ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อดีตขุนนางสาวโสดกับชีวิตโลดโผนผจญภัยเพื่อลูกสาวสุดน่ารัก

    ลำดับตอนที่ #21 : บทส่งท้าย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.39K
      172
      9 ต.ค. 65

    “แล้ว มีอะไรจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายมั้ย?”

    “ว้าย-!? ไม่ใช่ว่ามันเกินกว่าเรื่องตลกไปหน่อยหรือ!?”

    ท่าทางพราวเสน่ห์กับความอ่อนวัยอันลึกลับได้ป่นปี้ไปแล้ว

    Shirley ถึงกับช็อคสุดขีดเมื่อลูกสาวสองคนถึงกับเข้ามากอดในขณะที่ร้องไห้ฟูมฟายเมื่อเธอเข้าบ้าน พอๆกับที่เธอได้ยินเรื่องราวเต็มๆมาจากกิลด์ตรงๆ

    Canary ที่พยายามจะหลบหนีด้วยเวทเทเลพอร์ตถูกมัดและก็ห้อยหัวจากกิ่งไม้ ใต้เธอนั้นเป็นหม้อใหญ่ที่มีน้ำเดือดอยู่ข้างในที่เอาไว้ใช้สำหรับลงโทษเธอโดยเฉพาะ

    “ร้อนนนนนน!? ทำให้เชือกมันสั้นกว่านี้ไม่ได้หรือไง!? ไอมันร้อนไปแล้วนะ!?”

    “นี่มากพอที่จะไม่ฆ่าเธอแล้ว ใช่มั้ย? คิดว่าเธอจะเข้าไปทำอะไรกับลูกสาวฉันกันล่ะ…!”

    “หยุดนะ! หยุดจิ้มด้วยดาบสักที!”

    Shirley แสดงความโกรธโดยการแตะเชือกที่ห้อยตัว Canary เหนือหม้อด้วยดาบคู่ Ig-Alima กับ Sul-Sagana อย่างน่ากลัว

    อนึ่ง Canary ไม่สามารถใช้เวทมนตร์หนีได้ เพราะ Shirley อาจจะตัดเวทมนตร์ที่เธอเห็นเป็นสองในขณะที่เธอพยายามจะทำอะไรได้

    “สัญญาซ้ำซ้อนนี่มันอะไรกัน? เธอวางอุบายอะไร? ขึ้นอยู่กับคำตอบของเธอนะ…”

    พอๆกับที่เธอจะตัดเชือกได้ในตอนนี้ เธอตัดสินใจยอมฟังคำแก้ตัวของ Canary เนื่องจากเธอไม่อาจจะได้เข้าร่วมวันเยี่ยมโรงเรียนได้แล้ว

    “ก-ก็ไม่มีอันตรายหรอกนะ! ก็แค่อยากให้พวกเธอทั้งสามมาเป็นโมเดลให้กับร้านแรกที่เพิ่งจะเปิดเป็นเมดคาเฟ่แห่งใหม่เองนะ!”

    “เมดคาเฟ่?”

    เมดกับคาเฟ่ Shirley ถึงกับสับสนกับศัพท์คำใหม่นี้ พยายามนึกภาพที่ทำไมถึงเอาสองคำมาไว้ด้วยกัน

    “ไม่ชอบเลยหรือ? ดูเหมือนจะเป็นรสนิยมของคนดังที่ออกแนวคิดว่า ‘ฉันอยากให้สาวเมดมารับใช้’ ก็เลยทำการค้นคว้าขึ้นมา แล้วก็พบว่าแม้แต่สามัญชนก็ยังหลงใหลเมดด้วย ดังนั้นฉันก็เลยตั้งใจสร้างแฟรนไชส์ขึ้นมาเพื่อที่จะเติมเต็มความหวังและความปรารถนาของคนในราชอาณาจักรนะสิ”

    “เฮ้อ…”

    ความปรารถนาของพวกผู้ชาย… Shirley ไม่เกี่ยวข้องเลยจริงๆ

    ถึงแม้เธอจะไม่ได้เข้าใจถึงความน่าดึงดูดของเหล่าเมดทุกวันมาตลอด 18 ปีก็ตาม เธอก็ไม่อาจปฏิเสธความจริงถ้าหากนั่นเป็นปกติของผู้ชายในสมัยนี้

    “แล้ว เธอกะจะใช้ฉันกับลูกสาวมาทดลองโฆษณางั้นหรือ?”

    “ถูกเผง~! ก็มีสามสาวงามที่มีสีผมเดียวกันแล้ว… มันไม่สมบูรณ์แบบที่จะทดลองเปิดร้านใหม่หน่อยหรือ~? ฉันวางแผนที่จะฉลองชัยที่ปราบมังกรได้ด้วยนะ และฉันก็ขอให้เธอกับลูกสาวที่น่ารักของเธอรอจนกว่าจะถึงงานปาร์ตี้หน่อยน้า~!”

    มันก็สนุกดีนะที่คิดว่าผู้ที่นำศึกจะมาทำงานรับใช้ที่โต๊ะในงานฉลองชัยนี้ แต่ถึงแม้จะปฏิเสธไปง่ายๆอย่างที่ไม่สนใจใยดีที่จะทำเลยก็ตาม Shirley ก็ยังคงครวญอย่างหน้างอ

    เอาตรงๆเลย เธอไม่ได้กะจะยกโทษให้ยัยแม่มดที่อยู่ต่อหน้าเธอที่ไปหลอก Sophie กับ Tio แต่เธอก็ไม่อาจปฏิเสธสิ่งที่อาจจะดีต่อพวกเธอที่จะได้มีประสบการณ์ในการบริการลูกค้าบ้าง

    การตามใจเด็กและทำทุกอย่างเพื่อพวกเขานั้นไม่มีทางที่จะยกระดับพวกเขาได้ เป็นหลักที่มีประสบการณ์ของ Shirley ที่จะวางรากฐานของการดูแลเด็ก

    ถึงแม้ว่าพวกเธอจะถูกหลอกให้ทำแบบนั้น ขณะที่เธอสงสัยว่าจะทำอะไรนั้น Canary ก็กระดึ้บเหมือนกุ้งมังกรที่ถูกห้อยอยู่เหนือหม้อแล้วก็แหกปากออกมา

    “ในตอนแรก เธอไม่ได้ลงชื่อในสัญญาแล้วหรือ!? ต่อให้พวกเขายังเด็ก การปฏิเสธอาจจะทำให้ผิดสัญญาได้นะ รู้มั้ย!?”

    “ก็นะ… หลังจากที่ได้ยินรายละเอียดไป ถ้าลูกสาวยินยอม ฉันก็จะทำ …ไม่ใช่ว่าฉันจะให้อภัยการกระทำที่แกมโกงหรอกนะ”

    “ใช่แล้วๆ! งั้น ถ้าเราแค่เห็นว่าเชือกพวกนี้ฉันสามารถ-”

    แกร็ก!

    เสียงที่เป็นลางสังหรณ์ แล้วกิ่งไม้ก็หักลงมา ดูเหมือนว่ามันจะไม่อาจรองรับน้ำหนักของ Canary ขณะที่เธอแตะรอบๆได้แล้ว แล้วก็หักเปร๊าะ

    ““อ๊ะ””

    เสียงอุทานดังออกมาพร้อมกัน

    และด้วยการร่วงตกลงไปอย่างรุนแรงนี้ แม่มดทองที่กำเศรษฐกิจของโลกเอาไว้ในฝ่ามือของเธอก็ลงไปอยู่ในหม้อ อาบน้ำร้อนไปเรียบร้อย

    สตูว์แม่มดในที่สุดก็ออกมาด้วยกันแล้ว แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นจนถึงวันถัดมาที่น่าจะมีใครเห็นส่วนผสมหลักที่น่าขนลุกจากในหม้อนี้หรอก

    และตอนนี้ Canary ที่ฟื้นฟูร่างกายกลับมาอย่างสมบูรณ์ก็กลับมามีสภาพเดิมที่ไม่มีแม้แต่ร่องรอยการถูกลวกด้วยเวทมนตร ยืนอยู่ต่อหน้านักผจญภัยด้วยอารมณ์เบิกบาน ถือเหยือกเบียร์ไว้ในมือ

    “สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย! ขอแสดงความยินดีในชัยชนะของพวกท่าน! ค่ำคืนนี้มาฉลองชัยให้สุดใจ… ดื่มและสังสรรค์เฮฮาให้เต็มที่เลย!”

    เธอชูแก้วขึ้นกลางอากาศ แล้วปาร์ตี้ก็เริ่มขึ้น

    “แด่เธอ นักรบผู้กล้าหาญอันทรงเกียรติ! แด่อสูรดาบสีขาวที่คอยนำทัพให้! แด่เป้าหมายในอนาคต! คัมปาย~!!”

    “““คัมปายยยยยยยยยยยยยยยยย!!!”””

    ราชามังกรอีกสองง่ามก็ถูกขับไล่โดยการรวมตัวของเหล่าเหนือมนุษย์อย่างนักผจญภัย

    นักผจญภัยที่ได้รับข่าวว่าจะจัดงานปาร์ตี้ที่ห้องรับประทานอาหารที่เช่ามาของเรือนทาโอเร่นี้

    ถึงแม้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตน้อยเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ในโลกที่สร้างด้วยเวทมนตร์ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มี

    ต่อให้มีบางคนที่มีบาดแผลอยู่หน่อยๆก็ยังเข้าร่วมงานฉลองอยู่ดี ส่วนอีกหลายคนที่ยังไม่ได้สติเพราะบาดแผลสาหัสนั้น ก็พอๆกับพวกที่ไม่ได้กลับมานั่นแหละ

    นั่นทำไมนักผจญภัยถึงได้ดีใจสุดๆ ก็เพื่อหวังว่าปาร์ตี้ที่เสียงดังนั้นอาจจะช่วยปลุกคนที่หลับได้

    นั่นทำไมนักผจญภัยถึงได้ร้องเพลง ก็เพื่อหวังว่าเสียงร้องและบทสวดแห่งความกล้าหาญอาจจะทำให้เพื่อนที่จากไปได้ยิน

    “ตอนนี้ ช่างโง่จริงๆที่มาจัดงานฉลองโดยที่ไม่มีสาวงามมารอให้กับผู้กล้าหาญเลย ในวันนี้ ตัวตนจริงๆที่ผ่าน 'เรื่องยากมามากมาย' จะมาส่งถึงที่ด้วยบริการที่แสนจะน่ารักเลย~!”

    ต่อหน้านักผจญภัยที่เพิ่งจะดื่มฉลองชัยไป สองเด็กสาวฝาแฝดก็ก้าวออกมา ดูเหมือนกับคู่ของนางฟ้ากับเทพธิดา

    โดยสวมชุดกันเปื้อนที่ไร้แขนกับกระโปรงที่ยาวถึงแค่เหนือเข่ากับถุงเท้าที่ยาวถึงต้นขา ถุงมือที่ยาวถึงศอก และรองเท้าส้นสูง Sophie กับ Tio ลูกสาวของอสูรดาบสีขาวที่น่าสะพรึงดูเหมือนสาวเสิร์ฟมากกว่าสาวใช้เสียอีก

    …อย่างไรก็ตาม ท่าทางโกรธก็ไม่ได้เข้ากับการต้อนรับเอาเสียเลย..

    “อูว… เธอหลอกเรา! เธอหลอกเราเลยไม่ใช่หรือ!? ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะหลอกเราด้วยท่าทางจริงจังและคำพูดจัดฉากแบบนี้!”

    “…ฉันอยากให้เธอกลับมา เราก็แค่เป็นห่วงเองแหละ”

    สีหน้าของแม่ที่กลับมาจากการเยี่ยมโรงเรียนถึงกับสะดุ้งตกใจเมื่อเธอเห็นพวกเธอร้องไห้นั้นยังคงติดในหัว

    แต่ สัญญาก็คือสัญญา ถึงแม้พวกเธอจะ… ไม่มีความสุขมากๆกับสภาพแบบนี้ เมื่อได้ทำสัญญากันแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบสัญญานั้นเอาเอง

    “โอ ว้าว… ถึงแม้พวกเธอจะยังเด็กก็เถอะ…!”

    “ฉันได้ยินมาว่าพวกเธออายุพอๆกับน้องสาวฉันเลย… ความรู้สึกแปลกๆนี่มันอะไรกัน…”

    “ฉันอยากให้พวกเธอมานั่งบนตักแล้วก็ลูบหัวจัง…”

    “กระผมจะให้เงินค่าขนมถ้าชอบนะ…”

    ขณะเดียวกัน นักผจญภัยที่ไม่ได้คิดว่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ต่างก็ตื่นเต้นที่ได้เห็นเด็กสาวงามทั้งสองคน

    เหล่านักผจญภัยที่จู่ๆก็ถูกปลุกบางอย่างได้ร้องเชิดชูให้กับเด็กสาวอย่างที่สุด

    …ถึงแม้ว่า ที่จริงนักผจญภัยที่พูดในประโยคสุดท้ายนั่นจะถูกต่อยและเตะจากคนที่อยู่รอบๆ อันนั้นก็คงจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งล่ะนะ

    “เอาล่ะ จานหลักของคืนนี้! นักดาบหญิงที่แข็งแกร่งที่สุดและเป็นความภาคภูมิใจของกิลด์ที่กำจัดราชามังกรได้! จะมาพร้อมบริการให้กับทุกคนด้วยการสวมชุดเมดนี้! เชิญพบกับอสูรดาบสีขาวววววววววววว~!!”

    บรรยากาศในห้องเริ่มตึงเครียด ณ คำพูดของ Canary และสายตาทุกคนต่างก็มองไปยังทางเข้า… แต่ Shirley ก็ยังไม่ปรากฏตัว

    ขณะที่นักผจญภัยดูท่าทางสับสน Canary ก็วิ่งไปยังที่ทางเข้าแล้วสะกิดหัวเธอรอบๆประตู

    “น่าๆ เธอเป็นตัวหลักของงานนะ เธอจะอยู่ข้างหลังตรงนี้ตลอดไม่ได้นะ!”

    “อ๊ะ Martha อย่าผลักฉัน…! ถ้าฉันปรากฏต่อหน้าด้วยชุดแบบนี้ ฉันต้องอับอายไปทั้งชีวิตแน่…!”

    “ไม่เป็นไรน่า! เธอดูดีออก!”

    “ป-ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้น…!”

    “แล้วเธอคิดว่าจะทำอะไรกันล่ะ?”

    “อ๊ะ คุณ Canary! ถึงแม้ว่าเธอจะเปลี่ยนไป เด็กคนนี้ก็ยังโวยวายถึงเรื่องที่จะออกไปเลยนะคะ!”

    “หืมม ช่างเป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญจริงๆ งั้น ชุดเมดที่น่าอายนั่นแหละดีแล้ว ออกมาเลย!”

    “เดี๋ยว-!?”

    ไม่อาจที่จะตอบสนองต่อเวทเทเลพอร์ตของ Canary ได้ทัน Shirley ก็ถูกโยนเข้าไปกลางห้องรับประทานอาหารที่ทุกคนต่างก็มองเธออยู่

    “ไม่นะ…!? อ-อย่ามอง… ฉันนะ…!”



    เธอสวมชุดผ้ากันเปื้อนที่อยู่บนพื้นฐานของชุดเมด แต่กระโปรงที่เธอสวมนั้นสั้นกว่าของลูกสาวเสียอีก สั้นจนเธอห่วงว่าอาจจะมีคนมองเห็นกางเกงในเธอได้

    ส่วนที่เปิดเผยของเธอทำให้ดูเย้ายวนมากขึ้นด้วยสายยึดที่เธอสวม และพื้นที่ว่างระหว่างส่วนบนกับกระโปรงก็ยังโชว์สะดือสีขาวอีกต่างหาก

    และสิ่งที่กระชากที่สุดก็คือตรงส่วนของหน้าอกที่สะบึ้มที่เผยให้เห็นร่องอกนั่นแหละ เป็นภูเขาที่กระเพื่อมขึ้นลงแม้การเคลื่อนไหวเล็กน้อยก็ยังทำให้หลงเสน่ห์ทั้งผู้ชายและผู้หญิงได้

    “มะ… มะๆๆ… หม่าม้า…!?”

    “…ชุดนั่นมันอะไรกันน่ะ”

    เธอพยายามปิดกระโปรงด้วยมือข้างหนึ่งและหน้าอกด้วยมืออีกข้างหนึ่ง ประหนึ่งราวกับแม่ของพวกเธอได้ก้าวเข้าสู่โลกต้องห้ามไปแล้ว

    “น-นี่มัน…! เสื้อแบบนี้มัน… ฉันไม่ได้… เอ่อ… อ้า…!”

    เกิดอะไรขึ้นกับท่าทางที่สุขุมและหนักแน่นตามปกติกันเนี่ย? นี่คือสิ่งที่ทุกคนนึกถึง Shirley พยายามอย่างที่สุดที่จะปกป้องศักดิ์ศรีของเธอ ขณะที่ลูกสาวของเธอต่างก็มองด้วยสายตาเย็นชา

    เธอนึกภาพชุดเครื่องแบบที่พวกคนใช้สวมใส่แบบดั้งเดิมที่เน้นความซื่อสัตย์และคุณธรรม แต่จริงๆแล้ว กลายเป็นว่า Canary ได้จัดการสั่งชุดเมดแบบโป๊มาให้เธอ

    สำหรับคนที่ต้องมาเปิดเผยตัวเองต่อหน้าสาธารณะอย่างนั้นถือว่าหยาบช้าสุดๆ ถึงแม้ว่าเธอจะถูกบังคับให้เข้าสู่ความอัปยศจากชุดที่เธอสวมนั้นจะใหญ่โตก็ตาม

    “อ-อะไรนะ? หน้าอกสะบึ้มขนาดนั้น…!”

    “เฮ้ย ใจเย็น! ยังไงก็ยังคงเป็นอสูรดาบที่ไม่ค่อยพูดอะไรนักนะ รู้มั้ย!?”

    “อายุสามสิบกับลูกสอง บ้าชะมัด!”

    “ร่างวัยรุ่นกึ่งอมตะกับลูกสาวน่ารักสองคน… แจ๋ว…”

    ขณะที่ผู้หญิงที่เย็นชาและน่าขุนลุกตามปกติปรากฏอีกด้านของตัวเธอนั้น แม่แต่ผู้หญิงก็ยังหลงเสน่ห์เลย และความหลงใหลแปลกๆก็เริ่มปกคลุมไปทั้งห้อง

    “เลิกเอาแต่หดตัวได้แล้ว! เธอมีนายท่านที่จะต้องบริการให้นะ ไม่ใช่หรืองาย~!?”

    Shirley ยังคงปฏิเสธที่จะหยุดปกปิดร่างกาย ดังนั้น Canary จึงได้มองไปรอบๆห้อง

    แล้วก็ไปสบตากับ Kyle นักผจญภัยมือใหม่ที่มองตาติดกับรูปลักษณ์ของ Shirley

    “เฮ้ย คุณแรงค์ E… Kyle ไม่ใช่หรือ? มาตรงนี้สักหน่อยสิ”

    “…เอ๋? เดี๋ยวนะ ผมหรือ?”

    เธอยิ้มแสยะราวกับจะเจอของเล่นใหม่ Canary บังคับให้ Kyle ออกมายืนต่อหน้าคุณแม่ผมขาวและลูกสาว

    “เอาล่ะ พูดตามที่ฉันสอนนะ”

    “เอ๋!? น-นี่เราต้องพูดแบบนั้นหรือ!?”

    “รู้แล้วน่า… น่าอายจริงๆเลย…”

    Kyle ถึงกับตัวเกร็ง ไม่แน่ใจว่าพวกเธอจะพูดอะไร แล้วก็…

    “เอ่ออ… ย-ยินดีต้อนรับ…”

    Sophie มองดูด้วยน้ำตาไหลอย่างอับอาย มือของเธอกอดหน้าอกไว้

    “…กลับ…”

    ขณะเดียวกัน Tio ก็พึมพำขณะที่เธอมองออกไปด้วยสายตาที่เขินอายบนใบหน้า

    “…น-นายท่าน…!”

    แม้แต่ Shirley ก็ยังพูดตะกุกตะกักโดยไม่เหลือความมั่นใจอย่างสิ้นเชิง ใบหน้าของเธอก็แดงแป้ด Kyle ถูกทะลวงเข้ากลางใจไปแล้ว

    Kyle ถึงกับค้างอยู่กับที่ เหม่อลอยไปกับความสุขจน Canary ง้างเตะก้นเข้าที่ด้านหลังและบอกให้เขากลับออกไป

    …ไม่ได้ดูเหมือนว่าเขาจะสนใจเลย เขายังคงเหม่อในความสุขอยู่

    “เอาล่ะ ต่อไปอะไรดีน้า? คุกเข่าลงแล้วก็ร้องว่า ‘อิหยา~♡’!? หรือว่าจะวาดรูปหัวใจด้วยมือบนอาหารแล้วพูดว่า ‘ด้วยเวทแห่งรักจะทำให้อร่อยขึ้นนะคะ นายท่าน♡~’ ดีน้า!?”

    “หวา…!? ….หา!?”

    “ค-คุณจะไม่พูดอะไรแบบนั้นหรือ!?”

    เสียงครูดของเก้าอี้ พวกผู้ชายต่างก็ลุกขึ้นก้าวเท้าออกมาด้วยเสียงเชียร์

    ด้วยข้อเสนอ Canary อย่างกะทันหัน Shirley ถึงกับทำหน้าแดงยิ่งกว่าเดิมและก็ส่ายหัวอย่างแรง ขณะที่ Sophie กัย Tio ต่างก็ขึ้นเสียงด้วยความไม่พอใจ

    ให้ทำบางอย่างที่ผู้หญิงต้องถึงกับอับอายเพื่อคนที่พวกเขารัก มันสูงเกินกว่าที่ Shirley จะแบกรับไว้ได้อีก

    “ฟุฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ! ขัดขืนไปก็ไร้ผลน่า! สำหรับค่ำคืนนี้ ฉันกำเธอเอาไว้บนฝ่ามือแล้ว! เอาล่ะ แขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย! ขอเชิญสำราญกับการบริการของสามแม่ลูกผู้น่ารักได้เลย!”

    ขณะที่นักผจญภัย (ที่เป็นผู้ชายซะส่วนใหญ่) พยายามที่จะเบียดแถวกันอยู่ ก็มีมือของใครคนหนึ่งมาจับไหล่ด้านหลังของ Canary เอาไว้อย่างแรง

    “เอ๋ อะไรล่ะนั่น!? เราเพิ่งจะเริ่มตรงส่วนดี-”

    “ดูเหมือนว่าคุณท่าจะสนุกมากๆเลยนะ ยาย?”

    ถึงแม้เธออาจจะพูดในขณะยิ้ม ทั้งดวงตาและอื่นๆนั้นไม่ใช่ แล้วสีหน้าของแม่มดทองก็เริ่มซีดด้วยความกลัว

    “ป-เป็นไปไม่ได้น่า…!? ม-ไม่ใช่ว่าเธอกลับไปที่กิลด์แล้วหรือ…!?”

    “ใช่ ปรากฏว่ามีเอกสารจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ใครก็ไม่รู้จู่ๆก็เทเลพอร์ตนักผจญภัยที่ต่ำกว่าแรงค์ B ที่อยู่สักแห่งในเมือง ถึงฉันจะปฏิเสธไม่ได้ที่ฉันได้เห็นหัวหน้าสาขาหัวล้านถึงกับชักดิ้นชักงออย่างสนุกสนานก็เถอะ… ไม่คิดเลยว่า หลังจากที่เสร็จงานแล้วก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีก็เลยมายังที่นี่ แล้วสิ่งที่ฉันพบนั้น…”

    “ม่ายยยย!? ป-ปล่อยเค้าน้า!”

    พอที่จะเดาได้จากที่เธอเรียกคนนั้นว่าอะไร ก็ Yumina กับ Canary นั้นเป็นญาติกัน

    ถึงแม้เธอจะดูอายุน้อย แต่เธอก็มีอายุมากว่าพันปีแล้ว และเธอก็มีลูกและหลานข้ามรุ่นเยอะแยะมากมาย ขณะที่เธอจับเขาดำที่งอกบนหัวของคนที่เธอเรียกว่ายายตามอายุ พนักงานต้อนรับก็ลากเธอไปยังเฉลียง

    “ห-หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ! น-นี่เธอวางแผนทำอะไรกับฉันน่ะ! อ-อย่ารุนแรงกับฉันสิ คุณหนู! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอนั้นไม่มีเสน่ห์ทางเพ- อ๊ากกก!?”

    เปรี้ยง ตุบตับๆๆ…

    ยัยเขาดำนั้นโดนซัดซะแหลกกระจุยแล้วก็ถูกโยนกลิ้งกลับเข้าไปยังห้องรับประทานอาหาร

    ไม่มีใครรู้ว่าแม่มดที่แข็งแกร่งที่สุดจะเป็นยังไงหลังจากที่เธอถูกลากออกไปโดยหลานห่างๆของตัวเอง

    หลังจากนั้น ปาร์ตี้ก็ดำเนินต่อไปโดยไม่มีอุปสรรค

    Cudd กับ Leia พยายามที่จะแข่งกันดื่มกับพวกคนแคระและนักรบร่างยักษ์ ผลคือลงไปฟุบหมอบทั้งคู่พร้อมกัน

    ขณะที่สองขี้เมาถูกพาไปวางที่มุมห้องเพื่อหลับนั้น Sophie กับ Tio ก็เอาอาหารจากห้องครัวมาเสิร์ฟลูกค้า

    Shirley ทำให้แน่ใจว่าจะปกป้องอย่างหน้าเลือดใส่ใครก็ตามที่บังอาจไปจ้องลูกสาวฝาแฝดเป็นเวลานานเกินไป

    ขณะที่ Shirley จ้องตาใส่พวกที่ทำท่าลามกอยู่นั้น นักผจญภัยแรงค์ B ที่มีดาบใหญ่ก็ยังต้องหยุดกวนเธอเพื่อดื่ม

    ขณะที่ถุงขยะที่มีเขาดำอันโดดเด่นก็ถูกวางอยู่ด้านนอก… เนื่องจาก Yumina นั้นน่ากลัว ก็เลยไม่ใครอาจหาญไปยุ่ง

    “ฟูวว…”

    ขณะที่ปาร์ตี้เริ่มเงียบลง Shirley ก็หายใจออกขณะที่เธอพิงกำแพงและมองดูรอบๆห้องรับประทานอาหาร

    แม้ว่าเธอจะไม่ได้ทำเพื่อเงินหรือการกุศล การทำงานเป็นสาวเสิร์ฟนี้ก็ทำให้เธอเหนื่อยกว่าที่เธอคิดเอาไว้อีก

    อย่างที่ว่า ถึงแม้เธอจะทำให้ตัวเองสงบลงได้ครึ่งทางตลอดคืน เธอก็ขอสาบานกับตัวเองว่าจะไม่มีวันสวมชุดแบบนี้อีก

    ให้สวมชุดที่เผยร่างแบบนี้มันไม่เข้ากับตัวเธอเลย… ก็นะ พวกปาร์ตี้อาจจะไม่ยอมรับก็ได้

    “คืนนี้ทำได้ดีนะ คุณ Shirley”

    Yumina ก็พิงกำแพงที่อยู่ถัดจาก Shirley พร้อมกับแก้วไวน์ในมือ

    “ขอโทษนะ ยายบังคับให้เธอทำเรื่องที่น่ากลัวสินะ”

    “ไม่หรอก… เพราะฉันได้ตอบรับคำขอเองต่างหาก แต่…”

    Shirley ก้มมองไปยังที่เสื้อของเธอ แล้วก็ถอยหายใจแล้วเงยหน้าขึ้น

    “ฉันไม่คิดว่าจะต้องออกไปต่อหน้าด้วยชุดที่เปิดเผยแบบนี้…!”

    “เรื่องนั้นนะ… ขอโทษจริงๆนะ ฉันคิดว่ามันดูเหมาะกับเธอมั้ย?”

    “ฉันแก่เกินกว่าที่จะสวมชุดแบบนี้นะ…!”

    ถึงแม้มันยากที่จะบอกได้ว่า Shirley นั้นโด่งดังแค่ไหนก็ตาม เสื้อผ้าแบบนั้นมันก็เกินกว่าสามัญสำนึกของพวกสาวๆอยู่ดี

    ถ้าใครที่อายุเลขสามต้องมาสวมชุดแบบนั้น พวกนั้นก็น่าจะลงความเห็นอย่าง ‘อย่าฝืนทำนะ’ ไม่ว่าจะมองดูอ่อนวัยยังไง มันก็ไม่ใช่จุดนั้นสำหรับเธอ

    “Canary พูดไว้เหมือนกันเลย”

    “ใช่ และนักผจญภัยคนอื่นก็ดูท่าจะเป็นประโยชน์เลย ใช่มั้ยล่ะ?”

    บทสนทนานี้ ไม่ได้มาจากความอึดอัด พวกเธอก็แค่มองปาร์ตี้ที่ดูคึกคักไปผ่านๆขณะที่เงียบไปสักพัก

    “…ฉันยังอยากรู้เรื่องนั้นนะ”

    นึกไม่ถึงเลยว่าคนที่ทำลายความเงียบระหว่างทั้งสองนั้นคือ Shirley

    “ทำไมพวกนั้นถึงยอมออกไปสู้กับกองทัพที่นำโดยมังกรด้วยล่ะ? มันยากที่จะนึกภาพได้ว่าพวกนั้นมายังสหรภูมิทั้งที่มีโอกาสรอดน้อย มาเพื่อแค่เงินหรือ”

    เธอได้พยายามถามอย่างอ้อมค้อมในระหว่างปาร์ตี้และทุกคนต่างก็บอกว่าพวกเขาทำเพื่อเงิน แต่จากสีหน้าพวกเขาแล้ว Shirley คิดว่าพวกนั้นน่าจะซ่อนอะไรบางอย่าง

    ถึงแม้เธอจะรู้แรงจูงใจหลักก็คือเพื่อความปรารถนาต่อเกียรติยศจากการปราบมังกรแน่ๆ Shirley ก็ยังคงสับสนอยู่ ดังนั้น Yumina จึงได้ตอบเธอด้วยรอยยิ้มเล็กๆ

    “น่า ถ้าให้ฉันเดานะ… ฉันมั่นใจว่าพวกเขาอยากจะต่อสู้เคียงข้างเธอนะ”

    ด้วยคำพูดนี้ Shirley ถึงกับชะงัก

    “หมายความว่ายังไง? ฉันนึกว่าฉันมีชื่อเสียงไม่ดีกับนักผจญภัยคนอื่นอีก?”

    “ถูกแล้วค่ะ คุณ Shirley นั้นไม่เป็นมิตรอยู่ตลอด และเธอก็ก่อเรื่องใหญ่ตอนที่เธอมาครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนด้วย”

    ขณะที่เธอพูดนั้น Yumina ก็มองดูนักผจญภัยที่ยังคงร้องเพลงอย่างสนุกสนานอยู่

    “ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยร่วมมือกับใครก็ตาม พวกเขาต่างก็ยอมรับในความแข็งแกร่งของเธอนะ… ไม่ใช่ว่าฉายา ‘อสูรดาบสีขาว’ คือหลักฐานหรือ? ประโยชน์และความภาคภูมิใจ ฉันมั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้มันก็ดี แต่ฉันว่ายังมีคนอีกมากที่ไม่อาจฝืนโอกาสที่จะได้สู้เคียงข้างกับสุดยอดนักผจญภัยแบบนี้แล้วนะ ถูกมั้ย? อันที่จริง ฉันเองก็ขออยู่บ่อยเลยถ้าคุณ Shirley จะยอมเข้ารับคำร้องปาร์ตี้นะ”

    ยังมีคนอีกมากที่ไม่ซื่อตรงต่อตัวเอง พวกเขาก็เลยไม่ได้ขอเธอมาตัวต่อตัว

    หลังเธอพูดจบ Yumina ซดไวน์หยดสุดท้ายในแก้วแล้วก็มอง Shirley

    “เอาล่ะ ฉันว่าฉันจะกลับบ้านล่ะ พรุ่งนี้ต้องทำงาน แค่นี้นะ”

    ขณะที่พนักงานต้อนรับบอกลา Shirley ก็หันไปเหม่อมองกลุ่มนักผจญภัยที่เล่นกับลูกสาวเธอ

    พวกเขาเป็นตัวการที่เกิดขึ้นกับเธอ เธอจึงเชื่อมั่นในตัวเองว่าเธอจะไม่เรียกร้องความสนใจใดๆกับคนอื่น

    ถึงแม้จะมีบางคนเขามาหาเธอ เธอก็จะแกล้งกระตุ้นพวกเขาให้ห่างออกไปอยู่ตลอด กลัวว่าเธอจะไม่ยอมให้ใครมาเข้าใกล้ลูกสาวของเธอ

    “ยัยปีศาจนั่นไปแล้ว… โอ๊ยๆๆๆ… อ๊ะ นั่นเธอนี่… โทษทีที่มาด้วยรูปลักษณ์ที่ไม่น่ามองนะ”

    ขณะที่เธอมองนักผจญภัยที่เธอไม่สนใจก่อนหน้า Canary ก็หาทางฉีกออกจากถังขยะ เขาที่หักของเธอก็เชื่อมด้วยกาว

    “แล้ว? มาจ้องฉันด้วยสีหน้ากำกวมทำไมกัน งืม~?”

    “Canary… ฉันอยากจะถามเธอมาสักพักหนึ่งแล้ว”

    “อะไรล่ะ?”

    “ทำไมเธอถึงเต็มคำขอของฉันด้วยการส่งกำลังเสริมมา แทนที่จะเลื่อนวันเยี่ยมชั้นเรียนออกไปด้วยล่ะ?”

    เธอเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนและก็เป็นคณะกรรมการด้วย เธอได้เข้ามาควบคุมเมื่อได้มาบริหารโรงเรียน เธอน่าจะเก็บรักษาเงินเอาไว้จำนวนมากๆ แล้วทำไมเธอไม่ทำล่ะ?

    มันก็ไม่ได้ดูมีเหตุผลสักเท่าไร ถึงแม้เธอบอกว่าเธอออกแบบเพื่อความพอใจของตัวเองก็ตาม Canary ก็เป็นแม่มดที่ไม่ได้ทำโดยไม่มีเหตุผลจริงๆ

    ถ้าเพื่อภาพใหญ่หรือไม่ก็เรื่องจุกจิกละก็ เธอก็ไม่คิดว่า Canary จะทำเพียงลำพังเพื่อเอาสนุกกับ Shirley หรืออย่างน้อยก็เป็นสิ่งที่เธอคิดเอาไว้หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวจากลูกหลานคนหนึ่งของ Canary

    “มันก็ไม่ได้มีโครงการใหญ่อะไรจริงๆนักหรอก ก็แค่ซาบซึ้งเองแหละ ฉันอยากเห็นการแสดงแบบนั้น… และก็กดดันเธอตามอำเภอใจโดยพลการเอง… ฉันก็แค่เป็นคนเห็นแก่ตัวตลอดแหละ”

    Canary ยิ้มแสยะออกมา

    “แต่ ถ้าเธอเก็บแผนแบบนั้น เธออาจจะพังทลายลงเอาได้น้า… ฉันก็เลยต้องมาขอร้องสักหน่อย”

    “…ขอถามหน่อยว่าทำไม?”

    “เธอจะทำให้ลูกสาวสดชื่นยังไง ถ้าเธอไม่ได้ใส่ใจตัวเองบ้างล่ะ?”

    มันก็ชัดเจนอยู่แล้วนี่

    แต่ละวัน เธอเป็นห่วงถึงลูกสาวและอนาคตข้างหน้า แล้วทำให้พวกเธอมีเหตุผลที่อยู่ เธอทอดทิ้งความเป็นอยู่ของตัวเองไป

    เมื่อใดที่เวลาของ Sophie และ Tio มาถึงอิสระ ชีวิตของ Shirley ก็น่าจะไร้ความหมายเต็มทีแล้วล่ะ

    “นั่นทำไมฉันถึงต้องทำ ความว่างเปล่าเดียวดายบนสนามรบที่เละเทะแบบนั้นมันเล่นไม่สนุกเลยล่ะ”

    “เล่นกับชีวิตของคนอื่นเพื่อความสนุกส่วนตัวเนี่ยนะ หา…? เธอนี่ไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ”

    “ก็ธรรมดา คนที่อยู่ต่อหน้าเธอคือแม่มดทองนะ… ไม่มีอะไรในวิมานที่ฉันไม่สามารถเข้าไปแหยมด้วยความพอใจได้”

    แม่มดนั่นไม่เปลี่ยนมาตั้งแต่ยุคโบราณแล้ว เธอเป็นพวกเอาแต่ใจตัวเองและมักสร้างความลำบากให้ผู้คนไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม แต่บางครั้งเธอก็จะเข้าไปช่วยผู้คนอยู่บ้าง และถึงแม้บางคนจะมองเธอเป็นตัวโกง คนอื่นต่างก็รักเธอดั่งเทพีแห่งความโชคดี

    “เพราะฉะนั้น จงเรียนให้สนุกกับการผจญภัยซะ หนู ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อผจญภัยกับเพื่อนฝูงอย่างสนุกสนาน และบางครั้งในอนาคต ก็ต้องหาเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ด้วยนะ คนที่ไม่มีความสุขของตัวเองอย่าหวังที่จะทำให้เด็กมีความสุขได้นะ”

    “Canary…”

    “เอาล่ะ อย่างที่พูดมานั่นแหละ เป้าหมายของฉันก็ยังคงที่จะได้เห็นความอดสูและสีหน้าที่อับอายของเธอในชุดเมดที่แสนลามกไง! ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!”

    “ขอคืนคำพูดที่น่าประทับใจให้เธอล่ะกัน”

    บางที เธอก็สปอยออกมาตรงๆเลย

    (แต่… ก็ถูกนะ นักผจญภัยควรที่จะเป็นคนแบบนั้น)

    เธอนึกย้อนกลับไปตอนที่เธอไม่มีอะไรเลยนอกจากผู้หญิงที่อ่อนแอคนหนึ่ง

    เธอมาจากสังคมที่รักและเกลียดชังที่ซ่อนอยู่หลังการประจบประแจงและการหลอกลวง และหลังจากที่เธอถูกหักหลังและกล่าวหา ความทรงจำเหล่านั้นก็เหลือแต่เรื่องความแข็งแกร่งอันเหลือเชื่อที่เธอค้นพบที่ยากที่จะมีใครเชื่อไม่ว่าจะพูดอะไรก็ตาม กลัวว่าความมืดมนนั้นอาจจะเข้าไปอยู่ในจิตใจพวกเขา

    แต่ ตรงข้ามกับสังคมชนชั้นสูงที่เจตนารมณ์แท้จริงของทุกคนที่ซ่อนอยู่หลังหน้ากากของความหลอกลวงนั้น นักผจญภัยที่ป่าเถื่อนและหยาบคายไม่ได้ปกปิดความน่าเกลียดที่อยู่หลังคำพูดอ่อนหวานเลย และมักจะสวมใจไว้บนปกแขนเอาไว้

    “หม่าม้า~! คุณ Martha กำลังจะไปถ่ายรูปที่ระลึกแล้วนะคะ!”

    “แม่คะ เร็วเข้า”

    “จ้า จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”

    แล้วเธอก็ก้าวกลับเข้าไปยังปาร์ตี้

    แน่นอนว่า ในขณะที่เธอไม่ได้คิดว่าเธอจะได้มาอยู่กับทุกคนอย่างกะทันหันนั้น เธออาจจะต้องมาคอยดูผู้คนด้วยความสงสัยบ้างนับจากนี้ คนพวกนั้นที่ทำให้ไม่มีความลับต่อเจตนาพวกเขาคือทองและเกียรติ บางทีอาจจะเป็นไปได้ที่จะยอมเชื่อใจพวกเขา

    เธอไม่ได้หยุดทำให้ลูกสาวเธอมีความสำคัญเป็นลำดับแรก นั่นไม่เปลี่ยนเลย… แต่ถ้าเป็นคำร้องสุดท้ายนับจากนี้ล่ะ ปาร์ตี้นั้นก็คงจะเหมือนคนที่เธอสามารถสนุกไปกับลูกสาวเธอได้…

    …งั้น บางทีการทำงานเป็นนักผจญภัยก็ไม่ได้เป็นปัญหามากสักเท่าไรนักหรอก

    นักผจญภัยที่รู้จักเธอและก็มองหน้ากันด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม

    ผู้หญิงที่เย็นชาและเถรตรง ตัวตนอสูรดาบจากสายตาที่ดุร้ายที่ดูเหมือนจะเจาะทะลวงผ่านตัวได้ ได้จับตาทุกคนขณะที่เธอยิ้มกลับ

    “แม่กำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว ลูกรออีกสักหน่อยได้มั้ย?”

    “ “…ไม่ได้” ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×