ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "ไสหัวไปตายซะ!" จึงต้องดิ้นรนเพื่อชีวิตธรรมดากับคนรักและดาบต้องสาป

    ลำดับตอนที่ #3 : ฟันเฟืองชิ้นเล็กที่หายไป

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 63


    – สองวันหลังจาก Flamm ถูกขายให้กับพ่อค้าทาส

    แน่นอน จุดนัดพบในคราวนี้ Flamm ไม่มาที่ชั้นใต้ดินของปราสาท 
    Jean จึงพูดขึ้นมาหลังจากที่ทุกคนมาถึง

    Jean: 「Flamm มีความจำเป็นต้องกลับบ้านเกิด หล่อนจะไม่เข้าร่วมเดินทางอีกต่อไปแล้ว」
    Cyrille: 「หา?」

    คนแรกที่ออกอาการตกใจก่อนก็คือผู้กล้า Cyrille เธอถึงกับเบิกตากว้างขณะที่หันไปมองยังนักปราชญ์ Jean

    อีกสี่คนที่เหลือก็ออกอาการตกใจเล็กน้อย 
    แม่มด Eterna ถึงกับขมวดคิ้วเล็กน้อย 
    นักรบ Gadio หายใจออกมาเบาๆ 
    นักบุญ Maria ถอนหายใจ
    ในขณะที่นักธนู Linus พึมพำไปว่า 「แบบนี้มันน่าจะดีกว่า」

    Cyrille: 「แล้วรู้ได้ยังไงกันล่ะ?」

    Cyrille ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ Jean ถึงกับออกท่าทางขมขื่นออกมา 
    เมื่อ Flamm ออกจากปาร์ตี้ไป เขานึกว่าเธอน่าจะหายไปจากใจของ Cyrille จนหมดแล้ว 
    อย่างไรก็ตามตัวตนของ Flamm ก็ยังคงรบกวนใจเธออยู่

    Jean: 「ฉันมั่นใจว่าหล่อนนั้นไม่อาจจะกลับมาอยู่ในปาร์ตี้ได้อีกต่อไปแล้ว หล่อนเองก็ทราบดีอยู่แล้วก็เลยตัดสินใจกลับบ้านเกิดด้วยตัวเองนะ」
    Cyrille: 「ด้วยตัวเธอเองหรือ…」
    Jean: 「ใช่แล้ว ฉะนั้นก็ลืมหล่อนไปซะ หล่อนไม่มีประโยชน์หรอก ไม่เข้าใจหรือ?」
    Cyrille: 「ไม่เลย…」

    Jean คิดว่าเขาเป็นชายที่เหมาะสมกับ Cyrille ที่สุด 
    เทียบกับอายุ 28 ปีแล้ว เธอก็แค่ 16 ปีเอง เขาอาจจะอายุห่างกันเกินไปหน่อย 
    แต่สิ่งที่สำคัญไม่ใช่อายุของเธอ แต่เป็นความสามารถของเธอต่างหาก 
    เพื่อหวังจะให้มีทายาท จึงน่าพอใจที่จะได้แต่งงานกับคนที่เทียบเท่าหรือดีกว่านั้น

    เขาเป็นคนนึกเรื่องนั้นเอาเองมาโดยตลอดก่อนที่จะมาเข้าร่วมปาร์ตี้ผู้กล้า 
    แล้วเขาก็ได้พบกับเธอ ตัวตนที่ 「ตรงตามอุดมคติ」 Cyrille Sweechka

    อย่างไรก็ตาม คนที่เข้าใกล้เธอก่อนกลับไม่ใช่ Jean
    แต่เป็นผู้หญิงสวะ – ที่ไร้ความสามารถ ไร้ความแกร่ง ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง – Flamm ที่ดูเหมือนจะมีความใกล้ชิดกันเนื่องจากโตมาจากภูมิหลังเดียวกัน

    เขาถึงกับโกรธจัดที่ความภาคภูมิใจถูกย่ำยี ยิ่งกว่าความโกรธใดๆที่เขารู้สึกได้ 
    ทำไม Cyrille ถึงเลือก Flamm แทนตน? 
    ไม่ใช่ว่าคนเก่งจะต้องคู่กับคนเก่งหรือ?

    นั่นจึงเป็นเหตุว่าทำไมเขาจึงได้เริ่มวางแผนชี้นำไปยังทางที่ถูกต้อง

    การวางแผนการคือความชำนาญเฉพาะของ Jean 
    ต้องขอบคุณความสามารถที่เบ่งบานกับความมุมานะสุดตัวที่ทำให้ขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งนักปราชญ์นี้ได้ 
    สำหรับเขาแล้วมันง่ายที่จะขับไล่ Flamm ออกไปจากในใจของ Cyrille เสีย

    「ยังอาวรณ์อยู่หรือ?」 Jean เดินเข้าไปใกล้ๆกับ Cyrille แล้วกอดโอบรอบตัวขณะที่ถามคำถาม

    「……อือ」

    Cyrille พูดเสียงค่อยแล้วพยักหน้า

    ตามแผนการของ Jean เธอจะต้องยอมรับว่าอย่างน้อย Flamm นั้นไร้ความสามารถ 
    ตัวน่ารำคาญก็ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว เธอถูกขายเป็นทาสและจะไม่โผล่มาต่อหน้า Cyrille อีก จึงไม่มีอะไรต้องมากังวล Cyrille ก็จะได้ลบล้างตัวตน Flamm ออกจากใจเธอและทำตามคำชี้แนะของเขาได้อย่างถูกทาง

    นอกจาก Cyrille แล้วก็ไม่มีใครถามถึงการแยกตัวออกไปของ Flamm เลย

    Cyrille เปิดใช้งานเวทย้อนกลับ ห้องนั้นก็เกิดแสงปกคลุมไปทั้งห้องแล้วทั้งหกคนก็เคลื่อนย้ายไปยังจุดพักในครั้งล่าสุด

    Jean ถึงกับตื่นเต้นราวกับเป็นเด็กในเช้าวันคริสมาสต์ กำลังจะเริ่มต้นเดินทางโดยที่ไม่มี Flamm อยู่อีกต่อไปแล้ว

    ◇ ◇ ◇

    「เฮ้ Cyrille, Jean รอก่อนเซ่!」 Linus ตะคอกเสียงดังในเขตแดนเผ่าปีศาจ

    เขาตะโกนเรียกชื่อสองคนแบบนี้มาแล้วกี่ครั้งกันน้า?

    「อ๊ะ ขอโทษ」 Cyrille พูดแล้วก้มมองเท้าของเธอ

    พอ Jean เดินเข้ามาใกล้เธอ เขาก็จะแตะหลังเธอแล้วพูดว่า 「ไม่ต้องขอโทษหรอก Cyrille… Linus ไม่เห็นจะต้องเดินให้ช้าลงอีกต่อไปแล้วนะ」

    Linus: 「หา ก่อนหน้านั้นฉันก็บอกไปทีแล้ว แต่ไม่ได้บอกให้ช้าลงเพื่อรอ Flamm นะ นี่มันเขตของศัตรู นายต้องระวังตัวด้วย!」
    Jean: 「ถ้าเรารวมพลังกันก็จะไม่มีภัยอันตรายนะ!」

    Jean มั่นใจในความสามารถของเขามาก

    ไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร์หรือชนเผ่าปีศาจธรรมดาก็สามารถขับไล่ได้ง่ายถึงแม้จะถูกจู่โจมอย่างกะทันหันก็ตาม

    Linus: 「ถ้าเกิดว่าเป็นพวกปีศาจสามขุนพลมาโจมตีเราล่ะ? คิดให้ดีๆนะ เราคงจะไม่แพ้ถ้าระวังตัวเอาไว้ ใช่มั้ยล่ะ?」

    ปีศาจขุนพล พอเขาได้ยินแบบนั้นไป Jean ก็เถียงไม่ออก 
    พวกนั้นเป็นปีศาจที่คอยบัญชาการของเหล่าปีศาจโดยตรง

    เหล่าปาร์ตี้เคยปะทะกับสายลมโลหิต Neigass กับเปลวอัคคี Zeon มาแล้ว 
    ไม่เพียงแต่พลังจะเทียบเท่าผู้กล้าเท่านั้น แต่พลังเวทมนตร์ที่ปล่อยออกมานั้นมันรุนแรงเสียจน Jean รู้สึกเหมือนจะไปตายเอาได้

    Linus: 「ถ้านายเข้าใจแล้วก็ช่วยช้าลงหน่อยนะ」 

    Jean ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมทำตาม

    Jean นึกว่าถ้า Flamm ไม่อยู่แล้ว ปาร์ตี้ก็น่าจะไปได้เร็วขึ้น
    ความคิดของเขานั้นได้ทำให้ก้าวย่างเร็วขึ้น

    อีกด้านหนึ่ง Cyrille ก็ทำท่าราวกับไม่มีกะใจในการเดินทางเลย เธอดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจในรอบข้างสักเท่าไรนัก

    สิ่งที่อยู่ในใจของเธอนะหรือ แน่นอนว่าเป็นเรื่องของตัวภาระอย่าง Flamm

    พวกเขาพูดไม่ดีกับเธอ เธอจึงเจ็บช้ำมาก แถมพวกเขาก็ยังทิ้งกันอีก… 
    Cyrille เองก็ยังนึกสงสัยอยู่ว่าเธอจะเรียกตัวเองว่าเป็นเพื่อนของ Flamm ได้อยู่มั้ย

    เธอเติบโตในบ้านนอกที่ไม่มีการสู้รบกัน 
    ถ้าไม่ใช่เพราะ Flamm ที่ร่าเริงสดใส เธอก็คงจะแตกสลายจากแรงกดดันที่เป็นผู้กล้าไปนานแล้ว

    ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าเป็นคนที่เนรคุณก็ตาม… 
    ไม่ว่าเธอจะเสียใจยังไง Flamm ก็ไม่กลับมาแล้ว เธอยังต้องปราบจอมมารและก็ช่วยโลกอยู่

    เพียงแค่ Cyrille ที่อยู่ในความเศร้าหมอง ก็ไม่ใช่ว่าพรรคพวกจะเมินกันได้

    Linus หลังจากที่เตือน Jean ไปแล้ว เขาก็ย้ายมาอยู่ข้าง Maria แล้วพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ

    Linus: 「เราไม่มีเวลามากแล้วนะ」
    Maria: 「มีอะไรหรือ Linus? ปกติคุณจะมีความมั่นใจมากกว่านี้เลยนี่」
    Linus: 「ก็รู้สึกไม่ค่อยดีนะสิ ขอพูดตรงๆเลยนะ ฉันเองก็เคยพูดอะไรแย่ๆใส่ Flamm ไป แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะเปลี่ยนไปมากตั้งแต่ที่เธอออกไปนะ」
    Maria: 「แน่นอน Cyrille เองก็ดูท่าจะสลดเลย อย่างที่เห็น Jean นั้นก็ดุกร้าวและหยิ่งผยองเกินไป Eterna เองก็อารมณ์ไม่ดี เธอไม่พูดกับ Gadio เลยสินะ?」

    ดูเหมือนว่า Flamm จะพยายามอย่างหนักมาโดยตลอด 
    บางทีเธอน่าจะทำให้ปาร์ตี้ดูสดใสมีชีวิตชีวาได้โดยที่ไม่รู้ตัว 
    อย่างไรก็ตาม ตัว Flamm เองก็คงจะไม่รู้ตัวด้วย จึงไม่มีใครโทษคนอื่นถึงเรื่องนั้น

    Linus: 「แล้วเธอล่ะ?」

    「ฉัน…」 Maria พูดก่อนที่จะหยุดทิ้งช่วงไป

    Linus มองหน้าเธอ

    Linus: 「มีปัญหาหรือ?」
    Maria: 「คงงั้น」 
    Linus: 「น่าแปลกใจนะ ฉันนึกว่าเธอจะเป็นไปตาม Cyrille เสียอีก」
    Maria: 「นับจากวันที่เราเริ่มเดินทาง ตอนที่ฉันคุยกับ Cyrille นั้น เรื่องที่เธอพูดก็มีแต่ Flamm ตลอดเลย」

    Cyrille นั้นร่าเริงและสดใสตลอดตอนที่พูดถึง Flamm
    Maria ที่เอาแต่รับฟังก็เลยพลอยยิ้มไปด้วย

    Linus: 「โอเค… ถ้า Cyrille จมอยู่ในความเศร้าหมอง มันก็ทำเอาปาร์ตี้สะเทือนไปหมดเลยนะ」

    เธอยังเป็นแค่เด็กสาวอายุ 16 ปี แต่เธอกลับต้องมาเป็นเสาหลักของปาร์ตี้ หากขาดเธอไปก็คงยากที่จะไปได้ไกล จนมิอาจจะต่อกรกับจอมมารได้

    Linus: 「ฉันคิดว่า… บางทีมันก็ไม่เหมาะที่จะต้องไปบอกกับพระแม่นะ」
    Maria: 「ฉันไม่คิดหรอกว่านายจะพูดอะไร เพราะนายเองก็พูดไม่เข้าท่าอยู่แล้วล่ะ」

    「นั่นมัน…」 Linus พูดก่อนที่จะพยักหน้า 「เอาล่ะ เอาตรงๆ ตอนที่ฉันได้ยินเรื่องสเตตัสของ Flamm ฉันนึกว่า Origin คงจะทำผิดพลาดไป」

    Maria ยิ้ม 「Origin ไม่มีทางทำผิดพลาดหรอกนะ」

    พอมองดูเธอใกล้ๆ Linus ก็หลงติดกับความน่ารักของเธออีกครั้ง ตั้งแต่ผมบลอนด์ ผิวเนียน บุคลิกและน้ำเสียงที่เรียบร้อย 
    ทุกอย่างที่เกี่ยวกับ Maria นั้นตรงกับที่เข้าต้องการพอดี

    หลังจากนั้น Linus กลับมายังหัวข้อสนทนาต่อ

    Linus: 「ใช่ เธอดูเหมือนจะทำตัวให้เป็นประโยชน์ในปาร์ตี้ เราคงจะหยุดไม่ได้เพราะเธอได้กลับไปแล้วล่ะ」

    เขาไม่อาจลาก Flamm กลับเข้าปาร์ตี้ได้ เพราะจะทำให้ Jean ถึงกับอารมณ์เสียพอๆกับทำให้ Flamm ต้องตกอยู่ในอันตราย ราวกับว่าจะทำให้ทุกคนโล่งอก

    ถึงแม้ Flamm จะไม่อยู่ พวกเขาก็ไปต่อได้

    Maria: 「ใช่แล้ว เรามีหน้าที่อันยิ่งใหญ่ในการกำจัดเผ่ามาร ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็ต้องทำให้สำเร็จ」

    Maria พูดด้วยปณิธานอันแรงกล้า 
    แต่ Linus กลับสงสัยว่านี่มันจะ 「ช่วยโลก」 จากภารกิจที่ซ่อนอยู่ในใจเธอจริงๆหรือ? 
    เขากลัวอารมณ์มืดมัวที่กำลังจะตื่นขึ้นจากเบื้องลึกของจิตใจอันงดงาม ถ้ามันตื่นขึ้นมา ทุกอย่างก็จบกัน

    แต่ ด้วยความสงสัยของเขาทั้งหมด เขาไม่ได้รู้สึกว่าเขาจะพาพวกเขาย่างก้าวเข้าไปเลย

    ◇ ◇ ◇

    พวกเขาตัดสินใจเตรียมอาหารมาเองซึ่งตามปกติ Flamm เคยเป็นคนทำให้ ตอนนี้พวกเขาจึงต้องผลัดเวรกันทำ 
    อาหารมื้อแรกเป็นเวรของ Gadio นักผจญภัยแรงค์ S เขาเป็นผู้มีประสบการณ์มากที่สุดจากการเข้าค่ายอันยาวนาน

    Gadio: 「ฉันไม่รับรองเรื่องรสชาตินะ」

    ถึงเขาจะพูดอย่างนอบน้อม อาหารที่เตรียมมาในมื้อนี้ก็เป็นเนื้อมอนสเตอร์ที่ดูหยาบแต่อร่อยเทียบเท่ากับอาหารของ Flamm 
    สมาชิกในปาร์ตี้ส่วนใหญ่ต่างก็พอใจ
    ยกเว้นแต่ Jean ถึงกับถมึงหน้าเลย

    เนื้อมอนสเตอร์มีกลิ่นที่แรง ถึงแม้ว่าจะใช้สมุนไพรมาดับกลิ่นมากแค่ไหน มันก็ยังคงมีกลิ่นหลงเหลือจนพอที่จะรับรู้ได้กับคนที่ไม่ชอบรสชาตินั้น

    Jean: 「Gadio ทำอะไรสักอย่างกับอาหารนี่ไม่ได้หรือไงกัน? ก่อนหน้านั้นกลิ่นมันหายไปเลยนะ」
    Gadio: 「ฉันไม่อยากจะทำต่อแล้วล่ะ」
    Jean: 「ทั้งๆที่เป็นถึงนักผจญภัยแรงค์ S แต่กลับทำได้ไม่ดีเท่ายัย Flamm เนี่ยนะ?」

    ความเห็นของ Jean ออกจะงี่เง่าไปหน่อย แต่ Gadio ก็ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าเลย 
    อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่า Jean จะไม่อารมณ์เสีย

    Eterna ที่นั่งอยู่ข้างๆเขาถึงกับหรี่ตาด้วยความไม่สบอารมณ์ 

    Eterna: 「เธอเตรียมอาหารไว้ในวันก่อนออกเดินทางเพื่อคนที่ไม่ชอบกลิ่นของเนื้อมอนสเตอร์นะ」

    Gadio ยักไหล่ 

    Gadio: 「นั่นก็ไร้ประโยชน์สินะ」

    ที่จริงมันก็แค่เป็นอาหารที่เขาทำเพื่อกินได้อย่างสมบูรณ์แบบเอง

    เห็น Jean แล้วดูน่าอนาถ เขาถึงกับฝืนตัวเอาชิ้นเนื้อเข้าปาก แล้วก็เคี้ยวมันด้วยสีหน้าที่ฝืนกัดฝืนทน โดยที่กลิ่นนั้นฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งปาก

    Gadio พ่นลมออกจากจมูกด้วย 「หืม」 แล้วกลับมากินอาหารของเขาต่อ

    หลังจากนั้นก็ไม่มีการพูดคุยกันในกลุ่มเลย มื้อค่ำรอบกองไฟก็เงียบสงัด 
    ตอนที่มี Flamm อยู่ตรงนั้น เธอมักจะเริ่มเปิดปากคุยออกมาตลอด เพราะเธอไม่อาจทนกับความเงียบที่อึดอัดได้นั่นเอง

    ◇ ◇ ◇

    หลังจากที่กินเสร็จ ปาร์ตี้ก็เข้าที่พัก สมาชิกแต่ละคนจะมีเวลาว่างทำธุระส่วนตัวจนกว่าจะถึงเวลานอน

    Cyrille, Linus และ Gadio ตรวจเช็คอาวุธของพวกเขา 
    Maria ก็สวดภาวนากับเทพ Origin 
    ส่วน Eterna ก็เข้าสมาธิ

    กิจวัตรประจำวันของ Jean คืออ่านหนังสือเวทมนตร์พร้อมดื่มชาสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมหวาน 
    เนื่องจาก Flamm ไม่อยู่ จึงไม่มีชามาเสิร์ฟให้อีก

    เนื่องจากไม่มีทางเลือก เขาก็เลยต้องเอาอุปกรณ์ชงมาเอง เขาน่าจะชงชาเองได้ 
    อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่เขาได้เข้าทำงานในสถาบันวิจัยของอาณาจักรและได้มาเป็นนักปราชญ์อัจฉริยะ เขาก็ไม่เคยชงชาเองเลย 
    ขณะที่เขาพยายามหาวิธีใช้เครื่องมืออยู่นั้น Linus ก็เดินเข้ามา

    Linus: 「นี่ นายเองก็ทำไม่เป็นหรือเนี่ย」
    Jean: 「ก็ฉันให้พวกคนรับใช้มาทำนี่หว่า」
    Linus: 「สมกับเป็นชนชั้นสูงอย่างนายเลย ส่งมาให้ฉัน เดี๋ยวจะชงให้เอง」

    Jean ถึงกับอับอายขายหน้ากับเรื่องแบบนี้เป็นอย่างมาก 
    เขาถูกเรียกว่าเป็นจอมเวทที่เก่งที่สุดในอาณาจักร แต่กลับเอางานง่ายๆที่แม้แต่ Flamm ก็ยังทำได้ไปให้คนอื่นทำแทน

    เขากอดอกและนั่งบนพื้นด้วยสีหน้าไม่ค่อยจะสุขีสักเท่าไร รอจนกว่า Linus จะทำเสร็จ

    Jean: 「อ๊ะ ทำเสร็จแล้วนี่」

    Jean รับเอาถ้วยชามาแล้วก็จิบทันที-

    Jean: 「พรวดดดด!」

    เขาถึงกับพ่นมันออกมา

    Jean: 「นี่มันอะไรกันเนี่ย? ห่วยแตกชะมัด!」
    Linus: 「นายนี่… ท่าทางแบบนั้นมันอะไรกัน! ฉันก็แค่ชงไปตามปกติเองนะ」
    Jean: 「ช่วยไม่ได้ อะไรที่มันห่วยแตกก็คือห่วยแตก รสชาติก็ขมแถมกลิ่นยังก็เลวร้ายสุดๆ ฉันดื่มไอ้ของแบบนี้เข้าไปได้ยังไงกันฟ่ะ?」

    Jean ถึงกับหงุดหงิดมากขึ้น ขึ้นเสียงใส่ Linus 
    แน่นอนว่าโดยดูจาก Linus ที่ชงชามาให้เขาแล้ว เขาถึงกับยอมรับไม่ได้ 
    Linus เข้าใจว่า Jean นั้นหยิ่งยโสและพยายามจะทำตัวให้เป็นเพื่อน 
    แต่นี่มันเกินกว่าที่เขาจะทนได้แล้ว

    Jean: 「นายทำไม่ได้แม้กระทั่งชงชาเนี่ยนะ?」

    สุดท้าย Linus ก็เก็บความเดือดดาลเอาไว้ไม่อยู่ และเกือบจะไปจับคอเสื้อ Jean แล้ว

    Eterna เข้ามาพูดออกโดยที่น้ำเสียงเรียบเฉย

    Eterna: 「เพราะ Flamm เตรียมชาที่แตกต่างกันเอาไว้สำหรับแต่ละคนนะ มันจะไม่อร่อยได้ยังไงหรือ?」

    หลังจากนั้นเธอก็โดดออกห่างจากทั้งสองไป

    คราวนี้ Jean ถึงกับตบะแตกออกมา

    Jean: 「อ้าก…… ยัยบ้า Flamm อี Flamm นัง Flamm!」

    เพล้ง!

    เขาถึงกับปาถ้วยชาลงพื้นเลย 
    เครื่องลายครามสีขาวแตกกระจาย ของเหลวก็กระเด็นใส่เท้า Linus

    แต่ Jean ก็ไม่พูดขอโทษเลย แล้วก็เดินออกไปโดยที่ปล่อยทิ้งทุกอย่าง

    Linus: 「เฮ้ย Jean!」

    Linus ตะโกนเรียก แต่ Jean ก็เมินเขา เนื่องจากมันช่วยไม่ได้ เขาจึงนั่งลงไปเก็บเศษถ้วยนั้น

    Linus: 「นี่มันถ้วยชาสุดหรูเชียวนะ แต่คงจะเป็นแค่เศษเงินของ Jean」

    เมื่อเขาเก็บกวาดเสร็จ Linus ก็เริ่มตากกางเกงที่เปียกด้วยกองไฟ 
    เขาถึงกับทำหน้าหดหู่ขณะที่มองไปยังเปลวไฟที่ลุก

    Linus อายุ 24 ปี แต่เขาก็เป็นแรงค์ S เหมือนกับ Gadio

    เขาอยู่รอดได้ในโลกอันตรายตั้งแต่อายุยังน้อย และก็ยังสะสมประสบการณ์ที่ไม่อาจเทียบเคียงได้กับคนในรุ่นคราวเดียวกับเขา 
    สัญชาตญาณของเขาดังเหมือนสัญญาณเตือน

    Linus: 「นี่มันสภาวะเลวร้าย เหมือนกับค่ำคืนของปาร์ตี้ก่อนที่จะแตก」

    เมื่อปาร์ตี้นักผจญภัยล่ม สาเหตุใหญ่ที่สุดนั้นไม่ใช่ถูกมอนสเตอร์โจมตีหรือปัญหาทางการเงิน 
    แต่เป็นความสัมพันธ์ของมนุษย์

    Linus: 「เราควรจะอยู่ติดกันเอาไว้จนกว่าเราจะมาถึงปราสาทจอมมาร」

    ขณะที่ Linus พูดอย่างออกมาโดยหวังว่าการเดินทางนี้จะราบรื่น 
    แต่ประสบการณ์อันกว้างใหญ่มันบอกว่า… คงเป็นไปไม่ได้
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×