ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดาบเหลืองในตำนาน อัลคาเดวิล

    ลำดับตอนที่ #5 : จี-นัม ชายลึกลับกับดาบเหลือง

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ค. 49


                                                     

                                                      

                                                   

                                                       ป้อมมังกร8

                          ในช่วงเวลานี้กำลังเป็นช่วงเวลาของสงครามที่ดูยุ่งเหยิง    พลธนูบนป้อมคอยสาดฝนธนูเหล็กใส่ข้าศึกอย่างต่อเนื่อง  แต่ข้าศึกดูเหมือนจะไม่ค่อยเป็นอะไรสักเท่าไหร่  เพราะพวกมันมีออร่าสีเหลืองอ่อนเคลือบร่างกายอยู่  ออร่าเหล่านี้ช่วยทำให้ลูกธนูเบี่ยงเบนไปทางอื่นทำให้โดนพวกมันได้ยาก  แต่อย่างน้อยก็ยังโดนพวกมันบ้าง  อย่างไรก็ตามพลธนูก็เป็นเพียงแค่กองหนุน  ยังมีนักรบอีกมากออกไปเป็นกองหน้าสู้รบกันอย่างเอาเป็นเอาตาย  พวกมันนั้นส่วนใหญ่เป็นสัตว์ประหลาดธรรมดา  ยังไม่มีวี่แววของอะไรที่มากกว่านั้น  ในช่วงนี้เอ็กช์โก้ก็คอยสู้รบเเละสั้งการกองหน้าอยู่  เขาใช้ดาบผลึกสีขาวกวัดแกว่งฟาดฟันใส่สัตว์ประหลาดยักษ์จนขาดเป็นสองซีก ก่อนที่จะกระโดดหลบบางสิ่งที่เป็นเมือกเขียวๆที่สาดมาเป็นทาง  มันเป็นน้ำลายกรดของ   เดรอน ตัวหนอนยักษ์มันผุดมาจากใต้ดิน  ด้านหลังเอ็กช์โก้ เขากระโดดออกมามากพอสมควร  จากนั้นเจ้าเรดอนตัวที่ว่าก็สาดเมือกเหนียวๆเชียวๆเหม็นๆออกมาอีกหลายชุด  เสียงเหยาะเหยะของมันชวนขนลุกเป็นที่สุด  เจ้าเรดอนนั้นเป็นสัตว์ปีศาจที่เคลื่อนตัวได้ช้า  นั่นเพราะตัวที่ใหญ่มีน้ำหนักมากนั่นเอง  สิ่งที่มันทำได้อย่างเดียวคือ  สาดน้ำลายไง  สาดเร็วชะด้วย  เอ็กช์โก้เริ่มกระโดยหลบมากขึ้น เมือกเหม็นของมันแผ่กระจายไปทั้วทั้งพื้น  บริเวณพื้นที่โดนน้ำลายกรดของมันเริ่มค่อยๆเดือดปุดๆป๋อมๆขึ้นมาคล้ายฟองสบู่ แล้วมีควันลุกโชนขึ้น  การมองเห็นของเอ็กช์โก้เริ่มลำบาก  เขาจึงกระโดดถอยหลังออกมาก่อนประมาณสามเมตรเห็นจะได้  เขามองไปรอบๆ เพื่อดูกองหน้าของเขาว่าเหลือเท่าไหน  แต่ตอนเขาต้องกำจัดเรดอนชะก่อน  เอ็กช์โก้ตั้งท่าดาบให้มันคงมากขึ้น  เขาสังเกตุเห็นบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเจ้าเรดอน  ตัวของมันขยายใหญ่ขึ้น ร่างสีเขียวเข้มก็เปลื่ยนกลายเป็นสีซีดๆจางๆ  ก่อนที่มันจะพ่นนำลายกรดชุดใหญ่ใส่เอ็กช์โก้  น้ำลายชุดนี้ที่มันพ่นเป็นสีแดงสว่างเหมือนกับลาวาภูเขาไฟที่พร้อมประทุได้ทุกเมื่อ  น้ำลายเข้าใกล้เอ็กช์โก้ทุกขณะ  เอ็กช์โก้กระโดม้วนตัวขึ้นสูงประมาณเมตรกว่า  น้ำลายลาวาก็พรืดเผละทั่วพื้นที่เอ็กช์โก้เคยยืนอยู่  เอ็กช์โก้ใช้ดาบที่เพิ่มกำลังจากแรงเหวี่ยงที่เขากระโดดม้วนตัวเมื่อครู่ฟาดลงไปที่พื้นที่เต็มไปด้วยน้ำลายลาวาอย่างแรง   ตูม !  แรงดาบที่กระแทกทำไห้ส่งตัวเอ็กช์โก้ขึ้นไปด้านบนสูงถึงห้าเมตร  ในขณะที่แรงกระแทกดาบอีกส่วนหนึ่งที่พื้นก็กลายเป็นแสงสีขาวจ้า  แล้วพุ่งทะยานผ่าน้ำลายลาวาที่เดือดระบมจนกระจัดกระจายออกไปทางด้านซ้ายและขวา  แสงนั่นพุ่งเข้าหาเรดอนแล้วเข้าปากมันไปแทบจะทันที 

           โอ่   อา   โอ้ววววววว   โอ้วววววว   โอ้ววววว   โอ้วววว   โอ้ววว

    เสียงร้องอันกังวานของมันฟังดูทรมานไม่น้อย  แต่มันยังไม่ตาย เอ็กช์โก้ไม่รอช้า  เขาเองลอยอยู่กลางอากาศ  เอ็กช์โก้ใช้เท้าถีบอากาศด้านหลังดัง  ฝุ่ม  ตัวของเอ็กช์โก้ทะยานไปข้างหน้า เขาใช้มือหมุดควงดาบเหนือศรีษะ  แล้วร่วงตัวลงไปแบบเอาท่องบนของร่างกายลง  ดิ่งพื้นโดยยื่นดาบที่หมุดอยู่ไปด้านหน้า  เมื่อดิ่งลงไปเสร็จสรรพ                   

           โฮ้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

    ตัวของเจ้าเรดอนกฉีกขาดกระจุยกระจายแผ่ออกไปเป็นวงกว้าง  น้ำเมือกที่ตัวก็ไหลทะลักไปทั่วพื้นที่บริเวณที่เอ็กช์โก้ยืนอยู่  ฉ่า!  รองเท้าของเอ็กช์โก้ที่เหยียบเมือกกรดเริ่มละลายลง  เอ้กช์โก้จึงรีบวิ่งออกจากบริเวณนั้นทันที

                             พอเอ็กช์โก้ออกมาจากกลุ่มควันของน้ำลายกรดที่ทำให้มองไม่เห็นมาได้

    จากเท่าที่เอ็กช์โก้เห็นกองทหารของเขาดูจะได้เปรียบมากกว่าจำนวนของข้าศึกเริ่มน้อยลงทุกที  การรบดำเนินไปอีกเพียงชั่วครู่ปรากฏว่า อยู่ๆพวกข้าศึกก็หายตัวไปหมด รวมถึงศพของพวกมัน  มันสร้างความแปลกใจให้เอ็กช์โก้เป็นอย่างมาก

                          

                           "ทุกคน!  ข้าคิดว่านี่อาจจะเป็นกับดักของพวกมัน  รีบกลับเข้าป้อมไปซะ"

                      เร็วเข้า!

                             เอ็กช์เริ่มได้รับรู้ถึงสิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะได้เผชิญหน้า  ไม่นานนักบางอย่างก็เริ่มเริ่มขึ้น สายลมอุ่นๆพัดแรงมาเป็นละรอกๆอย่างไม่ขาดสาย แสงสีส้มอมเหลืองจ้าลงมาจากฟ้า แสงนั่นสวยงามดุจทองคำ

                              การรับรู้ถึงพลังชั่วร้ายของเอ็กช์โก้มากขึ้นเรื่อยๆ  จนเกือบจะทนไม่ไหว  มันทำให้รู้สึกกังวลอะไรบางอย่าง  เอ็กช์โก้รู้สึกหายใจติดขัดอย่างบอกไม่ถูก  มันอาจเป็นความกลัว  เอ็กช์โก้กลัว  เขาพยายามฝืนกลับความรู้สีกนั้น  แต่ไม่เป็นผล

                              "เอ็กช์โก้"  เกิดเสียงกระซิบแผ่วเบาขึ้นในหัวของเอ็กช์โก้  มันเป็นน้ำเสียงที่ทำให้รู้สึกกระวนกระวายใจ 

                              "อยะ...อย่าเรียกข้านะ ไปให้พ้น"

                              "หลับตาสิ"

    เสียงนั่นบอกให้เอ็กช์โก้หลับตาลง   เอ็กช์โก้ไม่คิดเอะใจอะไรมากมากมาย   แล้วค่อยๆหรี่หนังตาลงจนปิดทับตาไป

                              "ช้าๆ...อย่างนั้น"

                              "เอาล่ะ...ทีนี้ลืมตาขึ้นมาได้แล้ว"

    พอเอ็กช์โก้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง  ปรากฏว่ารอบข้างกายของเอ็กช์โก้  ได้เปลี่ยนไปแล้ว  เอ็กช์โก้ได้ถูกดึงตัวเข้ามาอยู่ในอีกมิติหนึ่ง  เรียกได้ว่าเป็นมิติลึกลับ  รอบด้านเป็นแสงจ้า  สีขาวส้มอมเหลือง  กำลังแสงมีมากมาย  แต่ก็ไม่ถึงกับทำไห้เอ็กช์โก้แสบตา 

                              ฟี้ววววววววววว~~   ฟิ้ววววววววววววว~~

    สายลมแรงอุ่นๆพัดผ่านร่างเอ็กช์โก้  ไปสองสามลูก   มีบางสิ่งเกิดขึ้นที่พื้นมิติห่างจากเอ็กช์โก้สองเมตรกว่า  อัลคาเดวิลลึกลับกำลังค่อยๆลอยผุดผ่านพื้นมิติขึ้นมาอย่างช้าๆอย่างสง่างาม   เขาผู้นั้นปรากฏตัวมากับผ้าครุมสีดำค่อนไปทางสีส้มที่ปลิวไสวไปมาราวปีกนก  เมื่อเขาผู้นั้นลืมตาขึ้นมา  ตา   คู่นั้นเป็นตาที่ส่องแสงสีส้มอ่อนออกมาอยู่ตลอดเวลา

                              "ฮึ ฮึ ฮึ...หวัดดีเอ็กช์โก้" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูลึกลับ  ยามที่เขาพูดก็จะมีแสงเช่นเดียวกับตาของเขา  เอ็กช์โก้รู้สึกแปลกใจที่เขาผู้นั้นรู้จักชื่อเขา  รู้ได้อย่างไร  แต่ทุกอย่างที่สงใส 

                              "เจ้าเป็นใครกันแน่...เจ้าต้องการอะไรจากข้า"

                              "โอะโอ๋...เอ็กช์โก้  นี่จำข้าไม่ได้หรือ  ไม่ได้เจอซะนานนะ"

    เขาผู้นั้นเดินไปรอบเอ็กช์โก้ที่ยืนงงอย่างช้าๆ

                              "ไม่...เท่าที่รู้ข้าไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน  ข้าอยากรู้ว่าที่นี่ที่ไหน  เจ้าเป็นใครต้องการอะไรกัน แน่!"

                              เอ็กช์โก้เริ่มโมโหที่จิตใจของตนกำลังถูกความชั่วของสีเหลืองรอบกายคุกคามเข้ามา  เอ็กช์โก้กลัวพลังอันมหาศาล

                              "ที่นี่น่ะนะ...มันปลอดภัย"

    เขาผู้นั้นพูดพลางชูมือขึ้นด้านบนแล้วฟาดมันลงมาที่ข้างเอวอย่างรวดเร็ว  ชั่วครู่ก็ได้มีชุดโต๊ะเก้าอี้ร่วงลงมาหนึ่งชุด  เก้าอี้ไม้สองตัวกับโต๊ะที่มีน้ำส้มวางเสิร์ฟอยู่สองแก้ว  เขาผู้นั้นนั้งลงที่เก้าอี้ตัวที่อยู่ไกล้  เขานั้งลงไปด้วยท่าทางสบายๆ  ต่างจากเอ็กช์โก้ที่ทำหน้าเครียดเกือบจะตลอด

                             "ใจเย็นๆ...แล้วนั้งคุยกันสักพังนึงไม่ได้หรือใงกัน   ข้าชื่อ จี-นัม  รู้ใว้ชะ"

                             "ข้าไม่สนว่าเจ้าจะชื่ออะไร  สิ่งเดียวที่ข้ารู้ในตอนนี้คือเจ้าคือศตรู"

                             "เดี๋ยวซี่...เดี๋ยวๆ  ข้าน่ะเดินทางมาไกลจะไม่ต้อนรับหน่อยรึอย่างไร"

                             "ข้าไม่รู้จักเจ้า  จี-นัม!"

                             "เจ้าไม่รู้ข้า  แต่  ข้ารู้จักเจ้า  รู้มั้ยว่าการเดินทางของสีเหลืองมันช่างยากเย็นชะเหลือเกิน   แล้วดูตอนนี้สิ!"

                             จี-นัมกระแทกเสียงขึ้นบ้าง  เอ็กช์โก้เลยตกใจล้มลงไปนั้งกับพื้นมิติ

    จี-นัมลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้ตัวนั้นแล้วเดินมาหาเอ็กช์โก้  เอ็กช์โก้เองก็คงจะประสาทเสียเพราะความกลัวไปแล้ว  เอ็กช์โก้เริ่มหน้ามืด  เพราะพลังจิตที่จี-นัมส่งมาก่อกวนจิตใจเขา  นั้นเป็นเพียงการทดสอบบางอย่างในตัวเอ็กช์โก้  ซึ่งยากที่จะเดาได้  จี-นัม  เริ่มลดพลังจิตอันชั่วร้ายลงไปแล้วก้าวท้ายเข้าหาเอ็กช์โก้  ก้มตัวเล็กน้อยแล้วยื่นมือให้

                             "ลุก...ขึ้นมาสิ"

    จี-นัม  บอกด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร 

                             "ไม่ต้อง...ข้าลุกขึ้นเองได้  ในเมื่อไม่มีทางเลือกเจ้ากับข้าคงต้อง"

                              "เห  เฮ  เฮ้   น่าเสียดายนะ  ที่ข้ากับเจ้ามันยังคนละชั้นกัน  จะว่าไงดีล่ะ  แบบนี้ดีกว่าแล้วทุกอย่างจะง่ายขึ้นเยอะเลย  ร่างกายของเจ้าอันบอบบางจะช่วยอะไรโลกนี้ได้  แกมีหลานหนิ  ใช่มั้ย  ชิ่อเคอร์ท"

                              "จะทำอะไรเขา"

                              "ตอนนี้ยัง...บางทีมันอาจจะหนุกก็ได้นะ  การทรมานเด็กเนี่ย  ฮ่า  ฮ่า"

                              "นี่เจ้า...เจ้าคิดว่าข้าจะออกจากที่ไม่ได้งั้นหรือ"

                              "ใช่...ตอนนี้กลุ่ม  เอส-คาล  คงกำลังไปจับตัวหลานแกมา"

                              "ทำไมต้องการตัวหลานข้านัก"

                              "เด็กนั่นเป็นสิ่งที่เรา  สเตล-บาออซ  รอมานานที่สุด"

                           "สเตล-บาออซ  พวกเจ้าคือ  เซริสเต้ในตำนาน"

                           "ใช่...แกคงเคยอ่านจดหมายติงต๊องของ  เอ็กคาริบาส  มาบ้างสินะ  ถูกต้องแล้วหลานของเจ้าคือ  เซริสเต้  พลังชั่วร้ายกำลังได้รับความเป็นธรรมบ้างแล้ว  ข้าจะต้องแกแค้นเจ้าพวกสวะที่ทำให้พวกเราเจ็บ  แต่ก่อนอื่นอัลคาเดวิลน่าโง่จะต้องสิ้นซาก  เจ้าจะหาข้าได้ทุกเมื่อ  ยามใดที่เจ้ายังมีชีวิต"

                           จี-นัมพูดจบประโยค  แล้วใช่มือทั้งสองข้างตบเข้าหากันอย่างแรง  มันส่งเสียงเปรี๊ยดังไปไกล  มืติลึกลับก็เริ่มสั่นคลอน  มันค่อยๆจางลงไปย่างช้าๆ   เมื่อกลับมาที่เดิม  เอ็กช์โก้ก็ยังเห็น  จี-นัมอยู่   จี-นัมยืนลอยตัวกลางอาการในระดับความสูงหนึ่งไม้บรรทัด  มือหนึ่งเท้าเอว  อีกมือหนึ่งยื่นไปทางด้านข้างของลำตัว  ที่มือข้างนั้นถือดาบผลึกสีเหลืองอร่าม  เป็นดาบที่มีความยาวหนึ่งเมตร  ความกว้างยี่สิบสามเซนติเมตร  ความหนาห้าเซนติเมตร  ตัวดาบเคลือบด้วยแสงสีส้มไว้ตลอดเวลา  นั่นเป็นพลังจิตของจี-นัม  เขาชี้ดาบมาทางเอ็กช์โก้

                           "เจ้าจงดูนั่น"

                           "ดู" เอ็กช์โก้หันหน้ากลับหลังไปดู  พบว่าที่เดิมที่เขาอยู่ไม่มีเมืองเซฟานแล้ว  นั่นหมายความว่าเขายังอยู่ในมิติลึกลับหรือนี่

                           "ทุกคน!  ข้าคิดว่านี่อาจจะเป็นกับดักของพวกมัน  รีบกลับเข้าป้อมไปซะ"

                      เร็วเข้า!

                             เอ็กช์เริ่มได้รับรู้ถึงสิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะได้เผชิญหน้า  ไม่นานนักบางอย่างก็เริ่มเริ่มขึ้น สายลมอุ่นๆพัดแรงมาเป็นละรอกๆอย่างไม่ขาดสาย แสงสีส้มอมเหลืองจ้าลงมาจากฟ้า แสงนั่นสวยงามดุจทองคำ

                              การรับรู้ถึงพลังชั่วร้ายของเอ็กช์โก้มากขึ้นเรื่อยๆ  จนเกือบจะทนไม่ไหว  มันทำให้รู้สึกกังวลอะไรบางอย่าง  เอ็กช์โก้รู้สึกหายใจติดขัดอย่างบอกไม่ถูก  มันอาจเป็นความกลัว  เอ็กช์โก้กลัว  เขาพยายามฝืนกลับความรู้สีกนั้น  แต่ไม่เป็นผล

                              "เอ็กช์โก้"  เกิดเสียงกระซิบแผ่วเบาขึ้นในหัวของเอ็กช์โก้  มันเป็นน้ำเสียงที่ทำให้รู้สึกกระวนกระวายใจ 

                              "อยะ...อย่าเรียกข้านะ ไปให้พ้น"

                              "หลับตาสิ"

    เสียงนั่นบอกให้เอ็กช์โก้หลับตาลง   เอ็กช์โก้ไม่คิดเอะใจอะไรมากมากมาย   แล้วค่อยๆหรี่หนังตาลงจนปิดทับตาไป

                              "ช้าๆ...อย่างนั้น"

                              "เอาล่ะ...ทีนี้ลืมตาขึ้นมาได้แล้ว"

    พอเอ็กช์โก้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง  ปรากฏว่ารอบข้างกายของเอ็กช์โก้  ได้เปลี่ยนไปแล้ว  เอ็กช์โก้ได้ถูกดึงตัวเข้ามาอยู่ในอีกมิติหนึ่ง  เรียกได้ว่าเป็นมิติลึกลับ  รอบด้านเป็นแสงจ้า  สีขาวส้มอมเหลือง  กำลังแสงมีมากมาย  แต่ก็ไม่ถึงกับทำไห้เอ็กช์โก้แสบตา 

                              ฟี้ววววววววววว~~   ฟิ้ววววววววววววว~~

    สายลมแรงอุ่นๆพัดผ่านร่างเอ็กช์โก้  ไปสองสามลูก   มีบางสิ่งเกิดขึ้นที่พื้นมิติห่างจากเอ็กช์โก้สองเมตรกว่า  อัลคาเดวิลลึกลับกำลังค่อยๆลอยผุดผ่านพื้นมิติขึ้นมาอย่างช้าๆอย่างสง่างาม   เขาผู้นั้นปรากฏตัวมากับผ้าครุมสีดำค่อนไปทางสีส้มที่ปลิวไสวไปมาราวปีกนก  เมื่อเขาผู้นั้นลืมตาขึ้นมา  ตา   คู่นั้นเป็นตาที่ส่องแสงสีส้มอ่อนออกมาอยู่ตลอดเวลา

                              "ฮึ ฮึ ฮึ...หวัดดีเอ็กช์โก้" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูลึกลับ  ยามที่เขาพูดก็จะมีแสงเช่นเดียวกับตาของเขา  เอ็กช์โก้รู้สึกแปลกใจที่เขาผู้นั้นรู้จักชื่อเขา  รู้ได้อย่างไร  แต่ทุกอย่างที่สงใส 

                              "เจ้าเป็นใครกันแน่...เจ้าต้องการอะไรจากข้า"

                              "โอะโอ๋...เอ็กช์โก้  นี่จำข้าไม่ได้หรือ  ไม่ได้เจอซะนานนะ"

    เขาผู้นั้นเดินไปรอบเอ็กช์โก้ที่ยืนงงอย่างช้าๆ

                              "ไม่...เท่าที่รู้ข้าไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน  ข้าอยากรู้ว่าที่นี่ที่ไหน  เจ้าเป็นใครต้องการอะไรกัน แน่!"

                              เอ็กช์โก้เริ่มโมโหที่จิตใจของตนกำลังถูกความชั่วของสีเหลืองรอบกายคุกคามเข้ามา  เอ็กช์โก้กลัวพลังอันมหาศาล

                              "ที่นี่น่ะนะ...มันปลอดภัย"

    เขาผู้นั้นพูดพลางชูมือขึ้นด้านบนแล้วฟาดมันลงมาที่ข้างเอวอย่างรวดเร็ว  ชั่วครู่ก็ได้มีชุดโต๊ะเก้าอี้ร่วงลงมาหนึ่งชุด  เก้าอี้ไม้สองตัวกับโต๊ะที่มีน้ำส้มวางเสิร์ฟอยู่สองแก้ว  เขาผู้นั้นนั้งลงที่เก้าอี้ตัวที่อยู่ไกล้  เขานั้งลงไปด้วยท่าทางสบายๆ  ต่างจากเอ็กช์โก้ที่ทำหน้าเครียดเกือบจะตลอด

                             "ใจเย็นๆ...แล้วนั้งคุยกันสักพังนึงไม่ได้หรือใงกัน   ข้าชื่อ จี-นัม  รู้ใว้ชะ"

                             "ข้าไม่สนว่าเจ้าจะชื่ออะไร  สิ่งเดียวที่ข้ารู้ในตอนนี้คือเจ้าคือศตรู"

                      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×