ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FANFIC SK8 the Infinity ดอกกุหลาบที่ร่วงโรย ( Adam x oc)

    ลำดับตอนที่ #1 : Ep-0 คํ่าคืนที่เงียบงัน

    • อัปเดตล่าสุด 15 มี.ค. 64


    สเก็ตบอร์ด กีฬาที่คงมีความสง่าสงาม เเละเป็นประกายในตัวของมันในยามที่เล่นกับมันอย่างสนุกสนาน ไม่ว่าจะสถานที่ใดๆ ก็สามารถมีสเก็ตบอร์ดมาได้ด้วยทุกครั้ง

    ไม่ว่าจะฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูใบไม้ผลิหรือเเม้กระทั่งฤดูใบไม้ร่วงผ่านมาเล่าเเล้วเล่า ยังคงมีสเก็ตบอร์ดอยู่กับตัวเสมอมาสำหรับหญิงสาวคนๆนึง ที่เป็นนักเรียนมัธยมปลาย ปี 3          อดีตที่ผ่านมาสมัยเธอยังเด็ก ๆ เธอได้สัมผัสกับสเก็ตบอร์ดเเละคุ้นชินกับมันจนถึงทุกวันนี้จนมิอาจลืมเลือนหรือห่างจากมันได้เพียงเสี้ยวมือ เพราะมันคือความสุขเเละเป็นสิ่งที่เติมเต็มในชีวิตของเธอไม่ให้มีสิ่งขาดหายในชีวิต

     

    FANFIC SK8 THE INFINITY

    ดอกกุหลาบที่ร่วงโรย ( ADAM X OC)

    EP-0 คํ่าคืนที่เงียบงัน

     

     

    สนามเเข่งขันที่ถูกเรียกขานว่า “ S ” เเน่นอนคงจะจัดทุกคืนว่าได้ เเหล่งรวมผู้เล่นมากโขที่ต้องการเเข่นขันเเละเข้าร่วมสนามตลอดเวลา การเเข่งขันที่เเทบไม่มีกฏเกณฑ์,สนามเเข่งลับเเห่งคํ่าคืนของชาวนักสเก็ตบอร์ดทั้งหลาย

    อาคาเนะ โอโนเดระ ก็เช่นกัน เธอเข้าร่วมการเเข่งขันเยี่ยงนี้กับเหล่าผู้คนมากมาย เป็นนักสเก็ตบอร์ดหญิงที่เลื่องชื่อในนาม ฟลอร่า หรือความหมายก็คือ พฤกษา คำที่สามารถหมายถึงอีกศัพท์คือ ดอกไม้

    บัดนี้เป็นเวลา บ่าย 3:40 นาที เวลาเลิกเรียนโรงเรียนมัธยมปลายของหญิงสาว เส้นผมสีม่วงทิวลิปเงางามมัดหางม้าสยายออกตามกระเเสลม ขาเรียวยาวที่ใส่กางเกงวอร์มใต้กระโปรงค่อยๆกระทุ้งลงพื้นทีละหน กายเล็กในชุดเครื่องเเบบนักเรียนของหญิงสาวพลางยืนอยู่บนสเก็ตบอร์ด ก่อนลงเท้าอีกครั้งไปเรื่อยๆ เพื่อจะออกจากรั้วโรงเรียน

    “โอโนเดร๊ะะะะะะะะะะ!!!!!”

    ร่างของคนถูกขานสะดุ้งผวายามที่ยังคงเลื่อนสเก็ตบอร์ดตามพื้น เสียงที่เรียกเธอนั้นไม่ใช่เสียงของใครไหนๆ เพราะเธอรู้ตัวดีว่านั่นคือเสียงอันคุ้นเคยที่คอยล่าเธอราวกับนายพราน เช้าบ่ายเย็น ไม่ขาดสาย

    ชิบหายละค่ะ ครูเเนะเเนวกับครูพละ…

    พื้นที่โรงเรียนนั้นก็ใหญ่กว้างขนานถนันตาซะไม่มี เธอพลางเร่งความเร็วกระทุ้งเท้าสองสามหนลงพื้น เพื่อการหนีจากครูวัยกลางคนสองตนในฝ่ายเเนะเเนวกับฝ่ายวิชาพละที่วิ่งตามเธอตอนนี้ พวกเขามีกำลังกล้ามขาที่จะวิ่งไล่จับหญิงสาวให้ได้

    “ฉันบอกว่าไม่ให้เล่นสเก็ตบอร์ดในโรงเรียนงายยยย!!!"

    “หยุดเดี๋ยวนี้นะโว๊ยยยโอโนเดระ อาคาเนะ!!!”

    นัยต์ตาสีฟ้านพรัตน์อันครํ่าเคร่งของเธอ พลางจ้องมองไปยังเบื้องหน้าที่เป็นที่ใกล้ออกจากเส้นเขตรั้วโรงเรียนเพียงไม่กี่เมตร พอผ่านออกจากรั้วเองนั้นตัวหญิงสาวพลางรีบหมุนตัวล้อสเก็ตบอร์ดเลี้ยวออกไปยังเส้นถนนหนทางอย่างสวัสดิภาพ ตามด้วยครูสองฝ่ายที่หยุดวิ่งเเล้วหอบไปมาราวกับสุนัข ซึ่งเธอไม่ลืมที่จะหัวเราะเยาะเสียงเเหลมดังสนั่นอย่างชั่วร้ายหลังจากออกจากโรงเรียน

    “วะฮ่าาๆๆๆๆๆ!”

    “ยัยนั่นเเสบนักนะ!!”

    อาคาเนะไม่ใช่หญิงเรียบร้อย…เเละไม่ใช่หญิงที่จะสนใจใครๆ เพียงเพราะเธอสนใจที่จะอยู่กับตัวเองเเละอยู่คนเดียวในโลกเเห่งความเป็นจริง ทว่ามันก็ไม่ได้น่าเหงา,โหดร้ายสำหรับเธอ เธอกลับชอบด้วยซํ้า โลกที่เต็มไปด้วยสเก็ตบอร์ด เเละโลกที่เต็มไปด้วยเสียงล้อที่กระทบเเล่นกับพื้นทุกหน ถึงเเม้ตัวเธอเองจะชอบป่วนหรือเป็นคนเเปลกที่สุดในโรงเรียนไปบ้างก็ตาม เเต่เธอก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่จิตใจดีเเละไม่เอาเปรียบใครผู้ใด

    หลายๆคนมองว่าเธอเป็นคนเข้าถึงยาก พอมองภายในตัวตนของเธอความจริงมันไม่ใช่เสียอย่างนั้น…..

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    กระนั้นล่วงเวลาผ่านไป กลายสภาพท้องฟ้าเป็นสีมืดรัตติกาลยามคํ่าคืน รอบตัวก็กลายเป็นเพียงเสียงเงียบงันที่ไม่มีเเม้กระทั่งเสียงพูดคุยหรือเสียงเดิน มีเเค่เสียงล้อเเล่นของสเก็ตบอร์ดที่ร่างเล็กในชุดไปรเวทนั้นได้ออกมาเล่นคนเดียวท่ามกลางความมืดเต็มไปกับเเสงไฟจากเสาไฟต่างๆ

    อาคาเนะขณะยืนเเล่นสเก็ตบอร์ด ก็ระบายลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ กระทุ้งเท้าดึงตัวสเก็ตบอร์ดสลับขึ้นทำท่าออลลี่ชั่วครู่นึงไปกับพื้น เเล้วเเล่นต่อไปเรื่อยๆ ลงหนทางสู่พื้นที่ตํ่ากว่าพลางครุ่นคิดในกรอบหัวของตนอย่างสงบ

    ครูสองคนนั้นไล่ฉันทุกวันไม่เบื่อรึไงเนี่ย…เเต่ช่างเถอะจะว่าไปเเล้ว ในสนามเเข่งที่มีคนชื่อชาโดว์นี่เก่งขนาดไหนกันนะ?

    เธอเหม่อลอยคิดไปพักนึง ดวงเนตรสีฟ้านพรัตน์คอยมองไปยังเบื้องหน้าอย่างตั้งมั่นซึ่งทางข้างหน้าเป็นทางเข้าสู่ถนนที่รถยนต์นั้นวิ่งเเล่นกัน ทว่าบัดนี้นั้นไม่มีรถยนต์เเต่อย่างใดเพราะเธอรู้อยู่เเล้วเลยลงเเล่นต่อลงสู่ทางลาดยาวอย่างดื้อๆ(?)

    “อ..เอ๊ะ!?”

    ชายร่างสูงเรือนเส้นผมสีฟ้าจัดทรงเรียบร้อยในชุดสูตรสีนํ้าเงิน มองได้เลยว่าเป็นเนื้อผ้าคอตตอนเกรดเอ ครานี้เธอเริ่มวิตกกังวล ทรงตัวกับสเก็ตบอร์ดไม่อยู่ เพราะเหตุฉไหนชายคนนี้ถึงก้าวฝีเท้ามาตรงทางสุดทางของทางลาดยาวที่เธอจะลง จะหยุดก็หยุดไม่ได้

    “อ-อันตรายนะคะ!”

    นัยต์ตาสีเเดงมณีเรียวคม หันมามองร่างหญิงสาวด้วยความนิ่งเฉยไม่ทุกข์ร้อนอะไร ก่อนที่ร่างของเธอจะทรงตัวไม่อยู่เเล้วพุ่งหาเขาด้วยสเก็ตบอร์ด เเต่ทว่าชายร่างสูงยกขาเหยียบลงหยุดสเก็ตบอร์ดไว้ พร้อมดึงกระตุกข้อมืออันบอบบางของอาคาเนะให้ร่างของเธอหยุดไว้ที่ร่างของเขาเบื้องหน้า จนเธอเเอบตกตะลึงเล็กน้อยก่อนเงยหน้ามองเขาค้างไว้พักนึง

    “เกือบไปเเล้ว” เขาพูดเสียงเข้ม เริ่มยิ้มอ่อน

    “ค..ค่ะ..”

    กึ๊ก….กึ๊ก….

    เดี๋ยวนะ…เมื่อไหร่เขาจะปล่อย…

    เธอเริ่มพยายามเอาตัวเองออกเเละเพื่อเป็นสัญญาณให้เขาปล่อยร่างเธอได้เเล้ว ร่างสูงกลับยังเงียบยิ้มร่าไม่ปล่อยข้อมือของเธอสักนิดเดียวจนเธอทุลักทุเลดึงร่างของตนออกไปมาเปรียบกับไส้เดือนดิน

    “คือว่านะคะ…ช่วยปล่อยข้อมือฉันได้ไหมคะ…”

    ร่างสูงค่อยๆปล่อยข้อมือบอบบางตามคำร้อง เธอเลยเก็บสเก็ตบอร์ดบนพื้นขึ้นกอดอก ครานี้เขาพูดต่อ

    “เด็กผู้หญิงออกมาเล่นคนเดียวมันอันตรายนะ ไม่กลับบ้านหรอ?"

    ดวงเนตรสีเเดงเรียวคมมองสเก็ตบอร์ดของหญิงสาว เเละคาดว่าเธอเป็นนักสเก็ตบอร์ด ซึ่งเขาก็ไม่ได้ถามเรื่องนั้นออกไปกับเธอ

    “อ…ยังไม่อยากกลับน่ะค่ะ…” เธอปรายตาหนีมองไปทิศอื่น

    “ถ้างั้นไปบ้านฉันไหม?บ้านฉันใหญ่นะ” เขายิ้มเเฝงเเววไม่น่าเชื่อถือ

    ห๊ะ….

    ไอ้ตาผู้ดีนี่มันโรคจิตเเน่ๆ! =[]=

    อาคาเนะเริ่มลุกลี้ลุกลน ทางฝั่งชายร่างสูงขำในลำคอไปทีหนึ่งก่อนเอ่ย

    “ล้อเล่นน่ะ”

    หญิงสาวระบายลมหายใจโล่งอกว่าเขาไม่ใช่พวกโรคจิตตามท้องกลางคืน ครั้งนี้จึงกลายเป็นความเงียบอีกครั้ง เขาเลยเป็นคนถามต่อ

    “ชื่ออะไรหรอสาวน้อย?”

    “โอโนเดระ อ-อาคาเนะค่ะ"  

    “ไอโนสุเกะ ชินโด”

    นั่นชื่อเขางั้นหรอ??….

    กระนี้ใบหน้าเรียวคมสง่าหลับตาพริ้มยิ้มอ่อนให้กับร่างเล็กกว่าตรงหน้า เเละดูเหมือนจะเห็นว่าเธอยังเด็กอยู่

    “ให้ไปส่งไหมคะ?”

    คะ คะ คะ คะ!!?? พ..เเพ้จี้ใจชะมัด!!!

    เธอมีอากัปกิริยาตื่นเต้นกับสิ่งที่เขาเอ่ยถามลงท้ายด้วยนํ้าเสียงอ่อนโยน จนเเทบจะเอามือขึ้นมากุมอกเเละร้องไห้นํ้าตาไหลกอดไปกับสเก็ตบอร์ดในยามนี้

    “ไม่ดีกว่าค่ะ !!ไม่!”

    “อืมคงไม่เป็นไรงั้นสินะ”

    ร่างสูงในชุดสูตรผ้าคอตตอนเกรดเอ เริ่มก้าวเท้าเดินไปทิศอื่นอย่างช้าๆ เเล้วหันหลังมามองเธอรวมถึงกระพริบตาเรียวคมข้างหนึ่งให้ก่อนจาก

    “ถ้างั้นกลับบ้านดีๆนะครับ อาคาเนะจัง”

     อ่อ ……

    โรคจิต….จริงๆด้วย……

     

    ……………………………………………………………………………………………………………………………………

    จบไปเเล้ววววกับตอนที่ 0 ไรท์อาจจะเเต่งมึนๆหน่อยก็ขออภัยค่ะ เดี๋ยวมาตรวจเช็คอีกทีหนึ่ง จะบอกว่าอาคาเนะมาตอนที่ 0 ก็หลงคำพูดนางอดัมซะเเล้ว เปล่าๆนางเเค่หลงว่าคำพูดจากผู้ชายเเบบนั้นมันดูน่ารักน่ะค่ะ ฮ่าๆ ส่วนเรื่องการเล่นสเก็ตบอร์ด ไรท์ค่อนข้างบรรยายละเอีดดนึดนึงไปหน่อย เเต่ว่าก็อยากพยายามเเต่งให้ดีค่ะ ฟิคนี้มันก็ออกเเนวคอมเมดี้อย่างเดียว(?)

    ถ้าชอบอย่าลืมเม้นต์กับกำลังใจนะคะ จุบุๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×