ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : จิปาถะโรคจิต :: Christmas's midnight
จิปาถะโรคจิต :: Christmas's midnight
...คืนคริสต์มาส คืนแห่งการสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า...
"เอาล่ะ ขอให้ทุก ๆ ท่านมีความสุขถ้วนหน้ากันในวันคริสต์มาสที่จะถึงนี่นะคะ"
เสียงของพิธีกรสาวประกาศก้องทางไมโครโฟน หนุ่มสาววัยรุ่นและวัยกลางคนต่างยิ้มรับนิมิตหมายอันดีในอีกไม่ถึงอึดใจ พวกเขาเบียดเสียดกันอยู่ตรงลานกว้างที่มีแต่ผู้คนมารวมตัวกันอย่างแน่นขนัด
"อีกไม่กี่นาทีก็จะเที่ยงคืนแล้ว หากจะอยากขอพออะไรต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเชิญทางด้านขวาเลยค่ะ"
ถึงเธอไม่บอกให้ไปขอพร พวกคนก็ไปกันอยู่แล้วล่ะน่า... ฉันสบถอย่างหัวเสีย เธฮโคลงศีรษะพลางจดจ้องกับภาพครื้นเครงในโทรทัศน์ปลายเตียง ต้นคริสต์มาสสูงใหญ่ถูกประดับประดาด้วยแสงไฟหลากสีสันและอุปกรณ์ตกแต่งนับร้อย
ฉันมองมันอย่างเบื่อ ๆ พร้อมกับเอี่ยวตัวกลับไปที่หัวเตียงพร้อมกับควานหารีโมทโทรทัศน์ ไม่นานนักที่ภาพบนจอแก้วหายไปเหลือทิ้งไว้เพียงแสงไฟสลัว ๆ จากหลอดไฟหลากสีสันที่ชาวบ้านเขาเอามาอวดกัน
ในขณะที่ฉันกำลังล้มตัวลงนอนนั้นเอง ฉันเหลือบมองนาฬิกาข้างฝาที่อีกไม่กี่นาทีก็จะผ่านคืนคริสต์มาสอีฟเข้าสู่วันคริสต์มาส ทว่าฉันรู้สึกถึงไอเย็นวาบเข้าจับสันหลัง! ฉันรีบเลิกผ้าห่มขึ้นคลุมโปงพลางคิดในใจ...
มันมาแล้ว! มันมาแล้ว!! ในที่สุดมันก็มาอีกแล้ว!!!?
ฉันหยีตาแน่น ฉันเริ่มรู้สึกถึงไอเย็นที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาอย่างเชื่องช้า... ฉันไม่อยากลืมตาขึ้นเลย ใช่แล้ว เมื่อคืนคริสต์มาสเวียนมาบรรจบเมื่อใด เมื่อนั้นฉันจะเกิดได้พบกับมันทุกครั้ง!
ฉันเหลือบมองผ้าม่านที่ยังคงสงบนิ่งไม่ไหวติง เหลือบมองทางพื้นที่ยังคงเหมือนเดิม ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกับเลิกผ้าห่มลง
คงจะสงสัยว่าทำไมฉันถึงไม่ไปฉลองคืนคริสต์มาสกับคนอื่นเขา เพราะว่าฉันน่ะ...
เกลียด! เกลียด! เกลียด! เกลียด! เกลียดคืนคริสต์มาสที่สุด!!!!
แม่ของฉันติดทำธุระตลอด แทบจะนับคืนที่แม่มากินข้าวเย็นกับฉันได้เลย ส่วนพ่อน่ะรึ? พ่อของฉันก็ตายจากไปน่ะสิ... ในวันนี้ด้วย...
วันคริสต์มาสเมื่อหลายปีก่อนเป็นวันที่ฉันรู้ข่าวถึงการจากไปของพ่อ นั่นทำให้ฉันต้องอยู่อย่างเพียงลำพังในคืนคริสต์มาสอันแสนสุขนี้
ทำไมถึงมีแค่ฉันเท่านั้นที่เป็นทุกข์?
ทั้งที่คนอื่นมีความสุข เพราะอย่างนี้แหละถึงได้เกลียดคืนนี้ที่สุด! ฉันพลิกตัวลงนอนคว่ำหน้าพร้อมกับทุบตีหมอนหลายสิบครั้งเพื่อระบายอารมณ์ ให้ตายเหอะ ถึงคืนนี้ทีไร หงุดหงิดทุกที และบ่อยครั้งที่ฉันไประบายอารมณ์ด้วยวิธีอื่นเช่นตะโกนด่าใครต่อใครรวมไปถึงพระผู้เป็นเจ้า...
ในตอนนั้นฉันไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีอะไรหรอก โทษใครได้ก็โทษไป เหมือนคนพาลไปทั่ว แต่ถึงไง ๆ ฉันก็ไม่สามารถลดโทสะในวันนี้ได้ทุกที
ฉันพลิกตัวอีกครั้งเพื่อนอนตะแคงหันหลังให้กับหน้าต่างริมห้องที่ตรงข้ามกับเตียง ฉันรู้สึกถึงไอเย็นที่อยู่ ๆ ก็โถมตัวเข้าหาอย่างรวดเร็ว ด้วยอารามตกใจฉันรีบหันกลับไปทางหน้าต่าง ฉันชะงักทันทีเมื่อสายตาสามารถจับภาพได้ว่าสิ่งตรงหน้านี้คืออะไร...
มันมาแล้ว!!!!!
ไม่ถึงอึดใจที่ฉันจะกรีดเสียงร้องแข่งกับเสียงอวยพรวันคริสต์มาส ฉันดิ้นพล่านไปมาบนเตียงเนื่องจากตกใจสุดขีด ในสมองขาวโพลนไปหมดและไม่รับรู้อะไรเลยด้วยซ้ำ
ภาพเบื้องหน้าคือผู้ชายคนหนึ่งในชุดผ้าคลุมสีเทาหม่น ๆ ใบหน้าอิ่มเอิบ รอยยับย่นปรากฏเด่นชัดและเคราสีขาวที่ยาวลงมาจรดต้นคอ ฉันคุ้นหน้าเขามาก แม้จะเพิ่มเคราเข้ามา แต่นั่นก็ใช่พ่อฉันแน่ ๆ !!
ตอนแรกฉันไม่ตกใจหรอก แต่พอมองไปมองมา ใบหน้าของผู้เป็นบิดากลับบิดเบี้ยวไปหมดกลายเป็นใบหน้าของตัวอะไรก็ไม่รู้ ทั้งเละเฟะ เปื่อยยุ่ย แถมยังดูสาก ๆ ในบางส่วน มันค่อย ๆ เคลื่อนใบหน้าเข้ามาฉันใกล้ขึ้น... ใกล้ขึ้น.... ใกล้ขึ้น.... จนแทบจะแนบชิด!!
"ยะ... อย่าว่าร้ายพระองค์ท่าน อย่า... เชียว พ่อขอ.... เตือนนะ... ลูก"
น้ำใส ๆ ไหลคล้อยลงมาจากใบหน้าพิลึกพิลันของมัน กระทบกับผ้าปูเตียงสีขาวสะอาด แม้จะเป็นน้ำใส ๆ แต่ฉันก็ขยะแขยงมันมาก
"ไม่!!! แกไม่ใช่พ่อฉัน!! ไปไกล ๆ ฉันเลยนะ ไอ้ปีศาจ!" ฉันปัดมือไปมาพร้อมกับคว้าคัตเตอร์หัวเตียงที่ฉันมักจะวางไว้ป้องกันตัวในคืนนี้ขึ้นมากรีดแทงใบหน้านั่นโดยที่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาเลยแม้แต่นิดเดียว
ฉันกรีดร้องอยู่อย่างนั้น ฟาดฟันมันอยู่อย่างนั้นจนแม่ที่กลับมาแล้วเมื่อครู่ต้องรีบขึ้นมาดูอาการผิดแปลกไปของฉัน...
"ดา... ลินดาลูกแม่"
เสียงอันแสนอ่อนโยนส่งเสียงเรียกชื่อฉันเบา ๆ พร้อมกับโอบกอดไว้ในอ้อมอกอย่างแนบแน่น ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความกังวลใจ ฉันลืมตาขึ้นมองสิ่งรอบข้างอย่างหวาด ๆ ไฟนีออนเหนือศีรษะก็เปิดค้างไว้ ทีวีปลายเตียงก็ยังเปิดค้างไว้อีกเช่นกัน คัตเตอร์ที่ควรจะอยู่ในมือกลับวางอยู่บนหัวเตียงดังเดิม มิหนำซ้ำรอยหยดน้ำบนผ้าปูเตียงก็ไม่มี และนี่ก็เข้าสู่วันคริสต์มาสแล้วด้วย
....ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
ฉันหัวเราะเยาะตัวเองเบา ๆ เหมือนกับคนบ้า ทั้งที่แค่หลับฝันไปเท่านั้นเอง แต่ฉันก็ยังติดใจ แม้ฉันจะฝัน แต่ความฝันนี้ก็มักจะปรากฏขึ้นในคืนคริสต์มาสเสมอ และต้องเป็นเที่ยงคืนด้วยนะ ไม่รู้เพราะอะไร สงสัยคืนนี้เป็นคืนเชื่อมระหว่างคริสต์มาสกับคริสต์มาสอีฟ
ฉันถึงได้เห็นตัวประหลาดทุกที ไม่ว่ายังไงฉันก็ยังติดใจ ทำไมถึงเฉพาะเจาะจงแค่คืนคริสต์มาสด้วยนะ? หรือเพราะฉันมักจะว่าร้ายพระเจ้าในวันนี้ ถึงได้มาเตือน? เกี่ยวข้องอะไรกับพ่อที่ตายในวันคริสต์มาสด้วย? แล้วมีจุดประสงค์อะไรกันแน่? ทุกอย่างที่เห็นคือความจริง? มันเป็นเพียงความฝันอย่างที่เป็นหรือมีอะไรมากกว่านั้น? หรือเป็นเพราะฉันคิดมากหรือประสาทหลอนไปเอง?
แต่ที่แน่ ๆ สิ่งที่ฉันสงสัยมากที่สุด... คือ....
คืนคริสต์มาสปีหน้ามันจะหวนกลับมาเยือนฉันอีกหรือเปล่านะ?
The END
...คืนคริสต์มาส คืนแห่งการสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า...
"เอาล่ะ ขอให้ทุก ๆ ท่านมีความสุขถ้วนหน้ากันในวันคริสต์มาสที่จะถึงนี่นะคะ"
เสียงของพิธีกรสาวประกาศก้องทางไมโครโฟน หนุ่มสาววัยรุ่นและวัยกลางคนต่างยิ้มรับนิมิตหมายอันดีในอีกไม่ถึงอึดใจ พวกเขาเบียดเสียดกันอยู่ตรงลานกว้างที่มีแต่ผู้คนมารวมตัวกันอย่างแน่นขนัด
"อีกไม่กี่นาทีก็จะเที่ยงคืนแล้ว หากจะอยากขอพออะไรต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเชิญทางด้านขวาเลยค่ะ"
ถึงเธอไม่บอกให้ไปขอพร พวกคนก็ไปกันอยู่แล้วล่ะน่า... ฉันสบถอย่างหัวเสีย เธฮโคลงศีรษะพลางจดจ้องกับภาพครื้นเครงในโทรทัศน์ปลายเตียง ต้นคริสต์มาสสูงใหญ่ถูกประดับประดาด้วยแสงไฟหลากสีสันและอุปกรณ์ตกแต่งนับร้อย
ฉันมองมันอย่างเบื่อ ๆ พร้อมกับเอี่ยวตัวกลับไปที่หัวเตียงพร้อมกับควานหารีโมทโทรทัศน์ ไม่นานนักที่ภาพบนจอแก้วหายไปเหลือทิ้งไว้เพียงแสงไฟสลัว ๆ จากหลอดไฟหลากสีสันที่ชาวบ้านเขาเอามาอวดกัน
ในขณะที่ฉันกำลังล้มตัวลงนอนนั้นเอง ฉันเหลือบมองนาฬิกาข้างฝาที่อีกไม่กี่นาทีก็จะผ่านคืนคริสต์มาสอีฟเข้าสู่วันคริสต์มาส ทว่าฉันรู้สึกถึงไอเย็นวาบเข้าจับสันหลัง! ฉันรีบเลิกผ้าห่มขึ้นคลุมโปงพลางคิดในใจ...
มันมาแล้ว! มันมาแล้ว!! ในที่สุดมันก็มาอีกแล้ว!!!?
ฉันหยีตาแน่น ฉันเริ่มรู้สึกถึงไอเย็นที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาอย่างเชื่องช้า... ฉันไม่อยากลืมตาขึ้นเลย ใช่แล้ว เมื่อคืนคริสต์มาสเวียนมาบรรจบเมื่อใด เมื่อนั้นฉันจะเกิดได้พบกับมันทุกครั้ง!
ฉันเหลือบมองผ้าม่านที่ยังคงสงบนิ่งไม่ไหวติง เหลือบมองทางพื้นที่ยังคงเหมือนเดิม ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกับเลิกผ้าห่มลง
คงจะสงสัยว่าทำไมฉันถึงไม่ไปฉลองคืนคริสต์มาสกับคนอื่นเขา เพราะว่าฉันน่ะ...
เกลียด! เกลียด! เกลียด! เกลียด! เกลียดคืนคริสต์มาสที่สุด!!!!
แม่ของฉันติดทำธุระตลอด แทบจะนับคืนที่แม่มากินข้าวเย็นกับฉันได้เลย ส่วนพ่อน่ะรึ? พ่อของฉันก็ตายจากไปน่ะสิ... ในวันนี้ด้วย...
วันคริสต์มาสเมื่อหลายปีก่อนเป็นวันที่ฉันรู้ข่าวถึงการจากไปของพ่อ นั่นทำให้ฉันต้องอยู่อย่างเพียงลำพังในคืนคริสต์มาสอันแสนสุขนี้
ทำไมถึงมีแค่ฉันเท่านั้นที่เป็นทุกข์?
ทั้งที่คนอื่นมีความสุข เพราะอย่างนี้แหละถึงได้เกลียดคืนนี้ที่สุด! ฉันพลิกตัวลงนอนคว่ำหน้าพร้อมกับทุบตีหมอนหลายสิบครั้งเพื่อระบายอารมณ์ ให้ตายเหอะ ถึงคืนนี้ทีไร หงุดหงิดทุกที และบ่อยครั้งที่ฉันไประบายอารมณ์ด้วยวิธีอื่นเช่นตะโกนด่าใครต่อใครรวมไปถึงพระผู้เป็นเจ้า...
ในตอนนั้นฉันไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีอะไรหรอก โทษใครได้ก็โทษไป เหมือนคนพาลไปทั่ว แต่ถึงไง ๆ ฉันก็ไม่สามารถลดโทสะในวันนี้ได้ทุกที
ฉันพลิกตัวอีกครั้งเพื่อนอนตะแคงหันหลังให้กับหน้าต่างริมห้องที่ตรงข้ามกับเตียง ฉันรู้สึกถึงไอเย็นที่อยู่ ๆ ก็โถมตัวเข้าหาอย่างรวดเร็ว ด้วยอารามตกใจฉันรีบหันกลับไปทางหน้าต่าง ฉันชะงักทันทีเมื่อสายตาสามารถจับภาพได้ว่าสิ่งตรงหน้านี้คืออะไร...
มันมาแล้ว!!!!!
ไม่ถึงอึดใจที่ฉันจะกรีดเสียงร้องแข่งกับเสียงอวยพรวันคริสต์มาส ฉันดิ้นพล่านไปมาบนเตียงเนื่องจากตกใจสุดขีด ในสมองขาวโพลนไปหมดและไม่รับรู้อะไรเลยด้วยซ้ำ
ภาพเบื้องหน้าคือผู้ชายคนหนึ่งในชุดผ้าคลุมสีเทาหม่น ๆ ใบหน้าอิ่มเอิบ รอยยับย่นปรากฏเด่นชัดและเคราสีขาวที่ยาวลงมาจรดต้นคอ ฉันคุ้นหน้าเขามาก แม้จะเพิ่มเคราเข้ามา แต่นั่นก็ใช่พ่อฉันแน่ ๆ !!
ตอนแรกฉันไม่ตกใจหรอก แต่พอมองไปมองมา ใบหน้าของผู้เป็นบิดากลับบิดเบี้ยวไปหมดกลายเป็นใบหน้าของตัวอะไรก็ไม่รู้ ทั้งเละเฟะ เปื่อยยุ่ย แถมยังดูสาก ๆ ในบางส่วน มันค่อย ๆ เคลื่อนใบหน้าเข้ามาฉันใกล้ขึ้น... ใกล้ขึ้น.... ใกล้ขึ้น.... จนแทบจะแนบชิด!!
"ยะ... อย่าว่าร้ายพระองค์ท่าน อย่า... เชียว พ่อขอ.... เตือนนะ... ลูก"
น้ำใส ๆ ไหลคล้อยลงมาจากใบหน้าพิลึกพิลันของมัน กระทบกับผ้าปูเตียงสีขาวสะอาด แม้จะเป็นน้ำใส ๆ แต่ฉันก็ขยะแขยงมันมาก
"ไม่!!! แกไม่ใช่พ่อฉัน!! ไปไกล ๆ ฉันเลยนะ ไอ้ปีศาจ!" ฉันปัดมือไปมาพร้อมกับคว้าคัตเตอร์หัวเตียงที่ฉันมักจะวางไว้ป้องกันตัวในคืนนี้ขึ้นมากรีดแทงใบหน้านั่นโดยที่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาเลยแม้แต่นิดเดียว
ฉันกรีดร้องอยู่อย่างนั้น ฟาดฟันมันอยู่อย่างนั้นจนแม่ที่กลับมาแล้วเมื่อครู่ต้องรีบขึ้นมาดูอาการผิดแปลกไปของฉัน...
"ดา... ลินดาลูกแม่"
เสียงอันแสนอ่อนโยนส่งเสียงเรียกชื่อฉันเบา ๆ พร้อมกับโอบกอดไว้ในอ้อมอกอย่างแนบแน่น ใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความกังวลใจ ฉันลืมตาขึ้นมองสิ่งรอบข้างอย่างหวาด ๆ ไฟนีออนเหนือศีรษะก็เปิดค้างไว้ ทีวีปลายเตียงก็ยังเปิดค้างไว้อีกเช่นกัน คัตเตอร์ที่ควรจะอยู่ในมือกลับวางอยู่บนหัวเตียงดังเดิม มิหนำซ้ำรอยหยดน้ำบนผ้าปูเตียงก็ไม่มี และนี่ก็เข้าสู่วันคริสต์มาสแล้วด้วย
....ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
ฉันหัวเราะเยาะตัวเองเบา ๆ เหมือนกับคนบ้า ทั้งที่แค่หลับฝันไปเท่านั้นเอง แต่ฉันก็ยังติดใจ แม้ฉันจะฝัน แต่ความฝันนี้ก็มักจะปรากฏขึ้นในคืนคริสต์มาสเสมอ และต้องเป็นเที่ยงคืนด้วยนะ ไม่รู้เพราะอะไร สงสัยคืนนี้เป็นคืนเชื่อมระหว่างคริสต์มาสกับคริสต์มาสอีฟ
ฉันถึงได้เห็นตัวประหลาดทุกที ไม่ว่ายังไงฉันก็ยังติดใจ ทำไมถึงเฉพาะเจาะจงแค่คืนคริสต์มาสด้วยนะ? หรือเพราะฉันมักจะว่าร้ายพระเจ้าในวันนี้ ถึงได้มาเตือน? เกี่ยวข้องอะไรกับพ่อที่ตายในวันคริสต์มาสด้วย? แล้วมีจุดประสงค์อะไรกันแน่? ทุกอย่างที่เห็นคือความจริง? มันเป็นเพียงความฝันอย่างที่เป็นหรือมีอะไรมากกว่านั้น? หรือเป็นเพราะฉันคิดมากหรือประสาทหลอนไปเอง?
แต่ที่แน่ ๆ สิ่งที่ฉันสงสัยมากที่สุด... คือ....
คืนคริสต์มาสปีหน้ามันจะหวนกลับมาเยือนฉันอีกหรือเปล่านะ?
The END
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น