คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Intermezzo 2-1 : Re
"เอ้า เงียบได้แล้วเจ้าพวกเด็กใหม่"
ชายวัยกลางอายุราวห้าสิบในชุดสีเทาคล้ายเครื่องแบบทหาร ผมสั้นเรียบร้อยสีดำมีผมสีขาวประปรายบ่งบอกถึงอายุ ใบหน้ามีทั้งรอยแผลรอยย่นเล็กน้อยไปตามอายุและประสบการณ์ เดินผ่านประตูเลื่อนกระจกใสเข้ามายังในห้องที่มีโต๊ะและเก้าอี้รายล้อมเหมือนกับห้องประชุม บนเก้าอี้มีเด็กหนุ่มสาวใส่ชุดละม้ายคล้ายกับชุดที่เขาใส่อยู่นั่งอยู่รอบโต๊ะ
พวกเขาและเธอทันทีที่ได้ยินเสียงก็หยุดทำกิจกรรมทุกอย่างและหันหน้าตรงมาจดจ่อกับชายที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง พวกเขาสังเกตเห็นป้ายชื่อบนอกด้านซ้าย เป็นภาษาอังกฤษเขียนไว้ว่า
'Aspect G. Kafka'
ชายคนนี้เป็นทั้งหัวหน้าครูฝึกและผู้บังคับบัญชาของหนุ่มสาวที่อยู่ในห้องทั้งหมด
หน่วยจารชนที่ได้ลับคัดเลือกเป็นพิเศษ อเลฟ ซีโร่
"เอาล่ะ วันนี้มีภารกิจแรกของพวกคุณเข้ามาแล้ว" เขาเดินมายังหน้าห้องแล้วหน้าจอโฮโลแกรมสีฟ้ากินพื้นที่กำแพงด้านหน้าห้องก็ฉายขึ้นมา ประกอบด้วยข้อมูล ภาพ และแผนที่
[ภารกิจช่วยเหลือตัวประกัน]
เป้าหมาย : บุตรสาวคนเล็กของตระกูลแมกซ์มิลแลน
สถานที่ : โกดังร้างชานเมืองหลวงเขตสอง
"ตัวประกันของเราโดนจับไปเมื่อสองวันที่แล้วระหว่างที่ตามพ่อของเธอมาเจรจาธุรกิจที่เขตสอง จากนั้นก็ติดต่อเรียกค่าไถทั้งหมดห้าสิบล้านหน่วย"
"ข้อมูลจากตำรวจในพื้นที่ คนร้ายเป็นกลุ่มแก๊งค้ายาในพื้นที่ ตรวจจับไอดีของผู้ที่เข้าออกบริเวณโกดัง มีไอดีซ้ำๆ เข้าออกอยู่ 13 ราย คงประมาณจำนวนของคนร้ายได้ประมาณนี้"
อาสเปเลื่อนมือจากเหนือศีรษะไปยังพื้นด้านล่าง หน้าจอเบื้องหน้าก็ดับลง เขาเดินมายังโต๊ะที่มีลูกศิษย์ของเขานั่งอยู่รายล้อม แล้วภาพโฮโลแกรมสามมิติสีฟ้าใสที่โชว์ภาพอาคารก็ลอยโผล่ขึ้นมาจากโต๊ะเบื้องหน้าพวกเขา
"นี่คือภาพจำลองของโกดังเป้าหมาย" อาสเปอธิบายพร้อมชี้นิ้วมาทางอาคารคอนกรีตทรงสี่เหลี่ยม
"มีทางเข้าออกได้ทั้งหมดสามทาง ทางแรกคือประตูหน้า" เขาหมุนปรับภาพโฮโลแกรมที่ลอยขึ้นมาให้หันไปยังผู้ฟังพร้อมกับขยายภาพ "ทางนี้เป็นประตูโล่งๆ ลอบเข้าไปลำบาก เราจะส่งหน่วยจู่โจมเข้าไปทางนี้"
"สองคือประตูด้านหลัง แต่จากพิมพ์เขียวของโกดังแล้วเมื่อเข้าไปจะพบกับมุมอับ"
"สุดท้ายคือช่องระบายอากาศจากบนหลังคา จะมีหน่วยของเราสองนายไปทางนี้" อาสเปพูดพร้อมสบตามายังเหล่าผู้ฟังทั้งหลาย "มีบันไดพาดให้ปีนขึ้นไปยังดาดฟ้าอยู่ด้านข้างอาคาร ช่องระบายอากาศนี้จะเชื่อมกับชั้นสองของโกดังและหน้าห้องตัวประกันเลย"
เขาย่อภาพโฮโลแกรมกลับมาอีกครั้ง และซูมไปยังอาคารฝั่งที่อยู่ตรงข้ามโกดัง เป็นตึกคอนกรีตสำนักงานสูงประมาณห้าชั้น
"บนดาดฟ้าของอาคารนี้จะมีพลซุ่มยิงประจำอีกหนึ่งคน" อาสเปเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผู้ฟังอีกครั้ง "เพราะมีความเป็นไปได้ว่าขณะที่หน่วยจู่โจมบุกเข้าไปทางประตูหน้า อาจจะมีพวกศัตรูผ่านช่องระบายอากาศขึ้นมาบนหลังคา รวมถึงทางประตูด้านหลังด้วย"
"สรุปแล้วภารกิจนี้ใช้หน่วยของเราทั้งหมดสามนาย มีใครสงสัยจะถามอะไรเพิ่มไหม ?"
"มีรายละเอียดเรื่องอาวุธที่ศัตรูใช้ไหมครับ" ชายหนุ่มคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม
"ดี" อาสเปชื่นชมให้กับความละเอียดรอบคอบของลูกศิษย์และอธิบายต่อ"ดูจากประวัติคดีของคนกลุ่มนี้แล้ว เหมือนจะใช้อาวุธสงครามยุคเก่าดัดแปลงเป็นกระสุนเลเซอร์ เช่น AK-47L MP5L เป็นต้น แต่ดูจากสถานการณ์แล้วพวกนายน่าจะได้ต่อสู้ประชิดมากกว่า มีใครจะถามอะไรอีกไหม"
"มีข้อมูลจากกล้องวงจรปิดเกี่ยวกับห้องตัวประกันไหมคะ"
"จากที่ฝ่ายเทคนิคของเราแกะมาได้ ลักษณะเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดประมาณห้าคูณห้าเมตรได้ ด้านขวามีตู้เก็บของขนาดใหญ่กั้นอยู่ ตัวประกันอยู่ในมุมอับหลังตู้เก็บของ"
"มีพวกนั้นอยู่ในห้องตัวประกัน 1 คน ด้านหน้าห้องตัวประกัน 1 คน เปลี่ยนทุกๆ 6 ชั่วโมง"
การสอบถามยังดำเนินต่อไป เหล่าชายหนุ่มแหละหญิงสาวต่างถามข้อมูลทุกๆ อย่างเท่าที่พวกเขาและเธอจะคิดออก ทั้งนี้ก็เพื่อเก็บรายละเอียดของภารกิจเอาไว้ให้ครอบคลุมที่สุด รวมถึงมีการเสนอและอภิปรายวิพากย์วิจารณ์กลยุทธ์ต่างๆ กันอีกด้วย เนื่องจากหน่วยอเลฟซีโร่นั้นไม่ได้รับระบอบของทหารเข้ามาใช้ เนื่องจากเนื้อแท้ของจารชนนั้นต้องมีความเป็นปัจเจกที่สูง คำสั่งของหัวหน้าจึงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ถ้าหากคุณมีเหตุผลที่ดีพอและมีเวลาที่จะอธิบาย
"มีกฏอยู่สามข้อสำหรับภารกิจครั้งนี้" อาสเปพูดด้วยน้ำเสียงที่ขึงขังมากขึ้น
"หนึ่ง ให้ใช้ได้แต่ร่างมนุษย์เท่านั้น"
"สอง ในห้องตัวประกัน ห้ามใช้อาวุธปืนใดๆ ทั้งสิ้น"
"สาม ห้ามประมาทและห้ามตาย"
"ภารกิจนี้จะใช้คนทั้งหมดสี่คน" อาสเปสะบัดมือซ้ายขึ้นมาขึ้นดูรายชื่อ
"แดช สโนว์ โกสต์ โครว์ ถึงตาของพวกคุณสี่คนแล้ว"
"แดชกับโกสต์จะเป็นคนที่บุกเข้าไปในโกดัง" ชายที่ยืนอยู่สั่งการไปยังเด็กหนุ่มสองคนที่นั่งอยู่ด้านซ้ายมือของเขา "ส่วนสโนว์ เธอคอยสนับสนุนจากบนดาดฟ้าตึกฝั่งตรงข้าม"
"ค่ะ!" หญิงสาวที่ชื่อสโนว์ขานรับ
"ส่วนโครว์ ขาของนายยังไม่หายดีใช่มั้ย งั้นนายรับหน้าที่ประสานงานกับทางนักรบรับจ้าง" อาสเปพูดพลางมองไกลออกไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่หลังสุดของห้องที่กำลังก้มหน้าก้มตาหลับอยู่
"เฮ้ โครว์ !" เขาตะโกนซ้ำไปยังชายหนุ่มคนนั้นอีกครั้ง
"ครับๆๆๆ รับทราบครับ" เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาจนได้
"รับทราบอะไรรึโครว์ ไหนลองอธิบายมาคร่าวๆ ซิ"
"ภารกิจครั้งนี้เป็นภารกิจช่วยตัวประกันครับ ศัตรูมีประมาณสิบสามคน โกดังมีทางเข้าออกสามทาง จะใช้นักรบรับจ้างบุกเข้าไปด้านประตูหน้า ด้านหลังและด้านบนมีสโนว์คอยจัดการอยู่บนดาดฟ้าของตึกอีกฟาก ส่วนโกสต์กับแดชจะบุกเข้าไปทางทางระบายอากาศ ส่วนผมก็คอยติดต่อประสานงานครับ!"
ชายหนุ่มคนนี้ตอบได้อย่างคล่องแคล่ว ราวกับว่าข้อมูลต่างๆ จะไหลผ่านเข้าไปในสมองของเขาได้แม้ยามหลับ
ในสายตาของโกสต์แล้วหมอนี่เป็นคนครึ่งนกกาประหลาดพอสมควร ถ้าจำไม่ผิดนกกาที่เขารู้จักผ่านสารานุกรมจะไม่กล้าบ้าบิ่นแบบเขาแน่ๆ
ชายที่ชื่อว่าโครว์เป็นชายหนุ่มผมสีเงินร่างกายกำยำ สูงกว่าเขาเสียอีก โกสต์เคยได้ยินมาว่าเขาป่วยเป็นโรคเม็ดเลือดขาวผิดปกติจากกรรมพันธุ์ที่รักษาให้หายขาดไม่ได้ ตอนเด็กๆ เขาเล่าว่าเป็นโรคป่วยติดเชื้อบ่อยมาก ตัวเล็กผอมกะหร่องจนโดยแกล้งบ่อยๆ โชคดีที่ได้พบกับอายุรแพทย์อัจฉริยะ คุณหมอชวาร์ซ รักษาเขาจนโตขึ้นมาแข็งแรงได้แบบนี้
ในภารกิจต่างๆ เขาเองก็ทำได้ดีพอสมควร เนื่องจากวิธีการคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของเขานั้นมีประสิทธิภาพราวกับเป็นแผนที่ได้วางไว้อย่างดิบดีจนไม่น่าเชื่อว่าสามารถคิดได้ในระยะเวลาสั้นๆ ถึงแม้ว่าเขาจะในพื้นที่ที่เสี่ยงตายและเต็มไปด้วยห่ากระสุนก็ตาม ดูเหมือนเขาจะค่อนข้างสนใจเรื่องจิตวิทยาการสงครามค่อนข้างมากอีกด้วย
การทดสอบโดยซิมูเลเตอร์เขาก็ทำคะแนนได้สูงที่สุดแทบจะทุกครั้ง ได้ยินว่าเขาเป็นคนเดียวที่สอบผ่านภารกิจพิเศษที่เอาไว้ให้ลิ้มรสความสิ้นหวังและการถูกจับเป็นเชลยและทรมาณ วิธีการผ่านที่ผู้คุมสอบคาดหวังคือทำยังไงก็ได้ให้ไม่เปิดปากสารภาพข้อมูลออกมา แต่เจ้านี่กลับแหกคุกออกมาได้ทั้งๆ ที่มือยังถูกล่ามด้วยโซ่อยู่ด้วยซ้ำ
"ศัตรูจะเปลี่ยนเวรในช่วงเช้าก่อนหกโมงตรง เวลาที่ดีที่สุดที่จะชิงตัวประกันคือตีห้าครึ่ง ก่อนที่จะมีศัตรูที่เหลือเข้ามาตอนประมาณหกโมงเล็กน้อย"
"พวกเธอสี่คนพบกันที่ที่จอดรถชั้น G เวลาเที่ยงคืนตรง" อาสเปพูดพลางดูนาฬิกาที่อยู่บนกำแพงห้อง เหลือเวลาอีกราวแปดชั่วโมงที่สี่คนที่เหลือจะต้องเตรียมตัว
"แยกย้ายได้" เขาพูดก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ความคิดเห็น