ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Criminal Girls: Invitation

    ลำดับตอนที่ #4 : สาวน้อยป้ำเป๋อ Tomoe

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 62


    เขตที่ 1 : ป่าอับชื้น - ชั้น 3F

    "เมื่อไรเราจะได้พักสักทีล่ะ...?" Yuko ถาม

    ก็เมื่อไรที่ถึงที่พักก็คงจะได้พักเมื่อนั้นแหละ

    ผมเดินไปตามทางต่อไปเรื่อยๆ

    จนกระทั่งผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังวิ่งหลบหนีอยู่

    "ผ-ผู้หญิงนั่น...!" Kisaragi พูด

    "ต้องเป็นผู้หญิงก่อนหน้านั้นแน่! รีบตามเธอไปกันเถอะ!" Ran บอก

    ผู้หญิงคนนั้น คนที่อยู่กลุ่มเดียวกับ Yuko กำลังหนีไปไหนผมไม่รู้ แต่ต้องรีบตามแล้วล่ะ

    ระหว่างที่กำลังจะไล่ตามไปนั้น ก็ได้ยินเสียงประตูดังขึ้นมา

    ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นหรอกนะ แต่คิดว่าประตูน่าจะปิดเองได้

    ผมต้องระวังตัวให้มากกว่านี้

    จนมาถึงทางแยกแห่งหนึ่ง มีอยู่ 2 ประตู บานหนึ่งปิด อีกบานหนึ่งเปิด

    ผมดูประตูบานที่ปิดอยู่ มันปิดแน่นมาก เปิดยังไงก็เปิดไม่ออก

    "มันปิดอยู่นี่" Kisaragi พูด

    ดูเหมือนว่าทางนี้จะเข้าไปไม่ได้ งั้นก็ไปอีกทางหนึ่งละกัน

    ผมเลือกเดินเข้าไปยังประตูอีกบานที่เปิดอยู่

    แต่แล้วทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงๆหนึ่ง

    "หือ... นั่นเสียงอะไรนะ?" Yuko ถาม

    "ประตูมันปิดนะ...!" Alice บอก

    ผมหันหลังไปมองก็พบว่า...

    "หวา! นี่มันอะไรกันเนี่ย!? เปิดไม่ออกเลย!" Kisaragi พูดพร้อมๆกับทุบประตูไปด้วย

    "บ้าชิบ! ไม่มีประโยชน์เลย... มันล็อกเอาไว้" Ran ถึงกับสบถออกมา

    "ประตูบานที่ Yuko เดินเข้าไปนั่นมันก็ปิดล็อกเองด้วยนะ!" Sako บอก

    "มันล็อกตอนที่พวกเราเข้าไปสินะ...?" Yuko สงสัย

    "จะต้องมีสวิตช์ที่เราเปิดอีกแห่งหนึ่ง จริงมั้ย? เพราะฉะนั้นถ้ามีสวิตช์อยู่ใกล้ๆมันก็น่าจะเปิดประตูนี้ได้ด้วย" Kisaragi พูด

    ผมเองก็คิดเอาไว้อย่างนั้นเหมือนกัน พวกเราเคยถูกขังมาแล้วหลายครั้ง และก็ออกมาได้หลายครั้งเพราะสวิตช์เปิดประตูที่อยู่ด้านในนั่นแหละ

    ครั้งนี้ ผมก็ต้องคิดเอาไว้เหมือนกับที่ Kisaragi พูดมานั่นแหละว่า มันต้องมีสวิตช์อยู่ข้างในนี้

    ผมจึงได้เดินไปตามทางเรื่อยๆจนกระทั่งถึงข้างในสุด

    "นี่มันสวิตช์ตัวที่ฉันเคยกดก่อนหน้านั้นนี่นา" Yuko พูด "...Sako ลองกดดูหน่อยสิ"

    "ได้เลย! จะกดละน้า!" Sako ขานตอบ

    แล้ว Sako ก็กดปุ่มสวิตช์ตัวนั้นทันที หวังว่าประตูบานที่ปิดขังพวกเราจะเปิดออกมา

    แต่กลายเป็นว่า ไปเปิดประตูอีกบานหนึ่งที่อยู่ตรงกันข้ามแทน

    ในตอนนั้นเอง ผู้หญิงที่ถูกขังอยู่ในประตูอีกด้านก็วิ่งออกมาข้างนอกแล้ว

    "เปิดแล้ว...เหรอ...?" Ran ถามด้วยความสงสัย

    "เรา...หาจน...หมดแล้ว..." Alice บอก

    ผมไม่แน่ใจว่า ประตูบานไหนเปิดกันแน่ ฝั่งผมหรือว่าฝั่งตรงข้าม ผมรีบเดินกลับไปยังที่ประตูทันที

    ปรากฏว่าประตูฝั่งด้านผมยังคงปิดอยู่

    Kisaragi ถึงโกรธออกมาพร้อมกับทุบประตูอยู่หลายครั้ง

    "เฮ้อ... โคตรแย่สุดๆ มันดันเปิดประตูบ้าๆที่อยู่อีกด้านหนึ่งละโว้ย!
    ไม่มีประโยชน์เลย ถ้ามันไม่ยอมเปิดประตูนี่!" Kisaragi ทำหน้าไม่ค่อยพอใจ

    "จะต้องติดอยู่ในนี้จนกว่าพวกเราจะตายอย่างงั้นเหรอ... นี่มันแย่ที่สุดเลย..." Ran พูดด้วยความโกรธเคือง

    ดูเหมือนว่าพวกเราจะออกไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ เราคงจะต้องอยู่ตรงนี้ไปตลอดแล้ว

    ผมยังไม่ยอมสิ้นหวังอะไรง่ายๆ จึงได้ทำจิตใจให้เข้มแข็งเอาไว้

    แต่แล้วผู้หญิงคนที่หนีออกมาจากประตูบานตรงข้ามได้ยืนอยู่อีกฝั่งของประตูบานที่ปิดขังพวกเราเอาไว้

    "มีอะไรหรือทุกคน?"

    "อ๊ะ! เธอคนก่อนหน้านั้นนี่นา!" Ran พูด

    "ฉันไม่ใช่ 'คนก่อน' นะ ฉันชื่อ Tomoe Harukawa เรียกฉันว่า Tomoe ก็ล่ะกัน"

    "ใครจะไปสนใจเรื่องนั้นเล่า ช่วยเปิดประตูนี้หน่อยได้มั้ย?" Kisaragi ขอร้อง

    "ประตูเหรอ?" Tomoe ถาม

    "สวิตช์ที่เปิดประตูอาจจะอยู่ที่ไหนสักแห่งใกล้ๆนี้" Yuko พูด

    "ถ้ากดสวิตช์ประตูก็จะเปิดนะ!" Sako บอก

    "เห... ถ้างั้นก็เพราะพวกเธอกดมันสินะ พวกเธอนี่ดูเหมือนจะรู้ว่าเปิดมันยังไง ฉันละอิจฉาจริงๆ ฉันไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง..."

    "อืมมม ก็บอกแล้วไงว่าใครจะไปสนเรื่องจุกจิกเล่า เร็วเข้าและก็รีบไปหาสวิตช์เดี๋ยวนี้เลย!" Kisaragi ถึงกับรำคาญจนต้องพูดตัดเรื่องออกมา

    "ค่าๆ ที่รัก กรุณารอสักครู่นะคะ "

    หลังจากนั้น Tomoe ก็พยายามเดินหาสวิตช์ที่ว่า

    ระหว่างนั้นผมก็ได้แต่ยืนรออยู่หลังประตู หวังว่าเธอจะกดสวิตช์เปิดประตูให้

    ใช่ ประตูมันปิดไว้แน่นมาก

    หลายนาทีผ่านไป

    "มันไม่เปิดเลย แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ?" Yuko ถาม

    "แล้วเราจะเปิดได้จริงๆหรือ...?" Ran เองก็ชักจะไม่แน่ใจแล้วเหมือนกัน

    "จะให้รออีกนานแค่ไหนกัน!?" Kisaragi ถึงกับบ่นออกมา

    ในระหว่างนั้น Tomoe ก็เดินไปตามทางเรื่อยๆ จนกระทั่งไปพบกับสวิตช์ตัวหนึ่ง

    แล้วเธอก็กดปุ่มนั้นทันที

    แล้วประตูฝั่งด้านผมก็เปิดออกมา

    "ประตู...เปิดออกแล้ว..." Alice บอก

    "ก็เป็นห่วงเธอนิดหน่อยนะ แต่... ดูเหมือนว่าเธอจะทำได้นิ" Ran พูด

    "งั้นเราก็ออกไปจากตรงนี้ได้สินะ!? เฮ้อ---------..." Sako ถึงกับถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจสุดๆ

    งั้นพวกเราก็ออกไปจากตรงนี้ได้แล้วสินะ

    ดังนั้นไม่รอช้า ผมจึงรีบออกจากประตูตรงนั้นทันที

    แล้วก็เดินไปยังอีกทางหนึ่งที่เปิดไว้ ก่อนที่จะเดินไปตามทางเรื่อยๆ

    จนกระทั่งไปพบกับ Tomoe

    "ดูเหมือนว่าพวกคุณจะออกมาได้แล้วสินะ ยินดีด้วย" Tomoe พูด

    "ขอบใจจริงๆ ถึงแม้ว่าเธอจะ 'ทำ' ให้พวกเราต้องรอก็ตาม" Kisaragi พูดด้วยความไม่เต็มใจสักเท่าไรนัก

    "ตายจริง ไม่ได้โกรธใช่มั้ยเนี่ย? ฉันก็ทำดีที่สุดแล้วที่หาให้ไวนะ รู้ป่าว?"

    "เธอรับคำขอบคุณด้วย" Yuko พูด

    "ไม่มีปัญหา เราน่าจะทำด้วยกันในคราวต่อไปเหมือนอย่างนี้นะ! พวกคุณก็ระวังตัวด้วย!"

    แล้ว Tomoe ก็เดินผ่านประตูบานที่อยู่ใกล้ตัวไป แต่แล้ว...

    ประตูก็ปิดขังเธอเอาไว้อีกแล้ว หลังจากที่เธอเดินผ่านไปเพียงไม่กี่ก้าว

    ผมรีบเดินไปที่ประตูบานนั้นทันที

    "ฮ-เฮ้ย! นี่เธอคิดว่ากำลังทำอะไรอยู่ละเนี่ย!?" Ran ตะโกนเรียก

    "คราวนี้เราไปต่อไม่ได้แล้วนะ!" Kisaragi อารมณ์เสียออกมา

    "ตายจริง..." Tomoe อุทาน "อิหยา... ลืมสนิทไปเลย! ฉันเชื่อว่าน่าจะมีสวิตช์อยู่แถวไหนสักแห่งใกล้ๆตรงนี้ ช่วยหาหน่อยได้มั้ย?"

    "เฮอะ... ฉันว่าเราคงไม่มีทางเลือกแล้วล่ะ..." Kisaragi ไม่ค่อยชอบใจเท่าไร

    "แล้วเราก็ต้องหาสวิตช์ 'อีกแล้ว' เหรอเนี่ย..." Sako ถึงกับเบื่อหน่ายออกมาเลย

    ให้ตายสิ Tomoe ถูกประตูปิดขังเป็นครั้งที่ 2 แล้วนะเนี่ย จะป้ำเป๋อไปถึงไหนกัน

    แล้วก็ต้องมาลำบากพวกผมที่ต้องมาช่วยหาสวิตช์เปิดให้เธออีก

    ผมว่าตอนนี้คงต้องเข้าที่พักไปก่อนล่ะ



    ................................................



    ดูเหมือนว่าตลอดการต่อสู้ที่ผ่านมา Yuko ไม่มีแรงจูงใจในการต่อสู้เลย เธอขี้เกียจสุดๆ ผมคงจะต้องกระตุ้นเธอสักหน่อยแล้ว

    ผมเลือกที่จะกระตุ้น Yuko

    "จ-จะให้ฉันทำยังไงล่ะ...!?"

    ดูเหมือนว่า Yuko จะกลัวการกระตุ้นจนอยากจะร้องให้พี่สาวมาช่วยเลย

    "ท-ทำไมถึงต้องเป็นชุดพละด้วย? หยุดเถอะนะคะ..."

    หลังจากที่ผมจัดการให้ Yuko สวมชุดพละแล้ว ผมจึงเริ่มลงแส้ใส่เธอทันที

    "ไม่นะ! ช่วยด้วย! Sako!"

    หลังจากที่ผมใช้แส้ตีบนตามตัวเธอจนพอใจ

    "อึก... เกิดอะไรขึ้นแล้วสินะ..." เธอพูด

    อืม... ดูเหมือนว่าครั้งแรกยังไม่ค่อยดีเท่าไร ผมต้องลองอีกครั้งหนึ่ง

    "หวาาาาาาา! Sakoooooooooooo!"

    ดูเหมือนว่า Yuko จะร้องขอ Sako ให้ออกมาช่วยตนด้วยความหวาดกลัวต่อการกระตุ้นสุดๆ

    "ท-ทำไมถึงต้องเป็นชุดพละด้วย? หยุดเถอะนะคะ..."

    หลังจากที่ผมจัดการให้ Yuko สวมชุดนั้นอีกครั้ง ผมจึงเริ่มลงแส้ใส่เธอทันที

    "Yuko ยังไม่ได้เตรียมใจเลย"

    หลังจากที่ผมใช้แส้ตีบนตามตัวเธอจนพอใจ

    "อึก... เกิดอะไรขึ้นแล้วสินะ..." เธอพูด

    ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะยอมเข้าร่วมต่อสู้แล้วล่ะ Yuko เพิ่งจะมีแรงจูงใจมากพอที่จะสู้ได้

    แต่ผมรู้สึกว่า Yuko จะยังมีแรงจูงใจในความสามารถไม่พอ

    ผมจึงเลือกที่จะกระตุ้น Yuko ด้วยที่ช็อตไฟฟ้า

    "จ-จะให้ฉันทำยังไงล่ะ...!?"

    ดูเหมือนว่า Yuko จะกลัวการกระตุ้นจนอยากจะร้องให้พี่สาวมาช่วยเลย

    "ท-ที่ช็อตไฟฟ้าหรือคะ? Sako น่าจะชอบมันมากกว่า.. นะ?"

    หลังจากที่ผมจัดการให้ Yuko สวมหูและหางสัตว์แล้ว ผมจึงเริ่มลงที่ช็อตไฟฟ้าใส่เธอทันที

    "ไม่นะ! ช่วยด้วย! Sako!"

    หลังจากที่ผมหัดใช้เครื่องช็อตบนตามตัวเธอจนพอใจ

    "อึก... เกิดอะไรขึ้นแล้วสินะ..." เธอพูด

    อืม... ดูเหมือนว่าครั้งแรกยังไม่ค่อยดีเท่าไร ผมต้องลองอีกครั้งหนึ่ง

    "หวาาาาาาา! Sakoooooooooooo!"

    ดูเหมือนว่า Yuko จะร้องขอ Sako ให้ออกมาช่วยตนด้วยความหวาดกลัวต่อการกระตุ้นสุดๆ

    "ท-ที่ช็อตไฟฟ้าหรือคะ? Sako น่าจะชอบมันมากกว่า.. นะ?"

    หลังจากที่ผมจัดการให้ Yuko สวมชุดนั้นอีกครั้ง ผมจึงเริ่มลงที่ช็อตไฟฟ้าใส่เธอทันที

    "Yuko ยังไม่ได้เตรียมใจเลย"

    หลังจากที่ผมใช้เครื่องช็อตบนตามตัวเธอจนพอใจ

    "อึก... เกิดอะไรขึ้นแล้วสินะ..." เธอพูด

    ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอเค้นเอาความสามารถใหม่ออกมาแล้ว Yuko เพิ่งจะมีความสามารถในการรักษาได้ด้วย



    ................................................



    หลังจากที่ผมเตรียมการเอาไว้เสร็จสรรพแล้ว

    ผมจึงกลับไปดูประตูบานนั้นอีกครั้งหนึ่ง มันปิดแน่นมาก

    "มันเปิดไม่ออกเลย จะทำยังไงดี?" Yuko พูด

    "แล้วสวิตช์อยู่ตรงไหนละเนี่ย...?" Kisaragi พยายามมองหาอยู่

    "ก็ลองเดินไปดูก่อนละกัน" Alice บอก

    ผมเดินสำรวจพื้นที่แถวชั้นนี้ไปเรื่อยๆ

    จนกระทั่งมาพบกับหีบสมบัติใบหนึ่งตั้งอยู่กลางพื้น

    "นั่นมัน..." Kisaragi พูด

    ผมเปิดหีบสมบัติออกมาก็พบว่าข้างในมี 2 Step Flames

    มันคือสกิลที่ใช้ร่วมกันนั่นเอง

    "เห็นล่ะ... นี่เธอ ขอลองทำนี่สักวินาทีหนึ่งได้มั้ย" Kisaragi พูดกับ Sako

    "หือ? อืมมม... ก็ได้! ฉันไม่คิดอะไรหรอกนะ" Sako ตอบรับ

    แล้ว Kisaragi ก็ได้เรียนรู้สกิล Flame Fist เป็นที่เรียบร้อย

    ผมเดินสำรวจพื้นที่นี้ไปเรื่อยๆ

    จนกระทั่งพบสวิตช์ตัวหนึ่ง

    ลองกดสวิตช์นี้ดูแล้ว แต่ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย...

    ไม่มีแม้แต่เสียงเปิดประตูด้วยซ้ำ

    แต่แล้วจู่ๆก็มีนักโทษตัวหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าพวกเรา

    ดูคุ้นตามาก มันคือเจ้า Dread Eye ตัวที่เคยสู้มาก่อนหน้านั้นตอนที่เข้าไปช่วย Yuko นั่นแหละ

    แย่แล้วไง...



    .................................................



    หลังจากที่จัดการกับ Dread Eye ไปได้แล้ว

    ดูเหมือนว่าสวิตช์ตัวนี้จะไม่ใช่อันที่ถูกต้อง

    ผมจึงต้องค้นหาสวิตช์ตัวอื่น

    "ตัวนี้ไม่ใช่สินะ..." Sako พูด

    ผมเดินสำรวจพื้นที่นี้ไปเรื่อยๆ

    จนกระทั่งพบสวิตช์ตัวหนึ่ง

    ลองกดสวิตช์นี้ดูแล้ว แต่ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย...

    ไม่มีแม้แต่เสียงเปิดประตูด้วยซ้ำ

    แต่แล้วจู่ๆก็มีนักโทษตัวหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าพวกเรา

    มันคือเจ้า Dread Eye อีกแล้ว...



    .................................................



    หลังจากที่จัดการกับ Dread Eye ไปได้แล้ว

    ดูเหมือนว่าสวิตช์ตัวนี้จะไม่ใช่อันที่ถูกต้องด้วย

    ผมจึงต้องค้นหาสวิตช์ตัวอื่นที่เหลือ

    "ตัวนี้ก็ไม่ใช่สินะ..." Alice บอก

    ผมสังเกตเห็นอะไรบางอย่างอยู่บนพื้น จึงได้หยิบขึ้นมา

    มันคือดาบไม้เก่าๆอันหนึ่งที่อยู่บนที่วางดาบ

    Ran ทำท่าทางไม่พอใจเป็นอย่างมาก

    "เฮ้ย! ตาลุง! นั่นนายจะเก็บอะไรเล่า!?"

    ผมไม่เข้าใจเลย ทำไม Ran ถึงไม่อยากจะให้ผมเก็บดาบไม้เอาไว้ล่ะ

    "ใครจะไปสนใจเกี่ยวกับดาบไม้บ้าๆนั่นล่ะ!? อย่าได้เก็บมาแบกไว้เป็นภาระดีกว่า"

    ขณะที่ผมกำลังถือดาบไม้อยู่นั้น Ran ก็ดึงเอาดาบไม้มาแล้วก็โยนทิ้งไปเลย...

    "..." Ran ไม่พูดอะไรเลย

    ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าดาบไม้นั่นทำไม Ran ไม่ยอมให้ผมเก็บ บางทีคงจะไม่ได้ใช้ทำประโยชน์อะไรละมั้ง มันก็เกะกะตัวไปเปล่าๆ

    ผมเดินสำรวจพื้นที่นี้ไปเรื่อยๆ

    จนกระทั่งพบสวิตช์อีกตัวหนึ่ง

    ลองกดสวิตช์นี้ดูแล้ว แต่ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย...

    ไม่มีแม้แต่เสียงเปิดประตูด้วยซ้ำ

    แต่แล้วจู่ๆก็มีนักโทษตัวหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าพวกเรา

    มันคือเจ้า Dread Eye อีกแล้ว...



    .................................................



    หลังจากที่จัดการกับ Dread Eye ไปได้แล้ว

    ดูเหมือนว่าสวิตช์ตัวนี้จะไม่ใช่อันที่ถูกต้องเหมือนกัน

    Kisaragi ถึงกับโกรธจนฟัดหัวฟัดเหวี่ยงออกมา

    "เฮ้ย! ไม่มีสวิตช์ตัวไหนที่ถูกต้องเลยหรือ! หมายความว่ายังไงกันละเนี่ย!?"

    "บ-บางทีเราน่าจะกลับไปยังประตูก่อนหน้านั้น..." Yuko บอก

    อะไรกันเนี่ย สวิตช์ 3 ตัวที่กดไปนั้น มีแต่สวิตช์เรียกนักโทษออกมาให้สู้ทั้งนั้นเลย แล้วจะมีสวิตช์ตัวไหนที่มันสามารถเปิดประตูได้ละเนี่ย...

    ผมจึงต้องกลับไปยังที่ประตูก่อนหน้านั้นทันที

    "เฮ้ Tomoe! สวิตช์ทั้งหมดที่อยู่ตรงนั้นมันเป็นสวิตช์หลอกๆทั้งนั้นเลย" Ran บอก

    "สวิตช์หลอกๆเหรอ? ฉันไม่รู้เลยนะว่ามันมีสวิตช์หลอกด้วย แย่จัง..." Tomoe ถึงกับใจเสียเลย

    "ฝั่งนี้ไม่มีสวิตช์ตัวไหนแล้วนะ! ช่วยไปดูแถวๆรอบตัวเธอหน่อยได้มั้ย?" Sako ขอร้อง Tomoe

    "ได้เลย! รอสักแป๊บนึงนะ"

    แล้ว Tomoe ก็เดินไปตามทางเรื่อยๆ

    จนกระทั่งมาถึงสวิตช์ตัวหนึ่ง

    "อ๊ะ ตรงนี้ก็มีด้วย!"

    แล้วเธอก็กดปุ่มสวิตช์ตัวนี้ทันที

    ปรากฏว่าประตูที่ปิดเอาไว้ก็เปิดออกมาเลย

    "ด-ดูเหมือนว่าเราจะเสียเวลาไปเปล่าๆเลยนะเนี่ย..." Kisaragi บ่นรำคาญออกมา

    "ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะแก้ด้วยวิธีง่ายๆแบบนี้..." Ran เองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน

    "...เสียแรงโดยใช่เหตุแท้ๆ..." Alice พูด

    ให้ตายสิ ถ้ารู้ว่าสวิตช์ที่เปิดประตูบานนี้ได้มันอยู่ข้างหลังเธอ แล้วทำไมถึงไม่ไปเปิดมันตั้งแต่แรก ปล่อยให้พวกเราต้องเสียเวลาตามหาสวิตช์แล้วก็ยังเจอแต่สวิตช์หลอกๆที่ทำเอาเกือบจะไม่รอดมาตั้ง 3 ครั้งแล้วเนี่ย

    Tomoe เธอนี่มันจะป้ำเป๋อไปถึงไหน

    อย่างไรก็ตาม ผมจึงได้เดินเข้าไปยังประตูบานนี้ก่อนที่จะไปพบกับ Tomoe

    Tomoe วิ่งกลับมาหาพวกเรา

    "ฮิๆๆๆๆ... ดีใจจังที่เราได้เจอกันอีกแล้วนะ"

    "ถ้าเธอไม่ได้อยู่ใกล้ประตู เราคงจะไม่เจอกันเหมือนอย่างคราวก่อนนู่นแล้ว" Kisaragi ถึงกับโกรธออกมา

    "อาาาา! โกรธอยู่หรือ? เป็นเพราะฉันซุ่มซ่ามแท้ๆเลย... ยกโทษให้ฉันด้วย..." Tomoe รู้สึกผิด

    "เฮ้อ เราดีใจนะที่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอะไรไป" Ran พูด

    "อืมมม... ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละว่าฉันยังสบายดีอยู่นะ!
    แต่ว่า พวกเธอดูท่าทางจะสนุกจังเลยน้า..."

    ก่อนที่ Tomoe จะพูดต่อไปอีกว่า

    "อยู่คนเดียวมันน่าเบื่อ... ขอฉันไปกับพวกเธอหน่อยได้มั้ยคะ!"

    "...มีเพื่อน...เพิ่มขึ้นมาอีกคนแล้ว..." Alice พูด

    แล้ว Tomoe ก็เข้าร่วมทีมกับผมเป็นที่เรียบร้อย...



    .................................................



    เหลือนักเรียนอีกคนหรือสองคนล่ะ?

    ยังไงก็เถอะ ต้องตามหาพวกเธอแล้ว!

    แล้วพวกเราก็เดินขึ้นบันไดไปยังชั้นต่อไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×