ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ประวัติศาสตร์ย่อๆของออสเตรเลียค่ะ
ออสเตรเลีย
ประวัติศาสตร์ของออสเตรเลียนั้นนับว่ามีมายาวนานมาก แต่ช่วงที่ประวัติศาสตร์ได้รับการบันทึกนั้นคือในช่วงหลังจากชนผิวขาวจากยุโรปได้เริ่มเข้ามาค้นหาดินแดนโลกใหม่ แต่ในช่วงแรกๆนั้นชาวตะวันตกเหล่านี้กลับมองดินแดนนี้ว่าว่างเปล่าและไร้ค่า จนกระทั่งหลายศตวรรษต่อมาเมื่อเกิดความจำเป็นของการหาที่อยู่ใหม่ให้กับนักโทษที่ล้นประเทศของอังกฤษจึงได้ต้องมีการค้นหาดินแดนที่อุดมสมบูรณ์พอที่จะนำนักโทษเหล่านั้นมาคุมขังในดินแดนที่มีปราการเป็นทะเลอันกว้างขวางนี้
อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะมีการพบดินแดนทางฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียที่อุดมสมบูรณ์พอจะทำการเลี้ยงสัตว์และเพาะปลูกได้ แต่ปัญหาต่างๆเช่น การต่อต้านของเผ่าอะบอริจินิสผู้ซึ่งอาศัยอยู่ณ ดินแดนนี้มาหลายพันปี การขาดความรู้เกี่ยวกับสภาพอากาศ สภาพภูมิศาสตร์ การขาดความเชี่ยวชาญในการเพาะปลูกหรือเลี้ยงสัตว์เนื่องด้วยกลุ่มคนที่มานั้นล้วนเป็นนักโทษที่ไม่มีความรู้ในการเพาะปลูกหรือเลี้ยงสัตว์ การไม่ให้ความใส่ใจของรัฐบาลอังกฤษในการพัฒนาดินแดนนักโทษนี้ กอปรกับความห่างไกลระหว่างดินแดนนี้กับอังกฤษที่ทำให้เกิดกบฎเหล้าของเหล่าทหารที่กุมอำนาจไว้ ล้วนเป็นปัญหาสำคัญในช่วง 20ปีแรกที่ทำให้การพัฒนาออสเตรเลียนั้นเป็นไปอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งข้าหลวงแมคควารี่เข้ามาเป็นข้าหลวงของดินแดนที่ถูกเรียกว่านิวเซาท์เวลส์นี้ ดินแดนนี้จึงค่อยได้รับการพัฒนาอย่างมากตามแนวคิดของแมควารี่ที่คิดจะเปลี่ยน "นิคมนักโทษ" ให้เป็น "อาณานิคม" มีการสร้างอาคารบ้านเรือน การค้นพบดินแดนที่อุดมสมบูรณ์มากพอที่จะทำการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ซึ่งแม้ในสมัยแมคควารี่จะไม่ให้ความสนใจในการเพาะปลูกเลี้ยงสัตว์
แต่ต่อมาหลังจากมีรายงานบิกก์ ของจอห์น โทมัส บิกก์ส่งถึงรัฐบาลอังกฤษ จึงได้เกิดการสนับสนุนให้เสรีชนเข้ามาตั้งที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมากขึ้น นิวเซาเวลส์จึงค่อยๆได้รับการพัฒนาในด้านเศรษฐกิจให้เจริญมากยิ่งขึ้น แต่ต่อมาสิ่งที่ทำให้ดินแดนนี้มีความพัฒนาในด้านเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดคือช่วงที่ "ทองคำ" ได้รับความสนใจไปทั่วโลก และก็ได้มีการพบทองคำในดินแดนนี้เป็นจำนวนมหาศาล นำเสรีชนให้เข้ามาตั้งถิ่นฐานหรือเข้ามาแสวงโชคมากมาย แม้จะทำให้เกิดปัญหาบางประการเช่น การเหยียดพวกชาวจีน หรือการกบฎแรงงานที่ยูริสตอกเกด แต่การค้นพบทองก็มีผลต่อการเปลี่ยบแปลงของออสเตรเลียในช่วงทศวรรษ 1850 เป็นอย่างมาก นอกจากด้านเศรษฐกิจก็คือการเพิ่มจำนวนของประชากร การเกิดระบบคมนาคมที่สำคัญทั้งเรือและรถไฟ การเกิดนโยบาย "White Australia Policy" ที่กีดกันคนผิวสีอื่นๆนอกจากชนผิวขาว และจากการพัฒนาด้านการเมืองที่ทำให้มีการยกเลิกระบบนักโทษ และการพัฒนาการเมืองในออสเตรเลียนั้นก็กลายเป็นเวทีสำคัญของการพัฒนาการเมืองแบบประชาธิปไตย
ในช่วงหลังทศวรรษ 1850 เป็นต้นมาออสเตรเลียก็มีการพัฒนามากขึ้นๆในทุกๆด้าน ทั้งด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ คมนาคม ความเป็นอยู่ทั้งด้านการทำมาหากิน ที่อยู่อาศัยและการศึกษาของประชาชน รวมทั้งด้านความมั่นคงของประเทศ ฯลฯ จนในภายหลังได้สร้างชาตินิยมและความรักชาติที่เพิ่มมากขึ้นในชาวออสเตรเลีย ซึ่งในไปสู่ความเป็นออสเตรเลีย (Australianism) เกิดศิลปะ วรรณกรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์และการสร้างบุคลิกภาพของชาวออสเตรเลีย ในขณะที่การพัฒนาด้านการเมืองก็เป็นไปอย่างต่อเนื่องแม้ว่าออสเตรเลียจะได้รับผลกระทบจากสงครามโลกที่ทำให้ต้องส่งคนเป็นจำนวนมาก แต่ก็ได้ทำให้ออสเตรเลียเป็นที่รู้จักของโลก ความเป็นชาตินิยมที่เพิ่มพูนในชาวออสเตรเลียได้ทำให้เกิดความต้องการในการรวมชาติจนทำให้ท้ายที่สุดก็ได้สถาปนาเครือรัฐออสเตรเลียที่เป็นสหพันธรัฐที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญเป็นประมุข
อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะมีการพบดินแดนทางฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียที่อุดมสมบูรณ์พอจะทำการเลี้ยงสัตว์และเพาะปลูกได้ แต่ปัญหาต่างๆเช่น การต่อต้านของเผ่าอะบอริจินิสผู้ซึ่งอาศัยอยู่ณ ดินแดนนี้มาหลายพันปี การขาดความรู้เกี่ยวกับสภาพอากาศ สภาพภูมิศาสตร์ การขาดความเชี่ยวชาญในการเพาะปลูกหรือเลี้ยงสัตว์เนื่องด้วยกลุ่มคนที่มานั้นล้วนเป็นนักโทษที่ไม่มีความรู้ในการเพาะปลูกหรือเลี้ยงสัตว์ การไม่ให้ความใส่ใจของรัฐบาลอังกฤษในการพัฒนาดินแดนนักโทษนี้ กอปรกับความห่างไกลระหว่างดินแดนนี้กับอังกฤษที่ทำให้เกิดกบฎเหล้าของเหล่าทหารที่กุมอำนาจไว้ ล้วนเป็นปัญหาสำคัญในช่วง 20ปีแรกที่ทำให้การพัฒนาออสเตรเลียนั้นเป็นไปอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งข้าหลวงแมคควารี่เข้ามาเป็นข้าหลวงของดินแดนที่ถูกเรียกว่านิวเซาท์เวลส์นี้ ดินแดนนี้จึงค่อยได้รับการพัฒนาอย่างมากตามแนวคิดของแมควารี่ที่คิดจะเปลี่ยน "นิคมนักโทษ" ให้เป็น "อาณานิคม" มีการสร้างอาคารบ้านเรือน การค้นพบดินแดนที่อุดมสมบูรณ์มากพอที่จะทำการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ซึ่งแม้ในสมัยแมคควารี่จะไม่ให้ความสนใจในการเพาะปลูกเลี้ยงสัตว์
แต่ต่อมาหลังจากมีรายงานบิกก์ ของจอห์น โทมัส บิกก์ส่งถึงรัฐบาลอังกฤษ จึงได้เกิดการสนับสนุนให้เสรีชนเข้ามาตั้งที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมากขึ้น นิวเซาเวลส์จึงค่อยๆได้รับการพัฒนาในด้านเศรษฐกิจให้เจริญมากยิ่งขึ้น แต่ต่อมาสิ่งที่ทำให้ดินแดนนี้มีความพัฒนาในด้านเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดคือช่วงที่ "ทองคำ" ได้รับความสนใจไปทั่วโลก และก็ได้มีการพบทองคำในดินแดนนี้เป็นจำนวนมหาศาล นำเสรีชนให้เข้ามาตั้งถิ่นฐานหรือเข้ามาแสวงโชคมากมาย แม้จะทำให้เกิดปัญหาบางประการเช่น การเหยียดพวกชาวจีน หรือการกบฎแรงงานที่ยูริสตอกเกด แต่การค้นพบทองก็มีผลต่อการเปลี่ยบแปลงของออสเตรเลียในช่วงทศวรรษ 1850 เป็นอย่างมาก นอกจากด้านเศรษฐกิจก็คือการเพิ่มจำนวนของประชากร การเกิดระบบคมนาคมที่สำคัญทั้งเรือและรถไฟ การเกิดนโยบาย "White Australia Policy" ที่กีดกันคนผิวสีอื่นๆนอกจากชนผิวขาว และจากการพัฒนาด้านการเมืองที่ทำให้มีการยกเลิกระบบนักโทษ และการพัฒนาการเมืองในออสเตรเลียนั้นก็กลายเป็นเวทีสำคัญของการพัฒนาการเมืองแบบประชาธิปไตย
ในช่วงหลังทศวรรษ 1850 เป็นต้นมาออสเตรเลียก็มีการพัฒนามากขึ้นๆในทุกๆด้าน ทั้งด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ คมนาคม ความเป็นอยู่ทั้งด้านการทำมาหากิน ที่อยู่อาศัยและการศึกษาของประชาชน รวมทั้งด้านความมั่นคงของประเทศ ฯลฯ จนในภายหลังได้สร้างชาตินิยมและความรักชาติที่เพิ่มมากขึ้นในชาวออสเตรเลีย ซึ่งในไปสู่ความเป็นออสเตรเลีย (Australianism) เกิดศิลปะ วรรณกรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์และการสร้างบุคลิกภาพของชาวออสเตรเลีย ในขณะที่การพัฒนาด้านการเมืองก็เป็นไปอย่างต่อเนื่องแม้ว่าออสเตรเลียจะได้รับผลกระทบจากสงครามโลกที่ทำให้ต้องส่งคนเป็นจำนวนมาก แต่ก็ได้ทำให้ออสเตรเลียเป็นที่รู้จักของโลก ความเป็นชาตินิยมที่เพิ่มพูนในชาวออสเตรเลียได้ทำให้เกิดความต้องการในการรวมชาติจนทำให้ท้ายที่สุดก็ได้สถาปนาเครือรัฐออสเตรเลียที่เป็นสหพันธรัฐที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญเป็นประมุข
การจัดตั้งเครือรัฐออสเตรเลียขึ้นในปี 1901นี่เองที่เป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มั่นคงในปัจจุบันนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น