ตอนที่ 10 : บทที่ 5 - 1

กระเป๋าหนังพื้นสีน้ำเงินเข้ม ด้านหน้าตรงที่เปิดเป็นสีฟ้า ตัวเข็มขัดประดับกระเป๋าเป็นสีครีมและสีแดง ส่วนตรงหูกระเป๋าประดับด้วยโซ่สีเงิน ชมพูหิ้วกระเป๋าใบนี้เดินเข้าไปในร้านส้มตำข้างทางแถวคอนโด เพื่อสั่งอาหารเย็นขึ้นไปรับประทานบนห้อง เธอเขียนเมนูอาหารที่ต้องการก่อนยื่นให้เจ้าของร้านและไปนั่งรอที่โต๊ะ
ระหว่างนั้นเธอก็พิมพ์ส่งข้อความคุยกับเพื่อน ส่วนใหญ่คำถามจากเบญญาก็ไม่พ้นเรื่องอนล พอเธอเล่าให้เพื่อนรักฟังเรื่องที่เขาขอขึ้นมาบนห้องเท่านั้นแหละ เบญญาโทรกลับมาโวยวายบ่นยาวเหยียด ทำไมปล่อยให้ผู้ชายขึ้นห้องมาได้ง่ายๆ ขนาดนี้ เกิดอะไรขึ้นขึ้นมาจะทำอย่างไร
แหมก็ตอนนั้นเธอทำไปเพราะอยากซื้อใจอนลด้วยล่ะ ถามว่ากลัวไหม ก็แอบกลัวเหมือนกันนั่นแหละ
“แกนี่บ่นเหมือนแม่ฉันเข้าไปทุกวัน” บ่นกระปอดกระแปดออกมา มือก็ล้วงหยิบเงินออกมาจ่ายแม่ค้า ร้านส้มตำที่เธอมาซื้อเป็นร้านเพิงสร้างข้างกำแพง มีร้านขายส้มตำ ข้าวแกง ขนมจีนยาวตลอดแนว ตรงนี้เป็นซอยเล็กเข้าไปด้านในมีบ้านเรือนอีกหลายหลัง รถที่ผ่านเข้าไปด้านในส่วนใหญ่เป็นมอเตอร์ไซต์ ด้วยความที่ทางคับแคบไม่เหมาะกับรถยนต์
มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์แนบหู อีกข้างหิ้วถุงส้มตำและกระเป๋าเดินข้ามถนนไปยังคอนโด ชมพูหัวเราะเมื่อเบญญาหันไปเถียงกับชานนท์เรื่องเธอพาอนลขึ้นห้อง พี่นนท์นั้นไม่ว่าอะไรนอกจากบอกให้ระวังตัว ถ้าอนลทำอะไรขึ้นมา ให้หาอะไรตีหัวได้เลย แต่ถ้าสมยอมก็ค่อยว่ากัน
“พี่นนท์ควรห้ามชมพู ไม่ใช่สนับสนุน!”
“ฮ่าๆ” ชมพูหัวเราะขลุกขลักในลำคอ ระหว่างเดินไปตรงทางเข้าคอนโด หางตาเห็นคนนั่งอยู่ด้านในล็อบบี้ผ่านกระจก ชมพูผลักประตูเข้าไปด้านใน ไม่ได้สนใจคนรอบข้าง เดินไปยังลิฟต์ด้วยความเคยชิน ปากก็ปลอบเบญญา
“แกอย่าว่าพี่นนท์สิ”
ชมพูกดลิฟต์ ระหว่างยืนก็ยังคงคุยโทรศัพท์อยู่ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม หากแรงสะกิดตรงไหล่ทำให้ต้องเหลียวหลังไปมอง
“อนล” หลุดชื่อผู้ชายที่กำลังยืนทำหน้านิ่งด้านหลังด้วยความตกใจ เบญญาเองก็ได้ยินเธอพูดชื่ออนลก็เงียบไป
“คุณมาได้ไงคะ”
ติ๊ง!
“แวะเอาเอกสารมาให้ครับ” เขาชูซองเอกสารให้ชมพูดู ก่อนจะพยักพเยิดไปทางประตูลิฟต์ที่ปิดออก รอให้คนด้านนอกเข้าไปข้างใน
นั่นเท่ากับเธอต้องพาเขาขึ้นห้องไปด้วยเหรอ?
ชมพูยังไม่ได้สตินัก ตอนที่เขาดันเธอเข้าไปด้านในลิฟต์ ก่อนจะเป็นคนกดปิดรประตูและกดชั้นที่เธออยู่ ชมพูยังไม่ได้วางสายจากเบญญาเลยสักนิด มองแผ่นหลังกว้างอย่างสับสน
“แก อนลมาหาเหรอ” เสียงเบญญาจากโทรศัพท์ปลุกชมพูให้กลับมามีสติอีกครั้ง พอดีกับที่เขาหันมาเอนหลังพิงกายกับลิฟต์ มองชมพูคุยโทรศัพท์ ชมพูจำต้องลดเสียงลง
“อือ แค่นี้ก่อนนะ” บอกแค่นั้นก่อนจะกดวางสายไปทันที ชมพูรีบยัดโทรศัพท์เก็บเข้ากระเป๋าอย่างรวดเร็ว ทำไมคล้ายเธอโดนจับได้ว่าคุยโทรศัพท์กับชู้เลยนะ เธอทำตัวไม่ถูกเท่าไหร่ ไม่คิดว่าเขาจะมาถึงคอนโดด้วยซ้ำ ดั่งเขารู้ความคิดชมพู จึงเลิกทำหน้านิ่ง ชูเอกสารที่ว่านั่นอีกรอบ
“เอกสารเรื่องค่ายเพลงที่เสนอให้ชานนท์ครับ”
“คุยกับเขาอยู่เหรอครับ” อนลยังคงถือเอกสารเอาไว้ ไม่ได้ส่งไปให้ชมพูทันที
คุยกับเขา.. ชมพูนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า ได้คุยกับพี่นนท์ไปแป๊บหนึ่ง เรียกว่าคุยก็ได้แหละ
“อ้อ” เขาเบนสายตามองไปทางอื่น จากนั้นจึงมองไปยังมือหญิงสาวที่กำลังถือถุงอาหารและกระเป๋าที่ดูคุ้นตา
“ชมพูใช้กระเป๋าแล้ว” มันทำให้อนลอารมณ์ดีขึ้นมาทันตาเห็น เขายิ้มมุมปาก มองกระเป๋าในมือเธอ และชุดเดรสกระโปรงยาวเหนือเข่า ใส่เสื้อคลุมคาดิแกนสีครีมทับอีกชั้นหนึ่ง ดูเข้ากันไปหมดทุกอย่าง
“ค่ะ พอดีมันเข้ากับชุด” ก็ไม่อยากบอกเท่าไหร่ แค่ตอนได้จับหนังกระเป๋า ชมพูก็แทบจะละลาย ของแพงนี่หนังนิ่มดีจัง การตัดเย็บก็เนี้ยบไปทุกกระเบียดนิ้ว
“ดีใจนะครับที่ชมพูใช้กระเป๋าผม” อนลเน้นคำว่ากระเป๋าผม รอกระทั่งเดินออกจากลิฟต์ไปยังห้องชมพู อนลเดินนำไปอย่างคนรู้ทางแม้จะขึ้นมาเพียงครั้งเดียว เขาก็จำทางได้หมดแล้ว ประตูสีครีมบานใหญ่อยู่ตรงหน้า ชมพูกดรหัสเปิดประตูเข้าไปด้านใน ไม่ลืมหันมาถามอนล
“คุณทานข้าวมาหรือยังคะ?” แหมก็เธอซื้อส้มตำมาทานเป็นอาหารเย็น แล้วไม่รู้ว่าเขาจะกลับตอนไหนด้วย สู้ทานด้วยกันเลยเป็นอย่างไร
ชมพูเอาน้ำมาเสิร์ฟให้อนลที่นั่งรอตรงโซฟาตัวเดียวในห้อง ไม่ลืมจะเปิดทีวีให้เขาดูระหว่างรอ ชมพูขอตัวไปเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้นอยู่บ้าน ตอนเธอเดินออกมาแล้วเห็นเขามองด้วยสายตาประหลาดใจนั่นล่ะถึงนึกขึ้นได้ ชมพูรวบผมเอาไว้ด้านหลัง เก็บปอยผมเรียบร้อยหมด เธอยกมือขึ้นมาจับผมอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี
นี่เธอวางแผนให้เขาตกหลุมพรางอยู่นะชมพู ทำไมแต่งตัวชุดอยู่บ้านไล่เขาอย่างนี้ล่ะ
ด่าตัวเองในใจ ส่งยิ้มขอโทษที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยให้เขา
“เดี๋ยวฉันไปเปลี่ยนชุดใหม่ดีกว่า”
“ไม่ต้องหรอกครับ” อนลรีบเอ่ยท้วง ผู้หญิงคนนี้นี่ทำเขาประหลาดใจอีกแล้ว นึกว่าจะรักษาภาพลักษณ์ต่อหน้าเขากว่านี้เสียอีก ดีเหมือนกัน อย่างนี้เขาถึงง่ายกว่าเยอะเลย น่าแปลกที่การเข้าห้องชมพูมาในครั้งที่สองนี้ อนลไม่รู้สึกอึดอัดเท่าครั้งแรก เขาหยิบซองเอกสารรายละเอียดสัญญาที่อีกค่ายหนึ่งเสนอให้ชานนท์ส่งให้ชมพู
หญิงสาวรับมันไป ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างเขา ชมพูหยิบแผ่นกระดาษหลายใบขึ้นมาอ่านคร่าวๆ ก่อนจะเก็บเข้าที่เดิม เอกสารพวกนี้คงต้องส่งให้พี่นนท์อ่านอีกทีว่าเขาโอเคหรือไม่ เธอวางเอกสารลงบนโต๊ะ หันไปมองเขาด้วยแววตาสงสัย
“ถ้าพี่นนท์ตกลง ให้ติดต่อคุณไปได้เลยใช่ไหมคะ” แทนที่เขาจะตอบคำถามเธอ อนลกลับถามกลับ
“ชมพูคิดหรือยังครับ จะบอกชานนท์ยังไงเรื่องค่ายพวกนี้ คุณเอามาจากไหน”
“เรื่องนั้น....”
TALK
แค่ชมพูใช้กระเป๋าก็ดีใจแล้วเหรอคะคุณอนล แหมๆ
จะมาหลอกเขาหรือโดนเขาหลอกหว่า
ช่วงนี้พายุเข้า พกร่มและเสื้อกันฝนด้วยนะคะ ดูแลสุขภาพตัวเอง
ใครอยู่ในพื้นที่เสี่ยงอย่าลืมเตรียมความพร้อมรับมือกันด้วยนะคะ
เป็นห่วงนักอ่านทุกท่านค่า

นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
