ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Role-Playing] Seus Allevia

    ลำดับตอนที่ #8 : [Carnivore] Free-Role : Painless.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 51
      0
      18 ต.ค. 56

    อากาศ...เหมือนจะเย็นกว่าทุกวัน...

                    ดวงตาสีดำสนิทหลุบต่ำอย่างเหม่อลอย ผิวหนังเปลือกตากระตุกเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงเกล็ดหิมะเย็นๆ ที่โรยตัวลงมา ร่างสูงนอนตะแคงคู้ตัวเล็กน้อยเพื่อป้องกันตัวเองจากการแผลฉกรรจ์ที่อาจพลาดถึงชีวิต เสื้อเชิ้ตตัวหลวมเต็มไปด้วยคราบสกปรกบนพื้นหลังตรอกของร้านที่เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นดี ชายหนุ่มค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะคู้ตัวไออย่างหนักเพราะความบอบช้ำภายในร่าง หลังจากนอนพักฟื้นร่างกายเล็กน้อยเขาก็พยุงตัวขึ้นทิ้งตัวนอนหงายบนโซฟาเก่า

                    เกล็ดหิมะขาวโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าสีเทาหม่นอย่างเชื่องช้า อากาศหนาวเย็นที่เป็นปัญหาประจำตัวกำลังเสียดแทงผิวกายผ่านเนื้อผ้าบางเบา ดวงตาสีดำสนิทมองผืนฟ้าอย่างไร้จุดหมาย ใต้ตาแตกช้ำทิ้งรอยเลือดเล็กน้อย แขนซ้ายยกขึ้นพาดช่วงท้องของตัวเองพลางผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆ เพื่อทดสอบดูว่าไม่มีกระดูกชิ้นใดแตกหรือหักจนเข้าไปทิ่มอวัยวะบอบบางภายในได้ แขนขวาที่ใช้ป้องกันหักอย่างไม่ต้องสงสัยเขาจึงปล่อยทิ้งไว้ข้างกายราวกับท่อนไม้ไร้ประโยชน์

                    ชีวิตที่ตัวเองเก็บมา รักษาให้ดีแล้วกัน...

                    คำพูดสุดท้ายถูกเวียนซ้ำในหัวอีกครั้งเมื่อได้นอนพักกายคิดอะไรเงียบๆ ภารกิจภาคบังคับที่มีความเสี่ยงสูงกลับมีเหตุไม่คาดฝันทำให้ความอันตรายเพิ่มอีกทวีคูณ แม้จะเป็นแบบนั้นแต่เขากลับยอมเสี่ยงเข้าไปช่วยคนคนหนึ่ง นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์ใดๆ แล้วเขากลับต้องมาเจ็บตัวแบบนี้อีก

                    ถึงจะเรียกว่ารอด...แต่เขาคนคนนั้นก็ยังต้องรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU อยู่ดี...

                    ...นี่ถ้าโดนหนักกว่านี้อีกหน่อยตัวเขาเองคงไม่พ้นไปอยู่ห้องนั้นด้วยอีกคนแน่ๆ...

                    คิดแล้วก็นึกขำตัวเองอย่างอดไม่ได้ ทว่าสภาพร่างกายในตอนนี้แค่จะหายใจยังลำบาก การผ่อนลมแบบไม่เป็นจังหวะอย่างการหัวเราะเขาคงไม่อาจทำได้ เซสนอนนิ่งมองหิมะอยู่นานจนกระทั่งแรงสั่นสะเทือนในกระเป๋ากางเกงดึงความสนใจ เสียงเปียโนเพลง Canon ดังคลอเบาๆ เขาขยับตัวเล็กน้อยพร้อมกับเลื่อนมือซ้ายไปที่กระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบเครื่องมือสื่อสารชิ้นเล็กออกมา ทันทีที่นิ้วเรียวคลำหาปุ่มรับสายเจอเขาก็กดรับแล้วแนบหูโดยไม่มองหน้าจอแม้แต่น้อย

                    “...สวัสดีครับ...” กว่าจะกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ได้เซสต้องผ่อนลมหายใจเข้าลึกเล็กน้อยเพื่อให้น้ำเสียงยังคงเรียบนิ่งเป็นปกติ

                    “สวัสดีจ้ะเซส...” น้ำเสียงแผ่วหวานจากปลายสายทำให้คนรับหายใจผิดจังหวะ แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้นที่เซสกลับมาพูดตอบด้วยน้ำเสียงปกติ

                    “มีเรื่องอะไรครับ...พี่...”

                    “อื้อๆ ไม่มีอะไรหรอก พี่สาวแค่คิดถึง เลยโทรหา...” เสียงหัวเราะคิกคักอารมณ์ดีจากอีกฝ่ายสร้างความเบาใจให้กับเซสพอควร เขาพยายามควบคุมลมหายใจอีกครั้งก่อนจะพูดต่อ

                    “คิดถึงเช่นกันครับ...”

                    “...”

                    คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อคู่สนทนาเงียบไป ในระหว่างที่เซสกำลังคิดอยู่ว่าพูดอะไรผิดไปนั้น เสียงหัวเราะใสๆ ของผู้เป็นพี่สาวก็ดังแว่วเข้ามาอีกรอบ ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังถอนหายใจแผ่วด้วยความโล่งอก ประโยคต่อมากลับทำให้หัวใจเกือบหยุดเต้น

                    “ฝืนทำอะไรที่ไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้วเหรอจ๊ะ”

                    ราวกับเลือดในกายเย็นเฉียบเพราะความตระหนกที่เกิดขึ้น ความเงียบปกคลุมไปทั่วทั้งจากตัวเซสเองหรือแม้กระทั่งปลายสายที่ไม่มีแม้กระทั่งเสียงลมหายใจให้ได้ยิน เขานึกทบทวนคำพูดจากพี่สาวที่แสนสำคัญเงียบๆ เสียงหัวเราะทุ้มแผ่วดังขึ้นเมื่อได้ข้อสรุปในใจของสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่

                    เพราะเป็นไปไม่ได้เลยต้องมาเจ็บตัวฟรีแบบนี้สินะ...

                    “คงจะแบบนั้นครับ...” คำพูดที่เหมือนประชดประกอบกับรอยยิ้มบางเบาของชายหนุ่ม รอยยิ้มที่ไม่ได้ยินดียินร้าย เป็นเพียงรอยยิ้มจางๆ เสมือนประโลมใจไล้เลียบาดแผลที่หยั่งรากลึกมานาน

                    รากความรู้สึกที่น้อยคนจะหยั่งถึง...

                    “คิก...เป็นแบบนี้เสมอเลยนะจ๊ะ” ปลายสายพูดกลั้วหัวเราะ แม้จะเป็นเพียงแค่คำถามและคำตอบสั้นๆ ทว่าอีกฝ่ายกลับพยายามถือสายชวนคุยให้นานที่สุด และแน่นอนว่าถึงร่างกายนี้จะไม่ค่อยสมประกอบแต่เซสก็ยังพยายามถือสายพูดคุยให้นานเท่าที่จะทำได้

                    “เอาล่ะ พี่คงรบกวนเวลาเซสมาเยอะแล้วล่ะนะ”

                    “ครับ...” เซสลอบถอนหายใจแผ่วหลังจากที่พูดคุยสนทนากับเรื่องเล็กน้อยมาเกือบยี่สิบนาที หญิงสาวก็เริ่มเกริ่นที่จะวางสาย เสียงหัวเราะกังวาลใสดังแผ่ว

                    “เซสจ๊ะ...”

                    “ครับ ?...”

                    “รักษาแผลให้ดีด้วยนะ ถ้ากระดูกหักจนขยับตัวไม่ไหวให้พี่โทรหารถพยาบาลมาให้ไหมจ๊ะ ?”

                    สิ้นเสียงดวงตาสีดำสนิทก็เบิกกว้าง เขาหันใบหน้าตะแคงไปด้านคางอย่างรวดเร็วแม้โทรศัพท์จะถือสายค้างอยู่ ร่างบอบบางของหญิงสาวในชุดเสื้อโค้ทตัวหนายืนส่งยิ้มอยู่ที่ปากทางตรอก เส้นผมยาวหยักศกเล็กน้อยดูนุ่มละมุนอย่างคนที่ให้การดูแลอย่างดี แขนเรียวยกโทรศัพท์มือถือแนบใบหน้าพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ เพียงแค่นั้นร่างที่บอบช้ำก็รีบยันตัวลุกขึ้นนั่งทันที

                    “อึ่ก...”

                    “รีบลุกแบบนั้นไม่ได้นะจ๊ะ แขนหักไปข้างหนึ่งเลยนี่นา น่าสงสารจัง...” ว่าแล้วสัมผัสนุ่มนวลจากฝ่ามือบางก็แตะเข้าที่แขนขวาอย่างทะนุถนอม การเข้าประชิดตัวที่เร็วจนน่าประหลาดใจทำให้เซสต้องหันมองสตรีข้างกาย ริมฝีปากสีแดงธรรมชาติขยับยิ้มเล็กน้อยชวนเคลิบเคลิ้ม ทว่าดวงตาสีน้ำตาลกลมโตดูราวกับห้วงลึกของเขาวงกตไร้ทางออก

                    “พี่...” ยังไม่ทันที่เซสจะได้พูดอะไรต่อ ผ้าเช็ดหน้าผืนบางก็แตะเข้าที่แผลใต้ตาของเขา แรงกดเบาๆ ช่วยซับเลือดที่ไหลซึมให้จางลง ทว่าสิ่งที่หญิงสาวต้องการไม่ได้มีแค่การทำแผลปลอบใจน้องชาย แต่มันคือผลพลอยได้จากความปรารถนาดีและแน่นอนใช่ว่าชายหนุ่มจะไม่รู้ความต้องการนั้น...

                    กลิ่นนี้...คลอโรฟอร์มสินะ...

                    “ถ้าเจ็บก็บอกพี่ได้นะ”

                    “ไม่เป็นไรครับ...” เซสยกมือซ้ายขึ้นกุมข้อมือบอบบางของหญิงสาวที่กำลังซับเลือดให้ตนอยู่เบาๆ เขาขยับใบหน้าแนบริมฝีปากกับผ้าเช็ดหน้าก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกเอากลิ่นของสารระเหยบางอย่างเข้าไปในกาย เพียงไม่ถึงนาทีร่างสูงก็ทรุดลงซบไหล่ของหญิงสาวตรงหน้า ริมฝีปากบางเพียงแค่ขยับยิ้มพร้อมกับยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังคนหมดสติเบาๆ พลางกระซิบแผ่ว

                    “หลับให้สบายนะจ๊ะ...หลังจากนี้พี่จะปกป้องเธอเองนะ เซส...”

     

    Painless : To Be Continue….


    Dreaming...



    BlackForest✿
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×