ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ไฟนรกที่ร้อนระอุ
เขตที่ 2 - ไฟนรก ชั้น 1F
ดูเหมือนว่าจะมีแต่ลาวาที่ร้อนระอุสุดๆเลย มันร้อนแบบนรกขนานแท้เลยล่ะ
Sako เริ่มบ่นร้อนออกมาก่อน
"ร้อน! ร้อนชะมัด! Yuko เป็นอะไรมากมั้ย? ตัวเกรียมหรือเปล่า?"
Yuko ถึงกับร้องแฮ่กๆเพราะความร้อน
"แฮ่กๆ ม-ไม่เป็นไรหรอก Sako จะทำให้ดีที่สุดละกัน"
"190 องศาฟาเรนไฮต์ ความชื้น 10% มันร้อนเกินกว่าที่คนทั่วไปจะรอดได้นะ..." Shin วิเคราะห์
"ร้อนชะมัด... ร้อนจะตายอยู่แล้ว! ไม่มีแอร์หรืออะไรสักอย่างเลยหรือไง? เฮ้อ แย่สิ้นดี..." Kisaragi ก็บ่นร้อนออกมาเหมือนกัน
"ก็นี่มันนรกนี่นา ฉันไม่ยอมลดการ์ดลงหรอก... เกาะกันเอาไว้นะทุกคน!" Ran บอก
"Alice... ทนร้อนไม่ไหวแล้ว..." Alice พูดโดยไม่แสดงสีหน้าความรู้สึกใดๆ แต่ดูก็รู้ว่าต้องร้อนแน่
พวกเธอเริ่มจะหมดกำลังใจที่จะก้าวต่อไปซะแล้ว ผมคงจะต้องพูดอะไรสักอย่าง...
"จะยอมแพ้แล้วหรือ?"
"ป-เปล่า! ฉันยังไม่ยอมสักแพ้หน่อย!" Sako พูด
"เห็นด้วยค่ะ! Sako ยังทนไหวอยู่ เพราะฉะนั้นก็สบายอยู่แล้วค่า!" Yuko บอก
Yuko ชม Sako ก็จริงแต่พอมองดูตัวเองแล้ว...
"ฉันเองก็อยากจะทำให้ดีที่สุด แต่... ฉันไม่อยากที่จะร้อนแบบนี้..."
"ม-ไม่เป็นไรหรอก! ฉันจะปกป้องเธอเอง!"
"จริงหรือ...Sako...?"
"แน่นอน ก็ฉันเป็นพี่สาวนี่!"
ไม่ได้ร่วมแรงร่วมใจด้วยกันเลย...
"น่าๆทุกคน... ก็อย่างที่คิดเอาไว้ มันต้องเป็นหนึ่งในการทดสอบทั้งสี่เหมือนอย่างที่ว่าถูกมั้ยล่ะ?
ถ้าผ่านตรงนี้ได้ เราก็มาครึ่งทางแล้ว... ดังนั้นก็มาพยายามให้ดีที่สุดกันเถอะ จริงมั้ย?" Tomoe พูด
"อืม... เราจะผ่านครึ่งทางตรงนี้ได้ เราต้องเน้นจุดเป้าหมายที่เส้นชัยเอาไว้..." Kisaragi พูด
"ตอนนี้ส่วนหนึ่งของเส้นชัยก็เคลียร์ไปแล้ว ความร้อนไม่ทำให้รู้สึกต้องร้อนระอุเท่าไรหรอก" Shin พูด
"เอาล่ะ! รีบไปกันเถอะก่อนที่เราจะถูกย่างเอานะ!" Ran พูด
"ค่า! เราเก่งอยู่แล้ว!" Sako ขานรับ
ดูเหมือนว่ากำลังใจทุกคนจะเริ่มสูงขึ้นมาแล้ว
เอาล่ะ ไปกันต่อ
ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ ลาวาที่ร้อนระอุพร้อมที่จะละลายพวกเราไม่ให้เหลือซาก แค่ยืนอยู่เหนือลาวาก็ยังสามารถอบย่างพวกเราได้หากมัวอยู่ตรงนี้
มันไม่ใช่เวลาที่จะมาบ่นร้อนใดๆทั้งนั้น เพราะยังมีพวกนักโทษปรากฏตัวมาให้เราต่อสู้อีก
.................................................
ผมเดินไปตามทางเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงห้องใหญ่ห้องหนึ่ง
ทันใดนั้นก็มีนักโทษตัวหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าพวกเรา
"หยุดดดดดดดดก่อน!"
"กรี๊ดดดดดดด!" Yuko ร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว "Sako! Sako! นั่นมันตาลุงหน้าตาประหลาดยุกยิกนี่!"
Sako ถึงกับฉุนออกมา
"อ-อะไรกันเนี่ย!? เฮ้ย ไอ้ตาแก่บ้า! อย่ามาทำให้ Yuko กลัวนะ!"
"ต-ตาแก่บ้า!? เจ้าบังอาจเรียกข้าว่าอย่างนี้เหรอ เจ้าไม่รู้หรือไงว่าข้าเป็นใคร!?"
"ข้าคือหัวหน้าครอบครัว Ismay, Cauter Ismay ผู้มีชื่อเสียงเรียงนามเป็นที่รู้จักแถวนี้"
แทนที่พวกเธอจะกลัว Kisaragi กลับพูดไปว่า
"หา? อะไรละเนี่ย? ดูเหมือนจะไม่ค่อยรู้สึกถึงอะไรเลย แล้วไอ้ 'Ismay' นี่มันอะไรล่ะ? ชื่อยี่ห้อเหรอ?"
"ผิดแล้วววววววววววววว! ข้าบอกว่า 'ครอบครัว' ไม่ใช่เหรอไง!?"
"งั้นนายก็เป็นแค่หัวหน้ามาเฟียที่คุมเขตนี้อยู่สินะ" Shin พูด
"ฮ่าๆๆ! ใช่แล้ว อย่างงั้นเลยล่ะ! เป็นยังไงล่ะยัยหนู? กลัวข้าไปซะ! บูชาข้าซะ!"
แต่ดูเหมือนว่า...
"หา? เราไม่สะดุ้งตกใจกับไอ้บ้าอย่างนายหรอกนะ" Ran พูด
"อืมม... นั่นสิน้า ถ้าคุณหน้าหล่อกว่านี้หน่อย แล้วก็เปลี่ยนคำพูดแนะนำตัวให้น่าสนใจกว่านี้สักหน่อย น่าจะดีกว่านี้นะ..." Tomoe พูด
ฉึก!
"...รู้สึกผิดหวังชะมัด..." Alice เองก็ไม่ได้รู้สึกกลัวไปด้วยเลย
ฉึก! ฉึก!
"จ-เจ้าพูดว่าอะไรนะะะะะะ!?"
ดูเหมือนว่ามันจะโกรธเข้าจริงๆแล้วสิ
"...ฮึ่ม... ใครจะไปสนล่ะ พวกเจ้ายังไม่เห็นพลังที่แท้จริงของข้าหรอก!"
"ข้าจะแสดงให้เห็นเอง!"
และแล้วการต่อสู้กับเจ้า Burn Rage จึงได้เริ่มต้นขึ้น
ดูเหมือนว่ามันจะโจมตีแรงน่าดูเลย
โดนเล่นงานเพียงไม่กี่ทีก็เกือบจะตายอยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน พวกเธอก็ไม่ยอมจึงได้เข้าไปโจมตีมัน แต่ว่า...
"เฮ้ย! ทำไมการโจมตีของเราถึงไม่ได้ผลล่ะ!?" Kisaragi พูดด้วยความแปลกใจ
"อึก... การป้องกันแข็งแกร่งมาก!" Sako บอก
"แย่แล้วล่ะ! รีบถอยออกมาก่อน!" Shin บอก
ดูเหมือนว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ พวกเธอทำอะไรมันไม่ได้เลย ไม่เหมือนกับศัตรูตัวที่ผ่านมา
"อ-อะไรของมันเนี่ย? แกร่งชะมัดยาดเลย!" Ran พูด
มันหัวเราะเยาะพวกเธอออกมา
"ฮ่าๆๆ! เห็นหรือยังล่ะ!? พลังที่แท้จริงของข้า!?"
"พวกเจ้านะอ่อนแอเกินไป! ข้าจะไม่คุยกับพวกลูกแมวหรอกนะ"
Sako รู้สึกเจ็บใจสุดๆ
"โธ่เว้ย! มาสู้กันอีกครั้งหนึ่งเซ่!"
"หืม พวกเจ้ายังอ่อนแอเกินไปที่จะมาเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้"
"แต่ถ้าเจ้าเอาชนะครอบครัวเทพเจ้าความมืดทั้งสี่นี้ไปได้ ข้าจะสู้กับพวกเจ้าอีกครั้ง"
Kisaragi ไม่สนคำพูดของมัน เธอเตรียมดาบจะเข้าไปฟันกับมันแล้ว
"ฮึ! จัดการมันเลยละกัน!"
Kisaragi เข้าไปเล่นงานมันได้ก็จริงแต่...
"ฮ่าๆๆ! นั่นเป็นแค่ร่างวิญญาณเท่านั้น!"
"เอาล่ะ ข้าจะรอพวกเจ้าอยู่ชั้นบน แล้วเจอกันใหม่ เจ้าลูกแมว ฮ่าๆ..."
"พยายามพามายังที่นั่นให้ได้ละกัน!"
"ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ!"
ก่อนที่มันจะค่อยๆหายตัวไป
"บ้าชะมัด! มันหยามน้ำหน้าพวกเรามากไปแล้ว!" Ran ถึงกับหงุดหงิดออกมา
"...ไม่มีทางที่เราจะปล่อยให้เขาทิ้งเกมขณะที่เขากำลังชนะอยู่..." Tomoe พูด
"แน่นอน! เราต้องเอาคืนชำระหนี้ให้สาสมไปเลย!" Shin พูด
ก่อนที่เธอจะเริ่มพูดต่อขึ้นมา
"เพื่อกิลด์มาสเตอร์หมายเลขหนึ่งแห่งเซิร์ฟเวอร์ Chaos ที่ต้องอับอายขายหน้า!"
"...เซิร์ฟเวอร์...?" Sako งง
"...กิลด์มาสเตอร์...?" Yuko ก็งงเหมือนกัน
นี่มันภาษาในเกมออนไลน์หรือไงเนี่ย
"...อะแฮ่ม... ก็อย่างที่ว่านั่นแหละ เราจะต้องไปจัดการกับลูกน้องของมัน เจ้าความมืดทั้งสี่!" Shin เปลี่ยนคำพูดนิดหน่อยให้เหมาะสม
"ใช่ เธอพูดถูก! ไปกันเลยยยยย!" Sako พูด
ตอนนี้ ผมต้องตามหาพวกลูกน้องของ Burn Rage ว่ามันซ่อนอยู่ตรงไหน ผมคิดว่านี่ต้องเป็นการทดสอบอย่างหนึ่งที่ต้องอาศัยการรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้วล่ะ ซึ่งแน่นอน มันไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่เห็นแน่ ผมสงสัยว่าพวกเธอจะสามารถผ่านการทดสอบนี้ไปได้อย่างไรกัน
ดูเหมือนว่าจะมีแต่ลาวาที่ร้อนระอุสุดๆเลย มันร้อนแบบนรกขนานแท้เลยล่ะ
Sako เริ่มบ่นร้อนออกมาก่อน
"ร้อน! ร้อนชะมัด! Yuko เป็นอะไรมากมั้ย? ตัวเกรียมหรือเปล่า?"
Yuko ถึงกับร้องแฮ่กๆเพราะความร้อน
"แฮ่กๆ ม-ไม่เป็นไรหรอก Sako จะทำให้ดีที่สุดละกัน"
"190 องศาฟาเรนไฮต์ ความชื้น 10% มันร้อนเกินกว่าที่คนทั่วไปจะรอดได้นะ..." Shin วิเคราะห์
"ร้อนชะมัด... ร้อนจะตายอยู่แล้ว! ไม่มีแอร์หรืออะไรสักอย่างเลยหรือไง? เฮ้อ แย่สิ้นดี..." Kisaragi ก็บ่นร้อนออกมาเหมือนกัน
"ก็นี่มันนรกนี่นา ฉันไม่ยอมลดการ์ดลงหรอก... เกาะกันเอาไว้นะทุกคน!" Ran บอก
"Alice... ทนร้อนไม่ไหวแล้ว..." Alice พูดโดยไม่แสดงสีหน้าความรู้สึกใดๆ แต่ดูก็รู้ว่าต้องร้อนแน่
พวกเธอเริ่มจะหมดกำลังใจที่จะก้าวต่อไปซะแล้ว ผมคงจะต้องพูดอะไรสักอย่าง...
"จะยอมแพ้แล้วหรือ?"
"ป-เปล่า! ฉันยังไม่ยอมสักแพ้หน่อย!" Sako พูด
"เห็นด้วยค่ะ! Sako ยังทนไหวอยู่ เพราะฉะนั้นก็สบายอยู่แล้วค่า!" Yuko บอก
Yuko ชม Sako ก็จริงแต่พอมองดูตัวเองแล้ว...
"ฉันเองก็อยากจะทำให้ดีที่สุด แต่... ฉันไม่อยากที่จะร้อนแบบนี้..."
"ม-ไม่เป็นไรหรอก! ฉันจะปกป้องเธอเอง!"
"จริงหรือ...Sako...?"
"แน่นอน ก็ฉันเป็นพี่สาวนี่!"
ไม่ได้ร่วมแรงร่วมใจด้วยกันเลย...
"น่าๆทุกคน... ก็อย่างที่คิดเอาไว้ มันต้องเป็นหนึ่งในการทดสอบทั้งสี่เหมือนอย่างที่ว่าถูกมั้ยล่ะ?
ถ้าผ่านตรงนี้ได้ เราก็มาครึ่งทางแล้ว... ดังนั้นก็มาพยายามให้ดีที่สุดกันเถอะ จริงมั้ย?" Tomoe พูด
"อืม... เราจะผ่านครึ่งทางตรงนี้ได้ เราต้องเน้นจุดเป้าหมายที่เส้นชัยเอาไว้..." Kisaragi พูด
"ตอนนี้ส่วนหนึ่งของเส้นชัยก็เคลียร์ไปแล้ว ความร้อนไม่ทำให้รู้สึกต้องร้อนระอุเท่าไรหรอก" Shin พูด
"เอาล่ะ! รีบไปกันเถอะก่อนที่เราจะถูกย่างเอานะ!" Ran พูด
"ค่า! เราเก่งอยู่แล้ว!" Sako ขานรับ
ดูเหมือนว่ากำลังใจทุกคนจะเริ่มสูงขึ้นมาแล้ว
เอาล่ะ ไปกันต่อ
ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ ลาวาที่ร้อนระอุพร้อมที่จะละลายพวกเราไม่ให้เหลือซาก แค่ยืนอยู่เหนือลาวาก็ยังสามารถอบย่างพวกเราได้หากมัวอยู่ตรงนี้
มันไม่ใช่เวลาที่จะมาบ่นร้อนใดๆทั้งนั้น เพราะยังมีพวกนักโทษปรากฏตัวมาให้เราต่อสู้อีก
.................................................
ผมเดินไปตามทางเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงห้องใหญ่ห้องหนึ่ง
ทันใดนั้นก็มีนักโทษตัวหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าพวกเรา
"หยุดดดดดดดดก่อน!"
"กรี๊ดดดดดดด!" Yuko ร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว "Sako! Sako! นั่นมันตาลุงหน้าตาประหลาดยุกยิกนี่!"
Sako ถึงกับฉุนออกมา
"อ-อะไรกันเนี่ย!? เฮ้ย ไอ้ตาแก่บ้า! อย่ามาทำให้ Yuko กลัวนะ!"
"ต-ตาแก่บ้า!? เจ้าบังอาจเรียกข้าว่าอย่างนี้เหรอ เจ้าไม่รู้หรือไงว่าข้าเป็นใคร!?"
"ข้าคือหัวหน้าครอบครัว Ismay, Cauter Ismay ผู้มีชื่อเสียงเรียงนามเป็นที่รู้จักแถวนี้"
แทนที่พวกเธอจะกลัว Kisaragi กลับพูดไปว่า
"หา? อะไรละเนี่ย? ดูเหมือนจะไม่ค่อยรู้สึกถึงอะไรเลย แล้วไอ้ 'Ismay' นี่มันอะไรล่ะ? ชื่อยี่ห้อเหรอ?"
"ผิดแล้วววววววววววววว! ข้าบอกว่า 'ครอบครัว' ไม่ใช่เหรอไง!?"
"งั้นนายก็เป็นแค่หัวหน้ามาเฟียที่คุมเขตนี้อยู่สินะ" Shin พูด
"ฮ่าๆๆ! ใช่แล้ว อย่างงั้นเลยล่ะ! เป็นยังไงล่ะยัยหนู? กลัวข้าไปซะ! บูชาข้าซะ!"
แต่ดูเหมือนว่า...
"หา? เราไม่สะดุ้งตกใจกับไอ้บ้าอย่างนายหรอกนะ" Ran พูด
"อืมม... นั่นสิน้า ถ้าคุณหน้าหล่อกว่านี้หน่อย แล้วก็เปลี่ยนคำพูดแนะนำตัวให้น่าสนใจกว่านี้สักหน่อย น่าจะดีกว่านี้นะ..." Tomoe พูด
ฉึก!
"...รู้สึกผิดหวังชะมัด..." Alice เองก็ไม่ได้รู้สึกกลัวไปด้วยเลย
ฉึก! ฉึก!
"จ-เจ้าพูดว่าอะไรนะะะะะะ!?"
ดูเหมือนว่ามันจะโกรธเข้าจริงๆแล้วสิ
"...ฮึ่ม... ใครจะไปสนล่ะ พวกเจ้ายังไม่เห็นพลังที่แท้จริงของข้าหรอก!"
"ข้าจะแสดงให้เห็นเอง!"
และแล้วการต่อสู้กับเจ้า Burn Rage จึงได้เริ่มต้นขึ้น
ดูเหมือนว่ามันจะโจมตีแรงน่าดูเลย
โดนเล่นงานเพียงไม่กี่ทีก็เกือบจะตายอยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน พวกเธอก็ไม่ยอมจึงได้เข้าไปโจมตีมัน แต่ว่า...
"เฮ้ย! ทำไมการโจมตีของเราถึงไม่ได้ผลล่ะ!?" Kisaragi พูดด้วยความแปลกใจ
"อึก... การป้องกันแข็งแกร่งมาก!" Sako บอก
"แย่แล้วล่ะ! รีบถอยออกมาก่อน!" Shin บอก
ดูเหมือนว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ พวกเธอทำอะไรมันไม่ได้เลย ไม่เหมือนกับศัตรูตัวที่ผ่านมา
"อ-อะไรของมันเนี่ย? แกร่งชะมัดยาดเลย!" Ran พูด
มันหัวเราะเยาะพวกเธอออกมา
"ฮ่าๆๆ! เห็นหรือยังล่ะ!? พลังที่แท้จริงของข้า!?"
"พวกเจ้านะอ่อนแอเกินไป! ข้าจะไม่คุยกับพวกลูกแมวหรอกนะ"
Sako รู้สึกเจ็บใจสุดๆ
"โธ่เว้ย! มาสู้กันอีกครั้งหนึ่งเซ่!"
"หืม พวกเจ้ายังอ่อนแอเกินไปที่จะมาเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้"
"แต่ถ้าเจ้าเอาชนะครอบครัวเทพเจ้าความมืดทั้งสี่นี้ไปได้ ข้าจะสู้กับพวกเจ้าอีกครั้ง"
Kisaragi ไม่สนคำพูดของมัน เธอเตรียมดาบจะเข้าไปฟันกับมันแล้ว
"ฮึ! จัดการมันเลยละกัน!"
Kisaragi เข้าไปเล่นงานมันได้ก็จริงแต่...
"ฮ่าๆๆ! นั่นเป็นแค่ร่างวิญญาณเท่านั้น!"
"เอาล่ะ ข้าจะรอพวกเจ้าอยู่ชั้นบน แล้วเจอกันใหม่ เจ้าลูกแมว ฮ่าๆ..."
"พยายามพามายังที่นั่นให้ได้ละกัน!"
"ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ!"
ก่อนที่มันจะค่อยๆหายตัวไป
"บ้าชะมัด! มันหยามน้ำหน้าพวกเรามากไปแล้ว!" Ran ถึงกับหงุดหงิดออกมา
"...ไม่มีทางที่เราจะปล่อยให้เขาทิ้งเกมขณะที่เขากำลังชนะอยู่..." Tomoe พูด
"แน่นอน! เราต้องเอาคืนชำระหนี้ให้สาสมไปเลย!" Shin พูด
ก่อนที่เธอจะเริ่มพูดต่อขึ้นมา
"เพื่อกิลด์มาสเตอร์หมายเลขหนึ่งแห่งเซิร์ฟเวอร์ Chaos ที่ต้องอับอายขายหน้า!"
"...เซิร์ฟเวอร์...?" Sako งง
"...กิลด์มาสเตอร์...?" Yuko ก็งงเหมือนกัน
นี่มันภาษาในเกมออนไลน์หรือไงเนี่ย
"...อะแฮ่ม... ก็อย่างที่ว่านั่นแหละ เราจะต้องไปจัดการกับลูกน้องของมัน เจ้าความมืดทั้งสี่!" Shin เปลี่ยนคำพูดนิดหน่อยให้เหมาะสม
"ใช่ เธอพูดถูก! ไปกันเลยยยยย!" Sako พูด
ตอนนี้ ผมต้องตามหาพวกลูกน้องของ Burn Rage ว่ามันซ่อนอยู่ตรงไหน ผมคิดว่านี่ต้องเป็นการทดสอบอย่างหนึ่งที่ต้องอาศัยการรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้วล่ะ ซึ่งแน่นอน มันไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่เห็นแน่ ผมสงสัยว่าพวกเธอจะสามารถผ่านการทดสอบนี้ไปได้อย่างไรกัน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น