ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Blood Rush

    ลำดับตอนที่ #8 : ลักพาตัว!!

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.พ. 51


    Chapter 7

    : ลักพาตัว!!

     

    ดวงตาคู่งามค่อยๆลืมปรือขึ้นช้าๆ กระพริบตาปริบอยู่สองสามหน ก่อนคิ้วเรียวจะเริ่มขมวดเข้าหากันเมื่อพบว่าสิ่งที่อยู่เบื้องบนสุดสายตามิใช่ผืนฟ้ากว้างแต่เป็นเพดานห้องสีขาวนวล

    ตื่นแล้วหรือจ๊ะ?”

    เสียงไม่คุ้นหูทำให้ริอารีบลุกพรวดมองเจ้าของเสียงอย่างหวาดระแวง หญิงวัยกลางคนร่างท้วมนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียงที่นางนอนอยู่ ส่งยิ้มอ่อนโยนให้

    ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก ข้าแค่มาเฝ้าเจ้าตามที่ถูกขอร้องเท่านั้นเอง ร่างท้วมละมือจากผ้าที่กำลังนั่งปัก แตะลงบนไหล่บางแล้วกดเบาๆให้เด็กสาวนอนลง เจ้ายังไม่หายไข้เลย อย่าพึ่งรีบลุกสิ นอนไปก่อนเถอะ

    ดวงตาดุจลูกกวางน้อยสอดส่ายหาสองร่างที่คุ้นเคยและฝืนต้านแรงที่พยายามลดร่างของนางลงบนเตียงอย่างแข็งขืน

    พี่เอเฟียไปไหนคะ? แล้วไร... เสือน้อยล่ะคะ นางละคำว่า ไรเด็น เอาไว้ เพราะสิ่งที่เอเฟียเคยบอกไว้ว่า ไรเด็นเป็นที่ต้องการของพวกนักล่ามาก เพาะฉะนั้นจะเป็นการดีที่สุดหากได้ปิดบังตัวตนของมันไว้... ออ เพราะอย่างนี้หรือเปล่านะ พี่เอเฟียถึงเลี่ยงการเข้าไปในเมือง...

    หญิงร่างท้วมร้อง อ๋อ ขยับดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มร่างบางที่สุดท้ายก็ยอมลงไปนอนโดยดี นางบอกว่าจะออกไปซื้อยาให้เจ้าน่ะ กับเจ้าลูกเสือด้วย แล้วบอกให้ข้ามาช่วยเฝ้าเจ้าหน่อย นี่ก็ไปนานแล้ว อีกสักพักคงกลับมาน่ะ

    ริอาพยักหน้ารับเนือยๆ ปิดตาลงด้วยความปวดหัวตุบๆที่รุมเร้าเข้ามาและยิ่งรู้สึกมากเมื่อนางรู้ตัว

    เจ้าน่ะเป็นไข้ป่า ไปเดินทางในป่ามาหรือ?”

    เด็กสาวพยักหน้าอีกครั้ง รู้สึกไม่อยากตอบคำถามแต่ก็กลัวอีกฝ่ายเสียน้ำใจ

    ที่นี่น่ะคือโรงแรมริมวารี โรงแรมอันดับหนึ่งของเมืองนี้เชียวนะ... ใบหน้าอูมใจดีก้มลง เมื่อมือขวาหยิบผ้าที่ปักค้างไว้มานั่งทำต่อ ปากก็เล่าเรื่องราวขณะที่เด็กสาวหลับพลาง ตอนแรกเราเห็นพี่สาวผมแดงของเจ้าอุ้มเจ้าเข้ามาก็นึกว่านางมอมเหล้าเจ้า นี่ข้าสารภาพตามตรงเลยนะ ฮะฮะ... ข้าขอโทษด้วยแล้วกัน

    นางหัวเราะขำกับความคิดในแง่ลบของตัวเองในทีแรก แล้วเล่าต่อ

    แต่พอเห็นนางเข้ามาจองห้องใกล้ๆ แล้วเห็นเจ้านอนหลับไม่ได้สติแถมยังไข้ขึ้นสูงอีก เราก็รู้ตัวว่าคิดผิด ข้าเลยรีบเตรียมนำนางมาที่ห้องนี้ พอนางวางเจ้าลง นางก็ขอให้ข้าช่วยเฝ้าเจ้า ส่วนนางก็รีบออกไปซื้อยาให้...

    สติของเด็กสาวเริ่มเบลอเลือน แม้จะพยายามฝืนลืมตาสักแค่ไหน แต่สมองที่มึนงงก็ทำให้เปลือกตาหนักอึ้งจนไม่อาจลืมขึ้นได้อีก หูของนางแว่วป้าข้างเตียงพูดอะไรฉอดๆไม่หยุด แต่ก็ไม่ปะติดปะต่อ สติของนางเริ่มเลือนขึ้นทุกทีๆ และสุดท้ายเมื่อทุกอย่างกลายเป็นความมืด ความคิดที่จะรอพี่เอเฟียกลับมาก็กลายเป็นอากาศธาตุไป...

     

    ริอาลืมตาขึ้นมาอีกหนก็พบว่า ในห้องที่นางอยู่มีเพียงป้าคนเดิมที่นั่งสัปหงกฟุบกับโต๊ะ แต่วี่แววของพี่เอเฟียกับไรเด็นน้อย...

    เด็กสาวยันกายขึ้นช้าๆ และต้องรีบหลับตาลงเมื่อเกิดหน้ามืดขึ้นมาเฉยๆ แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น... ร่างเล็กดันกายขึ้นจากเตียง ก้มลงมองเสื้อผ้าของตนเองแล้วเดินไปเปิดกระเป๋าเดินทางของนางเพื่อหยิบเอาเสื้อคลุมออกมาคลุมทับอีกชั้น แล้วค่อยย่องออกไปจากห้อง ด้วยความคิดใหม่ว่า... จะไปรอพี่เอเฟียข้างล่าง...

    ริอาใช้มือจัดการทรงผมตัวเองลวกๆ เดินลงบันไดที่ปูพรมตามทางช้าๆเพราะความไม่มั่นคงในสติที่มึนงง แต่แม้ว่านางจะไม่ค่อยสบายอยู่ก็ตาม นางก็ยังสังเกตเห็นความอลังการของโรงแรม ริมวารี นี่ได้อย่างชัดเจน

    ... สมแล้วที่เป็นโรงแรมอันดับหนึ่ง... ไม่ว่าจะการตกแต่งที่งดงามด้วยรูปภาพศิลป์ประดับกำแพง โคมไฟระย้า เข้าชุดกับเชิงเทียนทองเหลือง รูปปั้นที่ราวกับจะมีชีวิตจริงๆ พรมสีแดงเรียบๆปูตลอดทางเดินสุดชั้นทอดต่อลงไปจนถึงชั้นล่าง และมุมนั่งเล่นราคาแพงที่ราวกับอยู่ในคฤหาสน์หรูหรา... มือเล็กลองป้ายที่ข้างกำแพง...แม้แต่ฝุ่นสักนิดก็ไม่มี...

    ริอาเดินผ่านส่วนหน้าของโรงแรม สังเกตเห็นพนักงานทุกคนที่นางเดินผ่านว่าพวกเขาจะโน้มกายลงน้อยๆให้กับนาง... แม้แต่การบริการก็ยอดเยี่ยม

    เด็กสาวก้าวเดินผ่านประตูไม้สลักร่วมสมัย เพียงแค่เดินผ่าน... สายลมเย็นเฉียบก็ต้องผิวหน้าบางจนขนลุกซู่!... ริอาอดยิ้มไม่ได้ นางชอบอากาศเย็น แต่เมืองที่นางเคยอยู่ไม่เคยมีอากาศเย็นขนาดนี้ พอมาเจออากาศเย็นๆเช่นนี้นางเลยอดที่จะอารมณ์ดีขึ้นมาไม่ได้... นึกไม่ถึงว่าเมืองที่ห่างเพียงไม่กี่เมืองจะมีภูมิอากาศยามค่ำคืนที่ต่างขนาดนี้

    มือเล็กกระชับเสื้อคลุมให้แน่นยิ่งกว่าเดิม อดคิดไม่ได้ว่าคงเป็นเพราะอาการไข้จึงทำให้นางรู้สึกหนาวกว่าปกติ

    แล้วนางก็เข้าใจที่มาของชื่อโรงแรมเป็นอย่างดีหลังจากก้าวลงจากขั้นบันไดหินอ่อนห้าคั่นแล้วหันไปมองทางซ้ายมือ...

    แม่น้ำ!...แม่น้ำสายใหญ่ไหลมาจากสุดลูกหูลูกตาและทอดไปไกลสุดลูกหูลูกตาอีกเช่นกัน!

    เสียงพายกระทบน้ำดังจ๋อมแจ๋มจากเรือลำน้อยที่ล่องลอยไปตามสายน้ำ แสงไฟจากตะเกียงส่องวับๆแวมๆ ดุจแสงหิ่งห้อยกลางธารน้ำเล็กๆ แตก็ไม่อาจเทียบความงามของแสงจากดวงดาราที่กระทบลงบนผิวน้ำจนเกิดประกายระยิบระยับราวกับลำธารอัญมณี...

    ริอาหยุดยืนชื่นชมความงามของธรรมชาติที่มนุษย์มิอาจเลียนแบบได้จนเต็มปอด ก่อนเหลียวกลับไปอีกด้านซึ่งพบว่ามันเป็นถนนที่ทอดยาวเข้าสู่ตัวเมืองซึ่งไม่ห่างออกไปมากนัก ราวกับว่าโรงแรมนี้สร้างห่างออกมาเล็กน้อยเพื่อบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวและห่างไกลจากเสียงรบกวน

    แต่สิ่งหนึ่งที่นางเห็นว่าควรปรับปรุงก็คือ ทางเดินที่มีแสงสว่างเพียงน้อยนิด... แม้ว่ามันจะให้บรรยากาศที่งดงามก็ตาม แต่นางก็คิดว่ามันยังค่อนข้างเปลี่ยวเกินไปสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียว

    ริอาทอดถอนใจกับความลังเล... ใจหนึ่ง นางอยากจะเดินไปดูร้านรวงแน่นขนัดเบื้องหน้าซึ่งเปลี่ยนค่ำคืนให้สดใสเฉกเช่นกลางวัน ผู้คนแออัดยัดเยียดเดินไปมาสัญจรจับจ่ายซื้อของชวนให้นางรู้สึกอยากเข้าไปบ้าง แต่อีกใจหนึ่งก็เตือนนางว่า พี่เอเฟียใกล้จะกลับมาแล้ว นางควรจะรอที่ห้องและทางที่จะเดินไปมันก็มืดเสียด้วย...

    แต่สุดท้ายจิตใจฝ่ายเด็กก็ได้รับชัย... สองขาเลือกจะก้าวเดินตรงไปยังตลาดนัด และบอกกับใจที่พยายามเตือนเรื่องพี่เอเฟียว่า นางจะเดินอยู่แถวนี้ แล้วถ้าพี่เอเฟียกลับมา นางก็ต้องเห็นแน่ๆ!’

    และนั่นคือความผิดพลาดครั้งใหญ่...

    ริอาที่กำลังอารมณ์ดีจนไม่สนใจสังขารอ่อนแรงของตัวเองและสังหรณ์ที่กำลังร้องเตือนมุ่งหน้าตรงไปยังตลาด... นางอารมณ์ดีเสียจนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้าใกล้นางเรื่อยๆ...

    จวบจนกระทั่งสองมือใหญ่กร้านแบบผู้ชายของใครคนหนึ่งสอดมาจากข้างใบหน้าของนาง ผ้าสีขาวตวัดโปะระหว่างจมูกกับปากกลิ่นฉุนของบางสิ่งทำให้เด็กสาวง่วงงุนอย่างหนัก!

    ริอากลั้นลมหายใจ แต่สัญชาติญาณก็ทำให้นางเปิดปากตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ แต่เสียงที่ผ่านมาก็มีเพียงคำพูดอู้อี้แผ่วเบาไม่ได้ศัพท์ สองมือบางพยายามจิกข่วนกระชากมือที่ปิดปากนางออกแต่ก็ไม่เป็นผล ดวงตาสีนิลที่ตื่นตระหนกเบิกกว้างมองภาพตลาดเบื้องหน้าที่ถอยห่างออกไปช้าๆ นางกำลังถูกลากเข้าในซอยมืด!

    เรี่ยวแรงที่มีเพียงน้อยนิดเหือดหายไปอย่างรวดเร็ว หยาดน้ำตาไหลอาบใบหน้าและเอ่อล้นดวงตาจนทุกสิ่งพร่ามัว... สำนึกสุดท้ายก่อนสติของนางจะถูกกระชากทิ้งคือการร้องเรียก...

    พี่เอเฟีย...ช่วย...ข้า...ด้วย......

     

    ฝีเท้าที่กำลังจ้ำอ้าวหยุดกึก จนไรเด็นน้อยที่วิ่งนำไปต้องหยุดชะงักแล้วหันกลับไปมองนายสาว

    เป็นอะไรไปเอเฟีย!?”

    ราชันน้อยเปล่งเสียงไม่ดังนัก อย่างน้อยเส้นที่แออัดไปด้วยผู้คนและเสียงเจี้ยวจ้าวก็ทำให้ไม่มีใครสนใจที่มาของเสียงเสียงหนึ่งนี่อยู่แล้ว

    เปล่า... เอเฟียส่ายหน้า หัวคิ้วขมวดครุ่น แค่รู้สึกว่าริอาเรียก...แต่คงไม่หรอก นางไม่มีทางมาอยู่แถวนี้แน่ เราไปต่อเถอะ นางตัดบทเริ่มออกเดินอีกครั้ง ส่ายหน้ากับความรู้สึกแปลกๆเมื่อครู่ที่ค้างคาใจ...ถ้าสมมติว่าริอาไข้ขึ้น ป้าคนนั้นก็คงจะดูแลนางได้... อีกไม่นานนางก็จะถึงโรงแรมแล้ว คงไม่มีอะไรหรอก...คงไม่มีอะไร

    นึกถึงเรื่องนี้แล้วเอเฟียก็ขัดใจปนหงุดหงิดขึ้นมา... จะไม่ให้นางโกรธได้อย่างไร ในเมื่อเมืองใหญ่ขนาดนี้แต่กลับมีร้านหมอที่เปิดยามค่ำคืนแค่ร้านเดียว แถมอยู่ไกลจากโรงแรมที่นางมาจองห้องเสียอีก!

    และเพราะเปิดอยู่ร้านเดียว คนจึงแห่กันมาจนเต็มร้าน กว่านางจะซื้อยาให้ริอาได้ นางก็รอจนแทบบ้า!

    ร่างระหงกลับมาถึงห้อง มือเรียวที่กำลังจะเคาะประตูเรียกคนข้างในค้างเติ่งเมื่อเห็นบานประตูเปิดแง้ม!!

    เอเฟียผลักประตูเข้าไปเต็มแรง...นางจำได้ว่าก่อนออกไปก็ลงกลอนเรียบร้อย แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น!?... ร่างระหงก้าวพรวดเข้าไป และนางก็พบว่าบนเตียงว่างเปล่า...ไร้ร่างบางที่ควรจะนอนซม และป้าที่นางฝากให้ดูแลริอาด้วยเงินพิเศษมากโขก็ดันหลับอุตุอยู่!

    ไรเด็นน้อยวิ่งวนหาริอารอบห้อง กระโจนขึ้นไปเหยียบบนที่นอนแล้วขยับปากไร้เสียงว่า เย็น

    ถุงยาตกลงกับพื้น เอเฟียเดินแทบวิ่งไปที่เตียงแล้วอังมือลงสัมผัสไออุ่น... มันยังหลงเหลือไออุ่นบ้าง หากน้อยนิด หมายความว่าริอาออกไปนาน...หรือถูกพาตัวออกไปนานแล้ว...!!!

    ความเครียดแรกจึงลงไปที่คุณป้าผู้กำลังนิทราเป็นสุข...

    ป้า!!!”

    เสียงเรียกนั้นไม่เบาเลย และมันก็ส่งผลให้ร่างท้วมนั้นสะดุ้งตื่น หันรีหันขวางทำอะไรไม่ถูก อะไรๆ ไฟไหม้หรอ!?”

    เอเฟียพ่นลมหายใจหนักๆ ชี้มือไปที่เตียงที่ว่างเปล่า

    นางไปไหน? ทำไมไม่ตื่นเฝ้านาง? ที่ข้าให้เงินพิเศษไปก็เพราะว่าท่านบอกว่าจะคอยตื่นเฝ้านางทั้งคืนนี่!”

    ร่างท้วมเริ่มลุกลี้ลุกลน เอ้อ...ข้า...อ้าว แม่หนูน้อยหายไปไหนตั้งแต่เมื่อไหร่? อยู่ในห้องน้ำหรือเปล่า?”

    สาวผมแดงกัดฟันกรอด ไม่มีค่ะ! เชิญท่านออกจากห้องข้าไปได้เลย! ข้าจะตามหานางเอง!”

    เอเฟียเดินไปหยิบกุญแจที่วางบนโต๊ะ ก่อนรุนหลังร่างท้วมให้ออกจากห้องแล้วจัดการลงกลอนอย่างดี... ก่อนจะวิ่งพรวดลงบันไดไปชั้นล่างพร้อมๆกับไรเด็นน้อย

    ที่หมายแรกคือพนักงานจองห้องหนุ่มที่โค้งกายให้กับนางเมื่อนางก้าวเข้าไปใกล้

    มีอะไรให้รับใช้ขอรับ...

    เอเฟียสูดลมหายใจลึก สองมือของนางกำหมัดแน่น ชะโงกหน้าเข้าไปหาพนักงานหนุ่มแล้วกระซิบเสียงเครียด

    บราวน์...คนของข้าหายตัวไป...

    อีกฝ่ายนิ่งไปพัก ก่อนกระซิบตอบด้วยน้ำเสียงที่ต่ำลง

    ข้าพึ่งมาเข้าเวรไม่ถึงสิบนาทีเลยขอรับ หากนางหายไปคงเป็นช่วงที่ข้ากำลังพัก

    หญิงสาวยิ่งกัดฟันกรอดกับคำตอบนั้นอีก มันบอกว่าเขาไม่เห็นช่วงที่นางหายตัวไป

    หากท่านต้องการแหล่งข่าวที่ดีที่สุด ข้าแนะนำ...

    ข้ารู้แล้ว!! ไม่ต้องบอก!!! เจ้าแค่ออกตามหาตัวนางให้เร็วที่สุด นางไม่สบาย! และข้าไม่ต้องการให้นางโดนจับตัวไปก่อน!!”

    ผู้ถูกเรียกว่าบราวน์ก้มหน้าลงอีกครั้ง กระซิบตอบเสียงเรียบหากเครียดตามลูกค้าสาวกิตติมศักดิ์

    ขอรับ ท่านหญิง...

     

    เอเฟียก้าวออกจากโรงแรม มือซ้ายกำฝักดาบแน่นจนสั่นสะท้าน

    ริอาจะไม่เป็นไรหรอก

    เสียงของไรเด็นน้อยปลอบประโลมอย่างสงสาร มันเข้าใจความรู้สึกของเอเฟียดี เพราะมันก็รู้สึกไม่ต่างกัน... เพียงแต่ไม่สามารถกล่าวออกมาเป็นคำพูดให้คนอื่นนอกจากเอเฟียกับริอาได้ยินได้!

    นางจะต้องไม่เป็นไรสิ!” เอเฟียย้ำเสียงหนัก เพราะถ้านางเป็นอะไรไป ข้าจะไม่ยกโทษให้ตัวเองเลย!!”

     

    ซ่า!!

    สายน้ำเย็นเฉียบที่สาดกระทบหน้าทำให้ริอาสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ... เด็กสาวตัวสั่นเทิ้ม กับอากาศที่เย็นเฉียบยิ่งกว่าในฤดูหนาว!

    หัวของนางปวดตุบๆ... มันปวดยิ่งกว่าเดิมอีก และเสื้อคลุมที่นางสวมทับชั้นนอกก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยเพราะมันเปียกโชกไปหมดแล้ว

    หน้าตาน่ารักดีนี่

    เสียงห้าวแหบของผู้ชายทำให้เด็กสาวหันขวับด้วยความตกใจ เบื้องหน้านางใกล้กับประตูที่เปิดกว้าง ชายฉกรรจ์ท่าทางดุร้ายยิ่งกว่าคนของท่านพ่อยืนตระหง่าน... ดวงตาเรียวเล็กของทั้งคู่จับจ้องนางด้วยแววตาที่ทำให้นางรู้สึกแย่เป็นที่สุด

    เออสิวะ! ข้าน่ะ ไปดักรอตั้งแต่เห็นแม่สาวอีกคนอุ้มเข้าโรงแรมแล้ว ตอนแรกว่าจะเอาแม่นั่น แต่เผลอแปบเดียวก็หายไปแล้ว กำลังดักรอมันกลับมาพอดี แต่บังเอิญเห็นแม่นี่เดินออกมาก่อน ข้าเลยเอาตัวมา

    คำพูดที่ราวกับเป็นเรื่องปกติทำให้ร่างของนางยิ่งสั่นด้วยความกลัว เด็กสาวถดกายจนเข้าไปซุกกับมุมห้องราวกับกระต่ายน้อยที่โดนต้อนจนจนมุมจากเสือร้ายสองตัว

    มันสองคนหัวเราะหึๆแผ่วเบา มองท่าทางหวาดกลัวของอีกฝ่ายด้วยความขบขันร้ายกาจ

    ดูสิ กลัวพวกเราด้วยว่ะ ฮ่าฮ่า!”

    แหม สาวน้อย ไม่ต้องกลัวหรอกนะ พวกข้าน่ะ ไม่ทำอะไรเจ้าอยู่แล้ว ขอแค่เจ้าทำตัวเป็นเด็กดี ว่าง่าย เจ้าก็มีอาหาร มีที่อยู่มีเสื้อผ้าแล้วล่ะ หึหึ หนึ่งในนั้นก้าวเข้ามาหานาง ยอบกายลงนั่งตรงหน้าแล้วแสยะยิ้มน่ารังเกียจ หน้าตาใสๆน่ารักๆย่างเจ้าคงขึ้นเป็นที่หนึ่งไม่ยากหรอก

    ริอาปากสั่น หัวใจเต้นแรงจัดทั้งจากความกลัวและพิษไข้ที่ดูจะหนักขึ้นกว่าเก่าเพราะน้ำเย็นจนต้องหอบหายใจแรงๆ

    ที่หนึ่ง...อะไร...?”

    อีกคนหนึ่งยิ้มกว้าง และแผดเสียงหัวเราดังเมื่อคำตอบของมันทำให้เด็กสาวที่เคยหน้าแดงจัดถึงกับหน้าถอดสีในพริบตา

    ขายตัวไงน้อง ฮ่าฮ่าฮ่า!!”

    ชายคนแรกหัวเราะเบาๆ ดวงตาหรี่ลงอย่างเจ้าเล่ห์ หลังจากที่เอื้อมมือไปจับปลายคางของเด็กสาวได้ เจ้ายังบริสุทธิ์อีกหรือเปล่าน้า...เสียดายจังที่พวกข้าไม่มีโอกาสลอง เจ้าก่อน เพราะ เจ๊ กลัวว่าเจ้าจะยังบริสุทธิ์แล้วจะเสียราคาไปโข

    ความบ้าบิ่นจากความจนตรอกและอุปนิสัยที่เริ่มติดจากเอเฟียมานิดๆทำให้เด็กสาวใช้ขา ยัน คนตรงหน้านางจนมันล้มหงายหลังไป เสียงหวานกร้าวขึ้นไปพริบตาที่ได้ลิ้มรสของชัยชนะเล็กๆ

    อย่ามาแตะตัวข้านะ!”

    ชายที่ถูกถีบยันตัวขึ้นมานั่ง ดวงตาเบิกโพลงด้วยความเกรี้ยวกราดจนทำให้ท่าทางยืดยกสู้เมื่อครู่ของริอากลายเป็นศูนย์ในพริบตา

    หนอย!! นังนี่!กล้าทำข้างั้นหรอ!!!”

    มือใหญ่กระชากคางเล็กมาใกล้ ก่อนซัดฝ่ามือสองฉาดเข้าที่แก้มนวลจนเด็กสาวหน้าหัน!

    เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!

    ก่อนสะบัดมือที่บีบคางให้นางล้มลงกับพื้น!

    ริอายกมือปิดปากกลั้นเสียงร้องของความเจ็บปวด...อย่างน้อยช่วงเวลาสั้นๆที่เคยได้อยู่กับเอเฟียก็ทำให้นางเข้มแข็งขึ้น...แม้จะเพียงแค่เศษเสี้ยวก็ตาม...

    มันหอบหนักๆ กำหมัดแน่นก่อนระบายความโกรธด้วยการกระแทกหมัดไปที่ท้องน้อยของเด็กสาวจนนางตัวงอ ร้องไม่ออกได้แต่กุมท้องร้องไห้

    ปากเก่งนี่! แต่ไม่เห็นจะเก่งเหมือนที่พูดเลย ทุเรศว่ะ! ถุย!!”

    มันถ่มน้ำลายลงบนแก้มสินค้าอย่างโกรธจัด นรกสิ! ถ้าเจ๊ไม่สั่งห้ามละก็ ข้าจะเอาจนเจ้าต้องร้องขอความปราณีแน่ๆ!!”

    ชายฉกรรจ์อีกคนที่อยู่ในห้องเดินเข้ามาใกล้เพื่อนของเขา หัวเราะสมเพชกับความเข้มแข็งที่แสนจะด้อยค่าของเด็กสาวอย่างดูแคลน

    น่า เจ้าอย่าไปทำอะไรมันมากเลย เดี๋ยวเจ๊รู้เข้าแล้วจะเราจะโดนดีเอา ตอนนี้เราแค่ตรวจดูว่านางยังบริสุทธิ์อีกหรือเปล่าก็พอ สวนเรื่องอื่น... ถ้าเจ๊ใจดีก็อาจจะให้พวกเรายืมนางก็ได้... แต่คงจะยากว่ะ เพราะเท่าที่ได้ยินมา นางค่าตัวแพงพอดูเลย ฮ่าฮ่า

    มันเป็นคำพูดที่น่าขยะแขยงที่สุดที่นางเคยได้ยินมา ริอานอนตัวสั่นอยู่กับพื้นทั้งจุกเสียดทั้งเวียนหัวจนรู้สึกไร้เรี่ยวแรง และคำพูดนี้ก็ทำให้นางนึกถึงสิ่งที่พี่เอเฟียเคยเล่า...หากลูกสาวโจรไม่มีคนคุ้มครอง พวกนางก็จะถูกขาย...

    พี่เอเฟียช่วยข้าด้วย!!

    และกว่านางจะรู้ว่าพวกมันคุยอะไรกันอยู่ ขาข้างหนึ่งของนางกูกกระชากลากไปกลางห้อง ชายฉกรรจ์สองคนที่คนหนึ่งทำหน้าเหมือนอยากฆ่านางให้ตายยืนที่ปลายขาและอีกคนหนึ่งมองนางด้วยแววตาหื่นกระหายยืนอยู่เหนือหัวนาง

    ใช่... แค่ทดสอบดูว่าแม่นี้ยังบริสุทธิ์อยู่หรือเปล่าก็พอ...

    เด็กสาวสะดุ้งวาบ ก่อนเสื้อคลุมของนางจะถูกกระชากออกไป ตามด้วยเสื้อของนาง

    อย่า...ไม่เอา...

    เสียงของนางระโหยโรยแรง ความปวดหัวหนักหน่วงจนแทบร้องไห้ทำให้นางไม่มีแรงพอจะต้าน แต่เมื่อมันรำคาญมากเข้าสองมือของนางก็ถูกกดลงกับพื้น กำแน่นจนเจ็บและไม่อาจกระชากให้หลุด

    อย่าทำข้า!!!”

    ร่างบางหวีดร้อง ชุดกระโปรงที่สวมหลุดออกจากร่าง เปิดเปลือยร่างขาวโพลนที่มีเพียงปราการชั้นในสองชิ้นตัวน้อยที่ปิดอยู่ ดวงตาที่ไม่อาจปิดสันดานดิบของชายทั้งสองลุกวาวขึ้นในทันที

    จะเป็นอะไรไหมวะ ถ้า เรา จะทำอย่างอื่นมากกว่าตรวจสอบสินค้าน่ะ?”

    ขอแค่อย่าให้เป็นอันตรายกับพรหมจรรย์ก็พอละมั้ง หึหึ

    ริอากายสั่นเทิ้ม นางไม่รู้จักอารมณ์ดิบของผู้ชาย และอย่างยิ่งยิ่ง นางไม่เคยเห็นธาตุแท้ของผู้ชาย ครั้งแรกที่นางได้ออกจากบ้านครั้งเดียวคือครั้งที่นางทะเลาะกับท่านพ่อและหนีเข้าร้านเหล้าอันเป็นเหตุให้ได้เจอกับพี่เอเฟีย...

    นางรู้สึกไม่ผิดกับลูกกระต่ายตัวน้อยที่กำลังถูกขย้ำ สัญชาติญาณกรีดร้องระงมให้หนีไปให้พ้นจากที่นี่ไม่เช่นนั้น...

    แต่มันสายไปเสียแล้วสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น... หากย้อนเวลาได้ นางจะไม่มีวันออกจากห้องโรงแรมเด็ดขาด นางจะยอมทนฟังป้าคนนั้นพูดเรื่อยเปื่อย นางจะยอมเป็นเด็กดีรอคอยพี่เอเฟียกลับมา...

    สองขาเรียวถูกแยกกว้าง มือสากกระด้างลูบไล้ตามเรือนกาย...

    สิ่งเดียวที่ริอารับรู้ในตอนนี้ นอกเหนือจากสัมผัสคุกคามที่ทำให้นางหวาดกลัว คือเสียงแห้งผากที่นางตะโกนร้องเรียก

    ม่ายยยย!!! พี่เอเฟีย!! ช่วยข้าด้วย! ช่วยข้าด้วย!!!”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×