ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "ไสหัวไปตายซะ!" จึงต้องดิ้นรนเพื่อชีวิตธรรมดากับคนรักและดาบต้องสาป

    ลำดับตอนที่ #10 : แม่ชีผู้ขวางโลก

    • อัปเดตล่าสุด 6 ต.ค. 63


    ???: 「ขอบใจที่ช่วยนะ!」

    หลังจากที่คืนกระเป๋าที่ถูกขโมยแล้ว เจ้าของก็จับมือทั้งสองข้างของ Flamm ขณะที่ขอบคุณด้วยน้ำตา ชายคนนี้ดูอายุประมาณสามสิบปี แต่ดูท่าทางจะอ่อนแอ เขาไม่น่าดูเหมือนคนที่จะเดินไปเองในเขตตะวันตกได้เลย

    Reach: 「อ๊ะ ขอโทษด้วยที่ไม่ได้แนะนำตัว ผมชื่อ Reach Mancathy เปิดร้านเล็กๆนะ」

    เขาแนะนำตัวอย่างสุภาพ กิริยาท่าทางกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ดูก็รู้ว่าเป็นพวกชนชั้นสูง นอกจากนั้น Flamm ก็เคยได้ยินชื่อของ Mancathy มาบ้างก็ไม่นานเท่าไหรนัก เมื่อกี้นี้เองแหละ

    Milkit แตะไหล่ของเธอ 「นั่นเจ้าของร้านที่เราเข้าไปซื้อของมื้อเย็นก่อนหน้าหรือเปล่าคะ?」

    ร้านที่ทั้งสองมาหยุดนั้นเป็นร้านขายอาหารสดขนาดใหญ่ก่อนที่จะกลับไปยังเขตตะวันตกนั่นเอง

    Flamm: 「อ๊ะ ใช่แล้ว ร้าน Mancathy นั่นเอง… ไม่สิ เดี๋ยวนะ มันไม่เล็กไปแล้ว!」
    Reach: 「อา พวกเธอใจดีเกินไปแล้ว」

    ถึงแม้ว่า Reach จะไม่ได้ถือตัว ร้าน Mancathy ก็เป็นร้านขายอาหารสดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง ทุกคนที่อาศัยในเมืองหลวงต่างก็เข้าร้านนั้นมาแล้วหนึ่งครั้งหรือไม่ก็หลายครั้ง ในขณะที่ Reach ดูผอมแห้งไปหน่อยนั้น Flamm ก็ถึงกับแปลกใจที่เศรษฐีแบบนั้นจะพูดจาสุภาพกับทาสทั้งสองคนได้

    Reach: 「จะว่าไปแล้ว เธอชื่ออะไรล่ะ?」
    Flamm: 「อืม ฉันชื่อ Flamm เพิ่งจะลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยในเขตตะวันตก ส่วนคนนี้คือ Milkit นะ」
    Milkit: 「ฉันรับใช้นายท่านอยู่ค่ะ」

    Milkit ก้มหัวต่ำสุดตัวขณะที่เธอแนะนำตัว ต้องขอบคุณชุดเมดเลยที่ทำให้ดูโดดเด่นขึ้นมา

    Reach: 「Flamm กับ Milkit หรือ... Flamm หน้าเธอดูแล้วมันคุ้นๆนะ」

    Reach เกาปลายคางครุ่นคิดอยู่สักพัก ในขณะที่ Flamm รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นอยู่ภายใน

    「ฉันเองก็คิดแบบนั้นด้วย」 แม่ชีเด็กพูดเสริม

    ในฐานะสมาชิกปาร์ตี้ผู้กล้าแล้ว Flamm ไม่ดีใจเลยนอกจากเธอก็แค่เป็นที่รู้จัก
    จะว่าไปคนของศาสนจักรที่ทำงานกับ Maria ก็ดีหรือเจ้าของร้านใหญ่ที่เก็บรวบรวมข้อมูลการทำงานของเขาก็ดี จึงน่าจะเป็นไปได้ที่พวกเขาน่าจะเคยเห็นหน้าเธอมาก่อน

    「ไม่ใช่มั้ง」 Flamm พูดแล้วหัวเราะ 「ฉันเองก็ได้ยินมาบ่อยๆว่าฉันดูเหมือนกับคนที่มีชื่อเสียงอยู่นะ」

    Flamm พูดบ่ายเบี่ยงทั้งสองคนอย่างสงบ ไม่มีใครเลยที่จะนึกภาพของ Flamm Apricot ที่กลายเป็นทาสได้ แม้แต่คนที่เคยเห็นเธอมาก่อนก็คงจะไม่เชื่อในสายตาบนใบหน้าที่มีตราทาสติดอยู่

    Reach: 「อ๊ะ ขอโทษนะถ้ามันกวนใจเธอนะ」
    Flamm: 「ก็ไม่ถือสาหรอกนะ」
    Reach: 「เหรอ แล้วแม่ชีที่อยู่ตรงนี้ล่ะ?」
    Sarah: 「ฉันชื่อ Sarah Anvilen ฉันเป็นผู้คอยรับใช้ให้กับท่าน Origin นะ」
    Reach: 「อืม ขอบใจที่พวกเธอช่วยนะ! แค่ขอบคุณอย่างเดียวก็คงไม่พอหรอก」
    Sarah: 「เป็นเรื่องธรรมดาที่แม่ชีจะต้องสู้กับเจ้าพวกนั้นอย่างเดียวนี่นา」

    Sarah เอามือทั้งสองท้าวสะเอวแล้วยืดอกขณะที่พูด

    Flamm นึกภาพแม่ชีที่ดูบริสุทธิ์ผุดผ่องและอ่อนแอที่ถูกทับด้วยภาพของนักสู้ ชายสองคนที่ร้องโอดโอยคาเท้าของเธอนั้นคงไม่ได้นึกภาพว่าพวกมันจะถูกเล่นงานและจับตัวโดยแม่ชีเด็กนี้ด้วย

    Flamm: 「จะว่าไป คุณจะทำอะไรกับพวกนั้นล่ะ?」
    Reach: 「ผมได้กระเป๋ากลับมาแล้ว ผมไม่คิดจะต้องทำอะไรมากกว่านี้แล้วล่ะ」
    Sarah: 「ใช่ พวกนั้นน่าจะสำนึกไปมากแล้วล่ะ」

    Flamm ถึงกับทำเสียงคัดค้านหลังจากที่ได้ยินทั้งสองจะปล่อยให้พวกนั้นกลับไป เธอไม่ชื่อว่าสองคนที่คอยติดตาม Dain นั้นจะลำบากถึงขนาดต้องดิ้นรนได้หรอก ในขณะที่คนสิ้นคิดที่ลักขโมยนั้นน่าจะกลับใจได้ สองคนนี่ต้องขโมยเพื่อเอาสนุกแน่ เธอไม่คิดว่าคนแบบนั้นจะสำนึกในการกระทำง่ายๆ

    Reach: 「เธอไม่เห็นด้วยหรือ?」
    Flamm: 「ฉันว่าจับส่งตัวไปน่าจะดีกว่านะ ฉันคิดว่าเจ้าพวกนี้จะต้องเริ่มขโมยอีกครั้งแน่ถ้าปล่อยพวกมันไปนะ」
    Sarah: 「คิดอย่างนั้นจริงๆหรือ? หลังจากที่เจ็บตัวไป ไม่ใช่ว่าพวกนั้นจะสำนึกในสิ่งที่เกิดหรือ? ทำไมพวกนั้นถึงทำเหมือนเดิมอีกหลังจากที่ถูกเล่นงานไปแล้วล่ะ?」
    Flamm: 「เธอเป็นเด็กที่ดีจริงๆเลยนะ Sarah คนไม่ดีอย่างพวกนี้ไม่สำนึกในการกระทำนอกจากจะได้รับโทษอย่างร้ายแรงนะ」

    「น่าเศร้านะ」 Sarah พูดพลางใจวอกแวก 「น่าเศร้า」

    Flamm นั่งลงยองๆแล้วลูบผมเธอ

    Flamm: 「น่า โลกนี้บางทีก็น่าเศร้า ฉันคิดว่ามันน่าจะดีกว่านี้ ถ้ามีคนอย่างเธอพยายามนะ」
    Sarah: 「เข้าใจแล้ว ฉันจะพยายาม!」

    Sarah ฟื้นอารมณ์อย่างรวดเร็ว สมกับที่เธอเป็นเด็ก ถ้าทุกคนเป็นคนใส่ซื่อเรียบง่ายเหมือนเธอ โลกนี้ก็คงจะสงบสุขไปแล้ว

    Flamm: 「ถ้างั้น ฉันว่าเธอน่าจะเรียกทหารหรือพาลาดินนะ」
    Reach: 「นั่นสินะ... อ๊ะ บางทีเธอน่าจะรู้จักสถานที่ๆจะไปในเขตนี้สินะ?」
    Sarah: 「ฉันรู้ว่าพาลาดินนั้นอยู่ที่ไหนนะ ฉันจะพาพวกเขามาให้นะ!」

    แล้ว Sarah ก็วิ่งออกไปด้วยความเร็วเต็มกำลัง Flamm กับ Reach ต่างก็มองไปยังหลังของเธอขณะที่ลับสายตาไป

    Milkit: 「สมกับเป็นเธอจริงๆเลยค่ะ」
    Flamm: 「และก็ยังใจร้อนนิดหน่อยด้วย นั่นแหละเด็ก」
    Milkit: 「ก็ว่างั้นล่ะค่ะ」

    Reach ยิ้มให้กับบทสนทนาระหว่าง Flamm ที่มีอายุ 16 ปีกับ Milkit ที่มีอายุ 14 ปี

    สำหรับวัยรุ่นที่มีอายุห่างกันสี่หรือห้าปีนั้นน่าจะมีความรู้สึกมากกว่าตัวเลขที่แท้จริง ถึงแม้ทั้งสองคนนั้นจะอิจฉาบ้างที่ได้เห็นความสุขของวัยเด็กที่พวกเธอเสียไป

    หลังจากนั้น Reach ก็หุบยิ้มแล้วก็กลับมาพูดด้วยท่าทางที่จริงจัง

    Reach: 「จะว่าไปแล้ว Flamm…」
    Flamm: 「ค่ะ?」
    Reach: 「เธอดูท่าจะเป็นนักผจญภัยที่ฝีมือดีเลยนี่นา เธอจะช่วยรับคำร้องส่วนตัวของผมได้มั้ย?」
    Flamm: 「คำร้องส่วนตัวหรือ? ฉันเป็นแค่นักผจญภัยแรงค์ F เองนะ」

    ถึงแม้ว่า Flamm จะเป็นนักผจญภัย ก็ยังมีคนที่ทำงานในร้าน Mancathy ที่ควรจะเลือกให้รับงานผจญภัยมากกว่า เธอไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงอยากให้เธอรับคำร้องจากคนที่เขาเพิ่งจะพบกันด้วยล่ะ

    Reach: 「ทั้งๆที่เมื่อกี้นี้เป็นความสามารถของแรงค์ F หรือครับ?」
    Flamm: 「ก็ เพิ่งจะลงทะเบียนเมื่อวานนี้เอง」

    เพียงแค่มองดูสถานะของ Flamm ก็น่าจะอยู่เหนือพวกแรงค์ F ไปแล้ว
    อย่างไรก็ตามเธอก็ยังด้อยประสบการณ์อยู่
    ความสามารถของนักผจญภัยไม่ได้แค่ตัดสินที่ความแข็งแกร่ง ประสบการณ์กับความรู้เองก็เป็นสิ่งสำคัญด้วย
    เพียงการต่อสู้กับมอนสเตอร์ระดับสูงแค่ครั้งเดียวไม่พอที่ Flamm จะบอกได้ว่าเธอนั้นก้าวข้ามแรงค์ F ได้อย่างแน่นอน

    Reach: 「แล้วพวกเขายังไม่รู้ถึงความสามารถของเธอเลยสินะ เอาตามตรงเลยนะ มันน่าจะเหมาะสมกับผมมาก ถ้าเธอไม่ได้มีชื่อเสียงระดับสูงนะ」

    Flamm รู้สึกไม่สบายใจ แต่ Reach ท่าทางจะมีความสุขที่เสนอคำร้องที่เขาไม่อยากให้คนอื่นรู้ ถึงแม้ว่าการรับคำร้องตรงๆโดยไม่ผ่านกิลด์นั้นจะทำให้มีปัญหาก็ตาม

    Reach ดูเหมือนจะเข้าใจความรู้สึกของ Flamm 「ที่จริงแล้ว ภรรยาผมป่วยนะ」

    Flamm: 「ขอโทษนะคะ แล้วคุณไปขอให้ศาสนจักรช่วยหรือยังล่ะคะ?」
    Reach: 「ดูเหมือนว่าจะเป็นโรคที่เวทมนตร์ไม่สามารถรักษาได้นะ บาทหลวงบอกผมว่าไม่มีทางเลือกนอกจากเชื่อในตัวของภรรยาและภาวนาให้เธอมีอาการดีขึ้นเอง」

    Milkit ถึงกับสะดุ้ง สถานการณ์นี้ดูคล้ายกับ Mustard poison ที่ทำลายโฉมหน้าเธอมาก

    Reach: 「อย่างไรก็ตาม พอลองสืบค้นดูแล้วก็พบว่าโรคนั้นสามารถรักษาได้ด้วยยานะครับ」
    Flamm: 「เข้าใจแล้ว สิ่งที่คุณขอร้องมาสินะ?」

    ถ้า Reach วางคำร้องผ่านกิลด์ มันก็อาจจะเปิดเผยให้ศาสนจักรรู้ว่าเขาอยากจะหาสมุนไพรมาทำเป็นยา แล้วศาสนจักรนั้นก็จะสั่งเล่นงานหมอปรุงยาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตน นั่นจึงไม่ใช่แค่ผลประโยชน์ในอดีต แต่ถือว่าเป็นอาชญากรรม การปรุงยาจากสมุนไพรถือว่าเป็นการผลิตยาที่ผิดกฎหมายไม่ว่ามันจะมีผลดีแค่ไหนก็ตาม

    อาณาจักรก็ทำตามโบสถในข้อบังคับของยา แม้แต่เจ้าของร้าน Mancathy ก็คงไม่อาจจะเลี่ยงการถูกดำเนินคดีได้ ถ้าคำร้องของเขาถูกเปิดโปง

    Reach: 「ภรรยาของผมสภาพแย่ลงทุกวัน ถ้าเธอไม่ได้รับยาให้เร็ว เธออาจจะตายได้」

    ดังนั้นเขาจึงรู้สึกถูกบังคับให้หายาถึงแม้ว่ามันผิดกฎหมายก็ตาม นักผจญภัยแรงค์ต่ำอย่าง Flamm ที่มีความสามารถสูงจึงเป็นสิ่งที่เขาต้องการ

    Reach: 「แน่นอนว่า รางวัลก็ย่อมสูงด้วยนะ ผมเข้าใจว่าคำร้องที่ไม่ผ่านกิลด์นั้นจะไม่ช่วยยกระดับของเธอ ดังนั้นเธอต้องขอสิ่งชดเชยตามความเหมาะสมด้วยนะ」

    ตามที่ Reach ว่ามา คำร้องที่ไม่ผ่านกิลด์จะไม่ถูกนำไปคำนวณรวมกับแรงค์ของ Flamm อีกอย่างหนึ่งก็คือกิลด์จะไม่สามารถเก็บค่าธรรมเนียมด้วย ตัวคำร้องเองก็ไม่ได้มีความรุนแรงหรือชั่วร้าย และ Flamm ก็ไม่ต้องมาประจันหน้ากับพนักงานต้อนรับที่แสนรังเกียจด้วย

    Milkit: 「คุณคิดว่าไงล่ะคะ นายท่าน?」
    Flamm: 「ก็ดี…」

    Flamm ยักไหล่ รางวัลนี้ถือว่าดี แต่ก็มีความเสี่ยง ถ้า Flamm ถูกพวกศาสนจักรตามกลิ่นได้ เธอก็จะตกอยู่ในอันตราย ถึงอย่างนั้นเธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากตอบรับความรู้สึกของ Reach ที่มีต่อภรรยาของเขา

    เธอหันกลับไปหาเขาแล้วพูดออกมาให้ชัดเจน 「ฉันจะรับคำร้องของคุณเองค่ะ」

    Reach ทำสีหน้ายิ้มพอที่จะยกระดับความหวังของเขา 「จริงหรือนี่! โอพระเจ้า ขอบคุณที่ได้พบนะ!」

    Flamm ถึงกับไม่สบายใจที่คนๆนี้นับถือในสิ่งที่ตนไม่ได้นับถือ แต่ก็ไม่ได้ทำให้การตัดสินใจต้องสั่นคลอน เธอมีความสุขที่ได้รับน้ำตาที่ไหลรินของ Reach ถึงอย่างนั้น ขณะที่เธอตอบรับคำขอไป เธอก็ยังไม่รู้ว่าต้องใช้สมุนไพรชนิดใดหรือไปหาจากที่ไหน

    「เออ แล้วสมุนไพรโตขึ้นที่ไหนล่ะคะ?」 Flamm ถามออกมาอย่างอายนิดๆ

    「ที่จริงแล้ว ผมไม่รู้สถานที่หรอก」 Reach บอกตามความจริง 「ผมรู้ว่ามันเป็นต้นที่มีดอกไม้สีน้ำเงินที่ชื่อว่า Chiaraly แต่หนังสือสมุนไพรนั้นมันหายากจนแทบจะไม่มีเหลือแล้ว」

    เนื่องจากศาสนจักรได้ทำการกวาดล้างข้อมูลของสมุนไพรไป จึงน่าแปลกใจที่ Reach จะรู้ชนิดของสมุนไพรที่ต้องการได้ เขาน่าจะทำสำเร็จแน่เพราะเขาพยายามจะช่วยภรรยาแบบไม่คิดชีวิตเลย

    Flamm: 「เข้าใจล่ะ การค้นหาก็ถือว่าเป็นส่วนของคำร้องสินะ」
    Reach: 「ผมรู้ดีว่ามันสมควรที่จะขอหรอก แต่นี่คือความหวังเดียวนะ」
    Flamm: 「ฉันจะพยายาม จะไม่ทิ้งกลางคันแน่นอนค่ะ」

    Flamm ไม่มั่นใจในความสามารถของเธอที่จะรับคำร้องมาถากๆได้ แต่เธอก็จะต้องลองพยายามดู

    คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะหาข้อมูลที่ขาดหายไป Flamm ควรจะเริ่มจากความเข้าใจขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับสมุนไพรและการระบุสถานที่ด้วยตัวเอง แน่นอนว่าเธออาจจะไปขอให้เพื่อนมาช่วย แต่โชคไม่ดีที่เธอไม่แน่ใจว่าจะมีเพื่อนยอมมาช่วยได้ หรือแม้แต่จะเป็นเพื่อนแท้ของเธอก็ตาม

    「พวกเขาลำบากอยู่บ้าง แต่สุดท้ายก็ยอมเข้าใจ」

    「สองคนนั่นคิดว่าเธอคือตัวภาระมากที่สุด」

    Flamm จำคำพูดของ Jean ได้ เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นจริงหรือไม่ ถึงจะเป็นแค่ความทรงจำก็มากพอที่จะทำให้จิตใจของ Flamm ถึงกับสั่นไหว ถ้าเขาได้บอกความจริงไป แล้ว Eterna ก็คงจะไม่ยอมร่วมไปกับ Flamm แต่เธอก็ไม่มีตัวเลือกที่จะเชื่อได้

    Flamm: 「แต่ ฉันว่ามันจะต้องใช้เวลานะคะ」
    Reach: 「สภาพร่างกายของภรรยาผมก็แย่อยู่แล้ว เธอคงยังไม่ตายเร็วๆนี้หรอก ทั้งหมดที่ผมบอกได้ก็คือไปหาสมุนไพรให้เร็วที่สุดก็พอ ขอโทษด้วยที่กดดันเธอมากนะ」

    ไม่มีเส้นตายที่ตายตัว แต่ถ้าเธอใช้เวลานานเกินไป ภรรยาของ Reach อาจจะตายได้ ถือว่าเป็นภาระหนักอึ้งที่ต้องรับไว้ ชีวิตความเป็นความตายก็ขึ้นอยู่กับการทำคำร้องของ Flamm แล้ว

    Reach: 「บ้านผมมีบันทึกที่เขียนลักษณะโดยย่อของ Chiaraly นะ จะไปเอามามั้ยล่ะ?」

    ขณะที่ทั้งสองเตรียมรายละเอียดสุดท้ายของคำร้อง Flamm ก็ได้ยินเสียง Sarah วิ่งกลับมาหาพวกเขา

    Sarah: 「อ๊ะ พวกเขาอยู่นี่ไง!」

    Sarah วิ่งกลับมาหาทั้งสามคน โดยมีพาลาดินที่สวมชุดเกราะขาวอีกสองคนตามมาด้วย พาลาดินได้ร่ายวงเวทแสงเพื่อมัดตัวสองหัวขโมยที่ยังไม่ได้สติอยู่ ในเวลานั้นก็ได้สอบปากคำ Reach, Flamm และ Milkit ด้วย ทุกอย่างไปได้อย่างราบรื่นเพราะ Sarah เป็นคนของศาสนจักร

    「ทำได้ดีมาก!」

    Sarah จับมือกับอัศวินแล้วโบกมือลา เธอเปียกชุ่มเหงื่อเต็มหัวจากการวิ่งไปและวิ่งกลับ แต่ก็ยังแสดงสีหน้ายิ้มได้โดยที่ไม่มีความเมื่อยล้าใดๆเลย

    Sarah หันไปหา Flamm หลังจากที่พาลาดินสองคนหายเข้าไปในฝูงชนแล้ว 「ฉันหวังว่าไอ้พวกนั้นจะกลับใจนะ」

    「ฉันด้วย」 Flamm เองก็เห็นด้วย มันน่าจะช่วยให้เขตตะวันตกปลอดภัยขึ้น และน่าจะลดอิทธิพลของพวก Dain ด้วย

    「จะว่าไปแล้ว」 Sarah เอ่ย 「ฉันมีบางอย่างที่อยากจะถามนะ」

    「อะไรหรือ?」 Reach ถามขึ้น

    Sarah มองไปที่เขาและเอียงหัว 「มีอะไรกวนใจคุณหรือ? โดยเฉพาะเรื่องสมุนไพรน่ะ」

    หัวใจของ Flamm เต้นไม่เป็นจังหวะ

    Reach ถึงกับตะขิดตะขวงใจ แต่ก็ยังคงพยายามไม่แสดงสีหน้าออกมา 「เปล่า ไม่มีอะไรอย่างนั้นหรอก」

    เขากับ Flamm ต่างก็ทำท่าประหลาดใจ Sarah ไม่ได้แอบฟังทั้งสองคุยกัน แต่ถึงกระนั้นเธอก็พอจะนึกคำร้องที่ Reach ขอมาได้

    Sarah: 「ก็นะ ในอดีต ตอนที่ฉันเห็นคนที่มีสีหน้าท่าทางลำบากที่ดูคล้ายๆกันน่ะ ฉันก็คอยช่วยมองหาสมุนไพรแล้วก็ยื่นให้กับพวกเขาไปด้วย」
    Reach: 「ช่วยหายาสมุนไพรให้น่ะหรือ? ไม่ใช่ว่าเธอเป็นพวกของศาสนจักรหรือ?」
    Sarah: 「อือ มันเป็นหน้าที่ของนักบวชที่ต้องช่วยเหลือคนที่ทุกข์ยากนะ ฉันเรียนรู้มาจาก Maria นะ」
    Reach: 「Maria หรือ?」
    Sarah: 「Maria เป็นคนสุดยอดไปเลยที่ได้เดินทางกับปาร์ตี้ผู้กล้าด้วย! ตอนที่ฉันเพิ่งเข้ามาในศาสนจักรใหม่ๆ เธอก็ใจดีกับฉันมากเลย」

    Sarah ดูเหมือนจะพูดถึงนักบุญ Maria Afengens ดวงตาของ Sarah เปล่งประกายขณะที่พูดถึงเธอ และแน่นอนว่าเธอนั้นเทิดทูน Maria จากก้นบึงหัวใจ

    ประสบการณ์ของ Flamm ที่มีกับ Maria นั้นต่างกัน ถึงเธอจะใจดี แต่ในช่วงระหว่างเดินทางเธอจะทำตัวแปลกอยู่ตลอดเมื่อพูดถึงปีศาจ เธอเองก็ยังเชื่อฟังคำพูดของ Jean ไม่ให้ใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูให้กับ Flamm เพื่อเป็นการสงวน Flamm พบว่ายากที่คิดว่าจะมีคนแบบนั้นเป็นนักบุญได้

    「ฉันคิดว่ามันแปลกที่ทางศาสนจักรนั้นห้ามไม่ให้ใช้ยาสมุนไพรนะ ถ้าไม่สามารถใช้เวทมนตร์รักษาได้ ทำไมถึงไม่ใช้ยารักษาล่ะ?」 Sarah พูดต่อ 「อ๊ะ อย่าบอกใครว่าฉันพูดแบบนั้นไปนะ ไม่งั้นต้องลำบากแน่เลย」

    Reach, Flamm และ Milkit ต่างก็หันมามองหน้ากัน สิ่งที่ Sarah บอกดูท่าจะเหมือนกับคนที่เชื่อฟังคำสอนของศาสนจักร Reach ดูเหมือนจะขอร้อง Flamm ด้วยสายตาว่าเขาควรจะเชื่อใจ Sarah

    Sarah: 「ฉันเข้าใจว่าคุณคงไม่อยากจะพูดอะไร แต่ฉันอยากให้คุณเข้าใจว่าฉันอยากจะช่วยเหลือนะ แล้วทางศาสนจักรเองก็ยังมีข้อมูลของสมุนไพรอยู่ ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์นะ」
    Reach: 「ศาสนจักรมีข้อมูลแบบนั้นด้วยหรือ?!」
    Sarah: 「ก็แค่นิดหน่อยเองค่ะ」

    มันยากที่จะเชื่อคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับศาสนจักรได้ แต่อีกด้านหนึ่ง แหล่งข้อมูลสถานที่ของ Chiaraly อาจจะอยู่ในเอกสารของศาสนจักรได้ การพูดออกไปนั้นถือว่าเป็นความเสี่ยง แต่ก็น่าจะช่วยให้ Flamm สามารถทำคำร้องให้สำเร็จโดยไวได้ Reach ถูกบังคับให้เลือกทางนี้

    Flamm: 「ฉันคิดว่าคุณเชื่อใจ Sarah เธอมีดวงตาที่สดใสมาก」

    หลังจาก Flamm พูดไปแล้ว Reach ก็หลับตาแล้วครุ่นคิดอย่างเงียบอยู่พักหนึ่ง

    Reach: 「ก็นะ ถ้าเธอว่ามาอย่างงั้น… Sarah ผมกลุ้มใจกับเรื่องสมุนไพรอยู่ ภรรยาของผมล้มป่วยด้วยโรค เราต้องการยาสมุนไพรมารักษาให้เธอ」
    Sarah: 「ของพวกนั้นนะหรือ? ฉันว่าน่าจะเข้าใจมันได้ตอนที่ตรวจสอบมันนะ」
    Reach: 「ผมขอร้องให้ Flamm มาช่วยแล้ว ถ้าพวกเธอทำงานร่วมกันและก็หาสิ่งที่่ผมต้องการได้ แน่นอนว่าจะให้รางวัลด้วย」
    Sarah: 「ฉันไม่ต้องการหรอกค่ะ การช่วยเหลือผู้อื่นคืองานของแม่ชีนะคะ」

    Sarah ชำเลืองมอง Flamm ในขณะที่ Sarah อุทิศตนกับการช่วยเหลือ Flamm กลับรู้สึกเศร้าใจนิดหน่อยที่ทำเพื่อหวังแต่เงินรางวัล

    Flamm: 「งั้น…」
    Sarah: 「ไม่หรอก ดีแล้วล่ะ เธอไม่ต้องทำเพื่อศาสนจักรก็แค่นั้นเอง」

    Flamm, Milkit และ Sarah ทั้งสามคนได้ตาม Reach กลับไปที่บ้านของเขา พวกเธอจะต้องทำงานด้วยกันเพื่อตามหา Chiaraly

    ◇ ◇ ◇

    Sarah ออกไปรวบรวมข้อมูลจากในศาสนจักรในเรื่องที่เธอรู้มาจาก Reach ส่วน Flamm ก็หาแหล่งข้อมูลเช่นกัน แต่เธอก็ไม่อาจพบหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับยาสมุนไพรเล่มไหนเลย

    สองวันต่อมา Sarah ก็กลับมา เธอได้บันทึกที่เธอเขียนตัวอักษรหวัดๆไว้ในตอนเด็กที่ระบุสถานที่ของ Chiaraly ที่สามารถเก็บรวบรวมได้ซึ่งอยู่บริเวณถ้ำ

    「ฉันอุตส่าห์แอบไปขโมยมาเลยนะ」 Sarah พูดพลางหัวเราะ 「ดีใจที่พบว่ายังปลอดภัยดีอยู่」

    แม้แต่คนที่ทำงานในศาสนจักรก็ไม่ได้มีเวลาว่างในการมองหายาสมุนไพรเลย Sarah ก็เลยแอบดอดเข้าไปเอามันออกมา Flamm ถึงกับประหลาดใจและรู้สึกผิดที่ทำให้เด็กไร้เดียงสาอย่าง Sarah ต้องเข้าสู่เส้นทางอันตราย

    ต้น Chiaraly สามารถพบได้ใกล้กับเมืองที่ชื่อว่า Enichidae ตลอดทั้งปี จากเมืองหลวงจะต้องใช้เวลาสองวันเดินทางลงไปทางใต้โดยรถม้าที่มุ่งไปทางนั้น

    ทั้งสามคนกลับมารวมตัวกันที่คฤหาสน์ของ Reach เพื่อเตรียมตัวออกเดินทาง
    Reach ถึงกับดีใจที่พวกเธอรู้ว่าจะตามหา Chiaraly ได้ที่ไหน และจัดเตรียมการเดินทางเอาไว้ให้เสร็จสรรพ
    Flamm ก็เตรียมตัวเองให้พร้อมเพื่อทำคำร้องให้สำเร็จด้วยตัวเอง แต่ Sarah กลับยืนกรานว่าจะตามมาด้วย
    หลังจาก Milkit เห็นว่าเป็นความคิดที่ดี Flamm จึงจำเป็นต้องยินยอม ถึงแม้เธอจะอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าพวกทางศาสนจักรจะจับได้ว่า Sarah กำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม

    Sarah: 「ถ้าเดินทางไปช่วยเหลือคนก็ไม่มีปัญหาหรอก แม่ชีคนอื่นก็ทำแบบนั้นกันหมดนั่นแหละ」

    แบบนั้นก็น่าจะโอเคแล้วล่ะ

    พวกเธอตัดสินใจที่จะออกเดินทางตอนเช้าวันรุ่งขึ้น

    ◇ ◇ ◇

    Milkit นอนบนเตียงในโรงแรมตอนหัวค่ำ จ้องไปยังเพดาน เธอดูท่าจะตื่นเต้นเกินกว่าที่จะหลับได้

    「Milkit ยังตื่นอยู่หรือ?」 Flamm ที่อยู่อีกเตียงถามขึ้นมา
    Milkit: 「ฉันยัง… ประหม่าอยู่ค่ะ」
    Flamm: 「เห นั่นสินะ เธอเองก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ」

    Flamm เองก็ดูเหมือนจะประหม่าจนนอนไม่หลับด้วย

    Flamm: 「นี่เธอ อยากจะพูดอะไรหน่อยมั้ย?」
    Milkit: 「เชิญค่ะ」
    Flamm: 「แล้วอยากจะพูดถึงเรื่องอะไรล่ะ?」
    Milkit: 「เออ งั้นขอถามคุณได้มั้ยคะ?」
    Flamm: 「ได้สิ」

    Flamm พูดอย่างติดๆขัดๆ เธอเองก็ดีใจที่ Milkit เริ่มแสดงความสนใจกับเธอ

    Milkit: 「นายท่านเคยเดินทางมั้ยคะ?」

    Milkit ยังไม่รู้ว่า Flamm นั้นเคยเดินทางไปกับปาร์ตี้ผู้กล้า หลังจากนั้นก็ใช้เวลาอยู่กับ Flamm ในฐานะทาสแล้ว เธอก็รู้เรื่องตัวตนของผู้กล้าอยู่บ้าง แต่ไม่ได้รู้จักกับทุกคนเป็นส่วนตัว

    Flamm ไม่ได้พูดเรื่องของเธอในอดีตก่อนที่จะถูกขายเป็นทาสเลย แต่ตอนนี้ Milkit แสดงความสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเธอให้มากกว่านี้ เธอจึงตัดสินใจบอกไปในตอนนี้เพื่อยกระดับความสัมพันธ์แทนที่จะปกปิดเอาไว้จนกว่าจะถึงเวลา

    Flamm: 「ที่จริงแล้ว ฉันเองก็เคยเดินทางไปกับพวกผู้กล้านะ」

    ทั้งห้องเงียบไปอยู่สักพัก ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่ Milkit จะเชื่อในความจริงอันแสนตลกที่อยู่ตรงนี้

    Milkit: 「ผู้กล้าหรือคะ?」
    Flamm: 「ก็ใช่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฉันได้เดินทางร่วมไปกับ Cyrille, Eterna และก็ Gadio ถึงหลายเดือน」

    ถึงแม้ Milkit จะไม่รู้จักชื่อบุคคลเหล่านั้นมากนัก เธอก็เอนตัวตะแคงข้างแล้วหันไปทางเตียงของ Flamm

    Milkit: 「คุณ… เป็นหนึ่งในผู้กล้าที่ถูกเลือกโดยพระเจ้าหรือคะ?」
    Flamm: 「ฉันไม่รู้ว่าจะเชื่อในเรื่องแบบนั้นดีมั้ย」
    Milkit: 「นายท่านคะ คุณเป็นคนที่สุดยอดไปเลยค่ะ」

    Milkit คงจะคิดว่า Flamm นั้นไม่ใช่คนธรรมดา อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่เคยนึกภาพตอนที่เธอเป็นหนึ่งในผู้กล้าออกเลย เธอเพ่งมองผ่านผ้าพันแผลและเข้าใกล้เธอ Flamm รู้สึกอายขึ้นมาทันที

    Flamm: 「นั่นสินะ แต่สุดท้ายพวกนั้นก็เขี่ยฉันออกไป ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ฉันยังถูกขายให้กับพ่อค้าทาสและถูกประทับตรานี้ไว้เพราะถูกเลือกโดยพระเจ้านะ」

    Flamm ยังคงไม่เข้าใจว่าทำไม Origin ถึงเลือกเธอ ความรู้สึกของเธอที่หลงเหลือที่ยังเจ็บปวดจากการถูกเลือก

    Milkit: 「อ๊ะ เข้าใจแล้วค่ะ」

    Milkit ดูเหมือนจะตัดสินใจบางอย่างได้

    Flamm: 「อะไรหรือ?」
    Milkit: 「นายท่านดูท่าจะเจิดจรัสกับฉันเลยค่ะ ถึงแม้เราจะเป็นทาสทั้งคู่ก็ตาม ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้แปดเปื้อนด้วยสำนึกของทาสใดๆเลย ถึงแม้จะอยู่ในกรงเดียวกันก็ไม่เข้าใจ… ตอนนี้ฉันก็เข้าใจเหตุผลแล้วค่ะ」

    เธอว่าเจิดจรัสหรือ? สำหรับ Milkit ที่เป็นทาสมาแล้วหลายปีอาจจะมองเห็นในแง่ดีไปหน่อย Flamm ก็พอจะยอมรับว่าอย่างน้อยเธอนั้นไม่ได้ 「แปดเปื้อน」 ล่ะกัน

    Milkit: 「บางทีนายท่านคือที่ๆฉันจะไปถึงสิคะ」
    Flamm: 「ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ… ฉันก็ไม่ได้ทำเหมือนกับตัวเองหรอกนะ」
    Milkit: 「งั้นหรือคะ」
    Flamm: 「ฉันยังมีที่ๆฉันอยากจะกลับไป ถ้าฉันได้ยินว่า Milkit จะจมลง ฉันก็จะช่วยดึงขึ้นมาด้วยกันนะ」
    Milkit: 「นายท่านพูดแบบนั้นอีกแล้วนะคะ」

    Milkit ทำตัวราวกับเธอจะไม่พอใจ แต่น้ำเสียงของเธอยังดูมีความสุข

    Flamm: 「ไม่ดีหรือนั่น?」
    Milkit: 「ฉันอยากจะเชื่อตัวคุณนะคะ ฉันลำบากใจจังค่ะ」
    「น่า ก็ดีแล้วล่ะ」 Flamm พูดพลางหัวเราะ

    Milkit ถึงกับทำแก้มป่องโกรธเคืองออกมาเลย

    Milkit: 「พรุ่งนี้ก็ออกเดินทางแล้ว… ฉันหวังว่าทุกอย่างจะปลอดภัยนะคะ」
    Flamm: 「อือ มาหาอะไรกินที่อร่อยเป็นรางวัลกันเถอะ」
    Milkit: 「มื้อเที่ยงวันนี้อร่อยมากเลยค่ะ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้กินของแบบนี้นะคะ」
    Flamm: 「มันก็ไม่ใช่หวือหวานักหรอก แต่… ถ้าเธอชอบ เราก็จะไปตรงนั้นอีกนะ」
    Milkit: 「ค่ะ」

    พวกเธอคุยกันไปเรื่อย ความกังวลของพวกเธอก็จางลง
    อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้หายไปเสียสนิท โดยเฉพาะตั้งแต่ทางศาสนจักรกระทำสิ่งที่พวกเธอไม่เข้าใจ
    ถึงกระนั้น Flamm ที่คิดถึงเรื่องนั้น ก็คงจะไม่มีประโยชน์ที่จะคาดเดาตอนที่เธอพอจะรู้ออกมาบ้าง เธอจึงเก็บลางสังหรณ์ที่รบกวนใจเข้ากรุแล้วก็หลับตาลง

    Flamm: 「ราตรีสวัสดิ์」
    Milkit: 「ราตรีสวัสดิ์ค่ะ」

    สิ้นคำพูด ห้องนี้ก็กลับมาเงียบกริบ ค่ำคืนก็ได้มืดลง เวลาออกเดินทางกำลังจะใกล้เข้ามา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×