ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดาบเหลืองในตำนาน อัลคาเดวิล

    ลำดับตอนที่ #8 : การต่อสู้ของเอ็ม-คาล (เพิ่มเนื้อหาเล็กน้อย และเปลี่ยนชื่อตอนครับ)

    • อัปเดตล่าสุด 4 มิ.ย. 49


                                           ห้องพยาบาลแห่งป้อมมังกรที่แปด
                         เวลาผ่านไปอีกห้าชั่วโมง  เอ็กช์โก้กำลังนอนพักฟื้นอยู่ที่ห้องพยาบาล  ที่สร้างจากหินสีเทาอ่อนที่ดูแข็งกระด้าง  รอบห้องเต็มไปด้วยสิ่งที่จำเป็นต่อการรักษา  ตู้ยาที่บรรจุยาไว้มากมาย  มีอัลคาเดวิลหมอยาคอยรักษาอยู่หลายคน  คนเจ็บนั้นไม่ได้มีเพียงเอ็กช์โก้คนเดียว  มีคนเจ็บอีกสามอยู่ที่นี่  อัลคาเดวิลทหารสามตนนี้บาทเจ็บจากสงครามครั้งล่าสุดนี่เอง  นี่เป็นส่วนซูเปอร์เล็กและซูเปอร์ส่วนน้อยของคนเจ็บ  ในสงครามครั้งนี้มีคนบาทเจ็บถึงเจ็ดสิบสามคน  ส่วนอัลคาเดวิลที่เสียชีวิตในสงครามมากกว่านั้นถึงร้อยสิบห้าคน  ต่างคนต่างก็มีครอบครัว  พวกเขาคงน่าสงสารไม่น้อยที่จะไม่ได้เห็นหน้ากันอีกแล้ว  แต่อัลคาเดวิลที่เสียชีวิดจะไม่ทิ้งพวกเขา  เพราะอัลคาเดวิลเหล่านั้นยังคงคอยจ้องมองดูพวกเขาอยู่ที่ไหนสักแห่งในโลกแห่งนี้  ตราบนานเท่านาน
                          เอ็กช์โก้นอนสลบอยู่ที่เตียงหนึ่งที่ตั้งอยู่ ณ มุมหนึ่งของห้องพยาบาล  ใบหน้าของเขาซีดจางเล็กน้อย  บอกได้ว่าเขาเสียเลือดไปมากพอดู  เสื้ผ้าที่เขาสวมใสอยู่ในตอนนี้เป็นเพียงเสือแขนยาวกับกางเกงขายาวสีขาวทั้งชุดเท่านั้น  มือของเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผลไว้อย่างดี  ตัวยาที่ใช้รักษาคือใบไผ่บดกับผงมันฝรั่ง  ถ้านำทั้งสองออย่างนี้มาใช้ร่วมกันจะทำให้ห้ามเลือดและรักษาบาทแผลได้ดีทีเดียว 
                           เอ็กช์โก้เริ่มรู้สึกตัวแล้วในตอนนี้  ปากที่แห้งผากของเขาพูดแต่ชื่อของหลานของเขา 
                           "เคิร์ท  เคิร์ท เจ้าปลอดภัยดีรึเปล่า"
    นางพยาบาลคนหนึ่งได้ยินที่เอ็กช์โก้พูด  จึงเดินมาหาเขา
                           "ฟื้นแล้วหรือคะ  ท่านลร์อดเอ็กช์โก้"
                           "ขะ...ข้ามานอนทำอะไรอยู่นะเนี่ย"
    เอ็กช์โก้พึมพำกับตนเองก่นที่จะลุกขึ้นนั้งและลงจากเตียง  แต่หมอยาคนนั้นเธอห้ามไว้
                           "นอนพักก่อนเถอะค่ะ  อย่าพึ่งไปเลยท่าน…"
                           "ข้าจะไปหาหลานข้าหน่อย  อย่าห่วงข้านักเลย  ข้าก็เป็นแค่อัลคาเดวิลธรรมดาคนเหมือนกับเจ้วนั่นเหละ  เพียงแต่ข้าทำงานเพื่อปกป้องเมืองก็เท่านั้นเอง"
                            เอ็กช์โก้อธิบาย แล้วรีบเดินออกไปจากห้อง
                            "อ๊ะ...เดี๋ยวสิท่าน"
    เอ็กช์โก้เดินออกจากป้อมมังกรแล้วไปเอาม้ามังกรตัวหนึ่งมาขี่  แล้วมุ่งหน้าไปที่บ้านของเขาทันที 
                              บ้านของ เอ็กชืโก้  ควิกเอน ตั้งอยู่บริเวณนอกเมืองทางใต้ห่างจากเมืองไปสามกิโลเมตร  พื้นที่ส่วนนั่นเป็นพื้นที่ๆติดกับหน้าผาที่ลึกกว้างขวางและน่ากลัว  อีกฟากของหน้าผาอันยาวไกลเป็นเขตพื้นที่ของประเทศ ไมซาเลี่ยน เป็นประเทศที่ปิดกั่นสังคมภายนอก  ประเทศที่ยังไม่มีใครเคยได้รู้ข้อมูล  ก็มีหน้าผาใหญ่กั้นขวางอยู่แบบนั้นก็คงไปไม่ได้  แต่พวกอัลคาเดวิลของประเทศไมซาเลี่ยนนั้นสามารถที่จะมาที่นี่ได้ เอ่อ ข้ามหน้าผามาได้  ด้วยสัตว์ใหญ่บินได้  นั่นคือมังกรดำ 
                               บ้านของเอ็กช์โก้ทำไมถึงไกลจากตัวเมือง  นั่นเป็นเพราะสงครามกลางเมืองเมื่อหกสิบปีก่อน  ตอนนั้นเอ็กช์โก้ยังยังไม่ได้เป็นทหาร  วันนั้นเอ็กช์โก้กำลังเล่นอยู่กับหลานของเขาอายุยี่สิบสี่ขวบอย่างสนุกสนาน  แต่กลุ่มข้าศึกกลุ่มใหญ่ก็ได้เดินทางมาโจมตีเมืองเซฟานอย่างไม่ทันตั้งตัว  ข้าศึกกลุ่มนั้นบุกทะลวงประตูเมืองจนพังราบ  แล้วเข้าไปยังตัวเมืองจนเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น  พวกข้าศึกได้ฆ่าอัลคาเดวิลไปจนเกือบครึ่งของประชากรในเมือง  ผู้เสียชีวิตสองคนที่เขารัก  พี่ชาย  และ  แม่ของเขา  ตั้งแต่นั้นเอ็กช์โก้ก็ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะตั้งตัวเป็นทหาร  จนได้เป็นในที่สุด  เขาเก่งในการใช้ดาบมากพอควร  ผลงานการรบที่น่าทึ่งทำให้เขาได้เป็นท่าน  ลร์อดเอ็กช์โก้
                               แต่เมื่อเขานึกได้ถึงความปรอดภัยของพ่อและหลานชาย  เขาจึงสร้างบ้างหลังหนึ่งให้พ่อกับหลานชายอยู่  เขาได้สัญญากับตนเองไว้ว่าถ้าเขาไม่สามารถปกป้องอันคาเดวิลสองชีวิตนี้ได้  เขาก็คงจะโกรธตนเองไปตลอดชีวิต  แต่ในตอนนี้ ณ เวลานี้สิ่งที่เขาได้เจอ จี-นัม  คำพูดของ จี-นัม  ที่ว่าหลานของเขามีบางสิ่งที่พวกมันต้องการ  พวกมันอาจจะจับตัวเคิร์ทไปแล้วก็ได้  ความไม่สบายใจทำให้เขาอยากพบหลานของเขาเร็วๆ  สิ่งที่เขาอยากเห็นที่สุดในตอนนี้คือหลานของเขาที่ยังปรอดภัยดี 
                               เอ็กช์โก้ขี่ม้ามังกรมาเรื่อยๆจนเห็บบ้านของเขาอยู่ริบๆ  นี่นไงไกล้ถึงแล้ว  อีกเพียงไม่นานเขาก็จะได้รู้ในสิ่งที่เขาอยากรู้  บ้านหลังนั้นไกล้เข้ามาเรื่อยๆ  เอ็กช์โก้ก็เขาไกล้มันไปเรื่อยๆ  จนในที่สุดก็ถึงบ้านของเขา  เอ็กช์โก้ลงจากหลังของม้ามังกรแล้วผูกมันไว้กับต้นไม้ต้นหนึ่งมันเป็นต้นไม้ที่แห้งจนไม่มีใบแล้ว  เอ็กช์โก้ไม่รีรอรีบเดินเข้าบ้านไปด้วยอาการรีบเร่ง  บรยากาศภายในบ้านค่อนข้างจะเงียบมาก  บ้านที่สร้างจากดินเรียกว่าบ้านดินมันทำให้ภายในบ้านมีอากาศที่เย็นพอเหมาะ  ภายนอกดูเรียบง่าย ตัวบ้านที่เป็นดิน กับหลังคาบ้านที่เป็นดินเช่นกัน  ภายในบ้านปูพื้นด้วไม้สีน้ำตาลเข้ม  ปูทับด้วหรมนุ่มๆสีขาว  บ้านหลังนี้มีห้องทั้งหมดแปดห้อง  ผ่านประตูทางเข้าที่ทำจากไม้มา  เป็นห้องที่ดูเมือนจะใช้สำหรับอ่านหนังสือชะมากกว่าทำอย่างอื่น  รอบห้องเต็มไปด้วยชั้นหนังสือเลียงรายมากมาย  และมีประตูอยู่ทางด้านกำแพงซ้ายและขวาด้านละสามบาน  กลางห้องวางโต๊ะใหญ่ไวหนึ่งตัว  รอบโต๊ะก็มีเก้าอี้ไม้ที่ที่หุ้มด้วยเบาะนุ่มดูคล้ายโซฟา  สามห้องทางด้านซ้ายเป็นห้องนอนของ  เอ็กช์โก้  โคมาสพ่อเขา และ เคิร์ท  ส่วนอีสามห้องทางขวา คือห้องครัว ห้องนั่งเล่น  และ ห้องน้ำ
                         "ท่านพ่อ เคิร์ท เขาเป็นอะไรรึเปล่า เขายังอยู่มั้ย"
    เอ็กช์โก้พูดเสียงดังถามพ่อของเขาที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างใจเย็น 
                        "เกิดอะไรขึ้งหรือเฮ้กช์โก้...เคิร์ทเขากำลังนอนหลับอยู่ในห้อง"
    เอ็กช์โก้ได้ยินเช่นนั้น เขาก็โล่งใจขึ้นมาทันที่ 
                        "ขออภัยครับท่านพ่อที่ทำให้ท่าน..."
                 "เอาล่ะ...ช่างเถอะ  เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ข้าฟังทีซิ  ว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
    เอ็กช์โก้เดินไปนั้งที่เก้าอี้ด้านตรงข้ามกับโคมาส 
                       "หน้าเจ้าดูซีดๆ  น่าจะพักซะก่อนแล้วค่อยมานะ ก่อนที่จะห่วงใครทำไมเจ้าไม่คิดห่วงตนเองบ้างล่ะ  ลูกข้า"
                       "เรื่องนี้มันยากที่จะพูดท่านพ่อ  ข้าไม่อยากสูรเสียใครไปอีกแล้ว"
                       "โอเค...ในเมื่อตัวเจ้าต้องการเช่นนั้นข้าก็คงไม่อยากขัดใจเจ้า"
                       "ท่านพ่อ  ข้าได้เจอกับผู้ถือดาบเหลืองแล้ว"
                       "เจ้าต่อสู้กับพวกนั้นด้วยหรือ"
    โคมาสพูดด้วยอาการตกใจเล็กน้อยก่อนจะวางหนังสือเล่มสีฟ้า  ไว้บนโต๊ะแล้วถอดแว่นสายตาออกแล้ววางใว้บนหนังสือ
                       "เอ่อ...ข้าใช้หอกแห่งแสงกับมัน"
                       "งั้นหรือ...พวกมันบอกนามหรือเปล่า"
                       "คนที่ข้าสู้ด้วยชื่อ จี-นัม มันได้เอ่ยถึงอีกกลุ่มนึงที่ชื่อว่า เอส-คาล กำลังจะมาจับตัวเคิร์ทเพราะมี เซริสเต้ ในร่างกาย"
                       "เซริสเต้  ไม่จริงหน่า...ถ้าข้าจำไม่ผิดเอ็กคาริบาสได้ทำลายมันทิ้งไปแล้วไม่ใช่หรือ  ข้าไม่อยากจะเชื่อจดหมายของเอ็กคาริบาสไม่มีวันโกหก  แล้วเจ้ารอดกลับมาได้พวกมันมันต้องการเล่นเกมส์บางอย่างกับเรา"
                       "ที่ข้ารอดมาได้...นั่นเป็นเพราะ อี-นัม หัวหน้าของมันเรียกตัวมันกลับไป  ไม่อย่างนั้นข้าก็คงไม่ได้มีโอกาสได้มานั่งคุยกับท่านพ่อแบบนี้หลอก"
                       "นั่น ก็นับว่าเจ้าโชคมีมากๆแล้วลูกข้า...แต่ข้าคงจะเดาแผนของพวกมันออกบ้างแล้ว"
                       "ยังไงครับท่านพ่อ"
                       "ในเมื่อมันยอมปล่อยเจ้าได้มันก็หลอกใช้เจ้าได้  เจ้ารู้สึกอึดอัดตรงไหนหรือเปล่า"
    คำถามนั้นทำให้เอ็กช์โก้คิดและสังเกตอาการของตน
                       "ใช่ท่านพ่อ...ข้ารู้สึกอึดอัดบริเวณหน้าอก"
                       "เอาล่ะ...ยืนขึ้น"
    เอ็กช์โก้ลุกขึ้นยืนตามที่ผู้เป็นพ่อบอก โคมาสเองก็ยืนขึ้เช่นกัน
                       "ยืนให้มั่นคง...แล้วอยู่เฉยๆ"
                       " ครับท่านพ่อ"
    โคมาสหันตัวไปด้านข้าง แล้วย่อตัวลง  ยื่นมือข้างหนึ่งไปทางเอ็กช์โก้ในระดับอก  แสงพลังงานที่แรงกล้าปรากฏตัวขึ้นที่มือย่นๆของโคมาส  เอ็กช์โก้รับรู้ได้ถึงพลังอันมหาศาลของพ่อของเขา  โคมาสอัดพลังนั่นใส่เอ็กช์โก้อย่างแรง  พลังนั่นเป็นพลังที่ใช้การกระแทกในการจู่โจม  เอ็กช์โก้ที่โดนพลังนี้เขาไปเต็มๆ  ทำให้เขาสำลักเลือดออกมาจากปากพร้อมกับบางสิ่งทรงกลมสีเหลือพุ่งออกมาด้วย  รูปร่างหน้าตามันคล้ายกับลูกแก้ว  ลูกเลยมากกว่า  มันกระเด็นไปทางโคมาสที่รับมันได้อย่างเหมาะเจาะ  แต่เอ็กช์โก้ที่กำลังเจ็บปวดล้มล้งคุกเข่าที่พื้น มือกุมอยู่ที่คอ
                    แค่ก!  แค่ก!  แค่ก!   แอ๊คหึแอ็ค!    โขรก!  โขรก!  โขรก!
                        "เป็นอย่างไรบ้าง...ไหวหรือเปล่าเอ็กช์โก้"
                        "ข้าคิดว่าข้าดีขึ้นแล้วท่านพ่อ"
    เอ็กช์โก้พูดพร้อมยืนขึ้นช้าๆแล้วชี้นิ้วไปที่ลูกแก้วสีเหลืองในมือโคมาส
                        "มะ...มันคืออะไรครับท่านพ่อ"
                        "นี่ คือฝุ่นผงแห่งสีเหลือง"
    โคมาสบอกแล้วโยนมันให้เอ็กช์โก้ถือ  แล้วเขาก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้ตามเดิม
                        " มันเป็นฝุ่นผงในลูกแก้วกลวง  ถ้ามันแตกออกในตัวเจ้า  มันจะทำให้เจ้าโดนความชั่วร้ายครอบครองจิตใจจนกลายเป็นพวกมันในที่สุด"
                        "ที่มันทำแบบนี้เพราะว่ามันต้องการตัวข้าด้วยงั้นหรือ"
                        "ถูกต้อง...เมื่อพวกมันควบคุมเจ้าได้  เจ้าก็จะจับตัวเคิร์ทไปให้พวกมัน  แล้วที่มันบอกเจ้าว่า  อีกกลุ่มจะมาจับตัวเคิร์ท นั่นก็เป็นเพราะว่า..."
                        "ข้าจะได้รีบร้อนมาที่นี่...ข้าโดนพวกมันต้มวะสุกเลยนี่"
                        "แต่อย่างน้อยตอนนี้เจ้าก็ปลอดภัยแล้ว...แต่ก็ยังวางใจอะไรไม่ได้พวกนั่นคงไม่เลิกลาอไรง่ายๆแน่"
                        ไม่ทันขาดคำก็มีบางสิ่งเกิดขึ้นข้างนอก  อัลคาเดวิลบุรุษสามตนที่แต่งตัวแปลกประหลายคล้ายจี-นัม 
                        "นั่นอาจจะเป็นกลุ่ม เอส-คาล ที่จี-นัมพูดถึงท่านพ่อ"
                        "มันคงไม่จนง่ายๆแค่เจรจากันแน่  ในห้องนั่งเล่นมีดาบของพี่ชายเจ้าอยู่ไปนำมันมาใช้สิ"
                %3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×