ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : เช้าหลังจากนั้น
ตะวันรุ่งขึ้น แสงแดดที่ดูเหมือนจะส่องไปยังภูเขาที่มีเหมือง Jewelsaad ตั้งอยู่
คมแหลมที่ปักพื้นรอบๆมังกรล้อเกวียนด้วยตะปูอาคมที่ทางโบสถ์ร่ายเอาไว้ Asterios สั่นกระดิ่งที่แขวนอยู่บนคอ
เสียงสั่นดังขึ้นมา นี่คือเวทของเขาที่ให้เขาโน้มกฎธรรมชาติได้
ตะปูสิบห้าตัวบนพื้นถูกเชื่อมติดกันด้วยแสงและเริ่มสร้างพื้นผิวขึ้นมา นั่นก็คือเป็นการสร้างบาเรียนั่นเอง
“ด้วยสิ่งนี้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่มังกรจะถูกโจมตีหรือหนีขณะที่เราอยู่ในเหมืองนี้”
ในการสั่งการรักษาปรากฏการณ์เวทมนตร์นี้ พลังงานจะต้องถูกใช้อย่างมั่นคงต่อเนื่อง
ถ้าผู้ใช้เวทมนตร์ปล่อยทิ้งเอาไว้แล้วพลังงานเวทก็จะหายไป เวทมนตร์ก็จะหายไปเป็นแบบกายภาพแล้วก็ปลิวไปกับสายลม
เพื่อเป็นการป้องกัน จำนวนของเครื่องมือเวทมนตร์จึงได้ถูกพัฒนาขึ้นมา รวมทั้งตะปูอาคมพวกนี้ด้วย
“จากนี้ไป เราจะเริ่มปราบมอนสเตอร์ที่อยู่ในเหมือง Jewelsaad ฉันอยากให้ทุกคนตรวจสอบสิ่งของกับอาวุธด้วย เราจะเริ่มไปให้เร็วที่สุดเท่าที่ทุกคนพร้อม”
ทุกคนพยักหน้า แล้ว Asterios, Kyle กับนักผจญภัยแรงค์ E คนอื่นๆก็เริ่มตรวจสอบของที่พวกเขามีอย่างละเอียด ในขณะเดียวกันทางด้าน Shirley นั้นก็เอากระเป๋าออกมาดูสักพักแล้วก็หันกลับมาสนใจทางเข้าเหมือง
“คุณ Shirley คุณไม่ตรวจสอบอาวุธสักหน่อยหรือ?”
“นายพูดแบบนั้นไป แต่ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่มีอาวุธเลยหรือ?”
เพื่อให้ Cudd กับ Leia ที่มองดูเธอด้วยความสงสัยพอใจ Shirley จึงได้ขยายอาวุธให้มาอยู่ในมือที่ไม่ถืออะไรสักพักก่อนที่จะมีดาบโค้งออกมา
“พวกนายก็ไม่ต้องห่วงฉันหรอก ฉันเตรียมเอาไว้แล้ว”
“โห ดูไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย นี่มันเวทช่องว่างหรือ?”
Asterios ที่ยืนอยู่ข้างๆนักผจญภัยหนุ่มสาวสองคนมองดูของที่หาดูได้ยาก
“ข้าเคยได้ยินว่ามีไม่กี่คนเท่านั้นที่จะฝึกเวทมนตร์แบบนั้นได้ในโลก Shirley เองก็เป็นหนึ่งในนั้นหรือ?”
“ไม่นี่ นี่เป็นแค่การประยุกต์ใช้งานของอุปกรณ์เวทมนตร์ที่แม่มดให้ฉันมานะ มันช่วยได้มากเนื่องจากดาบนั้นสามารถหลุดออกจากตัวได้อย่างรวดเร็วถ้าหากมันเปื้อนด้วยเลือดนะ”
“ประยุกต์ใช้งาน… ข้ามีคำถามบางอย่าง แต่บางทีข้าก็สงสัยว่าเจ้าจะให้คำตอบข้านะ”
“จริง ‘มีเพียงคนอวดดีเท่านั้นที่จะยื่นสิ่งนั้นไปแลกกับพวกเขา’ ก็อย่างที่ว่านั่นแหละ”
คำคมติดปากของเหล่านักผจญภัย Asterios จึงตัดสินใจไม่ฝืนเธอไปมากกว่านี้
“แต่ ที่จริง การยืมพลังจากแม่มดนั้น เจ้าจะต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อด้วยนะ”
“เฮ้ ฉันเองก็สงสัยมาสักพักนึงแล้ว แต่ ‘แม่มด’ นั่นเธอคงไม่ได้หมายถึงกิลด์มาสเตอร์ใช่มั้ย?”
Leia ถามอย่างระแวง
“ถูกเผงเลยล่ะ ถึงแม้จะมีนักผจญภัยหญิงจำนวนมากที่ใช้เวทมนตร์ได้ก็ตาม เธอก็เป็นคนเดียวเท่านั้นที่ถูกเรียกว่า ‘แม่มด’ นะ”
“หืมมม… มิน่าล่ะ ถึงได้น่าแปลกแน่ที่ใช้อาวุธแบบนั้น”
“ฉันเองก็พูดเหมือนกับเธอด้วยนั่นแหละ”
เทียบกับ Cudd ที่มีเพียงมีดสั้นกับ Kyle ที่มีกระบองที่ติดตะปูเหล็ก Leia ก็ได้เอาของดีที่แสนภูมิใจในคันธนูหน้าไม้ของเธอ
“ถึงเธอจะไม่ใช่สายเลือดแท้ ฉันก็นึกว่าเอล์ฟจะต้องพกแต่คันธนูมาเสียอีก – มันแปลกนะที่จะเห็นคนใช้เครื่องมือของคนแคระด้วย เผ่านั้นดูท่าจะขัดแย้งกันเลยนี่นา”
“ก็นะ ตั้งแต่ฉันโตมาในราชอาณาจักร ฉันก็ไม่ได้เจอกับพวกคนแคระอื่นแล้ว แต่ Dimros นั้นใจดีกับฉันจริงๆนะ”
“Leia เธอเองก็เป็นลูกค้าของร้าน Dimros ด้วยหรือ?”
“ใช่ เขาทำตัวดีกับฉันมาตลอดตั้งแต่มาที่เมืองเป็นครั้งแรก… เดี๋ยวนะ Shirley เธอเองก็ไปที่ร้านเขาด้วยหรือ!?”
สองคนนั้นได้พบบางอย่างที่ธรรมดาอย่างคาดไม่ถึง
“มีช่างตีเหล็กในเมืองนี้ตั้งเยอะแยะ แต่เขาก็เป็นคนที่มีทักษะมากที่สุดล่ะ”
“เห็นด้วย! ฉันเองก็มีคันธนูนะ รู้มั้ย แต่ฉันชอบใช้หน้าไม้มากกว่าน่ะ”
“เพราะแขนเธอมันเล็กเกินไปที่จะดึงธนูได้ต่างหากล่ะ”
Leia เตะเข้าแข้ง Cudd โดยไม่พูดอะไร ถึงแม้ว่าธนูธรรมดาจะสามารถยิงได้ในระยะไกลกว่าธนูหน้าไม้ก็ตาม แต่ด้วยร่างกายของเธอเหมือนอย่างกับเด็ก เธอจึงเหมือนกับว่าไม่จำเป็นที่จะต้องมีความแข็งแกร่งที่จะต้องทำแบบนั้นเลย
“อีกอย่างหนึ่งนะ Shirley ถ้าเป็นไปได้ ก่อนที่จะเข้าไปในเหมือง ฉัยหวังว่าเธอน่าจะเอาศพของไอ้แบดโบโนโบออกมาด้วย”
“ก็ไม่คิดอะไรหรอก แต่ทำไมล่ะ?”
“ก็นะ ฉันอยากจะเอามันมาวางล่อให้พวกมันออกมาด้วย 《Hate Area》 นะ”
แต่เวทมนตร์ชนิดนี้ได้รับการพิจารณาว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องจากทางโบสถ์และการนำไปใช้ถือเป็นเรื่องต้องห้าม แม้แต่พระที่รับใช้โบสถ์ก็ยังไม่เคยเห็นการเอาไปใช้เลย
“…จะมีโอกาสที่มีคนเรียกเธอว่าเป็นพระทรยศมั้ยเนี่ย?”
“พูดอะไรของนายล่ะ? ใช่ วิธีนี้มันผิดจรรยาบรรณ แต่ฉันเกือบจะเอาไปใช้กับสิ่งที่เห็นเห็นพรรคพวกถูกฆ่าไปแล้วเพราะฉันตัดสินว่าจะไม่ใช้มนนะ”
“ฉันเห็นด้วยกับเธอเลย”
ในขณะที่ทำพิธีกรรมเช่นนี้เป็นการดูหมิ่นศรัทธา ปล่อยให้ผู้ตายบนผลประโยชน์ของเขาอาจจะกลายเป็นความผิดฝังลึกยิ่งกว่าสายตาของเทพเสียอีก
ไม่ใช่ทุกศึกที่สามารถชนะได้ใสสะอาด ต่อให้เป็นบาทหลวงในระดับสูงโบสถ์ก็อาจจะกระทำการที่ผิดได้ พระจึงต้องเป็นผู้ที่อดทนต่อความยากลำบากเพื่อส่วนรวม
“เอาล่ะ ถ้าฉันทำตรงนี้ ฉันจะเอาคนสอดแนมมากับฉันด้วย อาจจะดีต่อมือใหม่ที่กำลังฝึกอยู่ขณะที่เราอยู่ตรงนั้นไปด้วย”
“เอ๋? ฉันหรือ?”
Cudd ที่กำลังยุ่งกับการทะเบาะด้วยฟันและเล็บกับ Leia ต่างก็มันมามองทันที
“ก่อนที่ฉันจะไป ฉันขอถามหนึ่งคำถาม พวกเธอสามารถใช้เวทมนตร์ที่เรียกว่า《Silence》ได้มั้ย? ฉันรู้ว่ามันมีประโยชน์มากสำหรับการสอดแนมนะ”
“อา ทำได้สิ”
“งั้นก็ไม่มีปัญหา ตามฉันมา”
Shirley หันกลับเข้ากลุ่มแล้วก็มุ่งหน้าเข้าสู่เหมือง หลังจากที่มอง Asterios อย่างระแวงและรับเอาสีหน้าสุขุมจากหน้าตาที่เหมือนกับวัว เขาก็ตามหลังผู้หญิงผมขาวไป
พวกเขาเข้าไปในด้านภูเขาด้านขรุขระที่ปกคลุมไปด้วยตะใคร่น้ำ ด้วยเสียงแว่วจากภายในเหมืองที่มีลมพัดผ่านอยู่
“สิ่งที่เราจะต้องทำก็คือฆ่าลิงสักตัวแล้วเอามันกลับมา แต่ถ้าเราทำให้พวกมันตื่นตกใจก่อนที่จะทำการโจมตีอย่างแท้จริง เราจะตกที่นั่งลำบากได้ เราต้องเก็บศพโดยไม่ใครพรรคพวกตัวใดรู้ แต่พวกนายรู้มั้ยว่าเราจะทำกันยังไง?
“เอ๋?”
ไม่มีใครรู้เลยหรือ? ขณะที่ Cudd จ้องเธอด้วยความสับสนนั้น Shirley ก็พูดต่อไป
“จินตนาการว่ามันคืออาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดของนักผจญภัย นายจะต้องนึกภาพเอาไว้ให้ได้ว่าศัตรูนั้นทำอะไรได้บ้าง และจะต้องทำอะไรในการตอบโต้ ถ้าหยุดคิดล่ะก็ มีสิทธิ์ตายได้นะ”
“จ-จริงด้วย”
“ฉันจะทำตามคำแนะนำ เธอจะต้องทำให้ใช้ทักษะและของสามารถใช้ได้ด้วยนะ”
อันที่จริง Shirley ก็แค่สอนโดยทำให้คนอื่นคิดเพื่อตัวเอง แม้ว่าเขาอยากจะแย้ง แต่ก็ไม่มีอะไรที่เขาจะบอกได้เลยว่าเธอพูดผิด
(มันก็แค่… ศัตรูนั่นไม่เคยจับกลุ่มกันน้อยกว่าสามเองแหละน่า…)
เขารู้ดีอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังไม่เห็นสถานการณ์ภายในเหมืองเลย ตอนนี้เขาจึงได้เตรียมที่จะสอดแนมก่อน
“《ความเงียบ・เริ่มต้น》”
ด้วยพลังเวทของ Cudd ในตอนนี้ เขาสามารถขยายได้เพียง 25 เมตรจากตัวเท่านั้น แต่ก็เพียงพอสำหรับปาร์ตี้
แต่ตอนนี้ ก็ไม่ได้ต้องการที่จะทำให้มันใหญ่ ขอแค่ทำให้มันใหญ่พอที่จะครอบคลุมตัวเขากับ Shirley ก็พอ พวกเขาเริ่มเข้าไปสำรวจถ้ำ
(ตรงนั้นไง!)
มันก็ไม่ได้สำรวจมากนักเพื่อหามอนสเตอร์ที่ไล่ตามไป มองจากหลังพวกมันก็เหมือนกับลิงธรรมดา แต่ก็เป็นโบโนโบสีตัวที่มีขนโหนกดำและมีสามเขางอกออกมาจากหัวและก็มีเขี้ยวแหลมคมด้วย
ตัวนั้นแตกต่างจากลิงสามตัวที่ถือสลิง หนึ่งในพวกมันถือคฑา ดูเหมือนบางอย่างที่เขาได้บอกไว้ แต่เขาก็จำไม่ได้ว่าจริงๆแล้วมันคืออะไร
Cudd ทำหน้างอขณะที่พยายามนึกให้ออก ขณะเดียวกัน Shirley ก็เอามีดสั้นนั้นปรากฏในมือเธอแล้วก็เฉือนก้อนหินที่อยู่ใกล้ๆ
ขณะที่ซ่อนตัวด้วยช่องว่างแห่งความเงียบ เธอก็ฟันเข้ากับก้อนหินได้ง่ายราวกับเธอแล่เนยแข็ง
“สลิงเกอร์ยิงหินสาม นักเวทหนึ่ง”
เธอคงจะอ่านสีหน้ากังวลของเขาออก แต่ต้องขอบคุณแบบนั้นเลย Cudd ถึงนึกออกเลยว่าไอ้กระบองคฑาที่พวกโบโนโบใช้นั้นมันใช้เวทมนตร์ได้
(คำถามก็คือ เราจะเอามาหนึ่งตัวโดยไม่ทำให้ส่งเสียงออกมายังไง?)
แต่ปัญหาก็คือถ้าเขาล้มเหลวและก็ออกจากเขตแดนไป มันก็จะทำให้เกิดการสะดุ้งจนทำให้พรรคพวกรู้ตัว
เนื่องจาก Cudd ยังการันตีไม่ได้ว่าเขาจะสามารถจัดการกับนักเวทในเขตแดนความเงียบได้ เขาเขียนคำถามให้ Shirley ลงในสมุดที่เขาพบมาด้วย
“ถ้าฉันพยายามจะกำจัดนักเวทใน《Silent Field》แล้วจะเป็นไปได้สำหรับเธอมั้ยที่จะต้องจัดการกับศัตรูอีกสามตัวในเวลาเดียวกัน?”
มันน่าจะยากโคตรสำหรับ Cudd ที่จะไปล้อมพวกลิงด้วยเขตแดนความเงียบโดยที่ไม่ให้รู้ตัว
เนื่องจากเขาน่าจะรู้ว่าถ้าเขาเข้าไปใกล้พอที่จะล้อมพวกมันได้ เขาก็จะต้องไปเองเท่านั้น และเนื่องจากตัวที่อันตรายที่สุดก็คือนักเวท เขาก็จะตกเป็นเป้าของตัวนั้น
ดังนั้นเขาจึงน่าจะปล่อยให้ตัวอื่นให้เธอ ถึงเขาจะผิดหวังกับความสามารถของเขาที่ยังไม่ดีพอ เขาก็ตัดสินใจให้นักผจญภัยมือเก่าคอยจัดการทำให้ภารกิจสำเร็จได้
อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้ว่าเขาเองก็ขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ด้วย มันเป็นคำร้องที่บ้าบอจริงๆเลย จะมีใครที่ไหนฆ่าลิงสามตัวได้เร็วพอที่จะไม่ทำให้เกิดเสียง-?
“ไม่มีปัญหา มาเริ่มตามแผนนั่นเลย”
“ฮา…”
ในช่วงที่ลิงนักเวทถูกเขตแดนความเงียบจับตัวไว้ ก็มีดาบโค้งปรากฏที่มือของ Shirley แล้วเธอก็เริ่มขยับตัว
การโจมตีฉับพลันใส่โบโนโบตรงจุดบอดของจอมเวท Cudd ไม่อาจมองการเคลื่อนไหวของเธอได้เลย ทำให้ดูเหมือนมีลมพัดผ่านสีขาวผ่านสายตาเท่านั้น
ช่วงที่ผมขาวเบลอๆผ่านลิงตัวแรกไป มันก็มีเลือดพุ่งออกมาจากส่วนที่เหลือของคอ ส่วนอีกสองตัวที่อยู่นอกสายตาของนักเวทนั้นถึงกับเบิกตากว้างก่อนที่มันจะพยายามตะโกนร้องออกมา แต่คมดาบก็เข้าไปตัดทั้งสองอีกครั้งแล้วก็ทำให้มีเลือดพุ่งออกมาจากคอของทั้งสอง
(ฉันคงไม่ต้องจัดการตรงนี้ให้หมดหรอก!?)
ลิงนักเวทที่ยังไม่รู้ว่า Shirley เป็นคนฆ่าพรรคพวกของมันเพียงแค่ครึ่งวินาที
ในความเป็นจริง ดูเหมือนราวกับ Shirley ตั้งใจเหลือให้เขาเอาไว้ ขณะที่ Cudd ลอบเข้ามา
Cudd กระโดดออกจากด้านหลังของรอยแตกของหินและพุ่งเข้าไปหาลิงนักเวท เขารู้สึกว่าตกใจที่แผนอุกอาจนี้ได้ผล
“…!! …!? …!!”
มองเห็น Cudd พุ่งเข้าหามันแล้ว มันถึงกับตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือเลย แต่เสียงมันกลับไม่ออกมาในเขตแดนความเงียบ
มันพยายามร่ายเวทเพื่อป้องกันตัวเอง แต่ก็คงไม่ต้องบอกหรอกว่ามันล้มเหลว
มันถึงกับสับสนในสถานการณ์ที่มันไม่อาจใช้เวทมนตร์ได้อย่างสิ้นเชิง โบโนโบพยายามที่จะหนี แต่ Cudd ก็จัดการจับมันที่หลังหัวแล้วก็ใช้มีดสั้นแทงเข้าที่คอ
“ต่อให้นายทำช้าไปบ้าง… ฉันว่าการทำแบบนั้นก็ไม่ได้แย่ไปตลอดหรอก นายเองก็สอดแนมได้ดี ครั้งนี้ถือว่านายได้รับประสบการณ์เพิ่มนะ”
เมื่อเขาหายใจออกและก็คลายเขตแดนความเงียบ เขาก็ได้ยิน Shirley พูดกับเขา
ได้รับคำชมจากคนที่ทำให้แผนที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ แก้มของ Cudd ก็เริ่มแดงอายออกมา
พอๆกับที่เขารับแครอทมา เขาก็โดนตีด้วยไม้เลย มันก็ถูกที่เขาใช้เวลานานเกินไปในการขยายเขตแดนเนื่องจากเขาไม่อาจร่ายคำพูดออกมาได้
“เอาล่ะ จะว่าไป เราปล่อยให้ศพอื่นทิ้งไว้นานจนเน่าไม่ได้ เราต้องฝังพวกมันก่อนที่แบดโบโนโบตัวอื่นจะเจอแล้วทำให้ยุ่งยากกว่าเดิมนะ”
“อ๊ะ งั้นฉันจะใช้เวทดินล่ะกัน”
เหมือนกับดาบที่เตรียมเอาไว้ Shirley ดูเหมือนจะดึงเอาพลั่วออกมาจากกลางอากาศ เมื่อพวกเขาฝังพวกลิงอีกสามตัวโดยใช้พลั่วและเวทดินเสร็จแล้ว พวกเขาก็กลับไปยังที่ๆ Asterios และคนอื่นๆอยู่กับศพที่เหลือ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น