ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Super Singha Action - The Mix friend

    ลำดับตอนที่ #7 : แต่งรถให้แรงอย่างเดียว ชนะคนอื่นไม่ได้หรอก

    • อัปเดตล่าสุด 30 ธ.ค. 50



    เช้ามืดในวันหนึ่ง

    “ฮ้าวววววววววว์............” นายสิงห์ตื่นขึ้นมาจากที่นั่งในรถของเขา ยกมือขึ้นปิดปากที่หาวหวอด

    หลังจากที่เขากินของกล่องที่ซื้อมาจากร้านเสร็จ เขาก็ขับรถไปที่โรงเรียนเลย

    พอถึงโรงเรียนแล้ว เขาจะลงจากรถเพื่อยึดเส้นยืดสายให้คลายความเมื่อยขบ

    แต่ขณะที่เขาจะลงจากนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

    “zzzzzzzzzzzzzzzzz.............”

    เสียงใครกันละนิ ยังกะเสียงกรนเลย เอ๊ะ! มีคนแอบนอนด้วยเหรอ บ้าน่า! เราก็นอนในรถคนเดียวนะ จะมีคนอื่นมานอนด้วยได้ไง

    นายสิงห์ค่อยๆ หันมามองยังที่นั่งคนขับ เขาก็เห็น...

    ว้ากกกกกกกกกกกกกกก์!!!!!!!!!!!!!!!

    เขาร้องซะลั่น ก็บริเวณที่นั่งคนขับนะ มีเด็กผู้หญิงกำลังหลับในรถเขาด้วย มานอนหลับในนี้ได้ไง

    และเด็กที่หลับอยู่ข้างๆ เขานั้นก็เป็นนักเรียนในห้องเดียวกับเขาซะด้วย และเนื่องจากเรียนมาด้วยกันค่อนข้างนานพอสมควร เขาน่าจะรู้จักเธอคนนี้ เธอชื่อ Honami Fujieda

    Honami ตื่นขึ้นมา เพราะเสียงตะโกนร้องของนายสิงห์

    นายสิงห์ถามเธอทันที

    “เข้ามานอนในรถทำไม”

    “แหม!...ก็เมื่อคืนไปเห็นรถสวยๆ เข้าก็เลยเคลิ้มจนเกือบจะหลับ แต่ตอนนั้นอากาศข้างนอกค่อนข้างหนาวอ่ะ ก็เลยแอบไปหลับในรถเลย อุ่นกว่าเยอะ”

    “ทำแบบนี้ได้ไง ดีนะที่ยังเป็นเรา เกิดเป็นคนแปลกหน้าล่ะ จะทำยังไง”

    “แหม....เธอนี่ก็...”

    เฮ้อ! กำลังนอนอยู่ดีๆ ก็มีสาวมานอนข้างด้วย ทำไปได้

    หลังเลิกเรียน (ผ่านเร็วไปหน่อยมั้ง) นายสิงห์ก็ได้ขับรถไปที่ร้านหนังสือแห่งหนึ่ง

    ขณะที่เขาจะเลือกหาซื้อหนังสือดีๆ สักเล่ม เขาก็เหลือบไปเห็นนิตยสารเล่มหนึ่ง

    นายสิงห์จึงได้หยิบนิตยสารเล่มนั้นขึ้นมาดู

    นิตยสารเล่มนั้นคือ Import Racer (ไปโฆษณาหนังสือเค้าอีกแล้ว)

    แต่จุดเด่นนั้นไม่ใช่ชื่อนิตยสาร แต่เป็นรูปรถสปอร์ต Bugatti 16/4 Veyron สีแดงดำ กับรูปชายคนหนึ่งบนหน้าปก นายสิงห์จึงได้เปิดอ่าน และก็เจอข้อความในนิตยสารว่า

    “เจ้าของรถสปอร์ตที่สุดของ Super Car รถ 1001 แรงม้า 405 km/h
    อัตราเร่งทะลุ 1.5 วินาที จาก 0-100 km/h
    คือเจ้าของฉายา “ราชาถนนหลวง” สว่างพงษ์ ศรีรัตน์ ผู้ครอบครอง Bugatti 16/4 Veyron
    ยอดนักขับอันดับ 1 ของเมือง Freedia อันดับ 9 ของโลก บุรุษแห่งความยิ่งใหญ่ประจำปีนี้”

    นายสิงห์รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นเพื่อน (คู่ปรับ) ของเขาติดลงในนิตยสารด้วย

    เขาคิดในใจว่า เราเองก็มีรถเหมือนกัน แต่ยังไงก็คงไม่ได้ลงนิตยสารหรอก เพราะเราไม่ใช่คนดังนี่

    ขณะที่เขากำลังอ่านนิตยสารไปนั้น ก็มีเสียงชายคนหนึ่งดังมาจากหลังเขา

    “ไง...กำลังอ่านเรื่องของฉันอยู่เหรอ ไหน...ขออ่านบ้างสิ”

    นายสิงห์สะดุ้งพักหนึ่งแล้วหันมามอง

    พอเห็นหน้าเขาก็ยิ่งสะดุ้งเข้าไปใหญ่ เพราะคนที่พูดนั้นก็คือสว่างพงษ์นั่นเอง

    “ตกใจอะไรกันเนี่ย” สว่างพงษ์พูดขึ้นมา

    “ก็ตกใจนายที่มาอยู่ข้างหลังฉันไง” นายสิงห์พูดกระชากเสียง

    “เป็นไงล่ะ เห็นฉันในรูปนิตยสาร คราวนี้มาเจอตัวจริงบ้างเป็นไงล่ะ”

    “เหอะ! ก็แค่ได้ลงหนังสือก็เพื่อสร้างชื่อ ก็เท่านั้น”

    “อ๊ะๆ อย่าดูถูกหนา” สว่างพงษ์เอานิ้วชี้ที่หน้าผากของนายสิงห์ “ฉันจะพิสูจน์ฝีมือให้นายดูในอาทิตย์หน้า”

    แล้วสว่างพงษ์ก็เดินจากนายสิงห์ออกจากร้านหนังสือ แล้วขึ้นรถ Bugatti 16/4 Veyron ซึ่งเป็นรถของเขากลับไป

    3 วันต่อมา

    นายสิงห์ตัดสินใจขับรถเพื่อตามหาอู่ที่สามารถแต่งรถให้แรงได้ แต่หาไปหามาเป็นเวลานานแล้วนานเล่าก็ไม่เจอ

    สุดท้ายเขาจึงขับรถกลับไปยังโรงเรียนที่เดิม เพื่อที่จะกลับไปยังอาคารลับแห่งหนึ่ง (แล้วจะขับไปให้เปลืองน้ำมันทำไมว่ะ)

    พอเขาเข้าไปในอาคาร

    เขาก็ต้องพบกับพวกวิศวกรหญิง และนักเรียนหญิงในชุดสาวเสิร์ฟ ซึ่งกำลังจูนเครื่อง เคาะรถ ประกอบชิ้นส่วนรถ เปลี่ยนล้อ เช็ดรถ ฯลฯ

    นายสิงห์มองไปมองมา จนกระทั่งมีเสียงเรียกขึ้นมา

    “เฮ้ๆ มาหาฉันหน่อย นายนั่นแหละ”

    นายสิงห์หันไปมอง เขาก็เห็นวิศวกรชายคนหนึ่งชื่อวาทิต ใจตรง (Wathit Chaitrong)

    “นายมาทำอะไรตรงนี้เนี่ย”

    “วาทิต ฉันต้องการให้นายจูนเครื่องรถของฉันให้มันแรงๆ หน่อยได้มั้ย”

    “แต่งเครื่องรถของนายเนี่ยนะ”

    “ก็ใช่นะสิ”

    “งั้นก็ได้ แล้วไหนละรถของนาย”

    นายสิงห์ได้พาวาทิตไปที่รถของเขา ชี้รถ Saleen S7 ให้วาทิตดู

    “อืม...รถคันนี้เรายังไม่เคยเห็นนะ ไม่รู้ว่าจะแต่งได้มั้ย”

    “ถ้างั้นก็ช่วยหน่อยนะ”

    ระหว่างที่วาทิตกำลังจะทำการแต่งเครื่องนั้น ก็มีเด็กหญิงเรียกนายสิงห์จากข้างหลัง

    “ว้าว! เจอกันอีกแล้วล่ะ”

    แล้วเธอก็โผล่หน้ามา ก็ Honami นั่นเอง

    “แล้วเธอมาทำอะไรตรงนี้เนี่ย”

    “ฉันกำลังเปลี่ยนล้ออยู่ มาดูด้วยกันสิ”

    Honami ได้พานายสิงห์ไปดูรถของเธอ

    เมื่อมาถึงแล้ว รถของเธอที่ให้เขาดูคือรถ Toyota MR2

    พอลองสังเกตที่ล้อรถแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่า กระทะล้อรถอะไรจะใหญ่ปานนี้ ตั้ง 18' เชียวแนะ แถมล้อรถยังเป็นสีชมพูสะท้อนแสง

    แต่ขณะที่นายสิงห์กำลังชมอยู่นั้น พวกสาวๆ ที่กำลังทำงานอยู่นั้น ต่างก็หันมามองนายสิงห์เป็นตาเดียวกันหมด พร้อมๆ กับพูดว่า

    “คนนั้นไง เจ้าของรถ Saleen S7 รถหายาก ขอถามชื่อหน่อย”

    นายสิงห์เหงื่อตก เพราะไม่เคยเจอพวกสาวๆ เข้ามารุมถามอย่างนี้มาก่อนในชาตินี้

    Honami เองก็ยังยิ้มไปเหงื่อตกไปเลย

    สักครู่ วาทิตก็เรียกนายสิงห์

    “เฮ้ๆ นายสิงห์ ฉันว่าฉันทำได้แค่เปลี่ยนชิป ECU เท่านั้น ฉันยังไม่เคยเห็นเครื่องยนต์แบบนี้มาก่อนเลย จึงไม่กล้าที่จะใส่อุปกรณ์ลงไป แนะนำว่าไปหาพงษ์ศักดิ์ช่างยนต์อีกคนดีกว่านะ”

    “แล้วพงษ์ศักดิ์เขาอยู่ที่อู่ไหนล่ะ”

    “อยู่ที่อู่ Norte Castrol นะ”

    “ขอบใจ”

    แล้วนายสิงห์ก็ได้ขึ้นรถ Saleen จะขับออกไปข้างนอก

    แต่ยังไม่ทันที่จะสตาร์ทเครื่อง

    พวกสาวๆ ทั้งกลายก็พากันแย่งขึ้นรถของนายสิงห์ ต่างคนต่างก็แย่งเปิดประตูจะเข้าไปนั่งรถข้างในให้ได้

    หลายคนก็ดึงตัวแล้วเข้าไปนั่งแทน

    จนกระทั่งในที่สุดพวกสาวๆ เกิดเสียหลักหกล้มระเนระนาดข้างๆ รถเขานั่งเอง

    ภาพที่ได้จึงดูไม่จื๊ดไม่จืด เมื่อเห็นเป็นภาพสาวเอ๊าะนอนล้มกอดแข้งกอดขา บางคนก็เปิดหวอออกมาด้วย

    นี่หากเป็นชายอื่นสงสัยเลือดกำเดากระฉูดแล้วมั้ง

    แต่ถ้าเป็นนายสิงห์ไม่เป็นอย่างนั้น เขาไม่สนใจ

    แต่เขาตัดสินใจรีบเอื้อมตัวไปปิดประตูรถ เพื่อที่จะรีบหนี

    แต่พอเขาเอื้อมตัวไปปิดประตูเท่านั้นเอง

    จุ๊บ~~!!!............

    ปากชนปาก เจอเข้าจังๆ เลย

    ก็นักเรียนหญิง (ใส่ชุดสาวเสิร์ฟ) โผล่หน้ามาจะนั่งรถ มาชนหน้านายสิงห์จังๆ เลย หน้าแดงทั้งคู่ต่อหน้าสาวๆ ทั้งหลาย รวมทั้งวาทิตด้วย

    คนที่มาขโมยจูบแรกของนายสิงห์ก็คือ Mio Kirifuri

    นายสิงห์เริ่มตัวเกร็ง เขาค่อยๆ นั่งลงกับรถ ส่วน Mio เอามือสองข้างคลึงแก้มตัวเองไว้ พร้อมทั้งยิ้มอายๆ และหน้าแดงค่อนข้างมากๆ

    หลังจากนั้นประตูรถก็ปิดลง ทั้งนายสิงห์และ Mio อยู่ในรถด้วยกัน

    หลังจากที่นายสิงห์ยอดตายใจขับรถมากับสาวๆ แล้ว

    เขาก็ขับไปยังทางด่วน

    แต่ขณะที่เขากำลังขับแซงรถชาวบ้านไปมาอยู่นั้น

    ก็มีรถคันหนึ่งวิ่งไล่ตามหลังเขามา แล้วก็วิ่งคู่กันขนานกันไป จากนั้นก็ค่อยๆ วิ่งแซงขึ้นไปข้างหน้า

    นายสิงห์ตกใจที่เห็นรถวิ่งแซงเขา และจะแปลกใจน้อยกว่านี้ หากไม่ใช่รถ Bugatti 16/4 Veyron

    นายสิงห์จึงได้หยุดรถข้างทาง รถ Bugatti คันนั้นก็หยุดเข้าข้างทางเหมือนกัน

    นายสิงห์และ Mio ได้ลงจากรถ

    Mio สงสัยจึงถามนายสิงห์ว่า “ทำไมต้องหยุดรถด้วยล่ะค่ะ”

    นายสิงห์ยังไม่ตอบ แต่เขาจ้องมองคนที่ลงจากรถ เขาเองแทบจะไม่เชื่อสายตาเลย

    เพราะคนที่ลงจากรถคนนั้นก็คือสว่างพงษ์นั่นเอง

    “ไง...นายสิงห์ พาแฟนมานั่งรถด้วยกันเลยเหรอ”

    “ไม่ใช่แฟนนะ!”

    “ฮื่อ!...แต่นายคิดว่า มีสาวนั่งข้างด้วยแล้วนายจะชนะฉันได้เหรอ”

    “งั้นก็แข่งกันตอนนี้เลยมั้ย”

    “ฉันยังไม่รีบแข่งกับนาย แข่งไปก็ไร้ศักดิ์ศรี” แล้วสว่างพงษ์ก็เดินขึ้นรถไป

    อีก 3 วันต่อมา

    นายสิงห์ก็ตามหาอู่ Norte Castrol เจอจนได้

    นี่ถ้า Karen ไม่ช่วยบอกเส้นทางให้ล่ะก็ หาทั้งวันทั้งคืนก็ไม่เจอหรอก

    “พงษ์ศักดิ์ ฉันต้องการให้นายแต่งรถฉันให้แรงๆ นะ ฉันรู้ดีว่านายต้องทำได้”

    “นายจะให้ฉันแต่งรถ Saleen ของนายเนี่ยนะ”

    “ใช่ พรุ่งนี้ฉันจะต้องสู้กับสว่างพงษ์นะ ฉันต้องชนะให้ได้!!!”

    “แต่นายไม่คิดบ้างหรือ ว่าการจะเอาชนะเขานั้น เป็นไปได้ยาก”

    “ทำไมล่ะ?”

    “เพราะนายหวังจะใช้รถแต่งแข่งสู้กับคนอื่น นายจะอาศัยแต่พลังของรถที่แต่งมา โดยไม่เคยคิดจะใช้ฝีมือทักษะเลย เพื่อหวังที่จะเอาชนะอย่างเดียว โดยที่ไม่รู้จักคิดหน้าคิดหลัง นายสิงห์ แต่งรถให้แรงอย่างเดียว ชนะคนอื่นไม่ได้หรอก”

    “แต่ยังไงนายก็รีบจัดการให้ฉันซะที”

    “ก็ได้ แต่นายควรจำคำที่ฉันพูดเอาไว้ด้วยนะ”

    และแล้วหลังจากนั้นเอง รถ Saleen S7 ก็ถูกแปลงโฉมให้แรงมากขึ้นกว่าเดิม (อย่างเห็นได้ชัด)

    ทว่าการแข่งขันในวันถัดมา กลับไม่เป็นไปตามที่เขาคิดเลย นายสิงห์ต้องพ่ายแพ้สว่างพงษ์อย่างขาดลอย

    เขาคิดเอาไว้ในใจเลยว่า ที่เพื่อนออกมานั้น ถูกแล้ว

    นายสิงห์นั่งลงกับพื้น พร้อมกับน้อยใจแล้วด่าตัวเองว่า “ฉันคงฝีมือไม่ถึง บ้าชะมัด”

    ตอนนั้น Mikoto กับ Honami ก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย เห็นนายสิงห์กำลังน้อยใจ จึงเข้ามาปลอบ เพื่อให้นายสิงห์มีกำลังใจที่จะต่อสู่ต่อไป

    ถือว่าการแข่งขันครั้งนี้เป็นบทเรียนครั้งแรกสำหรับนายสิงห์ล่ะกัน

    ส่วนไอ้เรื่องสองสาวปลอบใจแล้วมาขนาบทั้งซ้ายทั้งขวานะ ทำเอานายสิงห์แทบจะอายจนม้วนตัว

    แต่มันก็ช่วยทำให้เกิดเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นมาได้ สมกับเป็นชื่อตอน The Mix Friend จริงๆ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×