ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "ไสหัวไปตายซะ!" จึงต้องดิ้นรนเพื่อชีวิตธรรมดากับคนรักและดาบต้องสาป

    ลำดับตอนที่ #6 : ฝ่ามือนั้นเล็กเกินกว่าที่จะเต้นได้

    • อัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 63


    Milkit: 「นายท่านคะ!」

    เสียงร้องของ Milkit ที่ตะโกนดังขึ้นมา เนื้อหนังของนายของเธอถูกฉีกขาดโดยเวทลม ร่างกายแต่ละส่วนก็กระจายแล้วร่วงตกสู่พื้นโลก แขนสองข้าง ขาสองข้าง หัวและลำตัว รวมทั้งหมดหกส่วนหล่นตกลงบนพื้นนุ่ม โดยที่มีเลือดไหลโชกออกมา

    「อา… โอ โอ โอ!」

    หนักมาก หนักเหลือเกิน – Milkit ไม่อาจจะขยับขาเธอได้ราวกับรู้สึกถึงความสิ้นหวังครอบงำตัวเธอ 
    Anzu พ่นจมูกด้วยความพอใจขณะที่มันหันตาดำๆไปยังเธอซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตที่หลงเหลืออยู่ ปากของมันก็บิดเบี้ยวราวกับมันจะหัวเราะใส่เธอ 
    เธอมองเห็นรอยบนแก้มและเลือดที่อยู่บนเขี้ยวจาก werewolves ที่มันกินไป ราวกับมันจะบอกว่า 「กูจะฆ่ามึงเป็นรายต่อไป」

    Milkit ถึงกับแข็งทื่อ

    เรื่องความตายนั้นก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เดือดร้อนกับเธอ หากเธอได้ตายไปก็น่าจะดี การอยู่ต่อไปนั้นมันน่ากลัวยิ่งกว่า

    แต่เมื่อเธอเห็นอุ้งเล็บที่แหลมคม เขี้ยวที่ใหญ่โตและพลังเวทมนตร์ที่สามารถกระชากร่างกายมนุษย์ให้เป็นชิ้นๆอย่างง่ายดายในมอนสเตอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าสี่เมตร ไม่มีอาวุธใดๆที่ Milkit จะต่อต้านได้เลย 
    เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีพลังล้นหลามเช่นนี้ มนุษย์จะแสดงสัญชาตญาณความหวาดกลัวออกมากันหมด

    ขาและเท้าของ Milkit ถึงกับสั่นจนเอาไม่อยู่ ถึงเธอไม่ได้รู้สึกเหมือนอยากจะมีชีวิต แต่เธอก็อยากจะหนีไปให้ไกลๆ

    Anzu ร้องคำรามแล้วฟาดกงเล็บลงบนพื้นด้วยอุ้งเท้าหน้าก่อนที่จะเตรียมกระโจนเข้าไปหาเหยื่อ Milkit ถึงกับย่อตัวลงทันทีขณะที่เอาแขนห่อรอบหัว ณ บริเวณสายตาที่มอนสเตอร์สุดโหดพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว มอนสเตอร์นั่นเลยผ่านตัวเธอไปแล้วก็ลงไปอยู่อีกด้านของเธอ

    หัวใจของ Milkit เริ่มพองออกมา เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจะหนีไปได้ แต่ถ้าจะทำจริงอย่างน้อยสุดเธอก็คงต้องรอโอกาส เท้าของเธอเหยียบลงบนโคลนขณะที่วิ่งไปข้างหน้า ผู้ที่กำลังมองเธอหนีอยู่นั้น Anzu พอที่จะไล่ตามได้สบายๆเพียงแค่โดดไปเพียงทีเดียวก็ย่นระยะได้แล้ว

    Milkit ถึงกับหอบขณะที่เธอหนี เธอไม่คุ้นเคยกับการวิ่งสักเท่าไร 
    แต่ก็คงจะสายเกินกว่าที่จะมาเสียใจแล้ว 
    Anzu ที่กำลังมองเธอด้วยข้อสรุปหนึ่งอย่าง เธอเป็นอะไรไม่ได้นอกจากของเล่นของมัน

    ดังนั้นมอนสเตอร์จึงเริ่มที่จะเล่นกับเธอด้วย

    มันโดดไปหาเธอ โดยเล็งเข้าไปใกล้ๆ แต่ไม่โดนเธอตรงๆ 
    มันถึงกับชอบใจมากที่ได้เห็นเธอกลิ้งล้มลุกคลุกคลาน 
    มันใช้กงเล็บฉีกเสื้อผ้าของเธอ เสียงร้องไห้ของเธอทำให้มันสำราญ แล้วมันก็อ้าปากคำรามใส่เธอ เหมือนกับจะทำให้เธอต้องหัวหดอยู่ตลอด

    อย่างไรก็ตาม ร่างกายของ Milkit ก็บอบบาง 
    การเผชิญหน้ากับความตึงเครียดสุดขั้วเช่นนี้ ร่างกายของเธอจะอ่อนล้าอย่างรวดเร็ว 
    พอมันเบื่อการตอบสนองที่น้อยลง Anzu ก็เตรียมที่จะปิดเกมเป็นที่แน่นอน 
    มันรวบรวมพลังให้รุนแรงมากขึ้น เตรียมที่จะโจมตีปลิดชีพแล้ว

    ???: 「มันเจ็บนะ แต่ว่า…」

    เสียงนั้นดังขึ้นมาจากด้านหลังของ Anzu ขณะที่มีอะไรบางอย่างมาจับที่หางของมัน

    Flamm: 「จะบอกว่าอุปกรณ์ชั้นยอดนี้มันเจ๋งดี? หรือว่าจะร้องไห้ที่ต้องมาเจ็บปวดทรมานสาหัสโดยที่ตายไม่ได้ดีล่ะ?」

    ถึงแม้ว่าเธอจะบ่นออกมา เธอก็จับหางของมันด้วย 
    หางนั้นเป็นจุดที่ไวต่อความรู้สึกของมอนสเตอร์ 
    Anzu ถึงกับขมวดคิ้วขณะที่มันหันกลับไปมองข้างหลัง

    Flamm: 「แล้วการที่แกทำร้ายคนเช่นนี้… ทาสที่แกคิดจะไปเล่นด้วยเนี่ยเป็นใครกันล่ะ?」

    Flamm เหวี่ยงดาบยักษ์ด้วยมือข้างเดียวไปตัดหางของ Anzu

    เจ้ามอนสเตอร์นั่นถึงกับร้อยโหยหวนออกมาแล้วโดดหนีออกไปเลย มันคงจะตกใจกับความเจ็บปวดที่แสนทรมาน 
    Flamm ยกดาบให้สูงขึ้น เธอถึงกับทำหน้าบูดเบี้ยวด้วยอาการเจ็บปวดจากไหล่ที่ยังสมานแผลได้ไม่ค่อยดีนัก แล้วก็ฟันลงไปยังขาหลังของมอนสเตอร์

    Anzu ถึงกับร้องออกมาอีกครั้งขณะที่ถูกดาบฟันผ่านผิวหนัง แผลนั้นเปิดกว้างขึ้นจน Anzu ล้มกระแทกใส่ต้นไม้

    Flamm: 「เจ็บเลยไม่ใช่หรือไง? แกเล่นงานฉันหนักกว่านั้นอีก แกถึงขนาดฉีกร่างฉันออกเป็นชิ้นๆเลยนะ! ถึงแม้มันจะรักษาเองได้ มันก็ยังเจ็บโคตรอยู่ดี」

    Flamm รู้ดีว่ามอนสเตอร์นั่นไม่มีทางเข้าใจเธอได้ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากบ่นออกมา 
    ความเจ็บปวดนี่มันหนักชิบหาย

    ตอนที่เธอโดนเวทลมอัดเข้าไปจนร่างกายขาดเป็นชิ้นๆนั้น เธอทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากรอความตาย
    ขณะที่เลือดไหลออกมา สติก็เลือนหายด้วย 
    แล้วความหนาวเหน็บก็เข้ามา เธอคิดได้แค่หวังว่า Milkit น่าจะหนีได้แค่นั้น

    แต่ก็แปลก เลือดที่ไหลออกมาได้สักพักกลับหยุดเอง 
    และเธอก็เริ่มรู้สึกได้ราวกับว่าแต่ละส่วนของร่างกายนั้นเชื่อมต่อกันได้ด้วยพลังเวทมนตร์ แรงที่มองไม่เห็นได้ดึงดูดแต่ละส่วนมาติดไว้ด้วยกัน แล้วบาดแผลของเธอก็ถูกรักษา ขณะที่ต้องใช้เวลาอีกสักพักในการฟื้นฟู 
    เธอยังมีชีวิตอยู่ 
    เหมือนกับตอนที่เธอเคยถูกพวกปอบกัดกินไป 
    Flamm เริ่มที่จะคิดได้ว่าเธออาจจะตายไม่ได้เว้นแต่หัวจะถูกบดแหลกซึ่งจะทำให้ตายได้ในทันที

    Anzu ลุกขึ้นมาแล้วประจันหน้ากับ Flamm เป็นการเคลื่อนไหวที่งุ่มง่ามกว่าก่อนหน้านั้น ขนที่อยู่ขาหลังก็จับตัวกับเลือดจากบาดแผลที่ Flamm ได้ลงมือไป แม้แต่มอนสเตอร์ตัวใหญ่ก็ยังบาดเจ็บได้โดยการโจมตีจากดาบสองมือเช่นนี้

    「นายท่านคะ ฉันดีใจที่คุณยังปลอดภัยอยู่นะคะ… ขอบคุณพระเจ้า」 Milkit พูดพร้อมกับเอามือกุมหน้าอกด้วยความโล่งอก เธออยู่อีกด้านหนึ่งของมอนสเตอร์จาก Flamm

    Flamm เองก็โล่งใจด้วยที่ Milkit นั้นยังอยู่

    Flamm: 「Milkit รีบหนีเลย!」
    Milkit: 「ตกลงค่ะ! อย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่ามมากนะคะ!」

    Milkit วิ่งหนีกลับไปยังถนนที่จะมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ 
    ด้วยเหตุนี้เอง Flamm จึงสามารถตั้งสมาธิในการต่อสู้ตรงเบื้องหน้าโดยที่ความกังวลในใจหายไปหนึ่งอย่างแล้ว

    「ด้วยศัตรูอย่างนี้ การประจันหน้าตรงนี้มันบ้าบิ่นสิ้นดี」 Flamm พูดด้วยสีหน้ายิ้มเจื๋อนๆ

    Anzu เองก็เล็งเป้ามายังที่ Flamm มันไม่ได้สนใจมอง Milkit ที่กำลังหนีไปเลย

    「มันน่าจะช้าลงด้วยอาการบาดเจ็บที่ขาบ้างล่ะ」 Flamm พูด พลางคิดในใจออกมา 「ถึงมันจะมีแค่กงเล็บกับเขี้ยว ฉันก็ต้องระวังเวทมนตร์ของมันเอาไว้… ฉันน่าจะเอาชนะมันได้」

    แน่นอนว่า เธอไม่มีเรื่องพื้นฐานให้สรุปได้

    ตอนนี้มอนสเตอร์ก็เริ่มที่จะคอยระวังเธอ ส่วน Flamm ก็เตรียมต่อสู้ด้วยความระมัดระวัง 
    เธอเริ่มวนไปรอบๆตัวมันอยู่หลายครั้งเพื่อที่จะโจมตีใส่ขาหน้าของ Anzu มันเองก็หมุนตัวตามไปด้วยขณะที่เลี่ยงการโจมตีของเธอ  
    ไม่มีฝ่ายใดพยายามจะเข้าใกล้กัน ถึงแม้ว่า Flamm จะยังโจมตีอีกหนไม่ได้ก็ตาม เลือดของมันก็ยังคงไหลออกมาจากขาหลัง 
    การต่อสู้เริ่มยืดเยื้อต่อไปจนเธอเริ่มที่จะกังวล

    Anzu พยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากสภาวะจนตรอก จึงได้กระพือปีกบินขึ้นไปบนฟ้า

    Flamm ถึงกับประหลาดใจ เธอคาดการณ์ว่า Anzu จะพุ่งเข้ามาข้างหน้า ไม่ใช่ขึ้นไปข้างบน

    ปีกของ Anzu ไม่ได้ช่วยทำให้บินได้ไกลมากนัก อย่างไรก็ตามมันก็มีพลังมากพอที่จะพุ่งโฉบลงมาและช่วยในการกระโดดได้

    Anzu อยู่ในตำแหน่งที่สูงพอที่ Flamm จะเอื้อมไม่บริเวณเหนือหัว ขณะเดียวกัน Anzu ก็ได้ยืนยันเป้าหมายอย่างระมัดระวังแล้วเตรียมเล็งเอาไว้ โดยใช้ปีกที่ปรับตำแหน่งทิศทาง เมื่อมันเตรียมการเสร็จสิ้นแล้ว มันก็พุ่งโฉบลงไปหาเธอเลย Flamm ได้ยินเสียงที่เข้าใกล้มาแล้วก็โดดออกไปทางอื่น

    Anzu จึงพุ่งลงกระแทกบนพื้นเข้าอย่างจัง

    พื้นดินสั่นสะเทือนจากแรงปะทะ ใบไม้ร่วงตกระนาว เกิดหลุมยักษ์กลางพื้นโดยรอบ

    แต่นั่นก็คงจะทำอะไรไม่ได้ถ้าหากมันไม่โดนตัวเธอ Flamm ได้ขยับถอยออกจากจุดที่มันพุ่งลงมา พร้อมที่จะพุ่งเข้าฟันในมอนสเตอร์ในขณะที่มันหยุดในช่วงนั้น

    แต่ก่อนที่เธอจะทำได้ ก็มีลมกรรโชคอย่างแรงพัดเข้ามา การโจมตีก่อนหน้านั้นไม่ได้มีแค่พุ่งลงมาจากข้างบนเท่านั้น เจ้า Anzu ยังเตรียมร่ายเวทตามมาด้วย คราวนี้มันไม่ได้มีแค่ลมดาบ แต่เป็นระเบิดลมที่แรงเท่ากับพายุออกมาเลย

    Flamm: 「ฉันรู้ว่าฉันต้องระวังเวทมนตร์ของมันเอาไว้… หวาาา!」

    Flamm พยายามต้านลมได้สักพักหนึ่ง แต่สุดท้ายเธอก็ถูกพัดปลิวไป ถึงแม้เธอจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังคงเป็นมือฝึกหัดอยู่ เธอไม่มีสัญชาตญาณต่อสู้ติดตัวเลย ไม่เพียงแค่ความห่างชั้นของพลังระหว่างตัวเธอกับ Anzu เท่านั้น เธอเองก็เป็นมือสมัครเล่นด้วย

    Flamm ร้องออกมาโดยไม่รู้ตัวขณะที่เธอกระแทกกับต้นไม้ ความรู้สึกที่เจ็บปวดราวกับกระดูกจะหักไปทั้งตัว แต่ช่วงเวลาที่เธอกำลังไหลตกจากต้นไม้ลงสู่พื้นนั้น ร่างกายของเธอก็รักษาเสร็จอย่างสมบูรณ์ จากจุดที่เธอกวาดสายตาไป เธอก็มองเห็นภาพเบลอๆของกงเล็บของ Anzu กำลังจะพุ่งตบเข้ามา

    เธอใช้แขนช่วยลุกตัวเองแล้วรีบโดดออกไปอย่างรวดเร็ว แรงสั่นสะเทือนที่ Anzu ฟาดใส่ต้นไม้ที่อยู่ข้างหลังนั้นทำให้เธอรู้สึกได้ เธอนึกถึงการโดนโจมตีซึ่งๆหน้าเมื่อครู่นี้แล้วทำเอารู้สึกเจ็บไปเลย

    Flamm ใช้เท้าลงพื้นและก็พบว่าดาบนั้นไม่อยู่ในมือเธอแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะทำตกไปตอนที่เธอถีบเท้าออกไป อย่างไรก็ตาม พอเธอมองไปมันก็ไม่ตกอยู่ที่ไหนในป่าเลย แต่กลับมีสัญลักษณ์โผล่บนหลังฝ่ามือของเธอแทน Flamm ตั้งสมาธิแล้วเรียกดาบออกมา แล้วก็ปรากฏอยู่ในมือทันทีอีกครั้งหนึ่ง

    Flamm: 「หือ สมกับเป็นอุปกรณ์ชั้นยอดอย่างที่คาดไว้เลย」

    Flamm จับดาบด้วยมือทั้งสองข้างแล้วหันมาประจันหน้ากับ Anzu มอนสเตอร์เองก็เตรียมตั้งท่าแล้วก็จ้องไปยังเธอเช่นกัน เธอเตือนตัวเองอีกครั้งให้ระวังเวทมนตร์ของมันไว้  Anzu ได้แสดงความสามารถการต่อสู้ตามที่เธอคาด มันอันตรายทั้งในระยะไกลและระยะใกล้เลย คงจะเป็นไปไม่ได้สำหรับคนอย่างเธอที่จะสู้กับมันแล้วรอดกลับมาครบสามสิบสองประการได้แน่

    พูดอีกอย่างก็คือ ทางเดียวที่มือสมัครเล่นอย่าง Flamm น่าจะทำได้นั้น…

    Flamm: 「ความแข็งแกร่งของฉันคือการรักษาตัวเองที่บ้าบอ สินะ?」

    เธอยังไม่ชินกับความเจ็บปวดจากการฟันเข้ากระดูกเลย แต่มันก็เป็นข้อได้เปรียบที่แผลใดๆก็สามารถรักษาให้หายได้นอกจากตายอย่างฉับพลัน เธอน่าจะสู้กับ Anzu หากเธอใช้ความสามารถเช่นนั้น

    「ฉันเกลียดความเจ็บปวดจริงๆเลยนะ แต่ก็ดี」 Flamm พูด 「ถ้าฉันตาย Milkit ก็ต้องตายด้วย ถ้าฉันคิดแบบนั้นแล้ว ฉันก็คงรู้สึกถึงความปรารถนาอันแกร่งกล้าในตัวขึ้นมาเลยล่ะ」

    Flamm ตั้งสมาธิในการวิ่งทะลุป่าเพื่อหาทางออก เธอรู้สึกถึงการตัดสินใจที่เริ่มเฉียบคม เธอจำความอบอุ่นตอนที่จับมือกันได้ เธอจึงรู้สึกถึงความกล้าที่แกร่ง และสุดท้าย ความกล้าหาญของ Flamm ที่ปรารถนาเพื่ออะไรนั้นก็ง่ายๆ เพื่อหญิงสาวที่เธอเพิ่งจะพบกันในวันนี้ เธอจึงได้เดิมพันด้วยชีวิตของเธอ

    「เอาล่ะ ลุยกันเลย จะขอลุยอย่างผู้กล้าล่ะนะ!」 Flamm พูดประชด ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปหา Anzu โดยตรง



    ดาบยักษ์ที่จับลากไปกับพื้น Anzu รู้ดีว่าตัวมันแกร่งกว่าจึงไม่ได้คิดจะหลบเธอเลย มันรับคำท้าอย่างมั่นคงแทน หนึ่งก้าว สองก้าว สามก้าว – แล้วก็ปะทะกัน

    ขณะที่เข้ามาใกล้ๆ เจ้า Anzu ฟาดกงเล็บลงเข้าที่หัว Flamm เธอหลบตัวไปทางขวา กงเล็บจึงควากใส่ไหล่ซ้ายของเธอแทน ทำให้เศษเนื้อหลายชิ้นหลุดกระจายออกไป Flamm เองก็รู้สึกถึงอาการแสบร้อนถึงในกระดูกที่สมองยังไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวด ในเวลาเดียวกัน Flamm ก็ยังคงพุ่งเข้าไปฟันใส่ร่างของ Anzu ขณะที่เธอวิ่งผ่านตัวมันไป

    ทั้งสองฝ่ายต่างก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

    ความเสียหายโดยรวมแต่ละฝ่ายถือว่าใกล้เคียง อย่างไรก็ตามบาดแผลของ Flamm รักษาให้หายได้เพียงแค่ไม่กี่วินาทีในขณะที่ของ Anzu นั่นยังคงมีอยู่

    Flamm ไถลตัวหยุดบนกองใบไม้ เธอรีบหมุนตัวกลับไปหามอนสเตอร์อีกครั้งหนึ่ง

    ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บปวด ปีกของ Anzu ก็เริ่มกระพือจน Flamm รู้สึกถึงลางสังหรณ์ได้ 
    ตอนนั้นเอง เธอจึงรู้ว่า Anzu นั้นกำลังเตรียมไพ่ตายเอาไว้ 
    นั่นคือเวทลมที่สามารถฉีก Flamm ให้แหลกเป็นชิ้นๆก่อนหน้านั้นเอง

    Flamm รู้สึกหนาวสั่นวาบไปถึงกระดูกสันหลังขณะที่เธอจำความเจ็บปวดของร่างกายที่ถูกฉีกกระจายได้ เธอไม่อาจที่จะหยุดตัวสั่นได้ 
    โชคดีที่ดูเหมือนว่าการตั้งสมาธิของ Anzu จะถูกรบกวนจากบาดแผลของมัน มันจึงใช้เวทมนตร์ได้ไม่ราบรื่นเหมือนกับที่มันทำในครั้งแรก

    แต่ก็ยังยากที่จะหยุดการทำงานได้ในระยะเช่นนั้น อีกด้านหนึ่ง ถ้าเธอเข้ามาใกล้ในระยะปลายนิ้วด้วยฟันและเขี้ยวของ Anzu แล้ว เธอน่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ง่ายกว่านี้

    ถ้าเธอไม่หยุดเวทมนตร์ที่มันร่าย เธอจะเลี่ยงคมดาบที่มองไม่เห็นที่อาจจะเล็งเป้ามายังที่หัวของเธอได้หรือ? ยาก ยากมาก ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ แต่เป็นไปไม่ได้แน่นอน โชคไม่ดี Flamm ไม่มีอาวุธที่โจมตีระยะไกลด้วย

    ไม่มีทางที่จะโจมตีมอนสเตอร์จากตรงนั้นได้แล้วหรือ? ขณะที่เธอมองไปรอบๆ เธอก็สังเกตเห็นต้นไม้ที่สูงเสียดฟ้า

    Flamm: 「อะฮ้า!」

    เธอไม่มีเวลามาคิดถึงความสำเร็จหรือล้มเหลว เธอหมุนเหวี่ยงดาบสองมือด้วยกำลังแรงทั้งหมดไปที่โคนต้นไม้

    เสียงปะทะดังก้องไปทั่วทั้งป่า มันต้านทานได้ค่อนข้างมากเลย แต่เธอก็สร้างความเสียหายมากพอที่จะทำให้ต้นไม้ล้มได้อยู่ 
    อย่างไรก็ตามมันกำลังจะล้มไปผิดทิศทาง

    「ย้ากกก!」

    คราวนี้เธอร้องตะโกนออกมาขณะที่เธอเหวี่ยงดาบออกไปเปล่าๆอีกครั้งและก็อีกครั้ง แรงเหวี่ยงด้วยมือสองข้าง ภายใต้การฟาดฟันอย่างรุนแรงของเธอทำให้ต้นไม้ล้มไปทางด้านของตัว Anzu

    เวทมนตร์นั้นเกือบจะปล่อยออกมาแล้ว Anzu ที่จดจ่อกับเวทมนตร์ไม่ได้รู้เลยว่าต้นไม้นั้นกำลังจะล้มลงมาจนกระทั่งก่อนที่ถึงตัวมันนั่นแหละ มันทับกลางหลังกดขาให้เอียงจนกระทั่งท้องมันติดกับพื้น Anzu ถูกทับอยู่กับที่ แต่ด้วยมอนสเตอร์ที่แข็งแรงเช่นนั้น มันก็น่าจะดิ้นหลุดออกมาได้ถ้าหากมันมีเวลาสักหน่อย

    Flamm ไม่ปล่อยให้มันมีโอกาสในช่วงเวลาแบบนั้น

    Flamm: 「เสร็จฉันล่ะ!」

    Flamm พุ่งเข้าไปด้วยความเร็วเต็มแรง เธอโดดลอยกลางอากาศขณะที่เข้าไปหา Anzu จับดาบของเธอด้วยมือทั้งสองข้างก่อนที่จะผ่าลงกลางหัวของมอนสเตอร์ด้วยแรงทั้งหมดที่มี

    ดาบที่ทะลุเข้าผ่ากะโหลกจนเกิดรอยร้าวและเสียงกลืนของเหลว เธอยังคงได้ยินเสียงมอนสเตอร์ร้องคำรามอยู่ มันยังไม่ตายทันที Flamm จึงเพิ่มแรงด้วยมือทั้งสองข้างดันเข้าไปจนกระทั่งดาบนั้นจมไปมิดด้าม

    ด้วยเสียงร้องที่โหยหวน พลังเวทมนตร์ก็เริ่มออกมาจากอุ้งเท้าของ Anzu แล้ว ทั้งตัวของมันสั่นไปหมด Flamm รีบกระโดดถอยกลับด้วยความตกใจ ขณะที่เธอมอง มอนสเตอร์นั่นสุดท้ายก็เริ่มหมดแรง ลมหายใจสุดท้ายไม่มีอะไรมากไปกว่าพัดกองใบไม้ข้างล่าง

    Flamm หายใจเข้าลึกๆ ไหล่ของเธอหนักจนห้อยลงขณะที่เธอจ้องไปยังที่ศพ

    Flamm: 「อ๊า ชิบ… ครั้งแรกนี่มันยากเกินไปแล้วนะ」

    มอนสเตอร์นั้นตายสนิทแล้ว เมื่อ Flamm มั่นใจแล้ว พลังทั้งหมดก็หายไปจากตัวเธอเลย เธอกางแขนแล้วก็ล้มคว่ำไปราวกับจะล้อเลียนท่าของ Anzu แล้วก็พลิกตัวหันหลังกลับ

    Flamm ถอนหายใจออกมา เตียงที่ทำจากกองใบไม้นั้นนุ่มสบายกว่าที่คิดไว้ มันเย็นชื้นไปหน่อยจนเธอรู้สึกถึงเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มได้ แต่นั่นก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาเนื่องจากเธอได้ชุ่มไปด้วยเหงื่อและเลือดมาแล้ว

    มองไปยังช่องระหว่างต้นไม้ เธอก็เห็นท้องฟ้าที่เป็นสีส้มลางๆ เธอเกือบจะได้ยินถึงสิ่งที่บอกเธอให้รีบกลับบ้านก่อนที่มันจะมืดแล้ว

    「แม้แต่ท้องฟ้าก็ยังรังแกฉันเลย」 เธอถึงกับบ่นไม่เป็นเรื่อง

    บาดแผลที่เธอได้รับระหว่างการต่อสู้ก็ถูกรักษาไปหมดแล้ว แต่ก็ยังเจ็บอยู่ ไม่ถึงขนาดที่ทำให้เธอต้องออกอาการเจ็บจนหลอนแต่ก็ยังเจ็บช้ำอยู่ มันรู้สึกเหมือนกับเจ็บแปล้บไปทั่วทั้งตัว

    Flamm: 「นี่ฉันต้องมาสู้กับไอ้พวกมอนสเตอร์แบบนี้เนี่ยนะ พวกกิลด์นี่มันบ้าบอสิ้นดีเลย… แล้วจะเป็นยังไงต่อล่ะเนี่ย?」

    Flamm ชักจะไม่ค่อยแน่ใจแล้ว ส่วนหนึ่งของเธอก็ไม่อยากกลับไปที่เมืองเลย แต่เมื่อเธอนึกภาพของ Milkit ที่หนีไปกำลังรอนายของเธออยู่ที่หน้าป่าแล้ว มันกระตุ้นให้ Flamm พอที่จะลุกขึ้นมาได้อย่างน้อยล่ะกัน

    Flamm: 「เอาล่ะ Dain คราวนี้นายจะคิดกับฉันยังไงกันน้า?」

    ยังไม่ต้องคิดถึง werewolf ถ้าหมอนั่นรู้ว่าเธอจัดการกับ Anzu ที่อยู่แรงค์ C ได้ล่ะก็ หมอนั่นอาจจะเป็นลม 
    Flamm ฝืนย่ำก้าวตัวเองพลางนึกภาพสีหน้าที่สุดช็อคของไอ้หมอนั่น
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×