คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3
“เพราะฉะนั้น จึงมาอยู่ที่นี่?”
ธาเนียหรี่ตาลงอย่างไม่เชื่อใจเท่าไหร่นัก หลังจากที่ฟังเรื่องราวจากปากของชายหนุ่มผู้บัดนี้เป็น ‘แขก’ ไม่ได้รับเชิญที่บ้านของนาง
ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ นึกย้อนไปถึงเรื่องราวหลังถูกส่งกลับด้วยเวทมนตร์ ตอนนั้นเขากำลังเศร้าๆอยู่พอดีที่ต้องจากนาง แต่พอรู้สึกว่าขาเหยียบพื้นเลยลืมตาตื่นขึ้นมานั้น เขาก็พบว่าตัวเองไปอยู่หน้าต้นไม้มารดาแทนที่จะไปอยู่ที่บ้านตามที่ธาเนียบอก และหลังจากยืนงงๆอยู่อีกพักหนึ่ง ก็บังเอิญว่ามีชายหนุ่มชาวเอลฟ์คนหนึ่งผ่านมา เคลเลยเข้าไปถามทางกลับไปหาธาเนียแล้วอ้างชื่อนางอีกนิดหน่อย ชายคนนั้นเลยบอกทางมาบ้านของนางให้... นั่นจึงเป็นที่มาที่ว่าทำไมเขามาอยู่ที่บ้านของนางในตอนนี้...
และเพื่อเป็นการเรียกร้องความสงสาร ชายหนุ่มเลยทำตาปริบๆเหมือนลูกหมาหลงทางให้กับนางอีกด้วย
หญิงสีเงินมองเขาอีกชั่วขณะประหนึ่งว่ากำลังชั่งใจว่าจะทำอะไรกับเขาต่อไปดี ก่อนนางจะเดินหมุนกายกลับแล้วเดินเข้าไปในห้องที่มีมู่ลี่บังตาทางเข้าไว้โดยไม่พูดอะไรให้กระจ่างสักคำ ชายหนุ่มจึงได้แต่นั่งรอว่านางจะทำอะไรกับเขา
เพียงไม่นานนักกับความสงสัยและความเงียบ กลิ่นอาหารหอมหวนก็ลอยออกมจากห้องที่นางหายเข้าไป เคลกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อกระเพาะของเขาร้องประท้วงในวินาทีแรกที่กลิ่นอาหารนั้นลอยแตะจมูก..มันไม่แปลกนักสำหรับปฏิกิริยาที่เร็วขนาดนี้สำหรับคนที่ไม่มีอะไรตกถึงท้องมาวันเต็มๆ
ชั่วครู่ที่ในหัวกำลังประมวลกลิ่นหอมว่าอาหารนั้นจะเป็นอะไร ธาเนียก็ก้าวออกมาจากห้องพร้อมด้วยอาหารสองจานมือ นางวางลงตรงหน้าเขา จากนั้นก็เดินกลับหายเข้าไปในห้องเดิมอีกครั้งแล้วออกมาพร้อมกับอาหารและข้าวสวยอีกจาน
นางวางจานข้าวลงตรงหน้าเขา “ทานเสียสิ ถ้าข้าวไม่พอ มีเติมอยู่ในห้องครัว”
เคลมองมื้อเย็นของเขาที่เป็นผักล้วนๆ แล้วธาเนียก็พูดขึ้น
“ข้าไม่กินเนื้อ ดังนั้นจึงไม่มีและไม่คิดจะทำอาหารจากเนื้อสัตว์ หากเจ้ามีปัญหาเรื่องการทานผัก ข้าจะให้เอเรียทำอาหารที่มีเนื้อให้เจ้าแทน”
“ไม่เลยครับๆ” ชายหนุ่มเงยหน้ามองนางที่มองเขาอยู่ก่อน ความเอื้อเฟื้อของนางทำให้เขาตื้นตันเหลือเกิน “ข้ากินผักได้” เขากล่าวต่อ “แต่...ท่านไม่กินกับข้าหรือ?”
ชายหนุ่มถาม เมื่อเขาเห็นเพียงจานใส่ข้าวเพียงจานเดียวตรงหน้าเขา และไม่เห็นอะไรทที่ธาเนียน่าจะใช้ทานอาหารอีก
แต่...เขาถามอะไรผิดไปหรือเปล่านะ...? เคลคิดอย่างกังวล เพราะไม่งั้นแล้ว นางคงไม่นิ่งเงียบอยู่อย่างนี้...หรือบางที...นางอาจจะหยิ่งเกินกว่าที่จะยอมร่วมโต๊ะกับเขา
“ถ้าท่านไม่อยากร่วมโต๊ะกับข้า เดี๋ยวข้าจะตักอาหารไปกินที่อื่นก็ได้นะ”
เคลไม่ได้ประชดนาง แต่เขาคิดจะทำอย่างนั้นจริงๆ เพราะถ้าหากการที่เขามารบกวนนางอย่างนี้แล้ว ยังทำให้นางไม่ได้ทานมื้อเย็นอีก มันก็เป็นอะไรที่ไม่สมควรเอาเสียเลย ดังนั้นเขาก็เลยจะไปเสียก่อนดีกว่า
“เปล่า...”
ชายหนุ่มละสายตาจากมือที่กำลังจะใช้ชอนกลางตักอาหารใส่จาน แล้วเงยขึ้นมองเจ้าบ้านแทน เห็นริมฝีปากบางขยับจะพูดอะไรต่อสักอย่าง แต่แล้วนางก็หุบเงียบ ก้าวเดินกลับไปที่ห้องครัวอีกครั้ง
ความยินดีเล็กๆเกิดขึ้น เมื่อธาเนียนั่งลงตรงข้ามกับเขา และมีจานข้าวตรงหน้านาง
“ทานสิ...เดี๋ยวอาหารจะเย็นหมด”
ช่วงเช้าของวันถัดมา เอเรียหญิงผมทองมาที่บ้านธาเนียแต่เช้า เคลซึ่งพักอยู่ที่ห้องนอนสำหรับแขกชั้นล่างได้ยินเสียงที่พวกนางพูดคุยอะไรกันสักอย่าง แต่ไม่ได้ตั้งใจจะยุ่งเรื่องของพวกนาง กระทั่งมีชื่อของเขาเข้ามาเกี่ยวในบทสนทนา ชายหนุ่มเลยตัดสินใจเดินออกไปหลังจากรอเวลาสักพักแล้ว
เอเรียเป็นคนแรกที่หันมาหาเขาแล้วร้องทักทาย
“อรุณสวัสดิ์เคล เมื่อคืนฝันดีไหม ฮ่าฮ่า”
“เอเรีย เจ้าจะช่วยเงียบแล้วฟังข้าหน่อยได้ไหม” ประโยคหลังเป็นของธาเนียที่ขึ้นเสียงเย็นเฉียบ
ชายหนุ่มเลิกคิ้วฉงนเมื่อเห็นท่าทางของสองสาวตรงหน้า เอเรียกำลังฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับธาเนีย ส่วนอีกฝ่ายก็ขึงตามองหญิงผมทอง แต่ท่าทางว่านางจะไม่เกรงกลัวสายตาดุๆแบบนั้นเลย
ครั้นแล้วเมื่อไม่สามารถทำให้เอเรียหยุดหัวเราะได้ หญิงสีเงินจึงตวัดตามายังเคลแทน แล้วชี้ไปยังโซฟาไม้ “ไปนั่งที่นั่นสิ”
รอจนชายหนุ่มหย่อนตัวลงนั่งเรียบร้อยแล้ว นางก็ไขว้มือกอดอกด้วยท่าทีเคร่งเครียด...แต่บรรยากาศไม่ให้เลยเมื่อเสียงหัวเราะของเอเรีย (ที่ไม่ผิดกับกินเห็ดหัวเราะเข้าไป) ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง...ผู้หญิงคนนี้หัวเราะเก่งเป็นบ้า
เคลมองเห็นหัวคิ้วของธาเนียขมวดเข้าหากันมากกว่าเดิมในทุกสองวินาที
“เอาล่ะ ข้าจะเข้าเรื่องนะ” เสียงของนางเข้มขึ้น ด้วยความนัยว่า ข้ากำลังเครียดและจะดีมากเลยหากใครบางคนแถวนี้ปิดปาก...แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หญิงสาวพ่นลมหายใจหงุดหงิด ก่อนดวงตาจะเบือนกลับมามองเคล
“ในตอนนี้ข้า...ไม่อาจใช้มนตราส่งเจ้ากลับไปได้ เพราะฉะนั้น ข้าต้องรับผิดชอบโดยการนำเจ้ากลับไปส่งที่ชายป่าด้วยตัวข้าเอง”
เคลผงะอึ้ง ไม่คิดว่านางยังดึงดันจะพาเขากลับบ้านให้ได้ แต่ท่าทางที่ธาเนียเห็นและคิดไปเองคือเขาไม่อยากให้นางไปส่ง ความไม่พอใจเล็กๆถูกจุดขึ้น แต่นางก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกไป
“หรือเจ้าไม่อยากให้ข้าไปส่ง? แต่เสียใจที่ข้าต้องไปด้วยตัวเอง เพราะมันเป็นหน้าที่ของข้า”
“เปล่าๆ ไม่ใช่ครับ ข้าเพียงแต่ลืมไปว่าข้ายังต้องกลับ” ชายหนุ่มทำหน้าละห้อย หวังจะให้นางเข้าใจว่าเขายังอยากอยู่ที่นี่...แต่ก็ไม่เลย เมื่อนางเลิกคิ้วซ้ำยังทำหน้าประหลาดใส่เขาเสียอีก
“พูดแปลกๆเจ้าก็มีบ้านของเจ้าให้กลับ...ไปซะไปเตรียมตัวให้เรียบร้อย พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางแต่เช้า”
ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ แม้ไม่เต็มใจเลย แต่ก็แปลกที่ว่านางให้เขาไปเตรียมของกลับตั้งแต่เช้าเลย เหมือนกับนางกำลังพยายามจะไล่เขาแต่ก็เกรงใจที่จะพูดตรงๆ
“ฮิ้วๆ พ่อหนุ่มน้อย มีสาวสวยนำทางกลับบ้านเนี่ย ไม่ดีใจหรอจ๊ะ คิกคิก แหม เดินทางกันสองต่อสองเลยน้า~”
เอเรียเป่าปากหวือ ยักคิ้วกระเซ้าเคลด้วยความนัยที่เขารู้ดี
อา ใช่...เดินทางกับนางสองต่อสอง...หึหึ เยี่ยม...
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก แต่ครู่เดียวเขาก็ต้องเก็บรอยยิ้มไว้...มันคงไม่ดีแน่ ถ้าธาเนียหมดความมั่นใจในตัวเขาเสียก่อน...
แต่ดูเหมือนว่าจะช้าไปเสียแล้ว...เมื่อดวงตาสามสีคมปลาบหรี่มองเขาอย่างน่ากลัว...ไอ้ที่อยากจะยิ้มเมื่อกี้ก็กลายเป็นยิ้มแห้ง จำต้องรีบปลีกตัวเดินไปกลับเข้าห้องไปอย่างที่นางสั่ง
คล้อยหลังเขา เสียงหัวเราะร่าก็ดังลั่นขึ้นมาอีกครั้ง เสียงพูดคุยอย่างที่เจ้าของเสียงไม่ค่อยจะอารมณ์ดี และสุดท้ายก็เสียงเข้มที่ดังแทรกเสียงหัวเราะว่า
“เอเรีย! ข้าเรียกเจ้ามาปรึกษานะ ไม่ใช่ให้มาหัวเราะ!”
แต่กระนั้นแล้ว เสียงหัวเราะก็ยังคงอยู่...อีกนาน...
เคลถอนใจเฮือก นึกสงสารธาเนียที่มีเพื่อนบ้าจี้ขนาดนั้นขึ้นมาจับใจ
วันต่อมา ก่อนจะออกเดินทางในช่วงเช้า ธาเนียนำเคลไปหลังบ้านของนาง ห่างจากหลังบ้านประมาณ
เมื่อธาเนียย่างก้าวเข้าไปไม่กี่ก้าว ฝูงม้าก็เข้ามารุมล้อมนาง รอให้นางลูบหัวมันแล้วจึงค่อยเดินแยกออกไป
เคลมองภาพนั้นแล้วพลอยทำให้รู้สึกว่า ธาเนียเป็นที่นิยมในสัตว์ป่าที่นี่น่าดู ไม่ก็เหมือนเป็นจ่าฝูงที่พวกมันต้องเคารพ...แปลกๆดี
“เจ้าเลือกม้าสิ ทุกตัวจำทางกลับมาที่นี่ได้หมด”
เมื่อได้ยินเสียงของนาง มันก็เป็นอัตโนมัติที่เขาละสายตาจากม้าหนุ่มท่าทางฝีเท้าจัดตัวหนึ่งเพื่อหันไปมองธาเนียซึ่งกำลังยืนลูบแผงคออาชาสีดำสนิทตัวหนึ่ง และนั่นก็ทำให้เขาเลิกคิ้วสูง
“นั่นพันธุ์ควิกซิลเวอร์นี่ครับ”
นางหันมาพยักหน้าให้เขาก่อนเดินกลับไปหยิบอุปกรณ์ขี่ม้าซึ่งวางอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง
“มันมาหาข้าตอนที่ข้าใช้มนตร์เรียกอาชาเมื่อหลายวันก่อน ข้าไม่แน่ใจว่ามันมาจากที่ไหน แต่มันเป็นม้าฝีเท้าจัดมาก แทบจะเร็วกว่าทุกตัวที่ข้าเคยขี่ด้วยซ้ำ...ยกเว้นเจ้านะ”
เคลหันไปมองตามสายตาของธาเนีย ประโยคหลังดูเหมือนว่านางจะหันไปพูดกับม้าหนุ่มตัวที่เขาเล็งๆไว้ และมันก็ราวกับเข้าใจคำพูดนาง ด้วยการพ่นลมหายใจพรืดใหญ่แล้วร้องรับ เหมือนจะบอกว่า...มันก็แน่อยู่แล้ว
“อ๋อ ใช่ครับ หลายวันก่อนก่อนที่ข้าจะเดินหลงแล้วมาเจอที่นี่ เย็นวันนั้นข้าพึ่งลงจากม้าที่บังเอิญเป็นพันธุ์ควิกซิลเวอร์ สีดำสนิทฝีเท้าจัด ข้ากำลังจะนอนพอดีแต่นึกขึ้นได้ว่าม้าของข้าคงจะอึดอัดกับบังเหียนและอานม้ามาทั้งวัน ข้าก็เลยเดินไปถอดให้มัน แต่พอถอดเสร็จแค่นั้นล่ะมันก็วิ่งพรวดหายเข้าไปในป่า ข้าที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีก็เลยแกะรอยตามม้ามาเรื่อยๆ จนเจอที่นี่ล่ะครับ”
สิ้นประโยคของเขา ธาเนียก็หันขวับมามอง
“ห้าวันก่อน?”
เคลพยักหน้าหงึกๆ “ครับผม”
เพียงแค่นั้น ธาเนียก็ยกมือกุมขมับ ส่ายหน้า หลังจากนั้นก็ถอนหายใจเฮือก
“ข้าไม่รู้ ขอโทษด้วยจริงๆ วันนั้นข้ารีบ เลยไม่ทันเอะใจว่าทำไมถึงมีม้าตัวที่ข้าไม่เคยเห็น”
เคลยิ้มกว้าง ตอนที่ตอบนางกลับไป
“ถ้ามันแลกกับการที่ข้าได้มาเจอที่นี่ มันก็ถือว่าคุ้มนะ” รวมถึงเจอท่านด้วยนะ
จนเมื่อถึงทางเข้าหมู่บ้าน ธาเนียกับม้าของนาง และเคลกับเจ้าควิกซิลเวอร์ที่ทำท่าหงุดหงิดใส่เขาเพราะเขาเป็นต้นเหตุให้นางไม่ขี่มัน...ให้ตายสิ ใครเป็นเจ้าของกันแน่นะ!
หญิงสาวตวัดกายขึ้นม้าแล้วออกนำไปก่อน ในขณะที่เคลยังคงวุ่นวายกับการลากเจ้าม้าชีกอและพยายามขึ้นไปขี่มันให้ได้ จนเมื่อมีเสียงคล้ายจะบ่นดังมาจากข้างหน้าว่า
“เร็วๆหน่อย ข้าไม่อยากเสียเวลา”
ทั้งคนทั้งม้าก็หันมองหน้ากัน และตัดสินใจตรงกันว่าพักรบชั่วครู่คงจะเป็นการดีที่สุด
เคลหันไปมองเบื้องหลัง พยายามจดจำภาพของหมู่บ้านที่งดงามไว้ด้วยความรู้สึกเสียดายยิ่ง ทางเข้าหมู่บ้านที่ค่อยๆห่างออกไป ทิ้งความรู้สึกหดหู่ลึกๆไว้...แต่ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา ยิ่งถ้าเขาอยู่นานไปกว่านี้ คงจะอาลัยมากกว่านี้จนไม่อยากออกไปแน่ๆ
ชายหนุ่มถอนหายใจยาว...แต่การจากหมู่บ้านเร็ว ก็ทำให้จาก ‘นาง’ เร็วขึ้น...เฮ้อ...
หากเพียงออกจากหมู่บ้านไม่ถึงห้านาที เสียงฝีเท้าและเสียงเรียกที่ไล่กวดมาจากเบื้องหลังก็ทำให้เคลหันกลับไปมองอีกครั้งพร้อมๆกับขมวดคิ้ว
“นายหญิง! นายหญิงขอรับ!!”
เอลฟ์หนุ่มนายหนึ่งในชุดเกราะวิ่งตรงมาผ่านเขา และหยุดที่หน้าธาเนีย เช่นกัน หญิงสาวก้าวลงจากม้ามองนักรบหนุ่มที่สูดลมหายใจลึกอย่างควบคุมสติ ก่อนเขาจะกระซิบอะไรบางอย่าง แล้ววิ่งกลับไปทางหมู่บ้าน
ในความสับสน เคลคิดถึงนามที่เอลฟ์ผู้นั้นเรียกธาเนีย...นายหญิง...นายหญิงหมายถึงนายเหนือ...ซึ่งก็คือหัวหน้า...หัวหน้าหมายถึงหัวหน้าเผ่า...หัวหน้าเผ่า!!?
ชายหนุ่มเบิกตากว้าง เขาคิดอยู่แล้วเชียวว่าธาเนียต้องต่างไปจากเอลฟ์อื่นๆ หลายๆอย่างในตัวนางบอกว่านางน่าจะอยู่ ‘สูง’
เขากำลังจะถามนางเรื่องนี้ แต่ธาเนียไม่มีช่องว่างให้เขาถาม เมื่อนางทำหน้าเครียด หรี่ตาลงราวกับตัดสินใจอะไรบางอย่างที่หนักหนา
หญิงสาวมองหน้าเขา หลังจากนั้นก็มองเลยไปเบื้องหลัง แล้วหลับตาลง อาการนางเหมือนคนร้อนใจและพยายามตัดสินใจอะไรบางอย่าง
จนสุดท้ายนางก็ก้มหน้าลงกำมือแน่น แล้วบอกกับเคล “เราเดินทางกันต่อเถอะ”
เคลมองตามแผ่นหลังของนาง ค่อนข้างแน่ใจว่านางเลือกอย่างนี้เพราะไม่อยากให้เขาคิดมาก แต่เคลก็แน่ใจว่านางคงอยู่ไม่เป็นสุขตลอดการเดินทางแน่ๆ
“ข้ารู้ว่าท่านร้อนใจ...ไปก่อนเถอะครับ เรื่องของข้าไว้ทีหลังก็ได้”
สิ่งที่เขาเสนอทำให้นางหยุดม้า นางคงกำลังไขว้เขว
“ถ้าท่านไปช้า คนที่รอท่านจะรู้สึกแย่นะ”
นางนิ่งเหมือนตัดสินใจ สุดท้ายนางก็ชักม้าให้หันกลับมาหาเขา ดวงตาของนางบ่งชัดว่ากำลังกังวล หากอีกความรู้สึกหนึ่งคือนางกำลังขอบคุณเขา
“เจ้ากลับไปรอข้าที่บ้านนะ ข้าขอเวลา...ไม่นานนัก แล้วจะรีบกลับไปหาเจ้า!”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ความคิดเห็น