ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FANFIC SK8 the Infinity ดอกกุหลาบที่ร่วงโรย ( Adam x oc)

    ลำดับตอนที่ #3 : Ep-2 ท้าทาย

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 64


    การเเข่งสเก็ตบอร์ดยังเริ่มไม่ทันไร เสียงผู้คนในรั้วสนามนับพากันว่าใครจะชนะศึกในรอบของคืนนี้ เพราะการประกาศศึกจากชายหนุ่มนามว่า เชอร์รี่เเละโจเเก่อดัม ต่างกันพาเป็นที่น่าจับตามอง

    อดัมหมุนร่างของตนหันไปหาฝ่ายเชอร์รี่ ,โจ พูดอย่างไม่ได้สนใจใดๆ “จริงสิ พวกนายจะวิ่งด้วยกันไหม เเบบนี้ค่อนข้าง…”

    “อย่ามาล้อเล่นนะ!! วันนี้ฉันจะดวลกับคุณตัวต่อตัวอย่าคิดหนีล่ะ-”จากการยืนกรานจากเรกินั้น อดัมรีบสวนทันทีพลางยกบอร์ดขึ้นชี้เบื้องหน้าของเด็กหนุ่ม

    “หนี? หมายถึงฉันรึไง?” 

    ใบหน้าเรียวคมของเรกิค่อย ๆ เผยหยดเหงื่อเม็ดเล็กก่อนเอ่ยสมทบ“คุณไม่ได้ลืมว่าพวกเราเดิมพันอะไรใช่ไหม?…”

     

    FANFIC SK8 THE INFINITY

    ดอกกุหลาบที่ร่วงโรย ( ADAM X OC)

    EP-2 ท้าทาย

     

    การเดิมพันระหว่างอดัมเเละเรกิ เป็นการเกี่ยวข้องกับมิยะโดยตรง อาคาเนะได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารนี้มาจากเรกิบ้างว่าถ้าเรกิชนะ อีกฝ่ายต้องพูดขอโทษให้กับมิยะเรื่องหนึ่ง เเต่หากอีกนัยหนึ่งถ้าอดัมชนะการเเข่งกับเรกิ เขาจะหันไปสนใจลันกะเเละพร้อมที่จะเล่นสเก็ตบอร์ดกับลันกะมากกว่าด้วยซํ้า

    “เเน่นอนถ้าฉันชนะ”

    ร่างสูงในนามอดัมยกบอร์ดเปลี่ยนทิศชี้ไปทางฝั่งเด็กหนุ่มเรือนเส้นผมสีฟ้าซึ่งคือลันกะ กระทั่งเขาเอ่ยต่อด้วยเสียงเรื่อยเฉื่อยหากเเต่นุ่มนวลเสนาะหู ประดับรอยยิ้มเเฝงเเววนัยต์ลึกซึ้งบนใบหน้าอันเรียวคมสง่า“ฉันก็จะวิ่งไปกับนาย”

    พักครู่หนึ่งใบหน้าเรียวคมภายใต้หน้ากากสีขาวนวลเริ่มหันมามองหญิงสาวร่างเล็กอย่างอาคาเนะ เเล้วยกยิ้มมุมปาก"ไม่โต้อะไรฉันสักหน่อยหรอ? ฟลอ-ร่า-จัง"เขาเน้นเสียงสะกดทีละคำในการเรียกชื่อเธออย่างเเผ่วเบา เธอไม่คิดว่าเขาจะหันมาสนใจเธอด้วยซํ้าเเต่คาดหมายผิด จนอาคาเนะผงะร่างไปนิดหน่อยเพียงเพราะเสียงอันเคยสัมผัสถึงรูหู เเละรู้สึกได้ว่ามันเหมือนสถานการณ์ในคืนนั้นด้วยนํ้าเสียงเเละโครงหน้าปริศนาที่คุ้นเคย

    ไอ้ความรู้สึกน่าขนลุกนี่…จะใช่ลุงในชุดคอตตอนดูผู้ดีคนนั้นหรอ…ไม่สิ!น่าจะเป็นไปไม่ได้!

    ว่าเเล้วหญิงสาวก็ส่ายหน้าไปมาสองสามหนเเย้งใจตนเองไปพักใหญ่ เเล้วไหงอดัมที่อยู่ตรงหน้าทักทายเธอราวกับว่าเคยพูดคุยกันมาก่อนจนน่าเเปลกใจ

    ในกรอบสมองของอาคาเนะค่อยๆเรียงรากเชื่อมโยงกันไปมา คิดครํ่าเคร่งเกี่ยวกับอดัมว่าเขานั้นช่างเป็นปริศนาที่ดูน่าจะมีคำตอบที่ค่อยๆชัดเจนออกมาบ้าง ยามนัยต์ตาสีฟ้านพรัตน์กลมโตหรี่มองเจ้าตัวร่างสูงทรงสง่า เธอก็ไม่มีท่าทีจะหยุดคิดค้นคว้าคำตอบเรื่องราวของเขา ตัวตนของเขา มันช่างเริ่มหายจางขึ้นมานิดๆเเล้วสิ

    .

    .

    .

    บัดนี้ก็เข้าสู่ห้วงเวลาการเเข่งสเก็ตบอร์ด นับเวลาถอยลงอย่างช้า ๆ ครั้นที่เวลาถอยหลังนับถึงเวลาเริ่ม วินาทีนั้นเรกิเป็นฝ่ายกระโจนตัวเองเเล่นบอร์ดออกไปก่อนคนเเรกอย่างไม่รีรอ ทว่าอดัมยังคงยืนเฉยชาลิ้มรสชาติของการเริ่มสูบบุหรี่เสมือนว่ากำลังเมินเฉยต่อเรกิ

    อาคาเนะยืนทำสีหน้าจริงจังข้างสนามพลางกลืนนํ้าลายลงคอไปอึกหนึ่ง ยามที่เห็นอดัมยังไม่ออกตัวเเล่นบอร์ดไป เธอคิดไว้เเล้วว่าถึงเรกิจะออกไปไกลหรือไปก่อนมากกว่าเพียงไหนอดัมก็คงตามหลังทันเเน่นอน

    เพราะการเเข่งกับอดัม…ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนปลอกกล้วยที่จะชนะ…..

    “หอมจัง….ฉันมักจะสูบบุหรี่ไม่ได้เพราะเรื่องงาน…”เสียงอันหลงใหลของเขาเอ่ยท่ามกลางผู้คน รวมถึงสนามอันกว้างนี้ “เเต่ว่า…ที่นี่ทุกอย่างล้วนเป็นอิสระ”

    ชายร่างสูงภายใต้หน้ากากสีขาวอันปริศนาหันมามองอาคาเนะไปพักหนึ่งก่อนเอ่ย "เเล้วเจอกัน" โดยที่มีรอยยิ้มเลศนัยต่าง ๆ ซ่อนไว้ เพราะเหตุฉไหนเขาถึงทักเธอมาสองครั้งเป็นเหตุผลที่ไม่สามารถหาคำตอบได้จนอาคาเนะอยากเกาหัวเเกร๊กๆส่งผลว่าสับสนอย่างมากมาย เขารู้จักฉันหรอ? รึว่าเป็นลุงคนนั้นจริงๆ? ถ้าใช่ก็บ้าไปเเล้ว มันบอกได้ง่ายๆเลยล่ะว่าโลกใบนี้มันกลมเเค่ไหน!

    อดัมเริ่มออกตัวก้าวฝีเท้าวิ่งเเจ้นออกไปด้วยความเร็วสูง โยนบอร์ดออกไปเบื้องหน้ากระโจนกายสูงของตนขึ้นเเล่นบอร์ดตามราวกับความเร็วเเสง ความเร็วที่สายตาหลายคู่เห็นการเริ่มตัวของเขานั้นเร็วมหาศาลจนน่าเหลือเชื่อ

    ดวงเนตรสีฟ้านพรัตน์ของหญิงสาวเลื่อนหันไปมองจอมอนิเตอร์คอยฉายเรกิที่กำลังเเล่นบอร์ดนําหน้าผ่านฉลุย เเต่ทว่าไม่นานนักเธอก็คาดการไม่ผิดในครั้งนี้ ร่างของอดัมค่อย ๆ เเล่นตามหลังเขามาติด ๆ ทั้งที่ไม่ต้องใช้เวลามากจนสองฝ่ายในสนามเเข่งเเล่นบอร์ดในระยะเท่ากัน ร่างสูงของอดัมเริ่มจู่โจมเรกิหนนี้โดยระยะประชิดในระหว่างทางข้างหน้าเเละต่อด้วยทางโค้ง ก่อนถึงขั้นเเล่นบอร์ดเลี้ยวเป็นทางขวาจนร่างเด็กหนุ่มใกล้ลงระยะกับพื้น

    ลูกเล่นที่อันตรายนั่น…

    “เรกิ..”หญิงสาวเป็นห่วงเด็กหนุ่มในสถานการณ์นี้ ส่วนทางลันกะโพล่งนํ้าเสียงอดทนมามากพอ"จะมากเกินไปเเล้ว"พลันวิ่งออกไปเเล้วขับรถขนาดกลางเเบบมอเตอร์ไซต์ออกเร่งท่าทีรวดเร็ว ทว่าก็เป็นรถของคนอื่นซะงั้น

    เวลาอันน่าทึ่งมาอีกครั้งหนึ่ง ยามที่เรกิเริ่มเเซงอดัมอีกหนจนเกิดเหล่าเสียงผู้คนฮือฮาไปทั่วสนาม ครานี้ร่างสูงอดัมพลางไล่ตามเด็กหนุ่มติด ๆ เเซงไปเบื้องหน้ารวดเร็ว ก่อนใช้ท่าที่ลือกันว่าสามารถไต่เนินได้อย่าง..

    เลิฟฮัก

    ผ่านเวลามาสักระยะหนึ่งท่าเลิฟฮักที่อดัมเริ่มใช้เพื่อการเปลี่ยนทิศเเละหมุนตัวบอร์ดเข้าหาอีกฝ่าย อาคาเนะในขณะที่ครํ่าเคร่งมองไปที่เรกินั้น เรกิไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ทั้งหวาดกลัว ทั้งเสียขวัญในครั้งนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่เรกิเริ่มเสียการทรงตัวรวมถึงสะดุดกับบอร์ดของตนกระเด็นออกไป เกิดการบาดเจ็บอย่างที่เเล้วๆมาอย่างเห็นได้ชัด

    กระนี้กลายเป็นการจบสิ้นในการเเข่งขันของเรกิเเละอดัม พอมาถึงจุดรวมตัวของกลุ่มคนอาคาเนะคอยมองไปยังอดัมที่อยู่เบื้องหน้าก่อนก้าวเท้าตรงเดินไปหาเขาเบื้องหน้าในระยะใกล้เล็กน้อย ตอนนี้ก็คงทำได้เเค่โพล่งใส่เขา เสียงหนักเเน่น"ทำบ้าอะไรของนายน่ะ! ฉันไม่ให้อภัยนายเเน่เพราะเรกิเเน่ๆ!"

    อดัมฟังหญิงสาวร่างเล็กเบื้องหน้าตวาด ก่อนที่เขาจะยกยิ้ม"จะวิ่งกับฉันเป็นคิวต่อไป?"

    ฮือฮาดังสนั่นลั่นอีกครั้งจากเหล่าผู้คนล้อมรอบที่คอยมองสองกายสนทนาเริ่มเปิดศึกกันรอบต่อไป

    “เอาเเบบนั้นฉันก็กล้านะ!”อาคาเนะยกนิ้วเรียวยาวชี้ไปยังเขาต่อหน้า “มาเเข่งกับฉัน ถ้าฉันชนะนายต้องเอาสิ่งที่นายทำเรื่องเลวร้าย มาก้มหัวขอโทษกับคนที่นายทำเอาไว้ เเต่ถ้าฉันเเพ้..-"

    “เเต่ถ้าเธอเเพ้….เเปปนึงนะขอคิดก่อน”อดัมยกมือหนาขึ้นทำท่าคิดเปรียบเสมือนจริงจังเเต่นั่นก็ไม่ได้จริงจังมากกับการตัดสิน บัดนี้เขายังคงยิ้มร่าเเล้วผายมือไปยังเธอ“ถ้าเธอเเพ้ มาเป็นหมารับใช้ชั้นตํ่าให้กับฉันซะ”

    ห๊ะ =[]=…..

    ครานี้ก็เงียบงันกันไปทั้งผืนเเผ่นดิน มีเเค่อาคาเนะที่ยืนช็อกหนนึง ก่อนรับปากเจือเน้นนัยต์ตาสีฟ้าเเววมั่นจิตมั่นใจไปยังเขา "อ-อืม เเค่นั้นฉันไม่กลัวหรอกนะ"

    “เพราะงั้น…ค่อยเจอกันรอบหน้าถ้าฉันวิ่งไปกับสโนว์เเล้วฉันชนะ”ร่างสูงในหน้ากากสีขาว หมุนร่างไปทิศอื่นก้าวเท้าเดินกร่อม ๆ  เอ่ยเสียงอ่อนหวานก่อนจาก"ฉันจะมาวิ่งกับเธอ"

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ถึงเวลาห้วงนิทราของใครหลาย ๆ คนขณะที่เส้นขอบฟ้ายังไม่สว่างอวดโฉมไปกับพระอาทิตย์ หญิงสาวร่างเล็กพึ่งเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อด้วยชุดบ้านธรรมดาที่พึ่งเปลี่ยนอีกครั้ง มือบางก็หอบมวลของรองท้องไว้ยามดึก

    ที่จริงผู้หญิงมาเดินคนเดียวตอนกลางดึกเเบบนี้มันอันตรายนั่นเเหละ…

    “นี่น้องสาวเดินคนเดียวเเบบนี้มันอันตรายนะรู้ไหม”

    “คะ?”หญิงสาวหันไปมองทำเสียงสงสัย

    “ให้พี่ไปส่งไหม”

    ชายเเปลกหน้าที่ไม่น่าไว้ใจตั้งเเต่มองเท้าจรดหัวตามเธอมาติดๆ อาคาเนะทำหน้าเบื่อหน่ายค่อย ๆ เลื่อนใบหน้าอันบอบบางมองไปทิศอื่นพลันทำท่าหาว ยกมือขึ้นถูหัวของตนไปมาราวกับไม่อยากสนใจ

    “ย-อย่าเมินพี่สิ"

    “บอกทีว่าต้องให้หนูทำยังไงดีคะ จะให้ตกใจร้องกรี๊ดเเบบนางเอกในหนังหรือสั่นกลัวรอให้พระเอกมาช่วยรึเปล่า??”

    “หนอย ยัยนี่---”

    เสียงรถยนต์คันขนาดใหญ่ขับเเล่นเข้ามาจอดช้า ๆ ทั้งที่อาคาเนะเเละชายเเปลกหน้าไม่รู้จักรถยนต์คันนี้ด้วยซํ้า เเต่พอมองรถยนต์ที่เข้ามาจอดมันรู้สึกได้เลยว่าเป็นรถหรูที่คนมีฐานะเขาใช้กัน

    รถใครวะน่ะ=-=

    “หนอย ช่างเเม่ง!”

    ชายเเปลกหน้าไม่พอใจเมื่อเห็นคนขับรถผ่านมาจอดเเละข้างในนั้นมีคนอยู่สองตน เขาเลยตัดสินใจวิ่งหนีออกไปจากที่ตรงนี้จนอาคาเนะงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

    ใบหน้าบอบบางของเธอหันไปมองรถยนต์คันหรู กระนั้นกายสูงจากในรถเปิดประตูออกเเล้วยืนขึ้นหันมามองเธอ เป็นชายวัยผู้ใหญ่ที่สวมชุดคอตตอนเกรดเอ เซ็ททรงผมสีนํ้าเงินหวีไว้เรียบร้อยราวกับผู้ดี

    คนนี้อีกเเล้วเรอะ!!!?

    “ยังไม่กลับบ้านอีกหรอ?มันดึกมากเเล้วนะ"ชายร่างสูงชุดสูตรสีนํ้าเงินยิ้มร่า

    ไอ้ลุงนี่ตัวอันตรายชัดๆ..!!

    .

    .

    .

    ยามนี้ก็ผ่านไปหลายนาที อาคาเนะได้ขึ้นมานั่งบนรถคันหรูเดียวกับชายร่างสูงซึ่งเป็นเขาเองที่คะยั้นคะยอเธอให้ขึ้นมานั่งด้วยเเละจะพาเธอไปส่งถึงบ้าน โดยที่มี ทาดาชิ คิคุจิ คอยเป็นคนรับใช้ขับรถไปเรื่อยๆ

    ภายในรถกลายเป็นเสียงเงียบสงัด ไอโนสุเกะ ชินโด นั่งไขว่ห้างกอดอกอยู่ทักชวนคุยขึ้นด้วยรอยยิ้มอ่อน"เหมือนเป็นพรหมลิขิตเลยนะ ที่มาพบกันหลายรอบเนี่ย"

    “ค่ะ…”เธอหรี่ตามองตรงไปข้างหน้าตอบเสียงเเข็ง เกรงตัวไปหมดเมื่อนั่งอยู่ข้างเขาเหนือกว่าสิ่งใด

    นัยต์ตาเรียวคมสีมณีเเดงปรายตามองเธอเเล้วเลื่อนสายตามองไปข้างหน้าต่ออีกครั้ง “ไม่ต้องเกรงไปหรอก ตามสบาย”

    “ค่ะ…”

    “ตลกดีนะเธอเนี่ย”หลับตายิ้มบนใบหน้าคมสง่า

    นั่งเฉยๆตรูเป็นตัวตลกซะงั้น….

     

     

     

     

     

     

     

    “ขอบคุณ…นะคะ”

    ล่วงเลยเวลาจนถึงหน้าบ้านสองชั้นธรรมดาของอาคาเนะ เธอจึงเปิดประตูรถลุกกายออกก่อนที่จะหันไปปิดประตูรถ กระนั้นกระจกรถเลื่อนลงโผล่ใบหน้าเรียวคมสง่าของไอโนสุเกะอีกครั้ง เขากล่าวกับเธอผ่านกระจกก่อนจากไป

    “ฉันจะจำบ้านเธอไว้ละกันนะ เเล้วเจอกัน”

    ……

    เป็นคำพูดที่ไม่ได้สวยหรูเเละน่าจดจำก่อนจากไปสักนิด ในขณะที่รถคันหรูสีดำเงาขับเคลื่อนออกไปพร้อมกับเเสงฉายตามทางท้องถนนข้างหน้า อาคาเนะกระตุกคิ้วไปมาอยู่หน้าบ้านว่าสิ่งที่เขาพูดมันช่างน่ากลัวราวกับพวกสโตกเกอร์

    หมอนั่นช่างมีรังสีน่ากลัว….

    เเม่..

    เธอรีบวิ่งเเจ้นเข้าบ้าน ก่อนจะ "ต่อจากนี้เเม่ต้องปิดบ้านให้สนิทนะะะะะ !!!!!! =[]=--- อ๊ากกกลืมขอลายเซ็นท่านเชอร์รี่!!"

    มนุษย์เเม่สวนกลับ ‘อาคาเนะ ไปนอนได้เเล้ว!!!!!’ 

     

     

    …………………………………………………………………………………………………………………………………………

    จบไปเเล้วกับตอนที่ 2 ค่ะ มายาวมากๆ อาจจะมีขี้เกียจอ่านกันบ้าง ก็ขออภัยไว้ ณ จุดนี้ค่ะ อาคาเนะเริ่มสงสัยเเล้วเเหละว่าอดัมกับผู้ดีอย่างไอโนสุเกะเป็นคนเดียวกันรึเปล่า 

    จริงๆอยากบอกว่าอาคาเนะเป็นพวกฉลาดเฉพาะบางเรื่องกับโง่บางเรื่องค่ะฮา ส่วนการเเข่งกับอดัมคงต้องรอกันค่ะในตอนหน้า

    ถ้าชอบอย่าลืมเม้นต์กับกำลังใจนะคะ จุบุๆ 

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×