คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
ท่ามกลางคืนเดือนมืดไร้แสงจันทร์สาดส่อง แว่วเสียงเพลงออเคสตร้าหวีดหวิวมาจากปราสาทหินยุคกลางขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนยอดเขารกร้าง มีเพียงกิ่งก้านสาขาของต้นไม้แห้งใกล้ตายสอดประสานทับถมกิ่งจนก่อให้เกิดเงารูปร่างชวนสั่นประสาท แสงไฟสลัวสาดส่องออกมาตามบานหน้าต่างของปราสาท แม้ว่าแสงไฟนั้นจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสิ่งมีชีวิต แต่สำหรับผู้คนในระแวกนั้นที่ทราบประวัติความเป็นมาของปราสาทหลังนี้แล้วไม่มีใครคิดที่จะเฉียดกรายเข้าไปใกล้แน่นอน
ปราสาทของเหล่าผู้ดำรงชีพยามราตรี...
“อ้าว...คืนนี้ก็มาร่วมงานด้วยเหรอคะ มาดามเฮเซล...” น้ำเสียงทอดหวานมาพร้อมกับร่างอรชรในชุดสีแดงเพลิงฉูดฉาดต่างจากบุคคลโดยรอบที่ส่วนใหญ่แต่งกายด้วยชุดสีเข้ม รอยยิ้มหวานเคลือบยาพิษสีไวน์แดงรับกับดวงตาสีเขียวมรกตคู่สวย เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนดัดลอนยาวถึงกลางหลังพริ้วไหวเป็นระลอกคลื่นยามเคลื่อนกายเข้ามาหาสตรีสูงวัยในชุดกระโปรงลูกไม้สีดำสนิท ดวงตาสีแดงเข้มมองไปตามเสียงที่ถูกเอ่ยเรียกก่อนขยับยิ้มตอบบางเบาตามมารยาท
“งานครั้งนี้เจ้ายังคงทำตัวเป็นที่น่าสนใจเหมือนเดิมนะโรเซ่”
“แหมๆ ถึงจะทำตัวเป็นที่น่าสนใจอย่างไร หัวข้อสนทนางานเลี้ยงยามค่ำนี้คงไม่พ้นหัวข้อเดิมหรอกค่ะ นี่ก็ผ่านมาเป็นร้อยปีแล้วนะ ไม่รู้จะสนใจอะไรกันนักหนา...” แล้วคำบ่นไม่สมวัยก็ออกมาเป็นระยะ เฮเซลหัวเราะกับท่าทางของหญิงสาวเล็กน้อย
“อืม...เวลานี่ก็ผ่านไปเร็วเหลือเกินนะ เป็นร้อยปีแล้วหรือนี่ที่เด็กคนนั้นไม่มาร่วมงานเลี้ยงยามค่ำนี้...คิดถึงจังเลยนะ โรเซ่...แล้วเจ้าล่ะคิดเห็นเช่นไร ?”
“เฮ่อ ! ก็แค่เด็กหนีออกจากบ้านไปสามร้อยปีแค่นั้นล่ะค่ะ สำหรับข้านี่มันเรื่องไร้สาระจริงๆ เจ้าตัวจะออกไปไหนหรือทำอะไรก็ไม่เห็นจะต้องเอาเรื่องมาพูดอยู่ได้เป็นร้อยๆ ปีเลย สงสัยคงเพราะมีชีวิตอยู่กันนานเกินไปไม่ก็ว่างจนไม่มีอะไรจะทำกันแล้วแน่ๆ” คำพูดคำจาแสดงอารมณ์ขุ่นมัวของหญิงสาวสร้างเสียงหัวเราะขบขันให้กับเฮเซลได้เป็นอย่างดี
“ท่าทางมีเรื่องคุยสนุกอะไรกันอยู่สินะ ขอข้าร่วมวงสนทนาด้วยได้หรือไม่แม่หญิงผู้งดงามทั้งสอง” บุรุษวัยกลางคนในชุดทักซิโด้สีดำภูมิฐานเอ่ยขึ้นก่อนค้อมศีรษะลงด้วยรอยยิ้ม โรเซ่ที่รู้ตัวว่าอายุน้อยกว่าก็ย่อกายแทนคำทักทายในขณะที่เฮเซลเพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น
“เรื่องเดิมๆ น่ะท่านดยุคคอนราร์ด” คำตอบที่ไม่ต้องขยายความต่อของเฮเซลสร้างความกระจ่างให้กับคอนราร์ดได้ไม่ยาก เพราะไม่ว่าจะผ่านมากี่สิบปี กี่ร้อยปี ‘เรื่องเดิม’ ที่ยังคงพูดคุยมาถึงปัจจุบันนี้ก็คงมีแค่เรื่องของเขาคนนั้นเรื่องเดียว...
เคาท์วิลลาร์ด เอช เซเปซ...
“โฮ่ๆ ไม่นึกว่าเรื่องของเขาจะเป็นสิ่งบันเทิงให้กับท่านหญิงเฮเซลจนเรียกเสียงหัวเราะได้เลยนะครับ” คอนราร์ดเอ่ยพลางยกแก้วไวน์แดงจิบ เฮเซลแย้มรอยยิ้มเงียบๆ ไม่ว่าอะไรต่อและไม่คิดจะแก้ความเข้าใจของอีกฝ่าย เพราะเธอรู้ว่าการพูดอะไรมากเกินความจำเป็นไม่ใช่เรื่องดีสำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ของปิศาจกระหายเลือดยามค่ำคืน
ชนชั้นสูงผู้ดำรงชีพด้วยหยาดโลหิตของมนุษย์...แวมไพร์...
“แล้วท่านดยุคคอนราร์ดไม่มีเรื่องบันเทิงอะไรมาเล่าให้พวกข้าฟังบ้างเหรอคะ ?” คำพูดนอบน้อมอ่อนหวานอย่างคนรู้กาลเทศะของโรเซ่สร้างความสนใจให้กับดยุคคอนราร์ดไม่น้อย รอยยิ้มพึงพอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องตลกของสังคมชั้นสูงให้ฟัง เฮเซลนั่งฟังเรื่องราวที่ถูกเล่าออกมาเงียบๆ ด้วยรอยยิ้ม ใช่ว่าเธอจะไม่รู้สาเหตุที่เคาท์วิลลาร์ดออกจากสังคมชั้นสูงไปใช้ชีวิตคนเดียวเงียบๆ ในพื้นที่สุขสงบนั้นคืออะไร เพราะสำหรับเธอแล้วหากกายสังขารและปัจจัยเสรีภาพรอบตัวเป็นใจแล้วล่ะก็ เธอคงออกไปสู่โลกอิสระยอมกลายเป็นเรื่องตลกสำหรับแวมไพร์ชั้นสูงไว้พูดล้อเล่นกันในงานเลี้ยงสังสรรค์แห่งนี้
เจ้าจะใช้ชีวิตอิสระแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกันนะวิลลาร์ด...
ความคิดเห็น