ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 3 : Harry Potter
3 : Harry Potter
แสงบนท้องฟ้าที่เคยสว่างจ้าเริ่มเปลี่ยนสี พระอาทิตย์เริ่มลงต่ำในเวลาห้าโมงเย็น หญิงสาวผมสั้นสีเข้ม สวมเสื้อคลุมสีดำ และถือหมวกทรงสูงในมือเปิดประตูไม้ที่คุ้นเคยเข้าไปด้านในอาคาร นิวในร้านไร้ลูกค้าที่ได้ยินเสียงเปิดประตูรีบหันไปมองพร้อมกับปั้นหน้ายิ้ม แต่เมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้าเขาก็ถอนหายใจ หญิงสาวเอาหมวกในมือขึ้นมาสวมหัว หมวกสามเหลี่ยมทรงสูงสีดำเข้าคู่กับเสื้อคลุมมีฮูทสวมหัวบนไหล่ของหญิงสาวอย่างพอดิบพอดี
“บอกทีว่าเพิ่งมาสวมตรงหน้าร้าน” นิวพูดกับหญิงสาวพลางมองเธอหัวจรดเท้า
“เค้าใส่ตั้งแต่บ้านแล้วต่างหากเล่า”
“ถามจริง? ไม่รู้ว่ามันพิลึกบ้างหรือไงยัยโรม”
นิวถามขึ้นก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าไม่มีสิ่งใดพิลึกไปกว่าหญิงสาวตรงหน้าของเขาแล้ว นักศึกษามหาวิทยาลัยผมสั้นในชุดไปรเวทธรรมดา แต่สวมเสื้อคลุมและหมวกสีดำเหมือนแม่มดนั้นคือ โรม หนึ่งในลูกค้าประจำของร้าน ที่ต่อให้แต่งตัวปกติแต่ก็มักทำสิ่งที่นิวมองว่าออกจะพิลึกพิลั่นไปบ้างอยู่บ่อยๆ
“แล้วตัวไม่ใส่เหรอ”
“อ่า ของฉันน่ะอยู่ข้างบน” นิวพูดพร้อมกับกอดอกและพยายามไม่สนใจโรมนัก
“หึ ถึงจะบอกว่างี่เง่าแต่จริงๆจัดเต็มใช่ไหมล่ะ” เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังขึ้นพร้อมกับเสียงปิดประตู “น้องนิวน่ะเป็นพวกยอมเสียฟอร์มในการเลือกชุดไม่ได้นี่นา”
ชายสวมแว่นดูมีอายุเล็กน้อยที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้านคือ กร อีกหนึ่งลูกค้าประจำที่มักจะเข้ามาในเวลานี้เช่นกัน คำพูดติดตลกของกรนั้นทำให้นิวเบ้หน้าเล็กน้อยอย่างไม่ยอมรับ เมื่อเห็นท่าทางของนิวเป็นแบบนั้นลูกค้าประจำทั้งสองจึงปล่อยให้เขาทำงานโดยไม่รบกวนและเดินไปที่บันได โรมเดินนำหน้าไปจนถึงที่วางรองเท้าตรงชั้นสองก่อนที่ทั้งสองจะเจอรองเท้าสองคู่ถูกวางไว้บนชั้นวางรองเท้า
“รีบไปดูกันเถอะว่าใครชิงตัดหน้าไปยึดฐานทัพก่อนเรานอกจากชิน”
กรพูดเพราะเขาจำรองเท้าของชินได้ แต่รองเท้าผู้หญิงอีกคู่นั้นเขาไม่มั่นใจนัก เมื่อได้ยินดังนั้นโรมก็รีบเดินนำขึ้นไป แต่ก่อนที่จะเข้าห้องเธอก็นึกบางอย่างขึ้นได้และหันไปถามกร
“จะว่าไปโรมไม่เห็นพี่เตรียมแต่งตัวเลยนี่นา” โรมถามขึ้นเมื่อสังเกตว่ากรนั้นไม่ได้ถือกระเป๋าหรืออะไรมาด้วยเลย
“อ่า...” กรชะงักเล็กน้อยก่อนจะยิ้ม “วันนี้พี่น่ะคิดบทพิเศษมาแล้วไง”
“เห? อะไรเหรอ”
“อือ...เอ่อ...ก็เป็นเวทมนตร์ไง เป็นเวทมนตร์” กรคิดอย่างรีบๆโดยเลี่ยงที่จะบอกตรงๆว่าเขาลืมเรื่องแต่งตัวไปเสียสนิท
“หมายความว่ายังไงน่ะ” โรมถามอีกหลังกรพยายามตอบแบบแถๆไม่ชัดเจน
“ก็ลองร่ายคาถาสักอย่างสิ” กรยิ้มหน้าเจื่อนๆ
โรมถอนหายใจก่อนจะหยิบตะเกียบอันหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วทำเป็นว่ามันเป็นไม้กายสิทธิ์ก่อนจะชี้ไปที่ประตู
“อาโลโฮโมร่า!”
คาถาเปิดประตูและสะเดาะกลอนจากหนังสือนิยายพ่อมดแม่มดที่ดังที่สุดตั้งแต่โลกเคยมีมาถูกพูดขึ้น ก่อนที่กรจะเดินไปเปิดประตูให้หญิงสาว โรมเห็นดังนั้นก็ยกนิ้วโป้งให้เป็นสัญญาณว่าหาข้ออ้างไม่แต่งตัวได้สุดยอดมากก่อนที่เธอจะหันไปมองในห้องและชะงัก
“มีอะไร” กรหันเข้าไปมองในห้องเมื่อเห็นท่าทางของโรมก่อนจะปิดประตูลงเบาๆ “ลงไปข้างล่างกันก่อนไหม”
กรถามขึ้น แล้วทั้งสองก็ทำท่าจะหันหลังเดินลงไปด้านล่าง แต่ก็ช้าไปเพราะหญิงสาวร่างสูงที่รีบวิ่งขึ้นบันไดมานั้นเปิดประตูพรวดเข้าไปก่อนจะตะโกนเสียงดังอย่างร่าเริง
“วันนี้มาเร็วเฟ้ย!” เสียงนั้นดังไปแทบทั้งชั้นก่อนที่เธอจะชะงักเพราะภาพตรงหน้า
ชายหนุ่มที่พวกเขาทั้งสามคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีกำลังหลับหลับอยู่บนเบาะหันหัวชนกับเด็กสาวหน้าตาน่ารักที่พวกเขาไม่รู้จัก และอาจเป็นเพราะเสียงตะโกนทำให้เด็กสาวที่สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาดีดตัวลุกพรวดเมื่อเห็นคนแปลกหน้า
“อ่า...ให้ตาย กี่โมงแล้วเนี่ย” ชินยันตัวขึ้นอย่างงัวเงียโดยไม่ได้สังเกตใบหน้าแดงจัดของพลอยหรือเพื่อนทั้งสามที่เดินเข้ามาเลย หลังจากมองนาฬิกาเสร็จแล้วเขาจึงหันไปมองที่ประตู “อ้าว วันนี้พี่ยักษ์มาตรงเวลาเหรอเนี่ย”
สีหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวของชินทำให้พลอยหน้าแดงและไม่รู้จะทำตัวยังไงในสถานการณ์แบบนี้เข้าไปใหญ่ แต่ชินก็พูดต่อโดยไม่ได้คิดว่าคนอื่นกำลังคิดอะไรกันอยู่
“นี่ น้องพลอยนะ เป็นเพื่อนผมเอง” ชินพูดแนะนำด้วยรอยยิ้มทำให้พลอยยกมือไหว้สวัสดี
“อะไรกัน นึกว่าชินจะมีแฟนแล้วซะอีก” กรพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆแล้วปิดประตู
“ชินมันเป็นฤาษีไงคุณกร ไม่เห็นสนใจใครที่ไหน” ยักษ์พูดอย่างเซ็งๆแล้วเอากระเป๋าวางลงบนโต๊ะ
ทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทางอย่างรวดเร็ว เว้นเสียแต่พลอยที่ยังสับสนงงงวยกับสถานการณ์ที่คนแปลกหน้าสามคนเข้ามาในห้องอย่างกะทันหัน แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนรู้จักของชินก็ตาม ชินที่เริ่มหายง่วงแล้วมองท่าทีประหม่าของพลอยอย่างเอ็นดูก่อนที่เขาจะลูบผมของเด็กสาว
“พลอย พวกนี่เป็นเพื่อนพี่เอง อาจจะโหวกเหวกหน่อยนะ” ชินแอบหวั่นใจว่าเด็กสาวจะไม่พอใจกับเหตุกะทันหันนี้เล็กน้อย แต่เขาก็อธิบายต่อ “พอดีวันเสาร์พวกเราจะรวมตัวกันที่นี่ช่วงเย็นๆน่ะ”
“งั้นเหรอคะ แบบนี้พลอยรบกวนไหมคะเนี่ย”
“ไม่หรอก ไม่เลย” ชินรีบพูดก่อนหันไปทางคนอื่น “จริงๆพวกนี้ก็เคยเป็นคนแปลกหน้ากันเมื่อไม่นานนี้แหละ”
“หมายความว่ายังไงเหรอคะ” พลอยถามด้วยความฉงนเพราะบรรยากาศรอบตัวทุกคนนั้นดูกันเองมาก
“ที่นี่เป็นบุ๊คคลับเล็กๆของพี่น่ะ ทุกคนก็เป็นลูกค้าประจำที่สนิทสนมกันขึ้นมาไม่ก็มารวมๆกันแบบบังเอิญมากกว่า” ชินชี้แจ้งด้วยรอยยิ้ม และท่าทางของเขานั้นดูพอใจเป็นอย่างมาก “จริงๆที่ชวนมาที่ร้านก็เพราะอยากให้ลองมานี่แหละ เผื่อสนใจ ดูเป็นการล่อลวงเกินไปไหมนะ”
ชินหัวเราะเบาๆกับความเจ้าแผนการของตัวเอง ซึ่งสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคยก็ทำให้พลอยแปลกใจและประหม่ากว่าปกติ แต่ตอนที่เธอยังไม่ได้ตั้งตัวนั้นเธอก็ถูกกอดจากด้านหลัง แขนที่กอดเธอนั้นไม่ได้สัมผัสผิวโดยตรงเพราะอีกฝ่ายสวมเสื้อแขนยาว คางของหญิงสาววางบนบ่าของพลอยอย่างไม่เกรงใจและใกล้จนพลอยได้กลิ่นแชมพูจากผมของเธอ
“ตัวจะมาเป็นสมาชิกใหม่ใช่ไหม เค้าโรมน้า” โรมพูดด้วยเสียงที่ร่าเริงแต่ก็ดูเอื่อยเฉื่อยอยู่ในที
“โรม ทำแบบนั้นน้องเขาจะลำบากใจเอานะ” หญิงสาวตัวสูงมัดผมเปียยาวที่ตอนแรกใส่เสื้อผ้าคล้ายๆเครื่องแบบตอนนี้ถอดเสื้อนอกออกและสวมเสื้อคลุมสีดำคล้ายๆโรมแทน เธอมองพลอยด้วยสายตาที่ลำบากใจราวจะขอโทษแทน “เราชื่อยักษ์นะ น่าจะแก่กว่าพลอยหลายขุมอยู่”
“พี่ก็แก่กว่าทุกคนในห้องยกเว้นพี่กรแหละครับ ฮ่าๆๆ” ชินพูดขึ้นก่อนจะถูกยักษ์ที่ยืนอยู่ใช้เท้าเตะขาเบาๆ
“แหม เด็กๆนี่ร่าเริงกันจัง” กรพูดพร้อมกับค่อยๆนั่งลงบนเบาะ “พี่ชื่อกรนั่นแหละ ตอนนี้แก่สุดในกลุ่ม ฮะๆ”
ทุกคนรอบตัวแสดงท่าทางที่เป็นมิตรและผ่อนคลายทำให้พลอยค่อยๆสบายใจขึ้นและเริ่มแนะนำตัวกลับด้วย แต่หลังจากพลอยแนะนำตัวจบยักษ์ก็พูดบางอย่างขึ้นมา
“แล้วชินไม่ได้เตรียมชุดไว้เหรอ”
“จริงด้วย! แป๊บนะ” ชินรีบลุกเดินออกไปจากห้องอย่างรีบร้อน
ท่าทางของชิน การพูดเรื่องชุด และผ้าคลุมสีดำกับหมวกแม่มดที่ยักษ์กับโรมใส่ ทำให้พลอยสงสัยจนอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะตอนนี้พวกเขาเริ่มแต่งตัวเหมือนปาร์ตี้ฮาโลวีนเข้าไปทุกทีแล้ว
“แล้วนี่ ทำไมพี่ยักษ์กับพี่โรมใส่ผ้าคลุมกันล่ะคะ” พลอยถามก่อนจะโดนโรมทำแก้มพองใส่
“ยัยโรมไม่ชอบให้เรียกพี่น่ะ” ยักษ์บอกก่อนจะพูดเรื่องเสื้อผ้า “ก็วันนี้ มันเป็นวันที่แฮรี่พอตเตอร์ฉบับแปลไทยตีพิมพ์ครั้งแรกน่ะ ชินมันก็เลยอยากแต่งเล่นๆ เพราะในกลุ่มเรามีสาวกแฮรี่พอตเตอร์อยู่คนหนึ่ง”
“แฮรี่พอตเตอร์งั้นเหรอคะ”
พลอยพูดลอยๆพลางนึกถึงหนังสือหนาเตอะเจ็ดเล่มที่วางทับกันแล้วดูเหมือนประติมากรรมอะไรบางอย่างในห้องหนังสือของพี่ชายที่บ้าน
แม้ว่าแฮรี่พอตเตอร์จะเป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ได้รับการยกย่องถึงขั้นมีคนบอกว่าในช่วงแรกที่มันถูกตีพิมพ์มันทำให้กระแสการอ่านหนังสือของผู้คนทั่วโลกเพิ่มขึ้นราวกับเวทมนตร์ แต่ไม่มีสิ่งใดที่ใครๆก็ชอบไปเสียทุกคนหรอก ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น พลอย เธอไม่ค่อยปลื้มหนังสือชุดนี้นัก อาจเพราะทุนเดิมเธอไม่อ่านหนังสือเสียเท่าไหร่อยู่แล้ว หนังสือหนาเตอะเต็มไปด้วยตัวอักษรชวนลายตาและบทบรรยายชวนง่วงนั้นคือสิ่งที่พลอยมองแฮรี่พอตเตอร์เป็น ยิ่งครั้งได้ดูภาพยนตร์เกี่ยวกับโลกเวทมนตร์ที่ถูกสร้างจากหนังสือชุดนี้แล้วเธอไม่ได้มีความประทับใจใดๆกับมันจนทนดูได้เพียงภาคเดียว ยิ่งทำให้พลอยไม่มีแรงผลักดันใดๆที่จะอ่านมันเลย
นั่นเป็นเหตุผลมากพอที่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดขึ้นมาที่ต้องนั่งอยู่ในกลุ่มคนที่ดูเหมืนจะชอบในสิ่งที่เธอไม่ชอบและไม่สนใจ ในทางเดียวกันเธอมองมันในแง่ค่อนข้างลบเสียด้วยซ้ำว่าเนื้อเรื่องของแฮรี่พอตเตอร์นั้นไม่เห็นจะมีอะไรทำให้เธอรู้สึกมีอารมณ์ร่วมได้เลย เหตุใดผู้คนมากมายถึงยกย่องมันนัก
“ทุกคนแต่งตัวกันจริงๆเหรอ สุดยอดเลย” เด็กสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง
ใบหน้าของเธอนั้นไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจน แต่เป็นรอยยิ้มเรียบๆที่ดูอารมณ์ดีพร้อมกับน้ำเสียงที่แฝงความประหลาดใจเล็กๆ เด็กสาวผมสั้นสีดำนั้นดูรุ่นราวคราวเดียวกับพลอยแต่ตัวไม่สูงเท่า เมื่อสบตากับพลอย เธอก็เบิกตาเล็กน้อยแต่กลับเมินเฉยอย่างรวดเร็วแล้วหันไปถามคนอื่น
“เด็กพี่ชินเหรอ” เธอถามเรียบๆ
“นี่พลอย เป็นว่าที่สมาชิกใหม่แหละ” โรมแนะนำตัวพลอย ก่อนจะแนะนำอีกฝ่าย “ตัว นั่นรสรินน้า เป็นคนที่ชอบแฮรี่พอตเตอร์ม๊ากมาก”
โรมพูดอย่างร่าเริงก่อนลุกขึ้นเอาหมวกแม่มดของตัวเองสวมให้กับรสริน พลอยมองหน้าของเด็กสาวด้วยความรู้สึกคุ้นเคยแต่มันกลับจางจนเธอไม่มั่นใจว่าเคยเห็นที่ใด รสรินนั้นไม่ได้สนใจพลอยนัก เธอดูมีบรรยากาศที่นิ่งและเย็นเล็กน้อยต่างจากคนอื่นๆ รสรินสวมหมวกคืนให้โรมก่อนจะวางกระเป๋าลงแล้วหยิบบางอย่างออกมา มันคือกล่องสีดำทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีขนาดไม่ใหญ่และค่อนข้างยาว เมื่อเปิดออกมาด้านในก็มีไม้กายสิทธิ์ที่อยู่ในสภาพดีมาก ทำให้รู้ได้เลยว่ารสรินนั้นรักษาสิ่งนี้อย่างดี
“เจ๋งกว่าโรมเอาตะเกียบมาทำท่าร่ายมนตร์เยอะเลยนะเนี่ย” กรพูดขึ้นพลางนึกถึงของที่โรมใช้ร่ายมนตร์
“เป็นของขวัญจากพ่อเมื่อปีก่อนน่ะ” รสรินบอกด้วยรอยยิ้ม เธอหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาด้วยท่าทางระมัดระวังเป็นพิเศษ “แต่ไม่นึกว่าจะแต่งตัวกันจริงๆก็เลยไม่ได้เอาอย่างอื่นมา”
“ก็เห็นชอบมาก ชินเลยรู้สึกว่าต้องเอาซะหน่อยนั้นแหละ” ยักษ์พูด
บรรยากาศผ่อนคลายในห้องนั้นกำลังกดดันพลอยเล็กน้อย ซึ่งในความจริงก็ไม่แปลกที่เธอจะอึดอัดเมื่อมีคนอยู่ในห้องหลายคนแต่จับกลุ่มคุยกันเองโดยที่เธออยู่นอกวงสนทนา ทำให้พลอยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นแทน แต่ผ่านไปไม่นานชินก็กลับมาพร้อมกับชุดที่เปลี่ยนไปพอสมควร ชุดคลุมยาวสีและเสื้อไหมพรมทับเสื้อเชิ้ตด้านในนั้นมีความใกล้เคียงสูงกว่าใคร แต่ที่ดึงดูดใจพลอยเป็นพิเศษคือแว่นตากรอบสีดำบนใบหน้าของชินและผมที่ถูกหวีให้ลู่ลงดูเปลี่ยนลุคของเขาไปพอสมควร
“เป็นไงๆ” ชินถามทุกคนด้วยรอยยิ้ม “นี่ขุดของเก่าออกมาเลยนะ”
ชินเองก็ดูเข้าพวกกลมกลืนไปกับคนอื่นๆทำให้พลอยรู้สึกหงอยเล็กน้อยหลังจากเพิ่งตื่นเต้นกับลุคใหม่ของเขาไป แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้แสดงออกถึงความไม่พอใจทางสีหน้าชินก็ก้มลงติดกิ๊บลงที่ผมของพลอย กิ๊บขนาดไม่ใหญ่มากมีหมวกแม่มดสีส้มเล็กๆติดอยู่เข้ากับเสื้อสีเหลืองของพลอยอย่างพอดี
“ของพลอยต้องสดใสๆหน่อยเนอะ” ชินพูดขึ้นก่อนจะหัวเราะเบาๆแล้วนั่งลงตรงหน้าของเด็กสาวอีกครั้ง
“ขอบคุณนะคะ” พลอยตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่แฝงความเขินอายเล็กน้อย
“อึดอัดหน่อยนะ แบบว่า...พวกเราไม่ได้ทำอะไรกันเลยนอกจากอ่านหนังสือน่ะสิ ถึงจะแต่งตัวแต่อีกสักแป๊บก็จะเริ่มกลายสภาพเป็นแบบนั้นแล้วล่ะ”
ชินพูดพร้อมกับมองไปทางโรมที่นอนคว่ำอ่านหนังสืออยู่ตรงเบาะฝั่งหนึ่ง ตอนนี้เธอเริ่มไม่สนใจเรื่องอื่นและจดจ่ออยู่กับหนังสือเล่มหนาตรงหน้าพร้อมกับยึดตุ๊กตากลมๆตัวหนึ่งไปเพื่อนอนทับมัน ก่อนที่ชินจะเริ่มอธิบายว่าชมรมหนังสือของเขานั้นแทบไม่มีอะไรเลย เหมือนห้องอ่านหนังสือที่เพื่อนมาอยู่ด้วยกันโดยไม่ได้พูดอะไรกันมากมายมากกว่า จุดประสงค์ในการก่อตั้งนั้นช่างไร้แก่นสาร มีเพียงความรู้สึกของเขาที่เบื่อจนเกินไปเมื่ออ่านหนังสือจบแล้วไม่มีคนคุยด้วย
“แต่เดี๋ยวสักตอนหนึ่งทุ่มน่ะจะมีคุยกันนิดหน่อย ที่นี่รวมตัวแบบจริงๆจังๆสัปดาห์ละครั้ง ก็เลยมีการแนะนำหนังสือของแต่ละคนประจำสัปดาห์ด้วย”
“งั้นเหรอคะ แบบนี้พลอยอยู่ด้วยได้สินะคะ”
“แน่นอนสิ พี่ก็อยากให้เราอยู่นะ”
“แหม บรรยากาศมันวัยรุ่นเกินไปหน่อยนะวันนี้” กรพูดขึ้นกลางบทสนทนา
เขาอดจะพูดแซวไม่ได้เมื่อเห็นชินกำลังพยายามชักชวนเด็กสาวให้เป็นสมาชิกใหม่แบบอ้อมๆด้วยท่าทางตั้งใจน่าดู เขาเลยช่วยพูดเรื่องอื่นด้วย
“จริงๆมีกินข้าวด้วยนะ แต่แค่เดือนละครั้ง มากินรวมกันที่นี่แหละ”
“กินข้าวด้วยกันที่นี่เหรอคะ” พลอยถามด้วยความสงสัย
“อื้อ คราวก่อนทำอะไรกินกันนะ ข้าวผัดสูตรพิเศษของเจ้านิวหรือเปล่า” กรนึกทวนถึงเมนูที่กินไปเมื่อเดือนที่แล้วในห้องๆนี้
“ม่าย! เดือนที่แล้วเป็นชาบูต่างหาก เค้าเป็นคนเสนอเลยนะ!” โรมแย้งอย่างรวดเร็วด้วยความทรงจำที่ชัดเจนกว่า
“อ่าๆ ก็ตามนั้นแหละ ฮะๆ จะกลับไปกินข้าวคนเดียวที่บ้านมันก็เหงาๆอะนะ ก็เลยกินกันที่นี่บ้างนานๆที” กรพูดต่อ “สมัยก่อนเนี่ยมีกันแค่สี่คนยังสนุกเลย ตอนนี้วุ่นวายไปหมด”
กรพูดเหมือนนึกถึงความหลัง คำว่าวุ่นวายของเขานั้นดูเหมือนติดรำคาญแต่บนใบหน้ากลับมีรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนมากกว่า
“เมื่อก่อนน่ะมีพี่นะ นิว พี่กร แล้วก็พี่อิฐ” ชินเล่าให้พลอยฟังด้วยเช่นกัน
“เป็นกลุ่มก่อตั้งเหรอคะ”
“ไม่หรอก ตอนนั้นแค่เหมือนหาเพื่อนกินข้าว ฮ่าๆๆ” กรหัวเราะเบาๆ “ตอนนั้นเป็นคนกันเองมากๆน่ะ ชินมันก็เจ้าของร้าน นิวกับอิฐก็พนักงานร้าน ส่วนพี่น่ะทำงานสำนักพิมพ์ ก็มีมาทำธุระที่นี่บ่อยๆจนคุยถูกคอกับพวกนี้นี่แหละ พออิฐมันเลิกทำงานที่นี่คนก็น้อยลง นานๆเข้าชินมันก็ไปดึงชาวบ้านเขามาทั่ว”
“จริงๆคนที่อยู่มาแรกๆแล้วมาสิงสถิตอ่านหนังสือกันที่ห้องนี้ ก็มีพี่ พี่กร กับโรมที่เป็นน้องสาวของเพื่อนที่มหาวิทยาลัยของพี่น่ะ”
“แบบนี้ก็ดีเลยนะคะ คงสนุกดี”
“ก็สนุกนะ” ชินพูดแล้วหันไปมองคนอื่นนอกจากพวกเขาสามคนที่เริ่มหามุมอ่านหนังสือของตัวเองกันแล้ว “สนุกแบบเงียบๆ ฮ่าๆๆ”
“ตามประสาหนอนหนังสือแหละ” กรเสริม
แม้พลอยจะไม่ค่อยเข้าใจคำว่าสนุกของชินกับกรนักแต่เธอก็รู้สึกได้ว่าที่นี่ดูมีความสบายใจของชายทั้งสองค่อนข้างมาก และเมื่อเธออยู่นอนเล่นตุ๊กตา คุยเรื่องอื่นๆกับทั้งสองไปสักพักใหญ่ๆเสียงโทรศัพท์ของพลอยก็ดังขึ้นทำให้เธอรู้ตัวว่าถึงเวลาหกโมงครึ่งแล้ว และเธอเองก็ไม่ได้บอกคนที่บ้านด้วยว่าจะกลับช้าขนาดนี้ ทำให้พลอยต้องรีบขอตัวกลับก่อน
พลอยลาทุกคนแล้วรีบเดินออกไป เธอวิ่งลงบันไดอย่างรวดเร็วสวนกับเด็กสาวคนหนึ่งที่เพิ่งถอดรองเท้าเสร็จก่อนไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว
“กลับแล้วเหรอ” นิวที่ยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์ถามเมื่อเห็นเด็กสาวเดินลงมา
“ค่า ไปก่อนนะคะ!” พลอยพูดพร้อมกับเดินออกนอกประตูไป
“ใครน่ะพี่นิว”
หลังจากพลอยออกไปได้ไม่นานเด็กสาวที่ถอดรองเท้าอยู่เมื่อครู่ก็เดินลงมาถามทำให้นิวบอกไปอย่างรวบๆว่าเป็นเพื่อนของชิน
หลังจากกลับมาถึงบ้าน พลอยก็รีบตรงเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่พลมักจะนั่งอยู่เพื่อจะขอโทษที่ไม่ได้บอกล่วงหน้าว่าจะกลับช้า แต่เมื่อไปถึงกลับไม่มีใครอยู่
“คุณหนูกลับมาแล้วเหรอคะ” สาวใช้ถามด้วยรอยยิ้มเมื่อเดินมาเจอเธอ
“แล้วคนอื่นล่ะคะ”
“คุณพลออกไปข้างนอกค่ะ เห็นว่าธุระด่วน ส่วนคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงวันนี้ติดประชุมเหมือนเดิมนั่นแหละค่ะ”
“อ๋อ”
“คุณหนูจะรับอาหารเย็นเลยไหมคะ”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวพลอยไปเก็บของก่อนแล้วจะรีบลงมาอีกทีนะคะ” เด็กสาวตอบด้วยท่าทางร่าเริงเช่นทุกครั้ง การรอดูว่าอาหารเย็นประจำวันจะเป็นอะไรก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เธอชอบเช่นกัน
พลอยเดินขึ้นไปที่ห้องของตัวเองในบ้านหลังใหญ่ที่ไร้ผู้คนพร้อมกับฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี นิ้วของเธอกำลังพิมพ์แชทชวนให้เพื่อนบางคนมากินข้าวที่บ้านแต่ดูเหมือนคำชวนกะทันหันนั้นยากเกินไปที่จะมีใครว่าง ทันทีที่ถึงห้องพลอยวางกระเป๋าลงบนโต๊ะอย่างเสียอารมณ์ก่อนจะทิ้งตัวลงพักบนเตียงแล้วถอนหายใจพร้อมกับรำพึงอย่างเบื่อหน่าย
“รู้งี้ชวนพี่ชินกับเพื่อนเขากินข้าวก็ดีหรอก”
Harry Potter
J.K. Rowling
WRITER TALK
จริงๆตอนนี้เสร็จตั้งแต่ช่วงเช้าแล้วค่ะ เหลือตรวจคำกับอัพ แต่ว่าวันนี้เกมที่เราเล่นมันอัพเดทอีเว้นท์ใหม่ค่ะ เราเลยเลือกจะไปตบม่อนเอาเจ้าชายก่อน55555555555 ก็เลยลงช้ามากกก นี่ยังไม่ได้นอน เราก็จะเขียนเรื่อยๆแบบนี้แหละนะคะ แต่ตัวละครที่ไม่ได้อยู่ในบุ๊คคลับมันยังไม่ถึงยอดเราเลยคิดว่าจะยังวนๆอยู่ในกลุ่มก่อน ขอบคุณทุกคนที่ยังรออ่านแล้วก็มาคอมเม้นในตอนที่ผ่านมานะคะ กะว่าจะพยายามลงให้ถี่ขึ้นนะ เดือนละสองรอบมันจะนานไปหน่อยเนอะ555 เราติดเที่ยวด้วยค่ะประเด็น เที่ยวเก่งมาก จมอยู่ในห้องนานๆไม่ค่อยได้ ชอบแบกคอมไปเขียนข้างนอก
♥ กดให้กำลังใจกันหน่อยน้า ♥
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น