คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : การต่อสู้ของเอ็ม-คาล (เพิ่มเนื้อหาเล็กน้อย และเปลี่ยนชื่อตอนครับ)
ห้องพยาบาลแห่งป้อมมังกรที่แปด
เวลาผ่านไปอีกห้าชั่วโมง เอ็กช์โก้กำลังนอนพักฟื้นอยู่ที่ห้องพยาบาล ที่สร้างจากหินสีเทาอ่อนที่ดูแข็งกระด้าง รอบห้องเต็มไปด้วยสิ่งที่จำเป็นต่อการรักษา ตู้ยาที่บรรจุยาไว้มากมาย มีอัลคาเดวิลหมอยาคอยรักษาอยู่หลายคน คนเจ็บนั้นไม่ได้มีเพียงเอ็กช์โก้คนเดียว มีคนเจ็บอีกสามอยู่ที่นี่ อัลคาเดวิลทหารสามตนนี้บาทเจ็บจากสงครามครั้งล่าสุดนี่เอง นี่เป็นส่วนซูเปอร์เล็กและซูเปอร์ส่วนน้อยของคนเจ็บ ในสงครามครั้งนี้มีคนบาทเจ็บถึงเจ็ดสิบสามคน ส่วนอัลคาเดวิลที่เสียชีวิตในสงครามมากกว่านั้นถึงร้อยสิบห้าคน ต่างคนต่างก็มีครอบครัว พวกเขาคงน่าสงสารไม่น้อยที่จะไม่ได้เห็นหน้ากันอีกแล้ว แต่อัลคาเดวิลที่เสียชีวิดจะไม่ทิ้งพวกเขา เพราะอัลคาเดวิลเหล่านั้นยังคงคอยจ้องมองดูพวกเขาอยู่ที่ไหนสักแห่งในโลกแห่งนี้ ตราบนานเท่านาน
เอ็กช์โก้นอนสลบอยู่ที่เตียงหนึ่งที่ตั้งอยู่ ณ มุมหนึ่งของห้องพยาบาล ใบหน้าของเขาซีดจางเล็กน้อย บอกได้ว่าเขาเสียเลือดไปมากพอดู เสื้ผ้าที่เขาสวมใสอยู่ในตอนนี้เป็นเพียงเสือแขนยาวกับกางเกงขายาวสีขาวทั้งชุดเท่านั้น มือของเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผลไว้อย่างดี ตัวยาที่ใช้รักษาคือใบไผ่บดกับผงมันฝรั่ง ถ้านำทั้งสองออย่างนี้มาใช้ร่วมกันจะทำให้ห้ามเลือดและรักษาบาทแผลได้ดีทีเดียว
เอ็กช์โก้เริ่มรู้สึกตัวแล้วในตอนนี้ ปากที่แห้งผากของเขาพูดแต่ชื่อของหลานของเขา
"เคิร์ท เคิร์ท เจ้าปลอดภัยดีรึเปล่า"
นางพยาบาลคนหนึ่งได้ยินที่เอ็กช์โก้พูด จึงเดินมาหาเขา
"ฟื้นแล้วหรือคะ ท่านลร์อดเอ็กช์โก้"
"ขะ...ข้ามานอนทำอะไรอยู่นะเนี่ย"
เอ็กช์โก้พึมพำกับตนเองก่นที่จะลุกขึ้นนั้งและลงจากเตียง แต่หมอยาคนนั้นเธอห้ามไว้
"นอนพักก่อนเถอะค่ะ อย่าพึ่งไปเลยท่าน
"
"ข้าจะไปหาหลานข้าหน่อย อย่าห่วงข้านักเลย ข้าก็เป็นแค่อัลคาเดวิลธรรมดาคนเหมือนกับเจ้วนั่นเหละ เพียงแต่ข้าทำงานเพื่อปกป้องเมืองก็เท่านั้นเอง"
เอ็กช์โก้อธิบาย แล้วรีบเดินออกไปจากห้อง
"อ๊ะ...เดี๋ยวสิท่าน"
เอ็กช์โก้เดินออกจากป้อมมังกรแล้วไปเอาม้ามังกรตัวหนึ่งมาขี่ แล้วมุ่งหน้าไปที่บ้านของเขาทันที
บ้านของ เอ็กชืโก้ ควิกเอน ตั้งอยู่บริเวณนอกเมืองทางใต้ห่างจากเมืองไปสามกิโลเมตร พื้นที่ส่วนนั่นเป็นพื้นที่ๆติดกับหน้าผาที่ลึกกว้างขวางและน่ากลัว อีกฟากของหน้าผาอันยาวไกลเป็นเขตพื้นที่ของประเทศ ไมซาเลี่ยน เป็นประเทศที่ปิดกั่นสังคมภายนอก ประเทศที่ยังไม่มีใครเคยได้รู้ข้อมูล ก็มีหน้าผาใหญ่กั้นขวางอยู่แบบนั้นก็คงไปไม่ได้ แต่พวกอัลคาเดวิลของประเทศไมซาเลี่ยนนั้นสามารถที่จะมาที่นี่ได้ เอ่อ ข้ามหน้าผามาได้ ด้วยสัตว์ใหญ่บินได้ นั่นคือมังกรดำ
บ้านของเอ็กช์โก้ทำไมถึงไกลจากตัวเมือง นั่นเป็นเพราะสงครามกลางเมืองเมื่อหกสิบปีก่อน ตอนนั้นเอ็กช์โก้ยังยังไม่ได้เป็นทหาร วันนั้นเอ็กช์โก้กำลังเล่นอยู่กับหลานของเขาอายุยี่สิบสี่ขวบอย่างสนุกสนาน แต่กลุ่มข้าศึกกลุ่มใหญ่ก็ได้เดินทางมาโจมตีเมืองเซฟานอย่างไม่ทันตั้งตัว ข้าศึกกลุ่มนั้นบุกทะลวงประตูเมืองจนพังราบ แล้วเข้าไปยังตัวเมืองจนเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น พวกข้าศึกได้ฆ่าอัลคาเดวิลไปจนเกือบครึ่งของประชากรในเมือง ผู้เสียชีวิตสองคนที่เขารัก พี่ชาย และ แม่ของเขา ตั้งแต่นั้นเอ็กช์โก้ก็ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะตั้งตัวเป็นทหาร จนได้เป็นในที่สุด เขาเก่งในการใช้ดาบมากพอควร ผลงานการรบที่น่าทึ่งทำให้เขาได้เป็นท่าน ลร์อดเอ็กช์โก้
แต่เมื่อเขานึกได้ถึงความปรอดภัยของพ่อและหลานชาย เขาจึงสร้างบ้างหลังหนึ่งให้พ่อกับหลานชายอยู่ เขาได้สัญญากับตนเองไว้ว่าถ้าเขาไม่สามารถปกป้องอันคาเดวิลสองชีวิตนี้ได้ เขาก็คงจะโกรธตนเองไปตลอดชีวิต แต่ในตอนนี้ ณ เวลานี้สิ่งที่เขาได้เจอ จี-นัม คำพูดของ จี-นัม ที่ว่าหลานของเขามีบางสิ่งที่พวกมันต้องการ พวกมันอาจจะจับตัวเคิร์ทไปแล้วก็ได้ ความไม่สบายใจทำให้เขาอยากพบหลานของเขาเร็วๆ สิ่งที่เขาอยากเห็นที่สุดในตอนนี้คือหลานของเขาที่ยังปรอดภัยดี
เอ็กช์โก้ขี่ม้ามังกรมาเรื่อยๆจนเห็บบ้านของเขาอยู่ริบๆ นี่นไงไกล้ถึงแล้ว อีกเพียงไม่นานเขาก็จะได้รู้ในสิ่งที่เขาอยากรู้ บ้านหลังนั้นไกล้เข้ามาเรื่อยๆ เอ็กช์โก้ก็เขาไกล้มันไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ถึงบ้านของเขา เอ็กช์โก้ลงจากหลังของม้ามังกรแล้วผูกมันไว้กับต้นไม้ต้นหนึ่งมันเป็นต้นไม้ที่แห้งจนไม่มีใบแล้ว เอ็กช์โก้ไม่รีรอรีบเดินเข้าบ้านไปด้วยอาการรีบเร่ง บรยากาศภายในบ้านค่อนข้างจะเงียบมาก บ้านที่สร้างจากดินเรียกว่าบ้านดินมันทำให้ภายในบ้านมีอากาศที่เย็นพอเหมาะ ภายนอกดูเรียบง่าย ตัวบ้านที่เป็นดิน กับหลังคาบ้านที่เป็นดินเช่นกัน ภายในบ้านปูพื้นด้วไม้สีน้ำตาลเข้ม ปูทับด้วหรมนุ่มๆสีขาว บ้านหลังนี้มีห้องทั้งหมดแปดห้อง ผ่านประตูทางเข้าที่ทำจากไม้มา เป็นห้องที่ดูเมือนจะใช้สำหรับอ่านหนังสือชะมากกว่าทำอย่างอื่น รอบห้องเต็มไปด้วยชั้นหนังสือเลียงรายมากมาย และมีประตูอยู่ทางด้านกำแพงซ้ายและขวาด้านละสามบาน กลางห้องวางโต๊ะใหญ่ไวหนึ่งตัว รอบโต๊ะก็มีเก้าอี้ไม้ที่ที่หุ้มด้วยเบาะนุ่มดูคล้ายโซฟา สามห้องทางด้านซ้ายเป็นห้องนอนของ เอ็กช์โก้ โคมาสพ่อเขา และ เคิร์ท ส่วนอีสามห้องทางขวา คือห้องครัว ห้องนั่งเล่น และ ห้องน้ำ
"ท่านพ่อ เคิร์ท เขาเป็นอะไรรึเปล่า เขายังอยู่มั้ย"
เอ็กช์โก้พูดเสียงดังถามพ่อของเขาที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างใจเย็น
"เกิดอะไรขึ้งหรือเฮ้กช์โก้...เคิร์ทเขากำลังนอนหลับอยู่ในห้อง"
เอ็กช์โก้ได้ยินเช่นนั้น เขาก็โล่งใจขึ้นมาทันที่
"ขออภัยครับท่านพ่อที่ทำให้ท่าน..."
"เอาล่ะ...ช่างเถอะ เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ข้าฟังทีซิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
เอ็กช์โก้เดินไปนั้งที่เก้าอี้ด้านตรงข้ามกับโคมาส
"หน้าเจ้าดูซีดๆ น่าจะพักซะก่อนแล้วค่อยมานะ ก่อนที่จะห่วงใครทำไมเจ้าไม่คิดห่วงตนเองบ้างล่ะ ลูกข้า"
"เรื่องนี้มันยากที่จะพูดท่านพ่อ ข้าไม่อยากสูรเสียใครไปอีกแล้ว"
"โอเค...ในเมื่อตัวเจ้าต้องการเช่นนั้นข้าก็คงไม่อยากขัดใจเจ้า"
"ท่านพ่อ ข้าได้เจอกับผู้ถือดาบเหลืองแล้ว"
"เจ้าต่อสู้กับพวกนั้นด้วยหรือ"
โคมาสพูดด้วยอาการตกใจเล็กน้อยก่อนจะวางหนังสือเล่มสีฟ้า ไว้บนโต๊ะแล้วถอดแว่นสายตาออกแล้ววางใว้บนหนังสือ
"เอ่อ...ข้าใช้หอกแห่งแสงกับมัน"
"งั้นหรือ...พวกมันบอกนามหรือเปล่า"
"คนที่ข้าสู้ด้วยชื่อ จี-นัม มันได้เอ่ยถึงอีกกลุ่มนึงที่ชื่อว่า เอส-คาล กำลังจะมาจับตัวเคิร์ทเพราะมี เซริสเต้ ในร่างกาย"
"เซริสเต้ ไม่จริงหน่า...ถ้าข้าจำไม่ผิดเอ็กคาริบาสได้ทำลายมันทิ้งไปแล้วไม่ใช่หรือ ข้าไม่อยากจะเชื่อจดหมายของเอ็กคาริบาสไม่มีวันโกหก แล้วเจ้ารอดกลับมาได้พวกมันมันต้องการเล่นเกมส์บางอย่างกับเรา"
"ที่ข้ารอดมาได้...นั่นเป็นเพราะ อี-นัม หัวหน้าของมันเรียกตัวมันกลับไป ไม่อย่างนั้นข้าก็คงไม่ได้มีโอกาสได้มานั่งคุยกับท่านพ่อแบบนี้หลอก"
"นั่น ก็นับว่าเจ้าโชคมีมากๆแล้วลูกข้า...แต่ข้าคงจะเดาแผนของพวกมันออกบ้างแล้ว"
"ยังไงครับท่านพ่อ"
"ในเมื่อมันยอมปล่อยเจ้าได้มันก็หลอกใช้เจ้าได้ เจ้ารู้สึกอึดอัดตรงไหนหรือเปล่า"
คำถามนั้นทำให้เอ็กช์โก้คิดและสังเกตอาการของตน
"ใช่ท่านพ่อ...ข้ารู้สึกอึดอัดบริเวณหน้าอก"
"เอาล่ะ...ยืนขึ้น"
เอ็กช์โก้ลุกขึ้นยืนตามที่ผู้เป็นพ่อบอก โคมาสเองก็ยืนขึ้เช่นกัน
"ยืนให้มั่นคง...แล้วอยู่เฉยๆ"
" ครับท่านพ่อ"
โคมาสหันตัวไปด้านข้าง แล้วย่อตัวลง ยื่นมือข้างหนึ่งไปทางเอ็กช์โก้ในระดับอก แสงพลังงานที่แรงกล้าปรากฏตัวขึ้นที่มือย่นๆของโคมาส เอ็กช์โก้รับรู้ได้ถึงพลังอันมหาศาลของพ่อของเขา โคมาสอัดพลังนั่นใส่เอ็กช์โก้อย่างแรง พลังนั่นเป็นพลังที่ใช้การกระแทกในการจู่โจม เอ็กช์โก้ที่โดนพลังนี้เขาไปเต็มๆ ทำให้เขาสำลักเลือดออกมาจากปากพร้อมกับบางสิ่งทรงกลมสีเหลือพุ่งออกมาด้วย รูปร่างหน้าตามันคล้ายกับลูกแก้ว ลูกเลยมากกว่า มันกระเด็นไปทางโคมาสที่รับมันได้อย่างเหมาะเจาะ แต่เอ็กช์โก้ที่กำลังเจ็บปวดล้มล้งคุกเข่าที่พื้น มือกุมอยู่ที่คอ
แค่ก! แค่ก! แค่ก! แอ๊คหึแอ็ค! โขรก! โขรก! โขรก!
"เป็นอย่างไรบ้าง...ไหวหรือเปล่าเอ็กช์โก้"
"ข้าคิดว่าข้าดีขึ้นแล้วท่านพ่อ"
เอ็กช์โก้พูดพร้อมยืนขึ้นช้าๆแล้วชี้นิ้วไปที่ลูกแก้วสีเหลืองในมือโคมาส
"มะ...มันคืออะไรครับท่านพ่อ"
"นี่ คือฝุ่นผงแห่งสีเหลือง"
โคมาสบอกแล้วโยนมันให้เอ็กช์โก้ถือ แล้วเขาก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้ตามเดิม
" มันเป็นฝุ่นผงในลูกแก้วกลวง ถ้ามันแตกออกในตัวเจ้า มันจะทำให้เจ้าโดนความชั่วร้ายครอบครองจิตใจจนกลายเป็นพวกมันในที่สุด"
"ที่มันทำแบบนี้เพราะว่ามันต้องการตัวข้าด้วยงั้นหรือ"
"ถูกต้อง...เมื่อพวกมันควบคุมเจ้าได้ เจ้าก็จะจับตัวเคิร์ทไปให้พวกมัน แล้วที่มันบอกเจ้าว่า อีกกลุ่มจะมาจับตัวเคิร์ท นั่นก็เป็นเพราะว่า..."
"ข้าจะได้รีบร้อนมาที่นี่...ข้าโดนพวกมันต้มวะสุกเลยนี่"
"แต่อย่างน้อยตอนนี้เจ้าก็ปลอดภัยแล้ว...แต่ก็ยังวางใจอะไรไม่ได้พวกนั่นคงไม่เลิกลาอไรง่ายๆแน่"
ไม่ทันขาดคำก็มีบางสิ่งเกิดขึ้นข้างนอก อัลคาเดวิลบุรุษสามตนที่แต่งตัวแปลกประหลายคล้ายจี-นัม
"นั่นอาจจะเป็นกลุ่ม เอส-คาล ที่จี-นัมพูดถึงท่านพ่อ"
"มันคงไม่จนง่ายๆแค่เจรจากันแน่ ในห้องนั่งเล่นมีดาบของพี่ชายเจ้าอยู่ไปนำมันมาใช้สิ"
 %3
ความคิดเห็น