ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Super Singha Action - The Mix friend

    ลำดับตอนที่ #5 : ความอดทนถึงขีดสุด

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 50



    สัปดาห์ต่อมา

    นายสิงห์ซึ่งกำลังเรียนในห้อง

    ก่อนที่จะเริ่มคาบแรกนั้น อาจารย์ประจำชั้นได้มาบอกกับนักเรียนว่า จะมีนักเรียนเข้ามาใหม่ หลังจากนั้นก็แนะนำตัว

    นักเรียนคนนั้นพอนายสิงห์เห็นหน้า เขาก็ต้องแปลกใจ

    เพราะนักเรียนคนนี้คือ Mikoto นั่นแหละ

    และยิ่งไปกว่านั้น เธอดันมานั่งใกล้ๆ เขาอีก (เพราะโต๊ะว่างที่เหลืออยู่ มันก็อยู่ใกล้กับนายสิงห์นั่นแหละ แถมยังมีตัวเดียวอีกต่างหาก) ทำเอาพวกนักเรียนสงสัย คิดว่าเธอเป็นแฟนกับนายสิงห์ ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย (เป็นเพื่อนซะยังพอว่า)

    ระหว่างเรียน นายสิงห์เรียนไม่ค่อยรู้เรื่อง Mikoto เห็นจึงได้พยายามสอนให้

    แต่เพราะความซุ่มซ่าม และความรีบร้อนของเธอเอง เลยแทนที่จะได้ช่วย มันก็กลายเป็นการสร้างเรื่องปวดหัวให้กับเขามากกว่า

    คาบวิชาภาคปฏิบัติ ดูเหมือนว่า Mikoto จะเป็นตัวป่วนสำหรับเขาอีกแล้ว เพราะพอเธอเข้าไปช่วยเท่านั้นเอง กลับทำของตกจนมีเหตุการณ์ระเบิดขึ้น ทำให้อาจารย์ในวิชาไม่พอใจ ดุด่านายสิงห์หนักพอสมควร

    สรุปง่ายๆ ก็คือ มี Mikoto มาช่วยนายสิงห์ทีไร เป็นเรื่องทุกที

    ตอนเย็น

    เขาได้เดินไปยังที่เรือนกระจก ขณะที่เขากำลังจะเปิดประตูเข้าไปนั้น

    ซ่า!!!!......

    นายสิงห์เจอน้ำสาดเข้าเต็มๆ ตัว

    “โหย! อะไรกันนี่”

    หลังจากที่เขาขยี้ตาเสร็จแล้วมองไปข้างหน้า เขาเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งทำสายยางตก เนื่องจากตกใจที่มีคนเดินเข้ามา

    “ขอ..ขอโทษค่ะ” เด็กหญิงขอโทษเขา

    “ไม่เป็นหรอก ว่าแต่สวนรอบๆ นี้เธอจัดเองหมดเลยเหรอ”

    เด็กหญิงคนนั้นตอบว่า “ใช่แล้วจ้ะ ฉันจัดเองหมดเลย”

    “สวยงามมากเลย” นายสิงห์ชม

    ทุกสายตาที่เขามองไปรอบๆ สวน เปรียบเสมือนที่ผ่อนคลายทางอารมณ์และจิตใจจนตัวเขาแทบอยากจะอยู่กลางมวลพฤกษาชาติ

    ขณะนั้นก็มีเสียงเรียกดังขึ้น “Karen Karen!!”

    “ค่ะ” เด็กหญิงขานกลับ

    นายสิงห์หันไปมอง ก็เห็นคนที่เดินเข้ามา เธอคืออาจารย์ที่ปรึกษาชมรมจัดสวนนั่นเอง

    “นายคนนี้เป็นใครกัน” อาจารย์ถาม

    นายสิงห์สะดุ้งอยู่พักหนึ่ง แล้วก็แนะนำตัว “ผมชื่อนายสิงห์ครับ เป็นนักเรียนใหม่ครับ”

    “นายสิงห์เหรอ” Karen สงสัย “คุณครูค่ะ คนนี้เหรอค่ะที่เขาลือว่า...”

    เอาล่ะสิ Karen ฟ้องครูยกใหญ่เลย นายสิงห์ไม่รู้จะทำยังไงดี แต่หลังจากที่เธอหยุดโวยวายแล้ว เธอก็ขอตัวออกจากสวนไป ส่วนนายสิงห์ก็ไปเอารถของเขาแล้วขับรถกลับบ้านไป

    เอาเป็นว่าตอนนี้ เขาก็รู้จักนักเรียนไปแล้ว 2 คน คือ Mikoto และ Karen และต่อไปข้างหน้าอาจจะมีคนรู้จักเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น...

    ตัดไปที่ด้านมาเฟีย ตอนนี้พวกมันกำลังค่อยๆ เคลื่อนทัพเข้ามา และตั้งค่อยเป็นระยะๆ บ้านใครอยู่ใกล้ค่าย ต้องย้ายหนี เพราะไม่อย่างนั้นอาจถึงตายได้

    วันต่อมา ตอนพักเที่ยง

    ขณะที่นายสิงห์กำลังเดินไปซื้อของที่สหกรณ์ในโรงเรียน

    เขาก็เหลือบไปเห็นหนังสือวารสารเล่มหนึ่ง เขาจึงหยิบขึ้นมาอ่าน

    เขาสะดุ้งตกใจอย่างมาก เมื่อเขาอ่านเจอเรื่อง “ออกเดท หรือลวนลาม?” พร้อมทั้งลงรูปนายสิงห์และ Karen ที่กำลังอยู่ในเรือนกระจกด้วย

    เขาจึงทิ้งวารสาร แล้วรีบวิ่งขึ้นไปบนห้อง

    ระหว่างทางที่นายสิงห์กำลังวิ่งบนระเบียงอยู่นั้น เขาก็ไปเหลือบเห็นพวกนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่ง กำลังยืนล้อมนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งเห็นชัด เพราะคนที่ถูกล้อมนั้น ก็คือ Karen นั่นเอง

    “นี่เธอ ไปทำอะไรเขาหรือเปล่า” นักเรียนในกลุ่มถาม

    “เปล่าเลย ไม่ได้ทำนะ” Karen ปฏิเสธ

    “แล้วทำไมถึงลงข่าวว่า จะพยายามลวนลามกันล่ะ” พวกนั้นแย้ง

    “ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย” Karen พูด

    ยิ่ง Karen ปฏิเสธ ก็ยิ่งถูกพวกนักเรียนหญิงกล่าวหาอย่างหนัก จนนายสิงห์ทนไม่ไหว จึงเข้าไปยังกลางวง แล้วบอกกับพวกนั้นว่า

    “ขอพูดตามความจริง เราไม่ได้มีอะไรกับ Karen เลย เพราะเพิ่งรู้จักกันเท่านั้นเองนะ”

    แต่พวกนักเรียนหญิงก็โต้แย้งเถียงกลับไปว่า “โกหก! แกคือคนที่พยายามจะลวนลามผู้หญิงในโรงเรียน แกนะมันคนลามก!! ไม่มีศีลธรรม!!!”

    ไม่ว่านายสิงห์จะแก้ตัวยังไง พวกนั้นก็กล่าวหานายสิงห์ว่าเป็นคนลามก จนกระทั่งพวกนั้นได้พยายามจะเข้ามารุมจัดการนายสิงห์

    เขาจึงได้รีบเอามือของเขาไปจับข้อมือ Karen ทันที แล้วก็รีบฝ่าวงจากนั้นก็หนีไปด้วยกันทั้งคู่

    (เหตุที่เขาพา Karen หนีไปด้วย เพราะเกรงว่า Karen จะถูกลูกหลง)

    จนกระทั่งหนีพ้นไปแล้ว

    “ฉันเข้าใจเธอแล้วล่ะ นายสิงห์ ที่จริงแล้วข่าวนั้นเป็นเรื่องไม่จริงใช่ไหมล่ะ”

    “ก็แหงอยู่แล้วล่ะ แต่ Karen ฉันว่าเธอควรรีบไปจากฉันดีกว่า ไม่อย่างนั้นแล้ว เธออาจจะมีภัยก็ได้นะ” นายสิงห์บอก

    Karen ได้วิ่งหนีจากนายสิงห์ไปตามที่เขาบอก เธอคิดในใจอยู่ว่า คงจะไม่เป็นอะไรนะ

    หลังจากนั้นเอง นายสิงห์ก็ได้รีบกลับไปยังที่ห้อง เขาก็ต้องเจอกับนักเรียนที่ตอนนี้ พวกนั้นได้กล่าวหานายสิงห์ว่าเป็นคนโรคจิต และก็ได้ขว้างปาข้าวของใส่เขาด้วย

    เมื่อเขาวิ่งหนีออกมาที่หน้าโรงเรียน เขาก็ต้องเจอกับ Karen ข้างหน้าโรงเรียน ที่ตอนนี้เธอมีสีหน้าไม่ค่อยชอบเท่าไรนัก

    “อะไรกันนี่ Karen นี่เธอ...”

    “ที่แท้ นายก็เป็นคนหลอกลวง หลอกฉันมาตลอดเลยนะ”

    “เดี๋ยวก่อนสิ คงมีอะไรเข้าใจผิดแน่เลย”

    “ไม่เดี๋ยวแล้ว!!”

    แล้ว Karen ก็วิ่งหนีนายสิงห์ไป นายสิงห์วิ่งตามเธอไป ทำให้เธอหยุดชะงักแล้วหันมา

    “ตามมาทำไม” Karen พูดเสียงดัง

    ไม่เพียงแค่นั้น เธอก็ได้ทำการตบหน้านายสิงห์ และก็ไม่ใช่ตบแบบธรรมดา เพราะเธอหยิบเก้าอี้มาจากไหนก็ไม่รู้ ยกขึ้นมาแล้วฟาดใบหน้าเขาอย่างแรง

    เปรี้ยง!!!!!!

    นายสิงห์ถูกเก้าอี้ฟาดที่ใบหน้าอย่างจัง ทำให้หน้าของเขาหันไปข้างหนึ่ง แก้มมีรอยแดง และมีเลือดไหลซิบๆ ที่ปาก

    (โห...ถ้าคนธรรมดา คงเละตุ้มเป๊ะแน่ เข้าโรงพยาบาลนอนหยอดเกลืออีกไปเป็นเดือน)

    หลังจากที่เขาค่อยๆ หันมา เอามือปิดปากที่มีเลือดไหลซิบๆ แล้วค่อยๆ พูดว่า

    “ถ้าเธอเข้าใจแบบนั้น ก็ตามใจเธอละกัน”

    แล้วเขาก็วิ่งหนีไป

    “อย่างนี้มันไม่ต่างจาก พวกที่ขับไล่เราออกจาก Scoropa เลย” นายสิงห์คิดในใจขณะที่เขาวิ่งไป

    ขณะนั้นไพบูลย์ก็เดินสวนมาพอดี เขาเห็นนายสิงห์วิ่งมาจึงทักทาย

    แต่นายสิงห์ก็ไม่สนใจ เขาวิ่งผ่านไพบูลย์เฉยเลย

    ไพบูลย์หันไปหานายสิงห์แล้วตะโกนถามว่า “นายจะวิ่งไปไหนกัน”

    นายสิงห์จึงตอบว่า “มันไม่เกี่ยวกับเรื่องของนาย”

    หลังจากที่นายสิงห์ตัดสินใจแล้ว เขาก็วิ่งไปเอารถสปอร์ต Saleen S7 ของเขา แล้วขับออกไปเลย

    พวกนักเรียนที่อยู่ในถนนที่เขาวิ่ง ต่างก็ตกใจ มีรถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็วสูงอยู่ในโรงเรียนนี้ด้วย ต่างคนต่างก็เผ่นหนีกันกระจาย วงแตกเตลิดเปิดเปิง

    Mikoto ซึ่งตอนนั้นก็อยู่แถวใกล้ๆ ประตูหน้าโรงเรียน เห็นรถ Saleen วิ่งออกนอกโรงเรียนอย่างรวดเร็ว

    “แย่ละสิ” เธอคิดในใจ

    ขณะนั้น นายสิงห์ซิ่งรถ Saleen ของเขา ผ่านถนนหลายสาย ขับหลบรถชาวบ้าน แซงซ้าย แล้วแซงขวา ด้วยความเร็วสูงกว่า 190 km/h

    เขาขับไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงทางหลวงแผ่นดิน เขาก็ขับเลี้ยวขวาขึ้น แล้วก็วิ่งต่อด้วยความเร็ว 225 km/h เนื่องจากช่วงนั้นเป็นทางตรงยาวมาก ประกอบด้วยถนนที่กว้างถึง 3 เลน เขาจึงสามารถเร่งความเร็วเพิ่มได้อีอก และก็ยังหลบรถและแซงรถไปพร้อมๆ กัน

    ต่อมา ก็มีรถสปอร์ตประมาณ 5-6 คันไล่ตามเขามา รถแต่ละคันก็เป็นรถแต่งทั้งนั้นเลย นายสิงห์สงสัยว่าไอ้รถพวกนี้ตามมาทำไมกัน เขาก็เลยรีบขับรถหนี แต่รถพวกนั้นก็ยังตามมาไม่หยุด เขาก็เลยเร่งเครื่องต่อ

    แต่พอเจอทางแยกปุ๊บ ก็มีรถสปอร์ตอีกกลุ่มโผล่มาจากทางซ้ายมือข้างหน้า

    “เฮ้ย...อะไรกันว่ะ” นายสิงห์บ่นพึมพำ

    รถของนายสิงห์ตอนนี้กำลังพุ่งเข้าหารถสปอร์ตข้างหน้า ส่วนข้างหลังก็มีรถสปอร์ตไล่ตามเช่นเดียวกัน

    แต่นายสิงห์ไม่สนใจเขา เขาหักขวาแล้วก็หลบรถข้างหน้าได้อย่างฉิวเฉียด

    แต่ว่ารถคันที่ตามมานั้น ทางข้างหน้าที่กำลังจะไปนั้น รถที่วิ่งตัดหน้ามันเลยไปแล้ว ก็เลยข้ามทางแยกไปได้ง่ายมาก

    ส่วนรถที่วิ่งตัดหน้าซึ่งเลยไปแล้ว มันก็กลับรถแล้ววิ่งขึ้นทางด่วนตามรถนายสิงห์ไป

    “บ้าชิบ! ขืนวิ่งบนทางด่วนแบบนี้ เดี๋ยวเจออีกแน่ เลี่ยงทางอื่นดีกว่า” นายสิงห์บ่น แล้วเขาก็เลี้ยวขวาเข้าเขตใจกลางเมืองไป

    นายสิงห์คิดว่า ถ้าขับวิ่งผ่านใจกลางเมือง น่าจะหนีพวกนั้นพ้น

    แต่เขาคิดผิดถนัด

    เพราะว่า ทางข้างหน้าที่เขาวิ่งนี้ เขาเจอกับรถสปอร์ตอีกจำนวนหนึ่ง มันวิ่งสวนทางเข้ามา!!! ด้วยความเร็วสูงมาก (ประมาณ 240 km/h) แถมยังวิ่งแบบหน้ากระดานอีกต่างหาก

    “อะไรกันฟ่ะ” นายสิงห์ตะคอกเสียง

    โชคดีที่เขามองเห็นซอยแคบๆ ที่พอที่จะขับรถลอดได้ แต่โชคไม่ดีที่มีรถมาบีบทั้งหน้าและหลัง

    หากเขาเข้าไม่ทัน มันก็คือเครื่องบดขยี้รถยนต์ดีๆ นั่นเอง

    ก่อนที่ระยะห่างจากรถเขาเข้าใกล้รถที่สวนมาประมาณ 10 เมตร

    เขาก็ขับเข้าซอยไปก่อนแล้ว

    ปล่อยให้พวกรถซิ่งที่ไล่ตามมานั้น หยุดรถกันซะวุ่นวาย จนเกือบชนกันเอง

    ในขณะนั้นเขาก็ขับชนถังขยะ กล่องขณะ กระเด็นไปหมด

    พอออกจากซอยได้ก็ขับตัดหน้ารถชาวบ้านคันหนึ่ง แล้วก็หักเลี้ยวขวาไป

    ทุกครั้งที่เขาขับไปทางไหน เป็นอันต้องเจอกลุ่มรถสปอร์ตทุกครั้ง แถมยังไล่ตามอย่างเอาเป็นเอาตาย จนเขาต้องขับหนีไปทางที่อันตรายมากๆ เพื่อหวังที่จะหนีรถพวกนั้นให้มันพ้นๆ เสียที แต่ก็ยังหนีไม่พ้น

    จนกระทั่งเมื่อรถ Saleen วิ่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ และรถคันอื่นๆ ที่ไล่ตามเขามาก็วิ่งขนานกับเขา

    แล้วก็ยังมีรถที่วิ่งอยู่บนถนนสายอื่นๆ แต่เป็นทางที่วิ่งไปทางเดียวกับที่เขาวิ่งอยู่ ด้วยความเร็วสูงกว่า 258 km/h

    พอรถคันที่บี้นายสิงห์เริ่มเบียดชนข้างท้ายปุ๊บ รถก็เสียหลักปั๊บ

    แต่นายสิงห์ก็พยายามควบคุมรถเอาไว้ได้ แต่ก็ทำให้ความเร็วรถตกลง ทำให้ถูกแซงไป แล้วก็ตัดหน้าเขาด้วย

    ยิ่งทำให้เขาหักเลี้ยวหลบกะทันหัน ทำให้รถยิ่งช้าลงกว่าเดิม

    จนในที่สุด รถ Saleen ของเขาก็ถูกรถคนอื่นขวางไว้ได้ ครั้นจะถอยหลังหนี เขาก็ถูกรถจอดปิดท้าย พอคิดจะหักเลี้ยวไปทางซ้ายหรือขวา ก็ถูกรถไล่ตามมาปิดขนาบทั้งสองข้าง

    สรุปก็คือ รถ Saleen ของนายสิงห์ ถูกล้อมด้วยรถสปอร์ตซึ่งเป็นรถแต่งไว้หมดทุกด้านนั่นเอง

    นายสิงห์ลงจากรถด้วยอารมณ์ฉุน

    “เออ...หยุดก็ได้ฟ่ะ พวกแก! ตามมาทำไมฟ่ะ”

    คนหนึ่งในกลุ่มรถแต่งลงมาจากรถ พอเห็นหน้าเท่านั้น เขาก็ต้องประหลาดใจมากๆ เพราะคนนั้นก็คือ Karen นั่นเอง

    “ทะ...ทะ...ทำไมเธอ...”

    “ขอโทษด้วย ฉันคิดว่า เธอจะหายโกรธแล้วซะอีก ฉันมันไม่ดีเลย” Karen พูดด้วยท่าทางที่น้อยใจ แล้วก็ร้องไห้โฮขึ้นมา

    ทำเอานายสิงห์ถึงกับต้องตายใจแล้วก็เข้าไปพูดว่า “ตกลงๆๆ ฉันผิดเองๆ หยุดร้องไห้ซะทีเถอะ”

    แล้วเขาก็ยืนหันหลังแล้วพูดขึ้นมาว่า “ฉันนี่มันเลวจริงๆ เลยน้อ.........ต่อไปก็คงไม่มีใครเชื่อใจเราอีกแล้ว โรงเรียนนี้ไม่เหมาะกับนักเรียนอย่างเราเลย”

    “ถึงบ่นไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก” เสียงผู้หญิงเสียงหนึ่งดังขึ้น

    เธอลงมาจากรถอีกคันหนึ่ง และคนอื่นๆ ที่อยู่ในรถต่างก็ลงจากรถ นายสิงห์ประหลาดใจ

    เพราะคนอื่นๆ ก็คือนักเรียนหญิงของโรงเรียนเซยะนั่นเอง

    ผู้หญิงคนที่พูดนั้น เธอมีชื่อว่า Eleanor Fortworth

    “Karen เห็นเธอขับรถออกไปด้วยความเร็วสูงมาก เธอเป็นห่วงจึงขอร้องให้พวกฉันตามไปหยุดยั้งเธอ กว่าจะหยุดรถเธอได้จะต้องใช้รถถึง 55 คันเลยล่ะ”

    แล้ว Eleanor เธอก็ได้เดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับชักดาบออกมายื่นหน้าไปที่นายสิงห์ แล้วตวัดดาบชี้ลงดิน ก่อนที่จะเก็บดาบไว้ในฝักแล้วพูดว่า

    “แต่ฝีมือการขับรถเธอก็ไม่เลวเลยนะ แถมยังใช้รถที่หายากมากๆ แบบที่พวกเราไม่มีอีกด้วย”

    “ฉันก็คิดได้แค่นั้น” นายสิงห์พูดออกมา

    “รถคันนี้แค่ดูปราดเดียวก็รู้ รถ Saleen รุ่น S7 ปี 2000 ของสหรัฐอเมริกา” Eleanor พูดแบบนี้นายสิงห์อึ้งเลย

    ไม่เคยคิดเลยว่า เธอจะรู้ลึกถึงขนาดนี้

    “เอาล่ะ ที่นี้ก็กลับโรงเรียนกัน และก็อย่าก่อเรื่องอีก” Eleanor สั่งแล้วก็ขึ้นรถ Nissan 200SX ไป

    ส่วนคนอื่นๆ ก็ขับรถของใครของมันกลับโรงเรียนไป ปล่อยให้นายสิงห์กับ Karen อยู่ตามลำพัง 2 ต่อ 2

    “ฉันเข้าใจความรู้สึกดี ฉัน...” Karen หน้าแดงเล็กน้อย

    “ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ว่า แต่ฉันรู้ว่าเธอคงจะเชื่อคนง่ายไปหน่อย ก็พอทนได้นะ” นายสิงห์พูดจบก่อนที่ทั้งสองจะขึ้นรถคนละคันกลับโรงเรียนไป

    (ลืมบอกไปว่า Karen ขับรถ Toyota Supra นะ ก็เป็นหนึ่งในรถแต่งเหมือนกันนั่นแหละ)


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×