ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The choices of the chosen child [yuri]

    ลำดับตอนที่ #3 : ความสัมพันธ์ของสองเราในโรงเรียน

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 51


    .....ณ โรงฝึกดาบชินเมริว

    “นั้นไง ซากุระซากิ เซ็ตซึนะ”
    “นั้นนะเหรอ ตัวเล็กนิดเดียวเอง ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนเดียวกับที่เอาชนะรุ่นพี่ที่ได้แชมป์คราวที่แล้วได้”
    “แล้วดาบนั้นยาวชะมัดสูงพอๆกับความสูงเขาเลยน่ะ เขาใช้ดาบนั้นจริงๆเหรอหน่ะ?”
    “อย่าดูถูกน่ะเธอ นั้นมันดาบยูนางิเชียวน่ะ”
    “ นี่ๆ เขาว่ากันว่าความจริงแล้วยัยนั้นนะ ถูกรุ่นพี่สิบคนรุมด้วยความหมั่นไส้ แต่ยัยนั้นซัดพวกรุ่นพี่กลับซะจนพวกนั้นจนหงอไปเลยหล่ะ”
    “เอ๋ ....จริงเหรอเนี้ย????”
    “ยังมีอีกน่ะ ว่ากันว่าพวกอาจารย์เองก็ไม่พอใจที่ยัยนั้นเก่งเกินหน้าอาจารย์บางคน เลยโดนแกล้งให้มาฝึกกับพวกเรายังไงหล่ะ”
    “โห....แสดงว่าเขาก็เก่งมากๆเลยน่ะสิ”
    “ก็คงงั้น...แต่ฉันไม่เคยเห็นยัยนั้นคุยกับใครเลยสักคน เอาแต่ฝึกๆๆแล้วก็กลับ”
    “เหรอ แปลกคนจังน่ะ..........แต่จะว่าไปเขาก็ดูเป็นคนน่ากลัวเนอะ ไม่น่าเข้าใกล้เลย”
    “ใช่ๆ.....แววตาที่มองมาแต่ละทีนี่น่าขนลุก ยังกะปิศาจแหน่ะ”

    ..........................................
    ...............ท่ามกลางเสียงซุบซิบนินทาจากเพื่อนร่วมสำนัก ซากุระซากิ เซ็ตซึนะ ที่ปัจจุบันอายุสิบสองปีก็ดูไม่สนใจนัก เธอตรงดิ่งมาที่อาจารย์ผู้ฝึกของเธอพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า

    “ท่านอาจารย์ค่ะ........มีคำสั่งจากท่านเอชุนโดยตรง ให้ดิฉันไปเรียนกับท่านโอฮาตะค่ะ”

    แต่ดูเหมือนอาจารย์เองก็ไม่สนใจในตัวเซ็ตซึนะมากนัก
    เขาเพียงแต่พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ เซ็ตซึนะเองเห็นดังนั้นก็โค้งน้อยๆก่อนเดินจากไป พวกเพื่อนร่วมสำนักเองได้ยินก็นินทากันต่อ

    “โอฮาตะ? เขาสอนแต่พวกผู้ใหญ่ไม่ใช่เหรอ? อย่างพวกองครักษ์หรือนักรบอะไรแบบนั้นหน่ะ”
    “นั้นสิ แล้วที่สำคัญท่านเอชุนน่ะเป็นหัวหน้าของฝ่ายคันไซไม่ใช่เหรอ?”
    “อ้าว เธอไม่รู้เหรอว่าท่านเอชุนน่ะ รับอุปการะยัยนี่อยู่หน่ะ”
    “อ้อเหรอ.....ฉันไม่เห็นเคยรู้เลย”
    “ก็น่าอยู่หรอก ฉันเองที่รู้ก็เพราะพี่ฉันที่ทำงานในคฤหาสน์คันไซบอกมาต่างหาก อีกอย่างยัยนี้มันคุยกับใครซะที่ไหนหล่ะ”

    ................เซ็ตซึนะเองที่ออกมาจากโรงฝึกก็ถอนหายใจ อีกแล้ว เอาอีกแล้ว
    แต่ก็ดีแล้วหล่ะ อย่ามายุ่งกับฉันเลย ทุกวันนี้ถ้าไม่ใช่เอชุนกับโคโนเอม่อนแล้ว คนอื่นๆสำหรับเธอเป็นเพียงแค่อากาศธาตุ ถ้าไม่จำเป็นเธอก็จะไม่ปริปากพูดออกมาเลย ถามคำตอบคำ
    ปัจจุบันเธอเป็นเด็กที่เงียบขรึมและมีความเป็นผู้ใหญ่เกินกว่าเด็กธรรมดา เธอไม่รู้จักเล่น.....ไม่รู้จักเที่ยว ชีวิตเธออยู่แต่กับการฝึกดาบ นั้นก็ทำให้นับวันเธอยิ่งเป็นคนที่เต็มไปด้วยความมืดมนและเศร้าหมอง เพราะเธอไม่มีเพื่อนน่ะเอง เอชุนเองก็ชวนเธอให้หาอะไรอย่างอื่นมาทำบ้างแต่เธอก็ปฏิเสธ แต่ทุกครั้งที่เธอมีเวลาว่าง เธอก็จะแอบไปหาโคโนกะ
    .......หรือถ้าจะให้ถูกคือแอบเฝ้าดูจะมากกว่า.......

    ..................ส่วนโคโนกะเติบโตมานิสัยตรงข้ามกับเซ็ตซึนะโดยสิ้นเชิง
    โคโนกะนั้นเป็นคนร่าเริงสนุกสนาน แม้บางครั้งจะเอ๋อๆจนบางครั้งเซ็ตซึนะอดที่จะขำไม่ได้บ้าง มีหลายครั้งที่โคโนกะได้รับอันตรายเซ็ตซึนะก็แอบไปช่วยทุกครั้งโดยไม่ให้เห็นตัว
    โคโนกะเองก็มีชีวิตแบบเด็กสาวธรรมดาทั่วไปในแบบที่ควรจะเป็นตามที่เอชุนต้องการ
    เพราะเขาไม่อยากให้ลูกสาวมารู้เรื่องโลกของเวทย์มนต์แม้รู้ว่าสักวันมันจะต้องมาถึงก็ตาม เขารู้ว่ามันเป็นเพียงการยืดเวลาเท่านั้น แต่เซ็ตซึนะก็ดีใจที่โคโนจังของเธอเป็นแบบนั้น

    ................ในวันนี้หลังจากการฝึก เอชุนเรียกเธอให้ไปพบที่คฤหาสน์ เธอไม่ค่อยอยากจะมาเท่าใดหนัก เธอลำบากใจถ้าต้องเผชิญหน้ากับโคโนกะตรงๆ
    เพราะเธอเองก็ทำตัวไม่ถูก เซ็ตซึนะจึงเร่งฝีเท้าเข้าไปในห้องทำงานของเอชุนให้เร็วที่สุด
    เมื่อมาอยู่หน้าประตูเธอจึงเคาะและพูดขึ้นว่า

    “นายท่าน ดิฉันมาแล้วค่ะ”
    “เข้ามาสิ เซ็ตซึนะคุง” เอชุนเอ่ยทักทายด้วยท่าทางเป็นกันเอง แต่เซ็ตซึนะกลับวางตัวนอบน้อมเธอโค้งคำนับท่านเจ้าบ้านผู้อยู่เบื้องหน้า
    “ไม่ต้องมากพิธีหรอก.....เซ็ตซึนะคุง”
    “มิได้ค่ะ มันเป็นหน้าที่” เซ็ตซึนะปฏิเสธที่จะทำตัวสนิทสนม เอชุนเองก็ไม่ทักท้วงอีกต่อไป เขาลองมาหลายครั้งแล้วนี่น่ะ นับแต่วันที่ซึรุโกะตาย เซ็ตซึนะไม่ทำตัวสนิทกับใครอีกเลยแม้แต่ลูกสาวของเขา ซึ่งเขาเองก็จนใจ
    “ว่าแต่ นายท่านมีธุระอะไรถึงเรียกดิฉันมาพบหรือค่ะ?”
    เซ็ตซึนะไม่รอช้า เธอเปิดประเด็นขึ้นมาทันที
    “ฉันเรียกเธอมาก็เพื่อจะบอกว่า ฉันจะส่งเธอไปเรียน ม.ต้นที่ รร.มาโฮระ” เอชุนเอ่ยขึ้น
    “รร.ที่ ท่านโคโนเอมอนเป็นผอ. นะเหรอค่ะ?” เซ็ตซึนะเลิกคิ้วถามด้วยความงงงวย
    “ใช่......และก็ยังมีอีกเรื่องที่ฉันอยากให้เธอทำเมื่อเธอไปเรียนที่นั้น เซ็ตซึนะคุง”
    เอชุนเองเมื่อพูดมาถึงตรงนี้ก็เริ่มมีสีหน้าที่ลำบากใจ เขามองไปที่เซ็ตซึนะที่กำลังยืนฟังเขาอยู่
    “งานอะไรหรือค่ะ?”
    เซ็ตซึนะเมื่อได้ยินว่าตนถูกส่งไปเรียนที่อื่นก็ใจเสีย นี่เธอจะไม่ได้เห็นหน้าโคโนจัง
    อีกแล้วเหรอนี่ ถึงมันจะแค่คอยแอบดูก็เถอะ งานอะไรถึงส่งเธอให้ไปไกลขนาดนั้น

    “งานองครักษ์ ฉันอยากให้เธอคอยดูแลโคโนกะตอนที่เธอไปเรียนที่นั้น เธอทำได้ไหม?”

    ประโยคที่เอชุนพูดจบมันทำให้หัวใจของเซ็ตซึนะนั้นพองโต คุ้มครองโคโนกะ....หน้าที่นี้แม้ไม่ได้รับหมอบหมายเธอก็เต็มใจทำอยู่แล้วเธอดีใจจนอยากจะตะโกนออกมาซะด้วยซ้ำ แต่เธอยังเก็บอาการไว้และตอบด้วยน้ำเสียงปกติของเธอว่า

    “ได้ค่ะ ดิฉันยินดี”
    เอชุนเลิกคิ้วเล็กน้อยที่เซ็ตซึนะยอมรับงานนี้อย่างง่ายดาย
    เพราะทุกทีถ้าเขาให้งานเซ็ตซึนะที่เกี่ยวกับการไปเจอหน้าโคโนโกะเธอจะรีบปฏิเสธ
    อืม ตอนนี้ทั้งสองคนคงคุยกันเหมือนเดิมแล้วมั้ง? เอชุนคิดแต่ก็ไม่ได้พูดออกไป

    “อืม ฉันมีธุระแค่นี้แหล่ะ ขอบใจมาก เซ็ตซึนะคุง”

    .......เซ็ตซึนะโค้งคำนับก่อนออกไปจากห้องด้วยหัวใจที่ลิงโลด
    รอยยิ้มไปปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอโดยไม่รู้ตัว ถ้าหัวใจเธอติดปีกได้มันคงบินไปไหนต่อไหนแล้ว และขณะที่กำลังจะออกไปจากคฤหาสน์นั้นเอง เสียงที่คุ้นหูของเซ็ตซึนะก็ดังขึ้น

    “เซ็ตจางงงงงงงงงง~~”

    โคโนเอะ โคโนกะที่อายุสิบสองปีร้องทักเซ็ตซึนะอย่างร่าเริง หลังจากที่เธอมองท่าทางเซ็ตจังของเธออยู่นานแล้ว เซ็ตจังก็ดูท่าจะยิ้มด้วยท่าทางอารมณ์ดีจากอะไรซักอย่าง
    โคโนกะคิดว่ามันน่าจะเป็นโอกาสที่ดีเธอจึงรวบรวมความกล้าที่จะทักเซ็ตซึนะขึ้นมา

    ..... แต่เซ็ตซึนะซะอีกที่รีบเก็บอาการตื่นเต้นที่ได้เจอโคโนกะด้วยการทำหน้านิ่ง รอยยิ้มเมื่อกี้หายไปทันที เธอทำเพียงโค้งน้อยๆให้กับคุณหนูของเธอก่อนที่จะเดินหันหลังจากไป

    “เซ็ตจัง......”

    โคโนกะยกมือค้างไว้ด้วยความเก้อ อีกแล้ว เป็นอย่างนี้อีกแล้ว
    ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เป็นแบบนี้ เธอพยายามทักทายและพูดคุยกับเซ็ตจังหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ
    ครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอมองตามด้านหลังของเซ็ตซึนะอย่างเศร้าสร้อย นี่เราใกล้จะย้ายไปเรียนโรงเรียนของท่านตาอยู่แล้วน่ะ
    ครั้งนี้อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้เจอกับเซ็ตจังก็ได้ แต่ผลสุดท้ายก็ออกมาแบบเดิม
    โคโนกะคิดอยู่ตลอดว่าเซ็ตซึนะอาจจะโกรธอะไรเธอก็ได้
    หลายครั้งที่โคโนกะคิดจะถามเหตุผลโดยตรงกับเจ้าตัว ทว่าเหมือนมันมีอะไรบางอย่างมากั้นเอาไว้ไม่ให้เธอถามเหตุผลนี้กับเซ็ตซึนะ
    โคโนกะที่มองเซ็ตซึนะเดินจากไปจนลับตาเดินน้ำตาซึมกลับเข้าห้อง

    .....................แต่โคโนกะคงไม่รู้หรอกว่าในหัวใจของเซ็ตซึนะตอนนี้นั้นพองโตสุดขีด เพราะในอีกไม่นานทั้งสองคนจะได้ไปอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน
    .......ที่นั้นเซ็ตซึนะก็คาดหวังว่าตนจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับโคโนกะมากขึ้น แม้เพียงนิดก็ยังดีแต่ก็ได้แค่ใกล้ขึ้นเพราะเธอตั้งใจว่าจะเป็นแค่เงานี่น่ะ

    ............................คนอาไร้ทำตัวไม่ตรงกับใจเล้ยยยยยยยยย
    .........................................................................................................................................
    ..........................................................

    ....ณ โรงเรียนมาโฮระ ทั้งเซ็ตซึนะและโคโนกะต่างเข้าเรียนในชั้นม.ต้น
    แต่กว่าโคโนกะจะรู้ว่าตนได้เรียนที่เดียวกับเซ็ตซึนะก็เมื่อตอนเปิดเรียนวันแรก
    ไม่เพียงทั้งคู่เรียนที่เดียวกันแต่ยังห้องเดียวกันอีกต่างหากและทั้งสองคนจะต้องมีเลขที่ติดกันด้วยซ้ำแต่ก็เซ็ตซึนะอีกนั้นแหล่ะที่ขอร้องกับท่าน ผอ.
    ท่านตาของโคโนกะเอาไว้ว่าอย่าให้เธอได้เลขที่ติดกันกับโคโนกะโดยอ้างว่ามันจะไม่เป็นการสะดวกในการคุ้มครอง
    โคโนเอมอนเองก็ไม่เข้าใจว่ามันไม่สะดวกยังไงแต่เขาก็ไม่ขัดข้อง
    ดังนั้นระหว่างเลขที่ของทั้งสองคนจึงถูกคั้นด้วย ซาโอโตเมะ ฮารุนะที่ถูกเลื่อนขึ้นมาแทนนั้นเอง
    เหตุผลที่แท้จริงคือเธอกลัวว่าถ้าเลขที่มันติดกันหากเจองานที่จับคู่ขึ้นมาเธอจะทำตัวลำบากต่างหาก

    ......แม้จะอยู่ห้องเดียวกันก็ตาม เซ็ตซึนะก็ยังแสดงอากับกิริยากับโคโนกะเหมือนเดิม ไม่ต่างจากตอนที่อยู่ที่โอซาก้าคือ โค้งคำนับ วันไหนโชคดีหน่อยโคโนกะก็จะได้ยินคำว่า “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหนู” ไม่ก็ “ถ้าไม่มีอะไรดิฉันขอตัว”
    ไม่ใช่ว่าโคโนกะไม่พยายามเข้าหาแต่เซ็ตซึนะต่างหากที่เอาแต่ชิ่งหนี
    แต่ถ้าเมื่อไหร่โคโนกะได้รับอันตรายเซ็ตซึนะก็จะรีบไปช่วยทันทีโดยพยายามให้โคโนกะรู้ตัวน้อยที่สุด

    ......เหตุการณ์ยังเป็นเช่นนี้ตอนไปจนกระทั้งจบม.หนึ่ง
    แต่ก็ใช่ว่าเซ็ตซึนะจะมีหน้าที่คุ้มครองโคโนกะเพียงอย่างเดียว หลายครั้งที่เธอได้รับมอบหมายงานจากผอ. บางทีก็ทำคนเดียว บางทีก็มีคู่หู บางทีก็เป็นทีม
    และคนที่ดูเหมือนจะออกไปทำงานกับเธอบ่อยที่สุดก็ดูจะเป็น ทัตสึมิยะ มานะ ลูกสาวเจ้าของศาลเจ้าทัตสึมิยะที่อยู่หลัง รร.นั้นเอง เซ็ตซึนะยังจำครั้งแรกที่เจอทัตสึมิยะได้ดี วันนั้นมันเป็นวันที่เธอได้รับงานที่ต้องจับคู่เป็นครั้งแรก

    “เซ็ตซึนะคุง ฉันจะแนะนำให้รู้จักคู่หูของเธอในงานนี้น่ะ ”

    .... พูดจบผอ.ก็หันไปพยักหน้าให้กับสตรีที่ยืนด้านหลัง ตอนแรกเซ็ตซึนะคิดว่าคู่หูของเธอจะเป็นรุ่นพี่ ม.ปลายซะอีก แต่เปล่าเลยกลับเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอเอง
    มานะเดินก้าวขึ้นมาด้านหน้า ในสายตาเซ็ตซึนะ มานะเป็นผู้หญิงที่เด่นเอามากๆ จะพูดยังไงดีใบหน้าที่สวยคมกับผิวสีแทนก็เด่นมากพออยู่แล้ว
    แต่นี้กลับสูงกว่าเธอตั้งเกือบสามสิบเซนแถมยังมีนิสัยที่นิ่งขรึมตลอดเวลาอีกต่างหาก
    ถ้าเธอไม่รู้จักมาก่อนเธอต้องคิดว่าสตรีที่อยู่เบื้องหน้าเธอคงอยู่ม.ปลายไม่ก็มหาลัยไปแล้ว

    “ฉัน ทัตสึมิยะ มานะ ยินดีที่ได้รู้จัก อ้อ ไม่สิเราเจอกันในห้องแล้วนี่นา”

    “อืม........ฉันซากุระซากิ เซ็ตซึนะ ฝากตัวด้วย”

    โดยส่วนตัวแล้วเซ็ตซึนะชอบที่จะทำงานคนเดียวมากกว่า ไม่ใช่ว่าเธอคิดว่าเธอเก่งกาจอะไร แต่เธอไม่ค่อยชอบสร้างสัมพันธ์กับใครซักเท่าไหร่
    โชคดีที่มานะเป็นคนจริงจังกับงาน เมื่อถึงเวลางานเธอจะไม่พูดเลยถ้าไม่จำป็นแต่ถ้าเวลาอื่นก็ไม่แน่ และที่โชคดีอีกข้อก็คือ มานะเป็นนักสู้ที่เก่งมากคนนึง
    อาจจะมากที่สุดเท่าที่เธอเห็นในเด็กวัยเท่ากันก็ได้ ถ้างานไหนมีมานะหล่ะก็งานนั้นก็เบาไปได้เยอะ
    ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของมานะในสายตาเซ็ตซึนะก็คือติดงกไปหน่อย ถ้าใช้งานมานะฟรีหล่ะอย่าหวัง เซ็ตซึนะเองก็ติดเงินค่าจ้างให้ไปคุ้มครองคุณหนูตอนเธอมีธุระอยู่บ่อยๆ อ้อ ขนาดผอ.ยังต้องจ้างเลยนี่น่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเอาเงินมากมายไปทำอะไร
    และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เซ็ตซึนะกับมานะต้องทำงานร่วมกัน....

    “เซ็ตซึนะ ทางขวามือนั้น!” มานะที่มองหาเป้าหมายเจอเรียกให้เซ็ตซึนะดูตาม
    “อื้ม รู้แล้ว.....เร็วเหมือนกันน่ะ”

    เซ็ตซึนะเองที่สายตาไวไม่แพ้กันวิ่งไล่ตามไปติดๆ ในมือถือดายยูนางิอยู่ในท่าพร้อมใช้เต็มที่

    “ฉันต้อนมันเอง เธอไปดักมันด้านหน้า”

    พูดจบ มานะก็ชักปืนสั้นคู่ใจยิงไล่ต้อนเป้าหมายทันที ทางด้านเซ็ตซึนะก็พยักหน้าเป็นเชิงตกลง และพุ่งตัวออกไปยังทิศที่เธอคิดว่ามันจะใช้หนีไป

    “ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!”

    ......เสียงปืนดังลั่นป่าไม่หยุด เป้าหมายเองก็หาทางหนีกระสุนของมานะจะเกือบถูกยิงไปหลายครั้ง ดีที่มันยังเร็วพอ ทว่าทางที่มันใช้หนีก็เป็นไปตามแผนของมานะ ช่างโชคร้ายเสียจริงเพราะตรงหน้าของมันคือเซ็ตซึนะที่ยืนรอมันอยู่มาครู่ใหญ่แล้วนั้นเอง

    “วิชาลับดาบสำนักดาบชิเมริว บุปผาผ่าซากุระ!!”

    เซ็ตซึนะใช้วิชาที่ตนถนัดปลิดชีพเป้าหมายที่ชะตาขาดอย่างง่ายดาย
    มานะเองที่ยืนดูอยู่สักพักก็หันมามองร่างของเป้าหมายที่กำลังเริ่มสลายไป
    งานวันนี้ไม่ยากเท่าไหร่ มานะที่คิดในใจอย่างนั้นก็หันมาทางเซ็ตซึนะและพูดว่า

    “ยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิมน่ะ เซ็ตซึนะ”
    แต่เซ็ตซึนะก็ไม่ได้ยินดีกับคำชมแต่ประการใด
    เธอเก็บดาบของเธอเข้าฝัก ก่อนจะหันมาคุยตอบกับมานะว่า

    “วันนี้หมดแค่นี้แหล่ะ ฉันมีธุระขอตัวก่อนนะ แล้วเจอกันทัตสึมิยะ”
    เซ็ตซึนะที่พูดจบก็หันหลังจะเดินกลับไปทำธุระอื่นต่อทันที

    “คุณหนูโคโนกะเขาไม่หนีไปไหนหรอก วันนี้คุณหนูเป็นเวรทำความสะอาดหน่ะ”

    มานะยิ้มแซวเซ็ตซึนะที่กำลังจะเดินจากไป ธุระของเธอมันจะมีอาไร้ ก็ไปตามคุ้มครองคุณหนูโคโนกะเหมือนเดิม มานะคิดในใจอย่างนั้น เซ็ตซึนะเองที่ได้ฟังก็หน้าแดงแต่ก็ก้มหน้าจ้ำอ้าวเดินจากไป
    ฉันน่าจะเพิ่มข้อเสียเรื่องชอบแซวให้เธออีกข้อน่ะทัตสึมิยะ แต่เซ็ตซึนะก็ไม่ได้พูดออกไป
    เธอมุ่งหน้าไปยังห้องเรียนของเธอ มานะที่มองไล่หลังไปยิ้มๆกับพฤติกรรมของสหายร่างบาง

    “เฮ้ออออ ลำบากจังน่ะ..........เป็นเงาเนี้ย ”

    แต่มันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเธอนี่น่า ว่าแล้วมานะก็เดินกลับไปยังศาลเจ้าทัตสึมิยะของตน

    ......................................................................................................................................................................

    ........ในห้องเรียน.......เซ็ตซึนะที่เปิดประตูเข้ามาสายตาสอดสายหาโคโนกะ
    แต่ทว่าก็หามีร่างของโคโนกะไม่ เซ็ตซึนะเริ่มร้อนใจที่โคโนกะไม่อยู่ในห้องตามที่เธอคิด ยังมีนักเรียนทำความสะอาดอยู่หลายคน แต่ไม่มีคุณหนู!!
    แต่อย่าพึ่งตื่นไป ว่าแล้วเซ็ตซึนะก็เลือกที่จะไปถามคนที่เธอคิดว่าน่าจะรู้เรื่องว่า

    “เอ่อออ.....คุณคากุระซากะค่ะ”

    อาซึนะรูมเมทของโคโนกะที่กำลังจัดโต๊ะอยู่หันมามองผู้ที่เรียกชื่อเธอ ดูเหมือนเธอจะแปลกใจว่าคนที่เรียกเธอคือเซ็ตซึนะ คนที่ไม่เคยคิดจะคุยกับเธอมาก่อน

    “คุณหนู อยู่ที่ไหนหรือค่ะ?”
    เซ็ตซึนะถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบที่สุด

    คากุระซากะ อาซึนะเลิกคิ้วด้วยความสนเท่แต่แล้วเธอก็เหมือนนึกขึ้นมาได้

    “คุณหนู? อ้ออ.......โคโนกะน่ะเหรอ ยัยนั้นเอาน้ำไปทิ้งหน่ะ แต่ก็ไปตั้งนานแล้วน่ะทำไมยังไม่กลับก็ไม่รู้สิ”

    เซ็ตซึนะฟังเสร็จก็พึมพำคำว่าขอบคุณแล้วรีบเดินออกจากห้องไป
    ทิ้งให้อาซึนะงงกับพฤติกรรมของเซ็ตซึนะ ร้อยวันพันปีเธอไม่เคยเห็นเซ็ตซึนะคิดจะคุยกับโคโนกะสักครั้งแล้วนี้ทำไมถึงมาถามหาแหล่ะ
    ฮารุนะเองที่ดูเหตุการณ์อยู่นานก็หลับตาครุ่นคิดพลางทำจมูกฟุดฟิด
    ...สักพักเธอลืมตาโพลงขึ้นมาด้วยแววตาที่เปล่งประกายแล้วพูดว่า....

    “อ่า~~ ฉันได้กลิ่นของความรักเข้าแล้ว~.....”

    ยูเอะที่นั่งอยู่ข้างๆฮารุนะก็มองเพื่อนของตัวเองอย่างเอือมระอา เธอพูดกับฮารุนะด้วยน้ำเสียงโมโนโทนประจำตัวว่า

    “เธอมันก็เป็นซะอย่างนี้ จับคู่วายคนโน่นคนนี้ไปเรื่อย คราวที่แล้วก็คุณทัตสึมิยะกับคาเอเดะ ครั้งก่อนก็หัวหน้าห้องกับคุณนาบะ แล้วไง เธอโดนพวกนั้นตอกกลับมาแทบไม่ทัน ไอ้เซ้นท์อะไรของเธอมันไม่เคยถูกเลยน่ะ”

    แต่ฮารุนะก็เถียงกับต็องส์แบล็กที่กำลังดูดน้ำถั่วเขียวว่า

    “ไม่ ครั้งนี้ฉันไม่พลาดแน่.....คนอย่างคุณซากุระซากิที่ไม่เคยคุยกับใครกลับถามหาคุณโคโนกะ น่าสงสัยๆ”

    อาซึนะเองได้ยินก็ส่ายหน้าเช่นกันมันจะเป็นไปได้ยังง๊ายยยยย จะคุยโคโนกะก็พูดเองว่าไม่ได้คุยกันเลยซักครั้ง
    แต่โนโดกะที่ฟังอยู่นานก็พูดขึ้นบางว่า

    “อ่ะ...อืม แต่สามวันก่อนคุณซากุระซากิก็ถามหาคุณโคโนกะ ตอนที่ดิฉันไปทำเวรห้องสมุดคู่กับคุณโคโนกะเหมือนกันน่ะค่ะ”
    “อื้ม.....อาทิตย์ก่อนตอนวิชาพละคาบที่โคโนกะเกือบโดนลูกบอลกระแทกใส่หัวน่ะ ฉันแอบเห็นซากุระซากิเอาบอลในมือปาขวางไว้ ฉิวเฉียดเลยน่ะนั้น”

    ยูนะจากชมรมบาสฯที่สงสัยเรื่องนี้เหมือนกันพูดขึ้นมาบ้าง
    อาโกะเองที่ยืนอยู่ข้างๆก็เริ่มนึกอะไรได้ก็พูดเสริมขึ้นอีกว่า

    “ฉันเองตอนอยู่เวรห้องพยาบาล ตอนที่โคโนกะเป็นลมจนต้องนอนห้องพยาบาล ฉันว่าฉันเห็นคุณซากุระซากิเข้ามาเยี่ยมน่ะ แต่พอเขาเห็นฉันเข้าก็รีบจ้ำอ้าวหนีไปเลย”

    ..... เมื่อดูเหมือนข้อมูลมากมายเริ่มเข้าทางที่ฮารุนะปูเอาไว้
    อาซึนะเองฟังก็เริ่มหวั่นไหวตามบ้าง แต่มันน่าจะบังเอิญละมั้ง ถ้าคุณซากุระซากิเป็นห่วงยัยโคโนกะจริงทำไมไม่คุยกันตรงๆหล่ะ
    แต่ตัวของฮารุนะนั้นหลุดเข้าโหมดวายไปเรียบร้อยแล้ว

    “เห็นไหมๆ! ฉันบอกแล้วว่าฉันได้กลิ่น จริงอย่างที่ฉันว่าไหมหล่ะ!”

    ฮารุนะตบโต๊ะฉาดใหญ่ ในหัวกำลังคิดพล็อตการ์ตูนที่เธอคิดจะวาดใหม่ทันที
    อาซึนะมองแววตาของนักเขียนการ์ตูนบ้าพลังวายก็กลัวว่าโคโนกะจะถูกเอาไปเขียนปู้ยี้ปู้ยำซะหมด เลยพูดแก้ต่างไปว่า

    “พวกเขาเคยเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กๆ อาจจะสนิทกันมาก่อนก็ได้”
    “นั้นสิน่ะค่ะ.... พวกเขามาจากแถบคันไซทั้งคู่เลยนี่”

    โนโดกะรีบสนับสนุนทันที เธอพลาดเองที่เป็นคนเริ่ม เพราะตอนนี้ฮารุนะเพื่อนรักของเธอชักจะเลยเถิดไปทุกทีๆ

    “ก็เพราะรู้จักกันตั้งแต่เด็ก ทั้งคู่เลยมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง แต่เพราะมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองต้องขาดสะบั้นนี้แหล่ะ! ใช่เลย! ต้องเป็นอย่างนี้แน่ๆ!”

    (เก่งแฮ่ะ....พารุ)ฮารุนะยังจินตนาการต่อไป อาซึนะเองที่คิดว่าจะแก้ต่างให้รูมเมทของตนกลับกลายเป็นการเติมเชื้อไฟให้ซะงั้น “ฮ่ะๆๆไม่ยุ่งด้วยแล้วฉัน”
    ยูเอะเองที่เห็นเพื่อนจินตนาการเพ้อเจ้ออยู่ก็มองอย่างอ่อนใจ
    คนอื่นๆก็ชินชากับพฤติกรรมของฮารุนะอยู่มานานแล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก
    แต่สุดท้ายอาซึนะก็คิดไม่ตกอยู่ดีว่าตกลงว่าสองคนนี้เขาเป็นอะไรกันแน่?

    ...........................................................................................

    .....ทางด้านโคโนกะที่เป็นเวรต้องเอาน้ำไปทิ้ง แต่เจ้ากรรมด้วยความซุ่มซ่ามเธอกลับเดินลื่นน้ำที่เธอพึ่งทิ้งไปจนขาแพลง แถมแถวนั้นก็ไม่ค่อยมีใครเดินผ่านมา เดินลุกขึ้นเองก็ไม่ไหว โคโนกะผู้โชคร้ายเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งจุ้มปุกรอคอยคนที่อาจจะผ่านไปมาให้มาช่วยเธอ
    ..............เฮ้ออออ ฉันเริ่มหิวข้าวแล้วน้า~~
    เอาเถอะถึงมันจะดูไม่มีวี่แววแต่โคโนกะก็ลองร้องเรียกขอความช่วยเหลืออย่างขำๆว่า

    “ช่วยด้วยค่า~ ........ฉันซุ่มซ่ามอีกแล้ว~~.................เฮ้อออ ใครเขาจาไปได้ยินเล่าเนอะ”

    โคโนกะที่เอาแต่พูดเองเออเอง จับหัวเกาน้อยๆหัวเราะให้กับการกระทำของตัวเอง
    แต่ดูเหมือนพระเจ้าจะยังเมตตาคนซุ่มซ่ามคนนี้อยู่
    เพราะโคโนกะเห็นสองพี่น้องนารุทากิกำลังวิ่งผ่านมาทางนี้พอดี

    “พี่ค่ะๆ ทำอย่างนี้จะดีเหรอ?”
    ฟูมิกะผู้น้องที่ในมือมีซาลาเปากับพวกติ่มซำอีกหลายอย่างวิ่งมาอย่างเหนื่อยหอบ เธอถามพี่ด้วยความกังวล

    “โธ่เอ้ย อย่ากลัวไปเลย ร้านนั้นขายดีจะตาย เอามานิดหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก”

    ฟูกะผู้พี่ที่วิ่งอยู่ตอบกลับ เธอหอบกล่องบะหมี่ละของกินอีกกองโตจนมันบังหน้าเธอเกือบมิด(ไม่ค่อยโลภเลย....... ) แต่ที่เธอพูดคงผิดไปเพราะไล่หลังมาคือเสียงของซัทจัง เจ้าหลิงเชิน และซาโตมิที่วิ่งตามมาเช่นกัน

    “หยุดน่ะ ไอ้หัวขโมยยยย!” เจ้าตะโกนไล่หลังมา
    “สองคนนั้นก็ไม่นึกเลยว่าจะทำกันจริงๆ”

    ซัทจังพูดขณะที่วิ่งจนจะลมจับอยู่แล้ว แต่ฝาแฝดคู่นั้นทำให้เธอยังต้องวิ่งไล่ตามต่อไป

    “หน๊อยยยย.............รู้งี้เอาหุ่นเมก้าโปลิศหมายเลข 67 มาซะก็ดีหรอก”

    ซัทจังและเจ้าที่วิ่งตามๆกันมาได้ฟังซาโตมิก็เหงื่อตก ทั้งสองคนต่างรู้ฤทธิ์ของสิ่งประดิษฐ์ของซาโตมิที่อยู่ในโหมดโรบ๊อทดี
    นอกจากชาช่ามารุแล้ว ตัวอื่นไม่เคยจะเข้าท่าซักอัน ว่าแล้วก็พร้อมใจกันพูดโดยไม่ต้องนัดว่า

    “ไม่ต้องเอามาน่ะดีแล้ว....”

    ด้านสองพี่น้องฝาแฝดที่กำลังวิ่งหนีกันมาเมื่อจะผ่านหน้าโคโนกะ
    โคโนกะก็ร้องเรียกขอความช่วยเหลือทันที......

    “นี่....ฟูกะฟูมิกะจ๊ะ ช่วย....”
    แต่ยังไม่ทันจะพูดจบดีสองพี่น้องก็พูดตัดบทด้วยน้ำเสียงเร่งรีบว่า....

    “อ้าว.....หนีมาเหมือนกันเหรอ?”
    “เอ่อ....พี่ค่ะ คุณโคโนกะเขาไม่ได้เป็นขโมยเหมือนพวกเราน่ะค่ะ”
    “อ้อ เหรอ งั้นหิวหล่ะสิ อ่ะงั้นอันนี้ฉันยกให้”

    พูดจบฟูกะก็โยนกล่องบะหมี่ที่กินไปแล้วนิดนึงให้โคโนกะ
    ก่อนที่เธอจะสะดุ้งกับเสียงที่ตะโกนไล่หลังมาว่า

    “นั้นไงๆ เจอแล้ว!” ซาโตมินั้นเองที่ตะโกนไล่มา
    “เอาของกินคืนมาน่ะ!!” เจ้าหลิงเชินเองทวงของๆร้านเธอคืน แหง่ะหล่ะขืนปล่อยให้ขโมยไปบ่อยๆเธอจะขาดทุนซะเปล่าๆ
    “อ๊ะ....แย่แล้ว ฉันไปก่อนนะโคโนกะ ไปเร็ว! ฟูมิกะ”
    “อ๊ะ...ค่ะพี่...”

    ฟูมิกะที่มองดูโคโนกะแล้วเหมือนจะถามอะไรบางอย่าง
    เธอว่าโคโนกะเขาจะให้ช่วยเรื่องอื่นไม่ใช่เหรอ? แต่ไม่มีเวลาแล้วเธอก็เลยรีบวิ่งตามพี่สาวฝาแฝดของเธอไป

    โคโนกะที่นั่งเอ๋ออยู่ก็ยิ้มโบกมืออำลาโดยที่อีกมือก็ถือกล่องบะหมี่อยู่.....แต่ เฮ้! ฉันจะขอความช่วยเหลือนี่น่า ฉันขาแพลงน่ะ
    แล้วพวกเจ้าเองก็เดินมาเจอโคโนกะเช่นกัน

    “อ้าว...แฮ่กๆ คุณโคโนกะ...ทำไมมานั่งอยู่นี้หล่ะค่ะ”
    ซัทจังที่วิ่งจนหมดแรงแล้วหยุดยืนพักหายใจ เธอทักทายโคโนกะที่นั่งอยู่ตรงนั้น เจ้าเองก็หันจะไปทักเช่นกัน แต่ตาก็เหลือบไปเห็นกล่องบะหมี่ในมือของโคโนกะ แทนที่จะเป็นคำทักทายแต่กลับ...

    “โอ้ โคโนกะก็เป็นลูกค้าของร้านเราเหมือนกันเหรอเนี้ย ขอบคุณมากๆเลยน้า ไว้วันหลังจะแถมให้ แต่ฉันต้องรีบไปจับหัวขโมยของ ขอตัวก่อนแล้วกัน รีบไปเร็วซัทซึกิ”

    พูดเองเออเองแล้วเจ้าก็ลากแขนของซัทจังที่ยังไม่ทันหายเหนื่อยออกไปทันที

    “อ่า....”

    โคโนกะที่เริ่มพูดได้แค่คำว่า อ่า พวกเจ้าก็จากไปโดยมีซาโตมีวิ่งตามมาติดๆ

    “แฮ่กๆ ทำไมคูไม่เข้าร้านวันนี้น้า........ถ้าคูอยู่คงไม่ต้องเหนื่อยอย่างนี้หรอก”

    บ่นจบซาโตมิก็วิ่งไล่ตามพวกฝาแฝดต่อโดยไม่แม้แต่จะสนใจโคโนกะเลย................................

    “.............”
    “เฮ้อออออออออออออออ”

    โคโนกะที่ได้แต่ดูเหตุการณ์อยู่พักใหญ่ถอนหายใจ นี่เธอปล่อยให้ความช่วยเหลือวิ่งจากไป โดยไม่มีแม้แต่โอกาสจะพูดเลยรึนี่.....เพื่อนๆห้องเราก็เป็นซะอย่างนี้หล่ะน่ะ..
    คิดไปพลางมองกล่องบะหมี่ที่ได้มาในมือ
    เอาเถอะอย่างน้อยพระเจ้าก็ยังประทานของกินมาให้....(^^)

    “....งั้น หม่ำหล่ะน่ะค๊า~”

    โคโนกะนั่งยิ้มแป้นแล่นเปิดกล่องบะหมี่พร้อมจะลงมือจัดการกับมันเต็มที่
    แต่อนิจจา~ ไม่มีตะเกียบนี้? แล้วจะกินยังไงหล่ะที่นี้ โคโนกะคิดได้อย่างนั้นก็นั่งน้ำตาซึม(นี่เธอเห็นแก่กินมากกว่าเดินไม่ได้หรอกรึนี่?)

    “ฮืออออ ทำไมโชคร้ายอย่างนี้น้า~....ต้องใช้มือซะละมั้ง”

    ขณะที่กำลังหาหนทางทำให้ตัวเองอิ่มท้องโดยไร้อุปกรณ์ สักครู่ใหญ่ก็มีเสียงฝีเท้าเดินมาจากด้านหลัง เมื่อโคโนกะหันกลับไปเธอก็ต้องตกใจ
    ..เธอร้องเรียกชื่อผู้ที่เธอไม่คาดคิดว่าปรากฏตัวให้เธอเห็น....

    “ซะ..เซ็ตจัง?”

    เซ็ตซึนะในสภาพเหนื่อยหอบ มือนึงยังคงถือดาบยูนางิเอาไว้
    เธอหันมามองทางโคโนกะแล้วถามด้วยความร้อนรนสีหน้าเคร่งเครียดว่า
    “เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะคุณหนู?”

    อ๊ะ....เซ็ตจังคุยกับฉันแล้ว ด้วยความดีใจโคโนกะเลยตอบคำถามไปทันควันว่า
    “ฉันไม่มีตะเกียบน่ะจ๊ะ~”
    “เห๋!...”

    เซ็ตซึนะอุทานอย่างมึนงงพลางมองไปที่มือของโคโนกะที่มีกล่องบะหมี่ อ้าว...... หลบมาหาของกินหรอกเหรอ....ทำเอาเธอปรับอารมณ์แทบไม่ทัน
    โคโนกะเองก็พึ่งนึกได้ว่าตัวเองพูดผิด
    โอ้ยย~ มันไม่ใช่เรื่องนั้นซะหน่อย แล้วเซ็ตซึนะเองก็ทำท่าจะเดินกลับไปเหมือนกัน

    “ถะ..ถ้าไม่มีอะไรดิฉัน..”
    “เดี๋ยว! เซ็ตจัง คือจริงๆฉัน...”

    โคโนกะที่นึกได้ว่าตัวเองอยู่ในสถานะภาพอย่างไรรีบเรียกเซ็ตซึนะทันที เธอมองไปที่ขาของเธอก่อนที่จะบอกกับเซ็ตซึนะว่า
    “คือ......ฉันล้มขาแพลงตอนนี้จะลุกยังทำไม่ได้เลยน่ะจ๊ะ เซ็ตจัง”

    เซ็ตซึนะเองที่พึ่งสังเกตเห็นขาที่เริ่มบวมของโคโนกะก็ตกใจเธอรีบนั่งลงมาดูอาการที่ขาของโคโนกะทันที เธอใช้มือจับเพื่อดูอาการของมัน

    “ อืม....ไม่เป็นอะไรมาก ทายากับประคบสักหน่อยก็หาย”

    เซ็ตซึนะพึมพำเบาๆหลังจากที่ดูอาการเสร็จ โดยไม่รู้เลยว่าเธอถูกโคโนกะจ้องมองอยู่โดยไม่ละสายตา
    จนเมื่อเงยหน้าหันจะมาคุยกับโคโนกะเธอถึงจะสะดุ้งตกใจและหน้าแดงก่อนที่เธอจะรีบลุกขึ้นกระแอมเบาๆเป็นการแก้เขินแล้วพูดขึ้นว่า
    “แฮ่ม.......เดี๋ยวดิฉันจะพาไปส่งที่ห้องน่ะค่ะคุณหนู”
    “อ๊ะ......ขอบใจจ๊ะ ช่วยพยุงชั้นไป..ว้ายย!”

    แต่ไม่ทันที่จะพูดจบโคโนกะก็ถูกยกลอยขึ้นมาจากพื้น
    เซ็ตซึนะนั้นเองที่ใช้แขนทั้งสองข้างอุ้มตัวโคโนกะขึ้นมาอย่างสบายๆ
    ไม่น่าเชื่อเลย เราตัวพอๆกันเลยนี่น่า โคโนกะมองดูด้วยความทึ่ง
    เซ็ตซึนะเองก็อยากจะไปส่งคุณหนูไวๆเลยเริ่มใช้วิชาตัวเบากระโดดกลับไปยังห้องของโคโนกะ

    “ว้ายย!”

    โคโนกะที่ปรับตัวเองกับการกระโดดอันรวดเร็วครั้งแรกไม่ทันร้องอุทานเสียงหลง
    เซ็ตซึนะเองก็ลืมบอกไปเลยมองมาที่โคโนกะที่อยู่ในอ้อมแขนของตน แล้วพูดด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิดเล็กๆว่า....
    “ขอ...ขออภัยค่ะคุณหนู ดิฉันลืมบอกไป”
    “ไม่เป็นไรจ๊ะ....ขอบใจน่ะเซ็ตจัง”

    โคโนกะที่กล่าวขอบใจและยิ้มให้กับเซ็ตซึนะทำเอาเธอเริ่มหน้าแดงอีกครั้ง และทำเป็นเมินไม่สนใจอีก โคโนกะเองที่มองดูเซ็ตซึนะอุ้มตนอยู่นานก็เอาหัวซุกพิงไปที่ไหล่ของเซ็ตซึนะ ซึ่งนั้นก็ยิ่งทำให้เซ็ตซึนะหน้าแดงมากขึ้นแต่เธอก็ไม่ขัดขืนอะไร
    โคโนกะเองก็คิดอยู่ในใจว่า.......ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้เธอขอขาแพลงทุกวันเลยดีกว่า(^^)
    ตลอดทางที่ทั้งสองกลับหอต่างไม่ได้พูดอะไรกันอีก
    แต่เพียงแค่นี้ทั้งสองก็ดูต่างจะพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เหมือนกัน

    ..............................................................................................................................................................................

    “เอ.....ทำไมโคโนกะยังไม่กลับมาอีกน่ะ”
    อาซึนะที่กลับมาที่ห้องของตนหลังจากทำเวรเสร็จแล้วรอรูมเมทของเธออย่างร้อนรน นี้ยัยนั้นไปทำอะไรของเขา หรือว่าไปหาคุณตาที่เป็นผอ.
    ...........ไม่น่า ถ้าไปก็ต้องบอกเราสักคำสิ ขณะที่อาซึนะคิดสะระตะว่าโคโนกะไปอยู่ที่ไหน
    ที่ประตูหน้าห้องก็มีเสียงเคาะดังขึ้น

    “ก๊อกๆๆ............คุณคากุระซากะค่ะ ขอดิฉันเข้าไปหน่อยค่ะ”

    เสียงที่ดังมาจากข้างนอกคุ้นๆแฮ่ะ แล้วอาซึนะก็เดินไปเปิดประตู

    “อ่า......ค่ะๆ”

    เอ้ย เราจะค่ะตอบทำไม? เห็นเขาพูดค่ะมาก็เลยค่ะตอบ
    เฮ้ออออ ใครเขาจะมาพูดแบบนี้กับเราน่ะ และเมื่ออาซึนะเปิดประตูออกมาก็ถึงบางอ้อ
    เพราะที่หน้าประตูคือเซ็ตซึนะที่ในมือกำลังอุ้มโคโนกะอยู่.....แต่ดูรูมเมทฉันสิไปหลับทั้งๆที่โดนเขาอุ้มอยู่ซะงั้น เอ๊ะ หรือโคโนกะไปโดนใครทำร้ายมา
    อาซึนะที่คิดได้รีบถามด้วยความเป็นห่วงทันที

    “โคโนกะเขาเป็นอะไรรึเปล่า? ทำไมมาในสภาพแบบนี้หล่ะ?”
    “เอ่อ.....ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ คุณหนูแค่หกล้มขาแพลง”

    เซ็ตซึนะที่ฟังอีกฝ่ายถามมาก็ตอบกลับอยู่ในโหมดน้ำเสียงราบเรียบพลางก้าวเท้าเข้ามาในห้อง

    “แล้วทำไมโคโนกะถึงหลับได้หล่ะเนี้ย?” อาซึนะถามขณะที่มองเซ็ตซึนะที่กำลังวางโคโนกะนอนบนเตียง
    “..........ดิฉันก็ไม่ทราบค่ะ ระหว่างทางที่พามาส่งเห็นอีกทีก็หลับแล้วหล่ะค่ะ”

    พูดไปเซ็ตซึนะก็เช็คขาที่แพลงของโคโนกะไปด้วยความเป็นห่วง เธอหันซ้ายหันขวาก่อนจะหันไปถามอาซึนะว่า
    “คุณคากุระซากะ..............มียาทาพวกเคาท์เตอร์เพนกับถุงน้ำร้อนไหมค่ะ?”

    อาซึนะที่ยืนดูพฤติกรรมของเซ็ตซึนะอยู่นานก็สะดุ้งก่อนจะรีบตอบว่า
    “อ้อ....ยาๆ เดี๋ยวฉันไปขอจากห้องพยาบาลให้แล้วกันน่ะ ส่วนถุงน้ำร้อนเอาไอ้นี้ไปแล้วกัน”

    อาซึนะเดินไปหยิบถุงน้ำร้อนของเธอกดน้ำร้อนใส่แล้วยื่นให้เซ็ตซึนะ
    เธอมองเซ็ตซึนะที่กำลังใช้มันประคบขาที่บวมของโคโนกะอย่างสนเท่ใจ เซ็ตซึนะที่รู้สึกเหมือนถูกมองอยู่นานเลยหันไปแล้วเอ่ยด้วยเสียงเรียบๆว่าขึ้นว่า
    “.......เอ่อเรื่องยา”

    อาซึนะที่เพิ่งนึกขึ้นได้ เออ ใช่ ยา......

    “โทษทีๆ เดี๋ยวฉันจะไปเอามาให้ รอแป๊บน่ะ”

    แล้วอาซึนะก็เดินออกไปจากห้อง แปลก...แปลกจัง ไม่เคยเห็นคุณซากุระซากิทำอย่างนี้มาก่อน ทำไมภาพที่ฉันเห็นมันเหมือนไม่ใช่เพื่อนกันเลย
    มันเป็นอย่างอื่น เอ.....อะไรน้า โอ้ย นี้ไม่ใช่เวลามาคิดซะหน่อย
    แล้วอาซึนะก็เร่งฝีเท้าไปเอายาให้รูมเมทจอมซุ่มซ่ามของเธอ

    ทางด้านเซ็ตซึนะเองที่ประคบขาที่บวมอยู่นาน ขาดก็แต่ทายาเท่านั้นก็เลยนั่งรอ................เฮ้ออออ คิดถูกแล้วที่ตามหา ไม่งั้นป่านนี้จะถูกทิ้งให้เป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ คิดพลางก็หันไปทางโคโนกะที่นอนหลับปุ๋ย
    .........เซ็ตซึนะจ้องมองหญิงที่หลับอยู่ตรงหน้าอยู่เนิ่นนาน.....
    “คุณหนูเนี้ยยังคงงดงามเหมือนเดิมเลยน่ะ” แล้วสักพักโคโนกะก็พึมพำอะไรบางอย่างออกมา......
    “อา......เซ จางงงง”
    เอ......... คุณหนูละเมออะไรน่ะ?

    เซ็ตซึนะที่ได้ยินไม่ถนัดเลยยื่นหน้ามาใกล้ๆหน้าของอีกฝ่ายเพื่อฟังคำที่โคโนกะพึมพำ
    “เซ็ตจางงง....”

    เซ็ตซึนะที่จับความได้ก็หน้าแดง เอ๊ะ......คุณหนูเรียกชื่อเรา? ทำไมหล่ะ
    ........แต่โคโนกะก็ไม่ได้ละเมอเปล่า มือเธอไขว่ขว้าอยู่กลางอากาศเหมือนจะจับอะไรบางอย่าง ซึ่งก็บังเอิญไปจับเอามือของเซ็ตซึนะพอดี

    “อ๊ะ...”

    เซ็ตซึนะตกใจจนหน้าแดงที่จู่ๆคุณหนูของเธอละเมอคว้ามือเธอเอาไว้
    ใจก็อยากจะเอามือออกแต่ร่างกายมันไม่ทำตาม แล้วการละเมอของโคโนกะยังไม่จบแค่นั้น

    “เซ็ตจางงง......ไปเล่นกัน~”

    อ้อ......ละเมอเรื่องตอนเด็กเองเหรอ ตกใจหมดเลย
    เซ็ตซึนะฟังคำละเมอก็อดขำไม่ได้ เธอนิ่งมองไปซักพัก....ก่อนจะค่อยๆโน้มตัวก้มลงไปกระซิบข้างหูคุณหนูของเธอเบาๆว่า

    “ค่ะ ......คุณหนู”

    เซ็ตซึนะที่ตอนนี้ใบหน้าของเธอห่างจากโคโนกะไม่กี่เซนได้แต่ค้างอยู่อย่างนั้น ลมหายใจของเธอสูดเอากลิ่นตัวหอมของโคโนกะเข้าไป
    ไม่สิเธออยากอยู่อย่างนั้นต่างหาก ว่าแต่ว่ากลิ่นตัวคุณหนูนี่หอมจังแฮะ
    ..................... ในหัวของเซ็ตซึนะตอนนี้กำลังย้อนไปตอนที่ตนเล่นกับคุณหนูของเธออย่างสนุกสนานในคฤหาสน์เมื่อหลายปีก่อนอย่างมีความสุข....

    “คุณหนูไม่เอา....ค่ะก็ไม่เอา....งึมๆ”

    เซ็ตซึนะที่ยังก้มตัวลงไปฟังก็หัวเราะคิกเบาๆ เฮ้อ ลืมทุกทีเลยซิเรา
    เซ็ตซึนะเลยโน้มก้มตัวลงไปให้ชิดมากกว่าเดิม ก่อนจะกระซิบตอบกลับอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง

    “อื้ม เราไปเล่นกัน โคโนจัง”

    เสียงกระซิบตอบเบาๆของเซ็ตซึนะดูเหมือนมันจะเป็นคำตอบที่น่าพอใจ
    สำหรับโคโนกะเพราะตอนนี้เธอเริ่มละเมอเป็นเสียงหัวเราะคิกคัก
    เซ็ตซึนะเองก็นั่งก้มตัวฟังคำละเมอของโคโนกะอยู่อย่างนั้นอย่างไม่รู้สึกเบื่อและเมื่อย
    มือที่ถูกโคโนกะจับก็รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด อืม.....นานแล้วสิน่ะที่ไม่ได้สัมผัสกันอย่างนี้
    ........อยากอยู่เช่นนี้นานๆจัง

    แค่เวลาไม่ถึงห้านาทีนี้เท่านั้นที่เธอได้อยู่ในสภาพเช่นนี้ แต่มันก็ทำให้เธอมีความสุขที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา เซ็ตซึนะอยากหยุดเวลาตรงนี้เอาไว้เสียจริงๆ.......
    แต่พระเจ้าก็ดูไม่เข้าข้างเพราะเธอได้ยินเสียงฝีเท้าของคนจากทางด้านประตูพอดี

    “ขอโทษน่ะที่มาช้า เผอิญยาของชั้นนี้มันหมดเลยต้องไปเอาจากชั้นอื่นแทน”

    อาซึนะที่เปิดประตูเดินเข้ามา เอายามาให้เซ็ตซึนะที่นั่งอยู่บนด้านข้างเตียงของโคโนกะเป็นปกติ
    ท่าเขาจะรอฉันอยู่นานจนเบื่อแล้วมั่งเนี้ย เซ็ตซึนะที่ได้ยามาก็รีบทายาบนขาที่บวมของโคโนกะก่อนที่จะลุกขึ้นเตรียมจะกลับออกไป

    “อ้าว.....จะกลับแล้วเหรอ?”
    อาซึนะทักขึ้น เธอกะจะชวนกินข้าวด้วยกันซักหน่อย ไหนๆก็ช่วยยัยเมทบ็องส์ตื้นของเธอทั้งที

    “ดิฉันต้องไปฝึกดาบน่ะค่ะ ขอตัวก่อน”
    เซ็ตซึนะโค้งเล็กน้อยก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป

    “นี่! คุณซากุระซากิ ยังไงก็ขอบใจน่ะที่ช่วย”
    อาซึนะตะโกนไล่หลังไป เซ็ตซึนะที่กำลังจะเดินออกไปก็ชะงักนิ่ง เธอพึมพำตอบด้วยเสียงอันแผ่วเบาว่า
    “มิได้ค่ะ.....มันเป็นหน้าที่”
    “เอ๊ะ..”

    แล้วเธอก็เดินจากไป ทิ้งให้อาซึนะงงกับคำพึมพำที่เธอได้ยินไม่ค่อยจะชัด
    แล้วอาซึนะก็หันไปมองโคโนกะที่กำลังนอนส่งเสียงละเมอเบาๆ
    เฮ้ออออออ ยัยบ็องส์นี้ก็ชอบให้ชาวบ้านเขาเป็นห่วงอยู่เรื่อย
    นี่คงจะซุ่มซ่ามหกล้มเอาเองที่ไหนมาซักที่หล่ะซิท่า แล้วยังมีหน้ามานอนละเมออย่างมีความสุขอีก
    อาซึนะมองดูเพื่อนด้วยความเอ็นดูบ็องส์ๆอย่างนี้ เธอเองก็คิดว่ามันเป็นความน่ารักของโคโนกะไปอีกแบบน่ะ

    ....................................................................................................................................................

    หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ของเซ็ตซึนะและโคโนกะก็อยู่ในสภาพปกติเหมือนเดิม
    ..............ก็คือไม่ได้คุยกันเหมือนเดิม แม้โคโนกะจะพยายามพูดขอบคุณเรื่องตอนนั้นเองก็ตาม
    คำพูดที่เซ็ตซึนะตอบกลับมาก็มีแค่เพียง

    “มิเป็นไรค่ะ.....”

    แล้วเธอก็ก้มคำนับน้อยๆและเดินจากไป

    .....เซ็ตซึนะเองที่เริ่มรู้สึกว่ามีเพื่อนหลายคนสงสัยพฤติกรรมของเธอมากขึ้น เลยหันมาใช้วิชาที่เธอเพิ่งสำเร็จมาก็คือวิชาใช้กระดาษพยนต์แทน
    วิธีเรียกใช้ก็ไม่ยุ่งยาก แค่เสกคาถาใส่กระดาษแล้วแบ่งจิตเข้าไปใส่มันแค่นี้ก็จะได้สิ่งที่เหมือนจะเป็นตุ๊กตารับในร่างจิ๋วแถมสะดวกในการพกพา
    แอบเอาไปไว้ใกล้ๆคุณหนูโคโนกะโดยที่ไม่รู้ตัวได้อีกต่างหาก

    ........ นับแต่นั้นก็ไม่มีใครสังเกตเรื่องของเธออีก
    วันเวลาผ่านไปจนกระทั้งมีครูคนใหม่เข้ามาในช่วง ม.สอง ครูคนนี้แม้มีอายุเพียงสิบขวบเท่านั้น แต่อุปนิสัยและความสามารถพอๆกับผู้ใหญ่เลยที่เดียว
    แต่มีหลายครั้งทีแสดงพฤติกรรมความเป็นเด็กออกมา แน่หล่ะใครจะไปรับมือเด็กสุดเฮี้ยวอย่างห้อง 2-Aไหวหล่ะ ทว่าสำหรับเซ็ตซึนะแล้ว คุณครูคนนี้น่าจับตามองเป็นพิเศษ เพราะเขาก็เป็นจอมเวทย์คนนึงเหมือนกันและครั้งนี้ที่มีการทัศนศึกษาที่เกียวโต

    .........อืม นับเป็นที่ๆอันตรายมากทีเดียว การคุ้มครองคุณหนูในครั้งนี้คงยากไม่ใช่น้อย เหมือนเอาเนื้อวางในถ้ำเสือยังไงยังงั้น ท่านผอ.เขาคิดยังไงของเขาน่ะ?
    แต่เอาเถอะ ขออย่าให้ครูคนใหม่มาขวางงานเธอก็แล้วกัน...............

    ................................................


    ขี้เกียจแต่งช่วงไปทัศนศึกษาอ่ะขอรับ.........มันรู้ๆกันอยู่แล้วนี่น่ะ
    เป็นตอนที่ประทับใจผู้แต่งมากถึงมากที่สุดจนไม่อยากจะไปแตะต้องหรือทำลายมัน
    อ้อเชื่อว่าสาวกโคโนเซ็ตซึก็เช่นกัน ยังไงเพื่อเป็นการเพิ่มอรรถรสในการอ่านฟิค
    หรือใครที่ลืมๆไปแล้ว หาอ่านได้ในเล่มห้ากับหก .....แล้วท่านก็จะระลึกถึงความประทับใจแรกได้ว่า
    ทำไมท่านถึงได้ชอบคู่นี้นัก..............อ่า.....โคโนเซ็ตซึจงเจริญ~~~ hurray!!!!!!
    ...............................................


    ....หลังจากจบการทัศนศึกษา ความสัมพันธ์ของเซ็ตซึนะและโคโนกะก็ดีขึ้น
    ทุกวันนี้หน้าที่ของเธอนอกจากจะต้องไปฝึกดาบและทำงานตามที่ ผอ.สั่ง นั้นก็คือการไป รร.พร้อมกับพวกของโคโนกะ วันนี้ก็เช่นกันเซ็ตซึนะที่รออยู่หน้าหอของพวกอาซึนะอยู่นานก็เริ่มมองดูนาฬิกาด้วยสายตากังวล
    สักพักพวกที่เธอรออยู่ก็ออกมา

    “เซ็ตจัง....รออยู่นานแล้วน่ะสิ ขอโทษน่ะ”

    โคโนกะในชุดนักเรียนใส่รองเท้าสเก็ตรีบขอโทษเซ็ตซึนะทันทีที่เจอ

    “มิเป็นไรหรอกค่ะคุณหนู ว่าแต่ทำไมถึงช้าจังค่ะ”

    เซ็ตซึนะพูดพลางชะเง้อไปดูอาซึนะกับเนกิที่กำลังวุ่นวายกับการแต่งตัวที่ยังไม่เรียบร้อยดี
    โคโนกะที่ได้ยินคำว่าคุณหนูก็แอบทำหน้าบึ้งไปซักพัก
    แต่เราพึ่งจะคุยกันได้ไม่นานนี่น่ะ จะให้เป็นเหมือนเดิมเลยคงไม่ได้
    ว่าแล้วโคโนกะก็ตอบกลับไปว่า
    “ก็อาซึนะกับเนกิคุงน่ะสิ มัวแต่หาเสื้อของตัวเองไม่เจอเลยช้าน่ะจ๊ะ”

    อาซึนะที่เดินมาสมทบ เธอมองไปที่เนกิแล้วโทษครูตัวน้อยทันที

    “ก็ใครกันหล่ะ ดันทำเสื้อฉันขาดกระจุยไปหมดจนฉันต้องไปยืมคนอื่นเขามาละเนี้ยฮ่ะ?”
    “ผมขอโทษคร้าบบบ ก็ถ้าผมเป็นหวัดผมจะควบคุมเวทย์ลมไม่ได้เลย”

    เนกิทำสีหน้าสำนึกผิดแล้วนึกคิดในใจ ทำไมเวทย์ลมต้องเป็นคำที่คล้องกับคำตอนที่ตนจามด้วยก็ไม่รู้ (มันเป็นเจตนาของ อ.เคน ไอ้น้อง)
    แต่เซ็ตซึนะที่ฟังอยู่นานก้มไปดูนาฬิกาของเธออีกครั้งก่อนจะพูดว่า
    “เอ่อ.......มันจะสายอยู่แล้วน่ะค่ะ พวกเรารีบไปกันดีกว่า”

    แล้วทั้งหมดก็พากันรีบไปรร.ก่อนที่จะสายกันทั้งคณะ

    .....ในห้องเรียนบรรยากาศการเรียนการสอนดำเนินไปอย่างเช่นทุกวัน
    จนกระทั้งตอนเที่ยง พวกอาซึนะก็รวมตัวกันไปทานอาหารกลางวันที่บนดาดฟ้า โดยมีพวกชมรมลีดเดอร์นั่งอยู่ด้วยซึ่งระหว่างที่ทานไป ซากุระโกะก็กำลังเล่าเรื่องผีประจำโรงเรียนมาโฮระอย่างออกรส

    “นี่น่ะ..........แล้วพอตกดึกคืนนั้น เด็กม.สองคนนั้นก็ค่อยๆเปิดประตูที่ห้องเรียนไฟยังเปิดอยู่ ทันใดนั้น..................เป้ง!!!!”

    เสียงฝาของกล่องข้าวใครบางคนหล่น พาเอาคนที่นั่งฟังอยู่สะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ไม่เว้นแม้แต่ซากุระโกะคนเล่าเอง
    “แฮ่ะๆ โทษที มันลื่นน่ะ”

    ยูนะเองที่แอบมานั่งฟังเช่นกันขอโทษขอโพยทุกๆคนที่หันไปทางต้นเสียง เธอก็ตกใจเหมือนๆกันนั้นแหล่ะ

    “เล่าต่อสิ ซากุระโกะ” มิสะที่เพิ่งหายตกใจเร่งให้เพื่อนของตนเล่าต่อทันที
    “ได้ๆ ตรงไหนแล้วน่ะ อ้อใช่ๆ เมื่อเธอเปิดประตูเข้าไปก็พบว่ามีนักเรียนคนนึงนั่งอยู่ในห้อง เด็กคนนั้นเลยเดินเข้าไปถามเด็กคนที่นั่งอยู่ว่า
    ‘ เอ่อ ขอโทษน่ ะ เธอ เห็นเพื่อนของฉันไหม?’
    แต่เด็กคนนั้นก็ไม่พูดตอบเธอเอาแต่ก้มหน้านิ่ง ด้วยความหงุดหงิดเด็กคนนั้นเลยจับที่ไหล่ทั้งสองข้างของเด็กที่นั่งอยู่แล้วเขย่าถามว่า
    ‘ นี่! ฉันถามไม่ได้..’
    ทว่ายังไม่ทันที่จะถามจนจบ อยู่ๆหัวของเด็กคนนั้นก็กระเด็นหล่นลงมาที่พื้นนน!!!!!!!

    โครมมม!!!!”

    อยู่ๆ ลูกบอลจากที่ไหนก็ไม่รู้กระเด็นตกมากลางวง ทำเอาหลายคนที่ตั้งใจฟังกรี๊ดตกใจ
    เพราะคิดว่าบอลที่ตกลงมาเป็นหัวคนจริงๆ
    โคโนกะเองก็กรี๊ดกอดเซ็ตซึนะที่นั่งฟังหน้าซีดโดยไม่รู้ตัว
    หน้าที่ซีดกลายเป็นแดงด้วยความตกใจทันทีที่เริ่มรู้สึกว่าคุณหนูของเธอมากอดตน
    อาโกะเองก็กระโดดไปเกาะยูนะเช่นกัน เธอพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักว่า
    “คะ..ใครน่ะ ยะ.....โยนบอลมาถึงตรงนี้ได้”

    มาโดกะเลยลองหันไปมองข้างล่าง เธอหยิบลูกบอลที่อยู่กลางวงโยนลงไปพร้อมตะโกนไล่หลังว่า
    “นี่ ! เล่นระวังหน่อยซี่ คาเอเดะ!”
    “ขออภัยเจ้าค่ะ! นินๆ”

    คาเอเดะตะโกนขึ้นมาขอโทษ ข้างล่างมีฝาแฝดนารุทากิและอีกหลายๆคนเล่นด็อจบอลอยู่
    ก็ว่า ใครมันจะมีแรงโยนบอลมาได้สูงขนาดนี้นอกจากพวกห้องเราเอง
    โคโนกะที่ดูเหมือนจะเพิ่งหายกลัวเลยปล่อยตัวเซ็ตซึนะจากการกอด
    เฮ้อออ เซ็ตซึนะแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก.......ที่คุณหนูมากระโดดกอดตนมันน่าช็อคกว่าเรื่องลูกบอลซะอีก

    “เอาหล่ะ เล่าต่อหล่ะน่ะ”

    ซากุระโกะที่ตั้งสติได้อีกรอบเริ่มเล่าเรื่องอีกครั้งช้าๆและน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกว่า...
    “เด็กคนนั้นก็เลยร้องกรี๊ดลั่นวิ่งหนีออกไปจากห้องเรียน เธอรีบหนีด้วยความลนลานหนีไปได้ซักพักเธอก็เห็นอาจารย์คนนึงยืนอยู่ในมือถือไฟฉาย เธอคิดว่าเธอจะไปบอกเรื่องที่เธอเจอเมื่อกี้ให้กับอาจารย์ก็เลยเดินตรงดิ่งไปหา
    แต่ว่าตอนนั้นมันมืดมากนอกจากไฟที่ไฟฉายของอาจารย์คนนั้นเธอก็มองไม่เห็นอะไรอีก เธอรีบบอกอาจารย์ด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักว่า
    ‘มะมี...มีศพนักเรียนหัวหลุดอยู่ในห้องค่ะ!!’
    อาจารย์คนนั้นก็เลยถามต่อว่าด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกช้าๆว่า
    ‘ที่ไหนหล่ะ?’
    เด็กคนนั้นก็รีบเดินนำทางไปทันที แต่ไม่ทันที่จะก้าวเท้าอาจารย์คนนั้นกลับฉุดแขนของเด็กคนนั้น และถามขึ้นมาด้วยเสียงแหบแห้งว่า
    ‘อย่างนี้ใช่ไหมมมมมมมม?’

    กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!! ”

    เสียงกระดิ่งเข้าเรียนสร้างเสียงกรี๊ดจากกลุ่มผู้ฟังได้อีกรอบ
    คราวนี้ซาะกุระโกะคนเล่าเองก็ไม่ไหวเหมือนกันกระโดดกอดมิสะกับมาโดกะที่นั่งกรี๊ดอยู่ตัวกลม คนอื่นๆก็เช่นกันไม่เว้นแม้แต่โคโนกะที่กระโดดกอดที่เซ็ตซึนะอีกรอบ อาซึนะเองก็หน้าซีดบีบมือเนกิที่หน้าซีดพอๆกันซะแน่น ก่อนเธอจะตั้งสติแล้วพูดกับทุกๆคนว่า

    “ธะ..โธ่เอ้ย กระดิ่งเข้าห้องเรียนน่ะ มากรี๊ดกับเรื่องหลอกเด็กทำไมกัน รีบเข้าเรียนกันดีกว่า”

    ว่าแล้วเธอก็ฉุดเนกิจ้ำอ้าวเดินกลับห้องทันที และคนอื่นๆก็ทยอยทำตาม อาโกะที่ยังกลัวไม่หายถูกยูนะจูงมือพาลงไป เหลือไว้แต่เซ็ตซึนะที่ถูกโคโนกะกอดไว้แน่น

    “อะ..เอ่อ....คะ..คุณหนูค่ะ?”

    เซ็ตซึนะที่ตอนนี้ตัวแข็งทื่อไม่ใช่เพราะกลัวเรื่องผีแต่เพราะที่ตัวเธอถูกโคโนกะกอดอยู่ต่างหาก
    โคโนกะที่เหมือนจะพึ่งรู้ตัวมองไปรอบๆ อ้าว ทุกคนไม่อยู่แล้ว....ว้ายย! แล้วทำไมฉันมากอดเซ็ตจังซะแน่นขนาดนี้

    “ขอโทษจ๊ะเซ็ตจัง เรารีบกลับไปเข้าห้องเรียนกันเถอะ”

    ว่าแล้วโคโนกะก็ลุกขึ้นกลับไปเรียนกับเซ็ตซึนะที่ตลอดทางยังสติไม่อยู่กับร่าง เพราะมั่วแต่เหม่อคิดถึงเหตุการณ์บนดาดฟ้า

    ง่า.....เมื่อกี้...สิ่งมีชีวิตที่น่ารักที่สุดในโลกมากอดเรา.....สิ่งมีชีวิตที่น่ารักที่สุดในโลกมากอดเรา...ง่า...................

    แล้วองครักษ์สาวก็เพ้อแบบนี้ไปเกือบจะทั้งวัน.......

    ..............................................................................................................................................................

    ..............ในห้องเรียน2-A หลังเลิกเรียน

    พวกอาซึนะที่กำลังเตรียมเก็บของจะหลับหอ
    เนกิที่เลิกสอนเสร็จจากห้องอื่นก็เดินดุ่มๆเข้ามาบอกกับอาซึนะว่า
    “คุณอาซึนะคร้าบ เย็นนี้ผมต้องไปฝึกเวทย์กับคุณเอวา วันนี้กลับดึกน่ะครับ”
    “อ้าว ฉันก็ว่าจะไปส่งหนังสือพิมพ์รอบดึก.......ก็เพราะนายนั้นแหล่ะฉันถึงต้องรีบหาเงินมาซื้อชุดใหม่ นี่แน่ะ!”

    พูดจบอาซึนะก็เขกหัวเนกิหนึ่งที เธอเดือดร้อนเพราะไอ้เวทย์ลมของอาจารย์ตัวจ้อยของเธอนั้นแหล่ะ

    “ขอโทษคร้าบบบบ ไว้ผมจะชดใช้ให้”
    เนกิที่โดนเขกหัวคลำหัวป๊อยๆ ตอนนี้เขาก็ช็อตเงินเหมือนกัน
    เงินของเขาหมดไปกับการซื้อของที่ระลึกตอนไปทัศนศึกษาที่เกียวโตฝากไปให้พี่สาวที่อังกฤษ
    // โธ่...น่าสงสาร

    “อ้าว งั้นเย็นนี้ฉันก็ถูกทิ้งน่ะ ไม่เอาน้า~”
    โคโนกะที่ฟังอยู่ร้องด้วยเสียงออดอ้อน เธอยังกลัวเรื่องผีตอนกลางวันไม่หาย จะให้อยู่คนเดียวตอนนี้หน่ะไม่เอาเด็ดขาด อาซึนะที่ทนเห็นเพื่อนอ้อนไม่ไหว เธอนิ่งคิดไปสักพักก่อนจะหันไปตะโกนถามเซ็ตซึนะที่กำลังจะเก็บของเสร็จว่า
    “นี่! คุณเซ็ตซึนะ เย็นนี้ว่างไหม?”
    “อ่ะ.......ค่ะ วันนี้ไม่มีซ้อม”

    เซ็ตซึนะที่นิ่งคิดไปแป๊บนึงตอบ วันนี้ก็ไม่ต้องตระเวนตรวจตอนดึกด้วยนี่ เธอถามเหตุผลกับอาซึนะว่า
    “มีอะไรหรือค่ะ หรือวันนี้อยากจะซ้อมดาบ?”
    “เปล่าหรอก แต่เย็นนี้ช่วยอยู่เป็นเพื่อนโคโนกะหน่อยสิ”
    “เห!...” เซ็ตซึนะร้องด้วยความตกใจ อยู่กับคุณหนู...ทำไมหล่ะ?
    “พวกฉันไม่ว่างมีธุระน่ะ แล้วยัยนี้ก็ดันกลัวเรื่องผีเมื่อกลางวัน ยังไงก็ฝากด้วยน่ะ~”

    อาซึนะยกมือข้างนึงทำท่าขอโทษขอโพยก่อนจะรีบออกไปจากห้องเพื่อไปทำงานพิเศษทันที
    ส่วนเนกิอ่ะหายตัวไปตั้งนานแล้ว.....โคโนกะเองก็เดินเข้ามาหาเซ็ตซึนะด้วยท่าทางอารมณ์ดีก่อนจะยิ้มพูดขึ้นมาว่า
    “งั้น....ฉันขอไปห้องของเซ็ตจังบ้างน่ะ~”
    “เห!..”

    เซ็ตซึนะที่ได้ยินร้องเสียงหลงปนตกใจทันที ....หง่ะ คุณหนูจะไปห้องของเรา ยะ..แย่แล้ว~
    เซ็ตซึนะรีบหาทางบ่ายเบี่ยงทันที

    “คะ..คือห้องดิฉันมันรกน่ะค่ะ เอาไว้วันหลัง..”

    แต่แล้วเซ็ตซึนะที่พูดจบก็เหมือนพึ่งนึกได้ว่าตัวเองพลาดไป เพราะโคโนกะที่ตอนนี้ดวงตาเป็นประกายรีบตอบแทบไม่ทันว่า
    “แหม~ ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ เดี๋ยวฉันไปช่วยทำความสะอาดให้น่ะ ฉันว่างพอดี~”

    ยิ่งได้ฟังเสียงอันกระตือรือร้นของโคโนกะ เซ็ตซึนะแทบอยากจะกระโดดถีบตัวเอง
    ลืมไปเลย คุณหนูเป็นประเภทแม่บ้านชอบทำความสะอาดจะตาย
    แต่ดูเหมือนจะเลี่ยงไม่ได้ซะแล้วเซ็ตซึนะจึงต้องพาคุณหนูไปที่ห้องพักของตนเอง

    .... กว่าจะมาถึงห้องพักของเซ็ตซึนะระหว่างทางที่เดินมาทำให้โคโนกะรู้ว่า จริงๆแล้วเซ็ตซึนะพักอยู่คนเดียว(จริงๆเป็นไงไม่รู้อ่ะ ใครรู้บ้าง?) แถมหอยังอยู่ไกลรร.มากจนเกือบจะถึงศาลเจ้าทัตสึมิยะอีกต่างหาก
    โคโนกะก็นึกสงสารเซ็ตซึนะที่ต้องเดินทางไกล แถมยังต้องเดือดร้อนไปรอพวกตนทุกเช้าอีกด้วย แต่เซ็ตซึนะก็ปฏิเสธว่าตนไม่เดือดร้อนอะไร
    เพราะยังไงก็ต้องตื่นแต่เช้าซ้อมดาบทุกวันอยู่แล้ว และเมื่อทั้งคู่มาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง

    เซ็ตซึนะหันมาทางโคโนกะที่เตรียมจะเข้าไปในห้องว่า
    “เอ่อ...คุณหนูค่ะ ช่วยกรุณารอสักครู่จะได้ไหมค่ะ”
    “อ้าว ทำไมหล่ะจ๊ะ?”

    โคโนกะถามขึ้นด้วยความแปลกใจ เซ็ตซึนะเองก็กรอกตาหาข้ออ้างอยู่นานก่อนจะตอบว่า
    “คือ.....คือดิฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อเช้าลืมเก็บที่นอน ขอเวลาเก็บสักครู่น่ะค่ะ”
    “ไม่เห็นเป็นไรเลย เดี๋ยวฉันช่วย...”
    “ช่วยกรุณารอสักครู่น่ะค่ะ! ......ปัง!”

    เซ็ตซึนะที่ไม่ปล่อยโอกาสให้โคโนกะอาสาช่วยเธอรีบเข้าห้องไปทันที ที่จริงห้องเธอก็ไม่ได้รกหรอกที่นอนก็เก็บแล้วด้วยแต่มันมีของหลายอย่างที่เธอไม่อยากให้คุณหนูของเธอเห็นต่างหาก แล้วไหนจะต้องถอนเอายันต์กันผู้บุกรุกที่เธอติดเอาไว้อีก
    เซ็ตซึนะรีบเก็บข้าวของโยนใส่ตู้เสื้อผ้าโดยเร็ว...........
    ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงกริ๊ก โคโนกะที่ยืนรออยู่หน้าห้องถือวิสาสะเข้าห้องของเธอ

    ฟู่วว............โชคดี...เก็บทันพอดีเลย....

    “โห ห้องน่าอยู่จัง~”
    โคโนกะที่เพิ่งเคยได้เข้าห้องของเซ็ตซึนะเป็นครั้งแรกอุทานขึ้น
    ห้องของเซ็ตซึนะต่างจากห้องของเธอโดยสิ้นเชิง แม้มันจะเล็กกว่าห้องของเธอเยอะ แต่ก็เป็นแบบสไตล์ญี่ปุ่นเหมาะกับเซ็ตจังของเธอโดยแท้ พื้นเป็นเสื่อแบบญี่ปุ่นไม่มีเตียงสงสัยปูนอนเอามั้ง? มีครัวและห้องน้ำเสร็จสรรพ แถมห้องก็ไม่เห็นรกสักนิดเป็นระเบียบเรียบร้อยมากๆ เซ็ตจังโกหกนี่นา

    “แหม~ เซ็ตจัง มีอะไรปิดบังหรือเปล่าเนี้ย ห้องไม่รกซักหน่อย”

    โคโนกะพูดกระแนะกระแหนพลางหันไปทางเซ็ตซึนะ เซ็ตซึนะเองที่เพิ่งนึกได้ว่าเธอโกหกไว้อย่างนั้นนี่น่ะเธอรีบแก้ตัวทันที

    “อะ....เอ่อ...คือ ดิฉันลืมไปว่าดิฉันเพิ่งจัดไปหน่ะค่ะ...”

    แม้เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นแต่โคโนกะก็ดูไม่ใส่ใจ เธอยังคงเดินสำรวจรอบๆห้องด้วยความสนใจ ก่อนจะไปสะดุดที่รูปที่ใส่กรอบอยู่ จะว่าไปเราเคยถ่ายรูปด้วยกันตอนอยู่เกียวโตนี่เนอะ คิดถึงตอนนั้นเธอก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เซ็ตซึนะเองที่เห็นก็สะดุ้ง
    ตายหล่ะหว่า.......ลืมเอารูปไปซ่อน รูปตอนที่เธอใส่ชุดกลุ่มชินเซนที่สตูดิโอ
    ......แต่โคโนกะก็ชำเลืองไปเห็นอีกภาพนึงที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน เธอหยิบมันขึ้นมาพิจารณาและพยายามนึกถึงเรื่องอะไรบางอย่าง แล้วเธอก็นึกออก

    “อ้อ....ถึงว่าคุ้นๆ นี่มันรูปพี่ๆของเซ็ตจังนี่นา”

    โคโนกะที่ถือกรอบรูปที่เป็นรูปซึรุโกะ โมโตโกะและเซ็ตซึนะตอนเด็กในชุดฝึกดาบ ทั้งสามดูท่าทางมีความสุขมากทีเดียว โคโนกะยังดูรูปนั้นต่อไปโดยไม่รู้สึกเลยว่าตอนนี้เซ็ตซึนะมองดูรูปนั้นด้วยแววตาที่เศร้าสร้อย โคโนกะที่ดูรูปเซ็ตซึนะตอนเด็กก็อดยิ้มให้กับความน่ารักของเซ็ตจังตอนเด็กไม่ได้
    พี่ของเซ็ตจังสวยจัง....แล้วเธอก็ย้อนไปถึงวันที่เธอเจอซึรุโกะเป็นครั้งแรก โตขึ้นเซ็ตจังจะสวยอย่างนั้นไหมน้า.....แต่เขาไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆนี่นา
    สักพักเธอก็หันไปถามเซ็ตซึนะว่า
    “เซ็ตจังจ๊ะ แล้วตอนนี้..”

    แต่แล้วโคโนกะก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าเซ็ตซึนะเหม่อดูรูปที่เธอถือด้วยแววตาเศร้าหมอง

    “อ๊ะ...ค่ะ....”

    เซ็ตซึนะที่ดูเหมือนเพิ่งรู้สึกตัว เธอมองหน้าโคโนกะที่ตอนนี้มีสีหน้ากังวลที่เห็นเธอนิ่งเหม่ออยู่ เซ็ตซึนะรีบตอบคำถามที่เธอคาดว่าโคโนกะถามเธอไปเมื่อกี้ว่า
    “อ้อ ท่านพี่ซึรุโกะเขาประสบอุติบัติเหตุเสียชีวิตไปนานแล้วน่ะค่ะ ส่วนท่านพี่โมโตโกะตอนนี้ไปเป็นครูฝึกดาบที่เกียวโต”

    เซ็ตซึนะโกหกตามที่เอชุนเตี๊ยมกับเธอไว้ นั้นสิน่ะ เรื่องที่ท่านพี่ซึรุโกะตายไปโคโนกะจำไม่ได้นี้น่า เราจะไปบอกความจริงเรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด.....
    ส่วนท่านพี่โมโตโกะเองก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย ยิ่งคิดเซ็ตซึนะก็หดหู่อีกครั้ง
    ทำให้โคโนกะที่จะถามเรื่องโมโตกะต่อเงียบไป เธอรู้สึกว่าเธอไม่ควรจะถามเรื่องนี้อีก
    โคโนกะวางรูปลงและตรงไปที่ห้องครัวแทน

    “นี่ เซ็ตจังหิวไหมจ๊ะ?”

    เซ็ตซึนะที่เศร้าอยู่นึกขอบคุณคุณหนูของเธอเปลี่ยนเรื่องไม่ถามซักไซ้อะไรเกี่ยวกับท่านพี่ของเธอเพิ่มอีก เธอรีบตอบด้วยเสียงเป็นปกติว่า
    “นิดหน่อยน่ะค่ะ แล้วคุณหนูหล่ะค่ะ?”
    “ฉันก็หิวอยู่เหมือนกัน งั้นฉันจะทำอะไรให้กินน่ะ เซ็ตจังรออยู่ตรงนั้นแล้วกัน”

    ว่าแล้วโคโนกะก็สำรวจของตู้เย็นในครัวทันที เธออยากจะทำอะไรตอบแทนเซ็ตจังของเธอบ้าง มีแต่เรื่องอาหารนี้หล่ะม้าง~ ที่จะทำได้ เซ็ตซึนะเองที่ตอนแรกว่าจะเข้าไปช่วย แต่จากคำพูดของคุณหนูของเธอก็พอจะรู้เจตนาที่แท้จริง เธอเลยเลือกที่จะนั่งรอ ดูโคโนกะทำอาหารแทน
    “อ้าว....ไม่มีน้ำเชื่อมนี่”

    โคโนกะที่ตั้งใจจะทำฮอทเค้กแบบง่ายๆร้องขึ้น ถึงมันจะไม่สำคัญ แต่ถ้าใส่น้ำเชื่อมตบท้ายเข้าก็จะอร่อยเหาะไปเลยแหล่ะ เซ็ตซึนะจึงอาสาไปซื้อมาให้ ระหว่างที่ผสมแป้งเสร็จแล้วรอน้ำเชื่อม ก็มันต้องกินร้อนๆนี่เนอะ
    โคโนกะเลือกที่จะเดินสำรวจห้องอีกครั้ง
    คราวนี้เธอเหลือบไปเห็นว่าที่ตู้เสื้อผ้ามีอะไรแลบออกมา อ่ะฮ้า~...น่าสงสัยๆ~(^^)

    “เอ....อะไรน้า~..?”

    โคโนกะลังเลที่จะเปิดดู มันจะเสียมารยาทไหมน่ะ? ว้าๆ แต่ฉันก็อยากรู้เรื่องของเซ็ตจังบ้างนี่น่า ฉันไม่กล้าถามเซ็ตจังตรงๆนี่
    เอาหล่ะ....ดูเป็นดู แล้วโคโนกะก็เปิดตู้เสื้อผ้าออกมา

    “เห~... ”

    โคโนกะสำรวจของในตู้ทีละชิ้น นอกจากพวกเสื้อผ้ามันมีตั้งแต่ตารางการเรียนของเธอ ตารางเวรของเธอตลอดสองปีที่ผ่านมา ไม่สิมันแทบจะเป็นตารางเวลาคร่าวๆว่าเธอทำอะไร ในแต่ละวันของอาทิตย์ด้วยซ้ำไป นี่มันของปีที่แล้ว อ้อ ฉันอยู่ชมรมชงชาปีที่แล้วนี่น่ะ~
    อ่ะ นี้มันตารางเวลาของเซ็ตจัง มีโยงว่าวันไหนว่างไม่ว่างตรงกับเราด้วย (^^)
    โห แน่นจังแล้วเอาเวลาที่ไหนมาพักผ่อนแหล่ะเนี้ย?
    โอ๊ะ นี่เขียนว่าติดเงินทัตสึมิยะค่าดูแลคุณหนูด้วย ว้าย! //^^//
    มานะจังก็เอากับเขาด้วยเหรอเนี้ย? เซ็ตจังนี่ก็ลำบากเหมือนกันเนอะ
    ยิ่งดูโคโนกะก็ยิ่งซาบซึ้งในตัวเซ็ตซึนะ นี่เธออยู่ในสายตาของเซ็ตจังมาตลอดโดยที่เธอไม่รู้ตัว หลงคิดว่าเขาโกรธเรามาซะตั้งนาน เธอนี่มันโง่จริงๆ และแล้วสายตาของเธอก็ชำเลืองไปเจอสมุดอีกเล่มนึงเธอตัดสินใจหยิบมันมาอ่านโดยไม่รอช้า

    ...............ตอนแรกที่อ่านมันโคโนกะก็หัวเราะและยิ้มอย่างมีความสุข
    แต่เมื่อเธอพลิกไปหน้าเก่าๆจนกระทั้งสะดุดไปกับหน้าๆหนึ่ง สีหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนไปทันที จนเมื่อเธออ่านได้สักพักก็ตัดสินใจไม่อ่านต่อ
    โคโนกะนิ่งอึ้งกับสิ่งที่เพิ่งได้อ่านไป แล้วเธอก็จัดของให้เหมือนที่วางอยู่ในตอนแรกแล้วปิดตู้เสื้อผ้า
    โคโนกะค่อยๆเดินมานั่งที่โต๊ะตัวเตี้ย........ในสมองคิดแต่ประโยดในสมุดที่เธอเพิ่งวางไปว่า

    “ผู้ถูกเลือก.....รุ่นที่สามสิบสี่ โคโนเอะ โคโนมิ ผู้ถูกเลือก.....รุ่นที่สามสิบห้า คุณหนู???? ”

    ...... โคโนกะที่ช็อคกับสิ่งที่เพิ่งได้อ่าน ทำไมชื่อแม่เธอถึงถูกเขียนเอาไว้หล่ะ?
    ผู้ถูกเลือกคืออะไร? แล้วทำไมเซ็ตจังต้องเขียนเอาไว้ด้วย?
    แล้วจู่ๆเธอรู้สึกปวดหัวขึ้นมา เธอนั่งกุมหัวตัวเองด้วยท่าทางทรมานเหมือนอยู่ๆมีอะไรบางอย่าง
    ถาโถมมาที่สมองของเธอ ภาพต่างๆซ้อนทับกันสับสนเต็มไปหมด

    “โคโนกะ อยู่ในนี้นะ ห้ามส่งเสียงหรือออกไปไหนไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นน่ะลูก”
    “อ้าว แล้วท่านแม่หล่ะค่ะ? ท่านแม่มาอยู่กับหนูสิ”
    “ที่มันไม่พอ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงน่ะ แม่จะรีบไปหาที่ซ่อนที่อื่น”
    “ทีหลังอย่าทำอะไรบ้าๆอย่างนี้อีกน่ะ.....เข้าใจไหม?”
    “ก็ถ้าโคโนจังไม่เป็นแบบเมื่อกี้อีกก็ได้....”
    “ไม่น่ะ! ไม่เอา ไม่เอาแล้ว ไม่เอา!!!!!”

    คำพูดต่างๆที่โคโนกะไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิตดังเข้ามาไม่หยุด......แล้วดูเหมือนมันจะไม่จบเอาง่ายๆจนกระทั้งโคโนกะที่กำลังทรมานกับสิ่งที่เกิดขึ้นกรี๊ดร้องและร้องไห้ออกมา เธอร้องราวกับจะขอร้องความเมตตาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรงว่า...

    “ได้โปรด!!! หยุดเถอะ!! ฉัน....ฉันไม่ไหวแล้ว ไม่เอาแล้ว..”

    ดูเหมือนมันจะเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ ทุกอย่างที่รุมเข้ามาในหัวของโคโนกะหายไปจากตัวเธอทันที โคโนกะที่ล้มลงนอนขดตัวอยู่กับพื้นกุมหัวของเธอไว้แน่น หายใจหอบอย่างหมดแรง น้ำตารินไหลอาบแก้มของเธอออกมาโดยไม่รู้ตัว อะไรหน่ะ อะไรกัน นี่ฉันเป็นอะไรไป ทำไมถึงรู้สึกทรมานขนาดนี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น???

    ถึงจะไม่รู้สาเหตุแต่น้ำตาก็ยังไหลไม่หยุดราวกับว่ามันเป็นเครื่องเตือนใจอะไรบางอย่าง เธอแหงนไปมองรูปที่เซ็ตซึนะถ่ายกับพี่ๆของเธอ มันมีบางอย่าง มันต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ...

    .... ในห้องนอนของเซ็ตซึนะที่เงียบงัน สิ่งเดียวที่ดังอย่างแผ่วเบาในใจของโคโนกะก็คือ
    ....เสียงร้อยปริของผนึกแห่งความเศร้าที่เธอสร้างเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน...........มันกำลังเริ่มร้าวออกมาน้อยๆรอคอยวันที่จะมีอะไรบางอย่างสะกิดให้มันแตกออกมา......

    .
    .
    .

    .
    .
    .
    .

    “ดิฉันกลับมาแล้วค่ะคุณหนู ....”

    เซ็ตซึนะที่พึ่งกลับมาจากไปซื้อของ ในมือถือถุงที่ใส่ขวดน้ำเชื่อม เธอต้องเดินไปไกลซักหน่อยเพราะที่นี่มันไม่สะดวกเหมือนหออื่นๆ
    แต่แล้วเมื่อเซ็ตซึนะหันไปมองหาคุณหนูของเธอ เธอก็ถามด้วยความตกใจว่า
    “เป็นอะไรไปค่ะคุณหนู??”

    โคโนกะที่นั่งอยู่ใกล้โต๊ะตัวเตี้ยยิ้มตอบพลางเอากระดาษทิชชู่เช็ดตา เธอทำราวกับว่าเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากเธอรอเซ็ตซึนะอยู่
    “อ้อ เมื่อกี้ฉันทำแป้งกระจายเข้าตาทั้งสองข้างเลยหล่ะจ๊ะ ฉันนี้มันซุ่มซ่ามจัง”

    ว่าแล้วโคโนกะก็เอากระดาษเช็ดที่รอบขอบตาของเธอ เซ็ตซึนะก็ไม่รอบช้ามาดูอาการของคุณหนูของเธอทันที
    เซ็ตซึนะที่ดูที่ตาทั้งสองข้างของโคโนกะก็เป็นห่วง ที่มันคงจะแสบมากตาแดงหยั่งกะไปร้องไห้หนักมางั้นแหล่ะ แต่โคโนกะก็ลุกขึ้นทำตัวปกติแล้วบอกว่า
    “ฉันไม่เป็นไรแล้วหล่ะ เรามาทำฮอทเค้กกินดีกว่า ฉันเริ่มท้องร้องแล้ว”

    โคโนกะยิ้มเดินไปฮัมเพลงไปตั้งกระทะทันที เซ็ตซึนะก็ไม่ได้เอะใจอะไรนอกจากเป็นห่วงอาการที่ตาของคุณหนูของเธอเท่านั้น เดี๋ยวไปหายาหยอดตามาให้ดีกว่า
    แล้วทั้งสองก็ทานฮอทเค้กฝีมือโคโนกะด้วยความเอร็ดอร่อย โคโนกะหาเรื่องคุยกับเซ็ตซึนะอย่างสนุกสนานเพื่อกลบเกลื่อนในสิ่งที่เธอเผชิญไปเมื่อสักครู่นี้โดยไม่แสดงพิรุธให้เซ็ตซึนะเห็นเลย

    .......เธอทำไปตามสัญชาตญาณของเธอที่บอกว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่เธอจะบอกเรื่องนี้กับเซ็ตจัง

    ..........................................................................

    หลังจากที่ทานกันเสร็จโคโนกะก็บอกว่าถึงเวลาที่ตนต้องกลับพอดี
    เซ็ตซึนะจึงเดินไปส่งถึงหอ และเมื่อถึงที่หน้าหอของโคโนกะที่เริ่มดึกมากแล้ว โคโนกะก็พูดขึ้นว่า
    “ส่งฉันแค่นี้แหล่ะจ๊ะ เซ็ตจัง”
    “อ่ะ....แต่ว่าคุณหนูค่ะ”
    “หรือเซ็ตจังอยากเข้าห้องของฉันกันสองต่อสองหล่ะ?”

    โคโนกะแกล้งถามเซ็ตซึนะ เจอดอกนี้ไปเซ็ตซึนะก็อายม้วน
    เธอไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้นซะหน่อย โคโนกะที่รู้ว่าตัวเองแกล้งเซ็ตซึนะได้สำเร็จก็หัวเราะคิกในความน่ารักขององครักษ์ของเธอ ก่อนจะพูดต่อว่า
    “ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้ดึกมากแล้วฉันไปนอนก่อนน่ะ ราตรีสวัสดิ์จ๊ะเซ็ตจัง~”

    โคโนกะพูดราตรีสวัสดิ์พร้อมแอบหอมแก้มเซ็ตซึนะไปหนึ่งฟอดใหญ่แล้วหนีขึ้นหอไป ทิ้งให้เซ็ตซึนะยืนเอ๋อหน้าแดงก่ำทำอะไรไม่ถูกอยู่หน้าหอ
    ง่า...อีกแล้ววันนี้มันวันอะไรเนี้ย? วันดีของเรามั้ง
    แต่เซ็ตซึนะยืนอึ้งย้งอยู่ได้ไม่นานก็มีเสียงแซวจากด้านหลังว่า
    “วิดวิววววววววว! ท่านเซ็ตซึนะนี่ร้ายไม่เบาน่ะเจ้าค่ะ นินๆ”

    นางาเสะ คาเอเดะ นั่งปรากฏกายอยู่บนต้นไม้โดยที่เซ็ตซึนะไม่รู้ตัว
    โธ่จะไปรู้ตัวอะไรสติสะตังมันเตลิดไปไหนต่อไหนแล้ว
    แล้วยิ่งโดนคาเอเดะแซวเธอก็ยิ่งหน้าแดงขึ้นกว่าเก่า
    อีกสักพักกว่าจะกลับเข้าสู่ซากุระซากิ เซ็ตซึนะในโหมดปกติได้ เธอรีบเบี่ยงประเด็นทันที

    “แล้วท่านคาเอเดะมาทำอะไรที่นี่หรือค่ะ?”
    “ก็นี่มันหอของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็กลับมานอนไงหล่ะเจ้าค่ะ ไม่เหมือนใครบางคนหรอกที่มาเพื่อโดนหอมแก้ม”

    โดนเม็ดนี้เข้าไปยิ่งหาข้อแก้ตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่ จริงสิ นอกจากเรากับทัตสึมิยะแล้ว คนอื่นๆเขาก็อยู่หอนี้กันหมดนี่
    อ่ะ ทัตสึมิยะ...... แล้วเซ็ตซึนะก็หันไปทางใต้ต้นไม้ที่คาเอเดะนั่งอยู่พลางพูดว่า

    “อ้อ มีทัตสึมิยะมาส่งด้วย น่ารักกันจิงเลยน่ะค่ะ”
    เซ็ตซึนะหาทางเลี่ยงการโดนแซวได้สำเร็จ มามุขนี้คาเอเดะก็แอบเสียศูนย์เกือบตกจากต้นไม้
    มานะเองที่แอบดูอยู่หลังต้นไม้มานานก็เดินก้มหน้าแดงๆกระแอ่มแก้เขิน

    “อะฮึ่ม.......เผอิญฉันมีธุระแถวนี้น่ะ เซ็ตซึนะ”
    “อย่างนั้นเหรอ นึกว่ามาส่งแฟนซะอีก ทัตสึมิยะ”

    เซ็ตซึนะยิ้มกริ่ม แน่นอนเธอรู้ความสัมพันธ์ของสองคนนี้ดี (เซ้นท์ของพารุ มันก็ไม่ผิดน่ะสิ)
    เจอหมัดนี้ทำทั้งสองคนถึงกับสะอึก แต่เซ็ตซึนะก็ไม่อยากยุ่งมากไปกว่านี้ เธอแค่ไม่อยากโดนแซวเท่านั้น เมื่อมีโอกาสก็เลยชิ่งขอตัวลาทันที

    “งั้นฉันไปก่อนหล่ะ ราตรีสวัสดิ์ ทัตสึมิยะ ท่านคาเอเดะ”
    “.........................”
    “ไงหล่ะ ไปแซวเขาก่อนทำไม โดนเขาเอาคืนเลย”

    หลังจากเงียบมองเซ็ตซึนะกลับไปอยู่นาน มานะเหล่ตาไปทางคาเอเดะพูดด้วยน้ำเสียงกระแหน่ะกระแหน่ในที่สุด
    แต่ดูเหมือนผู้ที่ถูกกระแหน่ะกระแหน่จะไม่ใส่ใจ คาเอเดะกระโดดลงมาจากต้นไม้ยิ้มอย่างสบายอารมณ์ก่อนที่จะเดินเข้าไปหามานะแล้วพูดว่า
    “ก็ ท่านเซ็ตซึนะเขาพูดจริงนี้เจ้าค่ะ”
    “งั้นก็เถอะ ................. หาเรื่อง”

    มานะหันมามองคาเอเดะแล้วหลี่ตามองเชิงตำหนิ แต่คาเอเดะก็ทำเป็นไม่สนใจ เธอยื่นแก้มไปใกล้หน้ามานะแล้วเอานิ้วชี้ชี้ที่แก้มของตนพลางพูดว่า
    “ข้าพเจ้าอยากได้อย่างท่านเซ็ตซึนะบ้างน่ะเจ้าค่ะ นินๆ”
    “เห!”
    “น่ะน่ะ ข้าพเจ้าอยากได้~ นินๆ” แล้วคาเอเดะก็เอานิ้วจิ้มๆไปที่แก้มเป็นการย้ำ น้ำเสียงอ้อนวอนอีกฝ่ายซะเสียงหวานสุดชีวิต
    “...................”
    “ได้สิ........”

    หลังจากเงียบไปสักพักคำตอบของมานะทำเอาคาเอเดะงง ไม่นึกเลยว่าจะขอได้ง่ายดายขนาดนี้ รู้งี้ขอมาซะตั้งนานแล้ว(^^).
    ...แล้วนินจาโคงะก็หลับตาพริ้มรอให้อีกฝ่ายมาหอมแก้มตนด้วยใจพองโต...

    เพี๊ยะ!!

    “โอ้ย~ เจ็บน่ะเจ้าค่ะ”

    คาเอเดะร้องเสียงหลงทันทีที่โดยมานะดีดมะกอกเข้าให้ เธอใช้มือลูบที่หน้าผากคลำมันป๊อยๆ
    มานะเองหลังลงทันฑ์เสร็จก็ชิ่งเดินกลับไปพร้อมตะโกนส่งท้ายว่า
    “จะมากไปหล่ะ ครั้งหน้ามันจะไม่ใช่แค่นิ้วแน่ ............ ราตรีสวัสดิ์”

    “หง่ะ....ไม่ใช่แค่นิ้ว....เหรียญ? หรือกระสุน? โอ้ย~ ไม่อยากได้ทั้งสองอย่างนั้นแหล่ะเจ้าค่ะ โธ่~ ท่านทัตสึมิยะใจร้ายจริงๆ” แล้วคาเอเดะก็เดินกลับเข้าหอพลางคิด
    “อืม ท่านโคโนกะเป็นเหมือนแสงสว่างให้ท่านเซ็ตซึนะจริงๆเลยน้า หลังจากจบเรื่องที่เกียวโตท่านเซ็ตซึนะดูร่าเริงขึ้นไม่มืดมนเหมือนแต่ก่อน ต้องเพราะท่านโคโนกะแน่ๆ....”

    แล้วเธอก็ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีเดินเกลับข้าห้องพักของตนไป
    นินจาโคงะผู้นี้กุมความลับของผู้คนเอาไว้มากมายซะจริง.......นินๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×