยินว่าเธอดำเนินการไปทั่วทั้งจักรวรรดิเลยนี่?”
Albert ถึงกับเบื่อหน่ายว่าเธอที่ดูท่าจะทำตัวเหมือนกับน้องสาวที่ไร้เดียงสาที่ดูมีความสุขที่เห็นพี่ชายเธอได้ยังไง แต่เขาก็เก็บคำพูดนี้ไป
ในอดีต เธอก็เป็นน้องสาวที่น่ารักตลอดอยู่แล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไป Albert ก็เติบโตขึ้นและก็ผิดหวังและขมขื่นมากขึ้นเกี่ยวกับความสามารถของเธอที่โตมาเป็นแบบนี้ได้ยังไง
…แน่นอนว่า Albert ไม่ได้รู้สึกตัวเลย แต่ความรู้สึกถึงความต่ำต้อยนั่นก็ช่วยให้ความสัมพันธ์นั้นห่างเหินกัน
“แล้ว เธอจะเอาอะไรกับฉันล่ะ?”
“ฉันขอบอกกับเรื่องที่เกิดขึ้นตรงๆเลยล่ะกัน พี่สาวฉันที่หนีออกจากจักรวรรดิเมื่อสิบเอ็ดปีก่อนนั้น… ได้ยินมาว่าตอนนี้ Shirley ไปเป็นนักผจญภัยในราชอาณาจักร อยู่กับลูกสาวทั้งสองคน”
Philia มองเขาอย่างเย็นชา ดวงตาสีน้ำเงินที่ดูเหมือนจะโทษจักรพรรดิ
“ยิ่งกว่านั้น เด็กสาวสองคนนั่นก็ยังมีความเกี่ยวข้องกับฝ่าบาททางสายเลือดนะ”
มาเพื่อบอกตัวตนของเขาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาแค่นั้นเองหรือ มันน่าจะหมายถึงองค์หญิงนั้นได้ทราบเรื่องที่จักรพรรดิได้ทำไปแล้วต่างหาก
“ท่านกำลังคิดอะไรอยู่ล่ะ ฝ่าบาท? ความสัมพันธ์กับราชอาณาจักรนั้นก็ตึงเครียดอยู่แล้ว… และท่านยังจะขโมยลูกของผู้หญิงที่ท่านได้หักหลังเธอไปอีก! ท่านเอาทุกอย่างจากเธอไปแล้วเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน คราวนี้ท่านอยากจะเอาลูกสาวมาอีกหรือไง!”
“ฉันหักหลังเธอ? ไม่เลย ตรงข้ามต่างหาก! เธอคอยหลอกฉัน และที่แย่กว่านั้น เธอยังกล้าทำร้าย Alice ด้วย!”
ความสัมพันธ์พวกเขาก็แย่พอที่จะเริ่มโต้เถียงกันจากแค่ไม่กี่ประโยคไปเป็นการสนทนาแล้วบรรยากาศในห้องนี้ก็ตึงเครียดไปเลย ถ้าจะบอกคนที่ไม่รู้เรื่องราวเต็มๆเมื่อสิบเอ็ดปีก่อนล่ะก็ Shirley นั้นอยู่ใกล้ชิดกับพี่ชายและน้องสาวมากที่สุด พวกนั้นก็คงจะไม่เชื่ออยู่ดีนั่นแหละ
“ท่านยังยืนกรานเรื่องโกหกแบบนี้อยู่หรือ…! ท่านเชื่อในข้อกล่าวหาที่ไร้ที่มาแบบนี้ได้ยังไง!? หรือว่าท่านตาบอดโดยนังแพศยานั่นไปแล้วล่ะ!?”
“เธอบังอาจพูดถึงสะใภ้ตัวเองเลยหรือ!? เธอจะบอกว่าน้ำตาของเธอนั้นเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพหรือไง!?”
“แน่นอนอยู่แล้วสิ! ทำไมถึงพูดเรื่องน้ำตานั่นล่ะ? แล้วท่านจะพิสูจน์ยังไงล่ะ? ยิ่งกว่านั้น สำหรับผู้หญิงที่อาศัยตำแหน่งของจักรพรรดินีแต่เอาแต่เมามัวในตัวเองจนทำให้ชาวบ้านอดอยากนั่น ฉันน่าจะเรียกเธอว่าอะไรดี”
ความจริงแล้ว นี่เป็นเหตุผลใหญ่ที่สุดที่ Albert เกลียดชัง Philia น้องสาวของเขากล้าพูดเหมือนกับจะไปวิจารณ์มาได้อย่างไร? คนที่คอยช่วยปลอบโยนความเบื่อหน่ายและพาเขาหนีให้ห่างจากความตึงเครียดของอำนาจได้ ถ้ามีเวลาไปใช้อยู่ด้วยกัน?
ที่จริงแล้ว ตอนที่ Philia พยายามที่จะพาตัว Alice ที่น่าจะหลุดจากตำแหน่งได้ทุกเมื่อมาคุยกันแล้ว ช่องว่างระหว่างพวกเขาก็กว้างขึ้นและก็กว้างขึ้นยิ่งกว่าเดิม
ที่แย่ไปกว่านั้น เธอยังทิ่มผู้หญิงชั่วร้ายที่พยายามจะคอยหลอกและโกงเขามาตลอดด้วย
“…ที่จริง ในตอนนี้ ผู้หญิงนั่นก็ไม่ได้มีอะไรนักหรอก สิ่งที่มีก็คือตัวของจักรพรรดินั่นแหละ ท่านต้องวางคนของท่านอยู่เหนือเวทที่บ้าบอนั่น ถึงแม้ว่าสองคนนั้นจะเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับฝ่าบาทก็ตาม เนื่องจาก Shirley ถูกเนรเทศในฐานะอาชญากร ลูกของเธอจึงเป็นเพียงแค่สามัญชนธรรมดาที่ไม่ควรทำโดยใช้พลังวางกับดักเด็ดขาด ยิ่งกว่านั้น ถ้าหากได้ยินไปถึงราชา Edward ล่ะก็ จักรวรรดิอาจจะถูกตราหน้าว่าเป็นการลักพาตัวได้นะ”
ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจกัน ในกรณีที่แย่ที่สุด ความสัมพันธ์ทางการค้าน่าจะถูกตัดขาดจากเทพศักดิ์สิทธิ์และดยุคด้วย ทำให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจักรวรรดิสั่นคลอนได้
“ทำไมเรื่องแย่ๆถึงได้เพร่งพรายง่ายๆ ก็เพราะพ่อหวังที่จะต้อนรับลูกสาวหรือ? นอกจากนี้ เราก็แค่เมินพวกปากหมาของพวกประเทศเล็กๆในตอนแรกซะก็สิ้นเรื่องได้นี่”
“ขนาดของประเทศไม่ใช่เรื่องอะไรทั้งนั้น!”
คำพูดไร้สาระของ Albert ทำเอาเธอปวดหัวไปเลย Philia หมดหนทางที่จะให้เหตุผลกับเขาแล้ว
“ราชอาณาจักรเป็นประเทศที่ดูท่าจะมีสำนักงานใหญ่ของกิลด์นักผจญภัยที่มีอำนาจล้นเหลือและก็ยังปกครองโดยราชาสิงโตดำ ปกครองอย่างฉลาดหลักแหลมเหมือนกับไม่ได้มองเห็นบนทวีปนับศตวรรษ เป็นประเทศที่เข้มแข็งและมีทหารที่ฝึกมาอย่างดี มากพอๆกับดยุคกับเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่คิดที่จะประกาศสงครามกับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่อีกด้านหนึ่งนั้น จักรวรรดิของเราได้งบมาจากภาษีของผู้คน แต่ความเขลาของผู้หญิงที่ทำให้คลังของเราร่อยหรอลงจนย่ำแย่ เปรียบเทียบกับสองประเทศแล้วจะให้ความสัมพันธ์ของเรายังเลวร้ายต่อไปอีกหรือ? ท่านจะกระตุกหางสิงโตต่อไป โดยที่ได้แต่คิดจะเอาประชาชนมาต่อตัวเองอยู่หรือ?”
“ก-กล้าดียังไงถึงได้ดูหมิ่นจักรวรรดิของเราถึงคนในราชวงศ์ตัวเองกัน!?”
“ฉันควรจะบอกฝ่าบาทถึงความจริงเพราะเขาปฏิเสธที่จะเห็นความเป็นจริงแล้วล่ะ!”
แต่คำพูดเหล่านั้นไม่ได้ถึงตัวจักรพรรดิเลย ที่จริงแล้ว น้ำเสียงที่โกรธดุดันของ Philia ทำให้แย่ลงกว่าเดิม เธอพยายามนึกภาพของผู้หญิงที่เธอยอมรับได้ในเบื้องลึก ไม่ว่าเธออยากจะตะโกนร้องมากแค่ไหน เธอก็ต้องสุขุมและเยือกเย็น อย่างที่เธอทำนั่นแหละ
“ยังไงก็ตาม ฝ่าบาทจะต้องหยุดใช้เวทมนตร์ไปรบกวนพลเมืองของราชอาณาจักร และก็คอยควบคุมการใช้จ่ายด้วย ถ้าท่านจะดูแลเพื่อคนที่ต้องทุกข์ยากแล้ว ท่านต้องหันมามองตาบ้าง”
“สอง… สองคนที่ต้องมาเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์อยู่ในราชอาณาจักรนะ ถึง Alice จะถูกกล่าวหาอย่างไม่ยุติธรรมเพื่อบางอย่างที่เธอทำอะไรไม่ได้ก็ตาม ฉันก็ยังไม่ยอมแพ้หรอก ยิ่งกว่านั้นเธอกล่าวหาหล่อนเกินไปแล้ว แต่มันจำเป็นที่จักรพรรดินีจะต้องสวมชุดหรูหราและงดงามเพื่อต้อนรับผู้มาเยื่อนและคณะทูตนะ”
“ท่านพี่!!”
“อย่าได้พูดอีก!”
เธอพยายามจะส่งไปถึงเขา เรียกเขาเท่าที่จะเรียกได้ แต่ Albert ถึงกับปัดมือเธอออกไป
“ฉัน… ฉันเป็นจักรพรรดินะ! คนที่จะได้เป็นตำนานแห่งทวีปนี้! การตัดสินของฉันไม่มีวันผิดพลาดหรอก!?”
เขาดูเหมือนเด็กที่งอแงเลย Albert จ้อง Philia ด้วยตาเขม็งที่นิ่งเงียบไป แล้วก็ชี้นิ้วที่สั่นไปที่ประตูของห้องทำงาน
“ออกไปซะ! ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธออีก!”
“…งั้นก็ ขอประทานโทษล่ะกัน”
แล้วเธอจึงตัดสินใจที่จะไม่เติมน้ำมันลงไฟที่ลุกโชน Philia ได้ทำความเคารพนอบน้อมให้สุภาพที่สุดเท่าที่ทำได้แล้วก็จากไป
“….เฮ้ออออออ”
“องค์หญิง ไม่เป็นไรนะคะ?”
อัศวินผมแดง Lumiliana วิ่งเข้าไปหาองค์หญิงของเธอตอนที่เธอออกมาจากห้องทำงาน ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา
“ไม่เป็นไร อย่าห่วงตัวเองเลย”
“มากพอๆกับที่ฉันเชื่อใจเธอนั่นแหละ เธอดูไม่ค่อยสบายเอาเลย ปราสาทนี้ไม่เหมาะที่จะเข้าไปพักเลย เราน่าจะออกไปพักที่โรงแรมโดยรถม้าดีกว่า ฉันจะจัดการหาห้องดีๆตรงนั้นให้เอง”
เธอเดินตามหลังองค์หญิงที่รักษาเกียรติและความสง่า คอยระวังในปราสาทที่เต็มไปด้วยศัตรูของเธอ Lumiliana ก้าวขึ้นไปยังรถม้าหลังจากที่ตรวจสอบกับดักใดๆของจอมเวท แล้วก็เชิญองค์หญิงที่ตามหลังเธอมา ทันทีที่ Philia ก้าวไปข้างใน เธอก็ปล่อยตัวลงไปบนที่นั่ง สุดท้ายก็ไม่อาจเก็บเรื่องบ้าๆได้อีกแล้ว
“อ๊าา โธ่เว้ย…! ทำไมฝ่าบาทถึงเป็นแบบนี้ตลอดเลย? เขาไม่รู้สึกตัวหรือไงว่าถูก Alice หลอกใช้น่ะ!?”
“…มันก็แย่จริงๆนั่นแหละ ถ้าฉันจะพูดตรงๆเลยนะ สิ่งที่ฉันได้ยินผ่านประตูนั้นมันน่าสมเพชเลยล่ะค่ะ”
สองคนนั้นได้แต่เบื่อหน่ายกับการกระทำอันน่าอัปยศของจักรพรรดิ โดยเฉพาะการที่เขาดูถูกพลเมืองในจักรวรรดิ
“นั่นแหละที่ทำไม ฉันถึงได้บอกว่าผู้หญิงคนนั้นไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นจักรพรรดินี อ๊ะ ถ้าหากพี่สาวของฉันได้มาเป็นจักรพรรดินีแทน มันจะสุดยอดยังไงกันน้า…”
“คุณหญิง Shirley Earlgrey… คู่หมั้นของมกุฏราชกุมารที่ถูกใส่ร้ายเมื่อสิบเอ็ดปีก่อนและตอนนี้อาศัยอยู่ในราชอาณาจักรหรือคะ?”
“…ใช่”
Philia ที่อายุหกขวบในตอนนั้น แต่เธอยังคงนึกภาพการพบกันอันแสนหวานของคนที่เธอยอมรับในเมื่อก่อน
เมื่อ Shirley ถูกแนะนำในฐานะพี่สะใภ้ในอนาคต เธอก็ติดใจในความงาม ความเฉลียวฉลาดและตัวตนความแข็งแกร่งของเธอ เจ้าหญิงที่ไม่มีสายเลือดของพี่สาวมาเกี่ยวข้องมีความสนใจในตัวเธอมาก พยายามที่จะเอาอย่างเธอทุกอย่างที่เธอทำได้
ถึงแม้ว่าจะมีความสัมพันธ์มาได้เพียงแค่หนึ่งปี Shirley กับ Philia ต่างก็มีความสัมพันธ์อันอบอุ่นราวกับว่าพวกเธอจะเป็นพี่น้องกันจริงๆ
เธอได้รับการเอ็นดูโดยจักรพรรดิและจักรพรรดินีคนก่อน และตอนที่ Philia นึกถึง Shirley ที่จะได้มาเป็นพี่สะใภ้แท้ๆนั้น เธอก็มีความสุขจากก้นบึงหัวใจเลยล่ะ
“เพราะผมขาวและดวงตาที่แปลกๆของเธอ เธอจึงถูกขับไล่จากตระกูลดยุคของ Earlgrey ถึงจะเป็นแบบนั้น เธอก็ยังคงใจดี เธอให้ฉันนั่งบนตักเธอและเราก็อ่านนิทานด้วยกัน”
“ฉันไม่เคยพบเธอเลย แต่ก็พอที่จะบอกได้เพียงแค่ฟังจากเรื่องราวมา เธอเป็นบุคคลอันเป็นที่รักเลยไม่ใช่หรือคะ?”
“ใช่… นั่นทำไม ถึงได้…”
ในเดือนกุมภาพันธ์อันหนาวเหน็บเมื่อเธอได้รู้ถึงการกล่าวหาเท็จที่ได้เกิดขึ้นขณะที่เธอกับพ่อแม่เธออยู่ที่อื่น
พวกเขาถึงกับรีบกลับมาทันทีที่ได้ยินข่าวนี้ แต่ในตอนนั้น Shirley ก็ได้หนีไปแล้วหลังจากที่ถูกทรมานมาเป็นเดือน ถึงแม้ว่าเธอจะอายุน้อยในตอนนั้น Philia ก็เข้าใจความจริงที่เธอเห็นเลย ปีศาจหญิงที่ยิ้มอย่างชั่วร้ายยืนเคียงข้างกับพี่ชาย
เธออายุเจ็ดขวบในตอนนั้น ถึงแม้ว่าเธอจะถามว่า Shirley อยู่ที่ไหนทุกๆวัน บาดแผลในใจของเธอก็กัดลึกทุกครั้งที่ถูกบ่ายเบี่ยงไป ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ Albert ก็ค่อยๆห่างเหินมากขึ้น
“ดังนั้น เมื่อฉันได้ยินว่าพี่สาวของฉันยังมีชีวิตอยู่ในราชอาณาจักร ฉันก็มีความสุขแล้ว ฉันนึกว่าเธออาจจะตายไปแล้ว ฉันก็เลยเซอร์ไพรที่ได้ยินว่าเธอไปเป็นนักผจญภัยนะ”
“…แล้วไม่อยากจะพบเธอหรือ? ถ้านั่นคือความประสงค์ขององค์หญิงล่ะก็ ฉันจะคอยคุ้มกันให้…”
“ไม่ได้หรอก”
เธอตอบไปแบบเงียบๆโดยทันที
“ราชวงศ์ได้ทำอะไรที่มิอาจให้อภัยกับเธอได้อีกต่อไปแล้ว เธอคงไม่อยากที่จะเห็นหน้าฉันอีกนะ”
“นั่นมัน… องค์หญิงคะ เธอไม่ต้องแบกรับความผิดจากสิ่งที่เธอไม่ได้ทำหรอกนะ”
“ถึงแม้ว่าฉันจะอายุน้อยในตอนนั้น ฉันก็หนีความจริงที่ทำอะไรเพื่อเธอไม่ได้เลย แล้วก็เลยไม่มีแม้แต่จะพูดคุยกับพี่ชายในตัวแทนของเธออีก”
เธอเป็นคนในราชวงศ์ เธออาจจะสั่งการด้วยตัวเองไม่ได้ แต่เป็นคนที่อยู่ในระดับสูงสุดของสังคม เธอน่าจะมีอย่างน้อยที่ทำอะไรสักอย่างเพื่อ Shirley บ้าง
ไม่ว่า Lumiliana จะพูดยังไง Philia ที่เป็นคนในราชวงศ์จะได้ไปอยู่ข้างเธอแม้แต่คิดว่า Shirley อยากจะเห็นหน้าเธออีกครั้งยังไง?
“ฉันก็ไม่อาจจะพบเธอและก็น่าจะภาวนาเพื่อความสุขโดยห่างๆนะ แต่…”
“แต่…?”
เพราะ Albert ได้เล็งไปยังลูกสาวทั้งสองของเธอ เธอจึงทำอะไรไม่ได้เลย
ใช้ความฉลาดของเธอหาแหล่งที่มา เธอได้รู้ว่า Albert นั่นจ้างจอมเวทหลายคนมาใช้เวทมนตร์เพื่อลักพาตัวเด็ก แต่ล้มเหลวทั้งหมด
แล้วพี่ชายของเธอจะทำอะไรต่ออีกล่ะ? เป็นน้องสาวมาตั้งนาน Philia ก็นึกไอเดียออก
“Lumiliana… นี่ไม่ใช่คำสั่งทางการ แต่มีบางอย่างที่ฉันอยากจะขอเธอหน่อย”
คนที่เธอรักเหมือนพี่สาวที่เธอถูกแย่งไปจากเธอโดยพี่ชายอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเธอจะมั่นใจว่าคนที่ถามนั้นอยากจะไม่ทำอะไรกับเธอ ในฐานะองค์หญิงที่เธอจะทำ
การเตรียมดำเนินการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่องค์หญิงในทวีปอัญเชิญมาได้ตั้งปณิธานใหม่และมองลึกไปยังดวงตาของเพื่อนสนิทและเป็นผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์ที่สุด
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น