คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : หมู่บ้านโครันด็อค
เพนทีสที่หนีออกจากปราสาทซรานเดรียได้เพียงเก้าชั่วโมง แต่มันก็พอที่คนของทางปราสาทจะหาตัวได้ลำบาก ตอนนี้เขาหลบอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีชื่อว่า โครันด็อค เป็นหมู่บ้านเล็กๆในป่าที่ชุ่มชื่น ป่าที่อยู่กลางทะเลทรายไม่น่าจะชุ่มชื่นได้ แต่ด้วยความรู้เกี่ยวกับพันธุ์ไม้ในป่า ทำให้พวกเขาสามารถผสมพันธุกรรมของพันธุ์ไม้บางชนิดกับพันธุกรรมของพันธุ์ไม้อีกชนิด ทำให้พวกเขาได้พันธุ์ไม้แปลกประหลาดมาหนึ่งพันธุ์ นั่นคือต้น ชารันกาบี้ เป็นพืชจำพวกยืนต้น มีลำต้นที่แข็งแรงและทนทาน มีใบที่หนาใหญ่และแข็งทำหน้าที่ในการบังรังสีแห่งความร้อนไม่ให้แผดเผาป่าแห่งนี้ พวกเขาปลูกต้นชารันกาบี้ไว้รอบๆป่า ในเมื่อมีป่าก็ต้องมีน้ำตามมา ชาวบ้านที่จึงมีน้ำใช้ตลอดปี อาหารก็เช่นกันชาวบ้านที่นี่ทำสวนผักแปลงผักและเลี้ยงสัตว์ต่างๆมากมายไว้เป็นอาหาร หมู่บ้านแห่งนี้จึงเป็นหมู่บ้านที่สมบูรณ์แบบหมู่บ้านหนึ่ง
ตอนแรกที่เพนทีสมาที่นี่เขาก็คิดว่าคนในหมู่บ้านจะไม่ต้อนรับเขาในฐานะอัลคาเดวิลธรรมดา เพราะเพนทีสยังไม่อยากกลับไปที่ปราสาทในตอนนี้ เหตุนั้นก็เพราะเขามีแผนการบางอย่างที่จะช่วยโลกนี้ได้ ตัวเขาเองก็ศึกษามาเยอะแต่เขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าแผนการของเขาจะได้ผลหรือไม่ ดูจากตอนที่เขาหนีออกจากมืองซรานเดรียก็พอ เพนทีสอดคิดไม่ได้ที่จะกังวลใจในบางเรื่อง เพราะเขายังไม่เคยได้รับรู้เลยว่าพลังของสีเหลืองนั้นน่ากลัวและร้ายแรงเพียงได ตอนอยู่ที่ปราสาทเพนทีสเคยเสนอแผนการนี้ให้พ่อของเขาใช้ แต่พ่อของเขาไม่ยอมรับเพราะในแผนการนั้น เพนทีสยืนยันคำขาดว่าจะอยู่ในสนามรบด้วย เรื่องของเรื่องตัวเขาเองนั้นต้องการที่จะรบสักครั้ง เขาเบื่อกับการที่ต้องขลุกอยู่แต่กับหนังสือ แต่เขาก็เข้าใจต่อความเป็นห่วงของท่านพ่อที่มีต่อลูกชายเพียงคนเดียว ป่านนี้พ่อของเขาคงเป็นห่วงเขามากเป็นแน่ แต่ความเป็นห่วงของพ่อนั้นมันทำให้เขาอึดอัดที่ไม่ได้รู้อะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับโลกภายนอก ความคิดที่อยากช่วยโลกของเขาจากจดหมายของเอ็กคาริบาสที่กระจัดกระจายไปทั่วโลก ฉับบที่อยู่กับเขาเป็นที่แน่ๆว่า มันสื่อความหมายให้รวมรวมชนเผ่าอัลคาเดวิลทั้งหมดให้รวมตัวกัน เพื่อขับไล่พลังสีเหลืองให้หมดสิ้นไปจากดาวดวงนี้ แต่เขาจะมามัวนั่งคิดมากไปให้เปลืองสมองทำไม ในเมื่อคิดไปสิ่งที่ทำลงไปแล้วก็ไม่กลับคืนมา เผื่อเวลาไปร่าเริงจะไม่เป็นความคิดที่ดีกว่าหรือ
เพนทีสที่นั่งกุมขมับอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง บ้านหลังนี้สร้างจากไม้สน ในตอนที่สร้างแรกๆก็ยังดูใหม่ แต่สภาพในตอนนี้ดูเก่ากว่าเดิม อ่าว...มันก็แน่นอนอยู่แล้วอ่ะดิ ภายในบ้านดูโล่งกว้างขวางและสะอาดสะอ้านราวกับเช็ดถูทุกวัน เพนทีสหยุดคิดมากได้ไม่นานเขาก็เอามือลงวางบนโต๊ะ แอ๊ด~ เสียงประตูดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของนางมาร ไม่หนิ...อัลคาเดวิลสาวสวยต่างหาก เธอเดินเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำใบโตที่ใส่น้ำมาเต็มแก็ว เธอน้ำมันมาวางที่โต๊ะให้เพนทีส
“ดื่มน้ำให้ชื่นใจก่อนสิจ๊ะ”
พอเธอพูดประโยคนั้นจบ จู่ๆใบหน้าสีส้มอ่อนของ เพนทีส ก็แดงแจ๋ซะอย่างนั้น เขาก็เลยหลบหน้าเธอแทบจะทันที
“เป็นอะไรไปเหรอ” เธอถาม
“เอ่อ...ฮะ ฮะ ปะ...เปล่าๆไม่มีอะไรหรอก ไม่มี”
เพนทิสบอกก่อนที่จะใช้มือทั้งสองหยิบแก้วน้ำมาดื่มทีเดียวหมดแก้ว
“เขินเหรอ...ไม่เห็นต้องเขินเลย เธอนี่ตลกดีนะชื่ออะไรล่ะ”
“ผมชื่อ เพะ...เพ...เพ...เพทีโน่ โอครีนครับ คุณล่ะชื่ออะไร”
เพนทีสบอกชื่อปลอมที่คิดได้ทันควันให้เธอรู้ ปากก็พูดไปหน้าก็แดงไป จะเขินอะไรนักหนานะ
“ชั้นชื่อ...แอนฟ่า ริคคาเช่ ยินดีที่ได้รู้จัก ชั้นต้องขอตัวแล้ว เธอพักที่นี่ได้เลยนะที่บ้านนี้ไม่ได้มีใครอยู่หรอกสบายใจได้”
แอ๊ด ~ ปัง
แอนฟ่าเธอออกไปแล้ว แต่แก้มของ เพนทีส หรือ เพทีโน่ หว่า เอาเป็นว่า แต่แก้มของเพทีโน่ก็ยังแดงอยู่เลย
“เอ๋...เมื่อคืนเรายังไม่ได้นอนเลยนี่หน่า”
เพทีโน่พึ่งคิดขึ้นได้ว่าเมื่อคืนนี้เขายังไม่ได้นอนตลอดเก้าชั่วโมงที่ผ่านมา เขาเดินไปที่เตียงที่อยู่ไม่จากโต๊ะมากเท่าไหร่ เพทีโน่ถอดกระเป๋าสภายออกแล้ววางมันไว้ที่พื้น พร้อมถอดรองเท้าตามไป เขาหย่อนก้นลงนั่งบนเตียงแล้วเอนตัวลงนอนทันที ด้วยความง่วงของเขาทำให้เขาหลับปุ๋ยไปอย่างง่ายดาย
ความคิดเห็น