ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The choices of the chosen child [yuri]

    ลำดับตอนที่ #1 : วันแรกที่ทั้งสองพบกัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.22K
      5
      9 ธ.ค. 51

    ........ณ คฤหาสน์ของสายเวทย์คันไซตะวันตก ตระกูลโคโนเอะ เด็กสาวตัวน้อยผมยาวประบ่า สีช็อคโกแลตสวมชุดกิโมโนกำลังเล่นลูกบอลอยู่คนเดียวในสวน เด็กน้อยเล่นบอลด้วยความเศร้าสร้อยนั้นก็เพราะเธอนั้นต้องอยู่คนเดียวมาตลอดเวลา
    แม้บ่อยครั้งที่แม่ของเธอจะมาเล่นด้วย แต่พักนี้ดูเหมือนว่าแม่ของเธอก็ไม่ค่อยมีเวลาให้เธอซักเท่าไหร่ ไม่สิ ตอนนี้พวกผู้ใหญ่รอบๆเธอดูเหมือนจะยุ่งวุ่นวายกันไปซะหมด จนเธอเองแทบจะไม่ได้เห็นหน้าพ่อของเธอเลยในอาทิตย์นี้ เด็กน้อยเล่นไปคิดน้อยใจที่ทุกคนปล่อยให้เธอต้องอยู่คนเดียว
    สักพักก็มีเสียงนึงทักขึ้นมา

    “ โคโนกะ พ่อมีคนที่จะมาให้รู้จักน่ะลูก”
    โคโนเอะ เอชุน รองหัวหน้าสายเวทย์ตะวันออกแห่งคันไซทักร้องลูกสาว

    “ท่านพ่อ....ท่านพ่อมาเล่นกับหนูด้วยกันเถอะน่ะค่ะ”
    โคโนเอะ โคโนกะโผวิ่งเข้ากอดพ่อของเธอด้วยความดีใจหลังจากที่ไม่ได้เจอพ่อของเธอมานาน

    “ไม่ได้หรอกลูก พ่อมีธุระ แต่พ่อมีคนอยากให้ลูกรู้จักหน่ะ ทักทายครูฝึกดาบจากสำนักชินเมริวหน่อยสิลูก”
    ด้านหลังของเขามีสุภาพสตรีสองคนในชุดฝึกดาบของชินเมริวข้างๆของสตรีผู้หนึ่งมีเด็กที่ดูจะอายุไล่เลี่ยกับเธอสวมชุดฝึกดาบเช่นกัน เด็กคนนั้นเกาะชายเสื้อของสุภาพสตรีที่ดูจะอายุราวสิบห้าสิบหกนั้นไว้แน่น

    “อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณหนูโคโนกะ”
    สุภาพสตรีที่ดูมีอายุกว่าเริ่มทักขึ้น เธอดูสวยมากทีเดียวโคโนกะคิดเช่นนั้น

    “อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
    โคโนกะโค้งน้อยๆและทักตอบ แต่ทว่าตาของเธอกลับไปมองที่เด็กที่อยู่ข้างหลังนั้นอีกครั้ง
    สตรีที่อายุน้อยกว่าดูออกว่าโคโนกะสนใจเด็กน้อยที่อยู่ข้างเธอจึงเริ่มบทสนทนาขึ้นบ้าง

    “อรุณสวัสดิ์เช่นกันค่ะ คุณหนูโคโนกะ เซ็ตซึนะ อย่าเสียมารยาทสิ”
    เด็กน้อยที่เกาะเสื้อเธออยู่ค่อยๆปล่อยมือและออกมาจากข้างหลังของสุภาพสตรีที่อายุน้อยกว่า
    โคโนกะจึงเห็นเด็กคนนั้นชัดเจนขึ้น เด็กคนนั้นผิวขาวราวหิมะแต่ผมนั้นดำขลับ มัดหางม้าไว้ข้างซ้าย
    “ทรงผม แปลกดีจัง”โคโนกะคิดอย่างนั้นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปตายังคงจ้องมองเด็กคนนั้นต่อไป

    “อะ...อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณหนูโคโนกะ”
    ซากุระซากิ เซ็ตซึนะ ทักตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเขอะเขินตาเธอก็มองไปที่โคโนกะที่อายุไล่เลี่ยกับเธอเช่นกัน โคโนกะเองเมื่อได้ยินเสียงของเซ็ตซึนะเป็นครั้งแรกจึงยิ้มตอบ เซ็ตซึนะเห็นก็ยิ้มตอบเช่นกัน
    ความจริงก็คือนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเธอเจอเพื่อนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน จึงรู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นพิเศษ

    “เซ็ตซึนะคุง ช่วยเล่นเป็นเพื่อนโคโนกะหน่อยจะได้ไหม”
    เอชุนที่เห็นปฏิกิริยาของเด็กน้อยทั้งสอง ก็คิดว่าพวกเขาคงเข้ากันได้
    ฝ่ายสุภาพสตรีทั้งสองเองก็ดูไม่ขัดข้องแต่เซ็ตซึนะเองกลับเป็นฝ่ายไม่แน่ใจ

    “เอ่อ....หนูไปได้ไหม ท่านพี่โมโตโกะ ท่านพี่ซึรุโกะ”
    ซึ่งทั้งสองก็พยักหน้ายิ้มแบบไม่คัดค้าน แต่ไม่ทันที่เซ็ตซึนะจะตอบอะไร
    โคโนกะกลับฉุดมือของเซ็ตซึนะเอาไว้

    “เราไปเล่นกันเถอะ...เซ็ตซึนะจัง....อ่า ไม่สิ เซ็ตจัง เซ็ตจังดีกว่า ”
    “อ่ะ.....อ่า....ค่ะคุณหนู ”

    เซ็ตซึนะซึ่งกำลังโดนโคโนกะลากตัวไปหน้าแดงก่ำ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครเรียกชื่อเธอด้วยชื่อเล่นอย่างนี้มาก่อน แม้แต่ท่านพี่โมโตโกะของเธอก็ตาม

    “ไม่เอาๆ ห้ามเรียกฉันว่าคุณหนูน่ะเราเป็นเพื่อนกันแล้ว เรียก อืมมมม เรียก โคโนจัง เข้าใจไหม?”
    “ห๋า.....อ่า....แต่ว่า...”
    “ไม่มีแต่ ต้องเรียกโคโนจังน่ะ ไปๆ เราไปเล่นทางโน่นกันเถอะ”

    ดูเหมือนโคโนกะจะตื่นเต้นกับเพื่อนคนใหม่และเจ้ากี้เจ้าการซะจนเซ็ตซึนะตามไม่ทัน
    ท่าทางจึงยังเขอะเขินไม่ใช่น้อย เอชุนเห็นลูกสาวของตนกระตือรือร้นก็อดยิ้มไม่ได้

    “อ่า...เพิ่งชวนพ่อเล่นอยู่หยกๆ เจอเพื่อนใหม่ก็ทิ้งพ่อซะแล้ว ว่าแต่ ทางเราคงไม่รบกวนจนเกินไปน่ะ”
    เอชุนหันกลับไปถามครูฝึกดาบสาวทั้งสอง

    “อ้อ ไม่หรอกค่ะ ดีซะอีก เซ็ตซึนะจะได้มีเพื่อน”
    ซึรุโกะตอบ เธอเองก็ไม่มีเวลาให้เซ็ตซึนะมากนอกจากเวลาฝึกดาบเท่านั้นเอง

    “งั้น เราไปคุยธุระกันในห้องรับรองกันเถอะ เชิญ”
    สาวทั้งสองพยักหน้าและเดินตามเอชุนไป ในขณะที่เด็กน้อยทั้งสอง
    โคโนกะและเซ็ตซึนะเริ่มเล่นบอลด้วยความสนุกสนาน

    ........................................................................................................

    ในห้องรับรอง เอชุน ซึรุโกะและโมโตโกะกำลังเริ่มบทสนทนากันขึ้น...

    “ที่ท่านรองหัวหน้าเรียกพวกเรามา ก็เพื่อมาคุ้มครองคุณหนูโคโนกะหรือค่ะ” ซึรุโกะเปิดประเด็นขึ้น
    “นั้นก็ส่วนหนึ่ง.....แต่ที่สำคัญมากกว่าคือการคุ้มครอง โคโนมิ แม่ของโคโนกะ ภรรยาของฉันเอง” ใบหน้าที่ปรกติดูสบายๆเริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียด
    “ว่าแต่ตอนนี้ นายหญิงอยู่ที่ไหนหรือค่ะ” โมโตโกะเองเริ่มพูดขึ้นมาบ้าง ซึรุโกะได้ยินน้องสาวพูดดังนั้นจึงเอ็ดขึ้น
    “อย่าเสียมารยาทสิ! โมโตโกะ”
    “ไม่เป็นไรหรอกคุณซึรุโกะ.....คืออย่างนี้น่ะโมโตโกะคุง ตอนนี้โคโนมิหน่ะกำลังเตรียมตัวเพื่อทำพิธีกรรมอยู่น่ะ”
    “รึว่า จะเป็นพิธิไตรเวทย์ที่กำลังจะใกล้มาถึงน่ะเหรอค่ะ”

    ซึรุโกะถามขึ้น เธอพอรู้อยู่บ้างว่าพิธีนี้จะจัดขึ้นทุกวันเกิดของผู้ที่ถูกเลือก
    แต่เรื่องปีนั้นจะแล้วแต่เวลาตามจันทรคติ ซึ่งก็เป็นปีนี้นั้นเอง

    “แต่ดิฉันไม่นึกว่านายหญิงจะเป็นผู้ถูกเลือกนะค่ะเนี้ย”
    ซึรุโกะเอ่ย เพราะผู้ที่ถูกเลือกนั้นจะถูกปิดเป็นความลับมีเฉพาะบุคคลสำคัญในสายคันไซเพียงไม่กี่คนและเจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ นั้นก็เพื่อความปลอดภัยนั้นเอง

    “ฉันเอง ก็เพิ่งรู้หลังจากเข้าตระกูลโคโนเอะเหมือนกัน.....แต่นี้แหล่ะที่ทำให้ฉันหนักใจ”
    เอชุนพูดจบก็ทำสีหน้าหนักใจ เขาเองถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากจะให้ภรรยาเป็นผู้ที่ถูกเลือกเลย
    แต่ดูเหมือนมันจะถูกกำหนดมาตั้งแต่ภรรยาของเขาเกิดขึ้นมาอยู่แล้ว เขาจึงทำอะไรไม่ได้ นอกจากหาทางป้องกันให้ภรรยาของเขาเสี่ยงน้อยที่สุด

    “ดิฉันเข้าใจค่ะ ว่าผู้ถูกเลือกเสี่ยงที่จะถูกปองร้ายเอาชีวิตจากฝ่ายมารในงานพิธี แต่ในรอบร้อยปีมานี้บรรพบุรุษของพวกเราก็ทำพิธีนี้สำเร็จด้วยดีมาตลอดมิใช่รึค่ะ........ทว่าที่ท่านเอชุนมาบอกว่ากับพวกเราว่าคุณนายเป็นผู้ถูกเลือกนี่ ไม่เสี่ยงไปหรือค่ะ เว้นเสียแต่ว่า...”

    ซึรุโกะ ซึ่งเป็นถึงหัวเรือใหญ่ของตระกูลอาโอยามะจึงรู้เรื่องประวัติศาสตร์ของเวทย์สายตะวันออกเป็นอย่างดี เธอเคยอ่านจากหนังสือเก่าๆมา
    ความผิดพลาดครั้งร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในพิธีนี้คือฝ่ายมารรู้ว่าผู้ที่ถูกเลือกเป็นใครมาล่วงหน้า ในครั้งนั้นพิธีกรรมจึงไม่สำเร็จเพราะผู้ถูกเลือกถูกฆ่าซะก่อน

    ”เธอเข้าใจถูกแล้วคุณซึรุโกะ ในตอนนี้ฝ่ายนั้นรู้แล้ว....ว่าเป็นใครที่ถูกเลือก”
    สิ้นคำพูด นักดาบสาวทั้งสองรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว เพราะเธอกลัวว่าประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอยกับเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว

    “เป็นไปไม่ได้!! ทางเราป้องกันเรื่องนี้เอาไว้อย่างแน่นหนา ไม่มีทางที่พวกนั้นจะรู้เด็ดขาด!! นอกซะจาก.....”

    โมโตโกะพูดขึ้นด้วยความร้อนใจแต่เธอก็ไม่กล้าพูดต่อ
    เพราะเกรงว่าความคิดที่เธอผุดขึ้นมาจะเป็นจริง เอชุนเองที่ฟังคำพูดที่ค้างไว้ของโมโตโกะก็พยักหน้าตอบ เขาเองก็ไม่อยากกจะเชื่อ แต่มันเป็นความจริงเพียงข้อเดียวที่เป็นไปได้ในขณะนี้

    “ใช่แล้วหล่ะ เรามีหนอนบ่อนไส้.....ฉะนั้นแล้ว....”

    เอชุนลุกขึ้นมองไปทางลูกสาวที่กำลังเล่นกับเซ็ตซึนะอยู่ด้วยความกังวลเขาหันกลับมามองนักดาบสาวทั้งสองพร้อมกับคุกเข่าก้มหัวให้ ทำเอาทั้งซึรุโกะและโมโตโกะตกใจ จนแทบจะห้ามเอชุนไม่ทันแต่เอชุนก็ยังไม่ยอมลุกขึ้นและพูดต่อว่า

    “ฉันจึงขอร้องพวกเธอสองคน ให้ช่วยปกป้องผู้หญิงที่ฉันรักมากที่สุดสองคนนี้ไว้ด้วย พวกเธอในฐานะตระกูลอาโอยามะที่บรรพบุรุษเป็นยอดนักดาบมานานและฉันไว้ใจได้มากที่สุด ฉันไม่อยากจะขอร้องพวกเธอด้วยคำสั่งในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายตะวันออก แต่ในฐานะพ่อและสามีคนนึง ”

    “ท่านเอชุนค่ะ อย่าทำเช่นนี้เลยค่ะ ยังไงพวกเราก็ต้องช่วยท่านเต็มที่อยู่แล้ว”

    ซึรุโกะที่อึ้งกับการลดตัวของเอชุนฉุดเอชุนให้ลุกขึ้น โมโตโกะก็ทำเช่นกัน
    เธอเคยพบกับผู้ใหญ่ฝ่ายคันไซมามากมาย แต่ไม่เคยมีใครคุกเข่าให้เธอเช่นนี้มาก่อน
    เธอจึงรู้สึกชื่นชมความรักต่อครอบครัวของชายที่อยู่ตรงหน้าเธอนัก

    “ใช่แล้วค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกค่ะ ดิฉัน ไม่สิ...พวกเราให้สัญญาว่าจะปกป้องบุคคลทั้งสองแม้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม”

    เอชุนเองเมือได้ยินดังนั้นก็เบาใจ เขาหันไปมองสตรีทั้งสองด้วยความซาบซึ้งแล้วตอบว่า

    “ขอบใจ ขอบใจพวกเธอทั้งสองมาก”

    ..............................................................................................................

    “รับน่ะค่ะ คุณหนู!” เซ็ตซึนะพูด พลางโยนลูกบอลให้โคโนกะรับ แต่อีกฝ่ายกลับไม่รับและทำหน้าบึ้งใส่
    “อีกแล้วน่ะเซ็ตจัง บอกแล้วไง ว่าให้เรียกฉันว่า โคโนจังๆหน่ะ”
    “อ่า....ขอโทษค่ะคุณหนู เอ้ย! โคโนจัง ดิฉันจะไปเก็บบอลให้น่ะค่ะ”
    “ดิฉันก็ไม่เอา พูดค่ะก็ไม่เอา ทำไมต้องพูดเป็นแบบแผนอย่างนั้นด้วย เราเป็นเพื่อนกันน่ะ”

    ถึงโคโนกะจะพูดอย่างนั้นหลายครั้ง เซ็ตซึนะก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
    เพราะเธอรู้ดีว่าฐานะของทั้งสองนั้นต่างกันมากแต่เธอก็ทั้งรู้สึกสนุกและมีความสุขที่ได้มาเจอกับโคโนกะบางทีนี้อาจเป็นความสนุกสนานแบบเด็กๆเป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอก็เป็นได้ ขณะที่เซ็ตซึนะกำลังก้มเก็บบอลนั้นเอง
    พวกเอชุนก็กลับมาจากการพูดคุยธุระเสร็จพอดี โคโนกะเห็นดังนั้นก็หน้าเสีย เธอรีบวิ่งไปหาพ่อของเธอ เงยหน้าถามขึ้นว่า

    “พวกเขาจะกลับกันแล้วเหรอค่ะ.......ให้เซ็ตจังอยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอค่ะท่านพ่อ?”

    โคโนกะขอร้องด้วยสายตาอ้อนวอน เซ็ตจังเองก็รู้สึกเสียดายเช่นกันจนแสดงออกบนใบหน้า
    แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา โมโตโกะสังเกตเห็นดังนั้นจึงก้มตัวลงคุยกับโคโนกะว่า

    “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ คุณหนูโคโนกะ พรุ่งนี้เซ็ตซึนะจะมาอยู่กับคุณหนูอีก คราวนี้จะอยู่นานจนคุณหนูเบื่อไปเลยหล่ะค่ะ”

    โคโนกะที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มหัวเราะดีใจอย่างออกนอกหน้า
    เซ็ตซึนะก็เช่นกันแต่ยังเก็บอาการเอาไว้จึงได้แต่ยิ้มไปกับโคโนกะ
    ทว่าเธอก็ยังแปลกใจไม่ได้ว่า ทำไมเธอถึงจะได้มาในวันพรุ่งนี้อีก
    แต่ช่างปะไร ในเมื่อพรุ่งนี้ก็จะได้เจอกับโคโนจัง จะได้เล่นกันอีก แค่นี้เธอก็ดีใจแล้ว
    แล้วทั้งคณะของนักดาบชินเมริวก็พากันลากลับไปจากคฤหาสน์

    ..................................................................................................................................................

    ในคืนนั้น ที่ห้องนอนของสองสาวอาโอยามะและเซ็ตซึนะ
    สองสาวพี่น้องกำลังจัดของเพื่อไปค้างในคฤหาสน์ในวันรุ่งขึ้น
    ภารกิจในครั้งนี้คือคุ้มครอง คุณนายโคโนเอะและคุณหนูโคโนกะ
    ระหว่างนั้นเอง โมโตโกะก็ถามพี่ของตนขึ้นว่า

    “ท่านพี่ค่ะ......หนูถามอะไรหน่อยจะได้ไหม?”
    “ว่ามาสิ ” ซึรุโกะตอบพลางจัดเสื้อส่วนของเซ็ตซึนะไปด้วย
    “ท่านพี่ว่า.....ทำไมท่านเอชุน ถึงไว้ใจพวกเราถึงขนาดนั้นหล่ะค่ะ ทางเราเองก็ไม่ได้ติดต่อกับฝ่ายคันไซมานานกว่าสิบปีแล้วน่ะค่ะ”

    ซึรุโกะเองก็คิดไม่ตกเช่นกันว่าทำไม แต่เธอเชื่อว่าทำคำพูดของเอชุนนั้นพูดมาจากใจจริง เธอจึงตอบตามความคิดของเธอว่า

    “พี่คิดว่า ก็เพราะเราไม่ได้ติดต่อกันมานานนี้แหล่ะ จึงไว้ใจได้ว่าไม่ได้เป็นหนอนบ่อนไส อีกอย่างตระกูลเราจงรักภักดีต่อสายคันไซมาเนิ่นนานถูกปลูกฝังมาทุกๆรุ่น แม้แต่รุ่นเราเองก็เถอะ และอีกอย่างฝีมือของพวกเราก็ไม่แพ้พวกใช้เวทย์เหมือนกันน่ะ”

    โมโตโกะได้ฟังก็นิ่งคิดและตอบกลับไป

    “ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ ก็ยังมีตระกูลอื่นอีกไม่ใช่เหรอค่ะที่เก่งกาจพอๆกับเราแต่ที่คราวนี้หนูยอมรับงานนี้ เพราะความจริงใจของท่านเอชุนหรอกน่ะค่ะ ท่านพี่ก็รู้ว่าหนูไม่ค่อยชอบพวกใช้เวทย์ซักเท่าไหร่”

    สักพักประดูทางเข้าก็เปิดขึ้น เซ็ตซึนะในชุดยูกาตะเพิ่งออกมาจากการอาบน้ำใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดผมของตัวเองอยู่ ซึรุโกะหันมาทางเซ็ตซึนะและเรียกให้เข้ามาใกล้เธอ

    “มา เซ็ตซึนะ พี่เช็ดผมให้น่ะ”

    เซ็ตซึนะยิ้มรับและนั่งปุ๊กหน้าซึมิเระที่เอื้อมมือใช้ผ้าเช็ดผมเซ็ตซึนะให้แห้ง
    ระหว่างนั้นเด็กน้อยก็เงยหลังถามสตรีด้านหลังเธอว่า

    “ท่านพี่ซึรุโกะ.....ทำไมเราต้องไปค้างคฤหาสน์ของโคโนจังด้วยหล่ะค่ะ”
    ซึรุโกะยิ้มกับคำพูดที่เซ็ตซึนะใช้เรียกโคโนกะอย่างสนิทสนม

    “พวกเราต้องไปคุ้มครองคุณนายโคโนเอะกับคุณหนูโคโนกะจ๊ะ เซ็ตซึนะก็ต้องทำหน้าที่นี้ด้วยน่ะ”
    “เห๋..... โคโนจังยังเด็กจะตาย เขาไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อนหรอก ใครจะมาทำร้ายกันหล่ะค่ะ”

    เซ็ตซึนะถามด้วยความใสซื่อ แน่หล่ะเธอยังเด็ก จะไปรู้เรื่องซับซ้อนอย่างนี้ได้อย่างไร

    “จากพวกคนไม่ดียังไงหล่ะ ยังไงครั้งนี้ เซ็ตซึนะต้องใช้ฝีมือดาบที่ฝึกฝนมาให้เต็มที่หล่ะ”

    โมโตโกะพูดเสริมขึ้น ถึงแม้น้องสาวต่างสายเลือดของเธอนั้นจะยังเด็ก
    แต่ฝีมือดาบนั้นเกินเด็กรุ่นเดียวกันไปโขจนสามารถเป็นคู่ซ้อมให้เธอได้สบาย
    เธอจึงภูมิใจกับน้องสาวคนนี้ไม่น้อยทีเดียว

    “ค่ะ ท่านพี่โมโตโกะ”

    เซ็ตซึนะพยักหน้ารับอย่างกระตือรือร้น
    แน่หล่ะเธอต้องปกป้องเพื่อนคนแรกของเธอให้ได้ เธอปฏิธานเช่นนั้นไว้ในใจ

    “อ่ะ เสร็จแล้ว” ซึรุโกะผละมือจากผมของเซ็ตซึนะและย้ำเตือนกับเซ็ตซึนะว่า
    “แต่ ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครน่ะถ้าไม่จำเป็น โดยเฉพาะกับ เอ่อ โคโนจังน่ะ”
    “เห๋....” เซ็ตซึนะแปลกใจกับคำพูดของซึรุโกะ
    “ก็......เดี๋ยวจะเล่นกันไม่สนุกเปล่าๆ จริงไหม? อีกอย่าง โมโตโกะก็จะคอยอยู่ข้างๆ ไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก เนอะโมโตโกะ”

    ซึรุโกะพูดแล้วขยิบตายิ้มให้อย่างรู้ใจเซ็ตซึนะ ทำเอาเซ็ตซึนะหน้าแดงที่ซึรุโกะรู้ใจเธอ โมโตโกะเองก็สำทับขึ้นอีกว่า

    “ใช่แล้ว ยัยน้องสาวตัวดี ถ้าหลุดปากหล่ะก็ คอยดูน่ะ ฉันจะลงโทษให้........อย่างนี้ไง!!”

    ว่าแล้วโมโตโกะที่มองเซ็ตซึนะด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ก็จี้เอวเซ็ตซึนะที่กำลังเผลอ
    ทั้งสองหยอกล้อกันสนุกสนานก่อนที่ทั้งหมดจะเข้านอนเพื่อการเดินทางสำหรับวันพรุ่งนี้

    ...........................................................................................................................

    .... ในวันรุ่งขึ้นสองพี่น้องอาโอยามะและเซ็ตซึนะไปถึงที่คฤหาสน์ โดยที่ซึรุโกะไปคุ้มครองคุณนายโคโนเอะร่วมกับองครักษ์คนอื่นในฐานะผู้ช่วยเสริมพิเศษ ซึ่งหน้าที่ที่แท้จริงคือคอยสอดแนมดูพฤติกรรมของคนในด้วยกันเองไปในตัวเพื่อหาผู้ทรยศ

    ...... ส่วนโมโตโกะและเซ็ตซึนะเองก็มีหน้าที่คุ้มครองโคโนกะ แต่มองๆแล้วเหมือนพี่เลี้ยงพาเด็กน้อยสองคนไปเที่ยวเล่นซะมากกว่า
    โดยเอชุนเองก็กล่าวในตอนท้ายกับสองสาวอาโอยามะว่าในระหว่างนี้ยังไม่มีอะไรมากนัก
    เพราะทางฝ่ายมารก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวเช่นกัน และพิธีกรรมก็ยังอีกนาน แต่ทั้งสองสาวก็เลือกทีจะไม่ประมาทอยู่ดี สร้างความพอใจกับเอชุนเป็นอย่างมากที่เข้าไว้วางใจได้ถูกคน

    สองสามอาทิตย์ต่อมา.....ในบริเวณสวนด้านในของคฤหาสน์นั้นเอง

    “เซ็ตจังๆ มาดูอะไรนี่สิ”
    “ไหนๆ มีอะไรเหรอโคโนจัง”

    โคโนกะ ชี้ให้เซ็ตซึนะซึที่วิ่งตามมาดูด้วยความสนใจ หลายวันมานี้เด็กน้อยทั้งสองเล่นด้วยกัน
    ด้วยความเพลิดเพลินจนเซ็ตซึนะเองก็เกือบลืมวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของพวกตน
    แต่กระนั้นข้างกายเธอก็ยังเหน็บดาบไม้คู่ใจเอาไว้ และยังหมั่นฝึกซ้อมดาบกับโมโตโกะทุกเช้าเย็น
    โคโนกะเองก็ตื่นเต้นที่เห็นการฝึกดาบจริงๆอยู่ไม่น้อย
    ในสายตาของเธอทั้งเซ็ตจังและโมโตโกะดูเท่มากเมื่อซ้อมดาบด้วยกัน
    แต่เธอก็ชอบที่จะเล่นกับเซ็ตจังตามภาษาเด็กมากกว่าอยู่ดี
    แน่นอนทุกฝีก้าวอยู่ในสายตาของนักดาบสาวชินเมริว โมโตโกะนั้นเอง

    “อย่าไปไกลนักหล่ะ เซ็ตซึนะ” โมโตโกะตะโกนไล่หลังมา
    “ค่ะ ท่านพี่โมโตโกะ”
    เซ็ตซึนะตะโกนยิ้มตอบก่อนที่จะวิ่งเล่นกับโคโนกะตอบ
    โมโตโกะเองก็ยิ้มให้กับความไร้เดียงสาของเด็กน้อยทั้งสอง
    ระหว่างนั้นเองก็มีสาวใช้ในคฤหาสน์วิ่งกระหืดกระหอบมาทางโมโตโกะ นักดาบสาวเห็นดังนั้นจึงตกใจและถามขึ้นว่า

    “เกิดอะไรขึ้น!!”
    สาวใช้พยายามหายใจให้หายเหนื่อยก่อนจะตอบว่า

    “คุณนายโคโนเอะค่ะ! พวกคุณนายโคโนเอะถูกคนร้ายกลุ่มหนึ่งโจมตี ตอนนี้ฝ่ายองครักษ์กำลังจะต้านไม่ไหวแล้วเลยให้ดิฉันวิ่งมาส่งข่าว”

    โมโตโกะได้ยินดังนั้นก็ร้อนใจ ใจก็นึกเป็นห่วงพี่และพวกนายหญิง แต่ตนยังมีภาระที่พวกเซ็ตซึนะ เธอจึงตะโกนเรียกเซ็ตซึนะว่า

    “เซ็ตซีนะ!! พวกมันมาแล้วน่ะ รีบกลับเข้าคฤหาสน์เร็ว!”

    เซ็ตซึนะได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าเชิงรู้หน้าที่ แม้ตัวจะยังเล็กแต่เธอรู้ว่าควรทำอะไร มือนึงหยิบดาบไม้ที่พกตลอดเวลาขึ้นมากระชับในมือพร้อมใช้เต็มที่ อีกมือรีบฉวยข้อมือของโคโนกะที่กำลังอึ้งกับคำพูดของโมโตโกะพร้อมกับบอกว่า

    “โคโนจัง อย่าห่างจากฉันและพี่โมโตโกะน่ะ! มีคนร้ายบุกเข้ามาแล้ว!!”
    “เอ๋!?!”

    ... ไม่ทันที่โคโนกะที่กำลังหน้าแดงเพราะเซ็ตจังไม่เคยเริ่มแตะตัวเธอมาก่อน มีแต่เธอนั้นแหล่ะเป็นฝ่ายเริ่มจะได้ตอบอะไรเซ็ตซึนะ ก็ถูกเซ็ตซึนะกึ่งวิ่งกึ่งลากโคโนกะที่วิ่งตามแทบไม่ทันเข้าไปในคฤหาสน์ทันที ระหว่างทางพวกโมโตโกะเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ สอดส่ายหาพวกที่บุกเข้ามา
    จนกระทั้งทั้งสามคนเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยความปลอดภัย โมโตโกะรีบพาทั้งสองเข้าไปในห้องลับแห่งหนึ่งซึ่งนอกจากคนในแล้ว จะไม่มีใครรู้เรื่องห้องลับนี้เลย โมโตโกะหันมามองที่เด็กน้องทั้งสองแล้วพูดว่า

    “ทั้งสองคน อยู่ในนี้หน่ะ ถ้าไม่ใช่พวกพี่ หรือพวกท่านเอชุนหล่ะก็ ห้ามออกจากห้องนี้เด็ดขาดน่ะ!”
    “ท่านพี่โมโตโกะ แล้วท่านพี่จะไปไหน?” เซ็ตซึนะถามขึ้น เธอเองก็ยังไม่รู้ถึงสถานการณ์ที่แท้จริงซักเท่าไหร่
    “พี่จะรีบไปช่วยพี่ซึรุโกะ”
    “งั้น หนูไปด้วย!!”
    “ไม่ได้ เธอต้องคุ้มครองคุณหนูโคโนกะน่ะ จำได้ไหม”

    โมโตโกะย้ำถึงหน้าที่พลางลูบหัวของเซ็ตซึนะด้วยความเอ็นดู ซึ่งเซ็ตซึนะเองก็พยักหน้าเพื่อบอกว่าเธอเข้าใจพลางหันไปมองโคโนกะที่ส่งสายตางุนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วก็หันไปที่โมโตโกะมองด้วยสายตาที่บอกว่าตนก็ยังเป็นห่วงฝ่ายนั้นอยู่ดี

    “งั้น.....ท่านพี่โมโตโกะ ระวังตัวด้วย”
    “อืม...” พูดจบโมโตโกะก็พุ่งตัวออกจากห้องเพื่อไปช่วยพี่ซึรุโกะทันทีไปทันที

    .....................................................................................................................................

    ทางด้านชุดองครักษ์คุ้มครองคุณนายโคโนเอะได้เสียท่าพวกที่บุกเข้ามาจนหมอบไปแล้วหลายคน เหลือเพียงแต่ซึรุโกะและองครักษ์อีกสามสี่คนเท่านั้น ทั้งหมดนำทางนายหญิงโคโนเอะเพื่อไปยังที่ปลอดภัยและหาทางหากำลังหนุน

    “ทำไม พวกกำลังหนุนยังไม่มานะ?”

    ซึรุโกะซึ่งกำลังนำทางคุณนายโคโนเอะอยู่เอ่ยขึ้นด้วยความร้อนรน
    เพราะดูจากสถานะการณ์แล้วพวกเธอจวนตัวเต็มที ฝ่ายนั้นมีไม่มากแค่สองสามคน
    แต่ฝีมือนั้นแสนร้ายกาจ ลำพังเธอเองคงต้านไม่หมดไหนจะต้องคอยคุ้มครองนายหญิงอีก
    จึงได้แต่รอกำลังหนุนและน้องสาวของเธอโมโตโกะ แต่ทางนั้นเองก็มีหน้าที่ต้องคุ้มครองคุณหนูโคโนกะเช่นกัน
    คิดได้เช่นนั้นเธอจึงตัดสินใจหันไปทางคุณนายโคโนเอะและพูดขึ้นว่า

    “นายหญิงค่ะ.....เห็นทีว่าพวกเราอาจจะหนีไปไม่รอดถ้ายังไปกันทั้งอย่างนี้  ดิฉันว่าดิฉันจะล่อพวกมันเอาไว้ตรงนี้ให้ได้นานที่สุด ระหว่างนั้นนายหญิงรีบกลับเข้าไปในคฤหาสน์ให้เร็วที่สุดเลยน่ะค่ะ”
    “แต่ว่า ซึรุโกะคุง...”

    คุณนายโคโนเอะรู้สึกเป็นห่วงองครักษ์สาวขึ้นมา ในสองสามวันมานี้เธอสนิทกับซึรุโกะขึ้นมากและรู้ว่าเธอมีฝีมือเก่งกาจแต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้อยู่ดี ซึรุโกะเองก็ยิ้มกับความห่วงใยที่คุณนายมีให้กับตน
    แต่เธอให้สัตย์ไว้แล้วว่าจะคุ้มครองสตรีผู้นี้ด้วยชีวิต เธอจึงได้แต่กำชับว่า

    “ไม่ต้องห่วงค่ะ ดิฉันเอาตัวรอดได้ นายหญิงสำคัญที่สุด รีบไปเถอะค่ะ”

    พลันเธอหันไปสั่งองครักษ์ที่เหลือให้รีบพานายหญิงไปให้เร็วที่สุด
    เมื่อคณะของนายหญิงรีบรุดหน้าไปแล้ว ซึรุโกะหันมาทางด้านที่ผู้บุกรุกกำลังมาถึงกำดาบแน่นไว้กับมือ ใจเองก็หวั่นกับการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึงมิใช่น้อย เพราะครั้งนี้เธอมีกำลังน้อยกว่า แต่ด้วยประสบการณ์สอนให้เธอใจเย็นและทำจิตใจให้นิ่งที่สุด

    “.....มาแล้ว!”

    ....... เบื้องหน้าซึรุโกะคือปิศาจสามตนที่ตัวใหญ่เหมือนยักษ์และทั้งตัวสีดำทมึน
    ตัวที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าพุ่งโจมตีด้วยความเร็วซะจนไม่น่าเชื่อว่ามันจะไวได้ขนาดนั้น
    เมื่อดูจากไซส์ของมัน แต่มันก็เร็วไม่พอสำหรับซึมิเระที่เอี่ยวตัวหลบได้อย่างง่ายดายและฟันดาบสวนกลับทันที การโจมตีนั้นถูกตัวมันก็จริงแต่ก็เพียงแต่ทำให้มันเซไปเล็กน้อย
    ฝ่ายพวกที่เหลือก็ดูไม่ตื่นตระหนกที่ลูกพี่ของมันถูกโจมตีตั้งแต่ดาบแรก แต่กลับพุ่งโจมตีซึรุโกะเข้ามาทั้งสองตน ซึรุโกะจึงได้แต่ปัดป้องการโจมตี

    ....การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายนั้นสูสีจนกระทั้งซึรุโกะมีโอกาสใช้วิชาของสำนักชินเมริวโจมตีปิศาจล้มไปได้ตัวนึง ครั้งนี้พวกมันดูตกใจที่ผู้หญิงตัวเล็กๆสามารถล้มพวกของมันได้ ทำให้พวกมันระมัดระวังตัวมากขึ้น ตัวหัวหน้าจึงหันไปใช้เวทย์มนต์แทนมันเสกก้อนน้ำมาอยู่ในมือทั้งสองข้างและขว้างโจมตีไปที่ซึรุโกะ ฝ่ายซึรุโกะเองก็ไม่ประมาทพยายามเลือกที่จะหลบมากกว่ารับด้วยดาบ
    แต่แล้วเธอก็พลาดเพราะเธอมัวแต่หลบเวทย์น้ำจนลืมลูกน้องของมันอีกตัวที่โจมตีเธอมาจากด้านหลังจนเธอทรุดลงไป คราวนี้เวทย์น้ำโดนตัวเธอเต็มๆ ผลของมันทำให้น้ำที่จับตัวซึรุโกะห่อตัวเธอเอาไว้ ทำให้เธอหายใจไม่ออกเพราะมีน้ำอยู่รอบตัวเธอ

    “นี่.....เราจะไม่รอดรึนี่”

    ซึรุโกะคิด ตอนนี้เธอใกล้สิ้นลมเต็มที พยายามทุกวิถีทางที่จะทำลายม่านน้ำที่อยู่ตรงหน้า
    แต่ก็ไร้ผลเพราะสมาธิของเธอไม่พออีกอย่างเธอไม่เคยถูกโจมตีด้วยเวทย์ขนานแท้แม้แต่ครั้งเดียว
    การขาดประสบการณ์ในด้านนี้กำลังเป็นบทเรียนที่ทำให้เธอต้องแลกด้วยชีวิต
    แต่แล้วเหมือนสวรรค์ช่วย จู่ๆม่านน้ำรอบตัวก็แตกออก
    เธอรีบหายใจเพื่อเอาอากาศเข้าปอดทันทีพลางหันไปมองผู้ที่มาช่วยเธอเอาไว้

    “โมโตโกะ!!”

    นักดาบชินเมริวแห่งตระกูลอาโอยามะผู้น้องปรากฏตัวต่อหน้าซึรุโกะและปิศาจทั้งสอง
    สายตาของเธอจ้องไปยังมันทั้งสองด้วยความโทสะกับสิ่งที่มันทำกับพี่สาวของเธอ

    “บังอาจนัก!! พวกแก อย่าอยู่เลย!!”

    สิ้นเสียงตะโกนโมโตโกะก็พุ่งโจมตีปิศาจตัวหัวหน้าทันทีแต่มันซึ่งเคยเห็นการโจมตีนี้มาแล้วจากซึรุโกะจึงพอหลบได้แต่ก็ยังโดนคมดาบอยู่บ้าง ซึรุโกะเองเห็นอย่างนั้นจึงรีบลุกขึ้นมาสบทบกับโมโตโกะและพูดว่า

    “ใช้วิชาพื้นฐานไม่ได้ผลหรอก โมโตโกะ! ใช้ไอ้นั้นดีกว่า”

    ซึรุโกะขยิบตาให้โมโตโกะเป็นสัญญาญ โมโตโกะพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
    แล้วทั้งสองก็พุ่งโจมตีใส่พวกปิศาจพร้อมกัน

    “วิชาลับสำนักดาบชินเมริว วายุซากุระคู่!!”

    ทั้งสองใช้การโจมตีแบบประสานจัดการกับปิศาจสองตนได้สำเร็จ
    แต่แล้วก็ดีใจได้ไม่นานเพราะพวกมันก็ตามมาสบทบกันอีก

    “ท่านพี่ค่ะ ไหวไหม?”

    โมโตโกะถามซึรุโกะด้วยความเป็นห่วง เพราะซึรุโกะยังไม่ฟื้นจากการถูกเวทย์น้ำโจมตีดีนัก
    พวกนั้นก็แห่กันมา แต่ซึรุโกะกลับยิ้มตอบน้องสาวด้วยความมั่นใจพร้อมกับบอกว่า

    “ฉันมีเธอแล้วนี่ โมโตโกะ ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว”

    โมโตโกะได้ยินก็พยักหน้ายิ้มตอบ เธอดีใจที่พี่สาวไว้ใจเธอมากขนาดนี้
    เธอจึงไม่หวั่นกับศึกที่จะเผชิญอยู่ตรงหน้า ในตอนนั้นเธอก็ได้ยินเสียงมาจากทางด้านหลังว่า

    “พวกเรามาช่วยพวกท่านแล้ว ท่านอาโอยามะ!!”

    องครักษ์กองหนุนจากฝ่ายคันไซพึ่งจะมาถึง โมโตโกะหันไปมองด้วยความเซ็ง

    “แหม๋ ทำไมไม่มาให้ช้ากว่านี้น่ะ”
    “ทำไมหล่ะโมโตโกะ?”
    “หนู อยากให้ท่านพี่เห็นฝีมือที่แท้จริงของหนูน่ะสิ”

    ซึรุโกะเองเมื่อได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่า น้องสาวของเธอนั้นโตขึ้นมามากจริงๆ จนเธออาจมีฝีมือเกินพี่สาวด้วยซ้ำไปเพียงแต่ยังไม่รู้ตัว จึงพูดเชิงท้าทายว่า

    “งั้น....ก็แสดงให้พี่ดูเลยสิโมโตโกะ”
    “ได้เลย ท่านพี่!!”
    “ย๊ากกกกกก!!”

    นักดาบพี่น้องแห่งตระกูลอาโอยามะทั้งสองพุ่งโจมตีใส่กลุ่มปิศาจที่กำลังบุกเข้ามาโดยไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย การโจมตีแต่ละครั้งทำเอาพวกปิศาจกระจอกล้มตายไปจำนวนมากโดยปราศจากการใช้เวทย์มนต์ ทำให้แม้แต่พวกเดียวกันอย่างฝ่ายคันไซที่มาสมทบ
    ยังอดครามครั่นในฝีมือของสองพี่น้องนี้ไม่ได้
    แล้วทั้งหมดก็ต้านพวกปิศาจที่กำลังบุกเข้ามาต่อไปอย่างสุดกำลัง

    ...........................................................................................................................

    ทางเซ็ตซึนะและโคโนกะที่โมโตโกะพามาหนีในห้องลับ หลังจากที่โมโตโกะออกไปจากห้องเพื่อไปช่วยซึรุโกะ เซ็ตซึนะเองก็จับดาบในมือไว้แน่นกระชับไว้ในท่าที่พร้อมใช้ได้ตลอดเวลา แววตาจ้องมองไปที่ประตูที่เป็นเพียงทางเข้าออกเพียงแห่งเดียว
    โคโนกะที่ยืนตกใจอยู่นานกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่ออยู่กับเซ็ตซึนะกันสองคน จึงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกว่า

    “เซ็ตจัง มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมมีคนจะทำร้ายท่านแม่หล่ะ”

    โคโนกะเองก็เป็นห่วงแม่ของตนเองไม่น้อยทีเดียว ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งกลัวจนตัวสั่น
    เธอไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน เซ็ตซึนะเห็นท่าทางของโคโนกะก็เป็นห่วง เพราะเธอเองก็กลัวเช่นกันแต่ตอนนี้เธอต้องเข้มแข็งเพื่อเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้านักดาบน้อยจึงค่อยๆเอื้อมมือไปกุมมือของโคโนกะเอาไว้ จ้องตาของโคโนกะโดยไม่ละสายตา
    โคโนกะเองก็มองหน้าเซ็ตซึนะความเขอะเขินเพราะสายตาคู่นั้น

    “ซะ...เซ็ตจัง?!?”
    “โคโนจังไม่ต้องห่วงน่ะ พวกท่านพี่นะ ต้องช่วยท่านแม่ของโคโนจังได้แน่ๆ แล้วฉันเองก็.......”

    เซ็ตซึนะที่เป็นคนพูดก็เริ่มอายเหมือนกันแต่เธอสูดลมหายใจลึกๆ และพูดต่อว่า

    “ฉันก็จะปกป้องโคโนจังด้วย โคโนจังไม่ต้องกลัวน่ะ”

    พูดจบหน้าของเซ็ตซึนะก็หน้าแดง
    “นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่เนี้ย? แต่ฉันต้องทำให้โคโนจังหายกลัวให้ได้” เซ็ตซึนะคิดอยู่ในใจ
    โคโนจังเองก็หน้าแดงมากขึ้นเพราะคำพูดที่ดูจริงจังของเซ็ตซึนะ
    คำพูดนั้นแม้จะมากจากเด็กที่อายุเท่าเธอ แต่มันก็ทำให้เธอมีความกล้าขึ้นมาอย่างประหลาด โคโนจังจึงพยักหน้าตอบ

    “อืม ฉันเชื่อว่าเซ็ตจังต้องปกป้องฉันได้”

    พูดเสร็จเธอก็ยิ้มให้กับเซ็ตซึนะ ซึ่งทำเอาหัวใจที่หวั่นเกรงต่อสถานการณ์ในตอนนี้หายไปจนสิ้น
    รอยยิ้มที่อบอุ่นนั้นทำเอาความกลัวในใจของเซ็ตซึนะหายไปโดยไม่รู้ตัว
    ระหว่างที่ทั้งสองต่างมองตากันนั้นก็มีเสียงดังมาจากทางประตู
    โคโนกะคิดว่ามีคนช่วยจึงรีบจะเดินไปเปิดประตูแต่เซ็ตซึนะฉุดตัวเอาไว้และพูดว่า


    “เดี๋ยว!!....โคโนจัง เราไม่รู้ว่าใครที่อยู่หน้าประตูนั้นหน่ะ”
    “โอ้!! ....เก่งดีนี่ หนูน้อย”

    เสียงที่ไม่คุ้นหูดังขึ้น และแล้วประตูทางเข้าก็เปิดขึ้น มันก้าวเท้าเข้ามาพร้อมกับจ้องเด็กน้อยทั้งสองอย่างไม่วางตา ดูจากลักษณะแล้ว มันเป็นปิศาจประเภทหนึ่งที่เซ็ตซึนะเคยอ่านจากในหนังสือ แต่ท่าทางของมันนั้นดูฉลาดกว่าธรรมดา

    “ที่นี่มีเพียงองครักษ์ตัวน้อยมาคุ้มครองผู้ที่ถูกเลือกเองเหรอเนี้ย ไอ้พวกคันไซเนี้ย ช่างประมาทกันซะจริ๊ง ! เหอะๆๆ”

    พูดจบมันก็จ้องเด็กน้อยต่อไป เซ็ตซึนะเองก็จ้องตอบเช่นกัน ดาบในมือวางอยู่ในท่าพร้อมโจมตีและตะโกนว่า

    “อย่าเข้ามานะ!! ถ้าแกเข้ามาจะหาว่าฉันไม่เตือน!!”

    ถึงเซ็ตซึนะจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังมากขนาดนั้น มันกลับไม่สะทกสะท้าน ซ้ำยังหัวเราะเยาะเย้ยกับความไร้เดียงสาของเหยื่อของมันที่อยู่ตรงหน้า

    “ฮ่าๆๆๆ โอ้ยย จะบ้าตาย พวกคันไซเนี้ย ไร้คนมีฝีมือถึงขนาดฝากอนาคตไว้กับเด็กตัวกะเปี๊ยกเชียวรึ......ดีหล่ะ ก็ได้ไอ้หนูนักดาบ แกจะได้เจอดีสมกับความปากกล้าของแก!!”

    พูดจบมันเดินย่างสามขุมเข้ามาทางพวกเซ็ตซึนะและใช้มือทั้งสองของมันขย้ำที่คอของเด็กทั้งสองทันที
    เซ็ตซึนะถึงกับทำดาบหลุดจากมือ เด็กทั้งสองตัวลอยอยู่กลางอากาศพยายามดิ้นรนที่จะเอามือออกจากคอ

    “ฮึ่ย!! ปล่อยน่ะ”

    เซ็ตซึนะพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีเอามือของมันออกไปแต่ก็ไร้ผล โคโนกะก็เช่นกันเธอร้องเรียกเซ็ตจังเพื่อขอความช่วยเหลือ

    “อ๊อก....เซ็ตจัง ......... ช่วยด้วย”

    เสียงร้องของโคโนกะที่กำลังจะหมดแรง ทำให้เซ็ตซึนะยิ่งพยายามดิ้นให้หลุดแต่ก็ไร้ผล

    “โถ่ๆๆๆๆ ร้องไปเถ๊อะ องครักษ์ตัวน้อยของเธอก็ช่วยไม่ได้หรอก ใครก็ช่วยพวกเธอไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ” แล้วมันก็ยิ่งบีบคอของทั้งสองแรงขึ้น

    “โธ่เอ๊ย!!! ทำไมเราช่วยโคโนจังไม่ได้ เราสัญญาเอาไว้แล้ว ถ้าเราเก่งกว่านี่น่ะ...” แต่ เซ็ตซึนะก็คิดได้แค่นั้น แล้วเซ็ตซึนะก็เหลือบไปเห็นมีดสั้นที่มัดเหน็บอยู่ที่เอว มันเองก็มัวแต่หัวเราะกับสถานการณ์ที่มันกำลังเป็นต่ออยู่จึงไม่ได้สนใจสายตาของเซ็ตซึนะเลย
    เมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามประมาท เซ็ตซึนะจึงใช้แรงเฮือกสุดท้ายเอื้อมมือไปคว้ามีดของมันมาแล้วแทงเข้าที่แขนข้างที่มัดบีบคอเธอไว้ทันที

    “อ๊ากกกกก!”

    ปิศาจตัวนั้นร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด จนมันผละมือไปจากเด็กน้อยทั้งสอง
    ทั้งเซ็ตซึนะและโคโนกะที่หลุดจากมันมาได้ ก็รีบถอยห่างจากปิศาจตนนั้นทันที
    เซ็ตซึนะคว้าดาบไม้มา ตั้งท่าพร้อมโจมตีอีกครั้ง เธอเอาตัวบังโคโนกะให้อยู่ด้านหลังนักดาบน้อยจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เมื่อสักครู่เกิดขึ้นอีก

    “แกกกกก แสบมาก ไอ้หนูนักดาบ!!”

    ปิศาจเอามือกุมแผลเอาไว้และพยายามเอามีดสั้นที่ปักอยู่ออกมาจากแขน
    จนเมื่อมันเอาออกมาได้มันใช้มือข้างที่เหลือกุมแผลด้วยความเจ็บปวด
    สายตามองเซ็ตซึนะด้วยความอาฆาตแค้น

    “ฉันไม่ได้ชื่อไอ้หนูนักดาบ ! ฉันชื่อซากุระซากิ เซ็ตซึนะ ! และฉันจะไม่ปล่อยให้แกทำร้ายโคโนจังอีก!!”

    เซ็ตซึนะตะโกนโดยปราศจากความกลัว โคโนกะเองที่ฟังก็รู้สึกใจชื่นและตื่นเต้น
    “เซ็ตจังตอนนี้ เท่จังเลย” เธอมองเซ็ตซึนะที่กำลังปกป้องเธออยู่แต่แล้วเธอส่ายหัวไล่ความคิดที่ไร้สาระออกไป
    มันใช่สถานการณ์ที่ควรคิดเรื่องนี้ซะที่ไหนกัน

    “แกจะเป็นใครฉันไม่สนไอ้หนู แต่วันนี้ แกตายยย!!!”

    ขาดคำมันก็เอามีดที่มันพึ่งดึงออกมาจากแขนพุ่งเข้ามาจะแทงเซ็ตซึนะ
    แต่โชคดีที่มันบาดเจ็บมากแล้ว การเคลื่อนไหวจึงช้าพอที่จะทำให้เซ็ตซึนะโจมตีถูกมันได้ตรงจุดที่มันเจ็บอยู่
    คราวนี้มันทรุดด้วยความเจ็บปวดยิ่งกว่าเก่าแต่คราวนี้ไม่ทันที่มันจะลุกขึ้นมาได้ดี
    เซ็ตซึนะโจมตีมันด้วยแรงทั้งหมดที่มีซ้ำอีกครั้ง คราวนี้มันทรุดลงไปนอนจนยันกายแทบไม่ชึ้น

    “บะ..บ้าน่า!!! การโจมตีของเด็กตัวกะเปี๊ยก มะ..มันจะรุนแรงขนาดนี้ได้ยังไง??”

    ปิศาจจ้องมองเซ็ตซึนะด้วยความตกใจอย่างไม่เชื่อสายตา
    เด็กตัวแค่นี้ถึงจะเก่งดาบขนาดไหนก็ไม่ทำให้มันทรุดได้หรอก
    เมื่อมันพิจารณาตัวตัวเซ็ตซึนะอีกครั้ง.....เป็นไปไม่ได้!!.......นอกจาก.....

    “แกมัน.....แกมันปิศาจชัดๆ!!”

    สิ้นคำพูดของมันทำเอาเซ็ตซึนะที่ถือดาบคุมเชิงอยู่ถึงกับสะอึกด้วยความตกใจ หน้าถอดสี
    ไอ้เจ้าปิศาจเองก็เห็นอากับกิริยาของเซ็ตซึนะก็รู้ว่ามันจี้ใจดำของนักดาบน้อยเข้า
    มันจึงยิ้มสะแหย่ะและพยายามยันกายขึ้นมาอีกครั้ง มันหันมามองทางเซ็ตซึนะและพูดในสิ่งที่แม้แต่เซ็ตซึนะยังไม่เชื่อหูว่า

    “แกเอง.....มันก็พวกเดียวกับข้านี่ ทำไมไม่มาอยู่ฝั่งเดียวกับข้าหล่ะ ไอ้หนู?”
    “ไม่มีทาง ฉันไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกับแกซักหน่อย!! และจะไม่มีวันอยู่ด้วย!!”
    “เซ็ตจัง........”

    ในตอนนี้ จากคำพูดของปิศาจทำให้โคโนกะเริ่มสับสน
    อะไร เซ็ตจังเป็นปิศาจ ไม่มีทางหรอก เซ็ตจังปกป้องเรา
    เซ็ตจังไม่มีทางเป็นแบบพวกมันหรอก ใช่ ไม่ว่ายังไงเราก็เชื่อใจเซ็ตจัง

    “แกโกหก!! เซ็ตจังไม่ได้เป็นพวกเดียวกับแก เซ็ตจังปกป้องฉันต่างหาก!!!”

    โคโนกะตะโกนสุดเสียง ถึงขนาดที่ให้เซ็ตซึนะเผลอหันมามอง
    ปิศาจเองก็ยังตกใจกับความกล้าต่อปากต่อคำของเด็กน้อยที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว.....

    “ปากดีนัก แกตายก่อนแล้วกันยัยเด็กผู้ถูกเลือกกก!!”

    ว่าแล้วมันก็พุ่งจะทำร้ายโคโนกะโดยไม่สนใจเซ็ตซึนะเลย แต่นั้นก็ทำให้ที่เซ็ตซึนะที่อึ้งอยู่โจมตีมันอีกครั้ง
    แต่ครั้งนี้มันคว้าดาบไม้เอาไว้ได้

    “ดาบไม้มันก็แค่ดาบไม้ ไอ้หนู” ว่าแล้วมันก็เหวี่ยงทั้งดาบไม้และเซ็ตซึนะที่จับดาบไม้กระเด็นไปอยู่มุมห้อง
    “อ๊อกกก!!”
    “เซ็ตจังงงงงง!!!!!!”

    โคโนกะร้องเรียกเซ็ตซึนะเสียงหลง เซ็ตซึนะเองก็พยายามลุกขึ้นทั้งๆที่ยังจุกอยู่
    ไอ้ปิศาจเองก็หันจะมาทำร้ายโคโนกะอีกครั้ง ซึ่งเด็กน้องเองก็พยายามหนีสุดชีวิต

    “เซ็ตจัง ช่วยด้วย!!”

    แต่ว่าไอ้ปิศาจมันก็เงื้อมมีดจะมาแทงที่โคโนกะ ในจังหวะที่จวนจะถูกแทงเต็มทีเซ็ตซึนะใช้แรงโถมทั้งตัว
    ทำให้มันทรุดลงไป เซ็ตซึนะลุกขึ้นเอาตัวบังโคโนกะทันที สายตาแข็งกร้าวจ้องมาที่ปิศาจตนนั้นอย่างไม่เกรงกลัว

    “แกกกกกกกก!!!! ตายยยยยยย”
    “แกต่างหาก ตายซะเหอะ!!”

    สิ้นเสียงอันคุ้นเคย ปิศาจตนนั้นก็ถูกผ่าเห็นสองท่อนต่อหน้าต่อเด็กทั้งสอง บุคคลที่อยู่หน้าประตูทางเข้าของก็คือโมโตโกะนั้นเอง

    “ขอโทษที่พี่มาช้านะ เซ็ตซึนะ”
    “ท่านพี่โมโตโกะ!!!” เซ็ตซึนะร้องขึ้นด้วยความดีใจ
    “ท่านพ่อ!!” โคโนกะเองที่เห็นเอชุนอยู่ด้วยก็ร้องเรียกด้วยความดีใจเช่นกัน เธอโผเข้าไปกอดพ่อของเธอทันที
    “ท่านพ่อ....หนูกลัวแทบตายแน่ะ ดีที่เซ็ตจังปกป้องหนูไว้”

    โคโนกะพูดกับพ่อของเธอแล้วหันไปทางเซ็ตซึนะซึ่งกำลังกอดโมโตโกะเช่นกัน
    เซ็ตซึนะก้มหน้า อายจนหน้าแดงที่โคโนกะชมกันซึ่งๆหน้าแต่แล้วความเจ็บที่ถูกผลักกระเด็นก็เข้ามาอีกครั้ง สติของเซ็ตซึนะจึงค่อยๆหายไป....

    “ท่านพี่โมโตโกะ.....ดีจังที่มา......” ไม่ทันจบประโยคเซ็ตซึนะก็หมดสติลงในอ้อมแขนของโมโตโกะ
    ทำเอาโคโนกะที่มองอยู่วิ่งมาดูอาการด้วยความตกใจ

    “เซ็ตจังๆ เซ็ตจังเป็นอะไรไป? เซ็ตจัง!” โมโตโกะเองก็ตกใจไม่แพ้กัน
    เธอเลิกเสื้อของเซ็ตซึนะขึ้นและเห็นว่ามีรอยช้ำอยู่เต็มไปหมด เธอจึงอุ้มเซ็ตซึนะขึ้นและรีบพาไปห้องพยาบาลทันทีโดยมีเอชุนเป็นผู้นำทาง ตามมาด้วยโคโนกะที่วิ่งตามด้วยความเป็นห่วง

    ....................................................................................................................

    ในห้องพยาบาล...

    “หมดเรื่องซะทีน่ะ ขอบใจพวกเธอมาก ถ้าไม่มีพวกเธอหล่ะก็ พวกเราคงแย่แน่ๆ” เอชุนกล่าวขึ้น ตาเขาหันไปทางเซ็ตซึนะที่กำลังนอนพักอยู่ “และโดยเฉพาะเซ็ตซึนะคุง ฉันทำให้เด็กคนนี้ต้องบาดเจ็บแท้ๆ ฉันต้องขอโทษจริงๆ”

    สายตาของเอชุน บ่งบอกถึงความเป็นห่วงอย่างจริงใจ
    ถ้าลูกสาวเขาไม่ได้เซ็ตซึนะช่วยเอาไว้ ลูกเขาอาจถูกฆ่าเอาได้ แต่การที่ให้เด็กวัยเท่ากับลูกสาวของตนมารับบาดเจ็บแทนเขาเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่เดียว
    สองพี่น้องอาโอยามะเองก็รู้สึกได้ถึงความคิดของเอชุนจึงกล่าวขึ้นว่า

    “แต่ดิฉันว่า เซ็ตซึนะเอง ก็เต็มใจและดีใจที่ปกป้องคุณหนูโคโนกะได้ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ”

    ซึรุโกะพูดเพื่อให้เอชุนคลายกังวล แม้เซ็ตซึนะจะไม่บาดเจ็บมากนัก
    แต่สำหรับเด็กวัยขนาดนี้ มันหนักหน้าเอาการเหมือนกัน เธอรู้ดีแต่เธอก็รู้ว่าที่เธอพูดไปก็ไม่มีผิดเช่นกัน

    “ค่ะ ดิฉันเองก็ตกใจ ที่เซ็ตซึนะสู้ได้ถึงขนาดนั้น เก่งเกินเด็กวัยนี่จริงๆ”
    โมโตโกะพูดด้วยความทึ่งในความสามารถของน้องสาวต่างสายเลือดของเธอ ทำเอาซึรุโกะถึงกับสะอึก
    แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรและเก็บอาการไว้ได้

    “แล้วพวกปิศาจ จะไม่บุกมาอีกแล้วเหรอค่ะ? ดิฉันไม่มั่นใจเลย” ซึรุโกะเอ่ยถามขึ้นด้วยความกังวล
    “ทางเราจับตัวการไปขังได้แล้ว แถมพวกเธอก็ช่วยจัดการตัวเบ้งๆของพวกมันได้ไปโข พวกมันคงขยาดจนไม่กล้าบุกเข้ามาอีกหรอก”
    “ แต่ดิฉันก็ยังไม่มั่นใจ.......”
    “ไม่ต้องห่วง พวกเราตรวจสอบดีแล้ว แล้วจับผู้ทรยศได้แล้วด้วย มันไม่บุกมาอีกแน่ๆ อย่างน้อยก็ในสองสามปีนี้ ทั้งนี้ก็เพราะพวกเธอแท้ๆ ขอบคุณมากจริงๆ”

    สักพักนายหญิงโคโนเอะก็เปิดประตูเข้ามาโดยมีโคโนกะเกาะเสื้อเดินตามมาอยู่ข้างๆ
    โคโนกะก้าวจะไปหาเซ็ตซึนะที่นอนอยู่ทันทีแต่ถูกแม่ทักซะก่อนว่า

    “ให้เซ็ตซึนะเขาพักผ่อนดีกว่านะลูก จะได้หายเร็วๆ”
    “ค่ะ.........ท่านแม่” โคโนกะเชื่อฟังแต่สายตายังมองไปยังเซ็ตซึนะด้วยความเป็นห่วง

    ทว่าเธออยากให้เซ็ตจังหายเร็วๆมากกว่าจึงอดใจไม่ไปหา

    “คราวนี้ฉันตอบขอบคุณพวกเธอมาก จนไม่รู้ว่าจะตอบแทนอย่างไรดี”
    โคโนเอะ โคโนมิ เอ่ยขึ้นพลางมองสองพี่น้องด้วยความรู้สึกซาบซึ้งจากใจจริง

    “นั้นสินะ..... ลำพังแค่เงินตอบแทนมันยังไม่มากพอเลย...ถ้ายังไง.......”
    แต่ยังไม่ทันทีเอชุนจะพูดจบซึรุโกะที่หันไปมองเซ็ตซึนะที่นอนอยู่ก็พูดขัดขึ้น

    “ที่จริง ทางนี้ก็มีเรื่องจะขอร้องค่ะ..” โมโตโกะเองก็ไม่รู้ว่าพี่ของตนนั้นคิดอะไรอยู่หันไปมองพี่สาวด้วยความมึนงงซึรุโกะยกมือห้ามน้องสาวที่กำลังจะอ้าปากจะถาม เธอบอกกับโคโนเอะทั้งสองว่า

    “ขอดิฉัน คุยกับท่านทั้งสองเป็นการส่วนตัว จะได้ไหมค่ะ?”

    ซึ่งดูเหมือนทั้งสองก็ไม่คัดคาดแม้จะยังงงกับสิ่งที่ซึรุโกะจะขอพวกตนว่าทำไมถึงต้องทำลึกลับนัก
    แล้วทั้งสามก็พากันไปคุยกันอีกห้องนึง

    ............................................................................

    ภายนอกคฤหาสน์ ซึรุโกะและโมโตโกะกำลังจะเดินทางกลับไปโดโจของตน
    พวกเธอไม่อยากให้เซ็ตซึนะกระทบกระเทือนบาดแผล หากต้องเดินทางประกอบกับเซ็ตซึนะยังคงไม่ฟื้น
    แต่ดูจากอาการก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไร พวกเธอจึงขอกลับก่อนแล้วจะมาหาเซ็ตซึนะในวันรุ่งขึ้น
    ระหว่างทางโมโตโกะเห็นพี่สาวนิ่งเงียบไม่พูดคุยตลอดระยะทาง จึงเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นมาก่อน

    “ท่านพี่............ท่านจะขอร้องอะไรท่านเอชุนหน่ะ?”
    แต่ซึรุโกะกลับไม่ตอบอะไร เธอยังคงนิ่งอยู่อย่างนั้น โมโตโกะรู้ดีว่าถามต่อไปก็ไร้ประโยชน์ เธอจึงเงียบจนกระทั้งถึงโดโจ

    เมื่อเข้ามาถึงห้องพัก ซึรุโกะปิดประตู มองซ้ายขวาจนมั่นใจว่าไม่มีใครอยู่
    เธอจึงหันมามองโมโตโกะที่กำลังรอคำตอบของคำถามที่ถามตอนระหว่างที่เดินทางมา
    ซึรุโกะจ้องน้องสาวของเธออยู่นาน ก่อนจะถอนใจและพูดประโยคแรกนับแต่ออกมาจากคฤหาสน์คันไซว่า

    “เธออยากรู้ใช่ไหมว่า พี่ขออะไรกับท่านเอชุน”
    “ค่ะ......แต่ดูท่านพี่ไม่สบายใจเลย....ข้า”
    “พี่.............พี่ขอให้ท่านเอชุนรับเซ็ตซึนะไปอุปการะ”
    “หา!! ว่ายังไงน่ะท่านพี่!!!”

    โมโตโกะร้องขึ้นด้วยความตกใจ เธอไม่นึกว่าสิ่งที่พี่เธอขอจากท่าเอชุนจะเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงเช่นนี้

    “ทำไมค่ะท่านพี่? ทางเราไม่ได้ยากจนซะหน่อย ดูแลเซ็ตซึนะได้สบายอยู่แล้ว ทำไมยกให้เขาดูแลหล่ะค่ะ?”

    โมโตโกะถามด้วยน้ำเสียงโมโห มันไม่มีเหตุผลเลยที่อยู่ๆพี่ของเธอจะยกเซ็ตซึนะ
    ที่เธอเองก็รักไม่ต่างจากน้องสาวแท้ๆของเธอไปให้คนอื่น

    “พี่ว่า เราคงจะดูแลเซ็ตซึนะไม่ไหว ถึงไม่ใช่ตอนนี้ แต่ก็ในอนาคตในไม่ช้านี้แหล่ะ”
    “ทำไมค่ะ เงินเหรอค่ะ? ถ้าเราไม่มีเงินจริงๆ ทางเรารับสอนคนเพิ่มก็ได้นี่ค่ะ หนูจะช่วยเอง!!”
    “ปัญหา มันไม่ใช่เรื่องเงิน โมโตโกะ”
    “งั้นทำไมหล่ะค่ะ เซ็ตซึนะก็ไม่ใช่เด็กร้ายอะไร ออกเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ทางด้านเชิงดาบมากกว่าเด็กธรรมดาซะด้วยซ้ำหลายปีที่ผ่านมา เซ็ตซึนะทั้งรักและเคารพพวกเรามาตลอด เด็กดีขนาดนี้ ท่านพี่ยังจะทิ้งลงเหรอค่ะ? เขาถูกทิ้งมาแล้วครั้งนึงน่ะค่ะ!!..........หนูเอง....”

    ยังไม่ทันจบประโยคโมโตโกะก็ก้มหน้าน้ำตาไหลริน เธอสับสนไปหมด ท่านพี่คิดอะไรของเขา เธอโมโหท่านพี่มาก ปกติท่านพี่เป็นคนที่ทำอะไรมีเหตุผลเสมอ แต่ครั้งนี้ เธอหาเหตุผลดีๆให้ในสิ่งที่พี่เธอตัดสินใจไปไม่ได้เลย
    เธอเงยหน้ามามองซึรุโกะที่ก้มหน้านิ่งเช่นกัน ดูท่าที่พี่ของเธอตัดสินใจไปจะเป็นเรื่องจริง...........

    “หนูเอง....ก็รักเซ็ตซึนะเหมือนเป็นน้องสาวแท้ๆ แล้วท่านพี่หล่ะค่ะ? ท่านพี่ไม่สงสารเซ็ตซึนะเลยรึไง? ท่านพี่ไม่รักเซ็ตซึนะเหมือนที่หนูคิดเลยรึไง? ”
    “ก็เพราะรักนะสิ....”

    ซึรุโกะที่เงยหน้าตอบน้องสาวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาไหลริน ใบหน้าเจ็บปวดไม่แพ้กัน
    โมโตโกะเห็นยิ่งสับสน เธอไม่เข้าใจ ถ้างั้นแล้วทำไม? ทำไม?

    “แล้วทำไมหล่ะค่ะ ท่านพี่!!”
    "........................................."
    “เพราะ เซ็ตซึนะ ไม่ใช่มนุษย์!!”

    ซึรุโกะตะเบ็งเสียงใส่โมโตโกะฟังในสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้
    เซ็ตซึนะน่ะเหรอ ไม่ใช่มนุษย์......เธออึ้งกับประโยคนั้น เด็กที่เธอรักดั่งน้องสาวไม่ใช่มนุษย์......

    “เซ็ตซึนะ..เป็นลูกครึ่งมนุษย์ครึ่งปีศาจเผ่าปักษา” ซึรุโกะพูดต่อ
    โมโตโกะได้ยินถึงกับทรุดลงกับพื้น

    “ลูกครึ่ง เผ่าปักษา.......งั้นเหรอ”
    และแล้วปริศนาเรื่องพรสวรรค์ของเซ็ตซึนะก็ไขกระจ่างในหัวของโมโตโกะ ทั้งความเร็ว และพละกำลังนั้น แล้วยังไหวพริบอีก ไม่ว่ามองยังไงก็เกินเด็กวัยนี้จริงๆ
    .......ขนาดเธอที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นนักดาบอัจฉริยะของตระกูลในรอบร้อยปีในวัยที่เธอเท่าเซ็ตซึนะ เธอยังสู้ไม่ได้เลย
    .............แต่ นั้นก็ไม่ใช่ประเด็นซักหน่อยจะลูกครึ่งหรือลูกเต็มของปิศาจแต่น้องสาวที่น่ารักอย่างนี้
    จะทอดทิ้งอย่างไม่ใยดีเพียงเพราะไม่ใช่มนุษย์เหมือนเธออย่างนั้นเหรอ???

    “ถึงงั้นก็เถอะค่ะ ท่านพี่ เราก็ดูเลเซ็ตซึนะได้นี่?”
    “ไม่ได้หรอก โมโตโกะ เราไม่มีประสบการณ์”
    “ประสบการณ์??”
    “ตระกูลของเรา กำจัดปิศาจมานานเป็นร้อยๆปีแล้วก็จริง แต่ เราก็แค่กำจัด เราไม่เคยเลี้ยงพวกปิศาจเลย ต่างจากตระกูลโคโนเอะ”

    พูดจบซึรุโกะก็ถอนหายใจ ใจเธอเองก็ไม่อยากจะจากเซ็ตซึนะไปเลย
    เธอทั้งรักและทั้งห่วงเด็กคนนี้พอๆกับโมโตโกะจนเหมือนลูกในไส้ด้วยซ้ำไป
    แต่นั้นก็เพื่อตัวเซ็ตซึนะเองเธอได้ตัดสินใจแล้ว เธอมองโมโตโกะและพูดต่อว่า

    “เธอเองก็เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับปิศาจมาเยอะน่ะ ก็น่าจะรู้ว่าเผ่าปักษาน่ะ แตกต่างจากพวกอื่นๆ คือมีพวกธรรมะปีกขาวและพวกอธรรมปีกดำ พวกธรรมมะคือ ฝ่ายที่มีจิตใจดี อยู่ข้างมนุษย์ แต่พวกอธรรมคือพวกที่จิตใจถูกครอบงำด้วยความมืด ตอนนี้น่ะเซ็ตซึนะยังเดียงสานัก ต้องมีปีกสีขาวอย่างไม่ต้องสงสัย......ทว่า....”
    “ทว่า ....อะไรค่ะ ท่านพี่ เราก็ดูแลไม่ให้เซ็ตซึนะออกนอกลู่นอกทางก็พอนี่ค่ะ”
    “ไม่ได้หรอก เรื่องจิตใจของมนุษย์ปักษานั้นแสนละเอียดอ่อน ต้องให้ผู้มีประสบการณ์คอยดูแลอย่างตระกูลโคโนเอะที่เลี้ยงปิศาจเป็นลูกน้องมานานจะดีกว่า อีกอย่าง ถ้าเซ็ตซึนะเกิดควบคุมตัวเองไม่ได้ขึ้นมา พวกเราจะทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากทำในสิ่งที่บรรพบุรุษเราทำสืบต่อกันมา นั้นคือการปลิดชีพเซ็ตซึนะ...”

    โมโตโกะที่ฟังซึรุโกะอยู่นาน ได้ฟังเหตุผลที่ทำให้เธอต้องฝึกดาบกลับกลายเป็นสาเหตุที่จะทำให้เซ็ตซึนะพรากจากเธอไป แต่ที่พี่เธอพูดก็มีเหตุผล
    ถ้าเซ็ตซึนะกลายเป็นฝ่ายอธรรมไปเธอก็เองไม่รู้วิธีแก้เช่นกัน แต่เธอก็อดใจหายไม่ได้ถ้าเธอต้องจากเซ็ตซึนะไปจริงๆ

    “แต่เซ็ตซึนะไม่ใช่ลูกกรอกน่ะค่ะ จะได้ไปเป็นปิศาจลูกน้องของพวกเขา”
    “ท่านเอชุนและนายหญิงสัญญาว่าจะเลี้ยงเซ็ตซึนะเหมือนลูกสาวคนนึง”
    “แล้วเซ็ตซึนะก็เป็นเด็กที่มีพรสวรรค์....”
    “ฝ่ายนั้นก็บอกว่าจะส่งเสริมเรื่องนี้ให้กับเซ็ตซึนะให้ถึงที่สุด”
    “แล้วไหนจะเรื่องเรียน....”
    “เขาจะส่งเซ็ตซึนะให้เรียนที่เดียวกับคุณหนูโคโนกะ......”
    “แล้วถ้าเซ็ตซึนะถูกรังแก...........”
    “พอเถอะโมโตโกะ! ถึงเราจะเจอกับท่านเอชุนไม่นาน แต่เธอก็รู้ว่าท่านปราณีกับเซ็ตซึนะขนาดไหน ท่านต้องดูแลเซ็ตซึนะเป็นอย่างดีแน่ๆ”

    หลังจากพยายามชักแม่น้ำทั้งห้าเพื่อล้มเลิกความตั้งใจของท่านพี่ แต่เธอก็รู้ดีว่าที่พี่เธอพูดนั้นถูกต้อง ตระกูลโคโนเอะต้องดูแลเซ็ตซึนะได้ดีกว่าตระกูลที่มีแต่ชื่ออย่างอาโอยามะแน่นอน
    .....โมโตโกะทรุดนั่งอย่างหมดแรงเธอมันหมดทางแล้วจริงๆพี่เธอคิดหาทางที่ดีที่สุดเพื่อเซ็ตซึนะแล้วจริงๆ

    “แต่.....มันช่างรวดเร็วเหลือเกินค่ะ ท่านพี่”
    “มันยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก โมโตโกะ แต่ อีกไม่นานนี้แหล่ะ......”

    แล้วทั้งสองก็ไม่พูดคุยอะไรกันอีก ต่างนั่งเงียบ ร้องไห้อาลัยกับสิ่งที่พวกเธอจะสูญเสียในอนาคต ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงัดของค่ำคืนที่ช่างเป็นใจให้กับหัวใจของสองพี่น้องตระกูลอาโอยามะซะยิ่งกระไร

    ............................................................................................................................................................

    เช้าในห้องพยาบาล เซ็ตซึนะลืมตาเห็นเพดานห้องที่ไม่คุ้นเคย
    นักดาบน้อยพยายามลุกขึ้นนั่งบนฟูกที่เธอนอนอยู่ อาการบาดเจ็บหายไปบ้างแล้ว
    ทันใดนั้นเธอก็เหลือบไปเห็นเด็กน้อยผมสีช็อคโกแล็ตยาวประบ่านอนฟุบอยู่ข้างเธอ
    ดูท่าโคโนกะคงจะนอนเฝ้าเธอเมื่อคืนนี้แน่ เซ็ตซึนะมองโคโนกะและค่อยๆเอื้อมมือลูบหัวของโคโนกะ
    ตั้งแต่เกิดมานอกจากท่านพี่โมโตโกะกับซึรุโกะแล้ว ก็มีโคโนกะนี่แหล่ะที่เป็นห่วงเป็นใยเธอขนาดนี่
    ความรู้สึกตื้นตันจนยากจะบรรยายอยู่ใจจิตใจของเซ็ตซึนะ มือนั้นก็ยังลูบผมสีช็อคโกแลตอย่างแผ่วเบาต่อราวจะบอกความรู้สึกขอบคุณที่อยู่ในใจผ่านสัมผัสนั้น

    สักพักดูเหมือนโคโนกะเริ่มรู้สึกตัว เซ็ตซึนะจึงรีบชักมือกลับทันทีเธอทำอาการให้เป็นปกติที่สุดก่อนที่โคโนกะจะลุกขึ้นจากการนอน

    “อื้มม~~ เช้าแล้วเหรอเนี้ย....อื้มมมม” โคโนกะขยี้ตาก่อนจะปรับสายตาให้ชัดและเห็นว่าเซ็ตซึนะนั้นตื่นขึ้นแล้ว เธอยิ้มให้กับโคโนกะอย่างอ่อนโยน

    “เซ็ตจัง! เซ็ตจังฟื้นแล้ว!!”
    “ค่ะ.....ดิฉันตื่นแล้ว”
    “บู้...............”โคโนกะทำหน้าบึ่งใส่ทันที ทำเอาเซ็ตซึนะงง
    “เอ๊ะ....”
    “จะมา ดิฉันหรือ ค่ะ อะไรหล่ะเซ็ตจัง”
    “”อ่า นั้นสิน่ะ....ฉันตื่นแล้ว”เซ็ตซึนะเองก็ลืมไปเลยทำเอาเธอหาคำพูดที่ทำให้โคโนกะพอใจแทบไม่ทัน โคโนกะที่เห็นอาการเขอะเขินของเซ็ตซึนะก็อดขำในความน่ารักไม่ได้
    “เอาเถอะๆ ว่าแต่เซ็ตจังหิวรึยัง เราไปหาอะไรกินกันเถอะ”
    “อื้ม”

    ... แล้วโคโนกะก็พาเซ็ตซึนะไปกินข้าวพร้อมกับท่านพ่อกับท่านแม่ของเธอที่รออยู่แล้ว ทั้งหมดกินข้าวเช้าด้วยความสนุกสนานและอดห่วงเรื่องอาการบาดเจ็บของเซ็ตซึนะไม่ได้
    ซึ่งเธอก็ว่าเธอไม่เป็นไรมากแล้ว เธอรู้สึกดีที่ได้มาทานข้าวกับโคโนกะและนายท่านทั้งสองหลังจากที่ผ่านเรื่องร้ายๆมาเมื่อวาน

    .. หลังทานอาหารเช้าเสร็จ พี่น้องอาโอยามะก็มาถึง พวกเธอดีใจมากที่เซ็ตซึนะฟื้นขึ้นมาแล้ว ทั้งสามต่างสวมกอดด้วยความคิดถึง ทางซึมิเระเองเห็นว่าเซ็ตซึนะแข็งแรงมากพอที่จะเดินทางกลับได้จึงขอตัวพาเซ็ตซึนะกลับบ้านซึ่งท่านเอชุนก็อนุญาต และระหว่างที่ทั้งสองฝ่ายกำลังจะลำลากันนั้นเอง
    โคโนกะที่สายตายังอาลัยอาวรณ์อยู่ไม่อยากให้เซ็ตจังจากไป แต่ยังไงซักวันมันก็ต้องมากถึงอยู่ดี

    .....เซ็ตซึนะก็เช่นกัน ทั้งสองมองหน้ากันดวงความเศร้าสร้อยแต่ไม่พูดจากันสักคำ
    ดูเหมือนผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายจะรู้ใจเด็กทั้งสอง แต่พวกเขาก็ไม่อาจทำตามใจเด็กทั้งสองคนนี้ได้
    แต่แล้วโมโตโกะก็เอ่ยขึ้นว่า

    “อ๊า~......ลืมไปเลย เซ็ตซึนะ เธอลืมดาบไม้หน่ะ”

    เซ็ตซึนะเองก็พึ่งนึกขึ้นได้ เธอคิดไว้แล้วว่าเธอจัดข้าวของเรียบร้อย แต่ยังขาดอะไรไปที่แท้ก็ดาบไม้คู่ใจเธอนั้นเอง

    “นั้นสิท่านพี่โมโตโกะ งั้นหนูไปเอามาก่อนน่ะ....ว่าแต่มัน.....” เซ็ตซึนะกระตือรือร้นไปเอาดาบของตนทันที

    “มันคงอยู่ในห้องลับนั้นแหล่ะมั้ง”
    “งั้นหนูไปเอาเอง พวกท่านพี่รอตรงนี้ก่อนน่ะ”

    ว่าแล้วเซ็ตซึนะก็ก้าวเท้ากลับเข้าไปคฤหาสน์อีกครั้ง

    “งั้นฉันจะนำทางให้นะเซ็ตจัง นะค่ะท่านพ่อ”
    โคโนกะอาสาไปเป็นเพื่อนพลางขออนุญาตท่านพ่อของเธอซึ่งก็ยิ้มพยักหน้า
    โคโนกะยิ้มขอบคุณและฉวยมือของเซ็ตซึนะที่ทำหน้าอายๆเดินตามกันไป
    ซึรุโกะเห็นความน่ารักของเด็กน้อยก็อดยิ้มไม่ได้ แต่ก็ไม่วายหันไปมองน้องสาวของเธอพลางกระซิบแซวข้างหูว่า

    “เธอแกล้งลืมไว้ใช่ไหม โมโตโกะ” โมโตโกะหันมายิ้มกริ่มตอบว่า
    “เปล่าน่ะค่ะท่านพี่ เซ็ตซึนะต่างหากที่ลืม หนูก็พึ่งนึกขึ้นได้เมื่อกี้เอง”

    อมพระมาพูดซึรุโกะก็ไม่เชื่อในคำพูดเจ้าเล่ห์ของโมโตโกะ
    แต่ดูเหมือนพ่อแม่ของโคโนกะก็ทำตามใจลูกสาวของพวกเขาเหมือนกัน
    ปล่อยให้เด็กๆลากันเป็นการส่วนตัวจะดีกว่า ว่าแล้วทั้งสี่ก็หันหาเรื่องมาสนทนากันระหว่างที่รอ

    ...........................................................................................

    ในห้องลับ โคโนกะจูงนำเซ็ตซึนะเข้ามาในห้อง เซ็ตซึนะมองไปรอบๆห้อง
    ห้องเล็กแค่นี้แต่กลับเป็นสถานที่ๆทำให้เธอและโคโนจังเกือบเอาชีวิตไม่รอบ
    ว่าแล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นดาบไม้อยู่ที่มุมห้อง เธอผละจากโคโนกะไปเก็บดาบไม้นั้น
    ดาบมีรอยปริเล็กน้อยแต่ร้าวยาวตลอดแนวดาบจากการใช้อันรุนแรงเมื่อวานนี้
    สงสัยคงต้องซื้อใหม่อีกแล้ว
    เซ็ตซึนะคิดในใจเธอหันกลับเตรียมจะออกไปจากห้องกลับถูกโคโนจังซึ่งเงียบมานานรั้งเอาไว้

    “อ๊ะ...โคโนจัง!!”
    “เซ็ตจัง......คือ..” โคโนกะที่ก้มหน้านิ่งแต่มือยังจับชายเสื้อของเซ็ตซึน่ะเอาไว้
    “มีอะไรเหรอ? โคโนจัง”
    “ฉัน....ฉันอยากขอบคุณ ที่เซ็ตจังคอยปกป้องฉันเอาไว้เมื่อวาน”
    “อ้อ.....ไม่เป็นไหรหรอก ท่านพี่โมโตโกะต่างหากที่มาช่วยพวกเราเอาไว้”
    “ไม่จริง!!~”

    โคโนกะที่ก้มหน้าอยู่เงยหน้าตะโกนดั่งลั่น
    จนทำเอาเซ็ตซึนะสะดุ้งตกใจ โคโนกะเห็นเซ็ตซึนะตกใจจึงรีบขอโทษ

    “เอ่อ....ฉันขอโทษน่ะ เซ็ตจัง แต่ เซ็ตจังปกป้องฉันไว้ จนเซ็ตจังต้องบาดเจ็บ บุญคุณครั้งนี้ ฉันไม่รู้จะตอบแทนยังไง เซ็ตจังอยากได้อะไรตอบแทนรึเปล่าหล่ะ ฉันจะหามาให้”

    ตอบแทนเหรอ..... นักดาบน้อยไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย
    ทุกอย่างที่เธอทำก็เพื่อปกป้องโคโนจัง เพื่อนคนแรกในชีวิตของเธอเท่านั้นเอง
    เธอไม่รู้ว่าทำไม รู้แต่ว่าเธอต้องทำแต่สายตาที่โคโนกะรอคำตอบจากเซ็ตซึนะน้อยเหมือนเป็นการบังคับให้เธอต้องตอบ แต่เธอก็ไม่อยากได้อะไรจากโคโนจังจริงๆนี่นา

    “ไม่เป็นไรหรอก โคโนจัง .....ฉันยินดีที่จะปกป้องโคโนจัง”
    “ไม่ได้ๆ ฉันไม่ยอม.....เซ็ตจังต้องบอกมาว่าอยากได้อะไร ถ้าหามาได้ ฉันรับปากจะหามาให้เลย”

    อ๊า......ว่าแล้วไง เซ็ตซึนะนิ่งมองตาโคโนกะที่รอคำตอบจากเธออยู่นาน คิดๆไปก็หน้าแดงก่อนจะส่ายหัวดุ๊กดิ๊กไล่ความคิดไร้สาระนั้นไปและบอกในสิ่งที่ตอนอยากได้จากโคโนจังว่า

    “งั้น โคโนจังสัญญาว่า จะเป็นเพื่อนกับเราตลอดไปก็พอ” เซ็ตซึนะตอบในที่สุด โคโนกะที่นิ่งฟังอยู่นานก็ยังงงๆ
    “แค่นั้นเองเหรอ?”
    “อื้ม! โคโนจังเป็นเพื่อนคนแรกเราฉันเชียวนะ”
    “เซ็ตจังก็เหมือนกัน ก็เป็นเพื่อนคนแรกของฉันเหมือนกัน!!”
    เมื่อรู้ว่าต่างฝ่ายต่างก็เป็นเพื่อนคนแรกของกันและกัน จึงอดยิ้มและหัวเราะด้วยไม่ได้ แต่เซ็ตซึนะเกรงว่าพวกโมโตโกะจะรอนานจึงชวนโคโนกะกลับออกไป

    “ฉันต้องกลับบ้านแล้วโคโนจัง เราออกไปกันเถอะ”
    “เดี๋ยว...................”

    โคโนกะรั้งตัวเซ็ตซึนะไว้อีกครั้ง คราวนี้เธอเดินไปยืนด้านข้างของเซ็ตซึนะ เขย่งเท้าไปใกล้ๆหูของเซ็ตซึนะที่ไม่ทันระวังตัวก่อนจะกระซิบบอกว่า......................

    “ขอบคุณที่ปกป้องฉันน่ะ เซ็ตจัง ....................จุ๊บ!~~”

    โคโนกะเขย่งหอมแก้มเซ็ตซึนะทำเอานักดาบตัวน้อยยืนตัวแข็งทื่อ หน้าแดงยิ่งกว่าลูกตำลึง เธอหันไปมองโคโนกะที่กำลังหัวเราะน้อยๆแต่แฝงด้วยความอายอยู่ด้วย

    “คะ..คะ...โคโนจัง?!?”

    เซ็ตซึนะไม่อยากเชื่อในสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้หัวใจของนักดาบตัวน้อยพองโตอย่างบอกไม่ถูก

    “เซ็ตจังรีบกลับไม่ใช่เหรอ? รีบไปสิ” แล้วโคโนกะพูดก็เฉไฉเรื่องอื่นแก้เขินไม่สนใจอาการเอ๋อของเซ็ตซึนะเอาเสียเลย แล้วก็ฉุดเซ็ตซึนะออกจากห้องไปหาพวกโมโตโกะที่รออยู่นานแล้ว ทำเอาเซ็ตซึนะตามอารมณ์ของคุณหนูของเธอแทบไม่ทัน

    “แล้วเจอกันน่ะ เซ็ตจัง~~”

    โคโนกะยิ้มให้และโบกมืออำลา แต่เซ็ตซึนะไม่พูดตอบ กลับก้มหน้าอันแดงก่ำในหัวคิดแต่เรื่องสุดช็อกที่พึ่งเกิดขึ้นในห้อง แต่ก็พยักหน้าตอบกลับและออกเดินทางจนลับตาพวกโคโนเอะไป

    “ลูกคุยอะไรกับเซ็ตซึนะคุงรึ? ทำไมเขาหน้าแดงจังเลย”
    เอชุนถามลูกสาวขึ้น คุยอะไรน่ะเหรอ ทำอะไรต่างหาก แต่จ้างให้เธอก็ไม่บอกหรอก คิดถึงเรื่องในห้องลับนั้น แล้วโคโนกะก็หน้าแดงตามเซ็ตซึนะขึ้นมาบ้าง

    “ก็บอกลากันธรรมดาค่ะท่านพ่อ หนูหิวแล้ว ไปหาอะไรกินกันเถอะค่ะ”
    พูดจบโคโนกะก็วิ่งตือหนีหายไปยังคฤหาสน์ทันที ทิ้งให้เอชุนงงกับพฤติกรรมของลูกสาวของตัวเอง

    “เรื่องของลูกผู้หญิงน่ะค่ะ คุณนี่บื้อจริง ไม่น่าไปถามเลย”
    พูดจบโคโนเอะ โคโนมิก็เดินตามลูกสาวเธอเข้าไป คนเป็นแม่ย่อมรู้ใจลูกสาวเป็นธรรมดา

    “อ้าว?!” งงต่อไปอย่างนั้นแล้วกัน คุณพ่อเอชุน

    ........................................................................................................................

    พวกโมโตโกะที่กำลังเดินทางกลับ ระหว่างทางเซ็ตซึนะไม่พูดอะไรเลยซักคำ
    เอาแต่เดิมก้มหน้าแดงไปตลอดทาง สร้างความแปลกใจให้กับพี่สาวทั้งสองเป็นอย่างมาก
    แม้เซ็ตซึนะจะไม่ใช่คนพูดเก่งก็จริง แต่ก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี
    เจอเรื่องราวมากมายขนาดนี้กลับไม่พูดอะไรบ้างเลย แต่โมโตโกะก็ยิ้มกริ่มเริ่มปิ๊งไอเดียขึ้นมาได้ จึงหันมาแผนมาเล่นงานน้องสาวตัวดีว่า

    “ไง เซ็ตซึนะ คุณหนูโคโนกะเขาพูดอะไรบ้าง??”

    คำถามเข้าเป้าเต็มเปา.... พูดอะไรบ้าง? พูดน่ะไม่เท่าไหร่ แต่หลังจากที่พูดไปหน่ะยิ่งกว่า
    แต่เซ็ตซึนะก็อายเกินกว่าจะพูดออกไปว่าโดนโคโนกะหอมแก้มเข้าซะแล้ว
    ทว่าเธอรู้ว่าพี่สาวทั้งสองรอคำตอบจากเธออยู่ เซ็ตซึนะพยายามคุมน้ำเสียงตอบให้ปกติที่สุด
    แต่ก็ยังมีพิรุธอยู่ดี

    “กะ...กะก็ไม่มีอะไรมากท่านพี่โมโตโกะ คะ....แค่พูดลากันธรรมดา”
    “ไม่ใช่ว่าโดนเขาขโมยจูบแรกไปแล้วงั้นเหร๊ออออ~~~” เซ็ตซึนะสะดุ้งโหยง แก้ตัวแทบไม่ทัน
    “ไม่ใช่น่ะท่านพี่!! แค่หอมแก้มเฉยๆ!!”
    “แน๊!!!!!!!! หลุดออกมาแล้ว!! เสร็จฉันเซ็ตซึนะ”

    โมโตโกะฉีกยิ้มกริ่มที่สามารถล้วงความลับจากน้องสาวแสนซื่อได้สำเร็จ
    เซ็ตซึนะรู้ว่าตัวเองพลาดเสียแล้ว แก้ตัวอะไรไม่ได้อีก เธอจึงหน้างอใส่โมโตโกะแต่หน้าของเธอ
    ที่แดงอยู่แล้วก็แดงขึ้นไปจนเธอรู้สึกร้อนไปทั้งตัวและต้องมุดหน้าหนีเมื่อเธอเจอกับสายตาของพี่ซึรุโกะ
    ซึ่งซึรุโกะเองก็อดยิ้มกับความเขินอายที่น่ารักของเด็กสาวตัวน้อยและด้วยความสงสารเธอจึงหันมาปรามโมโตโกะแทน

    “พอเถอะ โมโตโกะ แค่นี้เซ็ตซึนะก็แทบแย่แล้วน่ะ”
    “โธ่! ท่านพี่ นิดหน่อยเองงงงงงงงง”

    .........โมโตโกะยิ้มให้กับชัยชนะเล็กๆของตัวเอง แต่ก็ไม่วายหันมาถามเซ็ตซึนะอีกว่า

    “ว่าแต่โดนไปกี่ทีหล่ะเนี้ย ข้างซ้ายข้างขวา? พี่จะได้จำไว้ว่าน้องสาวที่แสนน่ารักของฉัน โดนขโมยหอมแก้มครั้งแรกน่ะยังไงและเมื่อไหร่”
    “ท่านพี่!!!!!~”

    คราวนี้เซ็ตซึนะอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว โมโตโกะก็แซวอยู่ได้
    แค้นก็แค้น แต่กลับตอบโต้อะไรไม่ได้เลยแต่แล้วเธอก็นึกแผนย้อนกลับมาได้แผนนึง

    “ท่านพี่โมโตโกะ หนูยังเจ็บแผลอยู่เลย งั้นเดือนนี้พี่เป็นเวรทำกับข้าว ทำความสะอาดและก็ซักผ้าไปแล้วกันน่ะ”
    “ห๋า!!!~”

    โมโตโกะร้องขึ้นเสียงหลงเมื่อโดนเซ็ตซึนะเอาคืน เธอหันไปขอความช่วยเหลือจากซึรุโกะทันที

    “ท่านพี่ เซ็ตซึนะไม่ได้เจ็บหนักขนาดนั้นซักหน่อย เนอะ”
    “ไม่น่ะ ดูอาการแล้ว สามเดือนดีกว่า ฝากงานบ้านด้วยน่ะ โมโตโกะ”
    ซึรุโกะตอบแบบไม่ช่วยแถมซ้ำอีกต่างหาก พลางหันไปขยิบตาให้เซ็ตซึนะที่กำลังหัวเราะคิกอยู่

    “อ้าววว ไหงงั้นหล่ะ!!!~”
    โมโตโกะรู้ว่าโดนพี่หักหลังถึงกับหมดแรง โอ้ย งานบ้านสามเดือนจะบ้าตาย........ไม่น่าเล่นเลย เฮ่อๆๆๆๆ

    โมโตโกะที่นึกแค้นเซ็ตซึนะก็ตะโกนวิ่งไล่จะจับน้องสาวตัวดีตีก้นซะให้ได้
    เซ็ตซึนะเองก็รีบวิ่งหนีแบบลืมเจ็บแผลใครจะอยู่เฉยๆให้โง่หล่ะ
    ทั้งสองต่างวิ่งไล่กันอย่างสนุกสนานตลอดทาง ซึรุโกะเองที่ยืนมองสองพี่น้องหยอกล้อกัน ก็แอบสะเทือนใจอยู่ไม่น้อย เหลือเวลาอีกเท่าไหร่กันน่ะที่เราจะได้เห็นภาพแบบนี้
    แล้วทั้งสามก็พากันเดินทางกลับโดโจอาโอยามะ บ้านแห่งเดียวของพวกเธอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×