ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Makie & Ako The two sportgirls

    ลำดับตอนที่ #4 : Makie กับ Ako กับการเยือนประเทศไทยครั้งแรก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 187
      0
      22 ต.ค. 51

    ประเทศไทย ณ สนามบินดอนเมือง
    “ว้าว เนี่ยน่ะเหรอประเทศไทย สวยจังเลยนี่แค่ขนาดในสนามบินนะเนี่ย” Ako พูดขึ้นมาคนแรกเมื่อมาถึง
    “ใช่จริงๆด้วยนี่แค่ขนาดสนามบินนะเนี่ยดูหรูขนาดนี้เลยเนาะ Ako แล้วถ้าก้าวออกไปข้างนอกล่ะ โอ้ย……ตื่นเต้นจังเลย”  Reku พูดเสริมขึ้นมาเพราะตลอดทางที่นั่งเครื่องมา Ako ไม่พูดกับใครสักคำ
    “นี่ๆพวกเธอเห็นรุ่นพี่บ้างไหม พวกเกราก็ลงจากเครื่องมานานแล้วนะฉันยังไม่เห็นเขาเลยเนี่ย” Chihaya เดินมาถามหาประธานชมรม
    “เออใช่พวกเราก็ไม่เห็นเหมือนกันนะ” พอ Ako ตอบออกไปทุกคนที่กำลังดีใจที่ได้เห็นประเทศไทยก็กลับทำสีหน้าเหมือนจะร้องไห้กันทุกคนเพราะกลัวว่าจะหลงทาง เพราะพวกนักกีฬาทั้งหมดรวมทั้ง Ako พึ่งจะเดินทางมาประเทศไทยครั้งแรกเหมือนกัน ทุกคนพยายามช่วยกันมองหาแต่ว่าไม่มีใครเห็นประธานชมรมซักคน

    “ฮือๆๆๆๆๆพวกเราต้องหลงทางแน่ๆๆเลย ถ้าไม่มีรุ่นพี่อ่ะ” มีนักกีฬาคนนึงร้องไห้ขึ้นมาทำให้เพื่อนๆต้องมาคอยปลอบกันยกใหญ่ และในขณะเดียวกันมันก็ทำให้ทุกคนขวัญเสียไปด้วย
    แต่ยังไม่ทันที่ Ako จะร้องไห้ตามเพื่อนคนนั้นไปสายตาของ Ako ก็เหลือบไปเห็นประธานชมรมเข้าพอดี Ako จึงบอกให้เพื่อนช่วยมองว่าใช่หรือเปล่า ซึ่งมันก็เป็นไปตามคาดพวกเขาเจอประธานชมรมแล้ว มันทำให้นักกีฬาทั้งหมดทั้งดีใจและแค้นใจ เมื่อพบว่าประธานชมรมกำลังยืนทำหน้าเป็นภาชนะหุงต้มกับพนักงานต้อนรับของสนามบินอยู่ทุกคนที่จึงรวมตัวกันชัดประธานชมรมจนแทบจะเดินนำทางไม่ไหว

    “โอ้ย…..เจ็บไปทั้งตัวเลยพวกเธอจะฆ่ากันให้ตายเลยหรือไงหะ เป็นผู้หญิงแท้ๆทำไมถึงชอบความรุนแรงกันจังเลย” ประธานชมรมพูดขึ้นมาเพราะโดนนักกีฬาทั้งหมดอัดจนน่วมไปทั้งตัว
    “ฉันคิดว่ารุ่นพี่น่าจะรีบๆเดินนำพาพวกเราขึ้นรถไปที่พักให้เร็วหน่อยก็ดีนะคะเพราะถ้าเอาแต่บ่นอยู่ล่ะก็รุ่นพี่อาจจะไม่ได้เดินอีกก็ได้นะคะ” นักกีฬาคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแต่ดูเหมือนในดวงตานั้นมันแฝงไปด้วยความโกรธซึ่งเมื่อประธานชมรมหันไปมองหน้าก็ถึงกับต้องหยุดพูดไปเลย(เหมือน Kaede เลยแหะ)
    “ทำไมนักกีฬาของเราถึงได้โหดเหี้ยมอย่างนี้นะ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ยเป็นประธานชมรมมาตั้งนาน” ประธานชมรมนึกอยู่ในใจ
    “เอาล่ะถึงรถแล้วทุกคนแยกย้ายกันขึ้นรถได้” ประธานชมรมสั่งให้ทุกคนขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังที่พัก ตลอดทางที่อยู่บนรถ Ako ก็ได้พูดคุยกับเพื่อนขึ้นมาบ้างดูเหมือนว่าจะเริ่มรู้สึกดีขึ้นมาบ้างแล้ว สักพักไม่นานก็มาถึงที่พัก นี่ก็คือโรงแรมเรดิสันสุดหรูนี่เอง

    “ว้าวนี่โรงแรมที่ไทยหรือเนี่ยสวยจังเลยนี่รุ่นพี่คะพวกเราพักกันชั้นไหนหรือคะ” Reku ถามด้วยความตื่นเต้น
    “นักกีฬาฟุตบอลได้พักชั้น 6 นะห้องพักพักห้องละ 2 คนแต่ว่าจะมีคนได้พักชั้น 7 ห้องนึงเพราะอยู่ชั้น 6 ห้องไม่พอใครจะเสียสละไปพักห้องที่ชั้น 7” ประธานได้จัดการแบ่งห้องพักของทุคนเรียบร้อยหมดแล้ว หลังจากนั้นจึงให้นักกีฬาเอาสัมภาระไปเก็บในห้องพักของตัวเอง
    “นี่ Ako คิดดีแล้วหรอที่จะไปพักชั้น 7 น่ะแล้วอีกอย่างเธอก็ต้องนอนคนเดียวด้วยนะนักกีฬาคนอื่นก็ได้นอนเป็นคู่แถมยังอยู่ชั้นเดียวกันแต่เธอต้องพักคนเดียวแล้วก็อยู่ชั้น 7 คนเดียวอีกนะ” Chihaya บอกกับ Ako ด้วยสีหน้าที่กังวล(กว่า Ako ซะอีก)
    “ไม่เป็นไรหรอก ฉันอยู่ได้ ฉันขอตัวเอาของไปเก็บก่อนนะแล้วเดี๋ยวเจอกันข้างล่างนะ” พอ Ako พูดก็ขึ้นห้องพักไป
    ทันทีที่ Ako เปิดประตูเข้าไปมันก็ทำให้ Ako รู้สึกประทับใจในความหรูของห้อง ห้องที่ตกแต่งด้วยของราคาแพงหลายชิ้น
    Ako เปิดประตูระเบียงออกไปเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ให้ชื่นใจหลังจากเหนื่อยจากการเดินทางมาเป็นเวลานาน

    ทางด้านนักกีฬาอีกกลุ่มหนึ่งที่พึ่งเดินทางมาถึงโรงแรมเรดิสันก็รู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กับนักกีฬากลุ่มแรกแม้แต่น้อยโดยเฉพาะ 2 สาวนักกีฬายิมนาสติกที่ดูจะตื่นเต้นมากกว่านักกีฬาคนอื่นๆ

    “นี่ๆ Misato จังดูสิโรงแรมสวยมากๆเลยเนาะ” Makie ที่ได้เห็นโรงแรมที่ไทยเป็นครั้งแรกก็รู้สึกดีใจมาก(จนเกินไปหรือเปล่าเนี่ย)
    “ใช่ๆๆสวยจริงๆเลย” Misato ก็รู้สึกเช่นเดียวกันกับ Makie
    “เอาล่ะนักกีฬาทุกคนเดียวตอนนี้ครูจะแบ่งห้องพักให้นะ นักกีฬาที่มาทั้งหมดตรงนี้เราจะได้พักห้องที่อยู่ชั้น 8 นะ แต่จะมีคนนึงต้องไปพักอยู่ชั้น 7 เข้าใจตามนี้นะ” เมื่ออาจารย์ที่นำมาพูดจบก็ให้กุญแจกับนักกีฬาเพื่อเอาของไปเก็บในห้องพักของแต่ละคน

    “Makie ได้อยู่ห้องไหนหรือ” Misato ถามขึ้นมาเพราะว่าเธอได้กุญแจคนละดอกกับ Makie
    “ฉันได้ลงไปอยู่ชั้น 7 น่ะอยู่คนเดียวอีกต่างหาก” Makie บอกกับเพื่อน
    “ไม่เป็นไรหรอกนะรีบขึ้นเอากระเป๋าไปเก็บกันเถอะได้ลงมาข้างล่างกัน และถ้าเธอไม่อยากนอนคนเดียวก็ขึ้นมาห้องฉันก็ได้นะ” Misato พูดขึ้น
    “เฮ้อ…ถึงห้องพักแล้วหรือ ทำไมฉันต้องมานอนคนเดียวด้วยเนี่ย แล้วห้องอยู่ตรงไหนน้า…767 อ๊ะอยู่นี่เอง” Makie พูดจบก็ไขห้องเข้าไปจากตอนแรกที่เธอรู้สึกไม่ดีที่ต้องนอนคนเดียว แต่พอก้าวเข้าไปในห้องความคิดเธอก็เปลี่ยนทันทีเพราะบรรยากาศในห้องดีมากอีกทั้งมีระเบียงให้ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกอีกด้วย

    ทางด้าน Ako หลังจากสูดอากาศบริสุทธิ์จนเต็มปอดแล้วก็กำลังจะเดินเข้ามาในห้องแต่ก็หันไปเห็นห้องข้างๆเปิดประตูระเบียงออกมาเธอก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อตอนที่เธอมาถึงยังไม่มีใครเข้ามาพักแต่พึ่งผ่านไปไม่ถึงชั่งโมงกลับมีคนเข้ามาพักแล้ว ช่างสมกับเป็นประเทศไทยจริงๆก็อากาศดี ห้องพักก็หรูแบบนี้ถ้าไม่มีใครเข้ามาพักก็แปลกแล้ว จากนั้น Ako จึงเดินเข้ามาในห้อง ทันทีพร้อมๆกับที่ Makie เปิดประตูระเบียงออกมาพอดี

    “ว้าว อากาศดีจังเลยไม่อยากลงไปข้างล่างเลยแหะ โชคดีจังเลยที่ได้อยู่ห้องนี้ เอ๊ะห้องข้างๆเรามีคนพักอยู่ด้วยหรือเนี่ยคงเป็นคนไทยล่ะมั้ง” Makie พูดขึ้นมาเมื่อเห็นระเบียงห้องข้างๆยังไม่ได้ปิด
    5 นาทีผ่านไป Ako เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็กำลังจะเดินลงไปข้างล่างแต่นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ปิดประตูระเบียงจึงเดินไปปิด Ako ที่เดินไปปิดประตูก็เห็นคนข้างห้องยืนอยู่ที่ระเบียง เป็นผู้หญิงผมสีแดง ขาว รูปร่างใกล้เคียงกับเธอ จึงทำให้ Ako ตกใจมากเพราะคิดว่าเป็น Makie
    Ako พยายามมองให้ดีแต่ว่า Makie นั้นหันหน้าอยู่อีกทางหนึ่งจึงทำให้ Ako มองไม่ถนัดนัก Ako จึงตัดสินใจปิดประตูระเบียงไป

    “นี่เราบ้าไปแล้วหรือไง มันจะไปใช่ Makie ได้ยังไงกันล่ะเขาก็คงเป็นนักท่องเที่ยวนั่นแหละ” Ako พูดกับตัวเอง เพราะตอนนี้เธอรูสึกคิดถึง Makie ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกหลังจากนั้น Ako จึงเดินลงไปข้างล่าง
    “อ้าวปิดประตูซะแล้วหรือว้าเสียดายจังเลยไม่ได้เห็นหน้าคนที่โชคดีเหมือนฉันเลย” Makie ที่หันกลับมาก็พบว่าเจ้าของห้องข้างๆได้ปิดประตูระเบียงไปแล้วทำให้เธออดที่จะเสียใจไม่ได้ที่ไม่ได้เห็นหน้าคนที่เธอคิดว่าโชคดีเหมือนเธอที่ได้มาพักอยู่ที่ชั้น 7 ที่มีบรรยากาศดีอย่างนี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×