คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบทแห่งเรื่องราวทั้งปวง... หญิงสาวผมแดงกับราชันตัวน้อย
: ปฐมบทแห่งเรื่องราวทั้งปวง... หญิงสาวผมแดงกับราชันตัวน้อย
“โอ๊ยยย เบื่อเว้ยยย...”
ดวงตาสีอำพันปรายมองเจ้าของเสียงอย่างเบื่อหน่าย
“ข้าไม่อยากมาขุดดินหาสมุนไพรแบบนี้อีกแล้ว เบื่อๆๆๆๆๆ”
เจ้าตัวเล็กถอนใจเหนื่อยหน่ายแล้วก้มหน้าหมอบกลับเช่นเดิม...
สวัสดีทุกท่าน ตัวข้าคือบุตรตัวที่สามของไรเด็น...ราชันแห่งขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ งามสง่า เกรียงไกรและแกร่งกล้าเหนือใคร...
และทั้งๆอย่างนั้นแล้ว...ตัวข้าที่เป็นบุตรของราชันนั้น ทำไมถึงมีปลอกคอหนังราคาถูกๆสวมอยู่รอบแผงคออันงดงามนี่น่ะหรือ...นั่นก็เพราะว่า วันวันหนึ่งเมื่อหลายเดือนก่อน ตัวข้าที่กำลังเพลินเพลินกับการไล่จับกระต่ายน้อยขนปุกปุยสีขาวจนไม่ทันได้ระวังตัว
ใครคนหนึ่งก็ย่องเข้ามาจากเบื้องหลัง และ...
หมับ!
ปลอกคอราคาถูกพร้อมสายโซ่ก็รัดรอบแผงคออันแสนงดงามของข้าไว้...
และตั้งแต่วินาทีนั้น ชีวิตอันแสนสุขของข้าก็เหลือเพียงความทรงจำ...นั่นก็เพราะนาง...นางที่บ่นบ้าอย่างนี้มาตั้งแต่สามชั่วโมงก่อน!
“สมน้ำหน้า ถ้าเจ้าไม่โง่เข้าไปเล่นพนันทั้งๆที่ตัวเองดวงซวยอย่างนั้น ป่านนี้เราก็ได้นอนในโรงแรมหรูๆแล้วล่ะ”
ปากหมาๆของมันก็ยังคงทำหน้าที่ได้ดีเช่นเคย หญิงสาวตวัดสายตาขวับเหล่มองไอ้ตัวเล็กอย่างหงุดหงิด
“หุบปากไปเลยไอ้เตี้ย ข้าไม่ได้ต้องการความเห็นของเจ้านะ ชิ มือว่างเท้าว่างก็มาช่วยกันหน่อยเซ่”
“ก็นั่นมันเพราะเจ้าทำตัวเจ้าเอง ข้าไม่เกี่ยว อ่านปากของข้านะ...สม.น้ำ.หน้า.ยัย.เอ.เฟีย.ยัยผู้หญิงชื่อ เกิดวันศุกร์ ฮ่าฮ่าฮ่า”
ดวงตาสีน้ำตาลคู่หวานตวัดขวับ และ
โป๊ก!!
“เอ๋ง!!!”
ราชันย์ตัวน้อยแผดเสียงร้องลั่นด้วยมะเหงกที่กระแทกลงกลางกบาลเล็กๆ
“ยัยเอเฟียบ้าพลัง! เพราะงี้ข้าถึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงหาคนรักไม่ได้!!”
ปึด...
คิ้วเรียวกระตุกขมวดเดือดดาล เมื่อนึกถึงความทรงจำในครั้งหลัง
นางไม่ใช่คนที่หน้าตาขี้ริ้วขี้เหล่ ซ้ำตรงข้าม ทั้งรูปร่างทั้งหน้าตาของนางสะดุดเพศตรงข้ามแทบทุกคนและในบางครั้งยังรวมแม้กระทั่งเพศเดียวกัน!
“ให้ตายสิ ข้าก็หาได้นะ ไอ้เตี้ย...” เอเฟียตวัดตามองพื้นดิน ใช้ความหงุดหงิดเป็นเรี่ยวแรงในการขุดดินอย่างน่าเวทนา
เมื่อสามเดือนก่อน บุรุษคนหนึ่งเข้ามาจีบนางขณะเดินเที่ยวในเมือง และนางพึ่งรู้ในภายหลังว่าเขาเป็นพวกมิจฉาชีพหวังลักพานางไปขายซ่อง นางเลยจัดการมันไปตามระเบียบ...
บุรุษคนที่สอง เมื่อสามอาทิตย์ที่แล้ว... ตรงเข้ามามาหานางที่กำลัง ‘ดื่ม’ ในร้านสุดหรูด้วยอาการสนใจนางสุดฤทธิ์สุดเดช แต่พอนางก็ตัวเดินไปห้องน้ำครู่เดียว นางก็ได้ยินบ๋อยของร้านคุยกันว่าอีตาคนที่มาจีบนางไม่มีเงินจ่ายค่าเหล้า เช่นนั้นแล้ว นางจึงรีบเฉดหัวเขาทิ้งอย่างรวดเร็ว
และบุรุษคนที่สามมาจีบนางหลังจากเหตุการณ์เมื่อครู่เพียงสองวัน แต่พอเขาเห็นนางที่พอเหล้าเข้าปากได้หกแก้วแล้วแปลงกายเป็นนักเลงใหญ่ เขาก็แทบหนีไปไม่ทัน...เฮ้อ...
เหตุใดชีวิตของข้าจึงได้น่าเศร้าเช่นนี้นะ...
“เฮ้อ...อากาศสบายดีจริงๆเลย เอเฟีย รีบๆขุดดินเข้าล่ะยัยเกษตรกร ฮ่าฮ่าฮ่า”
ปึด ปึด ปึด...
ปรอทความอดทนของนางลดฮวบลงสู่ศูนย์อย่างรวดเร็ว...
“ฮึ่ยยย...” ร่างระหงดันกายขึ้นยืนช้าๆ ดวงตาประหนึ่งนางมารร้ายเบี่ยงไปมองสัตว์เลี้ยงเชื้อสายแมวตัวเท่าๆลูกหมาแต่ปากเสียเกินตัวอย่างอาฆาต
“เสียงอย่างกับหมีควายออกลูก เฮ้อ...ใครได้เจ้าเป็นเมียนี่คงจะเหมือนตกนรกทั้งเป็น”
ดวงตาสีน้ำตาลหวานเบิกกว้างจนแทบถลน...
“เจ้า เจ้า!!” นิ้วเรียวเกร็งจนสั้นระริกชี้ไปที่กะโหลกเล็กๆ “... ไอเตี้ยยเฮงซวย!!! วันนี้ข้าจะต้องถลกหนังเจ้าไปขายให้ได้เลยยยย!!!”
เสียงใสแผดคำรามลั่นป่าราวกับนางยักษ์ มือเรียวเปื้อนเศษดินกระชากดาบเล่มยาวข้างเอว ชี้ไปยังไรเด็นน้อยที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ราวกับเสียงนั้นเป็นเพียงเสียงของแมลงหวี่แมลงวันน่ารำคาญ ซ้ำมันยังเอาขาหน้าปัดๆหูเรียว เหลียวซ้ายแลขวาทำหน้ากวนบาทาอย่างรุนแรง
ไรเด็นน้อยทอดถอนลมหายใจ ...เฮ้อ...มีนายเป็นผู้หญิงงี่เง่านี่ ข้านี่ซวยจริงๆ
เจ้าตัวเล็กเหลียวไปข้างกาย มองร่างระหงที่สบถยาวเหยียดนับคำไม่ถ้วนผิดวิสัยสตรีอย่างระอา
“ให้ตายสิ...” มันบ่นงึมงำ ยกอุ้งมือขวาชี้ไปหลังเอเฟีย “ถ้าเจ้าไม่เลิกทำตัวงี่เง่าแบบนี้ล่ะก็ วันนี้ข้าคงได้เปลี่ยนนายใหม่แน่ๆ ดีจริงๆ”
สาวผมแดงชะงัก ตวัดสายตาที่ราวกับจะฉีกหมาปากเสียตัวหนึ่งออกเป็นชิ้นๆด้วยมือเปล่ากลับไปด้านหลัง พลัน ดวงตาคู่งามก็พลันวาวระยับยินดีราวกับบุรุษในความฝันปรากฏตัว
หากสิ่งที่ยืนพ่นลมหายใจฟืดฟาดเดือดดาลนั่นกลับเป็นสิ่งมีชีวิตที่มิผิดจากหมู่ป่าตัวใหญ่ยักษ์ที่สูงสองเมตรกว่า เขี้ยวยาวโง้ง และนอสองนอเหนือจมูกสามเหลี่ยมสีดำมะเมื่อม
“ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีแฮะ”
“เหตุใดพระผู้เป็นเจ้าถึงยังทรงเมตตาเอเฟียคนเถื่อนอีก ไม่น่าเลย...ไม่น่าเลย...”
ดวงตาสีน้ำตาลตวัดขวับ ชี้หน้าไรเด็นน้อยอย่างหมายมาด “คอยดูเถอะ!” นางเข่นเขี้ยว “ข้าจัดการกับไอ้หมูบ้านี่เสร็จแล้วจะถลกหนักย่นๆของเจ้าเป็นตัวต่อไป ไอ้เตี้ย!”
ความขุ่นมัวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและก็จากไปอย่างรวดเร็วพอๆกัน เมื่อลาภชั้นเลิศปรากฏตรงหน้า เอเฟียกระหยิ่มยิ้มย่อง ค่อยๆเดินเบี่ยงสร้างระยะห่างกับไอ้หมูป่ายักษ์นี่อย่างใจเย็น ในใจพลางคิดคำนวณว่าเงินที่ได้จากการขายนอทั้งสองของมันที่คงจะทำให้นางนอนในโรงแรมหรูๆ และนั่งกินเหล้าสบายใจเฉิบในร้านสุดหรูได้กี่วันกันนะ...ขอบคุณสวรรค์ที่ประทานหมูป่ายักษ์ที่แสนดุร้ายและหายากจนนอของมันราคาแพงหูฉี่เช่นนี้มาให้นาง
ครืด...ครืด...
ขาหน้าของหมูป่ายักษ์เริ่มตะกุยดินข้างหน้าอย่างเตรียมพร้อม ดวงตาเรียวเล็กจับจ้องเหยื่อตัวเล็ก ลมหายใจเหม็นหืนถอนดังฟืดฟาดผ่านจมูกใหญ่ๆ
และวินาทีนั้นมันก็พุ่งเข้าใส่นาง!!
“เฮ้อ...สงสารหมูดวงซวย” ไรเด็นว่าพลางโคลงหน้าเหนื่อยหน่าย วางใบหน้าเล็กๆลงบนสองขาหน้า เหลือบดวงตาเหลียวมองเล็กน้อย ก่อนจะปิดลงอย่างรู้ชะตากรรมหมูดี
เอเฟียเหยียดยิ้ม หมุนดาบในมือลงให้ปลายดาบชี้ลงพื้น สองขาเหยียบย่ำลงบนผืนดินสีเขียวอย่างมั่นคง สมาธิและความใจเย็นคือสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในยามปกติธรรมดา หากในยามที่นางจับดาบ...สิ่งนั้นคือสิ่งที่ทำให้นางมิเคยเป็นรองผู้ใด...
ร่างใหญ่พุ่งเข้ามาอย่างไม่ลืมหูลืมตา สองนอและสองเขี้ยวโง้งมุ่งหมายจะขวิดเหยื่ออันแสนโอชะ!
ดวงตาคู่งามหรี่ลง สิ่งแวดล้อมรอบกายหายไปจากคลองจักษุที่ปรากฏเพียงภาพของศัตรูร้าย สองหูสดับเพียงเสียงของฝีเท้าและลมหายใจกรรโชก...ดุจทุกสิ่งหยุดนิ่ง มีเพียงนางและหมูยักษ์ที่ยังคงเคลื่อนไหว...
วินาทีสุดท้ายของชีวิตมาถึง!
“ฮู่ม!!”
สัตว์ยักษ์คำรามร้อง สะบัดหน้าให้เขี้ยวโง้งและนอทั้งสองแทงทะลุร่างเหยื่อ หวังปลิดชีพในคราเดียว
หากสัตว์เดียรัจฉานหรือจะฉลาดเท่ามนุษย์..
สาวผมแดงเพียงฉากเท้าออกข้างหลบง่ายๆก็สามารถรอดพ้นจากวิถีของสัตว์ป่า และในวินาทีเดียวกัน ดาบเรียวบางทว่าคมกริบอย่างยิ่งก็ถูกตวัดขึ้นกลางอากาศ และสะบั้นผ่านคอตันของหมูป่าอย่างง่ายดาย...
ไม่มีแม้แต่เสียงร้องสักแอะ เมื่อตอนที่คอของมันขาดกระเด็น ธารเลือดฟุ้งกระจาย ร่างใหญ่ล้มคว่ำลงกับพื้น ดิ้นพรวดพราดครู่เดียวก็แน่นิ่ง
เอเฟียยืนนิ่งยิ่งเหยียดรอยยิ้มยิ่งกว่าเก่าเมื่อมองเห็นเค้าลางเงินก้อนใหญ่ลอยเข้ามาในกระเป๋าตังค์ใบโปรด ร่างระหงย่างก้าวเข้าไปหาหมูป่า จัดการตัดนอของมันออกอย่างสบายใจทั้งยังฮัมเพลงอะไรสักอย่างคลอไปด้วย
ไรเด็นรอจนกระทั่งเอเฟียจัดการกับนอและเขี้ยวเสร็จ เจ้าตัวเล็กก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจและเดินตามเอเฟียที่ราวกับจะลืมมันไป...
...กระบวนท่าหนึ่งที่เอเฟียชื่นชอบที่สุด ช่ำชองที่สุดและจัดการศัตรูได้มากที่สุดก็คือการโจมตีสวนกลับหรือที่มักจะรู้จักในนาม ‘เคาน์เตอร์ แอทแทค’เหยื่อที่โง่เง่ามักจะพุ่งเข้าหาอย่างไม่ลืมหูลืมตา และเอเฟียที่ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคนก็จะอาศัย ‘จังหวะ’ เสี้ยวเล็กๆนั้น สวนกลับเข้าที่จุดตายซึ่งก็คือ ‘คอ’ อย่างหนักหน่วง
ไม่ตายก็เจ็บหนัก...
และเพราะทักษะนั้นเอง...ไม่ว่านางจะตกอับ ยากจนข้นแค้นจนต้องหาของป่าขายสักกี่ครั้ง เมื่อนางเจอกับศัตรูที่ร้ายกว่า นางก็สามารถหอบรางวัลล้ำค่ากลับมาแลกเป็นเงินได้อย่างง่ายดายด้วยเพลงดาบบทเดียว
...ยามปกติเอเฟียบ้าได้ดั่งพายุฤดูร้อนได้ฉันใด...ยามจับดาบนางสงบยิ่งกว่าห้วงทะเลลึกฉันนั้น...
ความคิดเห็น