คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 13
ซ่า!!!
ความเย็นเฉียบที่สาดกระทบหน้าปลุกให้ประสาทของเขาค่อยๆตื่นตัวขึ้น... เคลครางยาวอย่างเจ็บปวดแทบวินาทีที่เขารู้สึกตัว ทั้งร่างร้าวระบมไปหมด โดยเฉพาะตรงช่วงชายโครงขวาและข้อมือขวา
“คิไมร่า... ข้ารู้ว่าเจ้ามีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่ทำร้ายผู้ไม่เกี่ยวข้อง”
“มันเป็นคำชมที่ดีนะนายหญิง แต่ข้าสมควรฤๅที่ต้องเชื่อคำพูดของท่านน่ะ?”
ชายหนุ่มพยายามลืมปรือเปลือกตาที่หนักยิ่งขึ้น ภาพเบื้องหน้าที่ลางเลือนค่อยๆแจ่มชัด เพียงเพื่อจะเห็นภาพของนายหญิงแห่งเผ่าพันธุ์เอลฟ์ที่ถูกกดให้คุกเข่ากับพื้น สองมือไขว้รั้งไว้เบื้องหลังโดยคิไมร่าสองตัวในลักษณะที่พร้อมจะหักมันได้ทุกวินาทีที่นางเล่นตุกติก
“แต่มนุษย์ผู้นี้ไม่เกี่ยวกับข้า หากเจ้าต้องการล้างแค้น มาลงกับข้า!”
คิไมร่าประดับพู่แดงระเบิดเสียงหัวเราะลั่น ก่อนปรายตาไปมองมนุษย์ที่นางบอกว่าไม่เกี่ยวข้อง... ดวงตาของมันผู้นี้คมกล้าไม่ปรากฏความหวาดกลัว ซ้ำมันกลับฉายความเป็นห่วงเป็นใยเมื่อมองไปยังหญิงสาวเผ่าเอลฟ์
“ไม่เกี่ยวงั้นหรือ? เช่นนั้น เหตุใดมันจึงช่วยท่าน เหตุใดมันจึงฆ่าพวกข้า และเหตุใดท่านจึงร้องเพื่อมันล่ะ หึหึ” คิไมร่าหัวเราะในอก “แต่เจ้ามนุษย์นี่ก็อึดกว่าที่ข้าคิดนะ หากเป็นผู้อื่น ต่อให้เป็นคิไมร่าเช่นข้าก็ตาม มันก็ไม่น่ารอดแล้ว แต่นี่นอกจากจะยังรอดแล้ว บาดแผลก็ยังดีขึ้นเร็วกว่าปกติ ช่างน่าประหลาด”
เคลเข้าใจความหมายที่ทั้งสองกำลังพูดเป็นอย่างดี มันไม่ใช่ภาษาธรรมดาอย่างที่เขาใช้สื่อสารกับธาเนีย มันเป็นภาษาโบราณที่นางใช้เป็นบทมนตรา และตอนนี้เขารู้สึกขอบคุณทั้งธาเนีย ทั้งลีน ที่สอนภาษาให้กับเขา และที่แน่ๆ...ขอบคุณตัวเองที่อยากจะเรียนมัน
คิไมร่าตวัดดวงตารีเรียวกลับไปมองธาเนีย สบกับดวงตาคู่งามเย็นชาเย่อหยิ่งแม้นถูกจับกุมโดยไม่สะทกสะท้าน
“ข้าไม่คิดว่านายหญิงแห่งเผ่าเอลฟ์ผู้ปลิดชีพเผ่าพันธุ์ข้านับไม่ถ้วนจะเสียน้ำตาให้กับผู้ใดง่ายๆ นอกจากเสียว่านางจะใฝ่ต่ำถึงขนาดหามนุษย์โสโครกมาทำ...ผัว?”
ดวงตาสามสีวาวโรจน์ หากธาเนียยังคงควบคุมอารมณ์ได้ดีด้วยการไม่วู่วามทำสิ่งใด และหากเขาขยับตัวได้ เขาสาบานว่าจะตัดลิ้นเน่าๆของมันซะที่บังอาจพูดเช่นนั้น!
“เจ้าคาดผิดเสียแล้ว คิไมร่าที่สูงส่ง มนุษย์ผู้นี้มิได้เกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นกับข้า!”
คิไมร่าหัวเราะแผ่วต่ำ ตวัดตากลับไปมองยังบุรุษที่นอนคู้ตัวสองมือมัดไพร่หลังไว้อย่างดูแคลน
“งั้นหรือ...?” ดวงตาสีอำพันรีหยามเหยียดเมื่อจ้องมองมนุษย์ “หากมันไม่ใช่คู่ของท่าน ข้าก็มีสิทธิทำอะไรกับมันก็ได้น่ะสิ” โดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆเสริม คิไมร่าที่รายล้อมเป็นวง ก้าวออกมาหกตัวยืนเป็นวงรอบเคลแล้วระดม ‘ยำ’ เขา
ธาเนียคอแข็ง นางกระชากตัวไปเบื้องหน้า! หากสองมือที่ถูกรั้งไว้ก็ทำให้นางมิอาจขยับตัวได้มากกว่านี้
“อย่าทำเขา!”
มันเป็นทีของพวกคิไมร่า... จอมเวทหัวเราะคำรามลั่นป่า หมุนกายกลับไปนั่งเหนือแท่นบัลลังก์ของมันอย่างสะใจ
ดวงตาสามสีทั้งกราดเกรี้ยวทั้งเจ็บปวด...
เคลมองเห็นดวงหน้างามซีดเผือด มองเห็นริมฝีปากบางเม้มแน่น และดวงตาของนางที่ไม่อาจกลบเกลื่อนอารมณ์ได้เลย
“เป็นอย่างไรล่ะนายหญิง เวทมนตร์ที่ท่านเชี่ยวชาญไม่อาจใช้ได้เช่นนี้ ช่างน่าสงสารจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า แต่ถ้าท่านยอมรับว่าท่านนำมนุษย์นี่ไปเป็นคู่ ข้าก็อาจจะปล่อยมันก็ได้นะ”
แม้เสียงแหบแห้งของคิไมร่าเอ่ยเย้ยหยัน หากประโยคสุดท้ายของมันก็ทำให้นางเริ่มไขว้เขว...เขารู้ เพราะดวงตาคู่นั้นไหววูบด้วยการตัดใจและตัดสินใจบางอย่าง...
การพูดปด...
มันอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนทั่วๆไปอย่างเขา แต่สำหรับชนเผ่าเอลฟ์มันตรงข้ามเลย...คำพูด คำสัญญาถือเป็นคำสัตย์...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายหญิงเฉกเช่นธาเนีย...คำพูดของนางนอกจากจะเป็นคำสัตย์แล้วมันยังเปรียบดั่งศักดิ์ศรีทั้งชีวิตของนางอีกด้วย (เอเรียบอก)
ฉะนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ตั้งแต่เกิดมาจนบัดนี้ ธาเนียคงไม่เคยปดแม้สักครั้ง...
แต่ตอนนี้นางกำลังจะทำมัน...เพื่อเขา...
ความเจ็บปวดเปลี่ยนเป็นความชา... ชายหนุ่มพยายามสบตากับนาง ขยับปากช้าๆให้นางรู้ว่า...ข้าไม่เป็นไร...
ทรวงอกของนางสะท้าน
ทั้งๆที่เขาพยายามทำให้นางไม่ต้องกังวล แต่มันกลับทำให้ประกายตาแห่งการตัดสินใจของนางแจ่มชัดกว่าก่อน
ชายหนุ่มส่ายหน้าให้นาง...อย่าทำเช่นนั้น...
หากคิไมร่าตัวหนึ่งที่ขยับมาขวางเขาไว้บดบังภาพของธาเนียจนหมดสิ้น กอปรกับอุ้งเท้าใหญ่ที่กระแทกเต็มลำตัวแรงจนเขาขย้อนลิ่มเลือดออกมาติดๆกัน ความเจ็บปวดแล่นร้าวไปทุกอณูของร่างกายและความเจ็บปวดนี่เองที่ทำให้สติทุกอย่างของเขาค่อยๆดับลง...
ภาพสุดท้ายที่เห็นคือร่างบางที่กระชากกายมาเบื้องหน้า กับเสียงหวานที่แทบร้องตะโกนออกมา
“พอได้แล้ว! ข้ายอมรับมัน พอซะที พอซะที!!”
อย่านำศักดิ์ศรีของท่านมาทิ้งเพื่อข้าเลย...
สิ้นเสียงของนาง เจ้าคิไมร่าที่รายล้อมร่างของมนุษย์ก็หยุดฝีเท้าของมัน ค่อยๆขยับกายถอยห่างอย่างแสนเสียดาย ‘เหยื่อ’ ตามที่นายมันสั่ง ปล่อยให้นายหญิงแห่งเผ่าเอลฟ์ได้ยลร่างอาบเลือดของชายหนุ่มตรงหน้าเต็มๆตา
ไม่มีสิ่งใดสามารถบรรยายความรู้สึกของนางในตอนนี้ได้... นาง
ธาเนียกัดริมฝีปากจนรับรู้ถึงรสชาติขมปร่าในปาก อีกครั้งแล้วที่เคลแน่นิ่ง...เขาอาจตาย หรือไม่ก็อาจสลบ...แต่สุดท้ายสำหรับทุกสิ่งคือนางที่ไม่อาจช่วยเขาได้...
“โฮ่ คำพูดนั้นเป็นจริงหรือนายหญิง ท่านนำมันเป็นคู่ของท่านหรือ?”
เสียงของคิไมร่าแว่วผ่านหูซ้าย แล้วทะลุหูขวาออกไป...ไม่มีสิ่งใดในตอนนี้ที่สามารถดึงความสนใจของนาง นอกจากดวงตาที่ว่างเปล่าจมจ่อกับความรู้สึกผิดที่ท่วมท้น...กระทั่งแว่วเสียงจอมเวทออกคำสั่งอะไรบางอย่าง ร่างใหญ่ทั้งหกจึงเริ่มก้าวเข้าไปอีกครั้ง สติของนางเหมือนถูกกระชากกลับโดยเร็วในวินาทีที่พวกมันเริ่มขยับเท้า
“เจ้าสัญญากับข้าว่าจะไม่ทำอะไรเขาแล้วคิไมร่า!” ธาเนียกระชากเสียงตวาด ดวงตาสีอำพันวาววับอย่างไม่เคยเป็นมานาน
จอมเวทปรายหางตามองร่างสมส่วนที่กองกับพื้นในสภาพอาบเลือดอย่างหยามเหยียดเมื่อมันกล่าวว่า “ท่านยังไม่มีคู่มิใช่หรือ? ไอ้มนุษย์นี่มันทำให้ท่านต้องพูดปด เพราะฉะนั้นข้าเลยลงโทษมันแทนท่าน ก็แค่นั้นเอง” ใบหน้าของสัตว์ร้ายหันไปมองบรรดาลูกน้อง รอยยิ้มขยะแขยงพรายบนดวงหน้า “เอ้า เด็กๆ กิน ‘มนุษย์’ ให้อร่อยนะ...”
เพียงเท่านั้น...คิไมร่าทุกตัวก็กระโจนเข้าหาร่างที่แน่นิ่ง เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังก้องป่า
ร่างบางเหมือนถูกสาป เฝ้ามองบรรดาสัตว์ร้ายพุ่งกระโจนเข้าหาเคล...
เหมือนภาพวันวานย้อนมา...วันที่นางสูญเสียทุกสิ่ง...
ความรู้สึกมากมายประดังเข้ามา และระเบิดพรั่งพราย...
ความคิดคำนึงดับวูบ สติจางหาย
ดวงตาสีอำพันเรืองวูบ
...สัตว์ร้ายปรากฏ...
ดวงตาที่หนักอึ้งค่อยๆลืมขึ้นช้าๆ ความรู้สึกบ่งบอกว่าเขาอยู่บนบางสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหว...
ภาพแรกที่ดวงตาเห็นคือ...หมาป่าสีเงิน...?
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว พยายามจะประคองสติตนเองไว้ แต่มันก็ทำไม่ได้เลย...
เขาเริ่มแน่ใจว่าบัดนี้ตนเองอยู่บนหลังของหมาป่าสีเงินยวงตัวใหญ่...ขนหนานุ่มเปรอะเปื้อนเลือดจนแดงฉาน...แต่เหนือกว่านั้น คือความรู้สึกอบอุ่นที่ได้รับ...ร่างกายที่เหมือนถูกโอบกอดไว้ในอ้อมอกของมารดา...ผ่อนคลายจนร่างทั้งร่างหนักอึ้ง จนดวงตาเริ่มปิดลงอีกครั้ง...
“เคล...เคล...”
เสียงหวานนุ่มหูเฝ้ากระซิบเรียก
“เคล...ตื่นได้แล้ว...เคล...”
เคลครางรับความต้องการนั้น ดวงตาสีสนิมลืมเปิดขึ้นอีก แต่คราวนี้เขาไม่เห็นหมาป่าสีเงินตัวนั้นแล้ว เบื้องหน้าเขามีเพียงนายหญิงคนงามท่าทางอ่อนระโหย
“ท่านธาเนีย...?”
ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่ง มองธาเนียที่คลี่ยิ้มบางเบา...
“ข้าขอโทษที่ต้องปลุกเจ้าขึ้นมา ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง?”
เคลก้มมองสภาพตนเอง คิ้วเข้มขมวดยุ่งเมื่อพบว่านอกจากเสื้อผ้าที่ขาดลุ่ยแล้ว ร่างกายของเขากลับไม่มีรอยแผลแม้สักรอย แล้วยังความรู้สึกเจ็บแทบตายอีกเล่า?
“ดีครับ ดีมาก...แต่มันเกิดอะไรขึ้น?”
เขาตอบแล้วลองสะบัดมือขวาที่สมควรจะหักอย่างงุนงง แต่มันอยู่ในสภาพเดิมทั้งยังแข็งแรงดีด้วย
“มนตร์รักษาน่ะ เจ้าไม่เจ็บตรงไหนอีกแล้วใช่ไหม?”
“ครับ”
“ดีแล้ว...” หญิงสาวตอบรับ พลางเอื้อมไปหยิบกระเป๋าสัมภาระกับดาบส่งคืนเจ้าของ “ของของเจ้าครบนะ”
ชายหนุ่มจัดแจงตวัดกระเป๋าขึ้นสะพาย ปากก็เอ่ยถามเมื่อเขาไม่เห็นสัมภาระของนางเลย
“แล้วของของท่านล่ะ?”
“ข้าไม่ได้หยิบมันมา แต่ไม่ต้องห่วงหรอก มันไม่มีอะไรที่จำเป็นเท่าไหร่”
ดวงตาคู่คมหรี่ลงเล็กน้อยอย่างจับพิรุธ เขารู้ว่าคนอย่างนางไม่มีทางพลาดหรือหยิบสิ่งของไม่จำเป็นมาหรอก นอกจากนางจงใจบอกเขาเช่นนั้นเอง...อ้อ เอลฟ์สิ ไม่ใช่คน
ใช่...และนางก็หลบสายตาเขา
“ทางนั้น...” เสียงหวานพลันเปลี่ยนเรื่อง มือเรียวชี้ไปทางซ้าย “เจ้าเดินไปสักพัก กระทั่งถึงทางที่เหมือนทางเดิน จงเลี้ยวขวาขึ้นเหนือและเดินขึ้นไปอีกประมาณ 3 วัน เจ้าจะถึงหมู่บ้าน...”
คำบอกเล่านั้นยิ่งทำให้เคลฉงนใจ
“ท่านพูดเหมือนจะไม่ไปพร้อมข้า”
“เจ้านำไปก่อน ส่วนตัวข้าขอพักสักครู่ ไม่นาน...จะตามไป” คำพูดของนางยอมรับคำถามของเขาโดยไม่จำเป็นต้องตอบตรงๆ... ธาเนียเหมือนต้องการพูดต่อเพียงเท่านั้น ร่างบางที่อ่อนล้าขยับกายพิงต้นไม้เบื้องหลังของนาง โบกมือให้กับเคล
“อย่าได้ห่วงข้าเลย เจ้าจงกลับไปก่อน...ข้าไม่อยากเป็นภาระให้กับเจ้าอีกแล้ว...”
คำพูดสุดท้ายกล่าวออกมาพร้อมๆกับที่ดวงตาสามสีปิดลง...
เคลยิ่งไม่เข้าใจนางเข้าไปอีก แต่เมื่อเขาลองขยับเข้าไปหานางใกล้ๆและเรียกชื่อ เขาก็ได้เพียงความเงียบและเสียงลมหายใจสม่ำเสมอเป็นคำตอบ
“ท่านธาเนีย...”
เขาลองเรียกนางเป็นครั้งสุดท้าย และเมื่อนางยังนิ่งงัน ชายหนุ่มจึงค่อยเอื้อมมือไปสะกิด...แต่ยังคงแน่นิ่ง...สัญญาณนั้นบอกว่านางหลับลึก...
ร่างสูงถอนใจเฮือกใหญ่ เมื่อเขารู้แล้วว่าธาเนียคงไม่ตื่นในเร็วๆนี้แน่ แต่จะให้เขาอุ้มนางกลับไปถึงหมู่บ้านที่อยู่ไกลออกไปด้วยการเดินติดต่อกัน 3 วัน...มันก็ค่อนข้างลำบาก เขายิ่งไม่เคยมาที่แถวนี้ด้วยสิ..
หืม...เดินขึ้นเหนือ 3 วันงั้นหรือ?...
บางอย่างสะกิดใจเขาอย่างจัง คำพูดของใครคนหนึ่งแว่วเข้าหัว รอยยิ้มยินดีจึงปรากฏ...
“เอาล่ะ...”
เคลเอื้อมมือไปอุ้มร่างบางขึ้นไว้แนบอก ดวงตาเป็นประกายวาววับ
เขาจะไม่ทิ้งให้นางอยู่ที่นี่ แต่เขาก็จะไม่พานางกลับไปที่หมู่บ้านด้วย!
ความคิดเห็น