ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [IRC project 2.0] Call of duty : GOAT จารชนคนเกรียนแบ๊ะ

    ลำดับตอนที่ #9 : Episode 1-1 : Is this a real life?

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 57


    "พันตรีลิซ่าครับ! ดูเหมือนเรดาร์มีอะไรแปลกๆ ครับ" เสียงของทหารนายหนึ่งพูดกับผู้บังคับบัญชาด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก ในห้องเต็มไปด้วยจอภาพจำนวนมาก เสียงสัญญาณของเรดาร์ไม่เป็นจังหวะอย่างที่ควรจะเป็นดังอยู่เป็นพื้นหลัง

    "เกิดอะไรขึ้น ? รายงานมาซิ" เสียงของผู้บังคับบัญชาคนนั้นเป็นเสียงของหญิงสาวที่ดูเยือกเย็น

    "จู่ๆ เรดาร์หมายเลขสี่เหมือนจะจับวัตถุประหลาดอะไรได้สักอย่าง" ทหารนายนั้นรายงานพร้อมกับจับจ้องไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเคร่งเครียด "กำลังเชื่อมต่อระบบภาพถ่ายทางดาวเทียมครับ"

    "แปลกนะ ปกติถึงจะตรวจจับอะไรได้ แต่เรดาร์มันไม่แสดงผลแบบนี้แน่ๆ" พันตรีหญิงพยายามให้เหตุผลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยประสบการณ์ของเธอ

    "เรดาร์หมายเลขสี่รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนบริเวณเมืองเอาท์โพสต์ครับ กำลังดึงภาพจากดาวเทียม"

    ด้วยเทคโนโลยีภาพถ่ายทางอากาศที่คมชัดจนเห็นได้แทบจะถึงเม็ดดินที่อยู่บนพื้น แต่ภาพที่ปรากฏบนจอกลับไม่เป็นเช่นนั้น ภาพที่แสดงให้เห็นถึงทุ่งหญ้าจากบนท้องฟ้า แต่บนพื้นกลับมีวัตถุที่ไร้รูปทรงที่แน่นอนลักษณะเป็นภาพราวกับทีวีที่รับสัญญาณไม่ได้กำลังเคลื่อนที่จากทิศใต้ขึ้นไปทิศเหนืออย่างช้าๆ นอกจากตัววัตถุนั้นแล้วสิ่งแวดล้อมโดยรอบนั้นชัดเจนอย่างที่มันควรจะเป็น เป็นสิ่งแปลกประหลาดที่ทั้งสองไม่เคยเห็นมาก่อน

    "ไม่สามารถจับภาพได้เลยครับ เหมือนกับว่าสิ่งนั้นพยายามซ่อนตัวเองจากพวกเราอยู่ ส่งหน่วยลาดตระเวณภาคพื้นดินไปดีมั้ยครับ"

    "รู้สึกเวลาจะประจวบเหมาะเกินไปสำหรับที่ว่ากล้องพังนะ... ขอบคุณมากสิบเอกไบรอัน เดี๋ยวฉันจะติดต่อหาท่านจอมพลเลย"

    จริงๆ แล้วระดับพันตรีอย่างเธอเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีอำนาจในการติดต่อบุคคลระดับสูงอย่างเวอกัส นอกเสียจากว่านี่อยู่ในสภาวะประกาศสงครามกับแฟนตาเซียเช่นนี้ เวอกัสได้สั่งการกับกองทัพไว้ก่อนหน้านี้ว่า หากจับภาพหรือวัตถุต้องสงสัยที่ชายแดนของประเทศได้ สามารถต่อตรงถึงจอมทัพอย่างเวอกัสได้ทันที และอำนาจสั่งการสูงสุดจะผ่านเขาโดยตรง

    "พันตรีลิซ่า คิริชิมะ จากหน่วยเฝ้าระวังชายแดนฐานทัพเขตหนึ่งถึงท่านเวอกัสค่ะ" เธยกหูโทรศัพท์สายในขึ้นพูด "เราจับภาพของวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ที่ชายแดน... ค่ะ... เอ๋... ? โกสต์หรอคะ ? ค่ะ ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ"

    "สิบเอกไบรอัน ติดต่อคนที่ชื่อ 'โกสต์' มาด่วนเลย โกสต์ ท่านเวอกัสสั่งการมาโดยตรง"

    ก่อนที่สิบเอกหนุ่มที่นั่งอยู่หน้าจอภาพจำนวนมากจะเอื้อมมือไปยังโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆ เสียงประตูเลื่อนก็ถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงของคนผู้หนึ่ง

     

    "สวัสดีคร้าบ ! ที่นี่มีสิบเอกที่ชื่อไบรอันอยู่ไหมครับ พอดีผมมีธุระด่วนนิดหน่อย"

    เสียงของชายหนุ่มอายุยี่สิบเอ็ดสูงสง่าคนหนึ่ง ผมสั้นเรียบร้อยมีปอยผมสองข้างที่ตั้งชูขึ้นเด่น

    พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา

    เขาคือชายที่ถูกพูดถึงเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน

    โกสต์นั่นเอง

     

    --- เมื่อวานนี้ ---

     

    "ว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !  ไม่ผ่านสักทีเว้ยยยยยยยย" เสียงของชายหนุ่มแหวกร้องโวยวายในห้องที่มืดมิด

    ที่จริงแล้วเขาไม่ได้หายไปไหน หลังจากที่เขาเข้าไปใช้ห้องสมุดของฐานทัพ ก็พบกับคลังสมบัติจำนวนมหาศาล นั่นก็คือคลังการ์ตูนและเกมจำนวนมาก เยอะขนาดที่ว่าสามารถใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องได้อีกประมาณสามศตวรรษก็ไม่เบื่อ

    เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าทำไมฐานทัพของมีของแบบนี้เยอะแยะด้วย มันคงต้องมีคนใหญ่คนโตสักคนที่นี่เป็นโอตาขุแน่ๆ เขาได้หนังสือการ์ตูนและเกมมามากมาย เช่น [บิด โรคมรณะ], [ยอดนักสืบหิว โคขุน], [เมโทรซิตี้ บ้านเมืองคนบวม] เป็นต้น

    และสิ่งที่ทำให้เขากรีดร้องขึ้นมาเมื่อสักครู่นี้ คือวิดิโอเกม [Dark Science 2] เกมอภิมหายากแห่งประวัติศาสตร์ของเมโทรโปลิสเลยทีเดียว เขาเสียเวลาง่วนอยู่กับบอสตัวนี้มาเกือบเจ็ดชั่วโมงแล้ว เขาง่วนอยู่กับเกมนี้มากว่ายี่สิบชั่วโมงแล้วตั้งแต่เย็นเมื่อวาน เขาไม่ได้รับรู้ความเป็นไปใดๆ นอกจากห้องเขาเลย  

    อันที่จริงแล้วประชุมที่มี่กำหนดการในวันที่ 6 นี้เขาเองก็ไม่ได้ร่วมประชุมด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนจะผ่านไปได้อย่างราบรื่นดี เพราะไม่มีใครระแคะระคายตัวตนของเขาสักเท่าไหร่ จากการสังเกตสีหน้าของผู้ร่วมประชุมดูเหมือนจะอึ้งที่ในรายชื่อที่บอกไว้ว่า "แพะ" นั้นก็มีแพะไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวนั้นจริงๆ

    ... แพะจริงๆ ตัวเป็นๆ ด้วย

    แพะที่อยู่บนเก้าอี้ตัวนั้นคือ "เจ้าแกละ" เพื่อนแพะของเขาเอง

    โกสต์กับเจ้าแกละไปเจอกันในภารกิจสะกดรอยแก๊งโจรที่เขตหนึ่งนี้เองเมื่อสองปีก่อน เจ้าแกละอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าใกล้ๆ ฐานทัพนี้เอง โกสต์ได้ช่วยชีวิตมันจากการที่มันเกือบจะโดนแก๊งโจรที่หลบหนีมาอยู่แถวชายแดนจับไปกิน โกสต์ได้บุกเดี่ยวเข้าไปสังหารโจรเกือบยี่สิบคนด้วยตัวของเขาเองเพียงคนเดียว แต่ก็ได้ช่วยชีวิตแพะตัวหนึ่งมาด้วย ก็คือเจ้าแกละนั่นเอง

    เจ้าแกละเป็นแพะประหลาด มันชอบเคี้ยวซากหนังสือพิมพ์ของมนุษย์ที่มีคนชอบเอามาทิ้งแถวๆ ที่อยู่ของมัน แต่มันอ่านหนังสือพิมพ์ก่อนที่จะเคี้ยวมันเข้าปาก ทำให้มันมีความรู้เรื่องสังคมการเมืองของเมโทรโปลิสเป็นอย่างมาก โกสต์เองก็ชอบแปลงร่างเป็นแพะไปเสวนาการเมืองกับมันบ่อยๆ เหมือนกัน

    โกสต์ได้แอบติดกล้องและเครื่องดักฟังไว้กับเจ้าแกละ ทำให้เขาสามารถมาติดตามความเป็นไปของการประชุมได้แม้เขากำลังง่วนกับการปราบบอสในเกมอยู่ก็ตาม

    การประชุมประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 7 คนกับอีก 1 ตัว มีผู้นำการประชุมนี้คือ จอมพลเวอกัส

    โกสต์เคยได้ยินชื่อของเวอกัสมาบ้างว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถในการบริหารกองทัพและเมโทรโปลิสได้อย่างชาญฉลาด แต่ดูจากท่าทางและลักษณะการพูดแล้วเหมือนเขาจะไม่ชอบขี้หน้าเวอกัสเสียเลย เขาไม่ชอบคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดอยู่เหนือคนอื่น ทำตัวเหมือนว่าจะหลอกใช้คนอื่นได้ตลอดเวลา เขาเคยทำงานใต้คนนิสัยเช่นนี้มาบ้าง ทางออกที่ปัญหาน้อยที่สุดก็คือแสร้งทำเป็นโง่แล้วรับคำสั่งอย่างเดียว ดูเหมือนว่าจะชอบทำนิสัยให้ไม่น่าคบ แล้วทำเป็นว่าเขาจงใจทำเพราะวางแผนไว้ แท้จริงแล้วก็ไม่ต่างจากกลไกป้องกันตัวเองในรูปแบบที่เรียกว่า Rationalization

    เนื้อหาการประชุมไม่ค่อยมีอะไรเพียงแค่เวอกัสอธิบายเกี่ยวกับหน่วยพิเศษอย่างไม่ตรงประเด็นจนดูเหมือนจะพยายามปกปิดอะไรสักอย่างอยู่ การตอบคำถามก็ขอไปทีและย้อนไปย้อนมาจนน่ารำคาญ ดวงตาสีมรกตกับสีหน้าที่ดูเหมือนแสยะยิ้มตลอดเวลานั้นเยือกเย็นจนน่าสงสัยเหลือเกิน ที่เขาแปลกใจก็คือถ้าไม่ได้ฟังเสียงของเขาแล้วดูแต่หน้า โกสต์ก็อาจแยกเพศของเขาไม่ออกได้เหมือนกัน

    ประเด็นที่สำคัญกว่าคือผู้ร่วมประชุมคนอื่นที่ดูเหมือนจะเป็นสมาชิกร่วมหน่วยกับเขา เขาย้อนดูภาพวิดิโอที่เพื่อนแพะกวาดสายตาไปรอบห้อง

    เด็กผู้ชายอยู่ในชุดกองทัพ หัวขาวๆ ดวงตาสีฟ้า และชอบทำหน้าง่วงอยู่ตลอดเวลา นิ่งเงียบไม่ค่อยพูด

    เด็กผู้หญิงผมประบ่าสีน้ำเงินตัดกับนัยตาสีแดง ท่าทางเหมือนเงียบๆ เคอะเขินอยู่ตลอด

    เด็กผู้หญิงผมสีดำที่เหมือนเจ้าหนูจำไมที่ถามได้ถามดีจนโดนเวอกัสตอกกลับจนนิ่งเงียบ

    โกสต์เริ่มสงสัยว่าที่นี่มันหน่วยพิเศษสำหรับสงครามหรือโรงเรียนมัธยมปลายกันแน่ แต่เขาก็ยังดูวิดิโอต่อไป

    ชายในชุดกาวน์ที่ท่าทางเหมือนคนติดยา ที่แค่เห็นหน้าโกสต์ก็ไม่รู้สึกถูกชะตากับเขาสักเท่าไหร่

    หญิงผมสีทอง นัยน์ตาสีฟ้าในชุดลำลอง ใบหน้าที่เขาคุ้นเคยราวกับเพิ่งเจอมาไม่นานมานี้

    "ฮิโนะซารุ มิคัง"

    โกสต์ฟังบทสนทนาดูแล้วดูเหมือนมิคังจะโดนเด็กหนุ่มหัวขาวนั่นลากตัวมาด้วยวิธีการรุนแรงผิดมนุษย์มนา ที่จริงแล้วเขาแปลกใจมากทีเดียวที่มีคนรู้จักมาอยู่ในหน่วยเดียวกันกับเขา ถึงแม้ว่าจะด้วยท่าทีไม่ค่อยพอใจก็เถอะ

    หลังจากนั้นเจ้าแกละก็กลับมาจากประชุมด้วยกับการที่มีอะไรสักอย่างพันมาอยู่ที่เขาของมัน ซึ่งเขาเองก็ได้ฟังมาแล้วจากวิดิโอว่าเป็นสายรัดข้อมือที่ยืนยันสมาชิกในหน่วยพิเศษ เขาจึงดึงมันออกมาจากเขาเจ้าแกละแล้วใส่ไว้กับข้อมือซ้ายของตัวเองอย่างปฏิเสธไม่ได้

     

    เขาใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกับการทวนดูวิดิโอการประชุม นาฬิกาบอกเวลานี่คือเวลาเช้าแล้ว เขาได้นอนมานิดหน่อยตอนช่วงเย็นอยู่สามสี่ชั่วโมงแต่นั่นก็เพียงพอสำหรับเขาแล้ว เขาก็ยังคงใช้พยายามต่อสู้ลาสต์บอส [Lord Djinn] ของเกม [Dark Science 2] มาตั้งแต่เมื่อสามทุ่มแล้ว ความอดทนของเขากำลังจะขาดผึงถึงวิธีการปราบบอสตัวนี้ เขาลองพยายามหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตแล้วแต่ก็หาไม่พบ เพราะยอดขายของเกมนี้ขายได้ถึงสองแผ่นทั่วประเทศ และหนึ่งในสองแผ่นที่ว่านี้ก็อยู่ในมือเขานี่ล่ะ

    เขาเริ่มจนปัญญากับวิธีจบเกมนี้เสียที จนกระสั่งสายตาเขาไปสะดุดกับชื่อที่อยู่หลังกล่องใส่เกมที่เขายืมมา

    "ไบรอัน ลาร์คิสกอน (Brian Luckisgone)"

    ฟางเส้นสุดท้ายในการเคลียร์เกมของเขามาถึงแล้ว ดูเหมือนว่าคนคนนี้อาจจะเป็นเจ้าของเกมนี้และอาจจะช่วยเขาเรื่องวิธีการจบเกมนี้กับเขาได้ เขาจึงได้ค้นหาข้อมูลจากระบบฐานทัพ และพบว่าเขาอยู่หน่วยเฝ้าระวังชายแดนที่ฐานทัพเขตหนึ่งนี้เอง รีรอไม่ได้แล้ว

    ขณะนี้เป็นเวลาแปดโมงแล้ว นายทหารทุกคนน่าจะเริ่มทำงาน เขาไม่รอช้าวิ่งผ่านน้ำในสามสิบวินาทีและจัดการกับตัวเอง(รวมถึงกาแฟสำหรับมื้อเช้า)และเตรียมตัวออกไปสู่โลกภายนอกที่เขาไม่ได้สัมผัสมาสองวันเต็ม เขาเปิดประตูห้องออกมารับแสงแดดที่ไม่ได้เจอมานาน เขาใช้เวลาปรับสายตาให้ชินกับแสงอยู่ครู่หนึ่งเลยทีเดียว

    โกสต์เดินลงบันไดมายังห้องโถงและตรงไปยังประตูทางออกที่จะนำพาเขาไปสู่เบื้องนอก แสงแดดยามเช้าซัดใส่ใบหน้าของเขา

    "แบะะะะะะะ" เสียงของแพะตัวหนึ่งดังขึ้นมาทันทีที่เขาเดินออกมา

    โกสต์ก้มลงลูบคางของเจ้าแกละ เขาเห็นว่ามันคาบเศษหนังสือพิมพ์ที่มันเคี้ยวไปแล้วส่วนหนึ่งอยู่ส่วนที่ยังไม่โดนเคี้ยวเป็นภาพของแม่ทัพฝั่งแฟนตาเซีย เขาขุดข้อมูลจากความทรงจำแล้วดูเหมือนว่าจะชื่อเชสเซอร์กับแดเนียล เดี๋ยวนะ เจ้าแกละมันเคี้ยวจอมพลของฝั่งเราไปแล้วนี่หว่า

    แต่นอกจากเสียงของเจ้าแกละแล้ว ดูเหมือนว่าโกสต์จะได้ยินเสียงฝีเท้าของอีกคนหนึ่ง

    "คุณแพะคะ จะวิ่งไปไหนน่ะ" เสียงใสๆ ของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ดังไล่หลังตามเจ้าแกละมา

    เธอเป็นหญิงวัยรุ่นร่างเล็กผอมบาง ผมประบ่าสีน้ำเงิน ดวงตากลมโตและนัยน์ตาสีแดงตัดกับสีผมของเธอ เธอสวมชุดคลุมสีดำราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดของศาสนาคริสต์ ข้อมือซ้ายของเธอมีริสต์แบนที่คล้ายกับที่โกสต์ใส่อยู่ที่ข้อมือซ้ายเช่นกัน เธอคือเด็กสาวคนหนึ่งที่อยู่ในวิดิโอที่เขาเห็น

    เธอเองก็กวาดสายตาและมาหยุดอยู่ตรงข้อมือซ้ายของเขาเช่นกัน ดูเหมือนเธอเองก็คงรับรู้แล้วว่าเขานั้นเป็นสมาชิกสังกัดเดียวกับเธอ เด็กสาวมีท่าทีไม่คุ้นเคย แต่ก็ไม่แปลก เพราะเขากับเธอไมได้เจอกันมาก่อนหน้านี้เลย

    "เอ๋ คุณก็อยู่หน่วยพิเศษเหมือนหนูหรอคะ ไม่เห็นเจอกันมาก่อนเลย" เธอเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดก่อน

    โกสต์เองก็ยังอ้ำอึ้งกับบทสนทนาที่ไม่ได้คาดคิด เขาเองก็หมกอยู่แต่กับในห้องจนกระทั่งไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนมาอยู่ที่นี่แล้ว

    "สวัสดีครับ ผมชื่อโกสต์ครับ โกสต์ที่แปลว่าผีน่ะ ส่วนเจ้านี่ชื่อเจ้าแกละครับ" ชายหนุ่มยิ้มเล็กๆ พร้อมกับกล่าวแนะนำตัวเองและเพื่อนแพะ

    หญิงสาวเงียบและนิ่งค้างไปราวกับเห็นผี

    "จริงๆ แล้วผมเป็นวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ที่ห้อง 202 มาเป็นร้อยปีแล้วน่ะครับ" ชายครึ่งแพะเริ่มสนุกกับการอำเด็กผู้หญิงคนนี้เสียแล้ว

    เธอยังคงนิ่งเงียบต่อไปอีก ดวงตาเบิกโพลงขึ้นมามากกว่าเก่า ชายครึ่งแพะเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ เสียแล้ว

    "เช่นนั้นแล้ว ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ" เขาพูดขึ้นมาขจัดความเงียบที่เกิดขึ้น

    สิ้นเสียงของชายหนุ่ม เขาก็แอบล้วงเอาระเบิดควันที่ซ่อนอยู่ในเสื้อเข้ามาปาลงพื้น หน้าที่พักของทั้งสองเต็มไปด้วยควันสีขาวฟุ้งกระจายเต็มไปหมดจนไม่เห็นอะไรเลย แล้วเขาจึงออกวิ่งไปจากบริเวณนั้นและหายไปดั่งวิญญาณ

    เด็กสาวคนนั้นยังคงยืนสตันจนควันหายอยู่ประมาณเกือบนาที สิ่งที่เธอเห็นสิ่งแรกก็คือเจ้าแกละที่เดินเข้ามาตะกุยหญ้าที่ปลายเท้าของเธอ

    "คุณโกสต์ หายไปไหนซะแล้วล่ะ..." เธอพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเอื่อยเฉื่อยปนกับความตะลึงงึงงันกับสิ่งที่เธอได้เห็น "นี่เจ้าแกละ เธอรู้จักคุณโกสต์ด้วยหรอ"

    "แบะะะะะะะะะ" เจ้าแพะขนสีขาวร้องด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนราวกับจะปลอบใจเด็กสาวคนนั้น

     

    --- 6 พฤษภาคม 0842 AM ---

    "สรุปก็คือมีคำสั่งจากไอ้เวอกัสอะไรนั่นให้ผมไปตรวจสอบพื้นที่ที่มีปัญหาสินะครับ" ชายแพะพูดขึ้นหลังจากรับฟังรายละเอียดจากพันตรีหญิง

    "จอมพลเวอกัสค่ะ ไม่ใช่ไอ้เวอกัส" เธอตัดพ้อ "แล้วไอ้เวอกัสก็ฝากดิฉันมาบอกด้วยว่า ต้องการอุปกรณ์อะไรขอเบิกได้เลยทันทีค่ะ"

    "จอมพลเวอกัสครับไม่ใช่ไอ้เวอกัส" เขายอกย้อน "ที่ผมต้องการตอนนี้ขอแค่กล้องสำหรับโดรนขนาดพกพา เครื่องบินโดรนสำหรับสอดแนม แล้วก็อานม้าครับ"

    "ทางเราจะจัดการให้ในสามสิบนาทีค่ะ ส่วนพิกัดเราจะอัพเดทลงชิปของคุณให้นะคะ จอมพลเวอกัสฝากบอกให้ช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่พันตรีหญิงเริ่มพูดคุยกับเขาอย่างถูกคอ
     

    "ไอ้เวอกัสครับไม่ใช่จอมพลเวอกัส"

     

    ชายหนุ่มครึ่งแพะพูดปนหัวเราะพร้อมเดินออกไปจากห้อง

     

    ...

    ..

    .

     

    เขาไม่ได้ทำภารกิจนี้เพื่อประเทศ

    แต่เขาทำภารกิจนี้เพื่อตัวเอง

    ไม่สิ เขาทำทุกอย่างเพื่อเจตจำนงค์ที่แท้จริงของเทสล่าต่างหาก

     

    "กฏการคัดเลือกของธรรมชาติ"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×