ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สัตว์โลกล้านปี

    ลำดับตอนที่ #6 : นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ตั้งข้อสันนิษฐานถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการตายหมู่ครั้งใหญ่

    • อัปเดตล่าสุด 27 มิ.ย. 49


                                  นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ตั้งข้อสันนิษฐานถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการตายหมู่ครั้งใหญ่ไว้อย่างมากมาย ตั้งแต่ การระเบิดของภูเขาไฟครั้งร้ายแรง การระเบิดซุปเปอร์โนวา สภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงจากการเกิดทวีปใหญ่ หรือกระทั่งการชนของอุกกาบาตขนาดยักษ์ใหญ่ และอาจเป็นไปได้ว่าจะเกิดจากสาเหตุหลายอย่างรวมกัน แต่การพิสูจน์ทฤษฏีต่างๆเหล่านี้ว่าจะถูกต้องหรือไม่ มันเป็นการยาก Luann Becker นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ซานตา บาร์บารา ได้กล่าวว่า หินในยุคนั้นมีเหลือเพียงแค่เล็กน้อยและยังเก็บหลักฐานจากการสูญพันธุ์ในช่วงนั้นไว้ได้ไม่ดี นอกจากนี้แล้วหินเหล่านี้ก็ยังถูกรีไซเคิลโดยกระบวนการเทคโทนิคของเปลือกโลก เบคเคอร์เป็นผู้นำกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ทุนจากนาซ่า ไปศึกษาชั้นหินที่ยังคงหลงเหลืออยู่ใน ฮังการี ญี่ปุ่นและจีน และก็ได้พบสัญญาณของการชนกันระหว่างโลกกับดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดประมาณ 6-12 กิโลเมตร หรือพูดอีกอย่างว่า ใหญ่กว่ายอดเอเวอร์เรสต์ ช่วงเริ่มแรกของการชนจะกวาดล้างพื้นที่ขนาดใหญ่บนโลกนี้ และฆ่าทุกสิ่งที่ขวางหน้า ฝุ่นจากการชนหลายล้านตัน ยังฟุ้งในอากาศบดบังแสงจากดวงอาทิตย์ ทำลายกระบวนการสังเคราะห์แสง(photosynthesis) ที่ขับเคลื่อนระบบนิเวศทั้งหมดทั้งปวง ความร้อนจะปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และซัลเฟอร์ไดออกไซด์จากการระเหยของหิน เผาไหม้ป่าไม้บนโลก และจะยิ่งปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้น และชักนำให้เกิดสภาวะโลกอุ่นขึ้นและเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกในระยะยาว และเมื่อฝุ่นตกกลับลงมาสู่พื้นโลก สารพิษก็จะทำลายสิ่งมีชีวิตที่เหลืออยู่

    ตั้งแต่ การระเบิดของภูเขาไฟครั้งร้ายแรง การระเบิดซุปเปอร์โนวา สภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงจากการเกิดทวีปใหญ่ หรือกระทั่งการชนของอุกกาบาตขนาดยักษ์ใหญ่ และอาจเป็นไปได้ว่าจะเกิดจากสาเหตุหลายอย่างรวมกัน แต่การพิสูจน์ทฤษฏีต่างๆเหล่านี้ว่าจะถูกต้องหรือไม่ มันเป็นการยาก Luann Becker นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ซานตา บาร์บารา ได้กล่าวว่า หินในยุคนั้นมีเหลือเพียงแค่เล็กน้อยและยังเก็บหลักฐานจากการสูญพันธุ์ในช่วงนั้นไว้ได้ไม่ดี นอกจากนี้แล้วหินเหล่านี้ก็ยังถูกรีไซเคิลโดยกระบวนการเทคโทนิคของเปลือกโลก เบคเคอร์เป็นผู้นำกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ทุนจากนาซ่า ไปศึกษาชั้นหินที่ยังคงหลงเหลืออยู่ใน ฮังการี ญี่ปุ่นและจีน และก็ได้พบสัญญาณของการชนกันระหว่างโลกกับดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดประมาณ 6-12 กิโลเมตร หรือพูดอีกอย่างว่า ใหญ่กว่ายอดเอเวอร์เรสต์ ช่วงเริ่มแรกของการชนจะกวาดล้างพื้นที่ขนาดใหญ่บนโลกนี้ และฆ่าทุกสิ่งที่ขวางหน้า ฝุ่นจากการชนหลายล้านตัน ยังฟุ้งในอากาศบดบังแสงจากดวงอาทิตย์ ทำลายกระบวนการสังเคราะห์แสง(photosynthesis) ที่ขับเคลื่อนระบบนิเวศทั้งหมดทั้งปวง ความร้อนจะปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และซัลเฟอร์ไดออกไซด์จากการระเหยของหิน เผาไหม้ป่าไม้บนโลก และจะยิ่งปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้น และชักนำให้เกิดสภาวะโลกอุ่นขึ้นและเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกในระยะยาว และเมื่อฝุ่นตกกลับลงมาสู่พื้นโลก สารพิษก็จะทำลายสิ่งมีชีวิตที่เหลืออยู่
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×